Share

ตอนที่19 ไฟไหม้กระท่อม

สามวันต่อมา

09.00​ น.

ไร่วัฒนพรรณ

"ดูแลคำแก้วให้ดีล่ะ"

"อืม.."

วันนี้ก็ครบสามวันแล้วที่พันแสงนอนที่เรือนศังกรตามพิธีวันนี้ก็ได้ฤกษ์ย้ายมาที่เรือนของพันแสงเองเสียทีเมืองรามและฟองจันทร์เลนมาส่งคำแก้วทั้งเอ่ยปากให้พันแสงดูแลคำแก้วให้ดีเหมือนที่เขาได้ดูแลมา

"ดูแลงานบ้านงานเรือนอย่าให้ขาดตกบกพร่องนะแก้ว"

"จะแม่จันทร์"

ฟองจันทร์ลูบหัวคำแก้วเบาๆก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับเมืองราม

"นี่ห้องนอน..ส่วนนั่นเดินออกไปหน่อยก็ครัวตอนเช้ากับเย็นๆสำอางมันจะเข้ามาทำครัวเอ็งอยากกินอะไรก็บอกมันแล้วกัน"

"จะพ่อเลี้ยง"

"ฉันจะออกไปดูไร่..เอ็งจะทำอะไรก็เรื่องของเอ็ง"

หลังจากเมืองรามและฟองจันทร์กลับไปกันแล้วพันแสงก็พาคำแก้วเอาของมาเก็บที่ห้องนอนและพาเดินรอบบ้านก่อนที่จะออกไปดูไร่ของเขาต่อและปล่อยหญิงสาวให้อยู่คนเดียว

"....."

คำแก้วนั่งถอนหายใจเบาๆอยู่ในบ้านเธอดูท่าแล้วคงจะเหงากว่าอยู่ที่ไร่ศังกรอยู่มากแต่ก็พยายามทำตัวให้ชินกับมันให้เร็วที่สุด

16.00 น.

กระท่อมริมธาร

หลังจากวันนั้นเมืองรามก็ล่ามไม่ให้หญิงออกไปไหนอีกเลยและเขาก็กระทำย่ำยีเธอทุกวันจนเธอไม่มองว่าตัวเองมีค่าอีกต่อไป

"ฮึกๆ..ฮือ..พี่สิงคุณพ่อหญิงไม่อยากอยู่ต่อไปแล้วหญิงขอโทษ..ฮือๆๆ.."

นรีนาถนั่งร้องให้มองเปลวไฟตรงหน้าที่ค่อยๆลามลุกโดยฝีมือของเธอด้วยอาการเหม่อลอย

"วันนี้ร้อนอบอ้าวจังเล้ยยย"

ทศพลบ่นอุกที่ดูทีว่าว่าครึ้มฟ้าครึ้มฝนอต่ฝนก็ยังไม่ตกทำให้ต้องร้อนอบอ้าวแบบนี้

"พ่อเลี้ยงนั่นควันอะไร"

ทองดียืนกระพือเสื้อทำงานของตนพลันสายตาก็มองไปยังกลุ่มควันที่น่าจะอยู่ใกล้ๆธารน้ำตกอย่างตกใจ

"เฮ้ย..กระท่อมกู"

เมืองรามถึงกับใจกระตุกวูบหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มเมื่อรู้ว่าใครอยู่ในนั้นและไม่สามารถหนีออกมาได้เพราะว่าเขานั้นล่ามเอาไว้อยู่

ทองดีกับทศพลวิ่งตะโกนเรียกคนช่วยทั้งวิ่งตามเมืองรามไปติดๆ

"หญิง.."

เมืองรามเบิกตาโพรงเมื่อเห็นกระท่อมของเขากำลังถูกไฟลุกโหมกระหน่ำ

"ฮึก..อือ..ฮือๆๆๆ.."

นรีนาถที่อยู่ด้านในก็ยังคงนั่งนิ่งไม่สะทกสะท้านเหมือนคนไม่ได้สติทั้งปล่อยน้ำตาให้ไหลพรากอย่างสุดจะกลั้น

"พวกมึงรีบตักน้ำมาดับไฟกูจะเข้าไปช่วยหญิง"

"ไฟมันกำลังโหมเลยพ่อเลี้ยงจะเจ้าไปยังไง"

ทศพลรั้งแขนเมืองรามเอาไว้ก่อนที่พ่อเลี้ยงหนุ่มจะวิ่งเข้าไปมนกองเพลิงเพราะเป็นห่วง

"หื้มมม.. "

เมืองรามสะบัดแขนและรีบวิ่งเข้าไปอย่างไม่กลัวตายเพราะในใจตอนนี้ห่วงนรีนาถอย่างมาก

"พ่อเลี้ยง"

ทศพลตะโกนตามหลังิย่างหน้าเสียเมืองรามจนสุดเสียงเพราะกลัวว่าคนที่เลี้ยงมาจะไปตายในกองเพลิง

"ตะโกนอยู่ได้ไปตักน้ำสิวะ"

ทองดีรีบดึงตัวเพื่อนของเขาให้รีบช่วยกันตักน้ำจากลำธารมาดับเพลิงแทนที่จะเสียเวลายืนเป็นห่วงไปเปล่าๆ

"แอะ.ๆๆ.."

"หญิง"

เมืองรามเข้ามาด้านในอย่างไม่สะท้านกับไฟเขารีบโน้มตัวบังร่างหญิงส่วไม่ให้ถูกลูกไฟหล่นใส่และเป็นตัวเขาเองที่รับลูกไฟพวกนั้นไว้แทนจนเสื้อมี่ใส่มาไหม้จนถึงผิวหนัง

พลั้กก..

"โอ้ยย..ขาดสิวะ"

เมืองรามพยายามใช้มีดพกของเขาตัดเชือกที่ขาหญิงสาวแต่ยังไม่ทันขาดดีคานไม้ก็ล่วงลงมาใส่หลังของเขาจนร้องออกมาเสียงฝาดแต่ก็ยังพยายามตัดเชือกให้หญิงสาวต่อไปจนขาดมาได้และรีบอุ้มร่างบางออกมาจากกองเพลิงทันที

"..อึก..อืมม.."

เมื่อออกมาได้นรีนาถก็หมดสติเพราะสูดควันไฟเข้าไปเมืองรามจึงรีบพาเธอมาที่เรือนศังกรและให้หมอดูเธออย่างรวดเร็ว

18.00​ น.

"ฟื้นแล้วเหรอคุณ"

หลังจากที่หมอมาดูอาการหญิงสาวและปล่อยเธอนอนไปพักใหญ่นรีนาถก็ฟื้นขึ้นมาด้วยอาการเพลียเล็กน้อยฟองจันทร์เห็นหญิงสาวตื่นแล้วจึงรีบพยุงตัวเธอให้นั่งขึ้น

"ทำไมหญิงมาอยู่ที่นี่จ้ะ"

นรีนาถถามหญิงชราตรงหน้าด้วนท่าทีสงสัย

"ก็พ่อเลี้ยงไปช่วยคุณจากกองเพลิงคุณสลบไปพ่อเลี้ยงเลยพามาที่นี่...ฉันชื่อฟองจันทร์จะ"

ฟองจันทร์รีบอธิบายและรีบแนะนำตัวเพราะรู้ว่สนรีนาถน่าจะยังไม่รู้จักเธอ

"แม่จันทร์ที่อยู่กับคำแก้วใช่ไหมจ้ะ"

"ใช่แล้วจะ"

ฟองจันทร์ยิ้มตอบ

"แล้ว..นายนั่น..เอ่อ..พ่อเลี้ยงไปไหนล่ะจ้ะ"

ก่อนที่จะสลบไปนรีนาถจำได้ว่าเธอจงใจที่จะฆ่าตัวตายในกองเพลิงแต่ก็ถูกเมืองรามช่วยเอาไว้ได้ก่อน

"นอนอยู่ในห้องจะพอดีพ่อเลี้ยงบาดเจ็บตอนที่ไปช่วยคุณ"

"เป็นอะไรจ้ะ"

นรีนาถถึงกับหน้าเสีย

"โดนพวกลูกไฟหล่นใส่น่ะจะ"

"หญิงขอไปดูเค้าได้ไหมจ้ะ"

"ตามฉันมาจะ"

"นาย.."

นรีนาถค่อยๆเดินตามฟองจันทร์มาที่ห้องข้างๆเมื่อเข้ามาเห็นชายหนุ่มนั่งถอดเสื้อที่หัวเตียงพันผ้าพันแผลไปแทบทั้งตัวเธอจึงแอบรู้สึกผิดในใจอยู่พอสมควร

"มาก็ดี...แม่จันทร์มีอะไรจะไปทำก็ไปทำเถอะฉันจะคุยกับเธอก่อน"

เมืองรามมองหญิงสาวตรงหน้าที่กำลังเดินเข้ามาพร้อมฟองจันทร์ตอนนี้เขาโล่งใจที่เห็นเธอฟื้นขึ้นมาได้และอยากจะขอคุยกับเธอเป็นการส่วนตัวจริงให้ฟองจันทร์นั้นออกไปก่อน

"จะพ่อเลี้ยง"

"มานั่งนี่"

เมืองรามเคาะมือข้างๆตัวเป็นการบอกให้หญิงสาวมานั่งข้างๆเขา

"เพลิงไหม้เกิดขึ้นได้ยังไง"

เมืองรามถามนรีนาถเสียงแข็ง

"ฉ...ฉันเป็นคนทำเอง"

หญิงสาวตอบอย่างตรงไปตรงมาเธอคิดแบบนั้นจริงๆถึงได้ลงมือทำลงไปแต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายดูท่าจะเจ็บหนักเพราะตนเธอกลับรู้สึกผิดทั้งที่คนที่ทำให้เธอคิดสั้นเป็นเขาบางทีเธอก็เกลียดความขี้ใจอ่อนชอบสงสารของเธอเหมือนกันซึ่งมันห้ามให้เกิดยากเหลือเกิน

"หึ่... อยากตายนักเหรอ"

เมทองรามมองหน้านรีนาถด้วยสีหน้าเดือดดาล

"........"

นรีนาถไม่สนว่าชายหนุ่มนั้นจะมีอาการโมโหเธอหรือจะลงโทษอะไรเธอตอนนี้เธอสนใจแค่แผลตามตัวของชายหนุ่มเท่านั้น

"จะทำอะไร"

เมืองรามดึงมือหญิงสาวออกเพราะเธอกำลังป้วนเปี้ยนอยั่กับผ้าพันแผลของเขา

"อยู่เฉยๆ..ฉันขอดูแผลนายหน่อย"

นรีนาถจับมือชาบหนุ่มวางลงและเขยิบถอยหลังแกะแผลของเมืองรามดูซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร

"ถ้าจะทำดีให้ฉันใจอ่อนอย่าเสียเวลาเลย"

เมืองรามหันหน้าบอกคนที่กำลังแสร้งทำดีต่อเขา

"ก็แค่อยากจะดูแผล..."

นรีนาถเหลือบมองชายหนุ่มพร้อมส่ายหัวและหันมาแกะผ้าพันแผลออก

"โอ้ย..."

เมืองรามร้องออกมาเล็กน้อยเพราะรู้สึกแสบแผลในขณะที่หญิงสาวดึงผ้าที่ติดกับแผลออก

"ช่วยฉันทำไม..ทำไมไม่ปล่อยให้ฉันตาย"

นรีนาถถามชายหนุ่มด้วยสีหน้าสงสัย

"ฉันบอกแล้วไงว่าจะรอพ่อเธอมารับ"

"ความแค้นของนายมันมากมายเสียจนลดลาวาศอกไม่ได้เลยหรือไง"

นรีนาถถามด้วยน้ำเสียงอ่อนใจ

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status