ช่วงประมาณปี พ.ศ 2500
เชียงใหม่
ไร่ศังกร
ปั้งๆๆๆๆ
ไร่ศังกรเชียงใหม่ตั้งอยู่ที่ราบสูงตอนนี้อยู่ช่วงหน้าฝนมองสุดลูกหูลูกตาก็มีแต่สีเขียวขจีไปทั่วทุกมุมไร่..อาณาเขตของไร่นี้มีนับพันไร่เป็นพื้นที่ส่วนตัวอย่างมากที่ยากต่อการเข้าถึงหากมิใช่คนในจะไม่รู้ทางและอาจจะหลงเข้าป่าไปได้..ที่ไร่นี้ทำการเกษตรหลายอย่างรวมกันปกครองโดยพ่อเลี้ยงเมืองรามวัยสี่สิบปีชายหนุ่มที่ยิ่งทีอายุยิ่งดูดีสาวๆในราเมื่อมีโอกาสก็มิวายจะโปรยเสน่ห์หรือถวายตัวให้โดยไม่มีข้อแม้เพราะรู้ตัวว่าหากเป็นคนของเมืองรามนั้นจะไม่ต้องทำงานไปตลอดชาติเลยก็ยังได้
คล้อยบ่ายแดดเปรี้ยงพ่อเลี้ยงหนุ่มที่อยู่ในชุดคาวบอยสวมหมวกสีน้ำตาลรับกับใบหน้าคมเข้มชายหนุ่มยืนหน้านิ่งคิ้วขมวดเพราะโทสะที่อยู่ในใจมือขวาและซ้ายต่างก็มีปืนสั้นอยู่ในมือทั้งรัวปล่อยกระสุนปืนอยู่ที่กระท่อมเถียงนาใส่หุ่นไล่กาสิบกว่าตัวที่สั่งให้คนสนิทสร้างขึ้นมาให้เพื่อระบายอารมณ์
เหงื่อตามเนื้อตัวไหลซิกออกมาไม่หยุดเพราะความร้อนจากแดดบวกกับความร้อนในใจมันแผดเผาพ่อเลี้ยงหนุ่มอยู่นั่นเองที่มันเป็นอย่างนี้ก็เพราะว่าเมียสุดที่รักของเขาที่เฝ้าประคบประหงมอย่างดีนั้นหนีไปกับหนุ่มเมืองกรุงหน้าใหม่ที่พึ่งเจอกันได้ไม่นานนั่นเอง
“โอ้ยๆ..พ่อเลี้ยง..หนวกหูไปหมดแล้วคร้าบบบบ”
ทศพลนอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนเถียงนาหมายจะนอนหลับยามบ่ายเสียหน่อยแต่ก็ต้องนอนไม่ได้เพราะเสียงปืนที่รัวใส่หุ่นไร่กาฝีมือตัวเองที่ทำขึ้นมาไม่ขาดสายเมื่อหมดความอดทนจึงลุกมาตะโกนหน้าหงิกหน้างอใส่พ่อเลี้ยงหนุ่มด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
ทศพลชายหนุ่มวัยสิบแปดเป็นคนที่พ่อเลี้ยงเมืองรามเลี้ยงเอาไว้ตั้งแต่แบเบาะเพราะมีคนเอามาทิ้งตั้งแต่แบเบาะเมืองรามรักทศพลเหมือนน้องชายคนนึงแต่ทั้งคู่ก็ชอบกัดกันตลอดเพราะทศพลนั้นชอบหาเรื่องกวนประสาทเมืองรามอยู่เรื่อย
“เงียบปากไปไอ้ทศหรือมึงจะให้กูเปลี่ยนจากหุ่นเป็นมึง”
เมืองรามหยุดมือทั้งหันมามองหน้าทศพลหน้านิ่งอย่างไม่พอใจทั้งจ่อกระบอกปืนมาที่เถียงนาจนทศพลนั้นกระโดลงเถียงนาแทบไม่ทัน
“เอ่อ..เชิญยิงต่อเลยจะเอาให้สบายใจพ่อเลี้ยงเลยจะเดี๋ยวทศจะไปหาน้ำมาให้กินนะจ้ะ”
ทศพลรีบพุดจาเสียงอ่อนเสียงหวานให้เมืองรามใจเย็นลงทั้งรีบวิ่งหมายจะหาน้ำหาท่าให้พ่อเลี้ยงหนุ่มได้กินจะได้ใจเย็นลงเขารู้ว่าเมืองรามรักเขาเหมือนน้องแต่วินาทีนี้ที่เมืองรามกำลังโมโหเพราะเมียหนีจะกล้ายิงเขาจริงหรือเปล่าแต่เขาก็จะไม่ประมาทไปก่อนเด็ดขาด
“ไอ้เวรวันๆกวนประสาทแต่กูนี่แหละ”
ปั้งๆๆ
เมืองรามตวาดเสียงฝาดยิงปืนรัวไปตรงเด็กหนุ่มจนทศพลกระโดดกระเด้งหาที่หลบแทบไม่ทันหากเมืองรามตั้งใจคงถูกเด็กหนุ่มตั้งแต่นัดแรกแล้วแต่นี่เพื่อสั่งสอนว่าอย่ากวนประสาทเขาในเวลานี้ก็เท่านั้น
“โอ้ยย..พ่อเลี้ยงยิงไปทางนั้นสิจะมายิงทางผมทำไมล่ะ”
เมื่อเสียงปืนสงบลงทศพลชะเง้อหน้าออกมาจากหลังต้นมะพร้าวด้วยสีหน้าเจื่อนๆ
“ถ้ามึงวิ่งยังไม่พ้นสายตากูกูจะยิงหัวมึงนี่แหละ”
“ไปแล้วจ้าๆ”
เด็กหนุ่มรีบวิ่งจะฝุ่นคลุ้งเพราะกลัวคำขู่ของพ่อเลี้ยงหนุ่มในนาทีนี้ที่ไม่รู้ได้เลยว่าเจ้าตัวพูดจริงหรือพูดเล่น
เรือนศังกร
เรือนศังกรเป็นเรือนไม้สักหลังค่อนข้างไม่ใหญ่มากแต่ก็ถือว่าใหญ่สำหรับคนในที่นี้อาศัยอยู่เพียงแค่เมืองรามและมีแม่ครัวเก่าแก่เป็นฟองจันทร์อายุ60ปีที่อาศัยอยู่ในห้องเล็กที่นี่กับคำแก้วเด็กสาววัยสิบแปดน้องสาวบุญธรรมของเมืองรามส่วนทศพลนั้นอาศัยอยู่ในเรือนพักคนงานกับทองดี
“เสียงพ่อเลี้ยงยิงอะไรวะ”
ทองดีเด็กหนุ่มวัยสิบแปดที่เป็นเพื่อนเล่นกับทศพลมาตั้งแต่เด็กโตมามีเงินใช้ก็เพราะทำงานที่ไร่นี้เหมือนกันเมื่อเขาเห็นทศพลวิ่งเข้ามาที่หน้าเรือนเขาที่ถางหญ้าอยู่จึงรีบวิ่งเข้าไปถามว่าเสียงปืนที่รัวอยู่นานสองนานพ่อเลี้ยงกำลังยิงอะไร
“เค้าจะยิงกูนี่แหละ”
ทศพลพูดพร้อมกรอกตาถอนหายใจ
“มึงไปกวนโมโหอะไรพ่อเลี้ยงอีกล่ะ”
ทองดีพอจะรู้ว่าพ่อเลี้ยงและทศพลกัดกันประจำแต่ไม่รู้ครั้งนี้พ่อเลี้ยงโมโหอะไรที่ถึงขั้นจะยิงเพื่อนของเขาทั้งที่คนในไร่ต่างก็รู้ว่าพ่อเลี้ยงรักทศพลเหมือนน้องในไส้
“กวนอะไรเล่ามึงก็รู้ว่าพ่อเลี้ยงหงุดหงิดหัวเสียไม่เป็นการเป็นงานตั้งแต่รู้ว่าเมียหนีไปกับเศรษฐีนายธนาคารนั่นแล้ว”
ทศพลขมวดคิ้วเป็นปม
“เห้อ..คุณดวงเดือนนะคุณดวงเดือนอยู่ที่นี่พ่อเลี้ยงก็ให้คนดูแลนึกว่านางฟ้านางสวรรค์ดูซิมาทำกับพ่อเลี้ยงได้”
ทองดีได้ฟังคำที่เพื่อนของเขาพูดมาก็ส่ายหัวเบาๆอ่อนใจแทนพ่อเลี้ยงเพราะผู้คนที่นี่ใครๆต่างก็อิจฉาดวงเดือนที่พ่อเลี้ยงนั้นเลี้ยงสบายอย่างกับนางฟ้ายังมาทรยศไปกับคนกรุงได้
“โว้ย..ผู้หญิงสวยอย่างคุณดวงเดือนเค้าก็คงอยากจะแต่งตัวสวยเป็นสาวในเมืองกรุงกับเค้าบ้างล่ะมั้งอยู่แต่บ้านป่าแบบนี้คงจะเบื่อ”
ทศพลพูดพรางประชดเพราะเขาก็รู้สึกโกรธแทนเมืองรามเหมือนกันวันที่รู้ว่าเมียหายวันแรกๆแทบจะกินไม่ได้นอนไม่หลับกันเลยทีเดียวจนถึงทุกวันนี้ยังเป็นไม่หายแถมบวกกับความหงุดหงิดง่ายเพิ่มขึ้นมาด้วยอีกต่างหาก
“กูว่าถ้าพ่อเลี้ยงเจอคุณดวงเดือนอีกครั้งคงไม่เอาเธอไว้แน่ชู้เธอก็ด้วย”
ทองดีวางมือบนจอบดายหญ้าทั้งทำหน้าครุ่นคิดถึงสิ่งที่มันจะเกิด
“กูก็ว่างั้น”
ทศพลลูบหัวแกรกๆเขาเองก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน
ท้ายไร่ชา“มึงเป็นอะไรของมึงนักหนาผู้หญิงไม่ดีมึงก็ปล่อยไปมึงจะไปตามจองล้างจองผลาญให้เสียเวลาทำไมคนในไร่สาวๆสวยๆอยากจะเป็นเมียมึงทั้งนั้นมึงไม่สนบ้างรึไง”พันแสงยืนหน้านิ่วคิ้วขมวดเท้าเอวมองเพื่อนตนอย่างอ่อนใจพ่อเลี้ยงพันแสงพ่อเลี้ยงหนุ่มใหญ่อายุ40ปีเช่นเดียวกับเมืองรามและรูปร่างหน้าตาดีไม่แพ้กันเป็นคนขี้เล่นเล้กน้อยแต่เมื่อถึงเวลางานก็เอาจริงเอาจังมากพอตัวและเป็นคนที่ค่อนข้างถือทิฐิอยู่มากแล้วแต่กับบางคนเขาเป็นเพื่อนของพ่อเลี้ยงเมืองรามตั้งแต่เล็กๆตอนนี้ก็เป็นพ่อเลี้ยงปกครองไร่วัฒนพรรณเป็นหนุ่มโสดในตอนนี้เช่นกันเพราะภรรยาของเขาได้เสียไปสามปีแล้วด้วยโรคไข้ป่าทำให้เขาครองความโสดมาจนถึงทุกวันนี้“กูจะทำให้มันรู้ว่าคนที่หักหลังกูไม่มีวันอยู่เป็นสุขชู้มันก็เหมือนกันกูรู้ว่ามันรู้ว่าเดือนมีผัวอยู่แล้วมันก็ยังมายุ่งไอ้นี่กูก็จะเล่นงานมันเหมือนกัน”เมืองรามกำหมัดแน่นสายตาของเขาที่แน่นิ่งเด็ดเดี่ยวมันทำให้พันแสงมองออกว่าเพื่อนของเขากำลังมีแผนการอะไรอยู่ในใจเป็นแน่“นี่อย่าบอกนะว่าเรียกกูมามึงมีแผนอะไร”“เออ..”เมืองรามพยักหน้าเบาๆ“กูว่าแล้วคนอย่างมึงถ้ามีเรื่องดีๆไม่เคยเรียกกูมาเข้าเฝ้าหรอก
“นั่นอะไรเหรอ”ในระหว่างที่ขับรถสิงหนาทหันไปเห็นตระกร้าหวายที่มีผ้าขาวบางปิดอยู่ในมือของนรีนาถจึงแปลกใจว่าหญิงสาวถืออะไรกลับมาด้วย“ขนมตาลน่ะค่ะแม่ของหนึ่งให้เอามาฝาก”นรีนาถค่อยๆเปิดผ้าขาวบางที่คลุมขนมตาลฟูเหลืองอร่ามในกระทงใบตองเล็กๆให้สิงหนาทได้ดู“ดีสิพี่กำลังอยากทานอยู่พอดีเลยไม่รู้ว่าน้องหญิงจะแบ่งให้พี่ได้ไหมนะ”สิงหนาทรู้ดีว่าขนมไทยที่แม่ของนาราเป็นคนทำอร่อยแค่ไหนจึงต้องเอ่ยปากของนรีนาถอย่างไม่เกรงใจ“ได้สิคะหนึ่งเอามาฝากเยอะเลย”นรีนาถไม่ได้หวงสิงหนาทแม้แต่น้อยเพราะขนมนี่มันก็เยอะพอที่จะแบ่งได้หลายคน“วันหน้าพี่คงต้องไปอุดหนุนถึงที่ร้านหนึ่งเสียแล้วล่ะให้ขนมเราทานฟรีบ่อยเกินจนพี่เริ่มเกรงใจแล้ว”สิงหนาทเห็นทีจะต้องไปอุดหนุนนาราถึงที่บ้านเสียแล้วเพราะเขาได้ทานขนมฟรีจากบ้านนานราบ่อยเสียเหลือเกินจนเริ่มเกรงใจ“ดีเลยค่ะไว้วันที่พี่สิงห์ว่างเราไปร้านหนึ่งกันนะคะ”นรีนาถเห็นด้วยเช่นนั้นเหมือนกันเพราะเธอก็กะจะชวนสิงหนาทในวันที่เขาว่างไปที่บ้านนาราเช่นกันแต่ติดตรงที่น้อยครั้งนักที่สิงหนาทจะว่าง“ครับ”สิงหนาทชายหนุ่มอายุ30ปีรูปร่างหล่อเหลาใบหน้าคมเข้มผิวขาวสะอาดสะอ้านส่วนสูง185เป็นชา
“เออ..ไปล้างหน้าล้างตาก่อน”“แล้วมึงรู้เหรอว่าบ้านชู้เมียมึงอยู่ที่ไหน”พันแสงเปิดกระจกหยิบขวดน้ำในรถมาเทใส่มือลูบหน้าลูบตาเมื่อเสร็จแล้วจึงหันมาถามเมืองรามด้วยสีหน้าสงสัยว่าเพื่อนของเขารู้แล้วเหรอว่าบ้านโจทย์ที่ตามหาอยู่ที่ไหน“ตรงหน้ามึงนี่ไง”เมืองรามสะบัดหัวเล็กน้อยไปทางเรือนธิติลักษณ์ที่เป็นเรือนใหญ่ทรงปั้นหยาให้คนเป็นเพื่อนดูนอกรั้ว“หา..นี่มึงไม่คิดจะหลงบ้างไงวะ”“กูจะหลงได้ไงก็กูรู้ที่อยู่ผู้ใหญ่ให้กูมา”พันแสงมองไปยังรั้วบ้านที่เป็นทรงปั้นหยาร่วมสมัยหลังใหญ่ตรงหน้าด้วยสีหน้าที่งงงวยเล็กน้อยเพราะไม่คิดว่าเมืองรามจะมาถูกโดยที่ไม่หลงแม้แต่นิดเดียว“แล้วมึงเอาไงต่ออะมึงจะเผาบ้านเค้าจริงเหรอวะ”พันแสงเลิกคิ้วสงสัย“กูเปลี่ยนใจแล้วกูจะให้มันตายทั้งเป็นแทน”เมืองรามพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉยแต่มียกยิ้มมุมปากเล็กน้อยเพราะเขานั้นได้ไปรู้อะไรดีๆมาว่าภิภพนั้นมีของรักของหวงอยู่ในบ้านหลังนี้และเขาจะใช้จุดอ่อนนี้เล่นงานภิภพ“ยังไงวะ”พันแสงเกาหัวแกรกๆทั้งสีหน้ายังขมวดครุ่นคิดไม่เจ้าใจสิ่งที่เมืองรามพูดสักเท่าไร“กูจะพาลูกสาวมันกลับไปที่ไร่แล้วให้มันไปตามเอาเองดูซิว่าถ้ามันรู้ว่าลูกมันถูกทำอะไรบ
"อะไรนะ...แล้วตอนน้องหญิงออกไปไม่มีใครไปด้วยหรืออย่างไร"สิงหนาทขมวดคิ้วถามทุกคนในบ้านที่ยืนก้มหน้างุดกันเสียงแข็ง"คุณหญิงไม่ให้ใครตามไปเธอให้เหตุผลว่าบ้านหนูหนึ่งอยู่ใกลๆเธออยากเดินไปเองค่ะ"นมสรวงต้องรีบอธิบายก่อนที่คนอื่นจะโดนคาดโทษไปด้วยหากมีคนผิดก็ขอให้เป็นที่เธอเองที่ตามใจคุณหนูของตนเองจนเกินไป"เฮ้อ...เดี๋ยวผมจะไปตามหาน้องหนึ่งอีกครั้งเอง"พูดจบสิงหนาทก็ออกรถหมายขับไปให้ถึงที่บ้านของนาราอย่างรวดเร็ว"โถ่..คุณหญิงของนมอยู่ไหนกันคะ"นมสรวงเข่าทรุดเล็กน้อยเพราะตอนนี้เธอเป็นห่วงคุณหนูของเธอเหลือเกินหากย้อนเวลาไปได้เธอจะไม่ให้คุณหนูของเธอไปไหนตามลำพังอีกเลยบ้านนารา"แม่คะยาค่ะ"ในเพลิงไม้เก่าๆริมแม่น้ำเป็นบ้านของนารีและนาราและเป็นหน้าร้านขายขนมไทยที่อยู่ที่เดียวกันหลังจากที่สองแม่ลูกช่วยกันจัดแจงวัตถุดิบเพื่อทำขนมในเช้าวันถัดไปเสร็จก็มานั่งกินข้าวหลังจากทั้งสองกินข้าวกันเรียบร้อยแล้วนาราก็ไม่ลืมที่จะจัดยาให้กับคนเป็นแม่กินเพราะหากรอคนเป็นแม่กินเองก็คงลืมอีกเช่นเคย"ขอบใจลูก"นารีเป็นโรคเบาหวานและหัวใจมานานแล้วและตอนนี้ก็พ่วงด้วยไตเสื่อมมาอีกทำให้ต้องกินยาอย่างต่อเนื่อง"ต่อไปนี้หน
ชั่วโมงต่อมาโรงพยาบาล"หมอคะคุณแม่ดิฉันเป็นยังไงบ้างคะ"นารารีบเข้าไปถามหมอหนุ่มด้วยสีหน้ากังวลกลัวว่าแม่ของเธอจะเป็นอะไรร้ายแรง"คือ...หมอต้องเสียใจด้วยนะครับแม่ของคุณเสียด้วยอาการหัวใจวายเฉียบพลันครับ""อ..อะไรนะคะ"นาราเข่าทรุดยวบหมดสติกะทันหันอย่างไม่ทันตั้งตัวจากที่กลัวว่าแม่เธอจะเป็นอะไรร้ายแรงเรื่องกลับร้ายกว่าที่คิดเพราะแม่ของเธอมาจากไปโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว"หนึ่ง..."สิงหนาทรับร่างบางเอาไว้ได้ทันหน้าของเขาตอนนี้ซีดเผือดอย่างเห็นได้ชัดปฏิเสธไม่ได้เลยว่าที่แม่ของหญิงสาวจากไปเร็วเพียงนี้มาจากการกระทำที่ขาดสติของเขาไร่ศังกร23.00 น.พลั้กกกกก"อร้ายย...นายเป็นใครจับฉันมาทำไม"นรีนาถตัวสั่นเป็นลูกนกเมิ่อถูกโยนเข้ามาในกระท่อมซึ่งไม้ไผ่น่าจะอยู่กลางป่ามีเพียงตะเกียงที่จุดให้มีแสงสว่สงเพียงแค่รำไรเท่านั้นทำ"เป็นใครก็เรื่องของฉันส่วนเธออย่าคิดหนีไม่อย่างนั้น..ตาย"เมืองรามไม่เพียงชักปืนมาวางขู่หญิงสาวเขารีบจับเธอมัดข้อมือของหญิงสาวกับข้อมือของเขาผูกมัดติดกันและลงตัวนอนข้างหญิงสาวทันทีเพราะเวลานี้เขาเหนื่อยและเพลียเกินกว่าที่จะมานั่งตอบคำถามหรือคุยอะไรกับหญิงสาวตอนนี้"หา...."นรี
"ไม่ต้องเสือกอยากรู้วันนั้นมาถึงเดี๋ยวก็ได้เห็นเอง..กินข้าวได้แล้ว"ชายหนุ่มสะบัดหน้าน้อยๆของเธอเต็มแรงจนหน้าหวานมีรอยแดงเป็นปื้นแต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้คนที่กำลังไฟลุกท่วมหัวใจสงสารผู้หญิงตัวเล็กๆแม้แต่นิดเดียว"........"นรีนาถน้ำตาเล็ดด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจที่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ถึงแม้ว่าร่างกายเธอจะส่งเสียงร้องว่าต้องการอาหารแค่ไหนก็ตามแต่จะให้เธอกินอะไรเข้าไปตอนนี้คงจะกลืนไม่ลงอยู่ดี"บอกให้กินไง..""อร้ายยย..."เพล้งงงง"โถ่เอ้ย..."เมืองรามตะคอกเสียงฝาดเพราะคนตรงหน้าไม่ยอมรับถาดข้าวดีๆเขาจับเธอมาไม่ได้ต้องการให้ตายไวเขาต้องเลี้ยงเธอไว้เป็นเครื่องมือแก้แค้นดังนั้นยังไงหญิงสาวก็ต้องได้กินด้วยความที่ตกใจในเสียงตวาดของชายหนุ่มทำให้นรีนาถเผลอปัดมือไปถูกถาดอาหารจนล่วงกระจายเต็มพื้นนั่นก็เป็น้หตุให้เมืองรามหัวเสียอีกรอบและผลักร่างบางเต็มแรงจนเธอร้องให้สะอื้นไม่ยอมหยุด"ฮึก...ฮือๆๆๆๆ..""จะร้องอีกนานไหมวะ...รำคาญ"เมืองรามนั่งมองคนตรงหน้าสะอื้นให้มาพักใหญ่อย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดจนต้องเสียงแข็งใส่หญิงสาวอีกรอบเพราะรู้สึกรำคาญเสียงสะอื้นเต็มทน"พ่อเลี้ยง""มีอะไร.."เมืองรามได้ยินเสียงทศพ
"แม่จันทร์จะมีสักวันไหมที่พ่อเลี้ยงพันแสงเค้าจะเลิกเกลียดแก้ว"คำแก้วมองตามหลังพันแสงอย่างเหนื่อยใจ"วันใดที่เค้าหมดทิฐิวันนั้นพ่อเลี้ยงพันแสงคงจะดีขึ้นเองเอ็งอย่าไปสนใจอะไรมากเลยคำแก้วเค้าก็อยู่ส่วนเค้าเราก็อยู่ส่วนเรา"ฟองจันทร์ก็ได้แต่ปลอบคำแก้วว่าอย่าได้ไปใส่ใจคนที่มีทิฐิอยู่ในใจต่อให้มีคำอธิบายหรือเหตุผลดีสักเท่าไรก็ไม่เข้าใจได้ง่ายอยู่ดี"จะแม่จันทร์"คำแก้วเองก็ได้แต่ทำใจถึงเธอจะถูกฟองจันทร์ปลอบอยู่หลายครั้งแต่เมื่อเจอหน้าพันแสงทีไรก็อดมีอาการรู้สึกผิดทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิดไม่ได้เสียที... ที่พันแสงไม่อยากจะเห็นหน้าเธอก็เพราะว่าเมื่อย้อนกลับไปเมื่อประมาณเกือบสิบเก้าปีที่แล้วแม่ของคำแก้วและพ่อของเธอเป็นลูกไร่ของแม่พ่อเลี้ยงพันแสงและเหตุการณ์เลวร้ายก็ได้เกิดขึ้นกับพ่อเธอด้วยเหตุจากการไปหาของป่าและถูกเสือทำร้ายจนเสียชีวิตในขณะที่แม่ของเธอท้องเพียงไม่กี่เดือนแม่ของพันแสงเลยรับจะดูแลแม่ของเธอเองเมื่อถึงวันคลอดคืนนั้นไม่มีใครอยู่เรือนเลยสักคนนอกจากแม่ของพันแสงเธอจึงเดินฝ่าความมืดไปตามหมอตำแยแต่ด้วยความที่รีบร้อนและคืนนั้นเป็นคืนเดือนมืดสนิททำให้เธอพลาดเดินตกเขาไปจนเสียชีวิตจึงไม่ถึง
แคว้กกก"อร้ายยย...ปล่อยฉันนะ...ปล่อยยยยย..อื้มมม.."ชายหนุ่มนั่งคร่อมตัวหญิงสาวทั้งใช้ฉีกเสื้อตัวเก่าของเธอมาพันปิดปากของหญิงสาวเอาไว้คนที่คิดจะทำร้ายเขามันต้องเจอบทลงโทษที่สาสม"อืม...อื้ออออ..ฮือๆๆๆ.."เมืองรามมัดปิดปากหญิงสาวจนสำเร็จมือหนาถลกผ้าพันตัวของเธอออกจนเผยให้เห็นผิวขาวนวลผ่องเรือนร่างเล็กแต่มีทรวดทรงองเอวที่ซ่อนรูปอยู่พอสมควร"อืมม..."ชายหนุ่มไม่รอช้าไม่รู้ว่าตอนนี้อารมณ์โกรธของเขาเปลี่ยนเป็นอารมณ์สวาทคนใต้ร่างตอนไหนแต่เมื่อรู้ตัวอีกทีเขาก็อดใจที่จะไม่ซุกไปที่อกอวบอิ่มตั้งชูชันตรงหน้าไม่ได้"อื้อ..ฮืออออ..อื้ออออออ"หญิงสาวพยายามดิ้นหนีมือไม้ปัดป่ายจิกข่วนจนหลังพ่อเลี้ยงหนุ่มแดงเถือกไปด้วยรอยข่วนเธอเกลียดการกระทำของเขาเป็นที่สุดและรู้สึกขยะแขยงไปทั้งตัวจนน้ำตาเอ่อล้นแทบจะเปียกชุ่มไปทั้งใบหน้า"อื้มมม..อา.."เมืองรามเหมือนคนไม่ได้สติเมื่อได้สูดดมเนื้อหอมนุ่มของกายสาวคราแรกเขากะจะสั่งสอนเธอเล่นๆแต่ตอนนี้รู้สึกว่าอารมณ์สวาทที่พลุ่งพล่านทวีคุณในตัวมันทำให้เขาหยุดการกระทำนี้ไม่ได้เสียแล้ว"อื้ออ...ฮือๆๆๆ"นรีนาถกรีดร้องอยู่ได้แต่ในลำคอเธอส่ายหัวพัลวันในขณะที่เมืองรามกำลังจะแท
"ไม่ต้องมีใครบอกพี่ก็รู้หมอกำลังมาแล้วพี่ตามมาเอง""หนึ่งต้องรีบไปซักผ้าลูกค่ะค้างไว้นานมันจะไม่ดี""ไม่ต้องผ้าพวกนั้นถ้ามันจะเป็นอะไรซื้อใหม่เอาก็ได้""พี่สิงห์"สิงหนาทโอบร่างบางให้นอนลงในขณะที่เธอกำลังจะฝืนลุกขึ้น"อย่าดื้อได้ไหมปล่อยให้ตัวเองเป็นไข้นานแล้วเมื่อไรลูกจะเข้าใกล้ได้""หนึ่งกินยาต้มเดี๋ยวก็หายแล้วค่ะจะตามหมอมาทำไมให้เปลืองค่ารักษา""พี่มีเงินพี่ออกค่ารักษาเมียพี่ได้""อย่าพูดแบบนี้เลยค่ะ...ตอนนี้เราเป็นแค่พ่อและแม่ของตานพเท่านั้น...นี่ไม่ไปทำงานทำการหรือไงคะถึงได้มานั่งเฝ้าหนึ่งอยู่ได้""ไม่...ช่วงนี้พี่ว่าง"สิงหนาทไม่สนใจแล้วว่าหญิงสาวจะต่อต้านเขายังไงเขาพูดกับตัวเองไว้แล้วว่ายังไงเขาก็จะต้องอยู่เป็นครอบครัวเดียวกับหญิงสาวให้ได้เพราะเขาให้เวลาเธออยู่กับลูกมาพักใหญ่แล้ว"ร่างกายคุณหนึ่งอ่อยเพลียมากนะครับเดี๋ยวหมอจะฉีดยาแก้ไข้แล้วก็จะให้ยาแก้ไข้กับยาบำรุงไว้ให้แล้วก็ทานตามที่หมอเขียนให้นะครับ"หมอหนุ่มตรวจอาการนาราพักใหญ่ก็ได้ข้อสรุปมาว่าร่างกายหญิงสาวนั้นอ่อนเพลียและค่อนข้างจะขาดสารอาหาร"ค่ะคุณหมอ""ช่วงนี้นอนพักเยอะๆนะครับทานอาหารให้ตรงเวลาช่วงเป็นไข้รับประทานแต่อ
"จริงเหรอ"นาราเบิกตาโพรงด้วยความดีใจ"ใช่...เพราะเรากับพี่รามต้องช่วยกันบริหารงานที่ธนาคาร"นรีนาถพนักหน้าเบาๆ"จริงใช่ไหม..เราดีใจที่สุดเลยนึกว่าจะต้องอยู่ห่างกันเสียอีก"นาราสวมกอดนรีนาถด้วยความดีใจ"ไม่เข้าไปล่ะ"เมืองรามเห็นสิงหนาทแอบมองสองสาวและเด็กๆอยู่ไกลๆจึงเข้ามาหา"นายก็รู้ว่าฉันถูกห้ามเรื่องอะไร"สิงหนาทก้มหน้าเล็กน้อยเพราะนาราเชื่อใจว่าเขาจะไม่เข้าใกล้จึงยอมไปอยู่กรุงเทพได้หากแลกกับความสบายของลูกเขาและนาราเขาจำต้องยอมไปก่อนแต่ก็จะหาวิธีเข้าหาเธอใหม่ไม่ปล่อยเธออยู่อย่างนี้ตลอดไปแน่นอน"เฮ้อ...แบบนี้ก็ต้องอดทนหน่อยนะ"เมืองรามตบบ่าสิงหนาทเบาๆสองวันต่อมา"บ้านนี้น่าอยู่เหมือนกันนะหนูหนึ่ง"อัญชัญเดินตามนาราที่กำลังอุ้มมานพซบหลับในอ้อมอกเข้ามาที่บ้านหลังเล็กอยู่ไม่ห่างเรือนธิติลักษณ์เท่าไรโดยมีสิงหนาทเป็นคนมาส่ง"น้าอัญชอบหรือเปล่าจ้ะ""ชอบสิน้าเคยอยู่ที่สบายแบบนี้เสียที่ไหนที่เป็นบุญของน้าเลยล่ะ""หนึ่งดีใจนะจ้ะที่เห็นน้ามีความสุขแบบนี้"นาราดีใจที่เห็นท่าทางอัญชัญมีความสุขหากเธอตัดสินใจผิดเธอคงไม่เห็นรอยยิ้มที่มีความสุขของอัญชัญแบบนี้เป็นแน่"เดี๋ยวน้าเดินดูรอบๆบ้านก่อนนะ"
"กลับไปเถอะค่ะหนึ่งอยู่กับลูกกับน้าอัญก็สบายดีแล้วพี่สิงห์กลับไปใช้ชีวิตของพี่เถอะเรื่องที่ผ่านมาหนึ่งอภัยให้ค่ะพี่สิงห์ไม่ต้องรู้สึกผิดนะคะ..."นาราพูดจบก็หมายจะอุ้มลูกเดินออกไป"ไม่ได้หนึ่งยังไงลูกก็ต้องได้อยู่กับพี่""จะพรากลูกไปจากหนึ่งเหรอคะ"แต่มีหรือสิงหนาทจะยอมเขารั้งร่างบางเอาไว้และอุ้มมานพมาไว้ในอ้อมอก"พี่ไม่ได้คิดจะพรากลูกไปจากหนึ่งแต่เราจะอยู่กันเป็นครอบครัวถ้าหนึ่งไม่อยากทิ้งน้าอัญของหนึ่งพี่ก็จะพาเธอไปอยู่ด้วยจะได้ไม่ต้องมาลำบากแบบนี้""ก็หนึ่งบอกแล้วไงคะว่าหนึ่งไม่ได้ลำบาก"นาราพยายามจะแย่งลูกคืนแต่ก็ทำอะไรได้ยากเพราะสิงหนาทโอบกอดลูกชายตนเอาไว้แน่น"อย่าดื้อกับพี่นะหนึ่ง"สิงหนาทจ้องนาราอย่างจริงจัง"อย่ามาสั่งหนึ่งค่ะ"นาราเองก็จ้องกลับสิงหนาทอย่างเขม็งเช่นกัน"แม่ๆ..""พี่สิงห์จะพาลูกไปไหนคะ...พี่สิงห์หยุดนะ""......"สิงหนาทเห็นท่าทีดื้อดึงของนาราแล้วก็ต้องใช้ลูกบังคับกันเช่นเดิมในเมื่อคุยกันไม่เข้าใจเขาก็ต้องอุ้มลูกวิ่งหนีไปเสียก่อน"อ้าวพี่สิงห์"นรีนาถเห็นสิงหนาทอุ้มมานพวิ่งออกไปจากบ้านเธอก็ตกใจเล็กน้อย"น้าอัญคะเค้าจะขโมยลูกหนึ่งไปค่ะ""เป็นผัวเมียกันก็ค่อยๆคุ
"ร้านอยู่ที่ไหนจ้ะแม่จันทร์""ตลาดในหมู่บ้านนี่เองจะ""มีอะไรกันรึเปล่า"เมืองรามเห็นนรีนาถและสิงหนาทดูรีบร้อนเป็นพิเศษจึงเกิดอยากจะถามให้หายสงสัยก่อนที่จะเดินออกไปจากเรือนนรีนาถจำต้องเดินไปด้วยเล่าไปด้วนว่าสิ่งที่สิงหนาทและเธอร้อนใจอยู่นั้นคือเรื่องอะไรตลาดในหมู่บ้าน"ร้านไหนจ้ะแม่จันทร์""ใกล้จะถึงแล้วจะ"นรีนาถมีท่าทางร้อนใจจนฟองจันทร์ต้องรีบเดินให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้"อ้าวแม่จันทร์มาซื้อขนมเพิ่มเหรอจ้ะ"เมื่ออัญชัญเห็นฟองจันทร์ก็รีบยิ้มทักทายเพราะตั้งแต่มาตั้งร้านขายที่หมู่บ้านนี้ไม่กี่วันมานี่ก็มีฟองจันทร์เป็นลูกค้าประจำคอยมาซื้ออยู่ทุกวันอัญชัญเป็นแม่ค้าขายขนมวัยเกือบจะสี่สิบเป็นโสดไม่เคยคิดจะมีสามีและเมื่อนารามาขออาศัยอยู่ด้วยจึงย้ายถิ่นมาขายของที่บ้านเก่าของเธอที่นี่"พอดีมีคนอยากจะซื้อเพิ่มน่ะจะ"ฟองจันทร์หันกลับไปหาทั้งสามที่ยืนมองอยู่หน้าร้าน"เหลือเท่านี้แหละจะจะเอาอะไรก็เลือกเลยนะจ้ะ""ยาย..""ตานพกินเลอะเทอะอีกแล้วมายายเช็ดปากให้"ไม่นานเด็กชายวัยเก้าเดือนนิดๆที่พึ่งจะหัดเดินกึ่งเดินกึ่งคลานเข้ามาหาอัญชัญด้วยหน้าตาที่ละม้ายคล้านสิงหนาทอย่างมากจึงทำให้ทั้งสามที่ยืน
"คู่นี้เข้าใจกันได้ก็น่าเอ็นดูดีนะคะ"นรีนาถแอบขำการคุยกันของสองหนุ่มทั้งดีใจที่คำแก้วและพันแสงลงเอยกันด้วยดีเสียที"ใช่..คนอย่างไอ้แสงลงได้รักใครมันก็รักและซื่อสัตย์กับคนนั้นคนเดียวพี่ถึงวางใจที่จะให้คำแก้วฝากชีวิตไว้กับมันไง""แล้วพี่รามคนนี้ล่ะคะ""พี่ก็รักเดียวใจเดียวไม่เปลี่ยนใจเหมือนกันจะ""ปากหวาน"นรีนาถจับริมฝีปากหนาของชายหนุ่มเล่นเบาๆ"อยากชิมปากหวานๆตอนนี้ไหมล่ะ""อื้อ..ไม่ค่ะ"นรีนาถรีบเอี้ยวตัวหลบก่อนที่เมืองรามจะมาทำประเจิดประเจ้อกับเธอที่หน้าเรือนปีต่อมา"แอ้ๆ..""ว่ายังไงตาชิต...อารมณ์ดีแต่เช้าเลยลูกพ่อ"เมืองรามกำลังจับลูกชายวัยหกเดือนที่กำลังจ้ำม่ำอาบน้ำในตอนเช้านรีนาถมองแล้วดูท่าทางคนเป็นพ่อจะอารมณ์ดีกว่าลูกเสียอีกที่ไม่ยอมพาลูกขึ้นจากน้ำเสียที"พี่รามคะ..พาลูกขึ้นจากน้ำได้แล้วค่ะ""ลูกกำลังอารมณ์ดีเลย"เมืองรามมองหน้าคนเป็นเมียบุ้ยปากแอบเสียดายเล็กน้อยที่ลูกกำลังเล่นกับเขาอารมณ์ดีแต่ต้องเลิกเล่นเสียแล้วเพราะกลัวว่าลูกจะไม่สบาย"เดี๋ยวจะป่วยเอานะคะ"นรีนาถส่ายหัวเบาๆ"ก็ได้...ไปเช็ดตัวกันนะลูก""พี่สิงห์...ไม่เห็นส่งข่าวมาบอกว่าจะมาเลยคะ"ในขณะที่นรีนาถเช็ดตัวเปลี่
"คำแก้ว..คำแก้ว""พ่อเลี้ยงอย่าพึ่งตามไปปล่อยคำแก้วมันไปก่อน"พันแสงหมายจะตามคำแก้วไปแต่ถูกสมิงรั้งเอาไว้ก่อนเพราะหากคำหล้ากดดันเจ้านายของเขาเช่นนี้เขาก็มีความจริงที่ต้องเปิดเผยเช่นกัน"ทำไม"พันแสงหันมาจ้องสมิงตาเขม็ง"ศรีอ่อนบอกแม่เอ็งไป"สมิงให้ศรีอ่อนบอกความจริงดับทุกคนว่าเธอนั้นเป็นอะไรกับเขาให้กลุ่มคนงานที่ยืนฟังเรื่องราวอยู่ให้รู้กันถ้วนหน้าไปเสียวันนี้เลย"แม่จ้ะ..เมื่อคืนพ่อเลี้ยงเมาไม่ได้ตั้งใจจริงๆและฉันก็...""ก็อะไร.."คำหล้าบีบแขนศรีอ่อนทั้งจ้องอย่างเอาเป็นเอาตาย"ได้เสียเป็นเมียพี่หมิงไปแล้วจะ...ฉันคงจะเป็นเมียพ่อเลี้ยงไม่ได้""อะไรนะ..นี่เอ็ง..อีนังลูกไม่รักดี"เพี๊ยะ..สิ้นคำลูกสาวคำหล้าก็เหวี่ยงมือฟาดไปที่หน้านวลจนเป็นรอยแดง"อย่าทำร้ายศรีอ่อนมันเลยฉันได้มันเป็นเมียแล้วฉันจะสู่ขอให้ถูกต้องตามประเพณีทุกอย่าง"สมิงรีบดึงศรีอ่อนมากอดเอาไว้เพราะไม่อยากมห้เธอตกเป็นเครื่องมือของคนเป็นแม่อีกที่ผ่านมาเขารู้ดีว่สคำหล้าจ้องจะทำอะไรแต่ในเมื่อศรีอ่อนรักอยู่กับเขาตัวเขาเองก็จะไม่ปล่อยให้ศรีอ่อนไปเป็นเมียใครเด็ดขาด"หึ่..."คำหล้ามือไม้สั่นอับอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี"ไอ้หมิง...กูรั
อาทิตย์ต่อมา"หลับให้สบายนะคะคุณพ่อ""หญิง..หญิง"นรีนาถเป็นลมล้มพับไปในขณะที่แหงนมองกลุ่มควันที่เผาพ่อของตนอยู่ที่เมรุเผาศพเมืองรามกับสิงหนาทจึงรีบพาหญิงสาวกลับบ้านและตามหมอมาดูอาการเธอทันที"คุณหญิงร่างกายอ่อนเพลียมากนะคะยิ่งตอนนี้ตั้งครรภ์อ่อนๆด้วยแล้วยิ่งต้องให้เธอทานอาหารให้ตรงเวลา""หา..."คำพูดของหมอหญิงวัยกลางคนทำให้ทั้งสามต่างก็มีสีหน้าตกใจไปตามๆกัน"ตั้งครรภ์"นรีนาถลูบท้องตัวเองเบาๆเธอเองก็ไม่ทันได้สังเกตเสียด้วยว่าระดูของเธอนั้นขาดไปตั้งแต่เมื่อไร"น้้องหญิง"สิงหนาทนั่งกุมขมับมองกน้าเมืองรามอย่างไม่พอใจที่นรีนาถนั้นต้องมาท้องก่อนแต่งจนได้"จะให้ทำยังไง""ก็ต้องรีบแต่งน่ะสิ"หลังจากหมอหญิงกลับไปแล้วทั้งสามก็ปรึกษาหาทางออกกันอีกทีว่าจะเอาอย่างไรกับเรื่องนี้ดูคนที่จะไม่เครียดเลยเห็นจะเป็นเมืองรามเสียมากกว่าที่นั่งยิ้มร่าถามสิงหนาทด้วยสีหน้าทะเล้นจนสิงหนาทต้องรีบเอ่ยปากให้ทั้งคู่แต่งงานกันโดยเร็วที่สุด2อาทิตย์ต่อมาไร่ศังกร"อุ้บ..แหวะๆ""พี่หญิงไหวไหมคะ"วันนี้เป็นวันแต่งงานของนรีนาถและเมืองรามซึ่งดูเจ้าสาวก็ดูท่าไม่ค่อยไหวเท่าไรแต่ก็ต้องแต่เมื่อได้ฤกษ์ที่ไวที่สุดมาแล้วคำแก
"นายปวดหัวอยู่รึเปล่า"ช่วงบ่ายเมื่อเมืองรามฟื้นขึ้นมาแล้วนรีนาถก็คอยดูแลเขาอยู่ไม่ห่าง"ไม่ค่อยเท่าไร""เอ่อ..""เธอจะกลับไปใช่ไหม"สิ่งที่กังวลใจที่สุดของเมืองรามไม่ใช่แผลที่หัวของเขาแต่เป็นเรื่องหญิงสาวที่กลัวว่าเธอนั้นจะถูกพรากจากเขาไป"อืม..ฉันอยากกลับไปรับศพพ่อฉัน.. ฉันกับพี่สิงห์จะอยู่ที่นี่ก่อนสามวันจนนายดีขึ้นแล้วฉันถึงจะไป"นรีนาถพยักหน้าเบาๆ"ฉันไปด้วย""อะไรนะ""ฉันอยากไปขอขมาพ่อเธอและอยากอโหสิกรรมให้เลิกแล้วต่อกันในชาตินี้"หญิงสาวฟังไม่ผิดเขาอยากไปกับเธอจริงๆเขาอยากจะไปขอขมาพ่อของเธอที่พาเธอมาที่นี่ทรมานก่อนหน้านี้และไม่อยากจะมีความแค้นอะไรติดค้างในใจอีก"นายลืมเรื่องทั้งหมดแล้วใช่ไหม"นรีนาถยิ้มอ่อนเมื่อได้ฟังสิ่งที่อยากจะได้ยินจากปากของเขามานานเรื่องที่ชายหนุ่มละจากความแค้นได้เสียที"ไม่ลืม...แต่ไม่ใส่ใจแล้วตอนนี้ฉันใส่ใจแค่เธอเท่านั้น"เมืองรามโอบกอดนรีนาถเบาๆจะให้เขาพูดว่าลืมคงโกหกแค่เขาไม่ใส่ใจมันแล้วต่างหากตอนนี้คนเดียวที่เขาใส่ใจคือนรีนาถเท่านั้นเย็นของวัน"พี่สิงห์คะ""น้องหญิง""หญิงทำแกงส้มของโปรดพี่สิงห์ด้วยค่ะ"นรีนาถยกแกงส้มดอกแคมาวางตรงหน้าสิงหนาท"น้องหญิ
"......"เมืองรามได้นิ่งนิ่งงันคิดไตร่ตรองในเรื่องที่ฟองจันทร์พูดแล้วจึงรีบกลับไปในห้องนอนของเขาทันที"ยังไม่เลิกร้องอีกหรือไง""ปล่อย...""ฉันปล่อยเธอไปไม่ได้.."เมืองรามเข้ามาสวมกอดคนที่กำลังนั่งกอดเข่าร้องให้อย่างไม่ยอมหยุดแม้เวลาจะผ่านมาร่วมหลายชั่วโมงแล้วก็ตามเขาเอ่ยปากพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมาทำเอานรีนาถแปลกใจกับคำพูดของเขาอยู่มากว่าเหตุผลอะไรกันที่ทำให้เขาพูดว่าปล่อยเธอไปไม่ได้"......""ความรู้สึกของฉันมันเปลี่ยนไปพักใหญ่แล้ว"เมื่อนรีนาถมีทีท่าว่าจะฟังเขาชายหนุ่มจึงเริ่มพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมา"ความรู้สึกอะไร""ในใจฉันมันต้องการเธอ...มันบอกว่ายอมเสียเธอไปไม่ได้""นายจะเล่นลิ้นอะไรอีก"ตอนนี้นรีนาถไม่รู้ว่าเขาจะมาไม้ไหนกับเธออีกครั้งก่อนก็เล่นลูกบังคับครั้งนี้ก็มาเล่นลูกขอร้องกับเธออีกเพื่อให้เธอไม่อยู่ห่างเขา"เธอดูไม่ออกจริงๆหรือไงว่าฉันเปลี่ยนไป...หรือทำเป็นไม่รับรู้กันแน่"เมืองรามจ้องหน้านรีนาถด้วยสายตาจริงจัง"......."หญิงสาวก้มหน้าลงเล็กน้อยเธอเคยแอบคิดเหมือนกันว่าเขามีใจให้เธอแบบที่เธอมีให้เขาแต่เมื่อคิดแล้วมันก็ชอบมีความคิดแย้งมาว่าเขาทำไปทั้งหมดเพราะอยากแก้แค้นเธอจึงข