ท้ายไร่ชา
“มึงเป็นอะไรของมึงนักหนาผู้หญิงไม่ดีมึงก็ปล่อยไปมึงจะไปตามจองล้างจองผลาญให้เสียเวลาทำไมคนในไร่สาวๆสวยๆอยากจะเป็นเมียมึงทั้งนั้นมึงไม่สนบ้างรึไง”
พันแสงยืนหน้านิ่วคิ้วขมวดเท้าเอวมองเพื่อนตนอย่างอ่อนใจ
พ่อเลี้ยงพันแสงพ่อเลี้ยงหนุ่มใหญ่อายุ40ปีเช่นเดียวกับเมืองรามและรูปร่างหน้าตาดีไม่แพ้กันเป็นคนขี้เล่นเล้กน้อยแต่เมื่อถึงเวลางานก็เอาจริงเอาจังมากพอตัวและเป็นคนที่ค่อนข้างถือทิฐิอยู่มากแล้วแต่กับบางคนเขาเป็นเพื่อนของพ่อเลี้ยงเมืองรามตั้งแต่เล็กๆตอนนี้ก็เป็นพ่อเลี้ยงปกครองไร่วัฒนพรรณเป็นหนุ่มโสดในตอนนี้เช่นกันเพราะภรรยาของเขาได้เสียไปสามปีแล้วด้วยโรคไข้ป่าทำให้เขาครองความโสดมาจนถึงทุกวันนี้
“กูจะทำให้มันรู้ว่าคนที่หักหลังกูไม่มีวันอยู่เป็นสุขชู้มันก็เหมือนกันกูรู้ว่ามันรู้ว่าเดือนมีผัวอยู่แล้วมันก็ยังมายุ่งไอ้นี่กูก็จะเล่นงานมันเหมือนกัน”
เมืองรามกำหมัดแน่นสายตาของเขาที่แน่นิ่งเด็ดเดี่ยวมันทำให้พันแสงมองออกว่าเพื่อนของเขากำลังมีแผนการอะไรอยู่ในใจเป็นแน่
“นี่อย่าบอกนะว่าเรียกกูมามึงมีแผนอะไร”
“เออ..”
เมืองรามพยักหน้าเบาๆ
“กูว่าแล้วคนอย่างมึงถ้ามีเรื่องดีๆไม่เคยเรียกกูมาเข้าเฝ้าหรอก”
พันแสงสบถเสียงสูงทั้งชี้หน้าคนตรงหน้าอย่างรู้ทัน
“มึงจะช่วยกูไหมล่ะ”
เมืองรามถามเสียงแข็ง
“กูมาถึงนี่แล้วกูก็ต้องช่วยสิวะ...”
คนอย่างพันแสงถึงแม้จะดูชอบบ่นหรือปากมากในบางครั้งแต่กับเพื่อนเขาให้ความสำคัญก่อนเสมอ
“ดีหัวค่ำวันนี้กูจะลงกรุงเทพ”
“มึงจะไปทำไมหรือมึงรู้เหรอว่าเมียมึงกับชู้อยู่ที่ไหน”
พันแสงเกาหัวแกรกๆเมื่อเห็นสีหน้าที่เด็ดเดี่ยวของเมืองราม
“กูไม่รู้แต่กูจะไปบุกบ้านชู้มัน...กูจะไปเผาบ้านมัน”
เมืองรามกำหมัดแน่นสายตาของเขายังทอดมองไร่ชาที่สุดลุกหูลูกตาของเขาพรางนึกย้อนอดีตเห็นภาพตอนที่เขาชอบพาดวงเดือนมาเดินเล่นที่นี่บ่อยๆเมื่อยิ่งคิดความแค้นก็ยิ่งประทุขึ้นมากทุกที
“ไอ้ชิบ...มึงไม่กลัวตำรวจรึไง”
พันแสงถึงกับสบถออกมาอย่างไม่ระวังปากเพราะเพื่อนของเขานั้นเหมือนจะพาเขาซวยกันไปด้วยถึงแม้ว่าตัวเองจะมีเงินมากมายขนาดไหนแต่ก็ไม่ได้จะอยู่เหนือกฎหมายได้ขนาดนั้น
“มึงเคยเห็นคนอย่างกูกลัวอะไรไหมวะ”
เมืองรามมองหน้าคนเป็นเพื่อนอย่างเอาเรื่องตอนนี้เขาไม่กลัวอะไรทั้งนั้นหากคนอย่างเขาจะทำอะไรต้องมั่นใจแน่นอนว่าไม่มีใครจับได้
“กูว่ามึงแก้แค้นมันด้วยวิธีอื่นก็ได้มั้ง”
พันแสงค่อยๆพูดตะล่อมให้เพื่อนของเขาเปลี่ยนวิธีคิดใหม่
“มึงไปกับกูก่อนถึงโน่นค่อยว่ากันอีกที”
เมืองรามเหล่สายตามองหน้าเพื่อนของเขาอีกทีและยังไม่ให้คำตอบว่าจะทำอย่างไร
“กูพามึงไปได้แต่ถ้ามีเรื่องกูไม่รู้จักมึงทันทีนะ”
พันแสงแกล้งหยอก
“เอ้ะไอ้นี่..เดี๋ยวกูก็ยันหน้าหงายเลยนี่”
เมืองรามยกขายาวๆของเขาทำท่าจะยันเพื่อนรักที่ชอบปากหมาใส่จนพันแสงเอี้ยวตัวหลบจนเซเกือบจะตกลงไปที่เนินเขาดีที่ดึงตัวเองขึ้นมาได้ทัน
“กูก็หยอกเล่นหน่อยไม่ได้ไงวะ”
พันแสงหน้าเสียที่เมื่อครู่เกือบกลิ้งลงไปแล้ว
“หยอกไม่รู้เวลาเกือบกลิ้งตกเขาแล้วไหมล่ะมึง”
“แล้วมึงจะเอาไอ้ทศกับไอ้ทองไปด้วยไหมวะ”
“ไม่..ไอ้สองตัวนี้กูจะให้มันเฝ้าไร่”
เมืองรามไม่สนใจจะเอาเด็กหนุ่มคนสนิทไปเพราะรู้ว่าอาจจะทำเสียแผนก็เป็นได้เพราะเด็กพวกนี้ชอบกระโตกกระตากเป็นที่หนึ่ง
บางกอก
“หนึ่งชุดนี้เหมาะกับเธอมากเลยนะเราสั่งตัดให้”
นรีนาถอยู่ในชุดเดรสลายดอกสีเขียวเหลืองวันนี้เธอนัดนาราเพื่อนรักของเธอมาที่ร้านตัดเสื้อใกล้ๆบ้านเพราะต้องการจะให้ชุดที่เธอสั่งตัดเป็นของขวัญวันเกิดกับเพื่อนรักของเธอ
“เราคงไม่ได้ใส่ไปไหนหรอกหญิงวันๆก็อยู่แต่กับขนมกับครัว”
นาราหญิงสาววัยยี่สิบที่หน้าตาน่ารักน่าชังและรูปร่างไม่ต่างจากนรีนาถมากนักอยู่ในชุดสีขาวธรรมดาเพราะเธอไม่ได้มีเงินมากมายที่จะมีเสื้อผ้าดีๆใส่เพราะเป็นเพียงลูกแม่ค้าขายขนมไทยเท่านั้นเธอปฏิเสธคนเป็นเพื่อนด้วยสีหน้าเกรงใจชุดที่ตัดเป็นชุดเดรสสีชมพูอ่อนใช้ผ้าทออย่างดีเธอรู้ว่าราคามันคงสูงมากเธอจึงรับเอาไว้ไม่ได้จริงไม่อยากให้ใครมองว่าเธอคบกับนรีนาถก็เพื่อหวังกอบโกยผลประโยชน์
“มันต้องมีสักวันที่ได้ใส่รับไปเถอะน่าถือว่าเป็นของขวัญวันเกิดนะ”
นรีนาถคะยั้นคะยอให้นาราจนได้เพราะตลอดเวลาที่รู้จักกันมานาราเป็นคนที่จริงจังและไม่ได้หวังอะไรจากตัวเธอแม้เธอจะมีเงินทองมากมายที่พร้อมจะให้เพื่อนเธอตลอดเวลาก็ตาม
“ขอบใจมากเลยนะหญิง”
เมื่อเป็นคำพูดนี้นาราก็ต้องยื่นมือรับไว้เพราะไม่อยากขัดน้ำใจกับเพื่อน
“น้องหญิง”
“พี่สิงห์มารับแล้วเราไปก่อนนะ”
นรีนาถเห็นสิงหนาทอาหนุ่มของเธอที่เธอเรียกเป็นพี่มาโดยตลอดมารับแล้วจึงต้องขอตัวกลับทันทีเพราะนี่ก็ใกล้จะเย็นมากแล้วเธอไม่อยากให้เพื่อนเธอกลับบ้านเย็นเช่นกัน
“จะ”
นาราเห็นเพื่อนเธอนั่งรถออกไปแล้วจึงเตรียมตัวเดินกลับบ้านเช่นกันเพราะต้องกลับไปช่วยคนเป็นแม่เตรียมวัตถุดิบเพื่อที่จะทำขนมไว้ขายวันพรุ่งนี้
“นั่นอะไรเหรอ”ในระหว่างที่ขับรถสิงหนาทหันไปเห็นตระกร้าหวายที่มีผ้าขาวบางปิดอยู่ในมือของนรีนาถจึงแปลกใจว่าหญิงสาวถืออะไรกลับมาด้วย“ขนมตาลน่ะค่ะแม่ของหนึ่งให้เอามาฝาก”นรีนาถค่อยๆเปิดผ้าขาวบางที่คลุมขนมตาลฟูเหลืองอร่ามในกระทงใบตองเล็กๆให้สิงหนาทได้ดู“ดีสิพี่กำลังอยากทานอยู่พอดีเลยไม่รู้ว่าน้องหญิงจะแบ่งให้พี่ได้ไหมนะ”สิงหนาทรู้ดีว่าขนมไทยที่แม่ของนาราเป็นคนทำอร่อยแค่ไหนจึงต้องเอ่ยปากของนรีนาถอย่างไม่เกรงใจ“ได้สิคะหนึ่งเอามาฝากเยอะเลย”นรีนาถไม่ได้หวงสิงหนาทแม้แต่น้อยเพราะขนมนี่มันก็เยอะพอที่จะแบ่งได้หลายคน“วันหน้าพี่คงต้องไปอุดหนุนถึงที่ร้านหนึ่งเสียแล้วล่ะให้ขนมเราทานฟรีบ่อยเกินจนพี่เริ่มเกรงใจแล้ว”สิงหนาทเห็นทีจะต้องไปอุดหนุนนาราถึงที่บ้านเสียแล้วเพราะเขาได้ทานขนมฟรีจากบ้านนานราบ่อยเสียเหลือเกินจนเริ่มเกรงใจ“ดีเลยค่ะไว้วันที่พี่สิงห์ว่างเราไปร้านหนึ่งกันนะคะ”นรีนาถเห็นด้วยเช่นนั้นเหมือนกันเพราะเธอก็กะจะชวนสิงหนาทในวันที่เขาว่างไปที่บ้านนาราเช่นกันแต่ติดตรงที่น้อยครั้งนักที่สิงหนาทจะว่าง“ครับ”สิงหนาทชายหนุ่มอายุ30ปีรูปร่างหล่อเหลาใบหน้าคมเข้มผิวขาวสะอาดสะอ้านส่วนสูง185เป็นชา
“เออ..ไปล้างหน้าล้างตาก่อน”“แล้วมึงรู้เหรอว่าบ้านชู้เมียมึงอยู่ที่ไหน”พันแสงเปิดกระจกหยิบขวดน้ำในรถมาเทใส่มือลูบหน้าลูบตาเมื่อเสร็จแล้วจึงหันมาถามเมืองรามด้วยสีหน้าสงสัยว่าเพื่อนของเขารู้แล้วเหรอว่าบ้านโจทย์ที่ตามหาอยู่ที่ไหน“ตรงหน้ามึงนี่ไง”เมืองรามสะบัดหัวเล็กน้อยไปทางเรือนธิติลักษณ์ที่เป็นเรือนใหญ่ทรงปั้นหยาให้คนเป็นเพื่อนดูนอกรั้ว“หา..นี่มึงไม่คิดจะหลงบ้างไงวะ”“กูจะหลงได้ไงก็กูรู้ที่อยู่ผู้ใหญ่ให้กูมา”พันแสงมองไปยังรั้วบ้านที่เป็นทรงปั้นหยาร่วมสมัยหลังใหญ่ตรงหน้าด้วยสีหน้าที่งงงวยเล็กน้อยเพราะไม่คิดว่าเมืองรามจะมาถูกโดยที่ไม่หลงแม้แต่นิดเดียว“แล้วมึงเอาไงต่ออะมึงจะเผาบ้านเค้าจริงเหรอวะ”พันแสงเลิกคิ้วสงสัย“กูเปลี่ยนใจแล้วกูจะให้มันตายทั้งเป็นแทน”เมืองรามพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉยแต่มียกยิ้มมุมปากเล็กน้อยเพราะเขานั้นได้ไปรู้อะไรดีๆมาว่าภิภพนั้นมีของรักของหวงอยู่ในบ้านหลังนี้และเขาจะใช้จุดอ่อนนี้เล่นงานภิภพ“ยังไงวะ”พันแสงเกาหัวแกรกๆทั้งสีหน้ายังขมวดครุ่นคิดไม่เจ้าใจสิ่งที่เมืองรามพูดสักเท่าไร“กูจะพาลูกสาวมันกลับไปที่ไร่แล้วให้มันไปตามเอาเองดูซิว่าถ้ามันรู้ว่าลูกมันถูกทำอะไรบ
"อะไรนะ...แล้วตอนน้องหญิงออกไปไม่มีใครไปด้วยหรืออย่างไร"สิงหนาทขมวดคิ้วถามทุกคนในบ้านที่ยืนก้มหน้างุดกันเสียงแข็ง"คุณหญิงไม่ให้ใครตามไปเธอให้เหตุผลว่าบ้านหนูหนึ่งอยู่ใกลๆเธออยากเดินไปเองค่ะ"นมสรวงต้องรีบอธิบายก่อนที่คนอื่นจะโดนคาดโทษไปด้วยหากมีคนผิดก็ขอให้เป็นที่เธอเองที่ตามใจคุณหนูของตนเองจนเกินไป"เฮ้อ...เดี๋ยวผมจะไปตามหาน้องหนึ่งอีกครั้งเอง"พูดจบสิงหนาทก็ออกรถหมายขับไปให้ถึงที่บ้านของนาราอย่างรวดเร็ว"โถ่..คุณหญิงของนมอยู่ไหนกันคะ"นมสรวงเข่าทรุดเล็กน้อยเพราะตอนนี้เธอเป็นห่วงคุณหนูของเธอเหลือเกินหากย้อนเวลาไปได้เธอจะไม่ให้คุณหนูของเธอไปไหนตามลำพังอีกเลยบ้านนารา"แม่คะยาค่ะ"ในเพลิงไม้เก่าๆริมแม่น้ำเป็นบ้านของนารีและนาราและเป็นหน้าร้านขายขนมไทยที่อยู่ที่เดียวกันหลังจากที่สองแม่ลูกช่วยกันจัดแจงวัตถุดิบเพื่อทำขนมในเช้าวันถัดไปเสร็จก็มานั่งกินข้าวหลังจากทั้งสองกินข้าวกันเรียบร้อยแล้วนาราก็ไม่ลืมที่จะจัดยาให้กับคนเป็นแม่กินเพราะหากรอคนเป็นแม่กินเองก็คงลืมอีกเช่นเคย"ขอบใจลูก"นารีเป็นโรคเบาหวานและหัวใจมานานแล้วและตอนนี้ก็พ่วงด้วยไตเสื่อมมาอีกทำให้ต้องกินยาอย่างต่อเนื่อง"ต่อไปนี้หน
ชั่วโมงต่อมาโรงพยาบาล"หมอคะคุณแม่ดิฉันเป็นยังไงบ้างคะ"นารารีบเข้าไปถามหมอหนุ่มด้วยสีหน้ากังวลกลัวว่าแม่ของเธอจะเป็นอะไรร้ายแรง"คือ...หมอต้องเสียใจด้วยนะครับแม่ของคุณเสียด้วยอาการหัวใจวายเฉียบพลันครับ""อ..อะไรนะคะ"นาราเข่าทรุดยวบหมดสติกะทันหันอย่างไม่ทันตั้งตัวจากที่กลัวว่าแม่เธอจะเป็นอะไรร้ายแรงเรื่องกลับร้ายกว่าที่คิดเพราะแม่ของเธอมาจากไปโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว"หนึ่ง..."สิงหนาทรับร่างบางเอาไว้ได้ทันหน้าของเขาตอนนี้ซีดเผือดอย่างเห็นได้ชัดปฏิเสธไม่ได้เลยว่าที่แม่ของหญิงสาวจากไปเร็วเพียงนี้มาจากการกระทำที่ขาดสติของเขาไร่ศังกร23.00 น.พลั้กกกกก"อร้ายย...นายเป็นใครจับฉันมาทำไม"นรีนาถตัวสั่นเป็นลูกนกเมิ่อถูกโยนเข้ามาในกระท่อมซึ่งไม้ไผ่น่าจะอยู่กลางป่ามีเพียงตะเกียงที่จุดให้มีแสงสว่สงเพียงแค่รำไรเท่านั้นทำ"เป็นใครก็เรื่องของฉันส่วนเธออย่าคิดหนีไม่อย่างนั้น..ตาย"เมืองรามไม่เพียงชักปืนมาวางขู่หญิงสาวเขารีบจับเธอมัดข้อมือของหญิงสาวกับข้อมือของเขาผูกมัดติดกันและลงตัวนอนข้างหญิงสาวทันทีเพราะเวลานี้เขาเหนื่อยและเพลียเกินกว่าที่จะมานั่งตอบคำถามหรือคุยอะไรกับหญิงสาวตอนนี้"หา...."นรี
"ไม่ต้องเสือกอยากรู้วันนั้นมาถึงเดี๋ยวก็ได้เห็นเอง..กินข้าวได้แล้ว"ชายหนุ่มสะบัดหน้าน้อยๆของเธอเต็มแรงจนหน้าหวานมีรอยแดงเป็นปื้นแต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้คนที่กำลังไฟลุกท่วมหัวใจสงสารผู้หญิงตัวเล็กๆแม้แต่นิดเดียว"........"นรีนาถน้ำตาเล็ดด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจที่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ถึงแม้ว่าร่างกายเธอจะส่งเสียงร้องว่าต้องการอาหารแค่ไหนก็ตามแต่จะให้เธอกินอะไรเข้าไปตอนนี้คงจะกลืนไม่ลงอยู่ดี"บอกให้กินไง..""อร้ายยย..."เพล้งงงง"โถ่เอ้ย..."เมืองรามตะคอกเสียงฝาดเพราะคนตรงหน้าไม่ยอมรับถาดข้าวดีๆเขาจับเธอมาไม่ได้ต้องการให้ตายไวเขาต้องเลี้ยงเธอไว้เป็นเครื่องมือแก้แค้นดังนั้นยังไงหญิงสาวก็ต้องได้กินด้วยความที่ตกใจในเสียงตวาดของชายหนุ่มทำให้นรีนาถเผลอปัดมือไปถูกถาดอาหารจนล่วงกระจายเต็มพื้นนั่นก็เป็น้หตุให้เมืองรามหัวเสียอีกรอบและผลักร่างบางเต็มแรงจนเธอร้องให้สะอื้นไม่ยอมหยุด"ฮึก...ฮือๆๆๆๆ..""จะร้องอีกนานไหมวะ...รำคาญ"เมืองรามนั่งมองคนตรงหน้าสะอื้นให้มาพักใหญ่อย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดจนต้องเสียงแข็งใส่หญิงสาวอีกรอบเพราะรู้สึกรำคาญเสียงสะอื้นเต็มทน"พ่อเลี้ยง""มีอะไร.."เมืองรามได้ยินเสียงทศพ
"แม่จันทร์จะมีสักวันไหมที่พ่อเลี้ยงพันแสงเค้าจะเลิกเกลียดแก้ว"คำแก้วมองตามหลังพันแสงอย่างเหนื่อยใจ"วันใดที่เค้าหมดทิฐิวันนั้นพ่อเลี้ยงพันแสงคงจะดีขึ้นเองเอ็งอย่าไปสนใจอะไรมากเลยคำแก้วเค้าก็อยู่ส่วนเค้าเราก็อยู่ส่วนเรา"ฟองจันทร์ก็ได้แต่ปลอบคำแก้วว่าอย่าได้ไปใส่ใจคนที่มีทิฐิอยู่ในใจต่อให้มีคำอธิบายหรือเหตุผลดีสักเท่าไรก็ไม่เข้าใจได้ง่ายอยู่ดี"จะแม่จันทร์"คำแก้วเองก็ได้แต่ทำใจถึงเธอจะถูกฟองจันทร์ปลอบอยู่หลายครั้งแต่เมื่อเจอหน้าพันแสงทีไรก็อดมีอาการรู้สึกผิดทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิดไม่ได้เสียที... ที่พันแสงไม่อยากจะเห็นหน้าเธอก็เพราะว่าเมื่อย้อนกลับไปเมื่อประมาณเกือบสิบเก้าปีที่แล้วแม่ของคำแก้วและพ่อของเธอเป็นลูกไร่ของแม่พ่อเลี้ยงพันแสงและเหตุการณ์เลวร้ายก็ได้เกิดขึ้นกับพ่อเธอด้วยเหตุจากการไปหาของป่าและถูกเสือทำร้ายจนเสียชีวิตในขณะที่แม่ของเธอท้องเพียงไม่กี่เดือนแม่ของพันแสงเลยรับจะดูแลแม่ของเธอเองเมื่อถึงวันคลอดคืนนั้นไม่มีใครอยู่เรือนเลยสักคนนอกจากแม่ของพันแสงเธอจึงเดินฝ่าความมืดไปตามหมอตำแยแต่ด้วยความที่รีบร้อนและคืนนั้นเป็นคืนเดือนมืดสนิททำให้เธอพลาดเดินตกเขาไปจนเสียชีวิตจึงไม่ถึง
แคว้กกก"อร้ายยย...ปล่อยฉันนะ...ปล่อยยยยย..อื้มมม.."ชายหนุ่มนั่งคร่อมตัวหญิงสาวทั้งใช้ฉีกเสื้อตัวเก่าของเธอมาพันปิดปากของหญิงสาวเอาไว้คนที่คิดจะทำร้ายเขามันต้องเจอบทลงโทษที่สาสม"อืม...อื้ออออ..ฮือๆๆๆ.."เมืองรามมัดปิดปากหญิงสาวจนสำเร็จมือหนาถลกผ้าพันตัวของเธอออกจนเผยให้เห็นผิวขาวนวลผ่องเรือนร่างเล็กแต่มีทรวดทรงองเอวที่ซ่อนรูปอยู่พอสมควร"อืมม..."ชายหนุ่มไม่รอช้าไม่รู้ว่าตอนนี้อารมณ์โกรธของเขาเปลี่ยนเป็นอารมณ์สวาทคนใต้ร่างตอนไหนแต่เมื่อรู้ตัวอีกทีเขาก็อดใจที่จะไม่ซุกไปที่อกอวบอิ่มตั้งชูชันตรงหน้าไม่ได้"อื้อ..ฮืออออ..อื้ออออออ"หญิงสาวพยายามดิ้นหนีมือไม้ปัดป่ายจิกข่วนจนหลังพ่อเลี้ยงหนุ่มแดงเถือกไปด้วยรอยข่วนเธอเกลียดการกระทำของเขาเป็นที่สุดและรู้สึกขยะแขยงไปทั้งตัวจนน้ำตาเอ่อล้นแทบจะเปียกชุ่มไปทั้งใบหน้า"อื้มมม..อา.."เมืองรามเหมือนคนไม่ได้สติเมื่อได้สูดดมเนื้อหอมนุ่มของกายสาวคราแรกเขากะจะสั่งสอนเธอเล่นๆแต่ตอนนี้รู้สึกว่าอารมณ์สวาทที่พลุ่งพล่านทวีคุณในตัวมันทำให้เขาหยุดการกระทำนี้ไม่ได้เสียแล้ว"อื้ออ...ฮือๆๆๆ"นรีนาถกรีดร้องอยู่ได้แต่ในลำคอเธอส่ายหัวพัลวันในขณะที่เมืองรามกำลังจะแท
สองวันต่อมา"ขุดดินพรวนดินทำเป็นไหม"เมืองรามลากหญิงสาวมาที่แปลงผักตั้งแต่เช้าวันนี้เขาตั้งใจจะให้เธอทำงานเพราะจะมาให้นั่งกินนอนกินไปวันๆเขารู้สึกว่ามันไม่น่าใช่สิทธิพิเศษของหญิงสาวเท่าไร"ฉันไม่เคยทำ"นรีนาถมองกองอุปกรณ์การเกษตรตรงหน้าทั้งส่ายหัวเบาๆ"ไม่เคยทำก็ต้องทำอยู่ที่นี่ต้องทำงานแลกข้าวแลกน้ำ"เมืองรามเท้าเอวทั้งจ้องหน้าหญิงสาวและเอ่ยเสียงแข็ง"ก็ฉันไม่ได้อยากอยู่ที่นี่สักนิดถ้าไม่อยากเปลืองข้าวเปลืองน้ำก็ปล่อยฉันไปเถอะ"นรีนาถก้มหน้างุดรู้ว่าสิ่งที่เธอพูดอาจจะทำให้เขาไม่พอใจแต่เธอก็ต้องพูดเพราะเธอก็ไม่ได้อยากอยู่ให้เปลืองข้าวเปลืองน้ำของเขาเลยสักนิด"อย่าพูดมากแล้วอย่าแสร่บอกกับคนในนี้ล่ะว่าฉันจับเธอมาเพราะไม่อย่างนั้นโดนหมกอยู่ท้ายไร่แน่"เมืองรามกระชากร่างบางมากัดฟันกระซิบกำชับเธอเรื่องที่เธออยู่ที่นี่ได้อย่างไร"ไอ้สอนเดี๋ยวกูฝากมึงสอนงานคนของกูด้วยพรวนดินลงผักให้ครบทั้งแปลงให้เสร็จเลยนะ"เมื่อกำชับหญิงสาวเรียบร้อยแล้วเมืองรามก็พาหญิงสาวมาหาคำสอนเพื่อให้เธอมาช่วยงานที่แปลงผักวันนี้"มันจะไม่หนักไปเหรอครับพ่อเลี้ยง"คำสอนมองร่างบางอย่างสงสารเขาคิดว่างานที่พ่อเลี้ยงหนุ่มใช้ห