“นั่นอะไรเหรอ”
ในระหว่างที่ขับรถสิงหนาทหันไปเห็นตระกร้าหวายที่มีผ้าขาวบางปิดอยู่ในมือของนรีนาถจึงแปลกใจว่าหญิงสาวถืออะไรกลับมาด้วย
“ขนมตาลน่ะค่ะแม่ของหนึ่งให้เอามาฝาก”
นรีนาถค่อยๆเปิดผ้าขาวบางที่คลุมขนมตาลฟูเหลืองอร่ามในกระทงใบตองเล็กๆให้สิงหนาทได้ดู
“ดีสิพี่กำลังอยากทานอยู่พอดีเลยไม่รู้ว่าน้องหญิงจะแบ่งให้พี่ได้ไหมนะ”
สิงหนาทรู้ดีว่าขนมไทยที่แม่ของนาราเป็นคนทำอร่อยแค่ไหนจึงต้องเอ่ยปากของนรีนาถอย่างไม่เกรงใจ
“ได้สิคะหนึ่งเอามาฝากเยอะเลย”
นรีนาถไม่ได้หวงสิงหนาทแม้แต่น้อยเพราะขนมนี่มันก็เยอะพอที่จะแบ่งได้หลายคน
“วันหน้าพี่คงต้องไปอุดหนุนถึงที่ร้านหนึ่งเสียแล้วล่ะให้ขนมเราทานฟรีบ่อยเกินจนพี่เริ่มเกรงใจแล้ว”
สิงหนาทเห็นทีจะต้องไปอุดหนุนนาราถึงที่บ้านเสียแล้วเพราะเขาได้ทานขนมฟรีจากบ้านนานราบ่อยเสียเหลือเกินจนเริ่มเกรงใจ
“ดีเลยค่ะไว้วันที่พี่สิงห์ว่างเราไปร้านหนึ่งกันนะคะ”
นรีนาถเห็นด้วยเช่นนั้นเหมือนกันเพราะเธอก็กะจะชวนสิงหนาทในวันที่เขาว่างไปที่บ้านนาราเช่นกันแต่ติดตรงที่น้อยครั้งนักที่สิงหนาทจะว่าง
“ครับ”
สิงหนาทชายหนุ่มอายุ30ปีรูปร่างหล่อเหลาใบหน้าคมเข้มผิวขาวสะอาดสะอ้านส่วนสูง185เป็นชายหนุ่มที่เป็นข่าวหน้าหนังสือพิมพ์อยู่บ่อยๆว่าเป็นทายาทธนาคารใหญ่ที่เก่งที่สุดและหล่อที่สุดคนนึงเขาเป็นน้องชายบุญธรรมของภิภพพ่อของนรีนาถแต่ตั้งแต่เล็กๆนรีนาถนั้นสนิทกับอาหนุ่มมากเสียกว่าคนเป็นพ่อเสียอีกเพราะสิงหนาทดูแลเธอตั้งแต่อ้อนแต่ออกและนรีนาถก็เรียกอาหนุ่มว่าพี่ตั้งแต่เล็กๆเพราะห่างกันแค่สิบปีสีหนาถก็ไม่ได้ว่าอะไรจึงไม่ได้เรียกอาตั้งแต่นั้นมาและเขาเองก็รักเอ็นดูนรีนาถเหมือนน้องสาวคนนึงเช่นกัน
ทุกวันนี้งานในธนาคารทุกอย่างถึงเขาจะเป็นแค่คนที่รักษาการแทนภิภพแต่ก็เหมือนคนดูแลเต็มตัวไปแล้วเพราะภิภพนั้นไม่ค่อยจะสนใจงานเท่าไรทั้งยังติดเที่ยวและเรื่องผู้หญิงก็มีมาไม่เว้นวันดังเช่นตอนนี้เขาเองก็ได้ข่าวว่าคนเป็นพี่ชายนั้นพาผู้หญิงคนใหม่ล่องเรือเที่ยวกันไม่รู้ว่าจะมีกำหนดกลับเมื่อไรอีกด้วย
วันต่อมา
เรือนธิติลักษณ์
08.00 น.
“พี่สิงห์คะทำงานเสร็จแล้วรีบกลับเลยนะคะ”
นรีนาถยืนส่งสิงหนาทที่หน้าบ้านเธอมีสีหน้ากระเง้ากระงอดเล็กน้อยเพราะไม่ชอบที่จะต้องเหงาอยู่บ้านกับคนรับใช้ที่ถึงจะมีหลายคนก็ไม่ได้ทำให้เธอคลายเหงาได้เลยเพราะเวลาที่เธอจะทำอะไรก็มีข้อห้ามไปเสียทุกอย่างจะมีก็แค่เพียงแม่นมของเธอเท่านั้นที่พอจะตามใจเธอบ้าง
“วันนี้พี่มีประชุมไม่รู้จะเสร็จเมื่อไรแต่ถ้าเสร็จแล้วพี่จะรีบกลับมาหาน้องหญิงทันทีเลยนะคะ”
"น้องจะรอนะคะ"
สิงหนาทลูบหัวนรีนาถเบาๆทั้งรีบเปิดประตูรถขับออกไปทันทีเพราะเขาค่อนข้างเป็นคนที่ตรงเวลาเรื่องงานอย่างมาก
“คุณหนูจะเข้าห้องหนังสือเลยไหมคะ”
นมสรวงแม่นมนรีนาถวัย40ปีรู้ว่าเวลาว่างของนรีนาถนั้นเธอจะต้องอยู่ในห้องหนังสือคลายเหงาเป็นแน่จึงถามความจำนงของนรีนาถว่าวันนี้จะเข้าห้องหนังสือหรือไม่เพราะจะได้ให้คนเข้าไปทำความสะอาดก่อนที่จะทำที่อื่น
“จะนม..อ่อ..เดี๋ยวสายๆหญิงว่าจะออกไปหาหนึ่งสักหน่อยค่ะ”
นรีนาถพยักหน้ารับนมสรวงทั้งหันหลังในขณะที่กำลังเดินขึ้นบันไดไปห้องหนังสือบอกกับนมสรวงว่าวันนี้เธอจะออกไปหานาราเสียหน่อย
“จะไปเวลาไหนคะเดี๋ยวนมจะให้คนเตรียมรถไว้รอค่ะ”
“เดี๋ยวหญิงเดินออกไปเองค่ะบ้านหนึ่งอยู่ไม่ไกลนี่เองหญิงเดินไปสะดวกกว่าค่ะ”
“เอาอย่างนั้นเหรอคะถ้าคุณสิงห์รู้ว่าคุณหญิงเดินไปเองพวกเราจะถูกตำหนิเอานะคะ”
นมสรวงหน้าเสียเล็กน้อยเธอไม่ค่อยอยากจะให้นรีนาถไปไหนทาไหนคนเดียวบ่อยเพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของเธอเนื่องจากหญิงสาวเป็นคนที่ไม่ค่อยทันคนเท่าไรนักจึงยกสิงหนาทมาเป็นข้อกังขาให้นรีนาถนั้นเกรงกลัวที่จะออกไปคนเดียวบ้าง
“ก็ไม่ต้องบอกให้พี่สิงห์รู้สิคะนม”
หญิงสาวทำหน้าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงยิ้มออกหากไม่มีใครบอกสิงหนาทก็จะไม่รู้เพราะเธอกะวาาจะรีบไปรีบกลับ
“คุณหนูของนมนี่นะ.. เดี๋ยวนมไปเอาขนมฝากไปให้หนูหนึ่งด้วยค่ะตอนเธอมาที่เรือนเราก็มีขนมติดไม้ติดมือมาตลอด”
นมสรวงส่ายหัวเล็กน้อยแต่ก็อดตามใจคุณหนูที่เธอรักไม่ได้ทั้งเอ่ยปากว่าจะฝากขนมไปให้นาราอีกด้วย
“ค่ะนม”
นรีนาถยิ้มกว้างอย่างพอใจทั้งเดินขึ้นมาที่ห้องหนังสืออย่างอารมณ์ดีคนที่จะตามใจเธอได้มากที่สุดเห็นจะเป็นนมสรวงคนเดียวนี่แหละ
แกร๊ก
“หืม..ใครกัน”
นรีนาถอ่านหนังสืออยู่ครู่หนึ่งก็ได้ยินเสียงแปลกๆที่หน้าต่างทั้งยังเหมือนว่าจะเห็นคนแวบๆเธอจึงรีบละจากหนังสือรีบเดินมาดูที่ริมหน้าต่างอย่างรวดเร็วแต่ก็ต้องทำหน้าสงสัยเพราะเธอไม่เห็นอะไรแม้แต่นิดเดียว
ครู่ต่อมา
“ไอ้แสงตื่น”
เมืองรามเดินกลับเข้ามาในรถยนต์ของเขาที่รุ่นเดียวกับมหาเศรษฐีในเมืองกรุงใช้กันเลยทีเดียวจึงเป็นที่ไม่แปลกตาเท่าไรนักเมื่อจอดอยู่ที่นี่
ชายหนุ่มตบหน้าเพื่อนของเขาเบาๆที่สายป่านนี้ยังนอนหลับอุตุอยู่ได้
“ถึงแล้วเหรอวะ...นี่เหรอรุงเทพ”
พันแสงค่อยๆงัวเงียตื่นขึ้นมามองดูรอบๆว่าที่นี่เป็นที่ไหนด้วยภาพตรงหน้าที่ดูว่ามันเจริญกว่าบ้านนอกที่เคยอยู่อยู่มากจึงค่อนข้างตื่นเต้นนิดหน่อยเพราะเขาเองก็พึ่งจะเคยเห็นเมืองกรุงกับเค้าครั้งแรกเหมือนกัน
“เออ..ไปล้างหน้าล้างตาก่อน”“แล้วมึงรู้เหรอว่าบ้านชู้เมียมึงอยู่ที่ไหน”พันแสงเปิดกระจกหยิบขวดน้ำในรถมาเทใส่มือลูบหน้าลูบตาเมื่อเสร็จแล้วจึงหันมาถามเมืองรามด้วยสีหน้าสงสัยว่าเพื่อนของเขารู้แล้วเหรอว่าบ้านโจทย์ที่ตามหาอยู่ที่ไหน“ตรงหน้ามึงนี่ไง”เมืองรามสะบัดหัวเล็กน้อยไปทางเรือนธิติลักษณ์ที่เป็นเรือนใหญ่ทรงปั้นหยาให้คนเป็นเพื่อนดูนอกรั้ว“หา..นี่มึงไม่คิดจะหลงบ้างไงวะ”“กูจะหลงได้ไงก็กูรู้ที่อยู่ผู้ใหญ่ให้กูมา”พันแสงมองไปยังรั้วบ้านที่เป็นทรงปั้นหยาร่วมสมัยหลังใหญ่ตรงหน้าด้วยสีหน้าที่งงงวยเล็กน้อยเพราะไม่คิดว่าเมืองรามจะมาถูกโดยที่ไม่หลงแม้แต่นิดเดียว“แล้วมึงเอาไงต่ออะมึงจะเผาบ้านเค้าจริงเหรอวะ”พันแสงเลิกคิ้วสงสัย“กูเปลี่ยนใจแล้วกูจะให้มันตายทั้งเป็นแทน”เมืองรามพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉยแต่มียกยิ้มมุมปากเล็กน้อยเพราะเขานั้นได้ไปรู้อะไรดีๆมาว่าภิภพนั้นมีของรักของหวงอยู่ในบ้านหลังนี้และเขาจะใช้จุดอ่อนนี้เล่นงานภิภพ“ยังไงวะ”พันแสงเกาหัวแกรกๆทั้งสีหน้ายังขมวดครุ่นคิดไม่เจ้าใจสิ่งที่เมืองรามพูดสักเท่าไร“กูจะพาลูกสาวมันกลับไปที่ไร่แล้วให้มันไปตามเอาเองดูซิว่าถ้ามันรู้ว่าลูกมันถูกทำอะไรบ
"อะไรนะ...แล้วตอนน้องหญิงออกไปไม่มีใครไปด้วยหรืออย่างไร"สิงหนาทขมวดคิ้วถามทุกคนในบ้านที่ยืนก้มหน้างุดกันเสียงแข็ง"คุณหญิงไม่ให้ใครตามไปเธอให้เหตุผลว่าบ้านหนูหนึ่งอยู่ใกลๆเธออยากเดินไปเองค่ะ"นมสรวงต้องรีบอธิบายก่อนที่คนอื่นจะโดนคาดโทษไปด้วยหากมีคนผิดก็ขอให้เป็นที่เธอเองที่ตามใจคุณหนูของตนเองจนเกินไป"เฮ้อ...เดี๋ยวผมจะไปตามหาน้องหนึ่งอีกครั้งเอง"พูดจบสิงหนาทก็ออกรถหมายขับไปให้ถึงที่บ้านของนาราอย่างรวดเร็ว"โถ่..คุณหญิงของนมอยู่ไหนกันคะ"นมสรวงเข่าทรุดเล็กน้อยเพราะตอนนี้เธอเป็นห่วงคุณหนูของเธอเหลือเกินหากย้อนเวลาไปได้เธอจะไม่ให้คุณหนูของเธอไปไหนตามลำพังอีกเลยบ้านนารา"แม่คะยาค่ะ"ในเพลิงไม้เก่าๆริมแม่น้ำเป็นบ้านของนารีและนาราและเป็นหน้าร้านขายขนมไทยที่อยู่ที่เดียวกันหลังจากที่สองแม่ลูกช่วยกันจัดแจงวัตถุดิบเพื่อทำขนมในเช้าวันถัดไปเสร็จก็มานั่งกินข้าวหลังจากทั้งสองกินข้าวกันเรียบร้อยแล้วนาราก็ไม่ลืมที่จะจัดยาให้กับคนเป็นแม่กินเพราะหากรอคนเป็นแม่กินเองก็คงลืมอีกเช่นเคย"ขอบใจลูก"นารีเป็นโรคเบาหวานและหัวใจมานานแล้วและตอนนี้ก็พ่วงด้วยไตเสื่อมมาอีกทำให้ต้องกินยาอย่างต่อเนื่อง"ต่อไปนี้หน
ชั่วโมงต่อมาโรงพยาบาล"หมอคะคุณแม่ดิฉันเป็นยังไงบ้างคะ"นารารีบเข้าไปถามหมอหนุ่มด้วยสีหน้ากังวลกลัวว่าแม่ของเธอจะเป็นอะไรร้ายแรง"คือ...หมอต้องเสียใจด้วยนะครับแม่ของคุณเสียด้วยอาการหัวใจวายเฉียบพลันครับ""อ..อะไรนะคะ"นาราเข่าทรุดยวบหมดสติกะทันหันอย่างไม่ทันตั้งตัวจากที่กลัวว่าแม่เธอจะเป็นอะไรร้ายแรงเรื่องกลับร้ายกว่าที่คิดเพราะแม่ของเธอมาจากไปโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว"หนึ่ง..."สิงหนาทรับร่างบางเอาไว้ได้ทันหน้าของเขาตอนนี้ซีดเผือดอย่างเห็นได้ชัดปฏิเสธไม่ได้เลยว่าที่แม่ของหญิงสาวจากไปเร็วเพียงนี้มาจากการกระทำที่ขาดสติของเขาไร่ศังกร23.00 น.พลั้กกกกก"อร้ายย...นายเป็นใครจับฉันมาทำไม"นรีนาถตัวสั่นเป็นลูกนกเมิ่อถูกโยนเข้ามาในกระท่อมซึ่งไม้ไผ่น่าจะอยู่กลางป่ามีเพียงตะเกียงที่จุดให้มีแสงสว่สงเพียงแค่รำไรเท่านั้นทำ"เป็นใครก็เรื่องของฉันส่วนเธออย่าคิดหนีไม่อย่างนั้น..ตาย"เมืองรามไม่เพียงชักปืนมาวางขู่หญิงสาวเขารีบจับเธอมัดข้อมือของหญิงสาวกับข้อมือของเขาผูกมัดติดกันและลงตัวนอนข้างหญิงสาวทันทีเพราะเวลานี้เขาเหนื่อยและเพลียเกินกว่าที่จะมานั่งตอบคำถามหรือคุยอะไรกับหญิงสาวตอนนี้"หา...."นรี
"ไม่ต้องเสือกอยากรู้วันนั้นมาถึงเดี๋ยวก็ได้เห็นเอง..กินข้าวได้แล้ว"ชายหนุ่มสะบัดหน้าน้อยๆของเธอเต็มแรงจนหน้าหวานมีรอยแดงเป็นปื้นแต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้คนที่กำลังไฟลุกท่วมหัวใจสงสารผู้หญิงตัวเล็กๆแม้แต่นิดเดียว"........"นรีนาถน้ำตาเล็ดด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจที่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ถึงแม้ว่าร่างกายเธอจะส่งเสียงร้องว่าต้องการอาหารแค่ไหนก็ตามแต่จะให้เธอกินอะไรเข้าไปตอนนี้คงจะกลืนไม่ลงอยู่ดี"บอกให้กินไง..""อร้ายยย..."เพล้งงงง"โถ่เอ้ย..."เมืองรามตะคอกเสียงฝาดเพราะคนตรงหน้าไม่ยอมรับถาดข้าวดีๆเขาจับเธอมาไม่ได้ต้องการให้ตายไวเขาต้องเลี้ยงเธอไว้เป็นเครื่องมือแก้แค้นดังนั้นยังไงหญิงสาวก็ต้องได้กินด้วยความที่ตกใจในเสียงตวาดของชายหนุ่มทำให้นรีนาถเผลอปัดมือไปถูกถาดอาหารจนล่วงกระจายเต็มพื้นนั่นก็เป็น้หตุให้เมืองรามหัวเสียอีกรอบและผลักร่างบางเต็มแรงจนเธอร้องให้สะอื้นไม่ยอมหยุด"ฮึก...ฮือๆๆๆๆ..""จะร้องอีกนานไหมวะ...รำคาญ"เมืองรามนั่งมองคนตรงหน้าสะอื้นให้มาพักใหญ่อย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดจนต้องเสียงแข็งใส่หญิงสาวอีกรอบเพราะรู้สึกรำคาญเสียงสะอื้นเต็มทน"พ่อเลี้ยง""มีอะไร.."เมืองรามได้ยินเสียงทศพ
"แม่จันทร์จะมีสักวันไหมที่พ่อเลี้ยงพันแสงเค้าจะเลิกเกลียดแก้ว"คำแก้วมองตามหลังพันแสงอย่างเหนื่อยใจ"วันใดที่เค้าหมดทิฐิวันนั้นพ่อเลี้ยงพันแสงคงจะดีขึ้นเองเอ็งอย่าไปสนใจอะไรมากเลยคำแก้วเค้าก็อยู่ส่วนเค้าเราก็อยู่ส่วนเรา"ฟองจันทร์ก็ได้แต่ปลอบคำแก้วว่าอย่าได้ไปใส่ใจคนที่มีทิฐิอยู่ในใจต่อให้มีคำอธิบายหรือเหตุผลดีสักเท่าไรก็ไม่เข้าใจได้ง่ายอยู่ดี"จะแม่จันทร์"คำแก้วเองก็ได้แต่ทำใจถึงเธอจะถูกฟองจันทร์ปลอบอยู่หลายครั้งแต่เมื่อเจอหน้าพันแสงทีไรก็อดมีอาการรู้สึกผิดทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิดไม่ได้เสียที... ที่พันแสงไม่อยากจะเห็นหน้าเธอก็เพราะว่าเมื่อย้อนกลับไปเมื่อประมาณเกือบสิบเก้าปีที่แล้วแม่ของคำแก้วและพ่อของเธอเป็นลูกไร่ของแม่พ่อเลี้ยงพันแสงและเหตุการณ์เลวร้ายก็ได้เกิดขึ้นกับพ่อเธอด้วยเหตุจากการไปหาของป่าและถูกเสือทำร้ายจนเสียชีวิตในขณะที่แม่ของเธอท้องเพียงไม่กี่เดือนแม่ของพันแสงเลยรับจะดูแลแม่ของเธอเองเมื่อถึงวันคลอดคืนนั้นไม่มีใครอยู่เรือนเลยสักคนนอกจากแม่ของพันแสงเธอจึงเดินฝ่าความมืดไปตามหมอตำแยแต่ด้วยความที่รีบร้อนและคืนนั้นเป็นคืนเดือนมืดสนิททำให้เธอพลาดเดินตกเขาไปจนเสียชีวิตจึงไม่ถึง
แคว้กกก"อร้ายยย...ปล่อยฉันนะ...ปล่อยยยยย..อื้มมม.."ชายหนุ่มนั่งคร่อมตัวหญิงสาวทั้งใช้ฉีกเสื้อตัวเก่าของเธอมาพันปิดปากของหญิงสาวเอาไว้คนที่คิดจะทำร้ายเขามันต้องเจอบทลงโทษที่สาสม"อืม...อื้ออออ..ฮือๆๆๆ.."เมืองรามมัดปิดปากหญิงสาวจนสำเร็จมือหนาถลกผ้าพันตัวของเธอออกจนเผยให้เห็นผิวขาวนวลผ่องเรือนร่างเล็กแต่มีทรวดทรงองเอวที่ซ่อนรูปอยู่พอสมควร"อืมม..."ชายหนุ่มไม่รอช้าไม่รู้ว่าตอนนี้อารมณ์โกรธของเขาเปลี่ยนเป็นอารมณ์สวาทคนใต้ร่างตอนไหนแต่เมื่อรู้ตัวอีกทีเขาก็อดใจที่จะไม่ซุกไปที่อกอวบอิ่มตั้งชูชันตรงหน้าไม่ได้"อื้อ..ฮืออออ..อื้ออออออ"หญิงสาวพยายามดิ้นหนีมือไม้ปัดป่ายจิกข่วนจนหลังพ่อเลี้ยงหนุ่มแดงเถือกไปด้วยรอยข่วนเธอเกลียดการกระทำของเขาเป็นที่สุดและรู้สึกขยะแขยงไปทั้งตัวจนน้ำตาเอ่อล้นแทบจะเปียกชุ่มไปทั้งใบหน้า"อื้มมม..อา.."เมืองรามเหมือนคนไม่ได้สติเมื่อได้สูดดมเนื้อหอมนุ่มของกายสาวคราแรกเขากะจะสั่งสอนเธอเล่นๆแต่ตอนนี้รู้สึกว่าอารมณ์สวาทที่พลุ่งพล่านทวีคุณในตัวมันทำให้เขาหยุดการกระทำนี้ไม่ได้เสียแล้ว"อื้ออ...ฮือๆๆๆ"นรีนาถกรีดร้องอยู่ได้แต่ในลำคอเธอส่ายหัวพัลวันในขณะที่เมืองรามกำลังจะแท
สองวันต่อมา"ขุดดินพรวนดินทำเป็นไหม"เมืองรามลากหญิงสาวมาที่แปลงผักตั้งแต่เช้าวันนี้เขาตั้งใจจะให้เธอทำงานเพราะจะมาให้นั่งกินนอนกินไปวันๆเขารู้สึกว่ามันไม่น่าใช่สิทธิพิเศษของหญิงสาวเท่าไร"ฉันไม่เคยทำ"นรีนาถมองกองอุปกรณ์การเกษตรตรงหน้าทั้งส่ายหัวเบาๆ"ไม่เคยทำก็ต้องทำอยู่ที่นี่ต้องทำงานแลกข้าวแลกน้ำ"เมืองรามเท้าเอวทั้งจ้องหน้าหญิงสาวและเอ่ยเสียงแข็ง"ก็ฉันไม่ได้อยากอยู่ที่นี่สักนิดถ้าไม่อยากเปลืองข้าวเปลืองน้ำก็ปล่อยฉันไปเถอะ"นรีนาถก้มหน้างุดรู้ว่าสิ่งที่เธอพูดอาจจะทำให้เขาไม่พอใจแต่เธอก็ต้องพูดเพราะเธอก็ไม่ได้อยากอยู่ให้เปลืองข้าวเปลืองน้ำของเขาเลยสักนิด"อย่าพูดมากแล้วอย่าแสร่บอกกับคนในนี้ล่ะว่าฉันจับเธอมาเพราะไม่อย่างนั้นโดนหมกอยู่ท้ายไร่แน่"เมืองรามกระชากร่างบางมากัดฟันกระซิบกำชับเธอเรื่องที่เธออยู่ที่นี่ได้อย่างไร"ไอ้สอนเดี๋ยวกูฝากมึงสอนงานคนของกูด้วยพรวนดินลงผักให้ครบทั้งแปลงให้เสร็จเลยนะ"เมื่อกำชับหญิงสาวเรียบร้อยแล้วเมืองรามก็พาหญิงสาวมาหาคำสอนเพื่อให้เธอมาช่วยงานที่แปลงผักวันนี้"มันจะไม่หนักไปเหรอครับพ่อเลี้ยง"คำสอนมองร่างบางอย่างสงสารเขาคิดว่างานที่พ่อเลี้ยงหนุ่มใช้ห
"นี่พอซะทีฉันไปทำอะไรให้เธอห้ะ"นรีนาถฮึดสู้ผลักหญิงสาวจนกระเด็นออกจากตัวเธอเพราะหุ่นนั้นก็ไม่ได้ต่างกันมากเธอจึงสู้ได้"แกมันเป็นมารหัวใจฉัน...นี่หลงถึงขั้นล่ามไม่ให้ไปไหนเลยเหรอ"บุญตาตวาดใส่หญิงสาวอย่างเคียดแค้น"เธอกำลังเข้าใจผิดนะ...ฉันกับนายพ่อเลี้ยงนั่นไม่ได้เป็นอะไรกันที่เค้าจับฉันมาก็เพราะแค้นพ่อฉันเท่านั้นถ้าเธอไม่อยากให้ฉันอยู่ใกล้เค้าเธอก็พาฉันหนีสิ"นรีนาถหยุดคิดครู่หนึ่งกับคำพูดของคนที่จ้องจิกเธอตรงหน้าทั้งรีบบอกให้หญิงสาวได้เข้าใจอะไรเสียใหม่และเผื่อว่างานนี้เธอจะได้รอดไปจากที่นี่เพราะคนตรงหน้าช่วยก็เป็นได้"ถ้าเป็นอย่างที่แกว่าจริงถ้าฉันพาแกหนีพ่อเลี้ยงก็ได้ฆ่าฉันพอดี"บุญตาเองก็ชะงักงันกับคำพูดของนรีนาถเช่นกันคิดๆดูแล้วหากพ่อเลี้ยงหนุ่มรู้ว่าเธอเป็นคนปล่อยนรีนาถไปเธอเองนั่นแหละที่จะกลายเป็นศพเอาได้"เธอก็อย่าให้เค้ารู้สิว่าเป็นคนพาฉันหนี"นรีนาถทำสีหน้าอ้อนวอนบุญตาและมีหวังลึกๆว่าบุญตาจะยอมช่วยเธอ".....""ว่ายังไงตกลงจะพาฉันหนีไหม"เมื้อยังเห็นอีกฝ่ายเงียบนรีนาถจึงเค้นอีกรอบด้วยท่าทีร้อนใจ"ถ้าเธอจะหนีงั้นก็ควรจะไปซะตอนนี้เลยเพราะกว่าที่พ่อเลี้ยงจะกลับก็เกือบมืด"เมื