"ถามหน่อยเถอะบ้านเธอมีคนตั้งเยอะนั่นเรียกเหงาเหรอ"
เมืองรามไม่ยักจะเชื่อว่าหญิงสาวจะเหงาเมื่อตอยอยู่ที่บ้านของเธอเอง
"นายไม่รู้อะไรที่เรือนฉันมีคนเยอะก็จริงแต่ไม่มีใครเป็นเพื่อนฉันได้สักคนต่างคนก็มีหน้าที่ของตัวเองและไท่กล้าที่จะมีใครคุยกับฉันเพราะเห็นว่าเป็นเจ้านายมีพี่สิงห์ที่ฉันจะพอคุยได้บ้างแต่เค้าก็ต้องดูแลรับผิดชอบอะไรหลายๆอย่างจนไม่มีเวลาคุยกับฉันเท่าไร.."
"เพื่อนเธอล่ะไม่มีหรือไง"
"ตั้งแต่เด็กๆพ่อฉันไม่ให้ไปเรียนหนังสือให้เพียงแค่ครูมาสอนที่บ้านฉันเลยไม่มีเพื่อนมีแค่นาราลูกแม่ค้าขายขนมหวานหมู่บ้านใกล้ๆแต่ก็เจอกันไม่บ่อยเพราะนาราก็ต้องช่วยแม่ขายของ"
"พูดจบแล้วใช่ไหม..ฉันจะได้นอนพูดมากน่ารำคาญ"
เมืองรามพอจะเข้าใจความรู้สึกของนรีนาถอยู่พอสมควรแต่ครั้นจะให้เขาลอบเธอเขาคงปลอบไม่เป็นจึงทำตัวให้เธอโมโหใส่จะดีกส่าเผื่อว่าเธอจะได้ไม่ต้องสนใจเรื่องที่มันทำให้หดหู่อีก
"นายนี่..ถ้ารำคาญที่ฉันพูดทีหลังก็อย่ามาถาม"
นรีนาถแทบจะฉีกเนื้อคนที่นอนตะแคงหันหลังให้เธอเป็นชิ้นๆที่ทำเหมือนไม่สนใจความรู้สึกเธอเลยแม้แต่นิดเดียว
หลายวันต่อมา
นรีนาถดูแลเมืองรามจนแผลหายดีเหลือเพียงแค่รอยแผลเป็นเท่านั้นแถมทั้งคู่ตอนนี้ก็ยังตัวติดกันเป็นแตงเมคนในไร่ต่างก็รู้ว่าทั้งคู่ดูจะหวานชื่นกันมากแต่คนที่ไม่รู้ตัวก็คงจะเป็นคนสองคนที่อยู่ใกล้กันนั่นเอง
"พี่รอเรามาที่นี่ตั้งหลายวันแล้วรู้ไหม"
นรีนาถนั่งคุยกับคำแก้วที่แคร่ไม้ไผ่ใต้ต้นไม้ใหญ่หน้าบ้านวันนี้เธอดีใจมากที่พันแสงพาคำแก้วมาเยี่ยมที่ไร่นี้เสียที
"แก้วก็พึ่งขออนุญาตพ่อเลี้ยงมาได้วันนี้แหละจะ"
คำแก้วเองก็กว่าจะขออนุญาตให้พันแสงพาเธอมาที่นี่ได้ก็หลายวันอยู่เหมือนกันเพราะช่วงนี้งานที่ไร่วัฒนพรรณค่อนข้างยุ่ง
"ไงมึง..ได้เมียไปไม่ปล่อยให้กลับมาบ้านบ้างเลยนะไร่ก็อยู่แค่นี้"
เมืองรามนั่งคุยกับพันแสงที่เก้าอี้หน้าระเบียงเมืองรามหันไปถามคนที่ชะเง้อมองคำแก้วอย่างไม่ละสายตา
"กูก็พึ่งว่างวันนี้เดี๋ยวปล่อยให้คำแก้วมันมาเองมึงก็จะต่อว่ากูอีกว่าไม่ดูแลมันดีๆ"
"เออ.."
"ว่าแต่นี่มึงญาติดีกับนางฟ้านั่นตั้งแต่เมื่อไรวะถึงขั้นให้อยู่ติดตัวตลอดเวลาแถมตอนนี้ยังย้ายมาอยู่นี่ถาวรอีก"
พันแสงหันมาเอ่ยเย้าหยอกคนเป็นเพื่อนด้วยสีหน้ากวนประสาทเล็กน้อย
"กูเจ็บเพราะเธอก็ต้องใก้เธอดูแลสิวะอีกอย่างกระท่อมนั่นก็ไฟไหม้ไปแล้วมึงจะให้กูเอาเธอไว้ตรงไหนล่ะ"
"อืม...งั้นเหรอกูเห็นมึงคุยดีกับเค้าด้วยนะ"
พันแสงอมยิ้มเล็กน้อยแค่กระท้อมหลังเดียวเขารู้ดีว่าคนอย่างเมืองรามสั่งคนสร้างมาใหม่ได้ภายในไม่กี่วันก็เสร็จอันที่จริงน่าจะไม่อยากสร้างเสียมากกว่า
"คนอะไรจะโมโหได้ทุกเวลาวะ"
เมืองรามตอบพร้อมส่ายหัวเล็กน้อย
"คนอย่างมึงไง"
พันแสงตอบกลับทันควันอย่างคนที่รู้จักนิสัยเมืองรามเป็นอย่างดี
"นึกว่าได้เมียแล้วจะเลิกปากหมา"
เมืองรามเองก็สวนกลับเพื่อนเขาทันควันเช่นกันความปากไวของเพื่อนเขาก็ยังมีเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน
"โอ้โห่..มึงกับกูก็หมาเต็มปากพอกันนั่นแหละ"
"กับข้าวมาแล้วจะ...มากินข้าวกันก่อนเถอะ"
ฟองจันทร์เห็นทั้งคู่เถียงกันจนเสียงแข็งใส่กันพอสมควรแล้วจึงต้องปรามด้วยการขัดจังหวะเรียกให้ไปที่โต๊ะอาหารเพราะไม่อยากเห็นทั้งคู่ทะเลาะกันเป็นเด็กๆ
"แก้วคิดถึงฝีมือแม่จันทร์มากเลยจะ"
นานๆทีคำแก้วได้กลับมากินกับข้าวฝีมือฟองจันทร์แบบนี้เธอจึงกินเยอะเป็นพิเศษ
"คิดถึงก็กินเยอะๆ"
ฟองจันทร์ยิ้มอ่อนดีใจที่คำแก้วยังคิดถึงฝีมือของเธอนึกว่าจะถูกปากกับอาหารแม่ครัวที่ไร่โน้นเสียแล้ว
"งั้นแก้วก็นอนที่นี่กับพี่สักคืนไหม"
นรีนาถหันไปถามคำแก้วด้วยรอยยิ้มเธอเห็นว่าหากคำแก้วคิดถึงที่นี่จะนอนที่นี่สักคืนจะเป็นอะไรไป
"ไม่ได้/ไม่ได้นะ"
สิ้นเสียงนรีนาถทั้งพันแสงและเมืองรามต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าคำแก้วจะนอนที่นี่ไม่ได้ทำเอาฟองจันทร์ยกยิ้มมุมปากเพราะรู้ว่าพ่อเลี้ยงทั้งสองคงไม่ยอมนอนคนเดียวเป็นแน่
"คำแก้วมีครอบครัวแล้วจะนอนค้างอ้างแรมที่อื่นไม่ได้"
เมืองรามหันไปกระซิบกับนรีนาถด้วยสีหน้าไม่พอใจเพราะหากคำแก้วนอนที่นี่หญิงสาวก็คงจะไม่สนใจเขาเป็นแน่
"แต่นี่ก็บ้านคำแก้วเหมือนกันนะ"
นรีนาถถามกลับอย่างไม่เข้าใจ
"คำแก้วต้องกลับพร้อมฉันคุณหญิงไม่งั้นเดี๋ยวฉันก็ต้องคอยมารับอีกเสียการเสียงานแย่"
พันแสงต้องยกเรื่องงานมาเอ่ยปฏิเสธทุกคนจะได้เลิกพูดถึงเรื่องนี้เสียทีเพราะเขาจะไม่ยอมให้คำแก้วค้างที่นี่แน่นอนเพราะว่าช่วงนี้พันแสงเองก็ติดคำแก้วเหมือนกันเพียงแค่ไม่ยอมรับตรงๆก็เท่านั้น
"อ้าว..งั้นเหรอ"
"ไม่เป็นไรจะพี่หญิงวันไหนพ่อเลี้ยงว่างเดี๋ยวแก้วจะให้พ่อเลี้ยงพามาอีกนะ"
คำแก้วเห็นนรีนาถหน้าเสียเธอจึงรีบพูดให้อีกฝ่ายสบายใจ
"อืม.."
นรีนาถพยักหน้ารับเบาๆ
"........"
เมื่อทั้งสองหนุ่มเห็นผู้หญิงของตนเข้าใจดีแล้วก็ค่อยหายใจทั่วท้องกันหน่อย
"นี่นาย..คนที่นี่ถ้ามีครอบครัวแล้วจะไปไหนไม่ได้เลยเหรอ"
หลังจากคำแก้วและพันแสงกลับไปแล้วในช่วงบ่ายนรีนาถก็หันมาถามเมืองรามด้วยความสงสัยอีกครั้งว่าการที่ผู้หญิงที่นี่ออกเรือนแล้วจะไปไหนมาไหนต้องได้รับอนุญาตจากคนเป็นสามีทุกครั้งเลยหรืออย่างไร
"เอ่อ..อืม..คนเป็นเมียต้องได้รับอนุญาตจากผัวก่อน"
เมืองรามพยักหน้ารับด้วยสายตาเจ้าเล่ห์อันที่จริงมันก็ไม่ใช่เลยเสียทีเดียวแต่เขาก็คร้านจะอธิบายรายละเอียดยิบย่อย
"งั้นเหรอ"
"มานี่สิ"
"จะพาฉันไปไหน"
นรีนาถถูกชายหนุ่มจูงไปที่รถของเขาหน้าตาเฉยทั้งที่เธอก็ยังไม่รู้เลยว่าเขาจะพาเธอไปที่ไหน
"อยากได้เล่มไหนเลือกเลย"
"เลือกได้หมดเลยเหรอ"
"อืม.."
ไม่นานเมืองรามก็พาหญิงสาวขับรถมาที่ร้านหนังสือแล้วอนุญาตให้เธอเลือกได้หลายๆเล่มเลยจะได้ไม่เหงาชวนใครมานอนเป็นเพื่อนอีก
"เวลาเธอยิ้มนี่ก็น่ารักดีนะ"
เมื่อกลับจากร้านหนังสือนรีนาถก็เอาแต่นั่งยิ้มสนใจแต่หนังสือที่ตัวเองเลือกมาจนค่ำแล้วก็ยังไม่เลิกอ่านทำเอาเมืองรามต้องจ้องใบหน้าหวานเปื้อนยิ้มเธออยู่นานสองนานอย่างละสายตาไม่ได้
"ฉันก็ยิ้มอยู่บ่อยๆนะไม่ได้ยิ้มก็เมื่อตอน..ที่..นาย..จับฉันมานี่แหละ"
นรีนาถละสายตาจากหนังสือหันมาตอบชายหนุ่ม
"......."
คำตอบของเธอทำเอาเมืองรามหน้าเจื่อนลงเล็กน้อยเพราะช่วงเวลาหลายวันมานี้เขาแทบลืมไปเลยว่าเธอมาอยู่ที่นี่ในฐานะอะไร
"นาย"
นรีนาถวางหนังสือแล้วหันหน้าคุยกับเมืองรามด้วยท่าทีจริงจัง
"อืม.."
"นายพูดดีกับฉันพาฉันออกมาซื้อของที่อยากได้แสดงว่านายใจดีกับฉันใช่รึเปล่า"
"คิดว่ายังไง"
เมืองรามมองนรีนาถด้วยแววตาที่เป็นคำถามว่าเธอต้องการจะพูดอะไรกับเขากันแน่
"ก็น่าจะใจดี..."นรีนาถทำหน้าครุ่นคิดและพยักหน้าเบาๆ"อย่าได้ใจไปล่ะ"เมืองรามเตือนทั้งหญิงสาวและคำพูดของเขาก็เปรียบเสมือนการเตือนใจตัวเองด้วย"นาย..""อะไรอีก""ฉ..ฉันขอให้เรื่องความแค้นของนายจบลงที่ฉันได้ไหมปล่อยพ่อฉันกับเมียนายไปเถอะ"นรีนาถจ้องหน้าชายหนุ่มด้วยท่าทีที่แอบลุ้นว่าสิ่งที่เธอร้องขอกับเขาจะได้ผลหรือไม่"ฉันบอกแล้วไงว่าอย่าได้ใจไป""ฉันเจ็บ"เมืองรามฉุนขึ้นมาทันทีเมื่อหญิงสาวพูดจบมือหนาบีบแขนเธออย่างแรงจนนรีนาถสีหน้าเหยเก"อย่าลืมว่าเธอมาอยู่ที่นี่เพราะอะไรเป้าหมายของฉันไม่ใช่เธอทุกวันนี้ฉันพูดดีกับเธอก็ดีนักหนาแล้ว"เมืองรามผลักหญิงสาวนอนลงมือหนาจับข้อมือทั้งสองของหญิงสาวชูขึ้น"..ฉันเคยเชื่อคำของคำแก้วว่าสักวันนายจะใจดีกับฉันแต่เปล่าเลย"นรีนาถมีสีหน้าผิดหวังอยู่มากเธอคิดว่าพักหลังที่เมืองรามพูดดีกับเธอนั่นเหมือนเป็นสัญญาณที่ดีเสียอีก"มันเป็นเพราะเธอทำตัวเธอเอง..ถ้าไม่พูดอะไรที่ทำให้ฉันโมโหขึ้นมาเธอก็จะไม่เจ็บตัวหรอก""ฉันอยากรู้นักถ้าแก้แค้นสำเร็จมันจะได้อะไรขึ้นมามีแต่ต่างคนต่างเจ็บปวดเปล่าๆ""หยุดพูด"เมืองรามเอ่ยเสียงแข็งเขาไม่ได้อยากได้ยินคำพวกนี้จากปากหญิงสาวเพร
"ขอบคุณมากๆเลยนะ"หญิงสาวเลือกที่จะหยิบหนังสือออกมาชื่นชมนี่คือสิ่งที่เธอถูกใจกว่าเสื้อผ้าสวยๆหลายเท่า"ต่อจากนี้เธอขาดเหลือหรืออยากได้อะไรก็บอกฉันแล้วกัน""ทำไมใจดีจังล่ะ"นรีนาถจ้องตาชายหนุ่มด้วยสีหน้าสงสัย"ก็บอกแล้วไงช่วงนี้เธอทำตัวเป็นเด็กดีกับฉัน..เธอก็จะได้อะไรดีๆตอบแทน"เมืองรามหลบสายตาหญิงสาวก่อนที่เขาจะเผลอยิ้มออกมา".......""พรุ่งนี้อยากออกไปไหนไหม"เมืองรามหาเรื่องคุยกับหญิงสาวในขณะที่เธอนั้นสนใจหนังสืออยู่เขาไม่รู้ว่าคิดถูกหรือคิดผิดที่ซื้อหนังสือมาให้เธอเพราะดูท่ามันจะเป็นจุดสนใจสำหรับเธอมากกว่าเขาไปเสียแล้ว"อืม..ไม่"นรีนาถส่ายหัวในขณะที่เธอจับหนังสือเปิดดูใกล้ๆกับตะเกียง"วัวที่คอกพึ่งตกลูกเธออยากไปดูไหม""จริงเหรอ..ไปสิ"เมื่อได้ยินเช่นนั้นหญิงสาวจึงละสายตาจากหนังสือได้"รีบนอนเดี๋ยวพรุ่งนี้จะพาไปแต่เช้า""อืม"เมืองรามเห็นท่าทีหญิงสาวดูจะตื่นเต้นขนาดนั้นจึงรีบหยิบหนังสืออกจากมือของเธอและรวบกอดร่างบางให้หลับลงในอ้อมอกของเขาเช้าวันต่อมา"เจ้าวัวน้อย..ลืมตามาดูโลกสองวันแล้วรู้สึกดีไหม""....."นรีนาถรบให้เมืองรามพาเธอมาหาลูกวัวแต่้้เช้าตามสัญญาเมื่อมาถึงก็เอาแต่คุยกั
"......"เมืองรามได้นิ่งนิ่งงันคิดไตร่ตรองในเรื่องที่ฟองจันทร์พูดแล้วจึงรีบกลับไปในห้องนอนของเขาทันที"ยังไม่เลิกร้องอีกหรือไง""ปล่อย...""ฉันปล่อยเธอไปไม่ได้.."เมืองรามเข้ามาสวมกอดคนที่กำลังนั่งกอดเข่าร้องให้อย่างไม่ยอมหยุดแม้เวลาจะผ่านมาร่วมหลายชั่วโมงแล้วก็ตามเขาเอ่ยปากพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมาทำเอานรีนาถแปลกใจกับคำพูดของเขาอยู่มากว่าเหตุผลอะไรกันที่ทำให้เขาพูดว่าปล่อยเธอไปไม่ได้"......""ความรู้สึกของฉันมันเปลี่ยนไปพักใหญ่แล้ว"เมื่อนรีนาถมีทีท่าว่าจะฟังเขาชายหนุ่มจึงเริ่มพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมา"ความรู้สึกอะไร""ในใจฉันมันต้องการเธอ...มันบอกว่ายอมเสียเธอไปไม่ได้""นายจะเล่นลิ้นอะไรอีก"ตอนนี้นรีนาถไม่รู้ว่าเขาจะมาไม้ไหนกับเธออีกครั้งก่อนก็เล่นลูกบังคับครั้งนี้ก็มาเล่นลูกขอร้องกับเธออีกเพื่อให้เธอไม่อยู่ห่างเขา"เธอดูไม่ออกจริงๆหรือไงว่าฉันเปลี่ยนไป...หรือทำเป็นไม่รับรู้กันแน่"เมืองรามจ้องหน้านรีนาถด้วยสายตาจริงจัง"......."หญิงสาวก้มหน้าลงเล็กน้อยเธอเคยแอบคิดเหมือนกันว่าเขามีใจให้เธอแบบที่เธอมีให้เขาแต่เมื่อคิดแล้วมันก็ชอบมีความคิดแย้งมาว่าเขาทำไปทั้งหมดเพราะอยากแก้แค้นเธอจึงข
"นายปวดหัวอยู่รึเปล่า"ช่วงบ่ายเมื่อเมืองรามฟื้นขึ้นมาแล้วนรีนาถก็คอยดูแลเขาอยู่ไม่ห่าง"ไม่ค่อยเท่าไร""เอ่อ..""เธอจะกลับไปใช่ไหม"สิ่งที่กังวลใจที่สุดของเมืองรามไม่ใช่แผลที่หัวของเขาแต่เป็นเรื่องหญิงสาวที่กลัวว่าเธอนั้นจะถูกพรากจากเขาไป"อืม..ฉันอยากกลับไปรับศพพ่อฉัน.. ฉันกับพี่สิงห์จะอยู่ที่นี่ก่อนสามวันจนนายดีขึ้นแล้วฉันถึงจะไป"นรีนาถพยักหน้าเบาๆ"ฉันไปด้วย""อะไรนะ""ฉันอยากไปขอขมาพ่อเธอและอยากอโหสิกรรมให้เลิกแล้วต่อกันในชาตินี้"หญิงสาวฟังไม่ผิดเขาอยากไปกับเธอจริงๆเขาอยากจะไปขอขมาพ่อของเธอที่พาเธอมาที่นี่ทรมานก่อนหน้านี้และไม่อยากจะมีความแค้นอะไรติดค้างในใจอีก"นายลืมเรื่องทั้งหมดแล้วใช่ไหม"นรีนาถยิ้มอ่อนเมื่อได้ฟังสิ่งที่อยากจะได้ยินจากปากของเขามานานเรื่องที่ชายหนุ่มละจากความแค้นได้เสียที"ไม่ลืม...แต่ไม่ใส่ใจแล้วตอนนี้ฉันใส่ใจแค่เธอเท่านั้น"เมืองรามโอบกอดนรีนาถเบาๆจะให้เขาพูดว่าลืมคงโกหกแค่เขาไม่ใส่ใจมันแล้วต่างหากตอนนี้คนเดียวที่เขาใส่ใจคือนรีนาถเท่านั้นเย็นของวัน"พี่สิงห์คะ""น้องหญิง""หญิงทำแกงส้มของโปรดพี่สิงห์ด้วยค่ะ"นรีนาถยกแกงส้มดอกแคมาวางตรงหน้าสิงหนาท"น้องหญิ
อาทิตย์ต่อมา"หลับให้สบายนะคะคุณพ่อ""หญิง..หญิง"นรีนาถเป็นลมล้มพับไปในขณะที่แหงนมองกลุ่มควันที่เผาพ่อของตนอยู่ที่เมรุเผาศพเมืองรามกับสิงหนาทจึงรีบพาหญิงสาวกลับบ้านและตามหมอมาดูอาการเธอทันที"คุณหญิงร่างกายอ่อนเพลียมากนะคะยิ่งตอนนี้ตั้งครรภ์อ่อนๆด้วยแล้วยิ่งต้องให้เธอทานอาหารให้ตรงเวลา""หา..."คำพูดของหมอหญิงวัยกลางคนทำให้ทั้งสามต่างก็มีสีหน้าตกใจไปตามๆกัน"ตั้งครรภ์"นรีนาถลูบท้องตัวเองเบาๆเธอเองก็ไม่ทันได้สังเกตเสียด้วยว่าระดูของเธอนั้นขาดไปตั้งแต่เมื่อไร"น้้องหญิง"สิงหนาทนั่งกุมขมับมองกน้าเมืองรามอย่างไม่พอใจที่นรีนาถนั้นต้องมาท้องก่อนแต่งจนได้"จะให้ทำยังไง""ก็ต้องรีบแต่งน่ะสิ"หลังจากหมอหญิงกลับไปแล้วทั้งสามก็ปรึกษาหาทางออกกันอีกทีว่าจะเอาอย่างไรกับเรื่องนี้ดูคนที่จะไม่เครียดเลยเห็นจะเป็นเมืองรามเสียมากกว่าที่นั่งยิ้มร่าถามสิงหนาทด้วยสีหน้าทะเล้นจนสิงหนาทต้องรีบเอ่ยปากให้ทั้งคู่แต่งงานกันโดยเร็วที่สุด2อาทิตย์ต่อมาไร่ศังกร"อุ้บ..แหวะๆ""พี่หญิงไหวไหมคะ"วันนี้เป็นวันแต่งงานของนรีนาถและเมืองรามซึ่งดูเจ้าสาวก็ดูท่าไม่ค่อยไหวเท่าไรแต่ก็ต้องแต่เมื่อได้ฤกษ์ที่ไวที่สุดมาแล้วคำแก
"คำแก้ว..คำแก้ว""พ่อเลี้ยงอย่าพึ่งตามไปปล่อยคำแก้วมันไปก่อน"พันแสงหมายจะตามคำแก้วไปแต่ถูกสมิงรั้งเอาไว้ก่อนเพราะหากคำหล้ากดดันเจ้านายของเขาเช่นนี้เขาก็มีความจริงที่ต้องเปิดเผยเช่นกัน"ทำไม"พันแสงหันมาจ้องสมิงตาเขม็ง"ศรีอ่อนบอกแม่เอ็งไป"สมิงให้ศรีอ่อนบอกความจริงดับทุกคนว่าเธอนั้นเป็นอะไรกับเขาให้กลุ่มคนงานที่ยืนฟังเรื่องราวอยู่ให้รู้กันถ้วนหน้าไปเสียวันนี้เลย"แม่จ้ะ..เมื่อคืนพ่อเลี้ยงเมาไม่ได้ตั้งใจจริงๆและฉันก็...""ก็อะไร.."คำหล้าบีบแขนศรีอ่อนทั้งจ้องอย่างเอาเป็นเอาตาย"ได้เสียเป็นเมียพี่หมิงไปแล้วจะ...ฉันคงจะเป็นเมียพ่อเลี้ยงไม่ได้""อะไรนะ..นี่เอ็ง..อีนังลูกไม่รักดี"เพี๊ยะ..สิ้นคำลูกสาวคำหล้าก็เหวี่ยงมือฟาดไปที่หน้านวลจนเป็นรอยแดง"อย่าทำร้ายศรีอ่อนมันเลยฉันได้มันเป็นเมียแล้วฉันจะสู่ขอให้ถูกต้องตามประเพณีทุกอย่าง"สมิงรีบดึงศรีอ่อนมากอดเอาไว้เพราะไม่อยากมห้เธอตกเป็นเครื่องมือของคนเป็นแม่อีกที่ผ่านมาเขารู้ดีว่สคำหล้าจ้องจะทำอะไรแต่ในเมื่อศรีอ่อนรักอยู่กับเขาตัวเขาเองก็จะไม่ปล่อยให้ศรีอ่อนไปเป็นเมียใครเด็ดขาด"หึ่..."คำหล้ามือไม้สั่นอับอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี"ไอ้หมิง...กูรั
"คู่นี้เข้าใจกันได้ก็น่าเอ็นดูดีนะคะ"นรีนาถแอบขำการคุยกันของสองหนุ่มทั้งดีใจที่คำแก้วและพันแสงลงเอยกันด้วยดีเสียที"ใช่..คนอย่างไอ้แสงลงได้รักใครมันก็รักและซื่อสัตย์กับคนนั้นคนเดียวพี่ถึงวางใจที่จะให้คำแก้วฝากชีวิตไว้กับมันไง""แล้วพี่รามคนนี้ล่ะคะ""พี่ก็รักเดียวใจเดียวไม่เปลี่ยนใจเหมือนกันจะ""ปากหวาน"นรีนาถจับริมฝีปากหนาของชายหนุ่มเล่นเบาๆ"อยากชิมปากหวานๆตอนนี้ไหมล่ะ""อื้อ..ไม่ค่ะ"นรีนาถรีบเอี้ยวตัวหลบก่อนที่เมืองรามจะมาทำประเจิดประเจ้อกับเธอที่หน้าเรือนปีต่อมา"แอ้ๆ..""ว่ายังไงตาชิต...อารมณ์ดีแต่เช้าเลยลูกพ่อ"เมืองรามกำลังจับลูกชายวัยหกเดือนที่กำลังจ้ำม่ำอาบน้ำในตอนเช้านรีนาถมองแล้วดูท่าทางคนเป็นพ่อจะอารมณ์ดีกว่าลูกเสียอีกที่ไม่ยอมพาลูกขึ้นจากน้ำเสียที"พี่รามคะ..พาลูกขึ้นจากน้ำได้แล้วค่ะ""ลูกกำลังอารมณ์ดีเลย"เมืองรามมองหน้าคนเป็นเมียบุ้ยปากแอบเสียดายเล็กน้อยที่ลูกกำลังเล่นกับเขาอารมณ์ดีแต่ต้องเลิกเล่นเสียแล้วเพราะกลัวว่าลูกจะไม่สบาย"เดี๋ยวจะป่วยเอานะคะ"นรีนาถส่ายหัวเบาๆ"ก็ได้...ไปเช็ดตัวกันนะลูก""พี่สิงห์...ไม่เห็นส่งข่าวมาบอกว่าจะมาเลยคะ"ในขณะที่นรีนาถเช็ดตัวเปลี่
"ร้านอยู่ที่ไหนจ้ะแม่จันทร์""ตลาดในหมู่บ้านนี่เองจะ""มีอะไรกันรึเปล่า"เมืองรามเห็นนรีนาถและสิงหนาทดูรีบร้อนเป็นพิเศษจึงเกิดอยากจะถามให้หายสงสัยก่อนที่จะเดินออกไปจากเรือนนรีนาถจำต้องเดินไปด้วยเล่าไปด้วนว่าสิ่งที่สิงหนาทและเธอร้อนใจอยู่นั้นคือเรื่องอะไรตลาดในหมู่บ้าน"ร้านไหนจ้ะแม่จันทร์""ใกล้จะถึงแล้วจะ"นรีนาถมีท่าทางร้อนใจจนฟองจันทร์ต้องรีบเดินให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้"อ้าวแม่จันทร์มาซื้อขนมเพิ่มเหรอจ้ะ"เมื่ออัญชัญเห็นฟองจันทร์ก็รีบยิ้มทักทายเพราะตั้งแต่มาตั้งร้านขายที่หมู่บ้านนี้ไม่กี่วันมานี่ก็มีฟองจันทร์เป็นลูกค้าประจำคอยมาซื้ออยู่ทุกวันอัญชัญเป็นแม่ค้าขายขนมวัยเกือบจะสี่สิบเป็นโสดไม่เคยคิดจะมีสามีและเมื่อนารามาขออาศัยอยู่ด้วยจึงย้ายถิ่นมาขายของที่บ้านเก่าของเธอที่นี่"พอดีมีคนอยากจะซื้อเพิ่มน่ะจะ"ฟองจันทร์หันกลับไปหาทั้งสามที่ยืนมองอยู่หน้าร้าน"เหลือเท่านี้แหละจะจะเอาอะไรก็เลือกเลยนะจ้ะ""ยาย..""ตานพกินเลอะเทอะอีกแล้วมายายเช็ดปากให้"ไม่นานเด็กชายวัยเก้าเดือนนิดๆที่พึ่งจะหัดเดินกึ่งเดินกึ่งคลานเข้ามาหาอัญชัญด้วยหน้าตาที่ละม้ายคล้านสิงหนาทอย่างมากจึงทำให้ทั้งสามที่ยืน