"ขอบคุณมากๆเลยนะ"
หญิงสาวเลือกที่จะหยิบหนังสือออกมาชื่นชมนี่คือสิ่งที่เธอถูกใจกว่าเสื้อผ้าสวยๆหลายเท่า
"ต่อจากนี้เธอขาดเหลือหรืออยากได้อะไรก็บอกฉันแล้วกัน"
"ทำไมใจดีจังล่ะ"
นรีนาถจ้องตาชายหนุ่มด้วยสีหน้าสงสัย
"ก็บอกแล้วไงช่วงนี้เธอทำตัวเป็นเด็กดีกับฉัน..เธอก็จะได้อะไรดีๆตอบแทน"
เมืองรามหลบสายตาหญิงสาวก่อนที่เขาจะเผลอยิ้มออกมา
"......."
"พรุ่งนี้อยากออกไปไหนไหม"
เมืองรามหาเรื่องคุยกับหญิงสาวในขณะที่เธอนั้นสนใจหนังสืออยู่เขาไม่รู้ว่าคิดถูกหรือคิดผิดที่ซื้อหนังสือมาให้เธอเพราะดูท่ามันจะเป็นจุดสนใจสำหรับเธอมากกว่าเขาไปเสียแล้ว
"อืม..ไม่"
นรีนาถส่ายหัวในขณะที่เธอจับหนังสือเปิดดูใกล้ๆกับตะเกียง
"วัวที่คอกพึ่งตกลูกเธออยากไปดูไหม"
"จริงเหรอ..ไปสิ"
เมื่อได้ยินเช่นนั้นหญิงสาวจึงละสายตาจากหนังสือได้
"รีบนอนเดี๋ยวพรุ่งนี้จะพาไปแต่เช้า"
"อืม"
เมืองรามเห็นท่าทีหญิงสาวดูจะตื่นเต้นขนาดนั้นจึงรีบหยิบหนังสืออกจากมือของเธอและรวบกอดร่างบางให้หลับลงในอ้อมอกของเขา
เช้าวันต่อมา
"เจ้าวัวน้อย..ลืมตามาดูโลกสองวันแล้วรู้สึกดีไหม"
"....."
นรีนาถรบให้เมืองรามพาเธอมาหาลูกวัวแต่้้เช้าตามสัญญาเมื่อมาถึงก็เอาแต่คุยกับเจ้าวัวน้อยด้วยท่าทีน่าเอ็นดูจนเมืองรามยืนพิงเสาคอกวัวมองร่างบางอย่างเพลินตา
"วันนี้พ่อเลี้ยงจะให้พี่สาวมาเฝ้าคอกวัวเหรอ"
ทองดีเข้ามาหาเมืองรามด้วยสีหน้าสงสัย
"กูพูดรึยัง..กูแค่พาเธอมาดูลูกวัวโว้ย"
คำถามของเด็กหนุ่มทำเอาพ่อเลี้ยงที่กำลังจ้องหญิงสาวเพลินๆต้องขมวดคิ้วทันที
"....."
ทองดีเกาหัวแกรกๆเมื่อวันนี้เห็นเมืองรามแปลกๆปกติไม่เห็นจะใจดีกับนรีนาถแอบคิดในใจว่าหรือว่าเขานั้นตกข่าวอะไรไป
"อ..โอ้ยย"
"หญิง...เดินยังไงของเธอ"
เมืองรามหันไปยังเสียงร้องภาพตรงหน้าของเขาเห็นว่าหญิงสาวนั้นลื่นล้มไปกองกับพื้นดินเรียบร้อยแล้วจึงรีบเข้าไปอุ้มเธอขึ้นทั้งต่อว่าแต่ก็เป็นเพราะเป็นห่วงทั้งนั้น
"ก็ไม่คิดว่ามันจะลื่นนี่นา"
"กลับได้แล้ว"
"นาย..ฉันเดินเองได้"
นรีีนาถพยายามดีดตัวลงแต่ก็ถูกเมืองรามยึดเอาไว้แน่เพราะเขาจะไม่ปล่อยให้เธอเดินเองและล้มไปอีกแล้ว
"พ่อเลี้ยง"
ยิ่งทองดีได้เห็นพฤติกรรมของเมืองรามเขาก็ยิ่งมั่นใจได้ว่าเรื่องที่เขาตกข่าวคงเป็นเรื่องจริงและคิดว่าที่ไร่คงจะมีแม่เลี้ยงคนใหม่ในเร็วๆนี้เป็นแน่
สองเดือนต่อมา
ในระหว่างสองสามเดือนที่ผ่านมานรีนาถและเมืองรามดูจะพูดกันดีขึ้นเรื่อยๆแถมความสัมพันธ์ของทั้งสองยังแน่นแฟ้นและในใจนั้นก็มีกันและกันมากขึ้นแต่ทั้งคู่ก็ไม่ยอมเผยความรู้สึกที่แท้จริงออกมาเพียงเพราะปัญหาก่อนหน้าที่ค้างคาอยู่ในใจ
"มึงมาก็ดีไอ้แสง..นี่มันก็หลายเดือนแล้วยังไม่มีข่าวว่าพวกมันกลับมาอีกเหรอวะ"
เมืองรามเห็นพันแสงเข้ามาในห้องทำงานของเขาในช่วงสายจึงต้องเอ่ยถามข่าวคราวที่จ้างคนไปสืบเป็นเวลานานว่าได้ข่าวอะไรคืบหน้าบ้าง
"กูมาก็เพื่อจะมาบอกมึงวันนี้นี่แหละ"
พันแสงหน้าเสียอน่างเห็นได้ชัด
"ข่าวว่ายังไง"
"มึงฟังกูดีๆนะ"
"อืม.."
"ดวงเดือนและภิภพเรือร่มในขณะที่กำลังเดินทางกลับตอนนี้ยังหาร่างของทั้งคู่ไม่เจอ"
นี่คือข่าวที่ทำให้พันแสงและทั้งเมืองรามเองไม่ได้คาดคิดมาก่อนเหมือนกัน
เพล้งงงงง
"ค..คุณพ่อ"
"หญิง!!"
นรีนาถเห็นว่าพันแสงเข้ามาหาเมืองรามจึงรีบยกของว่างมาให้ทั้งสองแต่ก็ไม่คาดคิดว่าจะได้ยินทั้งคู่คุยกันเรื่องนี้ข่าวร้ายนี้จึงทำให้เธอมือไม้อ่อนเป็นลมล้มพับไปดีที่เมืองรามรับเอาไว้ได้ทัน
"มึงจะทำไงกับคุณหญิงในเมื่อเธอไม่ใช่เหยื่อและไม่จำเป็นกับการแก้แค้นของมึงต่อไป"
พันแสงยืนมองเพื่อนของเขาที่เฝ้าหญิงสาวอยู่ไม่ห่าง
"..กูไม่รู้ว่ะ..ยังคิดอะไรไม่ออก"
เมืองรามหลับตากัดฟันส่ายหัวเบาๆ
"หึ่...คนเด็ดขาดอย่างมึงเปลี่ยนไปเยอะรู้ตัวรึเปล่า"
พันอสงสบถในลำคอเล็กน้อยเพื่อนเขา้ปลี่ยนไปจริงๆหากเป็นเหตุการณ์อื่นคงตัดสินใจได้รวดเร็วไปแล้ว
"........"
"กูกลับก่อนต้องรีบไปดูไร่"
เมื่อเห็นเมืองรามเอาแต่เงียบพันแสงจึงขอตัวกลับไร่เพราะมีงานที่ต้องดูอีกหลายอย่างทางนี้ก็ปล่อยให้เพื่อนเขาตัดสินใจทุกอย่างเองเพราะหมดเรื่องที่เขาจะแจ้งไปแล้ว
"อืม..."
"ตื่นแล้วเหรอ.."
พันแสงนั่งลมยาให้หญิงสาวไม่นานเธอก็รู้สึกตัว
"คุณพ่อ..เมื่อกี้ฉันไม่ได้ฝันใช่ไหม"
นรีนาถกำมือเมืองรามแน่นใบหน้าของเธอซีดเซียวทั้งมีน้ำตาคลอเอ่อล้นออกมาเหมือนคนพึ่งตื่นจากฝันร้าย
"......"
เมืองรามส่ายหัวเบาๆเป็นคำตอบ
"คุณพ่อ...อื้อ..ฮือๆๆๆ.."
"....."
ชายหนุ่มโผกอดปลอบคนที่กำลังสะอื้นตัวโยนอยู่นานสองนานจนเธอหลับไปอีกรอบ
19.00 น.
"นายจะทำยังไงกับฉัน...ตอนนี้ฉันก็ไม่ใช่เครื่องมือของนายอีกแล้ว"
นรีนาถตื่นขึ้นมาก็นั่งกอดเข่าสะอื้นให้เบาๆยังสะเทือนใจกับเรื่องที่รู้ยากที่จะทำใจทั้งอยากรู้ว่าเมืองรามจะเอายังไงกีบเธอต่อไปเพราะเธอก็หมดประโยชน์กับเขาแล้วขณะนี้ความเสียใจของเธอมันตีกับความรู้สึกสับสนจนเธอหดหู่ไปหมด
"เธออยากให้ฉันทำอะไร"
เมืองรามถามนรีนาถเสียงอ่อน
"ฉันอยากกลับบ้าน.."
ตอนนี้ในใจของนรีนาถมีเรื่องเดียวเท่านั้นที่อยากขอเขา
"......"
เป็นเรื่องเดียวเลยจริงๆที่เมืองรามไม่อยากได้ยินคำนี้จากปากเธอในเวลานี้
"ทำไมเงียบล่ะ...ฉันขอกลับบ้านไปหาพี่สิงห์ไปรอฟังข่าวพ่อฉันได้ไหม"
หญิงสาวหันมามองหน้าชายหนุ่มทั้งขอร้องด้วยน้ำเสียงสะอื้นอย่างน่าเวทนา
"ฉันให้เธอกลับไม่ได้"
เมืองรามตอบกลับหญิงสาวเบาๆและรีบเดินออกไปจากห้องโดยไม่ให้คำอธิบายว่าทำไมจึงไม่อยากให้เธอกลับไป
"ท..ทำไม..อึก..ฮือๆๆ..ตลอดเวลาที่ผ่านมาฉันเชื่อฟังนายยอมนายทุกอย่างนายยังไม่พอใจอีกหรือไง..ฮือๆๆๆ"
นรีนาถมองค้อนตามหลังคนตัวโตเธอไม่รู้ว่าเขาจะพอใจเมื่อไรกับการแก้แค้นครั้งนี้ทั้งที่พ่อเธอก็ไม่มีชีวิตอยู่แล้ว
"เป็นอะไรรึเปล่าพ่อเลี้ยง"
คือ...ฉันก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรเหมือนกันแม่จันทร์"
"มีอะไรในใจที่อยากจะพูดก็พูดจะได้โล่งใจฉันก็บอกได้เท่านี้แหละ"
ฟองจันทร์เดินเข้ามาหาเมืองรามที่นั่งทำหน้ากลุ้มใจอยู่ที่ระเบียงเรือนเธอรู้ว่าทั้งคู่ทะเลาะกันเรื่องอะไรแต่เธอก็ไม่ได้อยากสาวไส้อะไรมากมายเมื่อเห็นเมืองรามท่าจะหาทางออกไม่ได้ในฐานะที่เธออาบน้ำร้อนมาก่อนเธอจึงอยากจะช่วยคลี่คลายปัญหานี้ให้เมื่อพูดจบจึงเดินกลับไป
"......"เมืองรามได้นิ่งนิ่งงันคิดไตร่ตรองในเรื่องที่ฟองจันทร์พูดแล้วจึงรีบกลับไปในห้องนอนของเขาทันที"ยังไม่เลิกร้องอีกหรือไง""ปล่อย...""ฉันปล่อยเธอไปไม่ได้.."เมืองรามเข้ามาสวมกอดคนที่กำลังนั่งกอดเข่าร้องให้อย่างไม่ยอมหยุดแม้เวลาจะผ่านมาร่วมหลายชั่วโมงแล้วก็ตามเขาเอ่ยปากพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมาทำเอานรีนาถแปลกใจกับคำพูดของเขาอยู่มากว่าเหตุผลอะไรกันที่ทำให้เขาพูดว่าปล่อยเธอไปไม่ได้"......""ความรู้สึกของฉันมันเปลี่ยนไปพักใหญ่แล้ว"เมื่อนรีนาถมีทีท่าว่าจะฟังเขาชายหนุ่มจึงเริ่มพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมา"ความรู้สึกอะไร""ในใจฉันมันต้องการเธอ...มันบอกว่ายอมเสียเธอไปไม่ได้""นายจะเล่นลิ้นอะไรอีก"ตอนนี้นรีนาถไม่รู้ว่าเขาจะมาไม้ไหนกับเธออีกครั้งก่อนก็เล่นลูกบังคับครั้งนี้ก็มาเล่นลูกขอร้องกับเธออีกเพื่อให้เธอไม่อยู่ห่างเขา"เธอดูไม่ออกจริงๆหรือไงว่าฉันเปลี่ยนไป...หรือทำเป็นไม่รับรู้กันแน่"เมืองรามจ้องหน้านรีนาถด้วยสายตาจริงจัง"......."หญิงสาวก้มหน้าลงเล็กน้อยเธอเคยแอบคิดเหมือนกันว่าเขามีใจให้เธอแบบที่เธอมีให้เขาแต่เมื่อคิดแล้วมันก็ชอบมีความคิดแย้งมาว่าเขาทำไปทั้งหมดเพราะอยากแก้แค้นเธอจึงข
"นายปวดหัวอยู่รึเปล่า"ช่วงบ่ายเมื่อเมืองรามฟื้นขึ้นมาแล้วนรีนาถก็คอยดูแลเขาอยู่ไม่ห่าง"ไม่ค่อยเท่าไร""เอ่อ..""เธอจะกลับไปใช่ไหม"สิ่งที่กังวลใจที่สุดของเมืองรามไม่ใช่แผลที่หัวของเขาแต่เป็นเรื่องหญิงสาวที่กลัวว่าเธอนั้นจะถูกพรากจากเขาไป"อืม..ฉันอยากกลับไปรับศพพ่อฉัน.. ฉันกับพี่สิงห์จะอยู่ที่นี่ก่อนสามวันจนนายดีขึ้นแล้วฉันถึงจะไป"นรีนาถพยักหน้าเบาๆ"ฉันไปด้วย""อะไรนะ""ฉันอยากไปขอขมาพ่อเธอและอยากอโหสิกรรมให้เลิกแล้วต่อกันในชาตินี้"หญิงสาวฟังไม่ผิดเขาอยากไปกับเธอจริงๆเขาอยากจะไปขอขมาพ่อของเธอที่พาเธอมาที่นี่ทรมานก่อนหน้านี้และไม่อยากจะมีความแค้นอะไรติดค้างในใจอีก"นายลืมเรื่องทั้งหมดแล้วใช่ไหม"นรีนาถยิ้มอ่อนเมื่อได้ฟังสิ่งที่อยากจะได้ยินจากปากของเขามานานเรื่องที่ชายหนุ่มละจากความแค้นได้เสียที"ไม่ลืม...แต่ไม่ใส่ใจแล้วตอนนี้ฉันใส่ใจแค่เธอเท่านั้น"เมืองรามโอบกอดนรีนาถเบาๆจะให้เขาพูดว่าลืมคงโกหกแค่เขาไม่ใส่ใจมันแล้วต่างหากตอนนี้คนเดียวที่เขาใส่ใจคือนรีนาถเท่านั้นเย็นของวัน"พี่สิงห์คะ""น้องหญิง""หญิงทำแกงส้มของโปรดพี่สิงห์ด้วยค่ะ"นรีนาถยกแกงส้มดอกแคมาวางตรงหน้าสิงหนาท"น้องหญิ
อาทิตย์ต่อมา"หลับให้สบายนะคะคุณพ่อ""หญิง..หญิง"นรีนาถเป็นลมล้มพับไปในขณะที่แหงนมองกลุ่มควันที่เผาพ่อของตนอยู่ที่เมรุเผาศพเมืองรามกับสิงหนาทจึงรีบพาหญิงสาวกลับบ้านและตามหมอมาดูอาการเธอทันที"คุณหญิงร่างกายอ่อนเพลียมากนะคะยิ่งตอนนี้ตั้งครรภ์อ่อนๆด้วยแล้วยิ่งต้องให้เธอทานอาหารให้ตรงเวลา""หา..."คำพูดของหมอหญิงวัยกลางคนทำให้ทั้งสามต่างก็มีสีหน้าตกใจไปตามๆกัน"ตั้งครรภ์"นรีนาถลูบท้องตัวเองเบาๆเธอเองก็ไม่ทันได้สังเกตเสียด้วยว่าระดูของเธอนั้นขาดไปตั้งแต่เมื่อไร"น้้องหญิง"สิงหนาทนั่งกุมขมับมองกน้าเมืองรามอย่างไม่พอใจที่นรีนาถนั้นต้องมาท้องก่อนแต่งจนได้"จะให้ทำยังไง""ก็ต้องรีบแต่งน่ะสิ"หลังจากหมอหญิงกลับไปแล้วทั้งสามก็ปรึกษาหาทางออกกันอีกทีว่าจะเอาอย่างไรกับเรื่องนี้ดูคนที่จะไม่เครียดเลยเห็นจะเป็นเมืองรามเสียมากกว่าที่นั่งยิ้มร่าถามสิงหนาทด้วยสีหน้าทะเล้นจนสิงหนาทต้องรีบเอ่ยปากให้ทั้งคู่แต่งงานกันโดยเร็วที่สุด2อาทิตย์ต่อมาไร่ศังกร"อุ้บ..แหวะๆ""พี่หญิงไหวไหมคะ"วันนี้เป็นวันแต่งงานของนรีนาถและเมืองรามซึ่งดูเจ้าสาวก็ดูท่าไม่ค่อยไหวเท่าไรแต่ก็ต้องแต่เมื่อได้ฤกษ์ที่ไวที่สุดมาแล้วคำแก
"คำแก้ว..คำแก้ว""พ่อเลี้ยงอย่าพึ่งตามไปปล่อยคำแก้วมันไปก่อน"พันแสงหมายจะตามคำแก้วไปแต่ถูกสมิงรั้งเอาไว้ก่อนเพราะหากคำหล้ากดดันเจ้านายของเขาเช่นนี้เขาก็มีความจริงที่ต้องเปิดเผยเช่นกัน"ทำไม"พันแสงหันมาจ้องสมิงตาเขม็ง"ศรีอ่อนบอกแม่เอ็งไป"สมิงให้ศรีอ่อนบอกความจริงดับทุกคนว่าเธอนั้นเป็นอะไรกับเขาให้กลุ่มคนงานที่ยืนฟังเรื่องราวอยู่ให้รู้กันถ้วนหน้าไปเสียวันนี้เลย"แม่จ้ะ..เมื่อคืนพ่อเลี้ยงเมาไม่ได้ตั้งใจจริงๆและฉันก็...""ก็อะไร.."คำหล้าบีบแขนศรีอ่อนทั้งจ้องอย่างเอาเป็นเอาตาย"ได้เสียเป็นเมียพี่หมิงไปแล้วจะ...ฉันคงจะเป็นเมียพ่อเลี้ยงไม่ได้""อะไรนะ..นี่เอ็ง..อีนังลูกไม่รักดี"เพี๊ยะ..สิ้นคำลูกสาวคำหล้าก็เหวี่ยงมือฟาดไปที่หน้านวลจนเป็นรอยแดง"อย่าทำร้ายศรีอ่อนมันเลยฉันได้มันเป็นเมียแล้วฉันจะสู่ขอให้ถูกต้องตามประเพณีทุกอย่าง"สมิงรีบดึงศรีอ่อนมากอดเอาไว้เพราะไม่อยากมห้เธอตกเป็นเครื่องมือของคนเป็นแม่อีกที่ผ่านมาเขารู้ดีว่สคำหล้าจ้องจะทำอะไรแต่ในเมื่อศรีอ่อนรักอยู่กับเขาตัวเขาเองก็จะไม่ปล่อยให้ศรีอ่อนไปเป็นเมียใครเด็ดขาด"หึ่..."คำหล้ามือไม้สั่นอับอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี"ไอ้หมิง...กูรั
"คู่นี้เข้าใจกันได้ก็น่าเอ็นดูดีนะคะ"นรีนาถแอบขำการคุยกันของสองหนุ่มทั้งดีใจที่คำแก้วและพันแสงลงเอยกันด้วยดีเสียที"ใช่..คนอย่างไอ้แสงลงได้รักใครมันก็รักและซื่อสัตย์กับคนนั้นคนเดียวพี่ถึงวางใจที่จะให้คำแก้วฝากชีวิตไว้กับมันไง""แล้วพี่รามคนนี้ล่ะคะ""พี่ก็รักเดียวใจเดียวไม่เปลี่ยนใจเหมือนกันจะ""ปากหวาน"นรีนาถจับริมฝีปากหนาของชายหนุ่มเล่นเบาๆ"อยากชิมปากหวานๆตอนนี้ไหมล่ะ""อื้อ..ไม่ค่ะ"นรีนาถรีบเอี้ยวตัวหลบก่อนที่เมืองรามจะมาทำประเจิดประเจ้อกับเธอที่หน้าเรือนปีต่อมา"แอ้ๆ..""ว่ายังไงตาชิต...อารมณ์ดีแต่เช้าเลยลูกพ่อ"เมืองรามกำลังจับลูกชายวัยหกเดือนที่กำลังจ้ำม่ำอาบน้ำในตอนเช้านรีนาถมองแล้วดูท่าทางคนเป็นพ่อจะอารมณ์ดีกว่าลูกเสียอีกที่ไม่ยอมพาลูกขึ้นจากน้ำเสียที"พี่รามคะ..พาลูกขึ้นจากน้ำได้แล้วค่ะ""ลูกกำลังอารมณ์ดีเลย"เมืองรามมองหน้าคนเป็นเมียบุ้ยปากแอบเสียดายเล็กน้อยที่ลูกกำลังเล่นกับเขาอารมณ์ดีแต่ต้องเลิกเล่นเสียแล้วเพราะกลัวว่าลูกจะไม่สบาย"เดี๋ยวจะป่วยเอานะคะ"นรีนาถส่ายหัวเบาๆ"ก็ได้...ไปเช็ดตัวกันนะลูก""พี่สิงห์...ไม่เห็นส่งข่าวมาบอกว่าจะมาเลยคะ"ในขณะที่นรีนาถเช็ดตัวเปลี่
"ร้านอยู่ที่ไหนจ้ะแม่จันทร์""ตลาดในหมู่บ้านนี่เองจะ""มีอะไรกันรึเปล่า"เมืองรามเห็นนรีนาถและสิงหนาทดูรีบร้อนเป็นพิเศษจึงเกิดอยากจะถามให้หายสงสัยก่อนที่จะเดินออกไปจากเรือนนรีนาถจำต้องเดินไปด้วยเล่าไปด้วนว่าสิ่งที่สิงหนาทและเธอร้อนใจอยู่นั้นคือเรื่องอะไรตลาดในหมู่บ้าน"ร้านไหนจ้ะแม่จันทร์""ใกล้จะถึงแล้วจะ"นรีนาถมีท่าทางร้อนใจจนฟองจันทร์ต้องรีบเดินให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้"อ้าวแม่จันทร์มาซื้อขนมเพิ่มเหรอจ้ะ"เมื่ออัญชัญเห็นฟองจันทร์ก็รีบยิ้มทักทายเพราะตั้งแต่มาตั้งร้านขายที่หมู่บ้านนี้ไม่กี่วันมานี่ก็มีฟองจันทร์เป็นลูกค้าประจำคอยมาซื้ออยู่ทุกวันอัญชัญเป็นแม่ค้าขายขนมวัยเกือบจะสี่สิบเป็นโสดไม่เคยคิดจะมีสามีและเมื่อนารามาขออาศัยอยู่ด้วยจึงย้ายถิ่นมาขายของที่บ้านเก่าของเธอที่นี่"พอดีมีคนอยากจะซื้อเพิ่มน่ะจะ"ฟองจันทร์หันกลับไปหาทั้งสามที่ยืนมองอยู่หน้าร้าน"เหลือเท่านี้แหละจะจะเอาอะไรก็เลือกเลยนะจ้ะ""ยาย..""ตานพกินเลอะเทอะอีกแล้วมายายเช็ดปากให้"ไม่นานเด็กชายวัยเก้าเดือนนิดๆที่พึ่งจะหัดเดินกึ่งเดินกึ่งคลานเข้ามาหาอัญชัญด้วยหน้าตาที่ละม้ายคล้านสิงหนาทอย่างมากจึงทำให้ทั้งสามที่ยืน
"กลับไปเถอะค่ะหนึ่งอยู่กับลูกกับน้าอัญก็สบายดีแล้วพี่สิงห์กลับไปใช้ชีวิตของพี่เถอะเรื่องที่ผ่านมาหนึ่งอภัยให้ค่ะพี่สิงห์ไม่ต้องรู้สึกผิดนะคะ..."นาราพูดจบก็หมายจะอุ้มลูกเดินออกไป"ไม่ได้หนึ่งยังไงลูกก็ต้องได้อยู่กับพี่""จะพรากลูกไปจากหนึ่งเหรอคะ"แต่มีหรือสิงหนาทจะยอมเขารั้งร่างบางเอาไว้และอุ้มมานพมาไว้ในอ้อมอก"พี่ไม่ได้คิดจะพรากลูกไปจากหนึ่งแต่เราจะอยู่กันเป็นครอบครัวถ้าหนึ่งไม่อยากทิ้งน้าอัญของหนึ่งพี่ก็จะพาเธอไปอยู่ด้วยจะได้ไม่ต้องมาลำบากแบบนี้""ก็หนึ่งบอกแล้วไงคะว่าหนึ่งไม่ได้ลำบาก"นาราพยายามจะแย่งลูกคืนแต่ก็ทำอะไรได้ยากเพราะสิงหนาทโอบกอดลูกชายตนเอาไว้แน่น"อย่าดื้อกับพี่นะหนึ่ง"สิงหนาทจ้องนาราอย่างจริงจัง"อย่ามาสั่งหนึ่งค่ะ"นาราเองก็จ้องกลับสิงหนาทอย่างเขม็งเช่นกัน"แม่ๆ..""พี่สิงห์จะพาลูกไปไหนคะ...พี่สิงห์หยุดนะ""......"สิงหนาทเห็นท่าทีดื้อดึงของนาราแล้วก็ต้องใช้ลูกบังคับกันเช่นเดิมในเมื่อคุยกันไม่เข้าใจเขาก็ต้องอุ้มลูกวิ่งหนีไปเสียก่อน"อ้าวพี่สิงห์"นรีนาถเห็นสิงหนาทอุ้มมานพวิ่งออกไปจากบ้านเธอก็ตกใจเล็กน้อย"น้าอัญคะเค้าจะขโมยลูกหนึ่งไปค่ะ""เป็นผัวเมียกันก็ค่อยๆคุ
"จริงเหรอ"นาราเบิกตาโพรงด้วยความดีใจ"ใช่...เพราะเรากับพี่รามต้องช่วยกันบริหารงานที่ธนาคาร"นรีนาถพนักหน้าเบาๆ"จริงใช่ไหม..เราดีใจที่สุดเลยนึกว่าจะต้องอยู่ห่างกันเสียอีก"นาราสวมกอดนรีนาถด้วยความดีใจ"ไม่เข้าไปล่ะ"เมืองรามเห็นสิงหนาทแอบมองสองสาวและเด็กๆอยู่ไกลๆจึงเข้ามาหา"นายก็รู้ว่าฉันถูกห้ามเรื่องอะไร"สิงหนาทก้มหน้าเล็กน้อยเพราะนาราเชื่อใจว่าเขาจะไม่เข้าใกล้จึงยอมไปอยู่กรุงเทพได้หากแลกกับความสบายของลูกเขาและนาราเขาจำต้องยอมไปก่อนแต่ก็จะหาวิธีเข้าหาเธอใหม่ไม่ปล่อยเธออยู่อย่างนี้ตลอดไปแน่นอน"เฮ้อ...แบบนี้ก็ต้องอดทนหน่อยนะ"เมืองรามตบบ่าสิงหนาทเบาๆสองวันต่อมา"บ้านนี้น่าอยู่เหมือนกันนะหนูหนึ่ง"อัญชัญเดินตามนาราที่กำลังอุ้มมานพซบหลับในอ้อมอกเข้ามาที่บ้านหลังเล็กอยู่ไม่ห่างเรือนธิติลักษณ์เท่าไรโดยมีสิงหนาทเป็นคนมาส่ง"น้าอัญชอบหรือเปล่าจ้ะ""ชอบสิน้าเคยอยู่ที่สบายแบบนี้เสียที่ไหนที่เป็นบุญของน้าเลยล่ะ""หนึ่งดีใจนะจ้ะที่เห็นน้ามีความสุขแบบนี้"นาราดีใจที่เห็นท่าทางอัญชัญมีความสุขหากเธอตัดสินใจผิดเธอคงไม่เห็นรอยยิ้มที่มีความสุขของอัญชัญแบบนี้เป็นแน่"เดี๋ยวน้าเดินดูรอบๆบ้านก่อนนะ"