สามวันต่อมา
09.00 น.
ไร่วัฒนพรรณ
"ดูแลคำแก้วให้ดีล่ะ"
"อืม.."
วันนี้ก็ครบสามวันแล้วที่พันแสงนอนที่เรือนศังกรตามพิธีวันนี้ก็ได้ฤกษ์ย้ายมาที่เรือนของพันแสงเองเสียทีเมืองรามและฟองจันทร์เลนมาส่งคำแก้วทั้งเอ่ยปากให้พันแสงดูแลคำแก้วให้ดีเหมือนที่เขาได้ดูแลมา
"ดูแลงานบ้านงานเรือนอย่าให้ขาดตกบกพร่องนะแก้ว"
"จะแม่จันทร์"
ฟองจันทร์ลูบหัวคำแก้วเบาๆก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับเมืองราม
"นี่ห้องนอน..ส่วนนั่นเดินออกไปหน่อยก็ครัวตอนเช้ากับเย็นๆสำอางมันจะเข้ามาทำครัวเอ็งอยากกินอะไรก็บอกมันแล้วกัน"
"จะพ่อเลี้ยง"
"ฉันจะออกไปดูไร่..เอ็งจะทำอะไรก็เรื่องของเอ็ง"
หลังจากเมืองรามและฟองจันทร์กลับไปกันแล้วพันแสงก็พาคำแก้วเอาของมาเก็บที่ห้องนอนและพาเดินรอบบ้านก่อนที่จะออกไปดูไร่ของเขาต่อและปล่อยหญิงสาวให้อยู่คนเดียว
"....."
คำแก้วนั่งถอนหายใจเบาๆอยู่ในบ้านเธอดูท่าแล้วคงจะเหงากว่าอยู่ที่ไร่ศังกรอยู่มากแต่ก็พยายามทำตัวให้ชินกับมันให้เร็วที่สุด
16.00 น.
กระท่อมริมธาร
หลังจากวันนั้นเมืองรามก็ล่ามไม่ให้หญิงออกไปไหนอีกเลยและเขาก็กระทำย่ำยีเธอทุกวันจนเธอไม่มองว่าตัวเองมีค่าอีกต่อไป
"ฮึกๆ..ฮือ..พี่สิงคุณพ่อหญิงไม่อยากอยู่ต่อไปแล้วหญิงขอโทษ..ฮือๆๆ.."
นรีนาถนั่งร้องให้มองเปลวไฟตรงหน้าที่ค่อยๆลามลุกโดยฝีมือของเธอด้วยอาการเหม่อลอย
"วันนี้ร้อนอบอ้าวจังเล้ยยย"
ทศพลบ่นอุกที่ดูทีว่าว่าครึ้มฟ้าครึ้มฝนอต่ฝนก็ยังไม่ตกทำให้ต้องร้อนอบอ้าวแบบนี้
"พ่อเลี้ยงนั่นควันอะไร"
ทองดียืนกระพือเสื้อทำงานของตนพลันสายตาก็มองไปยังกลุ่มควันที่น่าจะอยู่ใกล้ๆธารน้ำตกอย่างตกใจ
"เฮ้ย..กระท่อมกู"
เมืองรามถึงกับใจกระตุกวูบหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มเมื่อรู้ว่าใครอยู่ในนั้นและไม่สามารถหนีออกมาได้เพราะว่าเขานั้นล่ามเอาไว้อยู่
ทองดีกับทศพลวิ่งตะโกนเรียกคนช่วยทั้งวิ่งตามเมืองรามไปติดๆ
"หญิง.."
เมืองรามเบิกตาโพรงเมื่อเห็นกระท่อมของเขากำลังถูกไฟลุกโหมกระหน่ำ
"ฮึก..อือ..ฮือๆๆๆ.."
นรีนาถที่อยู่ด้านในก็ยังคงนั่งนิ่งไม่สะทกสะท้านเหมือนคนไม่ได้สติทั้งปล่อยน้ำตาให้ไหลพรากอย่างสุดจะกลั้น
"พวกมึงรีบตักน้ำมาดับไฟกูจะเข้าไปช่วยหญิง"
"ไฟมันกำลังโหมเลยพ่อเลี้ยงจะเจ้าไปยังไง"
ทศพลรั้งแขนเมืองรามเอาไว้ก่อนที่พ่อเลี้ยงหนุ่มจะวิ่งเข้าไปมนกองเพลิงเพราะเป็นห่วง
"หื้มมม.. "
เมืองรามสะบัดแขนและรีบวิ่งเข้าไปอย่างไม่กลัวตายเพราะในใจตอนนี้ห่วงนรีนาถอย่างมาก
"พ่อเลี้ยง"
ทศพลตะโกนตามหลังิย่างหน้าเสียเมืองรามจนสุดเสียงเพราะกลัวว่าคนที่เลี้ยงมาจะไปตายในกองเพลิง
"ตะโกนอยู่ได้ไปตักน้ำสิวะ"
ทองดีรีบดึงตัวเพื่อนของเขาให้รีบช่วยกันตักน้ำจากลำธารมาดับเพลิงแทนที่จะเสียเวลายืนเป็นห่วงไปเปล่าๆ
"แอะ.ๆๆ.."
"หญิง"
เมืองรามเข้ามาด้านในอย่างไม่สะท้านกับไฟเขารีบโน้มตัวบังร่างหญิงส่วไม่ให้ถูกลูกไฟหล่นใส่และเป็นตัวเขาเองที่รับลูกไฟพวกนั้นไว้แทนจนเสื้อมี่ใส่มาไหม้จนถึงผิวหนัง
พลั้กก..
"โอ้ยย..ขาดสิวะ"
เมืองรามพยายามใช้มีดพกของเขาตัดเชือกที่ขาหญิงสาวแต่ยังไม่ทันขาดดีคานไม้ก็ล่วงลงมาใส่หลังของเขาจนร้องออกมาเสียงฝาดแต่ก็ยังพยายามตัดเชือกให้หญิงสาวต่อไปจนขาดมาได้และรีบอุ้มร่างบางออกมาจากกองเพลิงทันที
"..อึก..อืมม.."
เมื่อออกมาได้นรีนาถก็หมดสติเพราะสูดควันไฟเข้าไปเมืองรามจึงรีบพาเธอมาที่เรือนศังกรและให้หมอดูเธออย่างรวดเร็ว
18.00 น.
"ฟื้นแล้วเหรอคุณ"
หลังจากที่หมอมาดูอาการหญิงสาวและปล่อยเธอนอนไปพักใหญ่นรีนาถก็ฟื้นขึ้นมาด้วยอาการเพลียเล็กน้อยฟองจันทร์เห็นหญิงสาวตื่นแล้วจึงรีบพยุงตัวเธอให้นั่งขึ้น
"ทำไมหญิงมาอยู่ที่นี่จ้ะ"
นรีนาถถามหญิงชราตรงหน้าด้วนท่าทีสงสัย
"ก็พ่อเลี้ยงไปช่วยคุณจากกองเพลิงคุณสลบไปพ่อเลี้ยงเลยพามาที่นี่...ฉันชื่อฟองจันทร์จะ"
ฟองจันทร์รีบอธิบายและรีบแนะนำตัวเพราะรู้ว่สนรีนาถน่าจะยังไม่รู้จักเธอ
"แม่จันทร์ที่อยู่กับคำแก้วใช่ไหมจ้ะ"
"ใช่แล้วจะ"
ฟองจันทร์ยิ้มตอบ
"แล้ว..นายนั่น..เอ่อ..พ่อเลี้ยงไปไหนล่ะจ้ะ"
ก่อนที่จะสลบไปนรีนาถจำได้ว่าเธอจงใจที่จะฆ่าตัวตายในกองเพลิงแต่ก็ถูกเมืองรามช่วยเอาไว้ได้ก่อน
"นอนอยู่ในห้องจะพอดีพ่อเลี้ยงบาดเจ็บตอนที่ไปช่วยคุณ"
"เป็นอะไรจ้ะ"
นรีนาถถึงกับหน้าเสีย
"โดนพวกลูกไฟหล่นใส่น่ะจะ"
"หญิงขอไปดูเค้าได้ไหมจ้ะ"
"ตามฉันมาจะ"
"นาย.."
นรีนาถค่อยๆเดินตามฟองจันทร์มาที่ห้องข้างๆเมื่อเข้ามาเห็นชายหนุ่มนั่งถอดเสื้อที่หัวเตียงพันผ้าพันแผลไปแทบทั้งตัวเธอจึงแอบรู้สึกผิดในใจอยู่พอสมควร
"มาก็ดี...แม่จันทร์มีอะไรจะไปทำก็ไปทำเถอะฉันจะคุยกับเธอก่อน"
เมืองรามมองหญิงสาวตรงหน้าที่กำลังเดินเข้ามาพร้อมฟองจันทร์ตอนนี้เขาโล่งใจที่เห็นเธอฟื้นขึ้นมาได้และอยากจะขอคุยกับเธอเป็นการส่วนตัวจริงให้ฟองจันทร์นั้นออกไปก่อน
"จะพ่อเลี้ยง"
"มานั่งนี่"
เมืองรามเคาะมือข้างๆตัวเป็นการบอกให้หญิงสาวมานั่งข้างๆเขา
"เพลิงไหม้เกิดขึ้นได้ยังไง"
เมืองรามถามนรีนาถเสียงแข็ง
"ฉ...ฉันเป็นคนทำเอง"
หญิงสาวตอบอย่างตรงไปตรงมาเธอคิดแบบนั้นจริงๆถึงได้ลงมือทำลงไปแต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายดูท่าจะเจ็บหนักเพราะตนเธอกลับรู้สึกผิดทั้งที่คนที่ทำให้เธอคิดสั้นเป็นเขาบางทีเธอก็เกลียดความขี้ใจอ่อนชอบสงสารของเธอเหมือนกันซึ่งมันห้ามให้เกิดยากเหลือเกิน
"หึ่... อยากตายนักเหรอ"
เมทองรามมองหน้านรีนาถด้วยสีหน้าเดือดดาล
"........"
นรีนาถไม่สนว่าชายหนุ่มนั้นจะมีอาการโมโหเธอหรือจะลงโทษอะไรเธอตอนนี้เธอสนใจแค่แผลตามตัวของชายหนุ่มเท่านั้น
"จะทำอะไร"
เมืองรามดึงมือหญิงสาวออกเพราะเธอกำลังป้วนเปี้ยนอยั่กับผ้าพันแผลของเขา
"อยู่เฉยๆ..ฉันขอดูแผลนายหน่อย"
นรีนาถจับมือชาบหนุ่มวางลงและเขยิบถอยหลังแกะแผลของเมืองรามดูซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร
"ถ้าจะทำดีให้ฉันใจอ่อนอย่าเสียเวลาเลย"
เมืองรามหันหน้าบอกคนที่กำลังแสร้งทำดีต่อเขา
"ก็แค่อยากจะดูแผล..."
นรีนาถเหลือบมองชายหนุ่มพร้อมส่ายหัวและหันมาแกะผ้าพันแผลออก
"โอ้ย..."
เมืองรามร้องออกมาเล็กน้อยเพราะรู้สึกแสบแผลในขณะที่หญิงสาวดึงผ้าที่ติดกับแผลออก
"ช่วยฉันทำไม..ทำไมไม่ปล่อยให้ฉันตาย"
นรีนาถถามชายหนุ่มด้วยสีหน้าสงสัย
"ฉันบอกแล้วไงว่าจะรอพ่อเธอมารับ"
"ความแค้นของนายมันมากมายเสียจนลดลาวาศอกไม่ได้เลยหรือไง"
นรีนาถถามด้วยน้ำเสียงอ่อนใจ
"คนที่มันทำกับฉันก่อนจะต้องถูกกระทำคืนหลายเท่า""นายทรมานฉันสารพัดยังไม่พอใจอีกหรือไง""ไม่...จนกว่าพ่อเธอจะทุรนทุรายตรงหน้าฉัน""แล้วถ้าพ่อฉันกลับมาพร้อมเมียนายล่ะ""ฉันรอวันนั้นอยู่วันที่ฉันจะได้เห็นหน้าคนทรยศมันทรมานด้วยน้ำมือของฉัน""เฮ้อ...นายทำแบบนี้ชีวิตนายจะมีความสุขหรือไง""เรื่องของฉันเธอชักจะพูดมากเกินไปแล้วน่ารำคาญ""จะไปไหน"เมืองรามต้องเอ่ยเสียงแข็งเมื่อหญิงสาวนั้นจู่ๆก็จะเดินออกไปดื้อๆทั้งที่ยังไม่พันแผลเขากลับอย่างเดิม"ก็รำคาญไม่ใช่หรือไงฉันจะได้ไปให้พ้นๆ"นรีนาถชะงักหันกลับมาประชดอีกฝ่ายด้วยสีหน้สบูดบึ้ง"อนุญาตหรือยัง""จะอะไรกับฉันนักหนา""มานั่งเฝ้าฉันเธอเป็นต้นเหตุทำให้ฉันต้องเจ็บเธอต้องมาดูแล"สิ้นคำพูดนรีนาถก็ต้องหันกลับมาดูแลชายหนุ่มเพราะมันก็จริงอย่างที่เขาพูดเขาเจ็บเพราะช่วยเธอสองวันต่อมาตั้งแต่วันที่กระท่อมถูกเผาไปนรีนาถก็ดูแลคนเจ็บอย่างเมืองรามแทบทุกกระเบียดนิ้วและดูท่าคนเจ็บนั้นจะติดพยาบาลสาวไปเสียแล้วอีกอย่างเมื่อนรีนาถได้มีฟองจันทร์คอยคุยด้วยจึงรู้สึกว่าชีวิตมีชีวิตชีวาขึ้นเยอะได้ทำอะไรที่ไม่เคยได้ทำแอบหวนย้อนคิดถึงวันที่อยากจบชีวิตตนเองวันนั้นก็หดหู
"ถามหน่อยเถอะบ้านเธอมีคนตั้งเยอะนั่นเรียกเหงาเหรอ"เมืองรามไม่ยักจะเชื่อว่าหญิงสาวจะเหงาเมื่อตอยอยู่ที่บ้านของเธอเอง"นายไม่รู้อะไรที่เรือนฉันมีคนเยอะก็จริงแต่ไม่มีใครเป็นเพื่อนฉันได้สักคนต่างคนก็มีหน้าที่ของตัวเองและไท่กล้าที่จะมีใครคุยกับฉันเพราะเห็นว่าเป็นเจ้านายมีพี่สิงห์ที่ฉันจะพอคุยได้บ้างแต่เค้าก็ต้องดูแลรับผิดชอบอะไรหลายๆอย่างจนไม่มีเวลาคุยกับฉันเท่าไร..""เพื่อนเธอล่ะไม่มีหรือไง""ตั้งแต่เด็กๆพ่อฉันไม่ให้ไปเรียนหนังสือให้เพียงแค่ครูมาสอนที่บ้านฉันเลยไม่มีเพื่อนมีแค่นาราลูกแม่ค้าขายขนมหวานหมู่บ้านใกล้ๆแต่ก็เจอกันไม่บ่อยเพราะนาราก็ต้องช่วยแม่ขายของ""พูดจบแล้วใช่ไหม..ฉันจะได้นอนพูดมากน่ารำคาญ"เมืองรามพอจะเข้าใจความรู้สึกของนรีนาถอยู่พอสมควรแต่ครั้นจะให้เขาลอบเธอเขาคงปลอบไม่เป็นจึงทำตัวให้เธอโมโหใส่จะดีกส่าเผื่อว่าเธอจะได้ไม่ต้องสนใจเรื่องที่มันทำให้หดหู่อีก"นายนี่..ถ้ารำคาญที่ฉันพูดทีหลังก็อย่ามาถาม"นรีนาถแทบจะฉีกเนื้อคนที่นอนตะแคงหันหลังให้เธอเป็นชิ้นๆที่ทำเหมือนไม่สนใจความรู้สึกเธอเลยแม้แต่นิดเดียวหลายวันต่อมานรีนาถดูแลเมืองรามจนแผลหายดีเหลือเพียงแค่รอยแผลเป็นเท่านั้นแ
"ก็น่าจะใจดี..."นรีนาถทำหน้าครุ่นคิดและพยักหน้าเบาๆ"อย่าได้ใจไปล่ะ"เมืองรามเตือนทั้งหญิงสาวและคำพูดของเขาก็เปรียบเสมือนการเตือนใจตัวเองด้วย"นาย..""อะไรอีก""ฉ..ฉันขอให้เรื่องความแค้นของนายจบลงที่ฉันได้ไหมปล่อยพ่อฉันกับเมียนายไปเถอะ"นรีนาถจ้องหน้าชายหนุ่มด้วยท่าทีที่แอบลุ้นว่าสิ่งที่เธอร้องขอกับเขาจะได้ผลหรือไม่"ฉันบอกแล้วไงว่าอย่าได้ใจไป""ฉันเจ็บ"เมืองรามฉุนขึ้นมาทันทีเมื่อหญิงสาวพูดจบมือหนาบีบแขนเธออย่างแรงจนนรีนาถสีหน้าเหยเก"อย่าลืมว่าเธอมาอยู่ที่นี่เพราะอะไรเป้าหมายของฉันไม่ใช่เธอทุกวันนี้ฉันพูดดีกับเธอก็ดีนักหนาแล้ว"เมืองรามผลักหญิงสาวนอนลงมือหนาจับข้อมือทั้งสองของหญิงสาวชูขึ้น"..ฉันเคยเชื่อคำของคำแก้วว่าสักวันนายจะใจดีกับฉันแต่เปล่าเลย"นรีนาถมีสีหน้าผิดหวังอยู่มากเธอคิดว่าพักหลังที่เมืองรามพูดดีกับเธอนั่นเหมือนเป็นสัญญาณที่ดีเสียอีก"มันเป็นเพราะเธอทำตัวเธอเอง..ถ้าไม่พูดอะไรที่ทำให้ฉันโมโหขึ้นมาเธอก็จะไม่เจ็บตัวหรอก""ฉันอยากรู้นักถ้าแก้แค้นสำเร็จมันจะได้อะไรขึ้นมามีแต่ต่างคนต่างเจ็บปวดเปล่าๆ""หยุดพูด"เมืองรามเอ่ยเสียงแข็งเขาไม่ได้อยากได้ยินคำพวกนี้จากปากหญิงสาวเพร
"ขอบคุณมากๆเลยนะ"หญิงสาวเลือกที่จะหยิบหนังสือออกมาชื่นชมนี่คือสิ่งที่เธอถูกใจกว่าเสื้อผ้าสวยๆหลายเท่า"ต่อจากนี้เธอขาดเหลือหรืออยากได้อะไรก็บอกฉันแล้วกัน""ทำไมใจดีจังล่ะ"นรีนาถจ้องตาชายหนุ่มด้วยสีหน้าสงสัย"ก็บอกแล้วไงช่วงนี้เธอทำตัวเป็นเด็กดีกับฉัน..เธอก็จะได้อะไรดีๆตอบแทน"เมืองรามหลบสายตาหญิงสาวก่อนที่เขาจะเผลอยิ้มออกมา".......""พรุ่งนี้อยากออกไปไหนไหม"เมืองรามหาเรื่องคุยกับหญิงสาวในขณะที่เธอนั้นสนใจหนังสืออยู่เขาไม่รู้ว่าคิดถูกหรือคิดผิดที่ซื้อหนังสือมาให้เธอเพราะดูท่ามันจะเป็นจุดสนใจสำหรับเธอมากกว่าเขาไปเสียแล้ว"อืม..ไม่"นรีนาถส่ายหัวในขณะที่เธอจับหนังสือเปิดดูใกล้ๆกับตะเกียง"วัวที่คอกพึ่งตกลูกเธออยากไปดูไหม""จริงเหรอ..ไปสิ"เมื่อได้ยินเช่นนั้นหญิงสาวจึงละสายตาจากหนังสือได้"รีบนอนเดี๋ยวพรุ่งนี้จะพาไปแต่เช้า""อืม"เมืองรามเห็นท่าทีหญิงสาวดูจะตื่นเต้นขนาดนั้นจึงรีบหยิบหนังสืออกจากมือของเธอและรวบกอดร่างบางให้หลับลงในอ้อมอกของเขาเช้าวันต่อมา"เจ้าวัวน้อย..ลืมตามาดูโลกสองวันแล้วรู้สึกดีไหม""....."นรีนาถรบให้เมืองรามพาเธอมาหาลูกวัวแต่้้เช้าตามสัญญาเมื่อมาถึงก็เอาแต่คุยกั
"......"เมืองรามได้นิ่งนิ่งงันคิดไตร่ตรองในเรื่องที่ฟองจันทร์พูดแล้วจึงรีบกลับไปในห้องนอนของเขาทันที"ยังไม่เลิกร้องอีกหรือไง""ปล่อย...""ฉันปล่อยเธอไปไม่ได้.."เมืองรามเข้ามาสวมกอดคนที่กำลังนั่งกอดเข่าร้องให้อย่างไม่ยอมหยุดแม้เวลาจะผ่านมาร่วมหลายชั่วโมงแล้วก็ตามเขาเอ่ยปากพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมาทำเอานรีนาถแปลกใจกับคำพูดของเขาอยู่มากว่าเหตุผลอะไรกันที่ทำให้เขาพูดว่าปล่อยเธอไปไม่ได้"......""ความรู้สึกของฉันมันเปลี่ยนไปพักใหญ่แล้ว"เมื่อนรีนาถมีทีท่าว่าจะฟังเขาชายหนุ่มจึงเริ่มพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมา"ความรู้สึกอะไร""ในใจฉันมันต้องการเธอ...มันบอกว่ายอมเสียเธอไปไม่ได้""นายจะเล่นลิ้นอะไรอีก"ตอนนี้นรีนาถไม่รู้ว่าเขาจะมาไม้ไหนกับเธออีกครั้งก่อนก็เล่นลูกบังคับครั้งนี้ก็มาเล่นลูกขอร้องกับเธออีกเพื่อให้เธอไม่อยู่ห่างเขา"เธอดูไม่ออกจริงๆหรือไงว่าฉันเปลี่ยนไป...หรือทำเป็นไม่รับรู้กันแน่"เมืองรามจ้องหน้านรีนาถด้วยสายตาจริงจัง"......."หญิงสาวก้มหน้าลงเล็กน้อยเธอเคยแอบคิดเหมือนกันว่าเขามีใจให้เธอแบบที่เธอมีให้เขาแต่เมื่อคิดแล้วมันก็ชอบมีความคิดแย้งมาว่าเขาทำไปทั้งหมดเพราะอยากแก้แค้นเธอจึงข
"นายปวดหัวอยู่รึเปล่า"ช่วงบ่ายเมื่อเมืองรามฟื้นขึ้นมาแล้วนรีนาถก็คอยดูแลเขาอยู่ไม่ห่าง"ไม่ค่อยเท่าไร""เอ่อ..""เธอจะกลับไปใช่ไหม"สิ่งที่กังวลใจที่สุดของเมืองรามไม่ใช่แผลที่หัวของเขาแต่เป็นเรื่องหญิงสาวที่กลัวว่าเธอนั้นจะถูกพรากจากเขาไป"อืม..ฉันอยากกลับไปรับศพพ่อฉัน.. ฉันกับพี่สิงห์จะอยู่ที่นี่ก่อนสามวันจนนายดีขึ้นแล้วฉันถึงจะไป"นรีนาถพยักหน้าเบาๆ"ฉันไปด้วย""อะไรนะ""ฉันอยากไปขอขมาพ่อเธอและอยากอโหสิกรรมให้เลิกแล้วต่อกันในชาตินี้"หญิงสาวฟังไม่ผิดเขาอยากไปกับเธอจริงๆเขาอยากจะไปขอขมาพ่อของเธอที่พาเธอมาที่นี่ทรมานก่อนหน้านี้และไม่อยากจะมีความแค้นอะไรติดค้างในใจอีก"นายลืมเรื่องทั้งหมดแล้วใช่ไหม"นรีนาถยิ้มอ่อนเมื่อได้ฟังสิ่งที่อยากจะได้ยินจากปากของเขามานานเรื่องที่ชายหนุ่มละจากความแค้นได้เสียที"ไม่ลืม...แต่ไม่ใส่ใจแล้วตอนนี้ฉันใส่ใจแค่เธอเท่านั้น"เมืองรามโอบกอดนรีนาถเบาๆจะให้เขาพูดว่าลืมคงโกหกแค่เขาไม่ใส่ใจมันแล้วต่างหากตอนนี้คนเดียวที่เขาใส่ใจคือนรีนาถเท่านั้นเย็นของวัน"พี่สิงห์คะ""น้องหญิง""หญิงทำแกงส้มของโปรดพี่สิงห์ด้วยค่ะ"นรีนาถยกแกงส้มดอกแคมาวางตรงหน้าสิงหนาท"น้องหญิ
อาทิตย์ต่อมา"หลับให้สบายนะคะคุณพ่อ""หญิง..หญิง"นรีนาถเป็นลมล้มพับไปในขณะที่แหงนมองกลุ่มควันที่เผาพ่อของตนอยู่ที่เมรุเผาศพเมืองรามกับสิงหนาทจึงรีบพาหญิงสาวกลับบ้านและตามหมอมาดูอาการเธอทันที"คุณหญิงร่างกายอ่อนเพลียมากนะคะยิ่งตอนนี้ตั้งครรภ์อ่อนๆด้วยแล้วยิ่งต้องให้เธอทานอาหารให้ตรงเวลา""หา..."คำพูดของหมอหญิงวัยกลางคนทำให้ทั้งสามต่างก็มีสีหน้าตกใจไปตามๆกัน"ตั้งครรภ์"นรีนาถลูบท้องตัวเองเบาๆเธอเองก็ไม่ทันได้สังเกตเสียด้วยว่าระดูของเธอนั้นขาดไปตั้งแต่เมื่อไร"น้้องหญิง"สิงหนาทนั่งกุมขมับมองกน้าเมืองรามอย่างไม่พอใจที่นรีนาถนั้นต้องมาท้องก่อนแต่งจนได้"จะให้ทำยังไง""ก็ต้องรีบแต่งน่ะสิ"หลังจากหมอหญิงกลับไปแล้วทั้งสามก็ปรึกษาหาทางออกกันอีกทีว่าจะเอาอย่างไรกับเรื่องนี้ดูคนที่จะไม่เครียดเลยเห็นจะเป็นเมืองรามเสียมากกว่าที่นั่งยิ้มร่าถามสิงหนาทด้วยสีหน้าทะเล้นจนสิงหนาทต้องรีบเอ่ยปากให้ทั้งคู่แต่งงานกันโดยเร็วที่สุด2อาทิตย์ต่อมาไร่ศังกร"อุ้บ..แหวะๆ""พี่หญิงไหวไหมคะ"วันนี้เป็นวันแต่งงานของนรีนาถและเมืองรามซึ่งดูเจ้าสาวก็ดูท่าไม่ค่อยไหวเท่าไรแต่ก็ต้องแต่เมื่อได้ฤกษ์ที่ไวที่สุดมาแล้วคำแก
"คำแก้ว..คำแก้ว""พ่อเลี้ยงอย่าพึ่งตามไปปล่อยคำแก้วมันไปก่อน"พันแสงหมายจะตามคำแก้วไปแต่ถูกสมิงรั้งเอาไว้ก่อนเพราะหากคำหล้ากดดันเจ้านายของเขาเช่นนี้เขาก็มีความจริงที่ต้องเปิดเผยเช่นกัน"ทำไม"พันแสงหันมาจ้องสมิงตาเขม็ง"ศรีอ่อนบอกแม่เอ็งไป"สมิงให้ศรีอ่อนบอกความจริงดับทุกคนว่าเธอนั้นเป็นอะไรกับเขาให้กลุ่มคนงานที่ยืนฟังเรื่องราวอยู่ให้รู้กันถ้วนหน้าไปเสียวันนี้เลย"แม่จ้ะ..เมื่อคืนพ่อเลี้ยงเมาไม่ได้ตั้งใจจริงๆและฉันก็...""ก็อะไร.."คำหล้าบีบแขนศรีอ่อนทั้งจ้องอย่างเอาเป็นเอาตาย"ได้เสียเป็นเมียพี่หมิงไปแล้วจะ...ฉันคงจะเป็นเมียพ่อเลี้ยงไม่ได้""อะไรนะ..นี่เอ็ง..อีนังลูกไม่รักดี"เพี๊ยะ..สิ้นคำลูกสาวคำหล้าก็เหวี่ยงมือฟาดไปที่หน้านวลจนเป็นรอยแดง"อย่าทำร้ายศรีอ่อนมันเลยฉันได้มันเป็นเมียแล้วฉันจะสู่ขอให้ถูกต้องตามประเพณีทุกอย่าง"สมิงรีบดึงศรีอ่อนมากอดเอาไว้เพราะไม่อยากมห้เธอตกเป็นเครื่องมือของคนเป็นแม่อีกที่ผ่านมาเขารู้ดีว่สคำหล้าจ้องจะทำอะไรแต่ในเมื่อศรีอ่อนรักอยู่กับเขาตัวเขาเองก็จะไม่ปล่อยให้ศรีอ่อนไปเป็นเมียใครเด็ดขาด"หึ่..."คำหล้ามือไม้สั่นอับอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี"ไอ้หมิง...กูรั