"คำแก้ว..คำแก้ว"
"พ่อเลี้ยงอย่าพึ่งตามไปปล่อยคำแก้วมันไปก่อน"
พันแสงหมายจะตามคำแก้วไปแต่ถูกสมิงรั้งเอาไว้ก่อนเพราะหากคำหล้ากดดันเจ้านายของเขาเช่นนี้เขาก็มีความจริงที่ต้องเปิดเผยเช่นกัน
"ทำไม"
พันแสงหันมาจ้องสมิงตาเขม็ง
"ศรีอ่อนบอกแม่เอ็งไป"
สมิงให้ศรีอ่อนบอกความจริงดับทุกคนว่าเธอนั้นเป็นอะไรกับเขาให้กลุ่มคนงานที่ยืนฟังเรื่องราวอยู่ให้รู้กันถ้วนหน้าไปเสียวันนี้เลย
"แม่จ้ะ..เมื่อคืนพ่อเลี้ยงเมาไม่ได้ตั้งใจจริงๆและฉันก็..."
"ก็อะไร.."
คำหล้าบีบแขนศรีอ่อนทั้งจ้องอย่างเอาเป็นเอาตาย
"ได้เสียเป็นเมียพี่หมิงไปแล้วจะ...ฉันคงจะเป็นเมียพ่อเลี้ยงไม่ได้"
"อะไรนะ..นี่เอ็ง..อีนังลูกไม่รักดี"
เพี๊ยะ..
สิ้นคำลูกสาวคำหล้าก็เหวี่ยงมือฟาดไปที่หน้านวลจนเป็นรอยแดง
"อย่าทำร้ายศรีอ่อนมันเลยฉันได้มันเป็นเมียแล้วฉันจะสู่ขอให้ถูกต้องตามประเพณีทุกอย่าง"
สมิงรีบดึงศรีอ่อนมากอดเอาไว้เพราะไม่อยากมห้เธอตกเป็นเครื่องมือของคนเป็นแม่อีกที่ผ่านมาเขารู้ดีว่สคำหล้าจ้องจะทำอะไรแต่ในเมื่อศรีอ่อนรักอยู่กับเขาตัวเขาเองก็จะไม่ปล่อยให้ศรีอ่อนไปเป็นเมียใครเด็ดขาด
"หึ่..."
คำหล้ามือไม้สั่นอับอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี
"ไอ้หมิง...กูรักมึงมากก็วันนี้ค่าสินสอดถูกเรียกเท่าไรกูจะจ่ายให้.."
"ขอบคุณจะพ่อเลี้ยง"
พันแสงยิ้มกริ่มทั้งเอ่ยเป็นคนออกค่าสินสอดให้เองเมื่อพูดจบก็รับวิ่งตามคำแก้วไปทันทีเพราะเขาเป็นห่วงความรู้สึกของคำแก้วที่สุด
ไร่ศังกร
"ฮึก.ฮือๆๆ.."
"ใจเย็นๆนะคำแก้ว...มีอะไรอยากระบายก็ระบายมากับพี่ได้นะ"
นรีนาถเมื่อตรวจจริงจังตอนนี้เธอก็ตั้งครรภ์ได้สามเดือนกว่าแต้ด้วยท้องสาวท้องเลยยังไม่ออกมากนักในขณะที่เธอกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องจู่ๆคำแก้วก็วิ่งเข้ามาร้องห่มร้องให้หนักจนนรีนาถต้องรีบปลอบและถามหาสาเหตุ
"คือแก้ว.."
คำแก้วสะอื้นให้ไปด้วยเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ไปด้วยความน้อยใจ
"แบบนี้นี่เอง"
นรีนาถลูบหัวคำแก้วเบาๆหากเป็นเธอก็คงจะเป็นมากกว่าคำแก้วเป็นแน่
"แก้วจะร้องแค่แปปเดียว...แก้วจะไม่ร้องอีกแล้ว..ฮือๆๆ"
"งั้นก็ร้องออกมาซะให้หมด"
นรีนาถนั่งเงียบๆเป็นเพื่อนคำแก้วเธอไม่เอ่ยห้ามที่หญิงสาวจะร้องทั้งยังบอกให้อีกฝ่ายร้องออกมาให้หมดไม่ต้องกลั่นเอาไว้เผื่อจะได้ผ่อนคลายขึ้นมาหน่อย
"คำแก้วล่ะ"
"มึงทำอะไรคำแก้วมัน"
เมืองรามไม่ปล่อยให้พันแสงเข้าไปในเรือนง่ายๆเขาต้องรู้ก่อนว่าคำแก้วร้องให้มาแบบนั้นเป็นอะไรกันแน่
"กูแค่มีเรื่องไม่เข้าใจกันนิดหน่อย"
พันแสงพูดด้วยท่าทีร้อนใจตอนนี้เขาอยากคุยกับคำแก้วที่สุดสายตาเขาก็เอาแต่กวาดหาคนที่อยู่ด้านในอย่างไม่ลดละ
"บอกกูมาแล้วกูจะให้เจอคำแก้ว"
"ก็บอกว่าเรื่องเข้าใจผิดนิดหน่อยไงวะกูคุยกับเมียกูได้"
พันแสงเริ่มเสียงสูงอน่างหัวเสียเพราะดูท่าเพื่อนเขาจะกวนประสาทไม่เลือกเวลา
"สนใจความรู้สึกคำแก้วมันมากงั้นสิ"
"ก็เมียกูทั้งคนกูก็ต้องสนใจสิวะมึงจะให้กูเจอคำแก้วได้ยัง"
"ยัง"
"พี่ราม"
"คุณหญิง..คำแก้วอยู่ไหน"
พันแสงเห็นนรีนาถเดินออกมาจึงรีบถามหญิงสาวทันทีว่าคำแก้วอยู่ที่ไหน
"อยู่ในห้องค่ะ"
"มึงจะไปไหน"
"กูจะไปคุยกับเมียกู"
เมืองรามก็ยังคงขวางพันแสงไม่ให้เข้าไปง่ายๆ
"มึงแค่อธิบายกับกูก่อนแล้วกูจะให้ไปหาคำแก้ว"
"ก็ได้วะ..."
พันแสงจำใจต้องอธิบายทุกอย่างให้เมืองรามได้ฟังจนหมดว่ามันเกิดอะไรขึ้นและเขาก็จะได้เข้าไปอธิบายกับคำแก้วเสียที
"เป็นหญิงก็คงจะหนักเหมือนกันเพราะถ้าหากต้องแบ่งคนรักให้ใครคงจะลำบากใจน่าดู"
"คนรัก..คำแก้วรักฉันเหรอ"
พันแสงชะงักกับคำพูดของนรีนาถจนต้องเอ่ยถามเธออีกรอบ
"มึงอยู่กับคำแก้วมาพักใหญ่มึงดูไม่ออกหรือไงว่าคำแก้วมันรู้สึกยังไงกับมึง"
เมืองรามส่ายหัวเบาๆให้กับคนความรู้สึกช้า
"ก..กูก็แค่เห็นมันดูแลกูดีตามหน้าที่ไม่รู้ว่ามันมีความรู้สึกแบบนี้ให้กู"
"แล้วมึงล่ะ...รู้สึกดีกับคำแก้วขึ้นบ้างยัง"
"ก็...ไม่รู้ว่ะ"
พันแสงหลบสายตาเมืองรามเล็กน้อย
"กูว่ามึงน่าจะรู้ตัวได้แล้วนะ...หรือรู้แต่ปากแข็ง"
คนอย่างเมืองรามหรือจะดูพันแสงไม่ออกหากไม่รักไม่สนใจคงไม่ตามมาอย่างร้อนใจแบบนี้เป็นแน่
"เออ..กูยอมรับก็ได้..กูรักมันไม่งั้นกูจะตามมันอย่างร้อนใจแบบนี้เหรอ...มึงฟังจบแล้วมึงก็ให้กูเข้าไปหาคำแก้วซะทีสิวะ"
"อืม.."
แกร๊ก..
"ฮึก.. อึก.. ฮืออออๆ"
"โถ่เอ้ย...คำแก้ว..นี่รักพ่อเลี้ยงมากใช่ไหม"
นรีนาถเดินเข้ามาลูบหัวคำแก้วที่นอนตะแคงหันหลังให้เธออยู่เบาๆ
"แก้ว..ฮึก..แก้วรักเค้า..รักมากไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไรทั้งๆที่แก้วรู้ว่าเค้าไม่รักแก้วเลย..."
คำแก้วระบายกับนรีนาถด้วยน้ำเสียงสะอื้นแต่เธอไม่รู้เลยว่าในห้องนี้ไม่ได้มีเพียงแค่เธอสองคน
"อาจจะไม่ใช่อย่างที่แก้วคิดก็ได้"
"แก้วรู้ดีจะพี่หญิงว่าพ่อเลี้ยงตีตราแก้วว่าเป็นคนทำให้แม่เค้าเสียแก้วจำข้อนี้ได้ดี"
"...หื้มม..."
พันแสงกำมือแน่นที่รู้ตัวว่าตัวเองสร้างความหนักใจให้คำแก้วแค่ไหน
"พี่หญิงจ้ะ...ถ้าลูกแก้วออกมาแก้วไม่อยากให้เค้ามีแม่เล็กแม่ใหญ่..แต่แก้วก็สงสารพี่ศรีอ่อนสิ่งที่แก้วเลือกมันถูกแล้วใช่ไหมจ้ะ"
"ก..แก้วท้องเหรอ"
ไม่ใช่แค่นรีนาถที่ตื่นเต้นกับข่าวนี้ทั้งเมืองรามและพันแสงก็เช่นกัน
"จะ...เรื่องนี้ยังไม่มีใครรู้วันที่แก้วตั้งใจจะบอกพ่อเลี้ยงแต่ก็เกิดเรื่องแบบนี้เสียก่อน"
"......."
เมืองรามพยักหน้าเรียกนรีนาถให้ออกไปด้านนอกกับเขาส่วนในนี้ก็ให้สองผัวเมียนั้นปรับความเข้าใจกันเอง
"แก้ว.."
"พ่อเลี้ยง"
คำแก้วรีบหันหน้ามาหาคนที่เรียกเธออย่างตกใจไม่คิดว่าเขาจะอยู่ตรงนี้ด้วย
"เอ็งทำไมไม่บอกฉันว่าเอ็งท้อง"
"...คือแก้ว..."
"ไม่ต้องพูดอะไร..ฉันขอโทษที่ตลอดเวลาที่ผ่านมาทำให้เอ็งคิดว่าฉันไม่รักเอ็ง"
พันแสงรวบร่างบางมาไว้ในอ้อมกอด
"พ่อเลี้ยง"
"เอ็งดูแลฉันดีมากดีเสียจนทิฐิในใจฉันมันหมดไปเมื่อไรก็บอกไม่ได้เหมือนกันรู้ตัวอีกทีฉันก็รู้ว่าฉันขาดเอ็งไม่ได้...แล้ววันนี้ฉันก็ได้รู้ว่าเอ็งก็รู้สึกเหมือนกันกับฉันเหมือนกัน"
"เรื่องพี่ศรีอ่อน.."
คำแก้วยิ้มอ่อนเมื่อรู้ว่าพันแสงนั้นรู้สึกอย่างไรกับเธอแต่ก็ยังไม่หมดความกังวลอยู่ดีเรื่องศรีอ่อนที่ตะต้องมาเป็นเมียพันแสงอีกคน
"เอ็งไม่ต้องกังวลเรื่องศรีอ่อนมันจะไม่มายุ่งอะไรกับฉันทั้งนั้นเพราะมันจะต้องแต่งงารกับไอ้หมิง"
"ทำไมล่ะจ้ะ"
"ก็มันยอมรับกันเองว่ามันได้เสียกันแล้วอีกอย่างเมื่อคืนที่ฉันถึงเนื้อถึงตัวมันก็เพราะเมาแล้วก็คิดว่าเป็นเอ็งเท่านั้น"
"จริงเหรอจ้ะ...แล้วแม่คำหล้ายอมใช่ไหมจ้ะ"
"ไม่ยอมก็ต้องยอมเพราะฉันไม่ได้ตั้งใจและฉันก็ไม่อยากมีเมียหนึ่งเมียสอง...ฉันอยากมีเมียเดียวและแค่เอ็งเท่านั้นคำแก้ว...มีแต่เอ็งที่ผลักใสฉันให้เป็นผัวคนอื่นโดยที่ไม่ถามฉันสักคำแบบนี้เรียกรักกันจริงใช่ไหม"
พันแสงเชยคางหญิงสาวมองแกมน้อยใจ
"......"
คำแก้วเองก็ไม่ใช่ไม่รักพันแสงแต่เธอแค่เห็นใจศรีอ่อนเท่านั้น
"ฉันดีใจมากเลยนะที่รู้ว่าเอ็งท้องแล้ว...กลับบ้านกันเถอะ...ดูซิร้องให้จนตาบวมหมดแล้ว"
พันแสงปาดน้ำตาให้คนเป็นเมียและอุ้มร่างบางขึ้นด้วยท่าเจ้าสาว
"จะ..ทำอะไรจ้ะ"
"เอ็งจะได้ไม่ต้องเดินให้เหนื่อยไง"
"แก้วเดินเองได้จะ"
"ไอ้รามกูพาเมียกูกลับก่อนนะโว้ย"
พันแสงไม่ปล่อยให้คำแก้วดิ้นลงไปง่ายๆเขาอุ้มเมียรักออกมาจากห้องเดินออกจากเรือนไปแล้วหันมาตะโกนบอกคนที่ยืนอยู่หน้าระเบียงบ้านว่าเขาจะกลับแล้ว
"เออ...คำแก้วมันร้องกลับมาอีกเมื่อไรกูจะไม่ปล่อยให้มันกับหลานกูกลับไปอีกแน่"
"ไม่มีวันนั้นแล้วโว้ยย"
"คู่นี้เข้าใจกันได้ก็น่าเอ็นดูดีนะคะ"นรีนาถแอบขำการคุยกันของสองหนุ่มทั้งดีใจที่คำแก้วและพันแสงลงเอยกันด้วยดีเสียที"ใช่..คนอย่างไอ้แสงลงได้รักใครมันก็รักและซื่อสัตย์กับคนนั้นคนเดียวพี่ถึงวางใจที่จะให้คำแก้วฝากชีวิตไว้กับมันไง""แล้วพี่รามคนนี้ล่ะคะ""พี่ก็รักเดียวใจเดียวไม่เปลี่ยนใจเหมือนกันจะ""ปากหวาน"นรีนาถจับริมฝีปากหนาของชายหนุ่มเล่นเบาๆ"อยากชิมปากหวานๆตอนนี้ไหมล่ะ""อื้อ..ไม่ค่ะ"นรีนาถรีบเอี้ยวตัวหลบก่อนที่เมืองรามจะมาทำประเจิดประเจ้อกับเธอที่หน้าเรือนปีต่อมา"แอ้ๆ..""ว่ายังไงตาชิต...อารมณ์ดีแต่เช้าเลยลูกพ่อ"เมืองรามกำลังจับลูกชายวัยหกเดือนที่กำลังจ้ำม่ำอาบน้ำในตอนเช้านรีนาถมองแล้วดูท่าทางคนเป็นพ่อจะอารมณ์ดีกว่าลูกเสียอีกที่ไม่ยอมพาลูกขึ้นจากน้ำเสียที"พี่รามคะ..พาลูกขึ้นจากน้ำได้แล้วค่ะ""ลูกกำลังอารมณ์ดีเลย"เมืองรามมองหน้าคนเป็นเมียบุ้ยปากแอบเสียดายเล็กน้อยที่ลูกกำลังเล่นกับเขาอารมณ์ดีแต่ต้องเลิกเล่นเสียแล้วเพราะกลัวว่าลูกจะไม่สบาย"เดี๋ยวจะป่วยเอานะคะ"นรีนาถส่ายหัวเบาๆ"ก็ได้...ไปเช็ดตัวกันนะลูก""พี่สิงห์...ไม่เห็นส่งข่าวมาบอกว่าจะมาเลยคะ"ในขณะที่นรีนาถเช็ดตัวเปลี่
"ร้านอยู่ที่ไหนจ้ะแม่จันทร์""ตลาดในหมู่บ้านนี่เองจะ""มีอะไรกันรึเปล่า"เมืองรามเห็นนรีนาถและสิงหนาทดูรีบร้อนเป็นพิเศษจึงเกิดอยากจะถามให้หายสงสัยก่อนที่จะเดินออกไปจากเรือนนรีนาถจำต้องเดินไปด้วยเล่าไปด้วนว่าสิ่งที่สิงหนาทและเธอร้อนใจอยู่นั้นคือเรื่องอะไรตลาดในหมู่บ้าน"ร้านไหนจ้ะแม่จันทร์""ใกล้จะถึงแล้วจะ"นรีนาถมีท่าทางร้อนใจจนฟองจันทร์ต้องรีบเดินให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้"อ้าวแม่จันทร์มาซื้อขนมเพิ่มเหรอจ้ะ"เมื่ออัญชัญเห็นฟองจันทร์ก็รีบยิ้มทักทายเพราะตั้งแต่มาตั้งร้านขายที่หมู่บ้านนี้ไม่กี่วันมานี่ก็มีฟองจันทร์เป็นลูกค้าประจำคอยมาซื้ออยู่ทุกวันอัญชัญเป็นแม่ค้าขายขนมวัยเกือบจะสี่สิบเป็นโสดไม่เคยคิดจะมีสามีและเมื่อนารามาขออาศัยอยู่ด้วยจึงย้ายถิ่นมาขายของที่บ้านเก่าของเธอที่นี่"พอดีมีคนอยากจะซื้อเพิ่มน่ะจะ"ฟองจันทร์หันกลับไปหาทั้งสามที่ยืนมองอยู่หน้าร้าน"เหลือเท่านี้แหละจะจะเอาอะไรก็เลือกเลยนะจ้ะ""ยาย..""ตานพกินเลอะเทอะอีกแล้วมายายเช็ดปากให้"ไม่นานเด็กชายวัยเก้าเดือนนิดๆที่พึ่งจะหัดเดินกึ่งเดินกึ่งคลานเข้ามาหาอัญชัญด้วยหน้าตาที่ละม้ายคล้านสิงหนาทอย่างมากจึงทำให้ทั้งสามที่ยืน
"กลับไปเถอะค่ะหนึ่งอยู่กับลูกกับน้าอัญก็สบายดีแล้วพี่สิงห์กลับไปใช้ชีวิตของพี่เถอะเรื่องที่ผ่านมาหนึ่งอภัยให้ค่ะพี่สิงห์ไม่ต้องรู้สึกผิดนะคะ..."นาราพูดจบก็หมายจะอุ้มลูกเดินออกไป"ไม่ได้หนึ่งยังไงลูกก็ต้องได้อยู่กับพี่""จะพรากลูกไปจากหนึ่งเหรอคะ"แต่มีหรือสิงหนาทจะยอมเขารั้งร่างบางเอาไว้และอุ้มมานพมาไว้ในอ้อมอก"พี่ไม่ได้คิดจะพรากลูกไปจากหนึ่งแต่เราจะอยู่กันเป็นครอบครัวถ้าหนึ่งไม่อยากทิ้งน้าอัญของหนึ่งพี่ก็จะพาเธอไปอยู่ด้วยจะได้ไม่ต้องมาลำบากแบบนี้""ก็หนึ่งบอกแล้วไงคะว่าหนึ่งไม่ได้ลำบาก"นาราพยายามจะแย่งลูกคืนแต่ก็ทำอะไรได้ยากเพราะสิงหนาทโอบกอดลูกชายตนเอาไว้แน่น"อย่าดื้อกับพี่นะหนึ่ง"สิงหนาทจ้องนาราอย่างจริงจัง"อย่ามาสั่งหนึ่งค่ะ"นาราเองก็จ้องกลับสิงหนาทอย่างเขม็งเช่นกัน"แม่ๆ..""พี่สิงห์จะพาลูกไปไหนคะ...พี่สิงห์หยุดนะ""......"สิงหนาทเห็นท่าทีดื้อดึงของนาราแล้วก็ต้องใช้ลูกบังคับกันเช่นเดิมในเมื่อคุยกันไม่เข้าใจเขาก็ต้องอุ้มลูกวิ่งหนีไปเสียก่อน"อ้าวพี่สิงห์"นรีนาถเห็นสิงหนาทอุ้มมานพวิ่งออกไปจากบ้านเธอก็ตกใจเล็กน้อย"น้าอัญคะเค้าจะขโมยลูกหนึ่งไปค่ะ""เป็นผัวเมียกันก็ค่อยๆคุ
"จริงเหรอ"นาราเบิกตาโพรงด้วยความดีใจ"ใช่...เพราะเรากับพี่รามต้องช่วยกันบริหารงานที่ธนาคาร"นรีนาถพนักหน้าเบาๆ"จริงใช่ไหม..เราดีใจที่สุดเลยนึกว่าจะต้องอยู่ห่างกันเสียอีก"นาราสวมกอดนรีนาถด้วยความดีใจ"ไม่เข้าไปล่ะ"เมืองรามเห็นสิงหนาทแอบมองสองสาวและเด็กๆอยู่ไกลๆจึงเข้ามาหา"นายก็รู้ว่าฉันถูกห้ามเรื่องอะไร"สิงหนาทก้มหน้าเล็กน้อยเพราะนาราเชื่อใจว่าเขาจะไม่เข้าใกล้จึงยอมไปอยู่กรุงเทพได้หากแลกกับความสบายของลูกเขาและนาราเขาจำต้องยอมไปก่อนแต่ก็จะหาวิธีเข้าหาเธอใหม่ไม่ปล่อยเธออยู่อย่างนี้ตลอดไปแน่นอน"เฮ้อ...แบบนี้ก็ต้องอดทนหน่อยนะ"เมืองรามตบบ่าสิงหนาทเบาๆสองวันต่อมา"บ้านนี้น่าอยู่เหมือนกันนะหนูหนึ่ง"อัญชัญเดินตามนาราที่กำลังอุ้มมานพซบหลับในอ้อมอกเข้ามาที่บ้านหลังเล็กอยู่ไม่ห่างเรือนธิติลักษณ์เท่าไรโดยมีสิงหนาทเป็นคนมาส่ง"น้าอัญชอบหรือเปล่าจ้ะ""ชอบสิน้าเคยอยู่ที่สบายแบบนี้เสียที่ไหนที่เป็นบุญของน้าเลยล่ะ""หนึ่งดีใจนะจ้ะที่เห็นน้ามีความสุขแบบนี้"นาราดีใจที่เห็นท่าทางอัญชัญมีความสุขหากเธอตัดสินใจผิดเธอคงไม่เห็นรอยยิ้มที่มีความสุขของอัญชัญแบบนี้เป็นแน่"เดี๋ยวน้าเดินดูรอบๆบ้านก่อนนะ"
"ไม่ต้องมีใครบอกพี่ก็รู้หมอกำลังมาแล้วพี่ตามมาเอง""หนึ่งต้องรีบไปซักผ้าลูกค่ะค้างไว้นานมันจะไม่ดี""ไม่ต้องผ้าพวกนั้นถ้ามันจะเป็นอะไรซื้อใหม่เอาก็ได้""พี่สิงห์"สิงหนาทโอบร่างบางให้นอนลงในขณะที่เธอกำลังจะฝืนลุกขึ้น"อย่าดื้อได้ไหมปล่อยให้ตัวเองเป็นไข้นานแล้วเมื่อไรลูกจะเข้าใกล้ได้""หนึ่งกินยาต้มเดี๋ยวก็หายแล้วค่ะจะตามหมอมาทำไมให้เปลืองค่ารักษา""พี่มีเงินพี่ออกค่ารักษาเมียพี่ได้""อย่าพูดแบบนี้เลยค่ะ...ตอนนี้เราเป็นแค่พ่อและแม่ของตานพเท่านั้น...นี่ไม่ไปทำงานทำการหรือไงคะถึงได้มานั่งเฝ้าหนึ่งอยู่ได้""ไม่...ช่วงนี้พี่ว่าง"สิงหนาทไม่สนใจแล้วว่าหญิงสาวจะต่อต้านเขายังไงเขาพูดกับตัวเองไว้แล้วว่ายังไงเขาก็จะต้องอยู่เป็นครอบครัวเดียวกับหญิงสาวให้ได้เพราะเขาให้เวลาเธออยู่กับลูกมาพักใหญ่แล้ว"ร่างกายคุณหนึ่งอ่อยเพลียมากนะครับเดี๋ยวหมอจะฉีดยาแก้ไข้แล้วก็จะให้ยาแก้ไข้กับยาบำรุงไว้ให้แล้วก็ทานตามที่หมอเขียนให้นะครับ"หมอหนุ่มตรวจอาการนาราพักใหญ่ก็ได้ข้อสรุปมาว่าร่างกายหญิงสาวนั้นอ่อนเพลียและค่อนข้างจะขาดสารอาหาร"ค่ะคุณหมอ""ช่วงนี้นอนพักเยอะๆนะครับทานอาหารให้ตรงเวลาช่วงเป็นไข้รับประทานแต่อ
เมื่อความแค้นที่ต้องถูกเหยียบย่ำหัวใจจนเสียเมียรักไปทำให้พ่อเลี้ยงหนุ่มต้องเอาคืนพวกคนที่ทำกับเขาและเหยื่อที่ต้องถูกพ่อเลี้ยงหนุ่มกระทำก็คือเธอลูกสาวของชู้ที่พรากเมียเขาไป...วันที่พาหญิงสาวมากักขังที่ไร่เพราะความแค้นเขาจึงกดขี่ขมเหงเธอสารพัดยิ่งเห็นแววตาใสซื่อไร้เดียงสาทำเป็นไม่รู้เรื่องรู้ราวว่าพ่อของตนทำเรื่องเอาไว้และท่าทางหยิ่งทระนงตนทั้งที่รู้ว่าไม่ชนะเขาได้ในบางครั้งของเธอทำให้เขานั้นรู้สึกไม่ค่อยพอใจเพิ่มเป็นทวีคูณแต่ในบางครั้งก็แอบสนใจในตัวจำเลยเล็กน้อยและนานวันเข้าก็กลับกลายเป็นสนใจทุกๆเรื่องที่เป็นเรื่องของเธออย่างไม่รู้ตัวการที่พ่อเลี้ยงหนุ่มขโมยลูกสาวนายธนาคารใหญ่มาอย่างคนเอาแต่ใจแบบนี้ย่อมมีปัญหาตามมาภายหลังแน่นอนแต่ปัญหาและเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นจะเป็นอย่างไรอุปสรรคที่ทั้งสองจะต้องเจอมีอะไรบ้างติดตามได้ในเรื่องแค้นสวาทรามสูรเลยค่าา..พระเอกเมืองราม ศิริศังกร [ราม]อายุ40ปีพ่อเลี้ยงหนุ่มใหญ่สูง185ผิวพรรณสะอาดผุดผ่องถึงแม้จะอยู่กับไร่กับสวนใบหน้าคมเข้มแววตาประดุจเหยี่ยวจมูกโด่งเป็นสันปากหนาเป็นกระจับร่างกายกำยำบึกบึนได้รูปแม้จะอายุเจ้าเลขสี่แล้วแต่เขาก็ยังดูสง่าเรีย
ช่วงประมาณปี พ.ศ 2500เชียงใหม่ไร่ศังกรปั้งๆๆๆๆไร่ศังกรเชียงใหม่ตั้งอยู่ที่ราบสูงตอนนี้อยู่ช่วงหน้าฝนมองสุดลูกหูลูกตาก็มีแต่สีเขียวขจีไปทั่วทุกมุมไร่..อาณาเขตของไร่นี้มีนับพันไร่เป็นพื้นที่ส่วนตัวอย่างมากที่ยากต่อการเข้าถึงหากมิใช่คนในจะไม่รู้ทางและอาจจะหลงเข้าป่าไปได้..ที่ไร่นี้ทำการเกษตรหลายอย่างรวมกันปกครองโดยพ่อเลี้ยงเมืองรามวัยสี่สิบปีชายหนุ่มที่ยิ่งทีอายุยิ่งดูดีสาวๆในราเมื่อมีโอกาสก็มิวายจะโปรยเสน่ห์หรือถวายตัวให้โดยไม่มีข้อแม้เพราะรู้ตัวว่าหากเป็นคนของเมืองรามนั้นจะไม่ต้องทำงานไปตลอดชาติเลยก็ยังได้คล้อยบ่ายแดดเปรี้ยงพ่อเลี้ยงหนุ่มที่อยู่ในชุดคาวบอยสวมหมวกสีน้ำตาลรับกับใบหน้าคมเข้มชายหนุ่มยืนหน้านิ่งคิ้วขมวดเพราะโทสะที่อยู่ในใจมือขวาและซ้ายต่างก็มีปืนสั้นอยู่ในมือทั้งรัวปล่อยกระสุนปืนอยู่ที่กระท่อมเถียงนาใส่หุ่นไล่กาสิบกว่าตัวที่สั่งให้คนสนิทสร้างขึ้นมาให้เพื่อระบายอารมณ์เหงื่อตามเนื้อตัวไหลซิกออกมาไม่หยุดเพราะความร้อนจากแดดบวกกับความร้อนในใจมันแผดเผาพ่อเลี้ยงหนุ่มอยู่นั่นเองที่มันเป็นอย่างนี้ก็เพราะว่าเมียสุดที่รักของเขาที่เฝ้าประคบประหงมอย่างดีนั้นหนีไปกับหนุ่มเมืองกรุงห
ท้ายไร่ชา“มึงเป็นอะไรของมึงนักหนาผู้หญิงไม่ดีมึงก็ปล่อยไปมึงจะไปตามจองล้างจองผลาญให้เสียเวลาทำไมคนในไร่สาวๆสวยๆอยากจะเป็นเมียมึงทั้งนั้นมึงไม่สนบ้างรึไง”พันแสงยืนหน้านิ่วคิ้วขมวดเท้าเอวมองเพื่อนตนอย่างอ่อนใจพ่อเลี้ยงพันแสงพ่อเลี้ยงหนุ่มใหญ่อายุ40ปีเช่นเดียวกับเมืองรามและรูปร่างหน้าตาดีไม่แพ้กันเป็นคนขี้เล่นเล้กน้อยแต่เมื่อถึงเวลางานก็เอาจริงเอาจังมากพอตัวและเป็นคนที่ค่อนข้างถือทิฐิอยู่มากแล้วแต่กับบางคนเขาเป็นเพื่อนของพ่อเลี้ยงเมืองรามตั้งแต่เล็กๆตอนนี้ก็เป็นพ่อเลี้ยงปกครองไร่วัฒนพรรณเป็นหนุ่มโสดในตอนนี้เช่นกันเพราะภรรยาของเขาได้เสียไปสามปีแล้วด้วยโรคไข้ป่าทำให้เขาครองความโสดมาจนถึงทุกวันนี้“กูจะทำให้มันรู้ว่าคนที่หักหลังกูไม่มีวันอยู่เป็นสุขชู้มันก็เหมือนกันกูรู้ว่ามันรู้ว่าเดือนมีผัวอยู่แล้วมันก็ยังมายุ่งไอ้นี่กูก็จะเล่นงานมันเหมือนกัน”เมืองรามกำหมัดแน่นสายตาของเขาที่แน่นิ่งเด็ดเดี่ยวมันทำให้พันแสงมองออกว่าเพื่อนของเขากำลังมีแผนการอะไรอยู่ในใจเป็นแน่“นี่อย่าบอกนะว่าเรียกกูมามึงมีแผนอะไร”“เออ..”เมืองรามพยักหน้าเบาๆ“กูว่าแล้วคนอย่างมึงถ้ามีเรื่องดีๆไม่เคยเรียกกูมาเข้าเฝ้าหรอก