"ก็น่าจะใจดี..."
นรีนาถทำหน้าครุ่นคิดและพยักหน้าเบาๆ
"อย่าได้ใจไปล่ะ"
เมืองรามเตือนทั้งหญิงสาวและคำพูดของเขาก็เปรียบเสมือนการเตือนใจตัวเองด้วย
"นาย.."
"อะไรอีก"
"ฉ..ฉันขอให้เรื่องความแค้นของนายจบลงที่ฉันได้ไหมปล่อยพ่อฉันกับเมียนายไปเถอะ"
นรีนาถจ้องหน้าชายหนุ่มด้วยท่าทีที่แอบลุ้นว่าสิ่งที่เธอร้องขอกับเขาจะได้ผลหรือไม่
"ฉันบอกแล้วไงว่าอย่าได้ใจไป"
"ฉันเจ็บ"
เมืองรามฉุนขึ้นมาทันทีเมื่อหญิงสาวพูดจบมือหนาบีบแขนเธออย่างแรงจนนรีนาถสีหน้าเหยเก
"อย่าลืมว่าเธอมาอยู่ที่นี่เพราะอะไรเป้าหมายของฉันไม่ใช่เธอทุกวันนี้ฉันพูดดีกับเธอก็ดีนักหนาแล้ว"
เมืองรามผลักหญิงสาวนอนลงมือหนาจับข้อมือทั้งสองของหญิงสาวชูขึ้น
"..ฉันเคยเชื่อคำของคำแก้วว่าสักวันนายจะใจดีกับฉันแต่เปล่าเลย"
นรีนาถมีสีหน้าผิดหวังอยู่มากเธอคิดว่าพักหลังที่เมืองรามพูดดีกับเธอนั่นเหมือนเป็นสัญญาณที่ดีเสียอีก
"มันเป็นเพราะเธอทำตัวเธอเอง..ถ้าไม่พูดอะไรที่ทำให้ฉันโมโหขึ้นมาเธอก็จะไม่เจ็บตัวหรอก"
"ฉันอยากรู้นักถ้าแก้แค้นสำเร็จมันจะได้อะไรขึ้นมามีแต่ต่างคนต่างเจ็บปวดเปล่าๆ"
"หยุดพูด"
เมืองรามเอ่ยเสียงแข็งเขาไม่ได้อยากได้ยินคำพวกนี้จากปากหญิงสาวเพราะไม่อยากคิดว่าที่เธอเอาใจดูแลเขาทุกอย่างมันมีผลประโยชน์แอบแฝง
"ขอร้องล่ะนายช่วยฟังฉันบ้างเถอะนะ"
"หญิง"
"เชื่อฉันนะ...ถ้าปล่อยวางทุกอย่างได้เราจะไม่มีอะไรต้องทุกข์ใจเลย"
"ถ้าเธอยอมฉันทุกอย่างได้ฉันจะพิจารณาอีกที"
"อื้ม..."
เมื่อพูดจบเมืองรามก็ประกบจูบหญิงสาวอย่างรุนแรงเขาจะดูว่าเธอจะต่อต้านเขาหรือไม่และหากเธออยากให้เขาลองพิจารณาคำพูดเธอเขาจะดูว่าข้อแลกเปลี่ยนที่เธอให้มันคุ้มกันหรือเปล่า
"....."
เมืองรามยิ้มกริ่มเมื่อคนใต้ร่างไม่มีการต่อต้านเขานับถือหัวใจของเธอจริงๆที่คิดจะปกป้องคนที่ตัวเองก็รู้ว่าคนๆนั้นไม่เคยได้ใส่ใจอะไรตัวเองเลย
"อื้อ.."
บทรักที่รุนแรงในคราแรกเปลี่ยนเป็นนุ่มนวลในเวลาต่อมาจึงทำให้หญิงสาวมีความรู้สึกแปลกใหม่เกิดขึ้นเธอไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองนั้นมีอารมณ์ร่วมตามไปกับชายหนุ่มที่กระทำการเอาแต่ใจบนตัวเธออย่างว่าง่าย
"อ..อื้อ..อร้ายย.."
เสียงครางอ่อนๆในลำคอของหญิงสาวเปลี่ยนเป็นเสียงกรีดร้องด้วยความเสียวซ่านเพราะร่างบางนั้นเกร็งกระตุกเสร็จสมอารมณ์รักเป็นครั้งแรกมือไม้ปัดป่ายจิกแผ่นหลังแกร่งจนเป็นลอยระยายอารมณ์อย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว
"อ..อ่าสส.."
เมื่อเห็นหญิงสาวแตะสวรรค์ไปก่อนเมืองรามจึงรีบเร่งให้เสร็จสมตามไม่นานสานธารน้ำรักก็ถูกปลดปล่อยเข้าช่องทางรักจนหมดทุกหยาดหยดและฟุบกอดหญิงสาวที่ตัวอ่อนปวกเปียกแนบแน่นอย่างหวงแหนหลับตาพริ้มด้วยรอยยิ้มที่วันนี้เธอว่าง่ายกับเขาเสียเหลือเกิน
ไร่วัฒนพรรณ
"พรุ่งนี้เช้าพ่อเลี้ยงจะกินอะไรจ้ะแก้วจะได้รีบตื่นมาเตรียมไว้ให้"
ก่อนจะนอนทุกคืนคำถามนี้เป็นคำถามประจำของคำแก้วไปแล้วเพราะเธอต้องการทำหน้าที่เมียให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
"อะไรก็ได้.."
ฟอดด
"อื้ม.."
พันแสงตวัดแขนกอดก่ายเมียตัวน้อยของเขาไปหอมฟอดใหญ่แล้วพลิกตัวมานอนด้านบนตัวร่างบางบดจูบลูบไล้คนเป็นเมียเฉกเช่นทุกคืนที่เคยทำเขาพยายามอยากจะเว้นเรื่องนี้บ้างแต่เพียงแค่ได้กลิ่นกายสาวเขาก็อดใจไม่ไหวทุกทีไป
"พ..พ่อเลี้ยง..พักสักวันไหมจ้ะ"
คำแก้วพูดติดๆขัดๆเพราะคนที่กำลังนัวเนียขยำดูดคลึงอยู่ที่เนินอกเธอนั้นกำลังทำให้เธอมีอารมณ์ทั้งที่วันนี้เธออยาดใกจะพักเพราะร่วมรักกันมาหลายคืนติดต่อกันและแต่ละคืนพันแสงก็แทบจะไม่ปล่อยให้เธอได้มีเวลานอนพักเลยด้วยซ้ำ
"อื้ม...อ..อื้อออ.ๆๆๆ"
คำแก้วพูดยังไม่ทันจบผ้าซิ่นของเธอที่ใส่อยู่ก็ปลิวหล่นไปอยู่ปลายเตียงตามกับเสื้อของเธอไปติดๆเรียวขางามถูกแยกออกจากกันอย่างรวดเร็วและช่องทางรักของเธอก็ถูกล่วงล้ำไปเสียแล้วเลยหมดโอกาสที่จะปฏิเสธอีกได้แค่ส่งเสียงครางออกมาตามแรงบดเบียดของคนตัวโตเท่านั้น
"อ..อ้าสส.."
ช่องทางรักของเมียคราวลูกของเขาช่างแน่นเกินคำบรรยายจนต้องระบายออกมาเป็นเสียงในลำคอความเสียวซ่านระอุในตัวกำลังถูกปลดปล่อยไปยังร่างบางจนตัวโยนแต่ดขาก็หยุดที่จะรุนแรงไม่ได้จริงๆ
วันนี้เป็นเช่นทุกคืนที่กว่าพันแสงจะปล่อยคำแก้วให้พักผ่อนก็เกือบจะเช้าแม้จะสงสารเมียเด็กอยู่บ้างแต่ก็ข่มอารมณ์ไม่ได้ทุกทีไป
วันต่อมา
"แปลงดอกไม้นี่...ที่นี่มีที่แบบนี้ด้วยเหรอ"
"อืม.."
นรีราถตื่นเต้นเมื่อเห็นแปลงดอกไม้แปลงใหญ่ที่เมืองรามพาเธอขี่ม้ามาชมสวนดอกไม้แต่เช้าหญิงสาวยิ้มกว้างอย่างไม่รู่ตัวเพราะดอกไม้หลากสีสันที่แบ่งกันเป็นโซนอย่างชัดเจนทำให้เธออารมณ์ดีและสดชื่นอย่างมากในเช้านี้
"ทำไมพาฉันมาล่ะ"
หญิงสาวชื่นชมความสวยงามครู่หนึ่งจึงหันหน้าที่มีความสงสัยมาหาคนที่ยืนอยู่ข้างๆ
"ตอบแทนที่เมื่อคืนเธอเป็นเด็กดีกับฉัน"
เมืองรามดึงร่างบางมารวบกอดแล้วจูบที่กระหม่อมของเธอด้วยสายตาเจ้าเล่ห์เมื่อคืนเขายอมรับว่าเมื่อหญิงสาวเป็นเด็กดีไม่ขัดขืนเขามันทำให้เขาพอใจในตัวเธอเป็นอย่างมาก
"อืม...นาย"
"อะไร"
"ฉันขอตัดดอกไม้พวกนี้ไปไว้ในห้องนอนได้ไหม"
นรีนาถเงยหน้ามองชายหนุ่มด้วนสีหน้าออดอ้อน
"อยากได้แบบไหนเดี๋ยวฉันตัดให้"
เมืองรามเห็นสีหน้าหญิงสาวเช่นนี้มีหรือทีาเธออยากได้อะไรแล้วเขาจะไม่ให้พลันรีบหยิบกรรไกรเดินเข้าไปข้างต้นกุหลาบแล้วให้หญิงสาวเลือกได้เลย
"เอาอันนี้..แล้วก็อันนั้น...แล้วก็อันโน้นด้วย"
"อืม.."
"......"
นรีนาถยืนยิ้มร่าที่เธอจะได้ดอกไม้กลับไป
"พอไหม.."
"อืม.."
หญิงสาวพยักหน้าเมื่อชายหนุ่มตัดดอกกุหลาบและริหนามออกจากก้านสี่ห้าดอกแล้วยื่นให้เธอ
"พ่อเลี้ยงอยู่นี่เอง...แหม่...พาสาวมาแปลงดอกไม้ก็ไม่บอกปล่อยให้ทศหาตั้งนาน"
ทศพลเห็นม้าสีขาวของเมืองรามกินหญ้าอยู่แถวนี้จึงรีบวิ่งเข้ามาที่แปลงดอกไม้เพราะรู้ว่าม้าอยู่นี่แล้วเจ้าของม้าก็ต้องอยู่ที่นี่แน่นอนเพราะเขาไปหาที่เรือนแล้วไม่เจอ
"มึงมีอะไร"
เมืองรามยืนขึ้นจากพุ่มดอกกุหลาบหันไปถามทศพลเสียงแข็งที่มาขัดจังหวะเขาในเวลานี้
"เบิกตังหน่อยจะ"
เด็กหนุ่มแบมือขอเงินคนตรงหน้าด้วยสีหน้าทะเล้น
"เรื่องตังนี่เสนอหน้าหากูถึงที่เรียกใช้งานทีนี่อ้อยอิ่ง...เอ้า..เอาไปแล้วรีบไสหัวไปเลย"
แม้นจะบ่นแต่มือก็ล้วงกระเป๋าหยิบถุงเงินให้เด็กหนุ่มอย่างไม่ได้นับ
"แหม..ขวางคอหน่อยไม่ได้เลยนะ"
"ไอ้...หืม..มึงนี่มัน"
"ไปแล้วจ้าา.."
ทศพลรีบวิ่งออกไปทันทีก่อนที่ขายาวๆของเมืองรามจะฟาดมาที่ก้น
"นี่นาย..ทำไมชอบขู่คนอื่นอยู่เรื่อย"
นรีนาถอมยิ้มที่เห็นทั้งสองเถียงกันตรงหน้าทั้งบ่นชายหนุ่มที่ชอบขู่คนอื่นอยู่เรื่อย
"ก็ดูมันชอบกวนประสาทอยู่เรื่อย..อะถือ"
เมืองรามส่ายหัวเบาๆทั้งส่งดอกไม้ให้หญิงสาวถือเอาไว้อีกกำ
"สวยจังเลยค่ะคุณหญิง"
ช่วงสายฟองจันทร์เห็นนรีนาถนั่งจัดดอกไม้เป็นช่อๆเธอก็อดเอ่ยปากชมไม่ได้เพราะหญิงสาวนั้นจัดได้งามเหลือเกินผิดกับเธอที่จัดสวยเพียงแค่ดอกบัวเท่านั้น
"หญิงให้พ่อเลี้ยงตัดให้น่ะจะ."
"พ่อเลี้ยงตัดให้"
"จะ.."
ฟองจันทร์อมยิ้มกริ่มเธอเคยได้ยินคำนี้เสียที่ไหนว่าพ่อเลี้ยงเป็นคนตัดดอกไม้ขนาดเมียเก่าของเมืองรามที่ว่ารักนักรักหนายังไม่ลงมือทำให้ขนาดนี้เลย
วันต่อมา
"คุณหญิงเก่งขึ้นทุกวันเลยนะจ้ะ"
ฟองจันทร์กับนรีนาถเข้าครัวด้วยกันในช่วงเย็นวันนี้ฟองจันทร์ไม่ได้ลงมือทำเองแต่เป็นนรีนาถซึ่งทำได้คล่องและเหมือนกับที่เธอทำไม่มีผิด
"ก็ได้แม่จันทร์นี่แหละจะเป็นคนสอน"
"แม่จันทร์กลิ่นแกงเรียงหอมจังเลย..ขอซดใก้คล่องคอหน่อย....หืมอร่อยเหมือนเดิมฝีมือไม่ตกเลยนะ"
เมืองรามเข้าบ้านมาได้กลิ่นแกงเรียงหอมๆก็หยิบช้อนตักน้ำแกงซดจนชุ่มคอทั้งเอ่ยปาดชมฟองจันทร์เปราะ
"ไม่ใช่ฝีมือฉันหรอกจะ..ฝีมือคุณหญิงเค้า"
"อ้าว..เหรอ"
เมืองรามพยักหน้าเบาๆไม่ยักรู้ว่าฝีมือนรีนาถจะไปถึงขั้นนี้แล้ว
"แล้วพ่อเลี้ยงไปไหนมากลับมาซะเย็นเลย...นั่นถืออะไรมาเยอะแยะล่ะจ้ะ"
ฟองจันทร์เห็นเมืองรามถือถุงกระดาษมาเต็มมือจึงต้องถามขึ้นว่าเขานั้นไปหอบอะไรมาหากเป็นของใช้ในเรือนเธอจะได้รีบเอาไปเก็บ
"ของเธอน่ะ"
"ของฉัน"
นรีนาถทำหน้าแปลกใจที่ของทั้งหมดในมือของเขานั้นเป็นของเธอหมดเลยจริงๆหรือ
"อืม...ฉันเห็นเธอไม่ค่อยมีเสื้อผ้าใส่เลยหาซื้อมาให้"
เมืองรามหลบสายตาหญิงสาวที่เอาแต่จ้องเขาเล็กน้อย
"ขอบใจนะ"
นรีนาถแอบหน้าแดงเล็กน้อยเธอรับของจากชายหนุ่มทั้งส่งยิ้มให้เขาอย่างขอบคุณที่อุตส่าห์มีน้ำใจกับเธอ
"ทำไมซื้อมาหลายชุดจัง"
หลังจากกินข้าวเย็นเสร็จนรีนาถก็มาเปิดถุงกระดาษในห้องนอนข้างในมีแต่ชุดของเธอเต็มไปหมดไม่รู้ว่าเมืองรามนั้นจะซื้อมาถมตัวเธอหรืออย่างไรก็ไม่ทราบ
"ก็มันซื้อมาแล้วก็ใส่ๆไปเถอะน่า"
เมืองรามตอบด้วยน้ำเสียงห้วนๆ
"มีหนังสือด้วยนี่..ของฉันอีกใช่ไหม"
"อืม.."
"ขอบคุณมากๆเลยนะ"หญิงสาวเลือกที่จะหยิบหนังสือออกมาชื่นชมนี่คือสิ่งที่เธอถูกใจกว่าเสื้อผ้าสวยๆหลายเท่า"ต่อจากนี้เธอขาดเหลือหรืออยากได้อะไรก็บอกฉันแล้วกัน""ทำไมใจดีจังล่ะ"นรีนาถจ้องตาชายหนุ่มด้วยสีหน้าสงสัย"ก็บอกแล้วไงช่วงนี้เธอทำตัวเป็นเด็กดีกับฉัน..เธอก็จะได้อะไรดีๆตอบแทน"เมืองรามหลบสายตาหญิงสาวก่อนที่เขาจะเผลอยิ้มออกมา".......""พรุ่งนี้อยากออกไปไหนไหม"เมืองรามหาเรื่องคุยกับหญิงสาวในขณะที่เธอนั้นสนใจหนังสืออยู่เขาไม่รู้ว่าคิดถูกหรือคิดผิดที่ซื้อหนังสือมาให้เธอเพราะดูท่ามันจะเป็นจุดสนใจสำหรับเธอมากกว่าเขาไปเสียแล้ว"อืม..ไม่"นรีนาถส่ายหัวในขณะที่เธอจับหนังสือเปิดดูใกล้ๆกับตะเกียง"วัวที่คอกพึ่งตกลูกเธออยากไปดูไหม""จริงเหรอ..ไปสิ"เมื่อได้ยินเช่นนั้นหญิงสาวจึงละสายตาจากหนังสือได้"รีบนอนเดี๋ยวพรุ่งนี้จะพาไปแต่เช้า""อืม"เมืองรามเห็นท่าทีหญิงสาวดูจะตื่นเต้นขนาดนั้นจึงรีบหยิบหนังสืออกจากมือของเธอและรวบกอดร่างบางให้หลับลงในอ้อมอกของเขาเช้าวันต่อมา"เจ้าวัวน้อย..ลืมตามาดูโลกสองวันแล้วรู้สึกดีไหม""....."นรีนาถรบให้เมืองรามพาเธอมาหาลูกวัวแต่้้เช้าตามสัญญาเมื่อมาถึงก็เอาแต่คุยกั
"......"เมืองรามได้นิ่งนิ่งงันคิดไตร่ตรองในเรื่องที่ฟองจันทร์พูดแล้วจึงรีบกลับไปในห้องนอนของเขาทันที"ยังไม่เลิกร้องอีกหรือไง""ปล่อย...""ฉันปล่อยเธอไปไม่ได้.."เมืองรามเข้ามาสวมกอดคนที่กำลังนั่งกอดเข่าร้องให้อย่างไม่ยอมหยุดแม้เวลาจะผ่านมาร่วมหลายชั่วโมงแล้วก็ตามเขาเอ่ยปากพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมาทำเอานรีนาถแปลกใจกับคำพูดของเขาอยู่มากว่าเหตุผลอะไรกันที่ทำให้เขาพูดว่าปล่อยเธอไปไม่ได้"......""ความรู้สึกของฉันมันเปลี่ยนไปพักใหญ่แล้ว"เมื่อนรีนาถมีทีท่าว่าจะฟังเขาชายหนุ่มจึงเริ่มพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมา"ความรู้สึกอะไร""ในใจฉันมันต้องการเธอ...มันบอกว่ายอมเสียเธอไปไม่ได้""นายจะเล่นลิ้นอะไรอีก"ตอนนี้นรีนาถไม่รู้ว่าเขาจะมาไม้ไหนกับเธออีกครั้งก่อนก็เล่นลูกบังคับครั้งนี้ก็มาเล่นลูกขอร้องกับเธออีกเพื่อให้เธอไม่อยู่ห่างเขา"เธอดูไม่ออกจริงๆหรือไงว่าฉันเปลี่ยนไป...หรือทำเป็นไม่รับรู้กันแน่"เมืองรามจ้องหน้านรีนาถด้วยสายตาจริงจัง"......."หญิงสาวก้มหน้าลงเล็กน้อยเธอเคยแอบคิดเหมือนกันว่าเขามีใจให้เธอแบบที่เธอมีให้เขาแต่เมื่อคิดแล้วมันก็ชอบมีความคิดแย้งมาว่าเขาทำไปทั้งหมดเพราะอยากแก้แค้นเธอจึงข
"นายปวดหัวอยู่รึเปล่า"ช่วงบ่ายเมื่อเมืองรามฟื้นขึ้นมาแล้วนรีนาถก็คอยดูแลเขาอยู่ไม่ห่าง"ไม่ค่อยเท่าไร""เอ่อ..""เธอจะกลับไปใช่ไหม"สิ่งที่กังวลใจที่สุดของเมืองรามไม่ใช่แผลที่หัวของเขาแต่เป็นเรื่องหญิงสาวที่กลัวว่าเธอนั้นจะถูกพรากจากเขาไป"อืม..ฉันอยากกลับไปรับศพพ่อฉัน.. ฉันกับพี่สิงห์จะอยู่ที่นี่ก่อนสามวันจนนายดีขึ้นแล้วฉันถึงจะไป"นรีนาถพยักหน้าเบาๆ"ฉันไปด้วย""อะไรนะ""ฉันอยากไปขอขมาพ่อเธอและอยากอโหสิกรรมให้เลิกแล้วต่อกันในชาตินี้"หญิงสาวฟังไม่ผิดเขาอยากไปกับเธอจริงๆเขาอยากจะไปขอขมาพ่อของเธอที่พาเธอมาที่นี่ทรมานก่อนหน้านี้และไม่อยากจะมีความแค้นอะไรติดค้างในใจอีก"นายลืมเรื่องทั้งหมดแล้วใช่ไหม"นรีนาถยิ้มอ่อนเมื่อได้ฟังสิ่งที่อยากจะได้ยินจากปากของเขามานานเรื่องที่ชายหนุ่มละจากความแค้นได้เสียที"ไม่ลืม...แต่ไม่ใส่ใจแล้วตอนนี้ฉันใส่ใจแค่เธอเท่านั้น"เมืองรามโอบกอดนรีนาถเบาๆจะให้เขาพูดว่าลืมคงโกหกแค่เขาไม่ใส่ใจมันแล้วต่างหากตอนนี้คนเดียวที่เขาใส่ใจคือนรีนาถเท่านั้นเย็นของวัน"พี่สิงห์คะ""น้องหญิง""หญิงทำแกงส้มของโปรดพี่สิงห์ด้วยค่ะ"นรีนาถยกแกงส้มดอกแคมาวางตรงหน้าสิงหนาท"น้องหญิ
อาทิตย์ต่อมา"หลับให้สบายนะคะคุณพ่อ""หญิง..หญิง"นรีนาถเป็นลมล้มพับไปในขณะที่แหงนมองกลุ่มควันที่เผาพ่อของตนอยู่ที่เมรุเผาศพเมืองรามกับสิงหนาทจึงรีบพาหญิงสาวกลับบ้านและตามหมอมาดูอาการเธอทันที"คุณหญิงร่างกายอ่อนเพลียมากนะคะยิ่งตอนนี้ตั้งครรภ์อ่อนๆด้วยแล้วยิ่งต้องให้เธอทานอาหารให้ตรงเวลา""หา..."คำพูดของหมอหญิงวัยกลางคนทำให้ทั้งสามต่างก็มีสีหน้าตกใจไปตามๆกัน"ตั้งครรภ์"นรีนาถลูบท้องตัวเองเบาๆเธอเองก็ไม่ทันได้สังเกตเสียด้วยว่าระดูของเธอนั้นขาดไปตั้งแต่เมื่อไร"น้้องหญิง"สิงหนาทนั่งกุมขมับมองกน้าเมืองรามอย่างไม่พอใจที่นรีนาถนั้นต้องมาท้องก่อนแต่งจนได้"จะให้ทำยังไง""ก็ต้องรีบแต่งน่ะสิ"หลังจากหมอหญิงกลับไปแล้วทั้งสามก็ปรึกษาหาทางออกกันอีกทีว่าจะเอาอย่างไรกับเรื่องนี้ดูคนที่จะไม่เครียดเลยเห็นจะเป็นเมืองรามเสียมากกว่าที่นั่งยิ้มร่าถามสิงหนาทด้วยสีหน้าทะเล้นจนสิงหนาทต้องรีบเอ่ยปากให้ทั้งคู่แต่งงานกันโดยเร็วที่สุด2อาทิตย์ต่อมาไร่ศังกร"อุ้บ..แหวะๆ""พี่หญิงไหวไหมคะ"วันนี้เป็นวันแต่งงานของนรีนาถและเมืองรามซึ่งดูเจ้าสาวก็ดูท่าไม่ค่อยไหวเท่าไรแต่ก็ต้องแต่เมื่อได้ฤกษ์ที่ไวที่สุดมาแล้วคำแก
"คำแก้ว..คำแก้ว""พ่อเลี้ยงอย่าพึ่งตามไปปล่อยคำแก้วมันไปก่อน"พันแสงหมายจะตามคำแก้วไปแต่ถูกสมิงรั้งเอาไว้ก่อนเพราะหากคำหล้ากดดันเจ้านายของเขาเช่นนี้เขาก็มีความจริงที่ต้องเปิดเผยเช่นกัน"ทำไม"พันแสงหันมาจ้องสมิงตาเขม็ง"ศรีอ่อนบอกแม่เอ็งไป"สมิงให้ศรีอ่อนบอกความจริงดับทุกคนว่าเธอนั้นเป็นอะไรกับเขาให้กลุ่มคนงานที่ยืนฟังเรื่องราวอยู่ให้รู้กันถ้วนหน้าไปเสียวันนี้เลย"แม่จ้ะ..เมื่อคืนพ่อเลี้ยงเมาไม่ได้ตั้งใจจริงๆและฉันก็...""ก็อะไร.."คำหล้าบีบแขนศรีอ่อนทั้งจ้องอย่างเอาเป็นเอาตาย"ได้เสียเป็นเมียพี่หมิงไปแล้วจะ...ฉันคงจะเป็นเมียพ่อเลี้ยงไม่ได้""อะไรนะ..นี่เอ็ง..อีนังลูกไม่รักดี"เพี๊ยะ..สิ้นคำลูกสาวคำหล้าก็เหวี่ยงมือฟาดไปที่หน้านวลจนเป็นรอยแดง"อย่าทำร้ายศรีอ่อนมันเลยฉันได้มันเป็นเมียแล้วฉันจะสู่ขอให้ถูกต้องตามประเพณีทุกอย่าง"สมิงรีบดึงศรีอ่อนมากอดเอาไว้เพราะไม่อยากมห้เธอตกเป็นเครื่องมือของคนเป็นแม่อีกที่ผ่านมาเขารู้ดีว่สคำหล้าจ้องจะทำอะไรแต่ในเมื่อศรีอ่อนรักอยู่กับเขาตัวเขาเองก็จะไม่ปล่อยให้ศรีอ่อนไปเป็นเมียใครเด็ดขาด"หึ่..."คำหล้ามือไม้สั่นอับอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี"ไอ้หมิง...กูรั
"คู่นี้เข้าใจกันได้ก็น่าเอ็นดูดีนะคะ"นรีนาถแอบขำการคุยกันของสองหนุ่มทั้งดีใจที่คำแก้วและพันแสงลงเอยกันด้วยดีเสียที"ใช่..คนอย่างไอ้แสงลงได้รักใครมันก็รักและซื่อสัตย์กับคนนั้นคนเดียวพี่ถึงวางใจที่จะให้คำแก้วฝากชีวิตไว้กับมันไง""แล้วพี่รามคนนี้ล่ะคะ""พี่ก็รักเดียวใจเดียวไม่เปลี่ยนใจเหมือนกันจะ""ปากหวาน"นรีนาถจับริมฝีปากหนาของชายหนุ่มเล่นเบาๆ"อยากชิมปากหวานๆตอนนี้ไหมล่ะ""อื้อ..ไม่ค่ะ"นรีนาถรีบเอี้ยวตัวหลบก่อนที่เมืองรามจะมาทำประเจิดประเจ้อกับเธอที่หน้าเรือนปีต่อมา"แอ้ๆ..""ว่ายังไงตาชิต...อารมณ์ดีแต่เช้าเลยลูกพ่อ"เมืองรามกำลังจับลูกชายวัยหกเดือนที่กำลังจ้ำม่ำอาบน้ำในตอนเช้านรีนาถมองแล้วดูท่าทางคนเป็นพ่อจะอารมณ์ดีกว่าลูกเสียอีกที่ไม่ยอมพาลูกขึ้นจากน้ำเสียที"พี่รามคะ..พาลูกขึ้นจากน้ำได้แล้วค่ะ""ลูกกำลังอารมณ์ดีเลย"เมืองรามมองหน้าคนเป็นเมียบุ้ยปากแอบเสียดายเล็กน้อยที่ลูกกำลังเล่นกับเขาอารมณ์ดีแต่ต้องเลิกเล่นเสียแล้วเพราะกลัวว่าลูกจะไม่สบาย"เดี๋ยวจะป่วยเอานะคะ"นรีนาถส่ายหัวเบาๆ"ก็ได้...ไปเช็ดตัวกันนะลูก""พี่สิงห์...ไม่เห็นส่งข่าวมาบอกว่าจะมาเลยคะ"ในขณะที่นรีนาถเช็ดตัวเปลี่
"ร้านอยู่ที่ไหนจ้ะแม่จันทร์""ตลาดในหมู่บ้านนี่เองจะ""มีอะไรกันรึเปล่า"เมืองรามเห็นนรีนาถและสิงหนาทดูรีบร้อนเป็นพิเศษจึงเกิดอยากจะถามให้หายสงสัยก่อนที่จะเดินออกไปจากเรือนนรีนาถจำต้องเดินไปด้วยเล่าไปด้วนว่าสิ่งที่สิงหนาทและเธอร้อนใจอยู่นั้นคือเรื่องอะไรตลาดในหมู่บ้าน"ร้านไหนจ้ะแม่จันทร์""ใกล้จะถึงแล้วจะ"นรีนาถมีท่าทางร้อนใจจนฟองจันทร์ต้องรีบเดินให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้"อ้าวแม่จันทร์มาซื้อขนมเพิ่มเหรอจ้ะ"เมื่ออัญชัญเห็นฟองจันทร์ก็รีบยิ้มทักทายเพราะตั้งแต่มาตั้งร้านขายที่หมู่บ้านนี้ไม่กี่วันมานี่ก็มีฟองจันทร์เป็นลูกค้าประจำคอยมาซื้ออยู่ทุกวันอัญชัญเป็นแม่ค้าขายขนมวัยเกือบจะสี่สิบเป็นโสดไม่เคยคิดจะมีสามีและเมื่อนารามาขออาศัยอยู่ด้วยจึงย้ายถิ่นมาขายของที่บ้านเก่าของเธอที่นี่"พอดีมีคนอยากจะซื้อเพิ่มน่ะจะ"ฟองจันทร์หันกลับไปหาทั้งสามที่ยืนมองอยู่หน้าร้าน"เหลือเท่านี้แหละจะจะเอาอะไรก็เลือกเลยนะจ้ะ""ยาย..""ตานพกินเลอะเทอะอีกแล้วมายายเช็ดปากให้"ไม่นานเด็กชายวัยเก้าเดือนนิดๆที่พึ่งจะหัดเดินกึ่งเดินกึ่งคลานเข้ามาหาอัญชัญด้วยหน้าตาที่ละม้ายคล้านสิงหนาทอย่างมากจึงทำให้ทั้งสามที่ยืน
"กลับไปเถอะค่ะหนึ่งอยู่กับลูกกับน้าอัญก็สบายดีแล้วพี่สิงห์กลับไปใช้ชีวิตของพี่เถอะเรื่องที่ผ่านมาหนึ่งอภัยให้ค่ะพี่สิงห์ไม่ต้องรู้สึกผิดนะคะ..."นาราพูดจบก็หมายจะอุ้มลูกเดินออกไป"ไม่ได้หนึ่งยังไงลูกก็ต้องได้อยู่กับพี่""จะพรากลูกไปจากหนึ่งเหรอคะ"แต่มีหรือสิงหนาทจะยอมเขารั้งร่างบางเอาไว้และอุ้มมานพมาไว้ในอ้อมอก"พี่ไม่ได้คิดจะพรากลูกไปจากหนึ่งแต่เราจะอยู่กันเป็นครอบครัวถ้าหนึ่งไม่อยากทิ้งน้าอัญของหนึ่งพี่ก็จะพาเธอไปอยู่ด้วยจะได้ไม่ต้องมาลำบากแบบนี้""ก็หนึ่งบอกแล้วไงคะว่าหนึ่งไม่ได้ลำบาก"นาราพยายามจะแย่งลูกคืนแต่ก็ทำอะไรได้ยากเพราะสิงหนาทโอบกอดลูกชายตนเอาไว้แน่น"อย่าดื้อกับพี่นะหนึ่ง"สิงหนาทจ้องนาราอย่างจริงจัง"อย่ามาสั่งหนึ่งค่ะ"นาราเองก็จ้องกลับสิงหนาทอย่างเขม็งเช่นกัน"แม่ๆ..""พี่สิงห์จะพาลูกไปไหนคะ...พี่สิงห์หยุดนะ""......"สิงหนาทเห็นท่าทีดื้อดึงของนาราแล้วก็ต้องใช้ลูกบังคับกันเช่นเดิมในเมื่อคุยกันไม่เข้าใจเขาก็ต้องอุ้มลูกวิ่งหนีไปเสียก่อน"อ้าวพี่สิงห์"นรีนาถเห็นสิงหนาทอุ้มมานพวิ่งออกไปจากบ้านเธอก็ตกใจเล็กน้อย"น้าอัญคะเค้าจะขโมยลูกหนึ่งไปค่ะ""เป็นผัวเมียกันก็ค่อยๆคุ