"ยิ้มแย้มหน่อยสิแก้ว"
ทางด้านคำแก้ววันนี้เธอดูผุดผ่องเป็นพิเศษเพราะถูกขัดศรีฉวีวรรณโดยฟองจันทร์หญิงสาวเกล้าผมใส่ชุดแต่งงานแบบล้านนาเป็นชุดที่เมืองราหาซื้อมาให้แม้ภายนอกจะดูงดงามเพียงใดแต่จิตใจของเธอตอนนี้ช่างห่อเหี่ยวเสียเหลือเกิน
"แม่จันทร์จ้ะ..คือแก้ว"
คำแก้วส่ายหัวเบาๆเมื่อถึงเวลาจริงๆเธอกลับทำใจไม่ได้เสียอย่างนั้น
"เห็นแก่หน้าพ่อเลี้ยงท่องเอาไว้"
"จะ"
ฟองจันทร์รับรู้ได้ถึงความรู้สึกของคำแก้วเธอเองก็ได้แต่ขอให้งานวันนี้มันผ่านพ้นไปด้วยดี
"มึงดูหน้าเจ้าบ่าวเจ้าสาวดิวะ"
ในขณะที่ตอนนี้หมอทำขสัญของหมู่บ้านกำลังทำขวัญให้กับบ่าวสาวอยู่ทองดีจำต้องหันมาคุยกับทศพลที่ดูสีหน้าบ่าวสาวไม่ได้มีความสุขเอาเสียเลย
"กูผะอืดผะอมแทนหมอทำขวัญเลยว่ะ"
ทศพลเองก็ได้แต่ส่ายหัวเบาๆ
"เงียบหน่อยพวกมึง"
"ครับ.. พ่อเลี้ยง"
เมืองรามรับรู้ถึงเหตุการณ์ทั้งหมดเพราะเขาก็เห็นอยู่ตรงหน้าแต่ก็พยายามเฉยไว้และปรามคนสนิทที่ยั่งซุบซิบกันไม่ดูเวลา
"ขอให้อยู่กันอย่างร่มเย็นเป็นสุขนะ...ฝากดูแลคำแก้วแทนกูด้วย"
หลังจากทำขวัญเสร็จตอนนี้ก็ได้เวลาผู้ข้อไม้ข้อมือเมืองรามในฐานะที่เปรียบเสมือนพ่อของเจ้าสาวก็เดินเข้ามารดน้ำสังข์ผูกข้อมือบ่าวสาวคนแรกทั้งบอกกับเพื่อนรักของเขาแกมร้องขอ
"อืม.."
พันแสงรับปากด้วยสีหน้าเรียบเฉย
"ออกเรือนไปแล้วเป็นเมียเค้าแล้วก็ทำหน้าที่เมียให้ดีอย่าให้ขาดตกบกพร่องล่ะ"
"จะ..พ่อเลี้ยง"
คำแก้วรับคำเมืองรามเธอจะทำตามที่เขาสอนทุกอย่างเพื่อไม่ให้ใครมาว่าได้ว่าบ้านนี้สอนเธอไม่ดี
เมื่อผูกข้อไม้ข้อมือเสร็จเรียบร้อยแล้วบ่าวสาวก็ถูกส่งตัวเข้าหอเป็นพิธีในช่วงเช้าแขกเหลื่อที่มาก็ทะยอยกันกลับบ้าน
กระท่อมริมธาร
"หึ่...หวังว่าเธอจะอยู่แถวนี้นะ"
เมืองรามนึกเป็นห่วงคนอยู่ที่กระท่อมคนเดียวว่ายังไม่ได้กินอะไรเสร็จจากงานแล้วจึงรีบหิ้วปิ่นโตกลับไปให้นรีนาถแต่เมื่อมาถึงกลับไม่มีคนอยู่เขาจึงหงุดหงิดเล็กน้อยรีบวางปิ่นโตไว้และเดินตรงมาที่คอกวัวเพราะสองสามวันมานี้นรีนาถมักจะขลุกอยู่ที่นั่นอยู่กับลูกวัวแม้ว่าเขาจะไม่ได้สั่งให้เธอไปดูแลวัวควายก็ตาม
"พี่สอนทำไมมาอยู่นี่ล่ะจ้ะ"
นรีนาถละสายตาจากการดูวัวควายกินหญ้ามาทางคำสอนที่กำลังเดินเข้ามา
"งานเลิกแล้วฉันก็เลยมาแวะดูวัวซะหน่อยพอดีไอ้คนเฝ้ามันเมาไปซะก่อน"
คำสอนต้องมาดูวัวควายแทนทองดีเพราะรายนั่นเมาแอ๋ไปกับทศพลหลังจากบ่าวสาวผูกแขนเสร็จแล้ว
"อ๋อ..จะ"
"แล้ววันนี้ทำไมไม่เห็นคุณที่งานเลยล่ะ"
คำสอนถามด้วยความแปลกใจ
"เค้าสั่งไม่ให้ไปยุ่งหญิงก็เลยไม่ไปจะ..ว้ายย"
"ค่อยๆครับ"
นรีนาถหมายจะเดินมาคุยใกล้ๆคำสอนแต่เธอก็กลับลื่นเสียก่อนดีที่คำสอนนั้นรับเอาไว้ได้ทัน
"ขอบใจจะพี่สอนหญิงนี่ซุ่มซ่ามจริงๆเลย"
นรีนาถแอบขบขันตัวเองเล็กน้อยที่ซุ่มซ่ามอยู่เรื่อยดีที่คำสอนรับเธอได้ทันไม่งั้นคงกองอยู่ที่พื้นไปแล้ว
"ไม่เป็นไรครับ"
"ไอ้สอน.."
พลั้กก
"โอ้ยย.. พ่อเลี้ยง"
เมืองรามเห็นกับตาว่าทั้งคู่กอดกันหัวร่อต่อกระซิกทำให้เลือดขึ้นหน้าเขาทันทีชายหนุ่มรีบดึงตัวหญิงสาวออกและต่อยคำสอนจนลงไปกองกับพื้น
"มึงทำอะไร"
เมืองรามตะคอกเสียงฝาด
"คุณเค้าจะล้มฉันเลยเข้าไปช่วย"
คำสอนพยายามอธิบายให้เมืองรามได้เข้าใจ
"พี่สอนแค่ช่วยฉันทำไมต้องทำกับเค้าแบบนี้ด้วย"
นรีนาถตวาดใส่เมืองรามอย่างเหลืออดเธอเกลียดพฤติกรรมป่าเถื่อนไม่ฟังใครของเขาเป็นที่สุด
"มึงอย่าอยู่ใกล้ผู้หญิงคนนี้อีกนะ"
เมืองรามชี้หน้าทั้งออกคำสั่งกับคำสอนก่อนจะกระชากนรีนาถกลับไป
"ไม่มีเหตุผลเอาซะเลย"
ตลอดทางนรีนาถเอาแต่ต่อว่าเมืองรามเพราะดูเขาจะทำเกินกว่าเหตุไปหน่อยเรื่องราวก็ได้อธิบายกันไปแล้วก็ไม่ยักจะเชืาอเลยสักนิด
"อย่าพูดมาก."
"โอ้ยย..เจ็บนะ"
เมืองรามยังคงกระชากร่างบางให้เดินตามกลับโดยเร็วเพราะเขาต้องสะสางลงโทษเธอที่กล้าไปกอดกับผู้ชายคนอื่น
"คันนักใช่ไหมถึงได้เร่าๆไปหาผู้ชายแบบนั้นฉันอุตส่าห์ไว้ใจไม่ล่ามเธอ...แต่ก็ได้รู้แล้วว่าคนอย่างเธอไว้ใจไม่ได้..อยากมีหลายผัวนักรึไงหรือฉันไม่ถึงใจห้ะ"
เพี๊ยะ...
เมื่อลากหญิงสาวมาถึงกระท่อมได้เมืองรามก็ลากเธอมาผลักลงที่ฟูกนอนทั้งต่อว่าเสียหายจนหญิงสาวรับไม่ได้กับคำพูดกล่าวหาเธอแบบนี้จนต้องฟาดมือเรียวไปที่ปากของเขาเต็มแรงอย่างเหลืออด
"หึ่.."
เมืองรามหน้าหันใช้มือลูบปากเบาๆและกระชากเสื้อผ้าของหญิงสาวออกอย่างรวดเร็ว
"ปล่อยนะ...ทีหลังอย่ามากล่าวหาฉัน"
นรีนาถขัดขืนการกระทำของอีกฝ่ายเพราะรู้ว่าเขาจะทำอะไรซึ่งมันเป็นสิ่งที่เธอไม่ชอบที่สุด
"ก็เห็นกับตาจะว่าเป็นอื่นได้ยังไง.."
"อื้มม..."
ชายหนุ่มว่าจบก็บดเบียดริมฝีปากหนาดูดคลึงริมฝีปากบางอย่างรุนแรงทั้งกดร่างบางให้อยู่ใต้ร่างอย่างทารุณ
"ปล่อยยยยได้แล้ว..ฮือๆๆ"
ไม่นานเขาก็ได้มอบบทสวาทเป็นการลงโทษคนที่ขัดใจเขาเป็นนานสองนานจนอีกฝ่ายถึงจั้นสลบไปคาอกแกร่งและใบหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยคราบน้ำตา
20.00 น.
ตั้งแต่ออกมาจากห้องหอเมื่อช่วงบ่ายพันแสงก็เอาแต่ดื่มจนเมาพึ่งจะกลับเข้ามาในห้องหอตัวเองในเรือนศังกรก็ฟ้ามืดและทุกคนก็เข้านอนกันหมดแล้วรวมถึงคำแก้วก็ด้วย
"จ..จะทำอะไรจ้ะพ่อเลี้ยง"
คำแก้วเห็นแสงไฟจากตะเกียงและพันแสงก็มานั่งตาเยิ้มเพราะความเมาจ้องหน้าหญิงสาวมือไม้ก็เริ่มปัดป่ายตามเนื้อตัวของคำแก้วจนเธอตัวสั่นเล็กน้อยเพราะไม่เคยถูกชายใดแตะตัวลูบไล้แบบนี้มาก่อน
"ฉันก็จะให้เธอทำหน้าที่เมียฉันไง.."
"เอ่อ.."
ว่าจบพันแสงก็ผลักไหล่หญิงสาวให้นอนลงและเขาก็ขึ้นคร่อมอยู่บนตัวของเธอทำเอาคำแก้วตัวเกร็งทำอะไรไม่ถูกทั้งพยายามที่จะลุกออกแต่ก็สู้แรงของคนตัวโตไม่ได้
"ทำไม..หรือจะขัดคำสั่งไอ้ราม...มันบอกให้ทำหน้าที่เมียให้ดีไม่ใช่หรือไง"
พันแสงกระซิบข้างหูคำแก้วด้วยน้ำเสียงงัวเงียจนอีกฝ่ายรับรู้ได้ว่าตอนนี้สติสตังพันแสงนั้นน่าจะไม่ค่อยเหลือเพราะหากเขาปกติดีจะไม่มีวันอยากอยู่ใกล้เธอแน่นอน
"แต่วันนี้พ่อเลี้ยงเมามากแล้วนอนพักเถอะจะ..อื้อ.."
คำแก้วพยายามผลักคนบนตัวของเธอออกแค่ก็ไม่สำเร็จอยู่ดี
"ไม่อยากทำหน้าที่เมียฉันก็พูดมาไม่ต้องมาทำเป็นห่วงฉันแต่เสียใจด้วยในเมื่อฉันเสียค่าสินสอดให้เธอไปแล้วก็มาอยู่เป็นเครื่องระบายอารมณ์ฉันก็แล้วกันแต่อย่าหวังว่าฉันจะยกยอปอปั้นเธอจำเอาไว้"
"แก้ว..รู้จะ.."
คำแก้วหันหน้าหนีคนที่กำลังมองเธออยู่หญิงสาวถึงกับใจห่อเหี่ยวเมื่อได้ฟังคำของอีกฝ่ายเรื่องนี้เธอเองก็พอจะทำใจไว้แล้วเหมือนกันเธอไม่ได้หวังว่าจะมาให้เขายกยอปอปั้นเธอเลยสักนิด
"อึก..อื้มม.."
สีหน้าของคำแก้วตอนนี้ไม่ค่อยสู้ดีนักเพราะเธอต้องอยู่เฉยกับการกระทำอันไร้ความนุ่มนวลของพันแสงที่บดจูบเธออย่างหนักหน่วงลิ้นร้ายไล่ตวัดฉกชิมความหวานจากโพรงปากสาวน้อยไร้เดียงสาอย่างเพลิดเพลินทั้งมือหนายังลูบไล้เข้ามาด้านในเสื้อของเธอบีบขยำเนินอกอวบนูนของเธออย่างไม่เบามือจนเธอต้องส่งเสียงร้องออกมาจากลำคอ
... แสงไฟจากตะเกียงที่หัวนอนทำให้เธอมองภาพต่างๆไม่ชัดเท่าไรแต่แสงก็ทำให้เธอเห็นได้ว่าตอนนี้พันแสงน่าจะเปลือยกายจนหมดแล้วด้วยความอายและไม่เคยได้เห็นอะไรแบบนี้มาก่อนแม้จะไม่ชัดก็ทำให้เธอนั้นหลับตาลงไม่อยากมองภาพตรงหน้าเอาเสียเลย
"ลืมตา..มองทุกอย่างว่าฉันทำอะไรกับเธอบ้าง"
พันแสงบีบปลายคางมนของหญิงสาวทั้งสั่งให้เธอลืมตาอย่างคนเอาแต่ใจ
"อื้อ.."
พันแสงถลกผ้าซิ่นของหญิงสาวขึ้นจนเห็นขาอ่อนทำเอาเธอสะดุ้งเฮือกเล็กน้อยแต่เธอก็ไม่ได้ขัดขืนอะไรเพราะย้ำคิดกับตัวเองได้อีกครั้งว่าเธอมาอยู่ตรงนี้ในฐานะอะไรจึงได้แต่ทำใจ
พันแสงค่อยๆสอดลำขาแกร่งแทรกผ่านมายังกึ่งกลางลำตัวของหญิงสาวจนรู้สึกได้ว่าตัวตนของเขากำลังจ่อชนอยู่กับร่องสวาทของคนใต้ร่าง
"......"
คำแก้วนอนตัวเกร็งจนในบางคราเรียกได้ว่าเธอแทบจะหยุดหายใจก็ว่าได้เพราะความตื่นเต้นที่ได้รับสัมผัสจากคนตัวโต
"..อะ...อร้าย."
"อืมม..."
พันแสงค่อยๆปลดกระดุมเสื้อของหญิงสาวออกช้าๆเขาเพ่งมองส่วนเว้าโค้งอวบนูนอย่างพิถีพิถันก่อนจะก้มลงจูบดูดคลึงอย่างมูมมามด้วยความมัวเมาจนหญิงสาวเกิดความรู้สึกเสียวซ่านแปลกใหม่และเผลอครางออกมาอย่างลืมอาย
"อ..อร้ายยย..จ..เจ็บ"
เมื่ออารมณ์สวาทพุ่งทะยานจนเก็บเอาไว้ไม่อยู่พันแสงจึงค่อยๆสอดใส่ตัวตนที่โตเกินขนาดของเขาบดเบียดเข้าช่องทางรักอันคับแคบของหญิงสาวจนเธอต้องกรีดร้องด้วยสีหน้าที่ทรมานอย่างมากทั้งมือน้อยยังปัดป่ายจิกข่วนระบายความเจ็บกับลำแขนแกร่งจนเกิดเป็นรอยแดงแทบเลือดซิบ
"นี่คือครั้งแรกเท่านั้นฉันเชื่อว่าอีกหน่อยสิ่งนี้จะเป็นสิ่งที่เธอต้องเรียกร้องหามัน"
พันแสงค่อยๆกระซิบข้างหูคนที่น้ำตารื้นออกมาเบาๆและค่อยๆขยับแท่งร้อนเข้าออกด้วยจังหวะที่ไม่เร็วมากและเปลี่ยนเป็นรุนแรงในเวลาต่อมา
"อื้อ..เจ็บ...แก้วไม่ไหวจะพ่อเลี้ยง"
เมื่อเวลาผ่านไปนานสองนานดูท่าว่าคนตัวโตจะยังคงกอบโกยความสุขไม่ยอมหยุดจนคำแก้วที่ทนเจ็บมานานต้องรอขอความเมตตาเพราะเธอถูกเขาขยำดูดคลึงระบมไปทั้งตัวทั้งช่วงล่างของเธอยังถูกบดเบียดกระแทกอย่างไม่หยุดหย่อนจนเธอทนเจ็บปวดไม่ไหวจนต้องร้องขอความเมตตา
"เธอมีสิทขอร้องด้วยเหรอ...ขอใช้งานนิดหน่อยทำเป็นบ่น"
พันแสงหยุดชะงักการกระทำครู่หนึ่งเพื่อที่จะย้ำกับคำแก้วอีกรอบว่าเธอไม่มีสิทธิ์ออกเสียงอะไรเรื่องนี้ทั้งนั้นเมื่อเป็นเครื่องระบายอารมณ์ก็ไม่มีสิทธิ์บ่นแล้วจึงอัดกระแทกรัวสะโพกใส่หญิงสาวอีกครั้งและครั้งนี้รุนแรงกว่าเดิมทำให้คำแก้วนั้นต้องร้องสะอื้นอย่างสุดจะกลั้น
"แก้วไม่ไหวจริงๆ..อร้าย..อื้อๆๆ..อึก..หื้อ..อื้อๆๆ"
"อ้าส...อื้มม....อ่าาา"
แต่ดูท่าพันแสงจะระเริงหรรษากับการร่วมรั้งครั้งนี้เป็นที่สุดเพราะเขาเองก็ห่างเรื่องแบบนี้ใานานเหมือนกันตั้งแต่พิมพรจากไป
เป็นครึ่งค่อนคืนเห็นจนได้ที่กว่าพันแสงจะปล่อยให้คำแก้วได้พักจนหญิงสาวเนื้อตัวอ่อนปวกเปียกไม่มีแม้เสียงจะร้องครางระบายความรู้สึกเจ็บปวดออกมาแต่คนตัวโตก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเพราะร่างบางดันหอมหวลและพอดีไม้พอดีมือของเขาเกินกว่าที่คิดอยู่มาก
สามวันต่อมา09.00 น.ไร่วัฒนพรรณ"ดูแลคำแก้วให้ดีล่ะ""อืม.."วันนี้ก็ครบสามวันแล้วที่พันแสงนอนที่เรือนศังกรตามพิธีวันนี้ก็ได้ฤกษ์ย้ายมาที่เรือนของพันแสงเองเสียทีเมืองรามและฟองจันทร์เลนมาส่งคำแก้วทั้งเอ่ยปากให้พันแสงดูแลคำแก้วให้ดีเหมือนที่เขาได้ดูแลมา"ดูแลงานบ้านงานเรือนอย่าให้ขาดตกบกพร่องนะแก้ว""จะแม่จันทร์"ฟองจันทร์ลูบหัวคำแก้วเบาๆก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับเมืองราม"นี่ห้องนอน..ส่วนนั่นเดินออกไปหน่อยก็ครัวตอนเช้ากับเย็นๆสำอางมันจะเข้ามาทำครัวเอ็งอยากกินอะไรก็บอกมันแล้วกัน""จะพ่อเลี้ยง""ฉันจะออกไปดูไร่..เอ็งจะทำอะไรก็เรื่องของเอ็ง"หลังจากเมืองรามและฟองจันทร์กลับไปกันแล้วพันแสงก็พาคำแก้วเอาของมาเก็บที่ห้องนอนและพาเดินรอบบ้านก่อนที่จะออกไปดูไร่ของเขาต่อและปล่อยหญิงสาวให้อยู่คนเดียว"....."คำแก้วนั่งถอนหายใจเบาๆอยู่ในบ้านเธอดูท่าแล้วคงจะเหงากว่าอยู่ที่ไร่ศังกรอยู่มากแต่ก็พยายามทำตัวให้ชินกับมันให้เร็วที่สุด16.00 น.กระท่อมริมธารหลังจากวันนั้นเมืองรามก็ล่ามไม่ให้หญิงออกไปไหนอีกเลยและเขาก็กระทำย่ำยีเธอทุกวันจนเธอไม่มองว่าตัวเองมีค่าอีกต่อไป"ฮึกๆ..ฮือ..พี่สิงคุณพ่อหญิงไม่อยากอยู่ต
"คนที่มันทำกับฉันก่อนจะต้องถูกกระทำคืนหลายเท่า""นายทรมานฉันสารพัดยังไม่พอใจอีกหรือไง""ไม่...จนกว่าพ่อเธอจะทุรนทุรายตรงหน้าฉัน""แล้วถ้าพ่อฉันกลับมาพร้อมเมียนายล่ะ""ฉันรอวันนั้นอยู่วันที่ฉันจะได้เห็นหน้าคนทรยศมันทรมานด้วยน้ำมือของฉัน""เฮ้อ...นายทำแบบนี้ชีวิตนายจะมีความสุขหรือไง""เรื่องของฉันเธอชักจะพูดมากเกินไปแล้วน่ารำคาญ""จะไปไหน"เมืองรามต้องเอ่ยเสียงแข็งเมื่อหญิงสาวนั้นจู่ๆก็จะเดินออกไปดื้อๆทั้งที่ยังไม่พันแผลเขากลับอย่างเดิม"ก็รำคาญไม่ใช่หรือไงฉันจะได้ไปให้พ้นๆ"นรีนาถชะงักหันกลับมาประชดอีกฝ่ายด้วยสีหน้สบูดบึ้ง"อนุญาตหรือยัง""จะอะไรกับฉันนักหนา""มานั่งเฝ้าฉันเธอเป็นต้นเหตุทำให้ฉันต้องเจ็บเธอต้องมาดูแล"สิ้นคำพูดนรีนาถก็ต้องหันกลับมาดูแลชายหนุ่มเพราะมันก็จริงอย่างที่เขาพูดเขาเจ็บเพราะช่วยเธอสองวันต่อมาตั้งแต่วันที่กระท่อมถูกเผาไปนรีนาถก็ดูแลคนเจ็บอย่างเมืองรามแทบทุกกระเบียดนิ้วและดูท่าคนเจ็บนั้นจะติดพยาบาลสาวไปเสียแล้วอีกอย่างเมื่อนรีนาถได้มีฟองจันทร์คอยคุยด้วยจึงรู้สึกว่าชีวิตมีชีวิตชีวาขึ้นเยอะได้ทำอะไรที่ไม่เคยได้ทำแอบหวนย้อนคิดถึงวันที่อยากจบชีวิตตนเองวันนั้นก็หดหู
"ถามหน่อยเถอะบ้านเธอมีคนตั้งเยอะนั่นเรียกเหงาเหรอ"เมืองรามไม่ยักจะเชื่อว่าหญิงสาวจะเหงาเมื่อตอยอยู่ที่บ้านของเธอเอง"นายไม่รู้อะไรที่เรือนฉันมีคนเยอะก็จริงแต่ไม่มีใครเป็นเพื่อนฉันได้สักคนต่างคนก็มีหน้าที่ของตัวเองและไท่กล้าที่จะมีใครคุยกับฉันเพราะเห็นว่าเป็นเจ้านายมีพี่สิงห์ที่ฉันจะพอคุยได้บ้างแต่เค้าก็ต้องดูแลรับผิดชอบอะไรหลายๆอย่างจนไม่มีเวลาคุยกับฉันเท่าไร..""เพื่อนเธอล่ะไม่มีหรือไง""ตั้งแต่เด็กๆพ่อฉันไม่ให้ไปเรียนหนังสือให้เพียงแค่ครูมาสอนที่บ้านฉันเลยไม่มีเพื่อนมีแค่นาราลูกแม่ค้าขายขนมหวานหมู่บ้านใกล้ๆแต่ก็เจอกันไม่บ่อยเพราะนาราก็ต้องช่วยแม่ขายของ""พูดจบแล้วใช่ไหม..ฉันจะได้นอนพูดมากน่ารำคาญ"เมืองรามพอจะเข้าใจความรู้สึกของนรีนาถอยู่พอสมควรแต่ครั้นจะให้เขาลอบเธอเขาคงปลอบไม่เป็นจึงทำตัวให้เธอโมโหใส่จะดีกส่าเผื่อว่าเธอจะได้ไม่ต้องสนใจเรื่องที่มันทำให้หดหู่อีก"นายนี่..ถ้ารำคาญที่ฉันพูดทีหลังก็อย่ามาถาม"นรีนาถแทบจะฉีกเนื้อคนที่นอนตะแคงหันหลังให้เธอเป็นชิ้นๆที่ทำเหมือนไม่สนใจความรู้สึกเธอเลยแม้แต่นิดเดียวหลายวันต่อมานรีนาถดูแลเมืองรามจนแผลหายดีเหลือเพียงแค่รอยแผลเป็นเท่านั้นแ
"ก็น่าจะใจดี..."นรีนาถทำหน้าครุ่นคิดและพยักหน้าเบาๆ"อย่าได้ใจไปล่ะ"เมืองรามเตือนทั้งหญิงสาวและคำพูดของเขาก็เปรียบเสมือนการเตือนใจตัวเองด้วย"นาย..""อะไรอีก""ฉ..ฉันขอให้เรื่องความแค้นของนายจบลงที่ฉันได้ไหมปล่อยพ่อฉันกับเมียนายไปเถอะ"นรีนาถจ้องหน้าชายหนุ่มด้วยท่าทีที่แอบลุ้นว่าสิ่งที่เธอร้องขอกับเขาจะได้ผลหรือไม่"ฉันบอกแล้วไงว่าอย่าได้ใจไป""ฉันเจ็บ"เมืองรามฉุนขึ้นมาทันทีเมื่อหญิงสาวพูดจบมือหนาบีบแขนเธออย่างแรงจนนรีนาถสีหน้าเหยเก"อย่าลืมว่าเธอมาอยู่ที่นี่เพราะอะไรเป้าหมายของฉันไม่ใช่เธอทุกวันนี้ฉันพูดดีกับเธอก็ดีนักหนาแล้ว"เมืองรามผลักหญิงสาวนอนลงมือหนาจับข้อมือทั้งสองของหญิงสาวชูขึ้น"..ฉันเคยเชื่อคำของคำแก้วว่าสักวันนายจะใจดีกับฉันแต่เปล่าเลย"นรีนาถมีสีหน้าผิดหวังอยู่มากเธอคิดว่าพักหลังที่เมืองรามพูดดีกับเธอนั่นเหมือนเป็นสัญญาณที่ดีเสียอีก"มันเป็นเพราะเธอทำตัวเธอเอง..ถ้าไม่พูดอะไรที่ทำให้ฉันโมโหขึ้นมาเธอก็จะไม่เจ็บตัวหรอก""ฉันอยากรู้นักถ้าแก้แค้นสำเร็จมันจะได้อะไรขึ้นมามีแต่ต่างคนต่างเจ็บปวดเปล่าๆ""หยุดพูด"เมืองรามเอ่ยเสียงแข็งเขาไม่ได้อยากได้ยินคำพวกนี้จากปากหญิงสาวเพร
"ขอบคุณมากๆเลยนะ"หญิงสาวเลือกที่จะหยิบหนังสือออกมาชื่นชมนี่คือสิ่งที่เธอถูกใจกว่าเสื้อผ้าสวยๆหลายเท่า"ต่อจากนี้เธอขาดเหลือหรืออยากได้อะไรก็บอกฉันแล้วกัน""ทำไมใจดีจังล่ะ"นรีนาถจ้องตาชายหนุ่มด้วยสีหน้าสงสัย"ก็บอกแล้วไงช่วงนี้เธอทำตัวเป็นเด็กดีกับฉัน..เธอก็จะได้อะไรดีๆตอบแทน"เมืองรามหลบสายตาหญิงสาวก่อนที่เขาจะเผลอยิ้มออกมา".......""พรุ่งนี้อยากออกไปไหนไหม"เมืองรามหาเรื่องคุยกับหญิงสาวในขณะที่เธอนั้นสนใจหนังสืออยู่เขาไม่รู้ว่าคิดถูกหรือคิดผิดที่ซื้อหนังสือมาให้เธอเพราะดูท่ามันจะเป็นจุดสนใจสำหรับเธอมากกว่าเขาไปเสียแล้ว"อืม..ไม่"นรีนาถส่ายหัวในขณะที่เธอจับหนังสือเปิดดูใกล้ๆกับตะเกียง"วัวที่คอกพึ่งตกลูกเธออยากไปดูไหม""จริงเหรอ..ไปสิ"เมื่อได้ยินเช่นนั้นหญิงสาวจึงละสายตาจากหนังสือได้"รีบนอนเดี๋ยวพรุ่งนี้จะพาไปแต่เช้า""อืม"เมืองรามเห็นท่าทีหญิงสาวดูจะตื่นเต้นขนาดนั้นจึงรีบหยิบหนังสืออกจากมือของเธอและรวบกอดร่างบางให้หลับลงในอ้อมอกของเขาเช้าวันต่อมา"เจ้าวัวน้อย..ลืมตามาดูโลกสองวันแล้วรู้สึกดีไหม""....."นรีนาถรบให้เมืองรามพาเธอมาหาลูกวัวแต่้้เช้าตามสัญญาเมื่อมาถึงก็เอาแต่คุยกั
"......"เมืองรามได้นิ่งนิ่งงันคิดไตร่ตรองในเรื่องที่ฟองจันทร์พูดแล้วจึงรีบกลับไปในห้องนอนของเขาทันที"ยังไม่เลิกร้องอีกหรือไง""ปล่อย...""ฉันปล่อยเธอไปไม่ได้.."เมืองรามเข้ามาสวมกอดคนที่กำลังนั่งกอดเข่าร้องให้อย่างไม่ยอมหยุดแม้เวลาจะผ่านมาร่วมหลายชั่วโมงแล้วก็ตามเขาเอ่ยปากพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมาทำเอานรีนาถแปลกใจกับคำพูดของเขาอยู่มากว่าเหตุผลอะไรกันที่ทำให้เขาพูดว่าปล่อยเธอไปไม่ได้"......""ความรู้สึกของฉันมันเปลี่ยนไปพักใหญ่แล้ว"เมื่อนรีนาถมีทีท่าว่าจะฟังเขาชายหนุ่มจึงเริ่มพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมา"ความรู้สึกอะไร""ในใจฉันมันต้องการเธอ...มันบอกว่ายอมเสียเธอไปไม่ได้""นายจะเล่นลิ้นอะไรอีก"ตอนนี้นรีนาถไม่รู้ว่าเขาจะมาไม้ไหนกับเธออีกครั้งก่อนก็เล่นลูกบังคับครั้งนี้ก็มาเล่นลูกขอร้องกับเธออีกเพื่อให้เธอไม่อยู่ห่างเขา"เธอดูไม่ออกจริงๆหรือไงว่าฉันเปลี่ยนไป...หรือทำเป็นไม่รับรู้กันแน่"เมืองรามจ้องหน้านรีนาถด้วยสายตาจริงจัง"......."หญิงสาวก้มหน้าลงเล็กน้อยเธอเคยแอบคิดเหมือนกันว่าเขามีใจให้เธอแบบที่เธอมีให้เขาแต่เมื่อคิดแล้วมันก็ชอบมีความคิดแย้งมาว่าเขาทำไปทั้งหมดเพราะอยากแก้แค้นเธอจึงข
"นายปวดหัวอยู่รึเปล่า"ช่วงบ่ายเมื่อเมืองรามฟื้นขึ้นมาแล้วนรีนาถก็คอยดูแลเขาอยู่ไม่ห่าง"ไม่ค่อยเท่าไร""เอ่อ..""เธอจะกลับไปใช่ไหม"สิ่งที่กังวลใจที่สุดของเมืองรามไม่ใช่แผลที่หัวของเขาแต่เป็นเรื่องหญิงสาวที่กลัวว่าเธอนั้นจะถูกพรากจากเขาไป"อืม..ฉันอยากกลับไปรับศพพ่อฉัน.. ฉันกับพี่สิงห์จะอยู่ที่นี่ก่อนสามวันจนนายดีขึ้นแล้วฉันถึงจะไป"นรีนาถพยักหน้าเบาๆ"ฉันไปด้วย""อะไรนะ""ฉันอยากไปขอขมาพ่อเธอและอยากอโหสิกรรมให้เลิกแล้วต่อกันในชาตินี้"หญิงสาวฟังไม่ผิดเขาอยากไปกับเธอจริงๆเขาอยากจะไปขอขมาพ่อของเธอที่พาเธอมาที่นี่ทรมานก่อนหน้านี้และไม่อยากจะมีความแค้นอะไรติดค้างในใจอีก"นายลืมเรื่องทั้งหมดแล้วใช่ไหม"นรีนาถยิ้มอ่อนเมื่อได้ฟังสิ่งที่อยากจะได้ยินจากปากของเขามานานเรื่องที่ชายหนุ่มละจากความแค้นได้เสียที"ไม่ลืม...แต่ไม่ใส่ใจแล้วตอนนี้ฉันใส่ใจแค่เธอเท่านั้น"เมืองรามโอบกอดนรีนาถเบาๆจะให้เขาพูดว่าลืมคงโกหกแค่เขาไม่ใส่ใจมันแล้วต่างหากตอนนี้คนเดียวที่เขาใส่ใจคือนรีนาถเท่านั้นเย็นของวัน"พี่สิงห์คะ""น้องหญิง""หญิงทำแกงส้มของโปรดพี่สิงห์ด้วยค่ะ"นรีนาถยกแกงส้มดอกแคมาวางตรงหน้าสิงหนาท"น้องหญิ
อาทิตย์ต่อมา"หลับให้สบายนะคะคุณพ่อ""หญิง..หญิง"นรีนาถเป็นลมล้มพับไปในขณะที่แหงนมองกลุ่มควันที่เผาพ่อของตนอยู่ที่เมรุเผาศพเมืองรามกับสิงหนาทจึงรีบพาหญิงสาวกลับบ้านและตามหมอมาดูอาการเธอทันที"คุณหญิงร่างกายอ่อนเพลียมากนะคะยิ่งตอนนี้ตั้งครรภ์อ่อนๆด้วยแล้วยิ่งต้องให้เธอทานอาหารให้ตรงเวลา""หา..."คำพูดของหมอหญิงวัยกลางคนทำให้ทั้งสามต่างก็มีสีหน้าตกใจไปตามๆกัน"ตั้งครรภ์"นรีนาถลูบท้องตัวเองเบาๆเธอเองก็ไม่ทันได้สังเกตเสียด้วยว่าระดูของเธอนั้นขาดไปตั้งแต่เมื่อไร"น้้องหญิง"สิงหนาทนั่งกุมขมับมองกน้าเมืองรามอย่างไม่พอใจที่นรีนาถนั้นต้องมาท้องก่อนแต่งจนได้"จะให้ทำยังไง""ก็ต้องรีบแต่งน่ะสิ"หลังจากหมอหญิงกลับไปแล้วทั้งสามก็ปรึกษาหาทางออกกันอีกทีว่าจะเอาอย่างไรกับเรื่องนี้ดูคนที่จะไม่เครียดเลยเห็นจะเป็นเมืองรามเสียมากกว่าที่นั่งยิ้มร่าถามสิงหนาทด้วยสีหน้าทะเล้นจนสิงหนาทต้องรีบเอ่ยปากให้ทั้งคู่แต่งงานกันโดยเร็วที่สุด2อาทิตย์ต่อมาไร่ศังกร"อุ้บ..แหวะๆ""พี่หญิงไหวไหมคะ"วันนี้เป็นวันแต่งงานของนรีนาถและเมืองรามซึ่งดูเจ้าสาวก็ดูท่าไม่ค่อยไหวเท่าไรแต่ก็ต้องแต่เมื่อได้ฤกษ์ที่ไวที่สุดมาแล้วคำแก