Share

ตอนที่30 ยอมแต่โดยดี

"กลับไปเถอะค่ะหนึ่งอยู่กับลูกกับน้าอัญก็สบายดีแล้วพี่สิงห์กลับไปใช้ชีวิตของพี่เถอะเรื่อง​ที่ผ่านมาหนึ่งอภัยให้ค่ะพี่สิงห์ไม่ต้องรู้สึกผิดนะคะ..."

นาราพูดจบก็หมายจะอุ้มลูกเดินออกไป

"ไม่ได้หนึ่งยังไงลูกก็ต้องได้อยู่กับพี่"

"จะพรากลูกไปจากหนึ่งเหรอคะ"

แต่มีหรือสิงหนาทจะยอมเขารั้งร่างบางเอาไว้และอุ้มมานพมาไว้ในอ้อมอก

"พี่ไม่ได้คิดจะพรากลูกไปจากหนึ่งแต่เราจะอยู่กันเป็นครอบครัวถ้าหนึ่งไม่อยากทิ้งน้าอัญของหนึ่งพี่ก็จะพาเธอไปอยู่ด้วยจะได้ไม่ต้องมาลำบากแบบนี้"

"ก็หนึ่งบอกแล้วไงคะว่าหนึ่งไม่ได้ลำบาก"

นาราพยายามจะแย่งลูกคืนแต่ก็ทำอะไรได้ยากเพราะสิงหนาทโอบกอดลูกชายตนเอาไว้แน่น

"อย่า​ดื้อกับพี่นะหนึ่ง"

สิงหนาทจ้องนาราอย่างจริงจัง

"อย่ามาสั่งหนึ่งค่ะ"

นาราเองก็จ้องกลับสิงหนาทอย่างเขม็งเช่นกัน

"แม่ๆ.."

"พี่สิงห์จะพาลูกไปไหนคะ...พี่สิงห์หยุดนะ"

"......"

สิงหนาทเห็นท่าทีดื้อดึงของนาราแล้วก็ต้องใช้ลูกบังคับกันเช่นเดิมในเมื่อคุยกันไม่เข้าใจเขาก็ต้องอุ้มลูกวิ่งหนีไปเสียก่อน

"อ้าวพี่สิงห์"

นรีนาถเห็นสิงหนาทอุ้มมานพวิ่งออกไปจากบ้านเธอก็ตกใจเล็กน้อย

"น้าอัญคะเค้าจะขโมยลูกหนึ่งไปค่ะ"

"เป็นผัวเมียกันก็ค่อยๆคุยกันนะลูก"

"เค้าไม่ใช่ค่ะน้าอัญ"

นาราคร้านจะอธิบายตอนนี้หากไม่มีใครช่วยได้เธอก็ขอช่วยตัวเองก่อนโดยวิ่งตามสิงหนาทด้วยความเร็วที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้แต่ก็ไม่เคยทันคนขายาวอย่างเขาอยู่ดี

"...."

"คนงอนกันก็แบบนี้แหละค่ะน้าอัญ...เดี๋ยวขนมนี่หญิงเหมาหมดเลยนะคะแล้วก็น้าอัญรบกวนเก็บของทั้งหมดของน้าของหนึ่งแล้วก็ของตานพด้วยค่ะหนึ่งจะให้ทุกคนย้ายไปที่สบายกว่านี้ค่ะ"

นรีนาถรีบให้อัญชัญเก็บของทุกคนให้เร็วที่สุดเพราะยังไงเธอก็จะพาเพื่อนกับหลานเธอไปอยู่ในที่ๆสบายกว่านี้ให้ได้

"ได้จะหนู...น้าเองไม่ได้รักสบายหรอกแต่ก็อยากให้หนูหนึ่งกับตานพสบายกว่านี้"

อัญชัญเห็นด้วยกับนรีนาถเธอเองไม่ได้หวังจะสบายแต่เธอนั้นอยากให้นารากับมานพได้มีความเป็นอยู่ที่ดีกว่านี้เพราะตั้งแต่นารามาขออาศัยอยู่กับเธอหญิงสาวก็ทำงานหนักหามรุ่งหามค่ำเพื่อที่จะทำขนมได้หลายอย่างเพื่อขายให้ได้เงินเยอะๆมาโดยตลอดเมื่อเธอได้รู้ว่าสามีนารามีกำลังมากพอที่จะทำให้นารากับลูกสบายได้เธอก็จะยอมแม้ทั้งสองจะยังไม่เข้าใจกันในวันนึงคนเป็นผัวเมียก็ต้องดีกันเองเพราะเธอแม้จะไม่มีคู่แต่ก็เห็นว่าจบแบบนี้มาหลายๆคู่แล้วยิ่งมีลูกด้วยกันลูกเองนั่นแหละที่จะเป็นโซ่ทองคล้องใจทั้งสองเอง

"เอาลูกหนึ่งคืนมานะพี่สิงห์"

ทางด้านนาราก็ยังคงวิ่งตามสิงหนาทอย่างไม่หยุดไม่หย่อน

"ตานพวิ่งเล่นสนุกไหมครับ"

"หนุก"

สิงหนาทยิ้มกริ่มที่ดูท่าลูกชายเขาจะเข้าขากับเขาได้ดีเสียด้วยแม้พึ่งเจอกัน

"นี่ใจคอพี่ชายหญิงจะให้คุณหนึ่งเธอวิ่งตามถึงไร่เลยหรือไง"

เมืองรามเดินกลับพร้อมนรีนาถมองตามหลังสองคนที่วิ่งไล่กันเป็นเด็กๆก็อดส่ายหัวเบาๆไม่ได้

"คงเป็นอย่างนั้นแหละค่ะ"

"พี่ว่าวิธีนี้มันจะทำให้ฝ่ายหญิงโกรธไปกันใหญ่นะ"

"หนึ่งเป็นคนค่อนข้างง้อยากค่ะคงต้องใช้วิธีบังคับกันไปก่อนหญิงว่าพี่สิงห์รู้จักหนึ่งดีค่ะ"

นรีนาถรู้ว่าสิงหนาทคงหมดหนทางพูดกับคนหัวแข็งใจแข็งให้รู้เรื่องตอนนี้เขาจึงต้องใช้วิธีบังคับกันไปก่อน

ไร่ศังกร

"พี่สิงห์เปิดประตูให้หนึ่งเดี๋ยวนี้นะคะ"

ปั้งๆๆๆๆ

นาราตามมาในเรือนศังกรเห็นสิงหนาทอุ้มลูกเธอเข้าไปหลบในห้องจึงรีบเคาะประตูเสียงดังด้วยท่าทีร้อนรนเพราะคนข้างในล็อกไม่ให้เธอเข้า

"แม่ๆ.."

"ชู่ว...เรากำลังเล่นซ่อนแอบกับแม่หนึ่งนะครับห้ามส่งเสียง"

สิงหนาทยกนิ้วชี้แตะปากพร้อมส่ายหัวให้ลูกของเขาได้ดูเด็กชายก็เข้าใจได้ในทันทีว่าต้องเก็บเสียงเงียบจึงยกมือน้อยทั้งสองมาปิดปากและพยักหน้าเบาๆ

"แอบ.."

"ใช่ครับ...แอบต้องห้ามส่งเสียง.."

สิงหนาทเห็นท่าทีน่าเอ็นดูของลูกชายเขาก็อดที่จะกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันเป็นไม่ได้ชื่นชมนาราในใจที่เลี้ยงลูกได้น่ารักเสียเหลือเกิน

"......."

ทางด้านนาราก็คร้านจะเอ่ยขอร้องให้ชายหนุ่มพาลูกเธออกมาแล้วจึงได้แต่ฟุบนั่งร้องให้ที่หน้าประตูอย่างเหนื่อยใจที่ต้องมาเจอเรื่องที่ไม่อยากเจอ

"หนึ่งใจเย็นๆมาคุยกับเราทางนี้ก่อนเถอะ"

"พี่สิงห์ทำแบบนี้กับเราได้ยังไง..ขโมยลูกเราไปต่อหน้าต่อตา"

นาราปาดน้ำตาลวกๆเมื่อนรีนาถพามาคุยที่หน้าเรือน

"...เอางี้หนึ่งโกรธพี่สิงห์อยู่เราจะไม่ห้ามให้หนึ่งเลิกโกรธเลยแต่เราขออย่างเดียวให้หลานกับน้าอัญได้ไปอยู่ในที่ๆสบายๆนะเราขอร้อง"

"..แต่.."

"เราคุยกับน้าอัญทุกอย่างแล้วน้าอัญดีใจมากเลยนะที่จะได้ไปอยู่ในที่ดีๆ"

"......”

นารายังคงเงียบเพราะกำลังคิดไม่ตกอยู่ภายในใจ

"เอางี้เดี๋ยวหนึ่งจะว่าเราเข้าข้างพี่สิงห์...เราจะให้หนึ่งอยู่บ้านของเราอีกหลัง...แล้วจะไม่ให้พี่สิงห์มายุ่งกับหนึ่งกับลูกจนกว่าหนึ่งจะสบายใจดีไหม"

ด้วยความที่นรีนาถอยากให้เพื่อนและหลานเธอได้อยู่อย่างสบายจึงเอ่ยปากจะกันสิงหนาทให้ไม่มายุ่งกับนาราเธอเห็นว่าคำพูดและสัจจะของเธอจะทำให้เพื่อนเธอเชื่อใจและยอมทำตามที่เธอบอก

"......"

"นึกถึงลูกให้มากๆนะหนึ่ง"

"เฮ้อ...ก็ได้เรายอม"

นาราคิดไปคิดมาแล้วเธอจึงยอมตกลงเพราะเมื่อนึกถึงอัญชัญมาได้เธอก็อยากให้คนมีพระคุณกับเธอสบายเช่นกันความรู้สึกที่อยู่ในใจตอนนี้ทำให้เธอลืมนึกถึงคนรอบข้างไปเสียสนิท

"ดีมากจะ"

"พี่สิงห์จะไม่มายุ่งกับเราจริงๆใช่ไหม"

"เราให้สัญญา"

นาราโล่งใจเปราะใหญ่ที่รู้ว่าสิงหนาทจะไม่มายุ่งกับเธอ

สามวันต่อมา

"พรุ่งนี้ก็จะได้กลับกรุงเทพแล้วนะหนึ่ง"

"เราอยากกลับไปดูบ้านเหมือนกันพูดแล้วก็อดคิดถึงแม่ไม่ได้"

"เราเข้าใจ"

สองสาวนอยู่ที่หน้าเรือนศังกรดูลูกชายสองคนที่กำลังเล่นกันไปด้วยคุยสัพเพเหระกันไปด้วยนาราเองเมื่อรู้ว่าตนจะได้กลับกรุงเทพก็อดนึกนึกบ้านไม่ได้เธอไม่รู้ว่าป่านนี้บ้านเธอจะทรุดโทรมไปขนาดไหนแล้ว

"ขอหน่อย"

"อื้อ.."

มานพส่งรถไม้ที่เป็นของเล่นโปรดตนเองส่งให้อนุชิตเล่นอย่างไม่หวงเป็นภาพที่น่าชื่นใจของคนเป็นแม่ยิ่งนัก

"ตานพกับตาชิตเข้ากันดีจังเลยเนอะ"

นรีนาถมองทั้งลูกและหลานของเธอเล่นกันไปยิ้มไปชื่นใจที่ทั้งสองเข้ากันได้ดี

"นั่นสินะดูท่าลูกเราจะเป็นเพื่อนรักกันเหมือนเรานี่แหละ"

"ใช่แล้ว..เพื่อนไม่จำเป็นต้องมีเยอะแค่รู้ใจกันเข้าใจกันก็พอแล้ว"

"แต่จากนี้ทั้งคู่ก็ต้องแยกกันแล้วล่ะสินะ"

นาราจับมือนรีนาถด้วยสีหน้าแอบหดหู่เล็กน้อยเพราะเธอต้องไปอยู่ที่กรุงเทพส่วนนรีนาถก็ต้องอยู่ที่ไร่กับลูกและสามีของเธอ

"ไม่นานหรอกหนึ่งเดี๋ยวเรากับพี่รามก็ต้องย้ายไปที่นั่นเหมือนกัน"

นรีนาถส่ายหัวเบาๆยิ้มกว้างให้เพื่อนเธอสบายใจได้ไม่นานเธอก็ต้องย้ายไปอยู่ที่กรุงเทพเหมือนกันเพราะเมืองรามต้องเข้าไปเป็นประธานใหญ่ที่ธนาคารของพ่อเธอ

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status