Share

ตอนที่32 หอศังกร(ตอนจบ)

"ไม่ต้องมีใครบอกพี่ก็รู้หมอกำลังมาแล้วพี่ตามมาเอง"

"หนึ่งต้องรีบไปซักผ้าลูกค่ะค้างไว้นานมันจะไม่ดี"

"ไม่ต้องผ้าพวกนั้นถ้ามันจะเป็นอะไรซื้อใหม่เอาก็ได้"

"พี่สิงห์"

สิงหนาทโอบร่างบางให้นอนลงในขณะที่เธอกำลังจะฝืนลุกขึ้น

"อย่าดื้อได้ไหมปล่อยให้ตัวเองเป็นไข้นานแล้วเมื่อไรลูกจะเข้าใกล้ได้"

"หนึ่งกินยาต้มเดี๋ยวก็หายแล้วค่ะจะตามหมอมาทำไมให้เปลืองค่ารักษา"

"พี่มีเงินพี่ออกค่ารักษาเมียพี่ได้"

"อย่าพูดแบบนี้เลยค่ะ...ตอนนี้เราเป็นแค่พ่อและแม่ของตานพเท่านั้น...นี่ไม่ไปทำงานทำการหรือไงคะถึงได้มานั่งเฝ้าหนึ่งอยู่ได้"

"ไม่...ช่วงนี้พี่ว่าง"

สิงหนาทไม่สนใจแล้วว่าหญิงสาวจะต่อต้านเขายังไงเขาพูดกับตัวเองไว้แล้วว่ายังไงเขาก็จะต้องอยู่เป็นครอบครัวเดียวกับหญิงสาวให้ได้เพราะเขาให้เวลาเธออยู่กับลูกมาพักใหญ่แล้ว

"ร่างกายคุณหนึ่งอ่อยเพลียมากน​ะ​ครับเดี๋ยวหมอจะฉีดยาแก้ไข้แล้วก็จะให้ยาแก้ไข้กับยาบำรุงไว้ให้แล้วก็ทานตามที่หมอเขียนให้นะครับ"

หมอหนุ่มตรวจอาการนาราพักใหญ่ก็ได้ข้อสรุปมาว่าร่างกายหญิงสาวนั้นอ่อนเพลียและค่อนข้างจะขาดสารอาหาร

"ค่ะคุณหมอ"

"ช่วงนี้นอนพักเยอะๆนะครับทานอาหารให้ตรงเวลาช่วงเป็นไข้รับประทานแต่อาหารอ่อนนะครับหลังจากหายแล้วก็ให้ทานอาหารตามปกติแต่ควรจะครบถ้วนตามหลักโภชนาการนะครับร่างกายจะได้ไม่ขาดสารอาหารแล้วอ่อนเพลียอีก"

"ครับหมอผมจะคอยดูแลเธอตามที่หมอสั่งนะครับ"

สิงหนาทหันมายิ้มรับปากกับหมอหนุ่มในขณะที่มือทั้งสองกุมมือของหญิงสาวอยู่

"ดีครับงั้นหมอขอตัวก่อนนะครั​บ"

"พี่สิงห์ไม่ต้องคอยมาดูแลหนึ่งหรอกค่ะหนึ่งดูแลตัวเองได้"

หลังจากที่หมอกลับไปพักใหญ่แล้วนาราก็ยังไม่เห็นว่าสิงหนาทจะกลับไปเสียทีเธอจึงต้องเอ่ยปากให้เขากลับไป

"ดูแลตัวเองได้เหรอพี่เกรงว่าจะเป็นภาระน้าอัญอีกล่ะสอแค่ตอนนี้น้าอัญดูตานพคนเดียวก็แย่อยู่แล้วไม่เกรงใจน้าอัญบ้างหรืออย่างไร"

สิงหนาทเชื่อว่าหากเขายกความลำบากของอัญชัญขึ้นมาหญิงสาวจะต้องใจอ่อนให้เขาอยู่เฝ้าเธอเป็นแน่

"อยากดูแลหนึ่งเพราะอยากเจอลูกบ้างใช่ไหมคะ"

นาราหันหน้าหนีชายหนุ่ม

"....."

สิงหนาทมองหญิงสาวอย่างอ่อนใจที่ึวามคิดของเธอช่างไม่ถูกใจเขาเอาเสียเลย

"งั้นหนึ่งอนุญาตพี่สิงห์ค่ะแค่อย่ามายุ่งกับหนึ่งก็พอ"

"..หื้มม.."

สิงหนาทโอบร่างบางเข้ามากอดหลังจากที่เธอพูดอะไรไร้สาระอยู่เป็นพักทั้งที่ยังไม่เคยถามเขาสักคำว่าเขาคิดแบบนั้นจริงหรือเปล่า

"พี่สิงห์.."

"อยู่เฉยๆ"

สิงหนาทกอดนาราเอาไว้โดยที่เธอขัดขืนไม่ได้ต่างคนต่างก็ไม่ได้พูดอะไรนาราเองยังสับสนกับการกระทำของเขาอยู่มากว่าเขานั้นทำแบบนี้เพื่อต้องการอะไรไม่นานเธอก็หลับไปด้วยความเพลียจากฤทธิ์ยา

"ตานพ.."

"พ่อ.."

เด็กชายหันมาหาคนเรียกตาแป๋ว

"ครับ..มาหาคุณพ่อมา"

ในช่วงเย็นของวันเมื่อสิงหนาทเห็นอัญชัญมาลูกชายของเขากลับมาจึงรีบเข้าไปอุ้มทันทีด้วยความคิดถึง

"น้าฝากตานพหน่อยนะน้าจะไปทำกับข้าวซะหน่อย"

"ตามสบายเลยครับน้าอัญเดี๋ยวผมดูตานพเองคืนนี้ผมก็จะอยู่เฝ้าไข้หนึ่งด้วยครับ"

"เจ้าตัวยอมเหรอจ้ะคุณสิงห์"

อัญชัญแอบทำหน้าสงสัย

"ไม่ยอมก็ต้องยอมครับ"

สิงหนาทพูดด้วยท่าทีมั่นใจ

"อ่อ..จะ"

อัญชัญเห็นอีกฝ่ายมั่นใจแบบนั้นเธอก็ไม่ขัดดีเหมือนกันเผื่อครั้งนี้อาจจะมีอะไรดีๆเกิดขึ้นก็เป็นได้ว่าจบก็เดินเข้าครัวไป

"พ่อป้อนข้าวนะครับ...กินข้าวหน่อยนะครับลูก"

สิงหนาทป้อนข้าวมานพหลังจากที่อัญชัญถือถ้วยข้าวของมานพมาให้เขาแต่ดูท่าลูกชายเขาจะสนใจของเล่นที่เขายื่นให้ก่อนหน้านี้เสียมากเกินไปแล้วไม่สนใจข้าวที่เขาป้อนเลยสักนิด

"ตานพวางของเล่นแล้วกินข้าวก่อนลูก"

"ครับ.."

"คราวหลังถ้าจะให้ลูกกินข้าวอย่าให้ลูกมัวเล่นค่ะพี่สิงห์ต้องให้เค้ากินข้าวให้เสร็จก่อน..."

"พี่เข้าใจแล้ว...แล้วหนึ่งทำไมไม่นอนพัก"

สิงหนาทถึงกับพยักหน้าเบาๆที่นาราออกมาครู่เดียวก็ปราบลูกให้เชื่อฟังได้เป็นอย่างดีทั้งเขายังโดนดุไปด้วย

"หนึ่งค่อยยังชั่วแล้วล่ะค่ะ"

นารานั่งลงที่เก้าอี้โต๊ะอาหารมองลูกชายเธอกินข้าวที่สิงหนาทป้อนเธอรู้ดีหากลูกเธอมัวเล่นจะไม่สนใจที่จะกินอะไรเลย

"ไปนอนพักเถอะหนูหนึ่งตานพเดี๋ยวน้าดูให้...คุณสิงห์เอาข้าวต้มไปให้หนูหนึ่งกินในห้องเถอะจะ"

"ครับ.."

นาราเดินกลับเข้าห้องไปตามคำบอกของอัญชัญโดยมีสิงหนาทเดินถือถาดข้าวต้มตามไปด้วย

"หนึ่งกินเองได้ค่ะ"

"อืม.."

เมื่อถึงห้องนารายื่นมือรับถาดข้าวต้มมาวางที่โต๊ะและนั่งกินเองโดยที่ไม่สนว่าชายหนุ่มจะอยู่ในห้องหรือไม่เธอทำเหมือนเขาเป็นเพียงแค่ธาตุอากาศที่มองไม่เห็นเท่านั้น

"เสื้อผ้ามาแล้วครับคุณสิงห์"

"วางไว้ตรงนั้นเลยขอบใจนะครับลุงมั่น"

"ครับ"

นายมั่นคนงานที่บ้านสิงหนาทวางกระเป๋าของชายหนุ่มเรียบร้อยแล้วจึงเดินออกไป

"เสื้อผ้าอะไรคะ.."

นาราเห็นจะทำไม่สนใจชายหนุ่มไม่ได้แล้วเพราะไม่รู้ว่าเขาเอาเสื้อผ้าอะไรมาไว้ในห้องเธอ

"พี่จะมานอนเฝ้าหนึ่งที่นี่"

สิงหนาทหยิบกระเป๋าตนมาเปิดเอาเสื้อผ้ามาแขวนในตู้เสื้อผ้าหญิงสาวหน้าตาเฉย

"หนึ่งบอกแล้วไงคะว่าพี่สิงห์อย่ามายุ่งกับหนึ่ง"

นาราถึงกับหน้ามุ่ยบึ้งตึงบอกบุญไม่รับ

"พี่ขอไม่ฟัง"

"อย่ามาทำแบบนี้กับหนึ่งได้ไหม"

"พี่แค่อยากรับผิดชอบดูแลหนึ่ง...อยากอยู่เป็นครอบครัวพ่อแม่ลูกหนึ่งช่วยเข้าใจพี่ด้วยเถอะ"

"จะอยู่ได้ยังไงมนเมื่อพี่สิงห์ไม่ได้รักหนึ่ง"

"เคยได้ยินพี่พูดแบบนั้นเหรอหนึ่ง...จะไปไหน"

"โอ้ย..."

ด้วยความที่นาราลุกขึ้นอย่างรวดเร็วหมายจะก้าวออกไปจากห้องอาการหน้ามืดของเธอก็แล่นมาเล่นงานจนขาอ่อนยวบลงไป

"หนึ่ง...เห็นไหมถ้าพี่ไม่อยู่ตรงนี้จะเป็นยังไงไม่ล้มหัวฟาดไปแล้วเหรอ...อยากให้ตานพมีแม่พิการอย่างนั้นสิ"

สิงหนาทรวบร่างบางลงมานอนที่เตียง

"อย่ายุ่งกับหนึ่ง"

หญิงสาวยังมีกะใจไล่ชายหนุ่มในขณะที่เธอไม่มีแม้เสียงพูด

"อย่าดื้อได้ไหม...ใครบอกว่าพี่ไม่รักหนึ่งก่อนหน้านั้นที่เราอยู่ด้วยกันทุกวันไม่รู้หรือไงว่าพี่รู้สึกยังไงกับหนึ่ง"

สิงหนาทเห็นทีต้องคุยกันจริงจังเสียทีในเรื่องของเขากับเธอ

"พี่สิงห์ก็แค่ดูแลหนึ่งตามหน้าที่เท่านั้น"

ก่อนหน้านั้นที่สิงหนาทดูแลเอาใจใส่เธอจนเธอยอมรับว่าแอบเผลอใจไปให้เขาแต่ก็ข่มใจบอกตัวเองอยู่ตลอดว่าเขาทำตามหน้าที่เพราะคิดไว้เสมอว่าคนอย่างเขาไม่มีวันสนใจผู้หญิงจนๆที่เป็นได้แต่ภาระของเขาอย่างเธอแน่นอน

"คิดแบบนั้นจริงสิ"

สิงหนาทไม่อยากจะเชื่อว่าหญิงสาวไม่รับรู้ถึงความรู้สึกที่เขามีให้ก่อนหน้าที่จะมีปัญหากันอย่างนั้นจริงหรือ

"......"

"การกระทำพี่มันทำให้หนึ่งดูไม่ออกหรือหนึ่งหลอกตัวเองกันแน่หรือต้องให้พี่พูดว่าพี่มีความรู้สึกดีๆกับหนึ่งถ้าวันนั้นพี่ไม่ขาดสติจนทำร้ายหนึ่งป่านนี้เราก็คงจะแต่งงานกันไปแล้วมั้ง"

"....."

นารายังคงเงียบครั้งนี้หูเธอไม่ได้ฝาดเพราะอาการไข้ใช่หรือไม่ยังคอยเฝ้าถามตัวเองอยู่ในใจ

"อื้อ...ออกไปค่ะเดี๋ยวติดไข้หนึ่ง"

จนมารู้สึกตัวว่าไม่ได้ฝันตอนที่ถูกชายหนุ่มรวบกอดหอมซ้ายหอมขวาอย่างเอาแต่ใจเธอจึงรีบผลักเขาออกจากตัวของเธอและหันหน้าหนีด้วยอาการเขิน

"งั้นพี่จะเฝ้าหนึ่งอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหนนะ"

"....."

นาราหันหน้าหนีชายหนุ่มเธอไม่ได้ให้คำตอบอะไรว่าให้เฝ้าได้หรือไม่ได้หากหญิงสาวเงียบแบบนี้ก็เป็นที่ได้ใจของสิงหนาทเพราะเขาจะคิดว่าเธออนุญาต

หลายวันต่อมา

จากวันที่นาราไม่สบายนี่ก็เป็นครึ่งเดือนแล้วที่สิงหนาทไม่ยอมกลับไปอยู่บ้านของตัวเองแถมเป็นสัญญาณที่ดีเพราะหลังจากที่สิงหนาทเผยความในใจไปก็ทำให้เขาและนาราคุยกันดีขึ้นเรื่อยๆและยังดูแลเรื่องในบ้านกับดูแลลูกอย่างไม่ขาดตกบกพร่องจนนาราใจอ่อนให้ชายหนุ่มได้เข้ามาอยู่ในชีวิตของเธอไปแล้ว

"หนึ่ง.."

ฟึ่บบ

"ว้ายย.."

สิงหนาทถูกนาราปาถุงผ้าใส่ด้วยความตกใจเพราะจู่ๆสิงหนาทก็เดินมาจับหลังเธออย่างไม่ได้ตั้งตัว

"อิๆๆ.."

มานพเห็นคนเป็นพ่อถูกแม่ตนเองขว้างผ้าใส่ก็หัวเราะคิกคักอย่างชอบใจ

"พี่สิงห์..หนึ่งตกใจหมดเลยค่ะ..เอ่อหน้า"

นาราเองก็อดขำไม่ได้เหมือนกันเพราะสิงหนาทยังหน้าเสียที่ถูกเธอเขวี้ยงของใส่ไม่หาย

"ขำพี่งั้นเหรอ..นี่"

"ว้าย..พี่สิงห์..อย่าค่ะ..ว้ายยย"

สิงหนาทเอาคืนโดยการจั๊กกะจี้ไปที่เอวร่างบางที่เอาแต่ขำเขา

"ตานพมาหายายหน่อยครับ"

"ครับ"

อัญชัญเห็นสองผัวเมียกำลังแกล้งกันจึงรีบอุ้มหลานชาบออกไปเดินเล่นข้างนอกปล่อยให้ทั้งสองเติมความหวานให้กันตามลำพังจะดีกว่า

20.00 น.

"บ้านนี้มีเจ้าตัวเล็กมาวิ่งในบ้านเพิ่มอีกสักคนคงดีนะหนึ่ง"

ในขณะที่นารากล่อมมานพหลับไปพักใหญ่แล้วสิงหนาทจึงเข้ามารวบกอดนาราและกระซิบข้างหูเธอถึงเรื่องที่คิดอยู่ในใจ

"......"

นาราอมยิ้มอย่างเอียงอายที่ไม่คิดว่าเขาจะมาพูดเรื่องนี้กับเธอ

"ขอลูกให้พี่อีกคนนะ"

"อื้อ..."

สิงหนาทไม่รอช้าเพราะไม่อยากให้มานพมีน้องที่อายุห่างกันมากจึงรีบรวบร่างบางกอดก่ายพรมจูบและเริ่มปฏิบัติการทำลูกในทันที

หลายเดือนต่อมา

ไร่ศังกร

"คิดถึงที่นี่จังเลยค่ะ"

นรีนาถมองเรือนศังกรด้วยความคิดถึงเกือบปีแล้วที่เธอไม่ได้กลับมาที่นี่ดีที่สิงหนาทดีกับนาราไวจึงรีบกลับมาทำงานได้เธอกับเมืองรามก็ได้มีโอกาสมาเที่ยวที่ไร่ได้

"มานี่สิพี่มีอะไรให้ดูด้วย"

เมืองรามปล่อยอนุชิตให้เล่นอยู่กับทศพลและเขาก็รีบจูงมือนรีนาถมาที่ที่เขาสร้างเอาไว้ใหม่เพื่อเธอที่ธารน้ำตก

"นี่.."

นรีนาถมองจุดเดิมที่เคยเป็นกระท่อมตอนที่ชายหนุ่มจับเธอมาตอนนี้มันกลายเป็นหอสูงสามชั้นเป็นเหมือนจุดชมวิวที่สวยงามที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาเลย

"ตามพี่มาสิ"

"หนังสือนี่คะ.."

นรีนาถตามชายหนุ่มที่จูงมือเธอเดินขึ้นมาที่ชั้นสองเธอก็ยิ้มกว้างเมื่อเห็นหนังสือวางเรียงรายเต็มไปหมดเยอะกว่าที่เรือนของเธอด้วยซ้ำจึงดีใจเป็นอย่างมาก

"พี่ให้ไอ้ทศกับไอ้ทองเกณฑ์คนมาสร้างที่นี่เลยนะที่นี่คือหอศังกรเป็นหอหนังสือที่พี่สร้างไว้ให้หญิงโดยเฉพาะมันจะอยู่ไปจนชั่วลูกชั่วหลานเป็นที่ที่เกิดจากความรักของเราสองคน"

"ขอบคุณมากเลยนะคะพี่ราม"

นรีนาถสวมกอดเมืองรามด้วยความดีใจที่นี่คงจะเป็นที่ที่เธอชอบมากๆอีกที่เลยในไร่นี้

"พี่อยากให้ที่ตรงนี้มีแต่ความทรงจำที่มีแต่ความสุขของหญิงนะ"

"หญิงไม่ลืมเรื่องราวที่นี่ว่าตอนแรกหญิงมาอยู่ในฐานะอะไรเพราะมันทำให้หญิงได้มาเจอพี่รามแต่หญิงจะเลือกที่จะพูดถึงสิ่งดีๆที่เกิดขึ้นค่ะลูกหลานเราจะเห็นแต่ความรักของเราเท่านั้น"

"รู้ใช่ไหมว่าตอนนี้หญิงกับลูกสำคัญกับพี่มากที่สุด"

เมืองรามจูบกระหม่อมคนเป็นเมียเบาๆ

"รู้ค่ะพี่รามกับลูกก็สำคัญกับหญิงมากที่สุดเหมือนกัน"

เรื่องราวความรักของทั้งสองกว่าจะมาถึงวันนี้ก็หนักหนาเหมือนกันแต่นั่นก็เป็นโชคชะตาที่ท้าทายในความรักของทั้งสองยิ่งผ่านอะไรมามากก็ยิ่งรักกันมากนั่นเอง

                                   จบบริบูรณ์  

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status