Share

ตอนที่21 ไม่รู้ใจตัวเอง

"ถามหน่อยเถอะบ้านเธอมีคนตั้งเยอะนั่นเรียกเหงาเหรอ"

เมืองรามไม่ยักจะเชื่อว่าหญิงสาวจะเหงาเมื่อตอยอยู่ที่บ้านของเธอเอง

"นายไม่รู้อะไรที่เรือนฉันมีคนเยอะก็จริง​แต่ไม่มีใครเป็นเพื่อนฉันได้สักคนต่างคนก็มีหน้าที่ของตัวเองและไท่กล้าที่จะมีใครคุยกับฉันเพราะเห็นว่าเป็นเจ้านายมีพี่สิงห์ที่ฉันจะพอคุยได้บ้างแต่เค้าก็ต้องดูแลรับผิดชอบอะไรหลายๆอย่างจนไม่มีเวลาคุยกับฉันเท่าไร.."

"เพื่อนเธอล่ะไม่มีหรือไง"

"ตั้งแต่เด็กๆพ่อฉันไม่ให้ไปเรียนหนังสือให้เพียงแค่ครูมาสอนที่บ้านฉันเลยไม่มีเพื่อนมีแค่นาราลูกแม่ค้าขายขนมหวานหมู่บ้านใกล้ๆแต่ก็เจอกันไม่บ่อยเพราะนาราก็ต้องช่วยแม่ขายของ"

"พูดจบแล้วใช่ไหม..ฉันจะได้นอนพูดมากน่ารำคาญ"

เมืองรามพอจะเข้าใจความรู้สึกของนรีนาถอยู่พอสมควรแต่ครั้นจะให้เขา​ลอบเธอเขาคงปลอบไม่เป็นจึงทำตัวให้เธอโมโหใส่จะดีกส่าเผื่อว่าเธอจะได้ไม่ต้องสนใจเรื่องที่มันทำให้หดหู่อีก

"นายนี่..ถ้ารำคาญที่ฉันพูดทีหลังก็อย่ามาถาม"

นรีนาถแทบจะฉีกเนื้อคนที่นอนตะแคงหันหลังให้เธอเป็นชิ้นๆที่ทำเหมือนไม่สนใจความรู้สึกเธอเลยแม้แต่นิดเดียว

หลายวันต่อมา

นรีนาถดูแลเมืองรามจนแผลหายดีเหลือเพียงแค่รอยแผลเป็นเท่านั้นแถมทั้งคู่ตอนนี้ก็ยังตัวติดกันเป็นแตงเมคนในไร่ต่างก็รู้ว่าทั้งคู่ดูจะหวานชื่นกันมากแต่คนที่ไม่รู้ตัวก็คงจะเป็นคนสองคนที่อยู่ใกล้กันนั่นเอง

"พี่รอเรามาที่นี่ตั้งหลายวันแล้วรู้ไหม"

นรีนาถนั่งคุยกับคำแก้วที่แคร่ไม้ไผ่ใต้ต้นไม้ใหญ่หน้าบ้านวันนี้เธอดีใจมากที่พันแสงพาคำแก้วมาเยี่ยมที่ไร่นี้เสียที

"แก้วก็พึ่งขออนุญาตพ่อเลี้ยงมาได้วันนี้แหละจะ"

คำแก้วเองก็กว่าจะขออนุญาตให้พันแสงพาเธอมาที่นี่ได้ก็หลายวันอยู่เหมือนกันเพราะช่วงนี้งานที่ไร่วัฒนพรรณค่อนข้างยุ่ง

"ไงมึง..ได้เมียไปไม่ปล่อยให้กลับมาบ้านบ้างเลยนะไร่ก็อยู่แค่นี้"

เมืองรามนั่งคุยกับพันแสงที่เก้าอี้หน้าระเบียงเมืองรามหันไปถามคนที่ชะเง้อมองคำแก้วอย่างไม่ละสายตา

"กูก็พึ่งว่างวันนี้เดี๋ยวปล่อยให้คำแก้วมันมาเองมึงก็จะต่อว่ากูอีกว่าไม่ดูแลมันดีๆ"

"เออ.."

"ว่าแต่นี่มึงญาติดีกับนางฟ้านั่นตั้งแต่เมื่อไรวะถึงขั้นให้อยู่ติดตัวตลอดเวลาแถมตอนนี้ยังย้ายมาอยู่นี่ถาวรอีก"

พันแสงหันมาเอ่ยเย้าหยอกคนเป็นเพื่อนด้วยสีหน้ากวนประสาทเล็กน้อย

"กูเจ็บเพราะเธอก็ต้องใก้เธอดูแลสิวะอีกอย่างกระท่อมนั่นก็ไฟไหม้ไปแล้วมึงจะให้กูเอาเธอไว้ตรงไหนล่ะ"

"อืม...งั้นเหรอกูเห็นมึงคุยดีกับเค้าด้วยนะ"

พันแสงอมยิ้มเล็กน้อยแค่กระท้อมหลังเดียวเขารู้ดีว่าคนอย่างเมืองรามสั่งคนสร้างมาใหม่ได้ภายในไม่กี่วันก็เสร็จอันที่จริงน่าจะไม่อยากสร้างเสียมากกว่า

"คนอะไรจะโมโหได้ทุกเวลาวะ"

เมืองรามตอบพร้อมส่ายหัวเล็กน้อย

"คนอย่างมึงไง"

พันแสงตอบกลับทันควันอย่างคนที่รู้จักนิสัยเมืองรามเป็นอย่างดี

"นึกว่าได้เมียแล้วจะเลิกปากหมา"

เมืองรามเองก็สวนกลับเพื่อนเขาทันควันเช่นกันความปากไวของเพื่อนเขาก็ยังมีเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน

"โอ้โห่..มึงกับกูก็หมาเต็มปากพอกันนั่นแหละ"

"กับข้าวมาแล้วจะ...มากินข้าวกันก่อนเถอะ"

ฟองจันทร์เห็นทั้งคู่เถียงกันจนเสียงแข็งใส่กันพอสมควรแล้วจึงต้องปรามด้วยการขัดจังหวะเรียกให้ไปที่โต๊ะอาหารเพราะไม่อยากเห็นทั้งคู่ทะเลาะกันเป็นเด็กๆ

"แก้วคิดถึงฝีมือแม่จันทร์มากเลยจะ"

นานๆทีคำแก้วได้กลับมากินกับข้าวฝีมือฟองจันทร์แบบนี้เธอจึงกินเยอะเป็นพิเศษ

"คิดถึงก็กินเยอะๆ"

ฟองจันทร์ยิ้มอ่อนดีใจที่คำแก้วยังคิดถึงฝีมือของเธอนึกว่าจะถูกปากกับอาหารแม่ครัวที่ไร่โน้นเสียแล้ว

"งั้นแก้วก็นอนที่นี่กับพี่สักคืนไหม"

นรีนาถหันไปถามคำแก้วด้วยรอยยิ้มเธอเห็นว่าหากคำแก้วคิดถึงที่นี่จะนอนที่นี่สักคืนจะเป็นอะไรไป

"ไม่ได้/ไม่ได้นะ"

สิ้นเสียงนรีนาถทั้งพันแสงและเมืองรามต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าคำแก้วจะนอนที่นี่ไม่ได้ทำเอาฟองจันทร์ยกยิ้มมุมปากเพราะรู้ว่าพ่อเลี้ยงทั้งสองคงไม่ยอมนอนคนเดียวเป็นแน่

"คำแก้วมีครอบครัวแล้วจะนอนค้างอ้างแรมที่อื่นไม่ได้"

เมืองรามหันไปกระซิบกับนรีนาถด้วยสีหน้าไม่พอใจเพราะหากคำแก้วนอนที่นี่หญิงสาวก็คงจะไม่สนใจเขาเป็นแน่

"แต่นี่ก็บ้านคำแก้วเหมือนกันนะ"

นรีนาถถามกลับอย่างไม่เข้าใจ

"คำแก้วต้องกลับพร้อมฉันคุณหญิงไม่งั้นเดี๋ยวฉันก็ต้องคอยมารับอีกเสียการเสียงานแย่"

พันแสงต้องยกเรื่องงานมาเอ่ยปฏิเสธทุกคนจะได้เลิกพูดถึงเรื่องนี้เสียทีเพราะเขาจะไม่ยอมให้คำแก้วค้างที่นี่แน่นอนเพราะว่าช่วงนี้พันแสงเองก็ติดคำแก้วเหมือนกันเพียงแค่ไม่ยอมรับตรงๆก็เท่านั้น

"อ้าว..งั้นเหรอ"

"ไม่เป็นไรจะพี่หญิงวันไหนพ่อเลี้ยงว่างเดี๋ยวแก้วจะให้พ่อเลี้ยงพามาอีกนะ"

คำแก้วเห็นนรีนาถหน้าเสียเธอจึงรีบพูดให้อีกฝ่ายสบายใจ

"อืม.."

นรีนาถพยักหน้ารับเบาๆ

"........"

เมื่อทั้งสองหนุ่มเห็นผู้หญิงของตนเข้าใจดีแล้วก็ค่อยหายใจทั่วท้องกันหน่อย

"นี่นาย..คนที่นี่ถ้ามีครอบครัวแล้วจะไปไหนไม่ได้เลยเหรอ"

หลังจากคำแก้วและพันแสงกลับไปแล้วในช่วงบ่ายนรีนาถก็หันมาถามเมืองรามด้วยความสงสัยอีกครั้งว่าการที่ผู้หญิงที่นี่ออกเรือนแล้วจะไปไหนมาไหนต้องได้รับอนุญาตจากคนเป็นสามีทุกครั้งเลยหรืออย่างไร

"เอ่อ..อืม..คนเป็นเมียต้องได้รับอนุญาตจากผัวก่อน"

เมืองรามพยักหน้ารับด้วยสายตาเจ้าเล่ห์อันที่จริงมันก็ไม่ใช่เลยเสียทีเดียวแต่เขาก็คร้านจะอธิบายรายละเอียดยิบย่อย

"งั้นเหรอ"

"มานี่สิ"

"จะพาฉันไปไหน"

นรีนาถถูกชายหนุ่มจูงไปที่รถของเขาหน้าตาเฉยทั้งที่เธอก็ยังไม่รู้เลยว่าเขาจะพาเธอไปที่ไหน

"อยากได้เล่มไหนเลือกเลย"

"เลือกได้หมดเลยเหรอ"

"อืม.."

ไม่นานเมืองรามก็พาหญิงสาวขับรถมาที่ร้านหนังสือแล้วอนุญาตให้เธอเลือกได้หลายๆเล่มเลยจะได้ไม่เหงาชวนใครมานอนเป็นเพื่อนอีก

"เวลาเธอยิ้มนี่ก็น่ารักดีนะ"

เมื่อกลับจากร้านหนังสือนรีนาถก็เอาแต่นั่งยิ้มสนใจแต่หนังสือที่ตัวเองเลือกมาจนค่ำแล้วก็ยังไม่เลิกอ่านทำเอาเมืองรามต้องจ้องใบหน้าหวานเปื้อนยิ้มเธออยู่นานสองนานอย่างละสายตาไม่ได้

"ฉันก็ยิ้มอยู่บ่อยๆนะไม่ได้ยิ้มก็เมื่อตอน..ที่..นาย..จับฉันมานี่แหละ"

นรีนาถละสายตาจากหนังสือหันมาตอบชายหนุ่ม

"......."

คำตอบของเธอทำเอาเมืองรามหน้าเจื่อนลงเล็กน้อยเพราะช่วงเวลาหลายวันมานี้เขาแทบลืมไปเลยว่าเธอมาอยู่ที่นี่ในฐานะอะไร

"นาย"

นรีนาถวางหนังสือแล้วหันหน้าคุยกับเมืองรามด้วยท่าทีจริงจัง

"อืม.."

"นายพูดดีกับฉันพาฉันออกมาซื้อของที่อยากได้แสดงว่านายใจดีกับฉันใช่รึเปล่า"

"คิดว่ายังไง"

เมืองรามมองนรีนาถด้วยแววตาที่เป็นคำถามว่าเธอต้องการจะพูดอะไรกับเขากันแน่

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status