สองวันต่อมา
"ขุดดินพรวนดินทำเป็นไหม"
เมืองรามลากหญิงสาวมาที่แปลงผักตั้งแต่เช้าวันนี้เขาตั้งใจจะให้เธอทำงานเพราะจะมาให้นั่งกินนอนกินไปวันๆเขารู้สึกว่ามันไม่น่าใช่สิทธิพิเศษของหญิงสาวเท่าไร
"ฉันไม่เคยทำ"
นรีนาถมองกองอุปกรณ์การเกษตรตรงหน้าทั้งส่ายหัวเบาๆ
"ไม่เคยทำก็ต้องทำอยู่ที่นี่ต้องทำงานแลกข้าวแลกน้ำ"
เมืองรามเท้าเอวทั้งจ้องหน้าหญิงสาวและเอ่ยเสียงแข็ง
"ก็ฉันไม่ได้อยากอยู่ที่นี่สักนิดถ้าไม่อยากเปลืองข้าวเปลืองน้ำก็ปล่อยฉันไปเถอะ"
นรีนาถก้มหน้างุดรู้ว่าสิ่งที่เธอพูดอาจจะทำให้เขาไม่พอใจแต่เธอก็ต้องพูดเพราะเธอก็ไม่ได้อยากอยู่ให้เปลืองข้าวเปลืองน้ำของเขาเลยสักนิด
"อย่าพูดมากแล้วอย่าแสร่บอกกับคนในนี้ล่ะว่าฉันจับเธอมาเพราะไม่อย่างนั้นโดนหมกอยู่ท้ายไร่แน่"
เมืองรามกระชากร่างบางมากัดฟันกระซิบกำชับเธอเรื่องที่เธออยู่ที่นี่ได้อย่างไร
"ไอ้สอนเดี๋ยวกูฝากมึงสอนงานคนของกูด้วยพรวนดินลงผักให้ครบทั้งแปลงให้เสร็จเลยนะ"
เมื่อกำชับหญิงสาวเรียบร้อยแล้วเมืองรามก็พาหญิงสาวมาหาคำสอนเพื่อให้เธอมาช่วยงานที่แปลงผักวันนี้
"มันจะไม่หนักไปเหรอครับพ่อเลี้ยง"
คำสอนมองร่างบางอย่างสงสารเขาคิดว่างานที่พ่อเลี้ยงหนุ่มใช้หญิงสาวทำมันดูจะหนักเกินไป
"กูสั่งก็ทำ"
"ครับพ่อเลี้ยง"
เมืองรามพูดเสียงแข็งขึ้นอีกครั้งจนคำสอนต้องก้มหน้าหลบยอมรับคำสั่งอย่างไม่ขัดขืน
"ทำแบบนี้แหละทำตามผม"
"อย่างนี้ใช่ไหมจ้ะ"
หลังจากที่เมืองรามไปแล้วคำสอนก็เริ่มสอนงานนรีนาถพักใหญ่จนหญิงสาวเข้าใจการใช้อุปกรณ์การเกษตรทั้งหมดและวิธีทำดินให้เป็นหลุมลงผักแล้ว
"นั่นแหละ...นี่ท่าทางจะไม่เคยจับจอบจับเสียมเลยใช่ไหมคุณ"
คำสอนแม้จะเห็นว่าหญิงสาวหัวไวแต่ก็พอรู้ว่าไอ้การเก้ๆกังๆแบบนี้ไม่เคยจับจอบจับเสียมแน่นอน
"ใช่จะ...แต่ถ้ามีคนสอนหญิงก็ทำได้จะ"
นรีนาถไม่เกี่ยงที่จะทำอยู่แล้วขอเพียงแค่มีคนสอนเธอก็ทำได้ทั้งนั้น
"แล้วทำไมพ่อเลี้ยงถึงให้เรามาทำงานล่ะหรือทำอะไรให้พ่อเลี้ยงไม่สบายใจถึงเปลี่ยนจากตำแหน่งเมียมาเป็นคนงานในไร่"
หลังจากที่ทั้งสองทำงานกันได้พักใหญ่คำสอนนั้นที่มีคำถามอยู่ในใจจนอัดอั้นไว้ไม่ไหวจึงต้องถามหญิงสาวออกมา
"ไม่ใช่น้ะจ้ะ..หญิงไม่ได้เป็นเมียเค้านะ"
นรีนาถส่ายหัวพัลวันเธอไม่รู้ว่าคำสอนนั้นไปเอาข่าวนี้มาจากไหนแต่ไม่ได้เป็นจริงอย่างที่เขาพูดแน่นอน
"เอาล่ะๆ..เป็นอะไรก็ช่าง..งั้นก็ทำตามที่ผมสอนถ้าเมื่อยหรือเหนื่อยก็พักได้"
เมื่อคำสอนเห็นว่าหญิงสาวปฏิเสธหัวชนฝาขนาดนั้นเขาก็ไม่ได้อยากคาดคั้นอะไรทั้งบอกให้หญิงสาวทำงานต่อ
"จะ"
ชั่วโมงต่อมา
"...."
นรีนาถสีหน้าเหยเกมาพักใหญ่เพราะรู้สึกระบมปวดแสบปวดร้อนที่มือจนต้องพัก
"โอ้โห่..คุณ..นี่ทำแปปเดียวมือพองขนาดนีเลย...ไปๆ..ไปพักเลยผมทำเอง..พ่อเลี้ยงนะพ่อเลี้ยงใช้แม่หญิงบอบบางมาทำอย่างนี้ได้ยังไง"
คำสอนหันไปเห็นมือของหญิงสาวถึงกับต้องบอกให้เธอหยุดเพราะมันพองจนแตกเป็นแผลเหวอะจนแดงไปหมดเขาก็ไม่รู้ว่าพ่อเลี้ยงหนุ่มนั้นคิดอะไรอยู่ที่ให้หญิงสาวทำงานหนักโดยที่ไม่ห่วงความปลอดภัยของเธอเลยสักนิด
ช่วงบ่ายของวัน
"พี่สอน"
บุญตาเสร็จจากงานที่ไร่ชาจึงเดินมาหาคำสอนแบบนี้เป็นประจำแทบทุกวันแต่วันนี้สิ่งที่ทำให้เธอแปลกตาคือหญิงสาวที่ดูแล้วจะไม่ใช่คนที่นี่จึงต้องถามคพสอนให้หายคาใจว่าเธอนั้นเป็นใคร
"อ้าวเก็บใบชาเสร็จแล้วหรือไงบุญตา"
"เสร็จแล้วจะ...แล้วนี่ใคร"
"นี่คุณหญิง..ที่มาจากบางกอกกับพ่อเลี้ยงวันนี้พ่อเลี้ยงให้มาช่วยงาน"
"ช่วยงาน..แล้วทำไมนั่งจมกองดินอยู่แบบนั้นล่ะ"
เมื่อได้ยินคำสอนเอ่ยขึ้นมาว่าเป็นคนที่พ่อเลี้ยงหนุ่มพามาจากเมืองกรุงสายตาของเธอก็แสดงความเกลียดชังนรีนาถจนหญิงสาวจับสังเกตได้ทันที
"โอ้ย..ขืนให้ทำต่อมือแหกกันพอดี..นั่นก็พองไม่รู้จะทำยังไงแล้วน่ะ"
คำสอนพูดไปส่ายหัวไป
"หึ่..ใช้งานยกขาไม่ได้กี่วันก็เขี่ยมาทำงานในไร่แล้วเหรอน่าสงสาร"
บุญตาพูดอย่างจีบปากจีบคอให้คนที่นั่งจมกองดินข้างต้นไม้ใหญ่ได้ยิน
"นังบุญตาเอ็งพูดอะไรของเอ็ง"
คำสอนขมวดคิ้วใส่คนเป็นลูกพี่ลูกน้องทันทีเขารู้ว่าบุญตานั้นหมายตาพ่อเลี้ยงหนุ่มเอาไว้แต่ก็ไม่ได้คิดว่าจะเป็นจริงเป็นจังหวังสูงจนเกลียดผู้หญิงของพ่อเลี้ยงหนุ่มขนาดนี้
"ก็พูดตามสิ่งที่รู้"
ปั้ก
"โอ้ยย..."
บุญตาเอื้อมมือไปหยิบเสียมเล็กที่ไม่มีด้ามตั้งใจโยนไปทางนรีนาถจนถูกเท้าของเธอเข้าเต็มๆจนหญิงสาวน้ำตาเล็ด
"ขอโทษทีมันหลุดมือ"
บุญตาส่งสายตามองคนที่กำลังเจ็บอย่างพอใจพร้อมเดินกลับไปอย่างไม่รู้สึกรู้สา
"เป็นอะไรไหมคุณ"
"ไม่เป็นไรจะ"
"บุญตานะบุญตา.."
คำสอนรีบวิ่งมาดูบาดแผลของหญิงสาวทั้งโมโหกับการกระทำของบุญตาอยู่มากเห็นทีเขาจะให้หญิงสาวนั่งอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้วจึงคิดว่าจะไปส่งหญิงสาวที่กระท่อมริมธารแม้จะดูขัดคำสั่งพ่อเลี้ยงหนุ่มแต่เขาก็สงสารหญิงสาวมากกว่า
กระท่อมริมธาร
"ไง...ทำงานวันเดียวจะตายเลยรึไง"
เมืิองรามได้ข่าวจากคำสอนว่าพาหญิงสาวมาส่งที่กระท่อมแล้วเพราะเธอไม่ไหวเขาเองก็ไม่ได้ต่อว่าอะไรคำสินทั้งรีบกลับมาดูคนที่ทำสำออยว่าไม่ไหวถึงขั้นไหน
"......"
"นี่เธอ..."
เมืองรามเห็นว่าหญิงสาวไม่โต้ตอบคำถากถางเอาแต่นอนซมฟุบที่ฟูกนอนจึงเข้าไปเขย่าตัวดูปรากฏว่าตัวของเธอร้อนดั่งไฟลุกทำให้เขาต้องรีบกลับเรือนไปหายามาทันที
"โห..นี่พี่สาวเค้าทำไมตัวร้อนจี๋ขนาดนี้คะเนื้อตัวก็มีแต่แผล"
คำแก้วที่ถูกพ่อเลี้ยงหนุ่มลากมาให้ช่วยดูแลนรีนาถเมื่อเธอจับตัวคนที่นอนซมดูเธอถึงกับต้องชักมือออก อย่างรวดเร็วเพราะตัวร้อนยังกับไฟและรีบหาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวหญิงสาวโดยเร็ว
"เช็ดตัวให้เธอแล้วก็เปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยถ้าเธอตื่นแล้วก็เอายาให้กิน"
"จะ"
เมืองรามพูดเสร็จเขาก็ออกจากกระท่อมไปทันทีด้วยสีหน้าที่คนอื่นเดาอารมณ์ไม่ถูกว่าเป็นห่วงหญิงสาวที่นอนป่วยอยู่หรือโมโหที่เธอเป็นภาระกันแน่
เช้าวันต่อมา
"อืม.."
"ตื่นแล้วเหรอจ้ะ"
คืนทั้งคืนเมืองรามนอนอยู่ข้างนอกปล่อยให้คำแก้วดูแลนรีนาถอยู่ข้างในจนถึงเช้า
"....."
นรีนาถลืมตาตื่นขึ้นมาเห็นสาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มอยู่ตรงหน้ากำลังทักทายเธอหญิงสาวจึงมองอย่างสงสัยว่าคนตรงหน้านั้นเป็นใครกันถึงมาอยู่ที่นี่ได้
"ฉันชื่อคำแก้วจะเรียกว่าแก้วเฉยๆก็ได้ฉันเป็นเด็กในบ้านพ่อเลี้ยงรามน่ะจะ"
คำแก้วรู้ว่าสีหน้าแบบนี้ของนรีนาถหมายความว่าอย่างไรเธอจึงรีบส่งยิ้มแนะนำตัวทันที
"แล้วทำไมเธอมาอยู่ที่นี่ล่ะ"
"เมื่อวานพี่หญิงไม่ค่อยสบายพ่อเลี้ยงก็เลยให้แก้วมาคอยดูแลเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้จะ"
"อ๋อ..ขอบใจแก้วมากนะที่ช่วยดูแลพี่"
"ไม่เป็นไรจะพี่หญิงกินข้าวต้มก่อนเถอะจะได้กินยา"
คำแก้วประคองหญิงสาวให้ลุกขึ้นนั่ง
"ยาอะไรเหรอ"
นรีนาถมองไปที่ถ้วยยาที่มีน้ำสีออกเสมือนชาอย่างสงสัย
"ฟ้าทะลายโจรต้มน่ะจะแก้ไข้"
"ขมไหม"
หญิงสาวหน้าเจื่อนเล็กน้อยตั้งแต่เล็กจนโตเธอเป็นคนกินยายากที่สุดด้วยความที่ไม่ชอบความขมนั่นเอง
"นิดหน่อยจะแต่ยานี้หายไวมากเลยนะจ้ะ"
คำแก้วส่งยิ้มหวานให้คนตรงหน้าเธอรู้ว่าอีกฝ่ายคงไม่ชอบดื่มยาเธอเองก็เช่นกันแต่ยังไงก็ต้องให้อีกฝ่ายฝืนใจกินจะได้ไข้ลดลงเร็วๆ
14.00 น.
คล้อยบ่ายตอนนี้นรีนาถนั้นนอนอยู่ในกระท่อมคนเดียวทั้งถูกล่ามด้วยเชือกเส้นใหญ่ที่เธอพยายามแก้เท่าไรก็แก้ไม่ออกจนถอดใจและนอนจมฟูกนอนไปอย่างอ่อนใจ
"อีนังสำออย"
"..หา.."
เพี๊ยะ..
"โอ้ยย.."
นรีนาถถึงกับร้องเสียงหลงเมื่อจู่ๆบุญตาที่แกล้งเธอเมื่อวานนั้นเข้ามาต่อว่าเธอทั้งกระจากตบเธอจนหน้าหัน
"พ่อเลี้ยงไม่อยู่ขอตบให้หนำใจหน่อยเถอะ"
เพี๊ยะๆๆๆ
บุญตาเน้นเขี้ยวเน้นฟันฟาดหน้าหญิงสาวอย่างไม่ยั้งมือจนผิวของเธอแดงเถือกเป็นปื้นไปหมด
"นี่พอซะทีฉันไปทำอะไรให้เธอห้ะ"นรีนาถฮึดสู้ผลักหญิงสาวจนกระเด็นออกจากตัวเธอเพราะหุ่นนั้นก็ไม่ได้ต่างกันมากเธอจึงสู้ได้"แกมันเป็นมารหัวใจฉัน...นี่หลงถึงขั้นล่ามไม่ให้ไปไหนเลยเหรอ"บุญตาตวาดใส่หญิงสาวอย่างเคียดแค้น"เธอกำลังเข้าใจผิดนะ...ฉันกับนายพ่อเลี้ยงนั่นไม่ได้เป็นอะไรกันที่เค้าจับฉันมาก็เพราะแค้นพ่อฉันเท่านั้นถ้าเธอไม่อยากให้ฉันอยู่ใกล้เค้าเธอก็พาฉันหนีสิ"นรีนาถหยุดคิดครู่หนึ่งกับคำพูดของคนที่จ้องจิกเธอตรงหน้าทั้งรีบบอกให้หญิงสาวได้เข้าใจอะไรเสียใหม่และเผื่อว่างานนี้เธอจะได้รอดไปจากที่นี่เพราะคนตรงหน้าช่วยก็เป็นได้"ถ้าเป็นอย่างที่แกว่าจริงถ้าฉันพาแกหนีพ่อเลี้ยงก็ได้ฆ่าฉันพอดี"บุญตาเองก็ชะงักงันกับคำพูดของนรีนาถเช่นกันคิดๆดูแล้วหากพ่อเลี้ยงหนุ่มรู้ว่าเธอเป็นคนปล่อยนรีนาถไปเธอเองนั่นแหละที่จะกลายเป็นศพเอาได้"เธอก็อย่าให้เค้ารู้สิว่าเป็นคนพาฉันหนี"นรีนาถทำสีหน้าอ้อนวอนบุญตาและมีหวังลึกๆว่าบุญตาจะยอมช่วยเธอ".....""ว่ายังไงตกลงจะพาฉันหนีไหม"เมื้อยังเห็นอีกฝ่ายเงียบนรีนาถจึงเค้นอีกรอบด้วยท่าทีร้อนใจ"ถ้าเธอจะหนีงั้นก็ควรจะไปซะตอนนี้เลยเพราะกว่าที่พ่อเลี้ยงจะกลับก็เกือบมืด"เมื
"อึก..อืม..พ่อเลี้ยง""ตื่นแล้วเหรอ"กลางดึกในขณะที่พันแสงนั่งมองกองไฟตรงหน้าที่ตนเองเป็นคนจุดอย่างเหม่อลอยเขาก็ต้องผงะไปมองคนที่กำลังลุกขึ้นนั่ง"พ่อเลี้ยงมาได้ไงจ้ะแล้วทำไมเรามาอยู่ในนี้"คำแก้วแปลกใจอย่างมากที่เห็นพันแสงที่นี่แถมเธอและเขาก็ยังอยู่ในถ้านี้กันแค่สองคนอีกด้วย"ก็เอ็งจะถูกงูฉกเป็นลมไปฉันถึงช่วยไว้ฝนตกพอดีเลยต้องมาหลบในนี้ก่อนเช้าคงจะได้กลับ"พันแสงตอบอย่างไม่ใส่ใจทั้งหยิบกิ่งไม้ที่หามาได้สุมไฟต่อเพื่อกันสัตว์ร้ายและให้ความอบอุ่น"พ..พี่หญิง...แก้วต้องรีบตามหาพี่หญิงค่ะ"คำแก้วนึกขึ้นได้ว่าเธอเข้าป่ามาด้วยเหตุผลอะไรจึงหมายจะรีบลุกออกไปแต่ถูกพ่อเลี้ยงหนุ่มรั้งเอาไว้ก่อน"ฉันว่าไอ้รามมันคงตามเจอก่อนเอ็งแล้วล่ะขืนมันรู้ว่าเอ็งตามไปด้วยมันจะหัวเสียใหญ่ตัวเท่าลูกหมายังจะอวดเก่งให้คนเค้าเดือดร้อนเพิ่ม"พันแสงส่ายหัวเบาๆที่หญิงสาวอวดเก่งเกินตัวจนทำให้เขาต้องมาเดือดร้อนด้วย"แก้วแค่จะรับผิดชอบหน้าที่ตัวเองก็เท่านั้น"คำแก้วก้มหน้างุดเธอแค่อยากจะทำตัวเป็นประโยชน์ไม่ใช่เป็นภาระใครแต่เธอก็เป็นไปแล้ว"เอ็งนอนไปเถอะ.."เมื่อได้รับคำสั่งจากพ่อเลี้ยงหนุ่มคำแก้วก็นั่งฟุบพิงกับโขดหินในถ
"พี่หญิง..ท..ทำไมมีสภาพแบบนี้ล่ะจ้ะ"เกือบเที่ยงวันที่คำแก้วจะมาถึงกระท่อมเพราะต้องเตรียมอาหารมาที่นี่ด้วยเมื่อเปิดประตูเข้ามาหญิงสาวถึงกับผงะปิ่นโตที่อยู่ในมือแทบร่วงเมื่อเห็นสภาพของนรีนาถที่ฟุบนอนอยู่กับฟูกนอนน้ำตาไหลพรากเนื้อตัวมีแต่รอยแดงเต็มไปหมดทั้งเสื้อผ้าก็ยังขาดวิ่นกองอยู่ข้างตัว"แก้ว..ฮึก..ฮือๆๆๆ..ไอ้พ่อเลี้ยงบ้านั่น..ฮือๆๆๆ.."นรีนาถเห็นคำแก้วเข้ามาหาก็รีบคว้าตัวหญิงสาวเข้ามากอดเพื่อระบายความกลัวและความน้อยเนื้อต่ำใจ"หา..""ฮือๆๆๆ..."คำแก้วสัมผัสได้ว่านรีนาถเนื้อตัวยังสั่นไม่หายสภาพของนรีนาถที่เป็นแบบนี้คำแก้วเองพอจะดูออกว่าคงเป็นเพราะอารมณ์โทสะของพ่อเลี้ยงเป็นแน่ยิ่งคิดเธอก็ยิ่งรู้สึกผิดหากเธออยู่เฝ้าเท่านั้นเรื่องทุกอย่างก็จะไม่เกิดขึ้นเลย"เดี๋ยวแก้วเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้นะจ้ะ.."คำแก้วค่อยๆโน้มตัวนรีนาถให้นอนลงและรีบหาผ้าชุบน้ำมาเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้เธอในขณะที่นรีนาถยังคงสะอื้นไม่หยุด"ฮือๆๆๆ.."ข้าวเที่ยงยังไม่ทันได้กินหญิงสาวก็หลับไปเสียก่อนหลังจากเช็ดตัวเสร็จด้วยความเพลีย"แก้วขอโทษที่ไม่ดูพี่หญิงให้ดี..แก้วขอโทษนะจ้ะ.."คำแก้วเองถึงแม้จะไม่ได้กินข้าวเช้าเหมือนกันถึงปิ
"....."พันแสงนั่งกุมขมับอยู่พักใหญ่แล้วจึงให้คำตอบที่ทำให้เมืองรามค่อนข้างพึงพอใจอยู่ไม่น้อยเรือนศังกร18.00 น."พ่อเลี้ยงเรียกแก้วมาคุยมีอะไรเหรอจ้ะ"คำแก้วรีบมาพบเมืองรามเมื่อถูกเรียกหาในช่วงเย็นของวัน"เรื่องข่าวลือพอจะรู้บ้างรึเปล่า""แก้วรู้จะแต่แก้วไม่ได้ใส่ใจเพราะมันไม่ใช่เรื่องจริง"เมื่อถูกถามถึงเรื่องนี้คำแก้วถึงกับหน้าถอดสีในทันทีเธอรู้มาบ้างแล้วแค่ไม่อยากพูดเท่านั้นและไม่คิดว่าเรื่องจะถึงหูเมืองรามด้วย"แต่สิ่งที่คนอื่นเห็นมันก็ยากที่จะเชื่อ"เมืองรามจ้องคนตรงหน้าเขม็ง"พ่อเลี้ยงเชื่อแก้วไหมจ้ะ"คำแก้วไม่สนคำใครขอแค่คนที่เธอเคารพเชื่อใจเธอก็พอ"ฉันน่ะเชื่อ...แต่ยังไงฉันก็เหมือนเป็นพ่อของเอ็งก็ต้องปกป้องชื่อเสียงของเอ็งให้ดีที่สุด""หมายความว่ายังไงจ้ะ""วันที่9เดือน9ไอ้แสงมันจะยกขันหมากมาขอเอ็งเตรียมตัวเอาไว้""หา..ก..แก้ว..""คำแก้ว.."คำแก้วถึงกับตัวชาวาบกำลังจะเอ่ยคำปฏิเสธก็ถูกฟองจีนทร์ห้ามเอาไว้เสียก่อน"ที่ฉันจะบอกเอ็งก็มีแค่นี้"เมืองรามบอกสิ่งที่ต้องบอกให้คำแก้วได้รับรู้เมื่อเจ้าตัวรับรู้แล้วก็หมดหน้าที่ของเขาจึงเดินกลับไปที่กระท่อมริมธารทันทีด้วยสีหน้าที่ค่อนข้าง
"..อยู่เฉยๆ..""อร้ายยย...ปล่อยยย.."เมืองรามวางไหน้ำเมาของเขาลงพร้อมกดร่างบางแล้วขึ้นคร่อมเธออย่างเอาแต่ใจเขายกยิ้มเล็กน้อยมองหน้าจิ้มลิ้มด้วยสายตาหยาดเยิ้มไม่รู้ว่าทำไมวันนี้เขาจึงคิดถึงแต่กลิ่นกายของเธอด้วยความที่ไม่ค่อยจะมีสติเท่าไรจึงเลือกที่จะทำอะไรตามอำเภอใจโดยที่ไม่ฟังคนต่อต้านเช่นเดิม"หื้อ..อื้มม..ฮือๆๆ..หยุดทำบ้าๆกับฉันสักที..ฮือๆๆ"เพี๊ยะ..ปั้กๆๆ..ตุ้บ..นรีนาถทั้งตบทั้งข่วนไม่ยอมหยุดมือกับคนที่กระทำย่ำยีร่างกายของเธอแต่ดูเหมือนคนที่กำลังเมาผิวเนื้อด้านชาไม่มีร้องโอดโอยเลยสักแอะแต่ดันเพิ่มพูนทวีความรุนแรงกับกิจกรรมสวาทที่ทำอยู่แทนจนทำให้หญิงสาวนั้นหมดแรงจะต้านและหยุดมือไปเอง"......""ฮื่อๆๆๆๆ..อือ...ฉันเจ็บ.."กิจกรรมสวาทที่เมืองรามได้กระทำกับนรีนาถเนิ่นนานเสียจนสาวเจ้าตัวอ่อนปวกเปียกตาจะหลับไม่หลับแหล่น้ำตาที่ไหลเป็นสายธารเปียกเลอะเทอะใบหน้าสวยและไรผมรามไปถึงฟูกนอนเป็นวงกว้างแต่มีหรือคนป่าเถื่อนจะสนใจเพราะเอาแต่อารมณ์ตัวเองเป็นหลักในขณะที่ไม่ได้สติแบบนี้วันต่อมา"......."นรีนาถตื่นมานั่งกอดเข่าร้องให้กระซิกเบาๆคนเดียวตั้งแต่หัวรุ่งไม่อยากเหลือบสายตามองร่างกายตัวเองแม้แ
วันทั้งวันนรีนาถแทบจะนึกถึงแต่คำพูดของคำแก้วเธอหวังลึกๆว่าอยากให้เป็นดังเช่นคำของคำแก้วในเร็ววันนี้เช่นกัน"เหนื่อยไหมพี่""ไม่เหนื่อยจะทอง"นรีนาถหลุดจากภวังค์เมื่อได้ยินเสียงของทองดีทักขึ้น"เดี๋ยวฉันต้อนควายเสร็จแล้วจะไปส่งที่กระท่อม""ขอบใจจะ""พี่สาว..ลูกวัวหายไปไหนเห็นรึเปล่า"ทองดีต้อนความยเข้าคอกจนหมดมาถึงวัวเขานับดูก็แปลกใจเล็กน้อยว่าลูกวัวหายไปไหนตัวนึงจึงถามหากับนรีนาถ"อะไรนะ...เมื่อกี้พี่ไม่ทันมองด้วยสิ"นรีนาถถึงกับหน้าเจื่อนลงทันที"มีอะไรกัน""....."ทองดีถึงขั้นหน้าเสียกว่านรีนาถหลายเท่าเมื่อเห็นเมืองรามเดินเข้ามาในขณะที่ยังมีปัญหาอยู่ในตอนนี้หวังว่าพ่อเลี้ยงนั้นจะไม่เอ็ดนรีนาถขึ้นมาอีก"คือ..ฉันทำลูกวัวหาย"นรีนาถมองหน้าทองดีเล็กน้อยทั้งยอมรับกับเมืองรามตรงๆว่าเธอทำลูกวัวหาย"นี่แค่ให้นั่งเฝ้ายังมีปัญหาคนอย่างเธอมันมีประโยชน์อะไรบ้างห้ะ"เมืองรามเท้าเอวต่อว่านรีนาถเสียงแข็งจนเธอสะดุ้งตกใจทำให้ทองดีรีบเอ่ยว่าจะแก้ปัญหานี้เองเพราะมันไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไรมากมายแค่วัวหายก็ไปตามกลับมาก็เท่านั้น"ลูกวัวมันก็ซนเป็นธรรมดาเดี๋ยวฉันต้อนพวกมันเข้าคอกเสร็จเดี๋ยวจะตามกลับมาเอ
"ยิ้มแย้มหน่อยสิแก้ว"ทางด้านคำแก้ววันนี้เธอดูผุดผ่องเป็นพิเศษเพราะถูกขัดศรีฉวีวรรณโดยฟองจันทร์หญิงสาวเกล้าผมใส่ชุดแต่งงานแบบล้านนาเป็นชุดที่เมืองราหาซื้อมาให้แม้ภายนอกจะดูงดงามเพียงใดแต่จิตใจของเธอตอนนี้ช่างห่อเหี่ยวเสียเหลือเกิน"แม่จันทร์จ้ะ..คือแก้ว"คำแก้วส่ายหัวเบาๆเมื่อถึงเวลาจริงๆเธอกลับทำใจไม่ได้เสียอย่างนั้น"เห็นแก่หน้าพ่อเลี้ยงท่องเอาไว้""จะ"ฟองจันทร์รับรู้ได้ถึงความรู้สึกของคำแก้วเธอเองก็ได้แต่ขอให้งานวันนี้มันผ่านพ้นไปด้วยดี"มึงดูหน้าเจ้าบ่าวเจ้าสาวดิวะ"ในขณะที่ตอนนี้หมอทำขสัญของหมู่บ้านกำลังทำขวัญให้กับบ่าวสาวอยู่ทองดีจำต้องหันมาคุยกับทศพลที่ดูสีหน้าบ่าวสาวไม่ได้มีความสุขเอาเสียเลย"กูผะอืดผะอมแทนหมอทำขวัญเลยว่ะ"ทศพลเองก็ได้แต่ส่ายหัวเบาๆ"เงียบหน่อยพวกมึง""ครับ.. พ่อเลี้ยง"เมืองรามรับรู้ถึงเหตุการณ์ทั้งหมดเพราะเขาก็เห็นอยู่ตรงหน้าแต่ก็พยายามเฉยไว้และปรามคนสนิทที่ยั่งซุบซิบกันไม่ดูเวลา"ขอให้อยู่กันอย่างร่มเย็นเป็นสุขนะ...ฝากดูแลคำแก้วแทนกูด้วย"หลังจากทำขวัญเสร็จตอนนี้ก็ได้เวลาผู้ข้อไม้ข้อมือเมืองรามในฐานะที่เปรียบเสมือนพ่อของเจ้าสาวก็เดินเข้ามารดน้ำสังข์ผูกข้อ
สามวันต่อมา09.00 น.ไร่วัฒนพรรณ"ดูแลคำแก้วให้ดีล่ะ""อืม.."วันนี้ก็ครบสามวันแล้วที่พันแสงนอนที่เรือนศังกรตามพิธีวันนี้ก็ได้ฤกษ์ย้ายมาที่เรือนของพันแสงเองเสียทีเมืองรามและฟองจันทร์เลนมาส่งคำแก้วทั้งเอ่ยปากให้พันแสงดูแลคำแก้วให้ดีเหมือนที่เขาได้ดูแลมา"ดูแลงานบ้านงานเรือนอย่าให้ขาดตกบกพร่องนะแก้ว""จะแม่จันทร์"ฟองจันทร์ลูบหัวคำแก้วเบาๆก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับเมืองราม"นี่ห้องนอน..ส่วนนั่นเดินออกไปหน่อยก็ครัวตอนเช้ากับเย็นๆสำอางมันจะเข้ามาทำครัวเอ็งอยากกินอะไรก็บอกมันแล้วกัน""จะพ่อเลี้ยง""ฉันจะออกไปดูไร่..เอ็งจะทำอะไรก็เรื่องของเอ็ง"หลังจากเมืองรามและฟองจันทร์กลับไปกันแล้วพันแสงก็พาคำแก้วเอาของมาเก็บที่ห้องนอนและพาเดินรอบบ้านก่อนที่จะออกไปดูไร่ของเขาต่อและปล่อยหญิงสาวให้อยู่คนเดียว"....."คำแก้วนั่งถอนหายใจเบาๆอยู่ในบ้านเธอดูท่าแล้วคงจะเหงากว่าอยู่ที่ไร่ศังกรอยู่มากแต่ก็พยายามทำตัวให้ชินกับมันให้เร็วที่สุด16.00 น.กระท่อมริมธารหลังจากวันนั้นเมืองรามก็ล่ามไม่ให้หญิงออกไปไหนอีกเลยและเขาก็กระทำย่ำยีเธอทุกวันจนเธอไม่มองว่าตัวเองมีค่าอีกต่อไป"ฮึกๆ..ฮือ..พี่สิงคุณพ่อหญิงไม่อยากอยู่ต