เมื่อความแค้นที่ต้องถูกเหยียบย่ำหัวใจจนเสียเมียรักไปทำให้พ่อเลี้ยงหนุ่มต้องเอาคืนพวกคนที่ทำกับเขาและเหยื่อที่ต้องถูกพ่อเลี้ยงหนุ่มกระทำก็คือเธอลูกสาวของชู้ที่พรากเมียเขาไป...
วันที่พาหญิงสาวมากักขังที่ไร่เพราะความแค้นเขาจึงกดขี่ขมเหงเธอสารพัดยิ่งเห็นแววตาใสซื่อไร้เดียงสาทำเป็นไม่รู้เรื่องรู้ราวว่าพ่อของตนทำเรื่องเอาไว้และท่าทางหยิ่งทระนงตนทั้งที่รู้ว่าไม่ชนะเขาได้ในบางครั้งของเธอทำให้เขานั้นรู้สึกไม่ค่อยพอใจเพิ่มเป็นทวีคูณแต่ในบางครั้งก็แอบสนใจในตัวจำเลยเล็กน้อยและนานวันเข้าก็กลับกลายเป็นสนใจทุกๆเรื่องที่เป็นเรื่องของเธออย่างไม่รู้ตัว
การที่พ่อเลี้ยงหนุ่มขโมยลูกสาวนายธนาคารใหญ่มาอย่างคนเอาแต่ใจแบบนี้ย่อมมีปัญหาตามมาภายหลังแน่นอนแต่ปัญหาและเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นจะเป็นอย่างไรอุปสรรคที่ทั้งสองจะต้องเจอมีอะไรบ้างติดตามได้ในเรื่องแค้นสวาทรามสูรเลยค่าา..
พระเอก
เมืองราม ศิริศังกร [ราม]อายุ40ปี
พ่อเลี้ยงหนุ่มใหญ่สูง185ผิวพรรณสะอาดผุดผ่องถึงแม้จะอยู่กับไร่กับสวนใบหน้าคมเข้มแววตาประดุจเหยี่ยวจมูกโด่งเป็นสันปากหนาเป็นกระจับร่างกายกำยำบึกบึนได้รูปแม้จะอายุเจ้าเลขสี่แล้วแต่เขาก็ยังดูสง่าเรียกได้ว่ายิ่งแก่ยิ่งดูดีเป็นที่หมายปองของสาวๆที่ได้พบเห็น
นิสัยค่อนข้างเป็นคนที่เอาจริงเอาจังกับงานค่อนข้างเป็นคนดุแต่คนในจะรู้กันว่าพ่อเลี้ยงเมืองรามเป็นคนปากร้ายแต่ใจดีแต่ถ้าหากใครทำให้เจ็บก่อนล่ะก็คนๆนั้นจะอยู่ไม่เป็นสุขถึงแม้จะมีสาวๆมาให้เลือกมากหน้าหลายตาแต่เขาก็ไม่สนใจ
พ่อเลี้ยงหนุ่มปกครองไร่ศังกรต่อจากคนเป็นพ่อตั้งแต่อายุย่างเข้าสิบแปดเพราะตอนนั้นเขาได้เสียคนในครอบครัวที่มีแค่พ่อและแม่ไปจนหมดเขาจึงได้รับหน้าที่เป็นพ่อเลี้ยงแห่งไร่นี้ตั้งแต่นั้นมาถึงเขาจะปกครองไร่เป็นพันๆไร่ตั้งแต่อายุยังน้อยแต่ก็น้อยครั้งที่จะเกิดข้อบกพร่องเพราะเขาเป็นคนจริงจังกับงานจนลูกไร่ไม่ว่าจะอายุมากกว่าหรือน้อยกว่าต่างก็เคารพเมืองรามกันทั้งนั้น
ในชีวิตเขาถึงจะมีผู้หญิงมาให้เลือกมากมายก็จริงแต่เขาก็มีคนที่ถูกใจอยู่แค่คนเดียวคือดวงเดือนสาวหน้าคมช่างเอาใจที่อ่อนกว่าเขาเป็นสิบปีอยู่ในใจคนเดียวเท่านั้นเขาแต่งงานกับเธอเมื่อห้าปีก่อนเจอกันได้ไม่เท่าไรก็แต่งเลยเพราะผู้หญิงคนนี้ถูกใจเขาจริงๆและเมื่อแต่งแล้วเขาก็ได้ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับพ่อและแม่ของดวงเดือนจะดูแลให้ดีที่สุดและเขาก็ทำจริงๆงานทุกอย่างเขาแทบจะไม่ให้เธอหยิบจับอะไรจนคนอื่นต่างก็อิจฉาเมียพ่อเลี้ยงหนุ่มไปตามๆกันแต่แล้วความสบายที่บ้านนอกแห่งนี้มันไม่เป็นที่พอใจให้กับดวงเดือนเท่าไรนักเธอจึงหนีไปกับผู้ชายเมืองกรุงที่เจอกันได้ไม่กี่วันจนทำให้เมืองรามหัวเสียและหาวิธีแก้แค้นคนที่มันหักหลังเขาจนไปลักพาตัวลูกชู้ของคนเป็นเมียมากักขังทำร้ายสารพัดเพื่อความสะใจและเป็นการบอกให้คนที่ทำกับเขาได้รู้ว่าหากพรากของรักเขาไปเขาก็จะพรากของรักคนที่ทำเขาเจ็บมาเหมือนกัน
นางเอก
นรีนาถ นาราธิติลักษณ์ [หญิง] อายุ20ปี
หญิงสาวเป็นลูกสาวคนเดียวของภิภพ นาราธิติลักษณ์นายธนาคารใหญ่หญิงสาวค่อนข้างตัวเล็กสูงเพียง155หน้าตาจิ้มลิ้มคิ้วโก่งได้รูปตาโตขนตางอนยาวปากนิดจมูกหน่อยใบหน้ารูปไข่ผมยาวหยักโศกเล็กน้อยเป็นเงางามผิวขาวจนอมชมพูตามประสาคนเมืองที่มีชาติตระกูลและมีคนรับใช้ดูแลอย่างดี
นิสัยค่อนข้างหัวอ่อนเพราะไม่ค่อยได้ออกไปเจอโลกภายนอกวันๆอยู่กับหนังสือเรียนและหนังสือบทประพันธ์ต่างๆเพราะคนเป็นพ่อไม่ค่อยอนุญาตให้เธอได้ออกไปไหน
ถึงแม้เธอจะเกิดมาบนกองเงินกองทองรายล้อมไปด้วยคนรับใช้และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายแต่เธอก็ยังโหยหาความรักจากครอบครัวเป็นที่สุดเพราะตั้งแต่เกิดมาเธอไม่เคยเห็นแม่ของเธอแม้แต่รูปก็ไม่เคยทั้งมีพ่อก็เหมือนไม่มีเพราะพ่อเธอไม่เคยจะสนใจเธอเลยสักนิดเพราะชีวิตของพ่อเธอมีแค่งานและเรื่องผู้หญิงมีแค่สิงหนาทที่เป็นอาบุญธรรมของเธอที่เธอเรียกเขาว่าพี่มาโดยตลอดคอยดูแลห่วงใยเธอจนเปรียบเสมือนเป็นพ่อเธอไปแล้ว
แถมเพื่อนเธอที่มีตอนนี้ก็มีแค่นาราลูกแม่ค้าขายขนมหวานหมู่บ้านใกล้ๆเท่านั้นเพราะพ่อเธอไม่อนุญาตให้เธอออกสังคมแม้แต่ไปเรียนก็ยังไม่ได้ให้เพียงครูมาสอนที่บ้านเท่านั้นเหตุด้วยคงจะกลัวคนอื่นรู้ว่ามีลูกแล้วเพราะเท่าที่เธอรู้มาพ่อของเธอไม่อยากรับผิดชอบในตัวเธอด้วยซ้ำเพราะรักสนุกแต่ถูกปู่ของเธอบังคับเลยต้องจำยอมรับมาเลี้ยงดู
ชีวิตเธอที่ว่ามันโชคไม่ดีเรื่องครอบครัวแล้วก็ยังมามีเคราะห์ซ้ำถูกคนแปลกหน้าจับตัวมาโดยให้เหตุผลว่าต้องการจะแก้แค้นพ่อของเธออีกความวุ่นวายต่อจากนี้ที่จะเกิดกับชีวิตหญิงสาวจะเป็นอย่างไรบ้างตามอ่านเอาใจช่วยเธอกันได้ในเรื่องเลยนะคะ
(ทุกตัวอักษรชื่อตัวละครและสถานที่เป็นสิ่งที่เกิดจากจินตนาการไม่ได้มุ่งหวังที่จะพาดพิงถึงใครหรือสิ่งใดขอทำความเข้าใจ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ)
ฝากติดตามอ่านและเป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยนะคะ
นิยายเกี่ยวกับตระกูลศิริศังกรมีรุ่นหลานออกมาแล้วนะคะใครยังไม่ได้อ่านไปอ่านกันได้เลยเรื่อง..วุ่นรักเมียจำเป็น..ค่า...
ติดตามอัพเดตนิยายของปลายฟ้าได้ที่
F*: prayfa นิยายรักโรแมนติก
ช่วงประมาณปี พ.ศ 2500เชียงใหม่ไร่ศังกรปั้งๆๆๆๆไร่ศังกรเชียงใหม่ตั้งอยู่ที่ราบสูงตอนนี้อยู่ช่วงหน้าฝนมองสุดลูกหูลูกตาก็มีแต่สีเขียวขจีไปทั่วทุกมุมไร่..อาณาเขตของไร่นี้มีนับพันไร่เป็นพื้นที่ส่วนตัวอย่างมากที่ยากต่อการเข้าถึงหากมิใช่คนในจะไม่รู้ทางและอาจจะหลงเข้าป่าไปได้..ที่ไร่นี้ทำการเกษตรหลายอย่างรวมกันปกครองโดยพ่อเลี้ยงเมืองรามวัยสี่สิบปีชายหนุ่มที่ยิ่งทีอายุยิ่งดูดีสาวๆในราเมื่อมีโอกาสก็มิวายจะโปรยเสน่ห์หรือถวายตัวให้โดยไม่มีข้อแม้เพราะรู้ตัวว่าหากเป็นคนของเมืองรามนั้นจะไม่ต้องทำงานไปตลอดชาติเลยก็ยังได้คล้อยบ่ายแดดเปรี้ยงพ่อเลี้ยงหนุ่มที่อยู่ในชุดคาวบอยสวมหมวกสีน้ำตาลรับกับใบหน้าคมเข้มชายหนุ่มยืนหน้านิ่งคิ้วขมวดเพราะโทสะที่อยู่ในใจมือขวาและซ้ายต่างก็มีปืนสั้นอยู่ในมือทั้งรัวปล่อยกระสุนปืนอยู่ที่กระท่อมเถียงนาใส่หุ่นไล่กาสิบกว่าตัวที่สั่งให้คนสนิทสร้างขึ้นมาให้เพื่อระบายอารมณ์เหงื่อตามเนื้อตัวไหลซิกออกมาไม่หยุดเพราะความร้อนจากแดดบวกกับความร้อนในใจมันแผดเผาพ่อเลี้ยงหนุ่มอยู่นั่นเองที่มันเป็นอย่างนี้ก็เพราะว่าเมียสุดที่รักของเขาที่เฝ้าประคบประหงมอย่างดีนั้นหนีไปกับหนุ่มเมืองกรุงห
ท้ายไร่ชา“มึงเป็นอะไรของมึงนักหนาผู้หญิงไม่ดีมึงก็ปล่อยไปมึงจะไปตามจองล้างจองผลาญให้เสียเวลาทำไมคนในไร่สาวๆสวยๆอยากจะเป็นเมียมึงทั้งนั้นมึงไม่สนบ้างรึไง”พันแสงยืนหน้านิ่วคิ้วขมวดเท้าเอวมองเพื่อนตนอย่างอ่อนใจพ่อเลี้ยงพันแสงพ่อเลี้ยงหนุ่มใหญ่อายุ40ปีเช่นเดียวกับเมืองรามและรูปร่างหน้าตาดีไม่แพ้กันเป็นคนขี้เล่นเล้กน้อยแต่เมื่อถึงเวลางานก็เอาจริงเอาจังมากพอตัวและเป็นคนที่ค่อนข้างถือทิฐิอยู่มากแล้วแต่กับบางคนเขาเป็นเพื่อนของพ่อเลี้ยงเมืองรามตั้งแต่เล็กๆตอนนี้ก็เป็นพ่อเลี้ยงปกครองไร่วัฒนพรรณเป็นหนุ่มโสดในตอนนี้เช่นกันเพราะภรรยาของเขาได้เสียไปสามปีแล้วด้วยโรคไข้ป่าทำให้เขาครองความโสดมาจนถึงทุกวันนี้“กูจะทำให้มันรู้ว่าคนที่หักหลังกูไม่มีวันอยู่เป็นสุขชู้มันก็เหมือนกันกูรู้ว่ามันรู้ว่าเดือนมีผัวอยู่แล้วมันก็ยังมายุ่งไอ้นี่กูก็จะเล่นงานมันเหมือนกัน”เมืองรามกำหมัดแน่นสายตาของเขาที่แน่นิ่งเด็ดเดี่ยวมันทำให้พันแสงมองออกว่าเพื่อนของเขากำลังมีแผนการอะไรอยู่ในใจเป็นแน่“นี่อย่าบอกนะว่าเรียกกูมามึงมีแผนอะไร”“เออ..”เมืองรามพยักหน้าเบาๆ“กูว่าแล้วคนอย่างมึงถ้ามีเรื่องดีๆไม่เคยเรียกกูมาเข้าเฝ้าหรอก
“นั่นอะไรเหรอ”ในระหว่างที่ขับรถสิงหนาทหันไปเห็นตระกร้าหวายที่มีผ้าขาวบางปิดอยู่ในมือของนรีนาถจึงแปลกใจว่าหญิงสาวถืออะไรกลับมาด้วย“ขนมตาลน่ะค่ะแม่ของหนึ่งให้เอามาฝาก”นรีนาถค่อยๆเปิดผ้าขาวบางที่คลุมขนมตาลฟูเหลืองอร่ามในกระทงใบตองเล็กๆให้สิงหนาทได้ดู“ดีสิพี่กำลังอยากทานอยู่พอดีเลยไม่รู้ว่าน้องหญิงจะแบ่งให้พี่ได้ไหมนะ”สิงหนาทรู้ดีว่าขนมไทยที่แม่ของนาราเป็นคนทำอร่อยแค่ไหนจึงต้องเอ่ยปากของนรีนาถอย่างไม่เกรงใจ“ได้สิคะหนึ่งเอามาฝากเยอะเลย”นรีนาถไม่ได้หวงสิงหนาทแม้แต่น้อยเพราะขนมนี่มันก็เยอะพอที่จะแบ่งได้หลายคน“วันหน้าพี่คงต้องไปอุดหนุนถึงที่ร้านหนึ่งเสียแล้วล่ะให้ขนมเราทานฟรีบ่อยเกินจนพี่เริ่มเกรงใจแล้ว”สิงหนาทเห็นทีจะต้องไปอุดหนุนนาราถึงที่บ้านเสียแล้วเพราะเขาได้ทานขนมฟรีจากบ้านนานราบ่อยเสียเหลือเกินจนเริ่มเกรงใจ“ดีเลยค่ะไว้วันที่พี่สิงห์ว่างเราไปร้านหนึ่งกันนะคะ”นรีนาถเห็นด้วยเช่นนั้นเหมือนกันเพราะเธอก็กะจะชวนสิงหนาทในวันที่เขาว่างไปที่บ้านนาราเช่นกันแต่ติดตรงที่น้อยครั้งนักที่สิงหนาทจะว่าง“ครับ”สิงหนาทชายหนุ่มอายุ30ปีรูปร่างหล่อเหลาใบหน้าคมเข้มผิวขาวสะอาดสะอ้านส่วนสูง185เป็นชา
“เออ..ไปล้างหน้าล้างตาก่อน”“แล้วมึงรู้เหรอว่าบ้านชู้เมียมึงอยู่ที่ไหน”พันแสงเปิดกระจกหยิบขวดน้ำในรถมาเทใส่มือลูบหน้าลูบตาเมื่อเสร็จแล้วจึงหันมาถามเมืองรามด้วยสีหน้าสงสัยว่าเพื่อนของเขารู้แล้วเหรอว่าบ้านโจทย์ที่ตามหาอยู่ที่ไหน“ตรงหน้ามึงนี่ไง”เมืองรามสะบัดหัวเล็กน้อยไปทางเรือนธิติลักษณ์ที่เป็นเรือนใหญ่ทรงปั้นหยาให้คนเป็นเพื่อนดูนอกรั้ว“หา..นี่มึงไม่คิดจะหลงบ้างไงวะ”“กูจะหลงได้ไงก็กูรู้ที่อยู่ผู้ใหญ่ให้กูมา”พันแสงมองไปยังรั้วบ้านที่เป็นทรงปั้นหยาร่วมสมัยหลังใหญ่ตรงหน้าด้วยสีหน้าที่งงงวยเล็กน้อยเพราะไม่คิดว่าเมืองรามจะมาถูกโดยที่ไม่หลงแม้แต่นิดเดียว“แล้วมึงเอาไงต่ออะมึงจะเผาบ้านเค้าจริงเหรอวะ”พันแสงเลิกคิ้วสงสัย“กูเปลี่ยนใจแล้วกูจะให้มันตายทั้งเป็นแทน”เมืองรามพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉยแต่มียกยิ้มมุมปากเล็กน้อยเพราะเขานั้นได้ไปรู้อะไรดีๆมาว่าภิภพนั้นมีของรักของหวงอยู่ในบ้านหลังนี้และเขาจะใช้จุดอ่อนนี้เล่นงานภิภพ“ยังไงวะ”พันแสงเกาหัวแกรกๆทั้งสีหน้ายังขมวดครุ่นคิดไม่เจ้าใจสิ่งที่เมืองรามพูดสักเท่าไร“กูจะพาลูกสาวมันกลับไปที่ไร่แล้วให้มันไปตามเอาเองดูซิว่าถ้ามันรู้ว่าลูกมันถูกทำอะไรบ
"อะไรนะ...แล้วตอนน้องหญิงออกไปไม่มีใครไปด้วยหรืออย่างไร"สิงหนาทขมวดคิ้วถามทุกคนในบ้านที่ยืนก้มหน้างุดกันเสียงแข็ง"คุณหญิงไม่ให้ใครตามไปเธอให้เหตุผลว่าบ้านหนูหนึ่งอยู่ใกลๆเธออยากเดินไปเองค่ะ"นมสรวงต้องรีบอธิบายก่อนที่คนอื่นจะโดนคาดโทษไปด้วยหากมีคนผิดก็ขอให้เป็นที่เธอเองที่ตามใจคุณหนูของตนเองจนเกินไป"เฮ้อ...เดี๋ยวผมจะไปตามหาน้องหนึ่งอีกครั้งเอง"พูดจบสิงหนาทก็ออกรถหมายขับไปให้ถึงที่บ้านของนาราอย่างรวดเร็ว"โถ่..คุณหญิงของนมอยู่ไหนกันคะ"นมสรวงเข่าทรุดเล็กน้อยเพราะตอนนี้เธอเป็นห่วงคุณหนูของเธอเหลือเกินหากย้อนเวลาไปได้เธอจะไม่ให้คุณหนูของเธอไปไหนตามลำพังอีกเลยบ้านนารา"แม่คะยาค่ะ"ในเพลิงไม้เก่าๆริมแม่น้ำเป็นบ้านของนารีและนาราและเป็นหน้าร้านขายขนมไทยที่อยู่ที่เดียวกันหลังจากที่สองแม่ลูกช่วยกันจัดแจงวัตถุดิบเพื่อทำขนมในเช้าวันถัดไปเสร็จก็มานั่งกินข้าวหลังจากทั้งสองกินข้าวกันเรียบร้อยแล้วนาราก็ไม่ลืมที่จะจัดยาให้กับคนเป็นแม่กินเพราะหากรอคนเป็นแม่กินเองก็คงลืมอีกเช่นเคย"ขอบใจลูก"นารีเป็นโรคเบาหวานและหัวใจมานานแล้วและตอนนี้ก็พ่วงด้วยไตเสื่อมมาอีกทำให้ต้องกินยาอย่างต่อเนื่อง"ต่อไปนี้หน
ชั่วโมงต่อมาโรงพยาบาล"หมอคะคุณแม่ดิฉันเป็นยังไงบ้างคะ"นารารีบเข้าไปถามหมอหนุ่มด้วยสีหน้ากังวลกลัวว่าแม่ของเธอจะเป็นอะไรร้ายแรง"คือ...หมอต้องเสียใจด้วยนะครับแม่ของคุณเสียด้วยอาการหัวใจวายเฉียบพลันครับ""อ..อะไรนะคะ"นาราเข่าทรุดยวบหมดสติกะทันหันอย่างไม่ทันตั้งตัวจากที่กลัวว่าแม่เธอจะเป็นอะไรร้ายแรงเรื่องกลับร้ายกว่าที่คิดเพราะแม่ของเธอมาจากไปโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว"หนึ่ง..."สิงหนาทรับร่างบางเอาไว้ได้ทันหน้าของเขาตอนนี้ซีดเผือดอย่างเห็นได้ชัดปฏิเสธไม่ได้เลยว่าที่แม่ของหญิงสาวจากไปเร็วเพียงนี้มาจากการกระทำที่ขาดสติของเขาไร่ศังกร23.00 น.พลั้กกกกก"อร้ายย...นายเป็นใครจับฉันมาทำไม"นรีนาถตัวสั่นเป็นลูกนกเมิ่อถูกโยนเข้ามาในกระท่อมซึ่งไม้ไผ่น่าจะอยู่กลางป่ามีเพียงตะเกียงที่จุดให้มีแสงสว่สงเพียงแค่รำไรเท่านั้นทำ"เป็นใครก็เรื่องของฉันส่วนเธออย่าคิดหนีไม่อย่างนั้น..ตาย"เมืองรามไม่เพียงชักปืนมาวางขู่หญิงสาวเขารีบจับเธอมัดข้อมือของหญิงสาวกับข้อมือของเขาผูกมัดติดกันและลงตัวนอนข้างหญิงสาวทันทีเพราะเวลานี้เขาเหนื่อยและเพลียเกินกว่าที่จะมานั่งตอบคำถามหรือคุยอะไรกับหญิงสาวตอนนี้"หา...."นรี
"ไม่ต้องเสือกอยากรู้วันนั้นมาถึงเดี๋ยวก็ได้เห็นเอง..กินข้าวได้แล้ว"ชายหนุ่มสะบัดหน้าน้อยๆของเธอเต็มแรงจนหน้าหวานมีรอยแดงเป็นปื้นแต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้คนที่กำลังไฟลุกท่วมหัวใจสงสารผู้หญิงตัวเล็กๆแม้แต่นิดเดียว"........"นรีนาถน้ำตาเล็ดด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจที่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ถึงแม้ว่าร่างกายเธอจะส่งเสียงร้องว่าต้องการอาหารแค่ไหนก็ตามแต่จะให้เธอกินอะไรเข้าไปตอนนี้คงจะกลืนไม่ลงอยู่ดี"บอกให้กินไง..""อร้ายยย..."เพล้งงงง"โถ่เอ้ย..."เมืองรามตะคอกเสียงฝาดเพราะคนตรงหน้าไม่ยอมรับถาดข้าวดีๆเขาจับเธอมาไม่ได้ต้องการให้ตายไวเขาต้องเลี้ยงเธอไว้เป็นเครื่องมือแก้แค้นดังนั้นยังไงหญิงสาวก็ต้องได้กินด้วยความที่ตกใจในเสียงตวาดของชายหนุ่มทำให้นรีนาถเผลอปัดมือไปถูกถาดอาหารจนล่วงกระจายเต็มพื้นนั่นก็เป็น้หตุให้เมืองรามหัวเสียอีกรอบและผลักร่างบางเต็มแรงจนเธอร้องให้สะอื้นไม่ยอมหยุด"ฮึก...ฮือๆๆๆๆ..""จะร้องอีกนานไหมวะ...รำคาญ"เมืองรามนั่งมองคนตรงหน้าสะอื้นให้มาพักใหญ่อย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดจนต้องเสียงแข็งใส่หญิงสาวอีกรอบเพราะรู้สึกรำคาญเสียงสะอื้นเต็มทน"พ่อเลี้ยง""มีอะไร.."เมืองรามได้ยินเสียงทศพ
"แม่จันทร์จะมีสักวันไหมที่พ่อเลี้ยงพันแสงเค้าจะเลิกเกลียดแก้ว"คำแก้วมองตามหลังพันแสงอย่างเหนื่อยใจ"วันใดที่เค้าหมดทิฐิวันนั้นพ่อเลี้ยงพันแสงคงจะดีขึ้นเองเอ็งอย่าไปสนใจอะไรมากเลยคำแก้วเค้าก็อยู่ส่วนเค้าเราก็อยู่ส่วนเรา"ฟองจันทร์ก็ได้แต่ปลอบคำแก้วว่าอย่าได้ไปใส่ใจคนที่มีทิฐิอยู่ในใจต่อให้มีคำอธิบายหรือเหตุผลดีสักเท่าไรก็ไม่เข้าใจได้ง่ายอยู่ดี"จะแม่จันทร์"คำแก้วเองก็ได้แต่ทำใจถึงเธอจะถูกฟองจันทร์ปลอบอยู่หลายครั้งแต่เมื่อเจอหน้าพันแสงทีไรก็อดมีอาการรู้สึกผิดทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิดไม่ได้เสียที... ที่พันแสงไม่อยากจะเห็นหน้าเธอก็เพราะว่าเมื่อย้อนกลับไปเมื่อประมาณเกือบสิบเก้าปีที่แล้วแม่ของคำแก้วและพ่อของเธอเป็นลูกไร่ของแม่พ่อเลี้ยงพันแสงและเหตุการณ์เลวร้ายก็ได้เกิดขึ้นกับพ่อเธอด้วยเหตุจากการไปหาของป่าและถูกเสือทำร้ายจนเสียชีวิตในขณะที่แม่ของเธอท้องเพียงไม่กี่เดือนแม่ของพันแสงเลยรับจะดูแลแม่ของเธอเองเมื่อถึงวันคลอดคืนนั้นไม่มีใครอยู่เรือนเลยสักคนนอกจากแม่ของพันแสงเธอจึงเดินฝ่าความมืดไปตามหมอตำแยแต่ด้วยความที่รีบร้อนและคืนนั้นเป็นคืนเดือนมืดสนิททำให้เธอพลาดเดินตกเขาไปจนเสียชีวิตจึงไม่ถึง