“เออ..ไปล้างหน้าล้างตาก่อน”
“แล้วมึงรู้เหรอว่าบ้านชู้เมียมึงอยู่ที่ไหน”
พันแสงเปิดกระจกหยิบขวดน้ำในรถมาเทใส่มือลูบหน้าลูบตาเมื่อเสร็จแล้วจึงหันมาถามเมืองรามด้วยสีหน้าสงสัยว่าเพื่อนของเขารู้แล้วเหรอว่าบ้านโจทย์ที่ตามหาอยู่ที่ไหน
“ตรงหน้ามึงนี่ไง”
เมืองรามสะบัดหัวเล็กน้อยไปทางเรือนธิติลักษณ์ที่เป็นเรือนใหญ่ทรงปั้นหยาให้คนเป็นเพื่อนดูนอกรั้ว
“หา..นี่มึงไม่คิดจะหลงบ้างไงวะ”
“กูจะหลงได้ไงก็กูรู้ที่อยู่ผู้ใหญ่ให้กูมา”
พันแสงมองไปยังรั้วบ้านที่เป็นทรงปั้นหยาร่วมสมัยหลังใหญ่ตรงหน้าด้วยสีหน้าที่งงงวยเล็กน้อยเพราะไม่คิดว่าเมืองรามจะมาถูกโดยที่ไม่หลงแม้แต่นิดเดียว
“แล้วมึงเอาไงต่ออะมึงจะเผาบ้านเค้าจริงเหรอวะ”
พันแสงเลิกคิ้วสงสัย
“กูเปลี่ยนใจแล้วกูจะให้มันตายทั้งเป็นแทน”
เมืองรามพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉยแต่มียกยิ้มมุมปากเล็กน้อยเพราะเขานั้นได้ไปรู้อะไรดีๆมาว่าภิภพนั้นมีของรักของหวงอยู่ในบ้านหลังนี้และเขาจะใช้จุดอ่อนนี้เล่นงานภิภพ
“ยังไงวะ”
พันแสงเกาหัวแกรกๆทั้งสีหน้ายังขมวดครุ่นคิดไม่เจ้าใจสิ่งที่เมืองรามพูดสักเท่าไร
“กูจะพาลูกสาวมันกลับไปที่ไร่แล้วให้มันไปตามเอาเองดูซิว่าถ้ามันรู้ว่าลูกมันถูกทำอะไรบ้างมันจะเจ็บปวดแางตายแค่ไหน”
เมืองรามยิ้มกริ่มอย่างผู้ชนะคนอย่างเขาไม่ทำใครก่อนแต่หากถูกกระทำแล้วเขาจะเอาคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่าหากทำได้
“มึงรู้ได้ไงว่ามันมีลูกสาว”
พันแสงหันขวับมองหน้าเมืองรามอย่างรวดเร็วแค่ไม่กี่ชั่วโมงที่เขาหลับไปเพื่อนเขารู้เรื่องขนาดนี้เชียวเหรอถ้าใช่ก็นับว่าฉลาดจนน่ากลัวไปแล้ว
“กูก็เห็นพวกคนรับใช้บ้านนี้เค้าคุยกัน”
“นี่กูหลับไปเท่าไรเนี่ยมึงถึงได้รู้ทุกอย่างเร็วขนาดนี้”
“กูปีนบ้านไปพักเดียวก็ก็รู้แล้ว”
เมืองรามหันมองคนเป็นเพื่อนอย่างอ่อนใจเพราะกากเขารอพันแสงตื่นคงไม่ได้เรื่องกันพอดี
“วิชาโจรมึงนี่ก็เก่งเหมือนกันนะ”
พันแสงชี้หน้าเพื่อนของเขาทั้งพนักหน้าเบาๆทึ่งในความสามารถที่ความสามารถนี้มันไม่ใช่เรื่องดีเท่าไร
“มาทำเรื่องใหญ่ใครเค้าจะมาหลับเหมือนมึงล่ะไม่ทันการกันพอดี”
“แล้วมึงจะพาลูกสาวเค้าไปตอนกลางวันแสกๆแบบนี้เนี่ยนะ”
“รอดูไปก่อน”
เมืองรามยังคงต้องดูสถานการณ์ก่อนว่าเขาจะพาลูกสาวศรัตรูไปตอนไหนดีหากจะบุกเข้าไปชิงตัวเลยเขาก็ฉลาดพอที่จะไม่ไปเสี่ยงกับคนดูแลในบ้านที่มีมากกว่าพวกเขาหลายเท่า
11.00 น.
“มึงจะไปไหนวะ”
พันแสงทำหน้างงที่จู่ๆเมืองรามก็ขับรถออกจากที่จอดกระทันหันโดยไม่บอกไม่กล่าว
“ตามแม่นั่นไปน่ะสิ”
เมืองรามใจจดใจจ่อมองไปที่หญิงสาวชุดสีขาวกระโปรงบานที่กำลังเดินอยู่ข้างถนนคนเดียวนับว่าเป็นโชคที่เข้าข้างเขานักที่หญิงสาวได้ทีอยู่คนเดียวเพราะมันจะง่ายต่อการที่เขาจะจัดการเธออย่างดีเลยทีเดียว
“นั่นเหรอลูกสาวบ้านนี้งามที่สุดเลยว่ะ”
เมื่อรถเทียบใกล้จนเห็นหน้าหวานของสาวน้อยพันแสงก็อดชมไม่ได้ว่าโจทย์ของเมืองรามนั้นเป็นผู้หญืงที่งามที่สุดที่เขาเคยเจอมาเลย
“มึงหยุดหัวงูสักแปปได้ไหม”
เมืองรามหันมาหน้างอใส่พันแสงที่พูดเล่นไม่เลือดเวลา
“เออ..”
พันแสงเหล่สายตามองคนเป็นเพื่อนอย่างไม่สบอารมณ์เพราะนานๆเขาจะได้พบเจอสาวงามที่งามราวกับนางฟ้าสักทีกลับถูกขัดจังหวะ
“หืม...”
นรีนาถรีบเดินให้เร็วขึ้นเพราะรู้สึกว่ามีรถตามหลังมาและจู่ๆก็ชะลอเมื่อใกล้กับตัวเธอยิ่งถนนตรงนี้ค่อนข้างเปลี่ยวเพราะแต่ละบ้านเป็นรั้วสูงหากเธอเป็นอะไรคงไม่มีใครเห็น
“ไอ้แสงมึงมาขับเดี๋ยวกูจะการแม่นี่เอง”
เมืองรามรู้ว่าหญิงสาวท่าจะรู้ตัวแล้วจึงรีบให้พันแสงขับรถและเขาก็กระโดดลงเข้าไปประชิดตัวหญิงสาวก่อนที่เธอจะเดินหนีไปจนพ้นจุดเปลี่ยว
“นี่..ว้าย..ปล่อยนะแกเป็นใคร”
นรีนาถหน้าซีดตัวสั่นเทาเพราะไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนเธอจึงโวยวายส่งเสียงจนสุดเสียง
ปั้ก
“โอ้ย..”
เมืองรามเห็นเช่นนั้นจึงปล่อยหมัดใส่ท้องน้อยของหญิงสาวดีที่เขายังยั้งมือไม่ออกเต็มแรงต้องการเพียงแค่ให้หญิงสาวเงียบเสียงอละต่อสู้ไม่ได้เท่านั้นแต่แรงของเขาก็ทำให้หญิงสาวสลบไปได้ในเวลาไม่กี่วิเมืองรามจึงอุ้มร่างบางขึ้นรถและสั่งให้พันแสงออกรถไปจากตรงนี้อย่างรวดเร็ว
“ไปโว้ย..”
“มึงทำรุนแรงกับสาวสวยคนนี้เกินไปเปล่าวะ”
พันแสงเหลือบมองร่างบางที่นอนอยู่บนตักเมืองรามอย่างสงสาร
“มึงอย่าพูดมากขับไป”
เมืองรามมองหน้าหวานของหญิงสาวอย่างยิ้มกริ่มต่อจากนี้ได้เวลาที่เขาจะเริ่มต้นแก้แค้นแล้ว
20.00 น
"มีอะไรกันรึเปล่าครับนม"
เมื่อรถของสิงหนาทแล่นมาจอดที่หน้าบ้านทุกคนในบ้านต่างก็กรูกันเข้ามาหาด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยจะสู้ดีกันเท่าไรเขานั่นทำให้ชายหนุ่มคิดได้ทันทีว่าต้องมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเป็นแน่
"เมื่อกลางวันคุณหนูออกไปหาหนูหนึ่งแต่ยังไม่กลับมาพวกคนใช้ก็ไปตามที่บ้านหนูหนึ่งแต่ได้คำตอบว่าคุณหนูไม่ได้ไปที่นั่นค่ะ"
นมสรวงรีบเล่าทุกอย่างให้สิงหนาทได้ฟังเพื่อที่ตอนนี้จะได้ช่วยกันหาทางแก้ปัญหาและตามหานรีนาถให้ได้เร็วที่สุด
"อะไรนะ...แล้วตอนน้องหญิงออกไปไม่มีใครไปด้วยหรืออย่างไร"
"อะไรนะ...แล้วตอนน้องหญิงออกไปไม่มีใครไปด้วยหรืออย่างไร"สิงหนาทขมวดคิ้วถามทุกคนในบ้านที่ยืนก้มหน้างุดกันเสียงแข็ง"คุณหญิงไม่ให้ใครตามไปเธอให้เหตุผลว่าบ้านหนูหนึ่งอยู่ใกลๆเธออยากเดินไปเองค่ะ"นมสรวงต้องรีบอธิบายก่อนที่คนอื่นจะโดนคาดโทษไปด้วยหากมีคนผิดก็ขอให้เป็นที่เธอเองที่ตามใจคุณหนูของตนเองจนเกินไป"เฮ้อ...เดี๋ยวผมจะไปตามหาน้องหนึ่งอีกครั้งเอง"พูดจบสิงหนาทก็ออกรถหมายขับไปให้ถึงที่บ้านของนาราอย่างรวดเร็ว"โถ่..คุณหญิงของนมอยู่ไหนกันคะ"นมสรวงเข่าทรุดเล็กน้อยเพราะตอนนี้เธอเป็นห่วงคุณหนูของเธอเหลือเกินหากย้อนเวลาไปได้เธอจะไม่ให้คุณหนูของเธอไปไหนตามลำพังอีกเลยบ้านนารา"แม่คะยาค่ะ"ในเพลิงไม้เก่าๆริมแม่น้ำเป็นบ้านของนารีและนาราและเป็นหน้าร้านขายขนมไทยที่อยู่ที่เดียวกันหลังจากที่สองแม่ลูกช่วยกันจัดแจงวัตถุดิบเพื่อทำขนมในเช้าวันถัดไปเสร็จก็มานั่งกินข้าวหลังจากทั้งสองกินข้าวกันเรียบร้อยแล้วนาราก็ไม่ลืมที่จะจัดยาให้กับคนเป็นแม่กินเพราะหากรอคนเป็นแม่กินเองก็คงลืมอีกเช่นเคย"ขอบใจลูก"นารีเป็นโรคเบาหวานและหัวใจมานานแล้วและตอนนี้ก็พ่วงด้วยไตเสื่อมมาอีกทำให้ต้องกินยาอย่างต่อเนื่อง"ต่อไปนี้หน
ชั่วโมงต่อมาโรงพยาบาล"หมอคะคุณแม่ดิฉันเป็นยังไงบ้างคะ"นารารีบเข้าไปถามหมอหนุ่มด้วยสีหน้ากังวลกลัวว่าแม่ของเธอจะเป็นอะไรร้ายแรง"คือ...หมอต้องเสียใจด้วยนะครับแม่ของคุณเสียด้วยอาการหัวใจวายเฉียบพลันครับ""อ..อะไรนะคะ"นาราเข่าทรุดยวบหมดสติกะทันหันอย่างไม่ทันตั้งตัวจากที่กลัวว่าแม่เธอจะเป็นอะไรร้ายแรงเรื่องกลับร้ายกว่าที่คิดเพราะแม่ของเธอมาจากไปโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว"หนึ่ง..."สิงหนาทรับร่างบางเอาไว้ได้ทันหน้าของเขาตอนนี้ซีดเผือดอย่างเห็นได้ชัดปฏิเสธไม่ได้เลยว่าที่แม่ของหญิงสาวจากไปเร็วเพียงนี้มาจากการกระทำที่ขาดสติของเขาไร่ศังกร23.00 น.พลั้กกกกก"อร้ายย...นายเป็นใครจับฉันมาทำไม"นรีนาถตัวสั่นเป็นลูกนกเมิ่อถูกโยนเข้ามาในกระท่อมซึ่งไม้ไผ่น่าจะอยู่กลางป่ามีเพียงตะเกียงที่จุดให้มีแสงสว่สงเพียงแค่รำไรเท่านั้นทำ"เป็นใครก็เรื่องของฉันส่วนเธออย่าคิดหนีไม่อย่างนั้น..ตาย"เมืองรามไม่เพียงชักปืนมาวางขู่หญิงสาวเขารีบจับเธอมัดข้อมือของหญิงสาวกับข้อมือของเขาผูกมัดติดกันและลงตัวนอนข้างหญิงสาวทันทีเพราะเวลานี้เขาเหนื่อยและเพลียเกินกว่าที่จะมานั่งตอบคำถามหรือคุยอะไรกับหญิงสาวตอนนี้"หา...."นรี
"ไม่ต้องเสือกอยากรู้วันนั้นมาถึงเดี๋ยวก็ได้เห็นเอง..กินข้าวได้แล้ว"ชายหนุ่มสะบัดหน้าน้อยๆของเธอเต็มแรงจนหน้าหวานมีรอยแดงเป็นปื้นแต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้คนที่กำลังไฟลุกท่วมหัวใจสงสารผู้หญิงตัวเล็กๆแม้แต่นิดเดียว"........"นรีนาถน้ำตาเล็ดด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจที่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ถึงแม้ว่าร่างกายเธอจะส่งเสียงร้องว่าต้องการอาหารแค่ไหนก็ตามแต่จะให้เธอกินอะไรเข้าไปตอนนี้คงจะกลืนไม่ลงอยู่ดี"บอกให้กินไง..""อร้ายยย..."เพล้งงงง"โถ่เอ้ย..."เมืองรามตะคอกเสียงฝาดเพราะคนตรงหน้าไม่ยอมรับถาดข้าวดีๆเขาจับเธอมาไม่ได้ต้องการให้ตายไวเขาต้องเลี้ยงเธอไว้เป็นเครื่องมือแก้แค้นดังนั้นยังไงหญิงสาวก็ต้องได้กินด้วยความที่ตกใจในเสียงตวาดของชายหนุ่มทำให้นรีนาถเผลอปัดมือไปถูกถาดอาหารจนล่วงกระจายเต็มพื้นนั่นก็เป็น้หตุให้เมืองรามหัวเสียอีกรอบและผลักร่างบางเต็มแรงจนเธอร้องให้สะอื้นไม่ยอมหยุด"ฮึก...ฮือๆๆๆๆ..""จะร้องอีกนานไหมวะ...รำคาญ"เมืองรามนั่งมองคนตรงหน้าสะอื้นให้มาพักใหญ่อย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดจนต้องเสียงแข็งใส่หญิงสาวอีกรอบเพราะรู้สึกรำคาญเสียงสะอื้นเต็มทน"พ่อเลี้ยง""มีอะไร.."เมืองรามได้ยินเสียงทศพ
"แม่จันทร์จะมีสักวันไหมที่พ่อเลี้ยงพันแสงเค้าจะเลิกเกลียดแก้ว"คำแก้วมองตามหลังพันแสงอย่างเหนื่อยใจ"วันใดที่เค้าหมดทิฐิวันนั้นพ่อเลี้ยงพันแสงคงจะดีขึ้นเองเอ็งอย่าไปสนใจอะไรมากเลยคำแก้วเค้าก็อยู่ส่วนเค้าเราก็อยู่ส่วนเรา"ฟองจันทร์ก็ได้แต่ปลอบคำแก้วว่าอย่าได้ไปใส่ใจคนที่มีทิฐิอยู่ในใจต่อให้มีคำอธิบายหรือเหตุผลดีสักเท่าไรก็ไม่เข้าใจได้ง่ายอยู่ดี"จะแม่จันทร์"คำแก้วเองก็ได้แต่ทำใจถึงเธอจะถูกฟองจันทร์ปลอบอยู่หลายครั้งแต่เมื่อเจอหน้าพันแสงทีไรก็อดมีอาการรู้สึกผิดทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิดไม่ได้เสียที... ที่พันแสงไม่อยากจะเห็นหน้าเธอก็เพราะว่าเมื่อย้อนกลับไปเมื่อประมาณเกือบสิบเก้าปีที่แล้วแม่ของคำแก้วและพ่อของเธอเป็นลูกไร่ของแม่พ่อเลี้ยงพันแสงและเหตุการณ์เลวร้ายก็ได้เกิดขึ้นกับพ่อเธอด้วยเหตุจากการไปหาของป่าและถูกเสือทำร้ายจนเสียชีวิตในขณะที่แม่ของเธอท้องเพียงไม่กี่เดือนแม่ของพันแสงเลยรับจะดูแลแม่ของเธอเองเมื่อถึงวันคลอดคืนนั้นไม่มีใครอยู่เรือนเลยสักคนนอกจากแม่ของพันแสงเธอจึงเดินฝ่าความมืดไปตามหมอตำแยแต่ด้วยความที่รีบร้อนและคืนนั้นเป็นคืนเดือนมืดสนิททำให้เธอพลาดเดินตกเขาไปจนเสียชีวิตจึงไม่ถึง
แคว้กกก"อร้ายยย...ปล่อยฉันนะ...ปล่อยยยยย..อื้มมม.."ชายหนุ่มนั่งคร่อมตัวหญิงสาวทั้งใช้ฉีกเสื้อตัวเก่าของเธอมาพันปิดปากของหญิงสาวเอาไว้คนที่คิดจะทำร้ายเขามันต้องเจอบทลงโทษที่สาสม"อืม...อื้ออออ..ฮือๆๆๆ.."เมืองรามมัดปิดปากหญิงสาวจนสำเร็จมือหนาถลกผ้าพันตัวของเธอออกจนเผยให้เห็นผิวขาวนวลผ่องเรือนร่างเล็กแต่มีทรวดทรงองเอวที่ซ่อนรูปอยู่พอสมควร"อืมม..."ชายหนุ่มไม่รอช้าไม่รู้ว่าตอนนี้อารมณ์โกรธของเขาเปลี่ยนเป็นอารมณ์สวาทคนใต้ร่างตอนไหนแต่เมื่อรู้ตัวอีกทีเขาก็อดใจที่จะไม่ซุกไปที่อกอวบอิ่มตั้งชูชันตรงหน้าไม่ได้"อื้อ..ฮืออออ..อื้ออออออ"หญิงสาวพยายามดิ้นหนีมือไม้ปัดป่ายจิกข่วนจนหลังพ่อเลี้ยงหนุ่มแดงเถือกไปด้วยรอยข่วนเธอเกลียดการกระทำของเขาเป็นที่สุดและรู้สึกขยะแขยงไปทั้งตัวจนน้ำตาเอ่อล้นแทบจะเปียกชุ่มไปทั้งใบหน้า"อื้มมม..อา.."เมืองรามเหมือนคนไม่ได้สติเมื่อได้สูดดมเนื้อหอมนุ่มของกายสาวคราแรกเขากะจะสั่งสอนเธอเล่นๆแต่ตอนนี้รู้สึกว่าอารมณ์สวาทที่พลุ่งพล่านทวีคุณในตัวมันทำให้เขาหยุดการกระทำนี้ไม่ได้เสียแล้ว"อื้ออ...ฮือๆๆๆ"นรีนาถกรีดร้องอยู่ได้แต่ในลำคอเธอส่ายหัวพัลวันในขณะที่เมืองรามกำลังจะแท
สองวันต่อมา"ขุดดินพรวนดินทำเป็นไหม"เมืองรามลากหญิงสาวมาที่แปลงผักตั้งแต่เช้าวันนี้เขาตั้งใจจะให้เธอทำงานเพราะจะมาให้นั่งกินนอนกินไปวันๆเขารู้สึกว่ามันไม่น่าใช่สิทธิพิเศษของหญิงสาวเท่าไร"ฉันไม่เคยทำ"นรีนาถมองกองอุปกรณ์การเกษตรตรงหน้าทั้งส่ายหัวเบาๆ"ไม่เคยทำก็ต้องทำอยู่ที่นี่ต้องทำงานแลกข้าวแลกน้ำ"เมืองรามเท้าเอวทั้งจ้องหน้าหญิงสาวและเอ่ยเสียงแข็ง"ก็ฉันไม่ได้อยากอยู่ที่นี่สักนิดถ้าไม่อยากเปลืองข้าวเปลืองน้ำก็ปล่อยฉันไปเถอะ"นรีนาถก้มหน้างุดรู้ว่าสิ่งที่เธอพูดอาจจะทำให้เขาไม่พอใจแต่เธอก็ต้องพูดเพราะเธอก็ไม่ได้อยากอยู่ให้เปลืองข้าวเปลืองน้ำของเขาเลยสักนิด"อย่าพูดมากแล้วอย่าแสร่บอกกับคนในนี้ล่ะว่าฉันจับเธอมาเพราะไม่อย่างนั้นโดนหมกอยู่ท้ายไร่แน่"เมืองรามกระชากร่างบางมากัดฟันกระซิบกำชับเธอเรื่องที่เธออยู่ที่นี่ได้อย่างไร"ไอ้สอนเดี๋ยวกูฝากมึงสอนงานคนของกูด้วยพรวนดินลงผักให้ครบทั้งแปลงให้เสร็จเลยนะ"เมื่อกำชับหญิงสาวเรียบร้อยแล้วเมืองรามก็พาหญิงสาวมาหาคำสอนเพื่อให้เธอมาช่วยงานที่แปลงผักวันนี้"มันจะไม่หนักไปเหรอครับพ่อเลี้ยง"คำสอนมองร่างบางอย่างสงสารเขาคิดว่างานที่พ่อเลี้ยงหนุ่มใช้ห
"นี่พอซะทีฉันไปทำอะไรให้เธอห้ะ"นรีนาถฮึดสู้ผลักหญิงสาวจนกระเด็นออกจากตัวเธอเพราะหุ่นนั้นก็ไม่ได้ต่างกันมากเธอจึงสู้ได้"แกมันเป็นมารหัวใจฉัน...นี่หลงถึงขั้นล่ามไม่ให้ไปไหนเลยเหรอ"บุญตาตวาดใส่หญิงสาวอย่างเคียดแค้น"เธอกำลังเข้าใจผิดนะ...ฉันกับนายพ่อเลี้ยงนั่นไม่ได้เป็นอะไรกันที่เค้าจับฉันมาก็เพราะแค้นพ่อฉันเท่านั้นถ้าเธอไม่อยากให้ฉันอยู่ใกล้เค้าเธอก็พาฉันหนีสิ"นรีนาถหยุดคิดครู่หนึ่งกับคำพูดของคนที่จ้องจิกเธอตรงหน้าทั้งรีบบอกให้หญิงสาวได้เข้าใจอะไรเสียใหม่และเผื่อว่างานนี้เธอจะได้รอดไปจากที่นี่เพราะคนตรงหน้าช่วยก็เป็นได้"ถ้าเป็นอย่างที่แกว่าจริงถ้าฉันพาแกหนีพ่อเลี้ยงก็ได้ฆ่าฉันพอดี"บุญตาเองก็ชะงักงันกับคำพูดของนรีนาถเช่นกันคิดๆดูแล้วหากพ่อเลี้ยงหนุ่มรู้ว่าเธอเป็นคนปล่อยนรีนาถไปเธอเองนั่นแหละที่จะกลายเป็นศพเอาได้"เธอก็อย่าให้เค้ารู้สิว่าเป็นคนพาฉันหนี"นรีนาถทำสีหน้าอ้อนวอนบุญตาและมีหวังลึกๆว่าบุญตาจะยอมช่วยเธอ".....""ว่ายังไงตกลงจะพาฉันหนีไหม"เมื้อยังเห็นอีกฝ่ายเงียบนรีนาถจึงเค้นอีกรอบด้วยท่าทีร้อนใจ"ถ้าเธอจะหนีงั้นก็ควรจะไปซะตอนนี้เลยเพราะกว่าที่พ่อเลี้ยงจะกลับก็เกือบมืด"เมื
"อึก..อืม..พ่อเลี้ยง""ตื่นแล้วเหรอ"กลางดึกในขณะที่พันแสงนั่งมองกองไฟตรงหน้าที่ตนเองเป็นคนจุดอย่างเหม่อลอยเขาก็ต้องผงะไปมองคนที่กำลังลุกขึ้นนั่ง"พ่อเลี้ยงมาได้ไงจ้ะแล้วทำไมเรามาอยู่ในนี้"คำแก้วแปลกใจอย่างมากที่เห็นพันแสงที่นี่แถมเธอและเขาก็ยังอยู่ในถ้านี้กันแค่สองคนอีกด้วย"ก็เอ็งจะถูกงูฉกเป็นลมไปฉันถึงช่วยไว้ฝนตกพอดีเลยต้องมาหลบในนี้ก่อนเช้าคงจะได้กลับ"พันแสงตอบอย่างไม่ใส่ใจทั้งหยิบกิ่งไม้ที่หามาได้สุมไฟต่อเพื่อกันสัตว์ร้ายและให้ความอบอุ่น"พ..พี่หญิง...แก้วต้องรีบตามหาพี่หญิงค่ะ"คำแก้วนึกขึ้นได้ว่าเธอเข้าป่ามาด้วยเหตุผลอะไรจึงหมายจะรีบลุกออกไปแต่ถูกพ่อเลี้ยงหนุ่มรั้งเอาไว้ก่อน"ฉันว่าไอ้รามมันคงตามเจอก่อนเอ็งแล้วล่ะขืนมันรู้ว่าเอ็งตามไปด้วยมันจะหัวเสียใหญ่ตัวเท่าลูกหมายังจะอวดเก่งให้คนเค้าเดือดร้อนเพิ่ม"พันแสงส่ายหัวเบาๆที่หญิงสาวอวดเก่งเกินตัวจนทำให้เขาต้องมาเดือดร้อนด้วย"แก้วแค่จะรับผิดชอบหน้าที่ตัวเองก็เท่านั้น"คำแก้วก้มหน้างุดเธอแค่อยากจะทำตัวเป็นประโยชน์ไม่ใช่เป็นภาระใครแต่เธอก็เป็นไปแล้ว"เอ็งนอนไปเถอะ.."เมื่อได้รับคำสั่งจากพ่อเลี้ยงหนุ่มคำแก้วก็นั่งฟุบพิงกับโขดหินในถ