"นายปวดหัวอยู่รึเปล่า"
ช่วงบ่ายเมื่อเมืองรามฟื้นขึ้นมาแล้วนรีนาถก็คอยดูแลเขาอยู่ไม่ห่าง
"ไม่ค่อยเท่าไร"
"เอ่อ.."
"เธอจะกลับไปใช่ไหม"
สิ่งที่กังวลใจที่สุดของเมืองรามไม่ใช่แผลที่หัวของเขาแต่เป็นเรื่องหญิงสาวที่กลัวว่าเธอนั้นจะถูกพรากจากเขาไป
"อืม..ฉันอยากกลับไปรับศพพ่อฉัน.. ฉันกับพี่สิงห์จะอยู่ที่นี่ก่อนสามวันจนนายดีขึ้นแล้วฉันถึงจะไป"
นรีนาถพยักหน้าเบาๆ
"ฉันไปด้วย"
"อะไรนะ"
"ฉันอยากไปขอขมาพ่อเธอและอยากอโหสิกรรมให้เลิกแล้วต่อกันในชาตินี้"
หญิงสาวฟังไม่ผิดเขาอยากไปกับเธอจริงๆเขาอยากจะไปขอขมาพ่อของเธอที่พาเธอมาที่นี่ทรมานก่อนหน้านี้และไม่อยากจะมีความแค้นอะไรติดค้างในใจอีก
"นายลืมเรื่องทั้งหมดแล้วใช่ไหม"
นรีนาถยิ้มอ่อนเมื่อได้ฟังสิ่งที่อยากจะได้ยินจากปากของเขามานานเรื่องที่ชายหนุ่มละจากความแค้นได้เสียที
"ไม่ลืม...แต่ไม่ใส่ใจแล้วตอนนี้ฉันใส่ใจแค่เธอเท่านั้น"
เมืองรามโอบกอดนรีนาถเบาๆจะให้เขาพูดว่าลืมคงโกหกแค่เขาไม่ใส่ใจมันแล้วต่างหากตอนนี้คนเดียวที่เขาใส่ใจคือนรีนาถเท่านั้น
เย็นของวัน
"พี่สิงห์คะ"
"น้องหญิง"
"หญิงทำแกงส้มของโปรดพี่สิงห์ด้วยค่ะ"
นรีนาถยกแกงส้มดอกแคมาวางตรงหน้าสิงหนาท
"น้องหญิงทำอาหารเป็นด้วยเหรอ"
ชายหนุ่มมีสีหน้าแปลกใจที่เป็นครั้งแรกที่เห็นนรีนาถทำกับข้าว
"อยู่ที่นี่แม่จันทร์สอนน่ะค่ะหญิงเลยทำเป็น..นี่หญิงทำทั้งกับข้าวทั้งขนมหวานเป็นหลายอย่างเลยนะคะ"
นรีนาถพูดไปยิ้มไป
"น้องพี่ดูยิ้มสดใสกว่าตอนที่อยู่เรือนเสียอีกนะ..."
สิงหนาทยิ้มอ่อนเขาไม่ยักรู้ว่าที่นี่มีอะไรดีจึงทำให้นรีนาถดูยิ้มอย่างมีความสุขและมันก็เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นรอยยิ้มอย่างสบายใจของนรีนาถ
"ตอนแรกหญิงยอมรับนะคะว่ายิ้มไม่ได้แบบนี้...แต่นานวันเข้าชีวิตหญิงก็เหมือนมีอะไรมาเติมเต็มความสุขอยู่จนตอนนี้หญิงยอมรับว่าหญิงรักที่นี่ไปเสียแล้วค่ะ"
"รู้ไหมพี่ตามหาเราแทบแทรกแผ่นดิน...แต่ตอนนี้พี่มาเห็นน้องสาวพี่ยิ้มได้เรื่องขุ่นเคืองในใจก็หายไปแทบหมดแต่ก็ไม่ได้แปรว่าพี่จะให้อภัยพ่อเลี้ยงนี่ง่ายๆนะ"
สิงหนาทชอบที่เห็นนรีนาถมีความสุขแต่เขาก็ต้องพูดตรงๆที่ว่าจะให้เขามองเมืองรามในแง่ดีนั่นคงต้องดูกันไปก่อน
"หญิงเข้าใจค่ะ.."
นรีนาถไม่ได้เร่งรัดสิงหนาทอยู่แล้วเธอเชื่อว่าหากสิงหนาทได้เห็นมุมที่ดีๆของเมืองรามก็จะมองเขาในแง่ดีได้เองเหมือนกับที่เธอมอง
"น้องหญิง"
"คะ"
"พี่มีเรื่องน้านารีจะบอก"
สิงหนาทเห็นทีจะต้องรีบบอกเรื่องนี้กับนรีนาถให้รู้
"แม่หนึ่งเป็นอะไรเหรอคะ"
"เธอ...เสียแล้ว"
"อ..อะไรนะคะ...แล้วตอนนี้หนึ่งอยู่ยังไงล่ะคะ"
นรีนาถถึงกับนิ่งงันไปชั่วขณะไม่คิดว่าในขณะที่เธอไม่อยู่จะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นซึ่งคนที่เธอห่วงมากๆตอนนี้ก็คงจะเป็นนาราเพราะรู้ว่าเพื่อนเธอน่าจะหมดที่พึ่งทางใจและเหลือตัวคนเดียวแล้ว
"เรื่องทั้งหมดมันเป็นเพราะพี่...."
สิงหนาทเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดว่านารีเสียได้อย่างไรและหลังจากนั้นนาราก็ย้ายมาอยู่ที่บ้านของเขา
"แล้วตอนนี้หนึ่งสบายดีไหมคะ"
"หนึ่งไม่ได้อยู่กับพี่แล้ว"
"แล้วหนึ่งอยู่ไหนล่ะคะ"
คราแรกโล่งใจหมดห่วงแล้วว่าเพื่อนเธอยังมีสิงหนาทคอยปกครองแต่ก็ต้องมาใจหายวาบกับคำที่ออกจากปากสิงหนาทเมื่อครู่อีก
"พี่.."
สิงหนาทเล่าถึงเหตุการณ์ก่อนที่นาราจะหนีออกจากบ้านไปซึ่งนั่นมันก็เป็นความผิดของเขาเช่นกันคืนนั้นเขาดื่มหนักเพราะความเครียดสะสมเลยเผลอย่ำยีหญิงสาวจนเธอเสียใจและหายตัวไปในเช้าวันต่อมาโดยทีาเขาก็ตามหาไม่ได้เลย
"พี่สิงห์..."
นรีนาถได้ฟังเรื่องราวก็ถึงกับยกมือทาบอก
"พี่ก็รู้สึกผิดต่อหนึ่งเหมือนกัน...แต่เธอก็ไม่อยู่ให้พี่ได้รับผิดชอบ...หญิงพอจะรู้ไหมว่าหนึ่งจะไปที่ไหนได้บ้าง"
สิงหนาทหน้าเจื่อนยิ่งพูดเรื่องนี้ขึ้นมาเขาก็ยิ่งรู้สึกผิดกับนาราเขาพร้อมทีาจะรับผิดชอบเธอทุกอย่างเพราะลึกๆแล้วเขาเองก็มีใจให้เธอเหมือนกันโดยที่มารู้ตัวเองอีกทีในวันที่เธอจากไปแล้ว
"อืม...เหมือนหญิงเคยได้ยินว่าบ้านเก่าของแม่หนึ่งก่อนที่จะแต่งงานย้ายมาอยู่ที่กรุงเทพจะอยู่แถวทางเหนือนะคะ"
นรีนาถทำท่าครุ่นคิด
"หญิงคิดว่าหนึ่งจะหนีมาที่บ้านเก่าแม่ทั้งที่ไม่เคยอยู่อย่างนั้นเหรอ"
สิงหนาทถามอย่างมีความหวัง
"หญิงก็ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ"
นรีนาถส่ายหัวเบาๆเธอไม่สามารถประเมินความคิดของเพื่อนเธอได้เลย
"โอ้ยย.."
"นาย.."
นรีนาถรีบลุกไปพยุงเมืองรามมานั่งที่เก้าอี้หลังจากเห็นเขายืนเกาะเสาทำสีหน้าเหยเกอยู่
"รู้ตัวว่าเจ็บแล้วยังอยากจะลุกออกมา"
สิงหนาทค่อนขอดคนเจ็บอย่างหมั่นไส้
"ใครเป็นคนทำให้เจ็บล่ะวะ"
เมืองรามหรือจะยอมให้ใครมาต่อปากง่ายๆเขาจึงสวนกลับทันทีอย่างไม่ยอมแพ้
"ใครเป็นคนก่อเรื่องก่อนล่ะ"
สิงหนาทถลึงตาใส่เมืองรามที่พึ่งนั่งลงอย่างเอาเรื่อง
"พอเถอะค่ะอย่าเถียงกันเลย...แล้วนายจะออกมาทำไม"
ครานี้นรีนาถต้องทำตัวเป็นกรรมการคอยปรามทั้งคู่ไปเสียแล้ว
"ฉันเห็นเธอไม่อยู่.."
"ฉันก็ไม่ได้ไปไหนไกลนี่นา"
"หึ่.."
เมืองรามทำสีหน้าออดอ้อนทั้งยังกอดก่ายร่างบางไม่ยอมปล่อยจนสิงหนาทสบถในลำคออย่างหมั่นไส้เขาด็พึ่งเห็นผู้ชายถึกสำออยก็วันนี้นี่เอง
สามวันต่อมา
กรุงเทพ
"......"
เมืองรามจุดธูปหน้าโลงศพของภิภพเขาอธิษฐานขอขมาและขออโหสิกรรมเรื่องที่ทำเขาแค้นใจให้เลิกแล้วต่อกันมนชาตินี้เสียจะได้ไม่ต้องมาราวีกันอีกในภพหน้า
"ฮึก..ฮือๆๆ.."
"น้อง..ห.."
"......"
นรีนาถสะอื้นให้ไม่หยุดเมื่อมาถึงวัดสิงหนาทหมายจะเข้าไปกอดปลอบแต่ถูกเมทองรามแทรกตัวขวางเอาไว้ก่อนตอนนี้เขาทั้งห่วงและหวงเธอมากแม้สิงหนาทจะเป็นคนเลี้ยงนรีนาถมาแต่เมืองรามก็หวงไปทุกคนอยู่ดี
"นี่นายจะทำตัวติดกับน้องหญิงไปถึงไหน"
สิงหนาทเอ่ยกระซิบใกล้ๆกับเมืองรามเพราะเขาไม่อยากให้แขกที่มาเห็นว่าเขาเถียงกัน
"ฉันจะอยู่กับเมียฉัน"
"เลิกเรียกน้องหญิงว่าเมียนายซะทีให้เกียรติเธอหน่อยแต่งก็ยังไม่ได้แต่ง"
สิงหนาทขมวดคิ้วเป็นปมเพราะหากใครไเ้ยินเข้านรีนาถเองที่จะดูไม่ดี
"จะเรียกสินสอดเท่าไรว่ามา"
เมืองรามถามด้วยสีหน้าจริงจัง
"เรียกแล้วก็ให้มีปัญญาจ่ายด้วยล่ะ"
"ก็เรียกมาสิ"
"ถ้าฉันเรียกแล้วไม่มีปัญญาจ่ายอย่าหวังว่าจะได้แต่ง"
"ลองดูสิ...ถ้าไม่ได้แต่งแต่ท้องแล้วยังไงเธอก็เป็นเมียฉันอยู่ดี"
"พอเถอะค่ะ..."
นรีนาถต้องปาดน้ำตาส่งเสียงปรามชายหนุ่มสองคนอีกครั้ง
"2ล้าน"
"เออ..เดี๋ยวกลับไปแล้วจะเอามากองตรงหน้าเลย"
เมืองรามไม่ได้หวงแหนเม็ดเงินแม้แต่นิดเดียวเขารับปากอย่างว่าง่าย
"นี่นาย.."
นรีนาถมองหน้าเมืองรามอย่างแปลกใจเพราะไม่คิดว่าพ่อเลี้ยงแห่งไร่ศังกรจะมีเงินมากมายขนาดนั้น
"ได้...ถ้าหามาได้ฉันก็จะให้แต่ง"
"รับปากแล้วอย่าคืนคำล่ะ"
เมืองรามยิ้มกริ่มเงินเขามีเท่าไรก็ไม่ได้นับแต่แค่สองล้านถือว่าเล็กน้อยเพราะผลผลิตของเขาที่ได้มาก็ขายได้เงินเยอะมากมายแถมเจ้าตัวก็ยังไม่เคยได้ใช้เท่าไรกินอยู่กับผักกับปลาที่ไร่ของตนเลยไม่ต้องซื้อจะใช้จ่ายก็แค่เงินเดือนคนงานในไร่เท่านั้น
อาทิตย์ต่อมา"หลับให้สบายนะคะคุณพ่อ""หญิง..หญิง"นรีนาถเป็นลมล้มพับไปในขณะที่แหงนมองกลุ่มควันที่เผาพ่อของตนอยู่ที่เมรุเผาศพเมืองรามกับสิงหนาทจึงรีบพาหญิงสาวกลับบ้านและตามหมอมาดูอาการเธอทันที"คุณหญิงร่างกายอ่อนเพลียมากนะคะยิ่งตอนนี้ตั้งครรภ์อ่อนๆด้วยแล้วยิ่งต้องให้เธอทานอาหารให้ตรงเวลา""หา..."คำพูดของหมอหญิงวัยกลางคนทำให้ทั้งสามต่างก็มีสีหน้าตกใจไปตามๆกัน"ตั้งครรภ์"นรีนาถลูบท้องตัวเองเบาๆเธอเองก็ไม่ทันได้สังเกตเสียด้วยว่าระดูของเธอนั้นขาดไปตั้งแต่เมื่อไร"น้้องหญิง"สิงหนาทนั่งกุมขมับมองกน้าเมืองรามอย่างไม่พอใจที่นรีนาถนั้นต้องมาท้องก่อนแต่งจนได้"จะให้ทำยังไง""ก็ต้องรีบแต่งน่ะสิ"หลังจากหมอหญิงกลับไปแล้วทั้งสามก็ปรึกษาหาทางออกกันอีกทีว่าจะเอาอย่างไรกับเรื่องนี้ดูคนที่จะไม่เครียดเลยเห็นจะเป็นเมืองรามเสียมากกว่าที่นั่งยิ้มร่าถามสิงหนาทด้วยสีหน้าทะเล้นจนสิงหนาทต้องรีบเอ่ยปากให้ทั้งคู่แต่งงานกันโดยเร็วที่สุด2อาทิตย์ต่อมาไร่ศังกร"อุ้บ..แหวะๆ""พี่หญิงไหวไหมคะ"วันนี้เป็นวันแต่งงานของนรีนาถและเมืองรามซึ่งดูเจ้าสาวก็ดูท่าไม่ค่อยไหวเท่าไรแต่ก็ต้องแต่เมื่อได้ฤกษ์ที่ไวที่สุดมาแล้วคำแก
"คำแก้ว..คำแก้ว""พ่อเลี้ยงอย่าพึ่งตามไปปล่อยคำแก้วมันไปก่อน"พันแสงหมายจะตามคำแก้วไปแต่ถูกสมิงรั้งเอาไว้ก่อนเพราะหากคำหล้ากดดันเจ้านายของเขาเช่นนี้เขาก็มีความจริงที่ต้องเปิดเผยเช่นกัน"ทำไม"พันแสงหันมาจ้องสมิงตาเขม็ง"ศรีอ่อนบอกแม่เอ็งไป"สมิงให้ศรีอ่อนบอกความจริงดับทุกคนว่าเธอนั้นเป็นอะไรกับเขาให้กลุ่มคนงานที่ยืนฟังเรื่องราวอยู่ให้รู้กันถ้วนหน้าไปเสียวันนี้เลย"แม่จ้ะ..เมื่อคืนพ่อเลี้ยงเมาไม่ได้ตั้งใจจริงๆและฉันก็...""ก็อะไร.."คำหล้าบีบแขนศรีอ่อนทั้งจ้องอย่างเอาเป็นเอาตาย"ได้เสียเป็นเมียพี่หมิงไปแล้วจะ...ฉันคงจะเป็นเมียพ่อเลี้ยงไม่ได้""อะไรนะ..นี่เอ็ง..อีนังลูกไม่รักดี"เพี๊ยะ..สิ้นคำลูกสาวคำหล้าก็เหวี่ยงมือฟาดไปที่หน้านวลจนเป็นรอยแดง"อย่าทำร้ายศรีอ่อนมันเลยฉันได้มันเป็นเมียแล้วฉันจะสู่ขอให้ถูกต้องตามประเพณีทุกอย่าง"สมิงรีบดึงศรีอ่อนมากอดเอาไว้เพราะไม่อยากมห้เธอตกเป็นเครื่องมือของคนเป็นแม่อีกที่ผ่านมาเขารู้ดีว่สคำหล้าจ้องจะทำอะไรแต่ในเมื่อศรีอ่อนรักอยู่กับเขาตัวเขาเองก็จะไม่ปล่อยให้ศรีอ่อนไปเป็นเมียใครเด็ดขาด"หึ่..."คำหล้ามือไม้สั่นอับอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี"ไอ้หมิง...กูรั
"คู่นี้เข้าใจกันได้ก็น่าเอ็นดูดีนะคะ"นรีนาถแอบขำการคุยกันของสองหนุ่มทั้งดีใจที่คำแก้วและพันแสงลงเอยกันด้วยดีเสียที"ใช่..คนอย่างไอ้แสงลงได้รักใครมันก็รักและซื่อสัตย์กับคนนั้นคนเดียวพี่ถึงวางใจที่จะให้คำแก้วฝากชีวิตไว้กับมันไง""แล้วพี่รามคนนี้ล่ะคะ""พี่ก็รักเดียวใจเดียวไม่เปลี่ยนใจเหมือนกันจะ""ปากหวาน"นรีนาถจับริมฝีปากหนาของชายหนุ่มเล่นเบาๆ"อยากชิมปากหวานๆตอนนี้ไหมล่ะ""อื้อ..ไม่ค่ะ"นรีนาถรีบเอี้ยวตัวหลบก่อนที่เมืองรามจะมาทำประเจิดประเจ้อกับเธอที่หน้าเรือนปีต่อมา"แอ้ๆ..""ว่ายังไงตาชิต...อารมณ์ดีแต่เช้าเลยลูกพ่อ"เมืองรามกำลังจับลูกชายวัยหกเดือนที่กำลังจ้ำม่ำอาบน้ำในตอนเช้านรีนาถมองแล้วดูท่าทางคนเป็นพ่อจะอารมณ์ดีกว่าลูกเสียอีกที่ไม่ยอมพาลูกขึ้นจากน้ำเสียที"พี่รามคะ..พาลูกขึ้นจากน้ำได้แล้วค่ะ""ลูกกำลังอารมณ์ดีเลย"เมืองรามมองหน้าคนเป็นเมียบุ้ยปากแอบเสียดายเล็กน้อยที่ลูกกำลังเล่นกับเขาอารมณ์ดีแต่ต้องเลิกเล่นเสียแล้วเพราะกลัวว่าลูกจะไม่สบาย"เดี๋ยวจะป่วยเอานะคะ"นรีนาถส่ายหัวเบาๆ"ก็ได้...ไปเช็ดตัวกันนะลูก""พี่สิงห์...ไม่เห็นส่งข่าวมาบอกว่าจะมาเลยคะ"ในขณะที่นรีนาถเช็ดตัวเปลี่
"ร้านอยู่ที่ไหนจ้ะแม่จันทร์""ตลาดในหมู่บ้านนี่เองจะ""มีอะไรกันรึเปล่า"เมืองรามเห็นนรีนาถและสิงหนาทดูรีบร้อนเป็นพิเศษจึงเกิดอยากจะถามให้หายสงสัยก่อนที่จะเดินออกไปจากเรือนนรีนาถจำต้องเดินไปด้วยเล่าไปด้วนว่าสิ่งที่สิงหนาทและเธอร้อนใจอยู่นั้นคือเรื่องอะไรตลาดในหมู่บ้าน"ร้านไหนจ้ะแม่จันทร์""ใกล้จะถึงแล้วจะ"นรีนาถมีท่าทางร้อนใจจนฟองจันทร์ต้องรีบเดินให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้"อ้าวแม่จันทร์มาซื้อขนมเพิ่มเหรอจ้ะ"เมื่ออัญชัญเห็นฟองจันทร์ก็รีบยิ้มทักทายเพราะตั้งแต่มาตั้งร้านขายที่หมู่บ้านนี้ไม่กี่วันมานี่ก็มีฟองจันทร์เป็นลูกค้าประจำคอยมาซื้ออยู่ทุกวันอัญชัญเป็นแม่ค้าขายขนมวัยเกือบจะสี่สิบเป็นโสดไม่เคยคิดจะมีสามีและเมื่อนารามาขออาศัยอยู่ด้วยจึงย้ายถิ่นมาขายของที่บ้านเก่าของเธอที่นี่"พอดีมีคนอยากจะซื้อเพิ่มน่ะจะ"ฟองจันทร์หันกลับไปหาทั้งสามที่ยืนมองอยู่หน้าร้าน"เหลือเท่านี้แหละจะจะเอาอะไรก็เลือกเลยนะจ้ะ""ยาย..""ตานพกินเลอะเทอะอีกแล้วมายายเช็ดปากให้"ไม่นานเด็กชายวัยเก้าเดือนนิดๆที่พึ่งจะหัดเดินกึ่งเดินกึ่งคลานเข้ามาหาอัญชัญด้วยหน้าตาที่ละม้ายคล้านสิงหนาทอย่างมากจึงทำให้ทั้งสามที่ยืน
"กลับไปเถอะค่ะหนึ่งอยู่กับลูกกับน้าอัญก็สบายดีแล้วพี่สิงห์กลับไปใช้ชีวิตของพี่เถอะเรื่องที่ผ่านมาหนึ่งอภัยให้ค่ะพี่สิงห์ไม่ต้องรู้สึกผิดนะคะ..."นาราพูดจบก็หมายจะอุ้มลูกเดินออกไป"ไม่ได้หนึ่งยังไงลูกก็ต้องได้อยู่กับพี่""จะพรากลูกไปจากหนึ่งเหรอคะ"แต่มีหรือสิงหนาทจะยอมเขารั้งร่างบางเอาไว้และอุ้มมานพมาไว้ในอ้อมอก"พี่ไม่ได้คิดจะพรากลูกไปจากหนึ่งแต่เราจะอยู่กันเป็นครอบครัวถ้าหนึ่งไม่อยากทิ้งน้าอัญของหนึ่งพี่ก็จะพาเธอไปอยู่ด้วยจะได้ไม่ต้องมาลำบากแบบนี้""ก็หนึ่งบอกแล้วไงคะว่าหนึ่งไม่ได้ลำบาก"นาราพยายามจะแย่งลูกคืนแต่ก็ทำอะไรได้ยากเพราะสิงหนาทโอบกอดลูกชายตนเอาไว้แน่น"อย่าดื้อกับพี่นะหนึ่ง"สิงหนาทจ้องนาราอย่างจริงจัง"อย่ามาสั่งหนึ่งค่ะ"นาราเองก็จ้องกลับสิงหนาทอย่างเขม็งเช่นกัน"แม่ๆ..""พี่สิงห์จะพาลูกไปไหนคะ...พี่สิงห์หยุดนะ""......"สิงหนาทเห็นท่าทีดื้อดึงของนาราแล้วก็ต้องใช้ลูกบังคับกันเช่นเดิมในเมื่อคุยกันไม่เข้าใจเขาก็ต้องอุ้มลูกวิ่งหนีไปเสียก่อน"อ้าวพี่สิงห์"นรีนาถเห็นสิงหนาทอุ้มมานพวิ่งออกไปจากบ้านเธอก็ตกใจเล็กน้อย"น้าอัญคะเค้าจะขโมยลูกหนึ่งไปค่ะ""เป็นผัวเมียกันก็ค่อยๆคุ
"จริงเหรอ"นาราเบิกตาโพรงด้วยความดีใจ"ใช่...เพราะเรากับพี่รามต้องช่วยกันบริหารงานที่ธนาคาร"นรีนาถพนักหน้าเบาๆ"จริงใช่ไหม..เราดีใจที่สุดเลยนึกว่าจะต้องอยู่ห่างกันเสียอีก"นาราสวมกอดนรีนาถด้วยความดีใจ"ไม่เข้าไปล่ะ"เมืองรามเห็นสิงหนาทแอบมองสองสาวและเด็กๆอยู่ไกลๆจึงเข้ามาหา"นายก็รู้ว่าฉันถูกห้ามเรื่องอะไร"สิงหนาทก้มหน้าเล็กน้อยเพราะนาราเชื่อใจว่าเขาจะไม่เข้าใกล้จึงยอมไปอยู่กรุงเทพได้หากแลกกับความสบายของลูกเขาและนาราเขาจำต้องยอมไปก่อนแต่ก็จะหาวิธีเข้าหาเธอใหม่ไม่ปล่อยเธออยู่อย่างนี้ตลอดไปแน่นอน"เฮ้อ...แบบนี้ก็ต้องอดทนหน่อยนะ"เมืองรามตบบ่าสิงหนาทเบาๆสองวันต่อมา"บ้านนี้น่าอยู่เหมือนกันนะหนูหนึ่ง"อัญชัญเดินตามนาราที่กำลังอุ้มมานพซบหลับในอ้อมอกเข้ามาที่บ้านหลังเล็กอยู่ไม่ห่างเรือนธิติลักษณ์เท่าไรโดยมีสิงหนาทเป็นคนมาส่ง"น้าอัญชอบหรือเปล่าจ้ะ""ชอบสิน้าเคยอยู่ที่สบายแบบนี้เสียที่ไหนที่เป็นบุญของน้าเลยล่ะ""หนึ่งดีใจนะจ้ะที่เห็นน้ามีความสุขแบบนี้"นาราดีใจที่เห็นท่าทางอัญชัญมีความสุขหากเธอตัดสินใจผิดเธอคงไม่เห็นรอยยิ้มที่มีความสุขของอัญชัญแบบนี้เป็นแน่"เดี๋ยวน้าเดินดูรอบๆบ้านก่อนนะ"
"ไม่ต้องมีใครบอกพี่ก็รู้หมอกำลังมาแล้วพี่ตามมาเอง""หนึ่งต้องรีบไปซักผ้าลูกค่ะค้างไว้นานมันจะไม่ดี""ไม่ต้องผ้าพวกนั้นถ้ามันจะเป็นอะไรซื้อใหม่เอาก็ได้""พี่สิงห์"สิงหนาทโอบร่างบางให้นอนลงในขณะที่เธอกำลังจะฝืนลุกขึ้น"อย่าดื้อได้ไหมปล่อยให้ตัวเองเป็นไข้นานแล้วเมื่อไรลูกจะเข้าใกล้ได้""หนึ่งกินยาต้มเดี๋ยวก็หายแล้วค่ะจะตามหมอมาทำไมให้เปลืองค่ารักษา""พี่มีเงินพี่ออกค่ารักษาเมียพี่ได้""อย่าพูดแบบนี้เลยค่ะ...ตอนนี้เราเป็นแค่พ่อและแม่ของตานพเท่านั้น...นี่ไม่ไปทำงานทำการหรือไงคะถึงได้มานั่งเฝ้าหนึ่งอยู่ได้""ไม่...ช่วงนี้พี่ว่าง"สิงหนาทไม่สนใจแล้วว่าหญิงสาวจะต่อต้านเขายังไงเขาพูดกับตัวเองไว้แล้วว่ายังไงเขาก็จะต้องอยู่เป็นครอบครัวเดียวกับหญิงสาวให้ได้เพราะเขาให้เวลาเธออยู่กับลูกมาพักใหญ่แล้ว"ร่างกายคุณหนึ่งอ่อยเพลียมากนะครับเดี๋ยวหมอจะฉีดยาแก้ไข้แล้วก็จะให้ยาแก้ไข้กับยาบำรุงไว้ให้แล้วก็ทานตามที่หมอเขียนให้นะครับ"หมอหนุ่มตรวจอาการนาราพักใหญ่ก็ได้ข้อสรุปมาว่าร่างกายหญิงสาวนั้นอ่อนเพลียและค่อนข้างจะขาดสารอาหาร"ค่ะคุณหมอ""ช่วงนี้นอนพักเยอะๆนะครับทานอาหารให้ตรงเวลาช่วงเป็นไข้รับประทานแต่อ
เมื่อความแค้นที่ต้องถูกเหยียบย่ำหัวใจจนเสียเมียรักไปทำให้พ่อเลี้ยงหนุ่มต้องเอาคืนพวกคนที่ทำกับเขาและเหยื่อที่ต้องถูกพ่อเลี้ยงหนุ่มกระทำก็คือเธอลูกสาวของชู้ที่พรากเมียเขาไป...วันที่พาหญิงสาวมากักขังที่ไร่เพราะความแค้นเขาจึงกดขี่ขมเหงเธอสารพัดยิ่งเห็นแววตาใสซื่อไร้เดียงสาทำเป็นไม่รู้เรื่องรู้ราวว่าพ่อของตนทำเรื่องเอาไว้และท่าทางหยิ่งทระนงตนทั้งที่รู้ว่าไม่ชนะเขาได้ในบางครั้งของเธอทำให้เขานั้นรู้สึกไม่ค่อยพอใจเพิ่มเป็นทวีคูณแต่ในบางครั้งก็แอบสนใจในตัวจำเลยเล็กน้อยและนานวันเข้าก็กลับกลายเป็นสนใจทุกๆเรื่องที่เป็นเรื่องของเธออย่างไม่รู้ตัวการที่พ่อเลี้ยงหนุ่มขโมยลูกสาวนายธนาคารใหญ่มาอย่างคนเอาแต่ใจแบบนี้ย่อมมีปัญหาตามมาภายหลังแน่นอนแต่ปัญหาและเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นจะเป็นอย่างไรอุปสรรคที่ทั้งสองจะต้องเจอมีอะไรบ้างติดตามได้ในเรื่องแค้นสวาทรามสูรเลยค่าา..พระเอกเมืองราม ศิริศังกร [ราม]อายุ40ปีพ่อเลี้ยงหนุ่มใหญ่สูง185ผิวพรรณสะอาดผุดผ่องถึงแม้จะอยู่กับไร่กับสวนใบหน้าคมเข้มแววตาประดุจเหยี่ยวจมูกโด่งเป็นสันปากหนาเป็นกระจับร่างกายกำยำบึกบึนได้รูปแม้จะอายุเจ้าเลขสี่แล้วแต่เขาก็ยังดูสง่าเรีย