"..อยู่เฉยๆ.."
"อร้ายยย...ปล่อยยย.."
เมืองรามวางไหน้ำเมาของเขาลงพร้อมกดร่างบางแล้วขึ้นคร่อมเธออย่างเอาแต่ใจเขายกยิ้มเล็กน้อยมองหน้าจิ้มลิ้มด้วยสายตาหยาดเยิ้มไม่รู้ว่าทำไมวันนี้เขาจึงคิดถึงแต่กลิ่นกายของเธอด้วยความที่ไม่ค่อยจะมีสติเท่าไรจึงเลือกที่จะทำอะไรตามอำเภอใจโดยที่ไม่ฟังคนต่อต้านเช่นเดิม
"หื้อ..อื้มม..ฮือๆๆ..หยุดทำบ้าๆกับฉันสักที..ฮือๆๆ"
เพี๊ยะ..ปั้กๆๆ..ตุ้บ..
นรีนาถทั้งตบทั้งข่วนไม่ยอมหยุดมือกับคนที่กระทำย่ำยีร่างกายของเธอแต่ดูเหมือนคนที่กำลังเมาผิวเนื้อด้านชาไม่มีร้องโอดโอยเลยสักแอะแต่ดันเพิ่มพูนทวีความรุนแรงกับกิจกรรมสวาทที่ทำอยู่แทนจนทำให้หญิงสาวนั้นหมดแรงจะต้านและหยุดมือไปเอง
"......"
"ฮื่อๆๆๆๆ..อือ...ฉันเจ็บ.."
กิจกรรมสวาทที่เมืองรามได้กระทำกับนรีนาถเนิ่นนานเสียจนสาวเจ้าตัวอ่อนปวกเปียกตาจะหลับไม่หลับแหล่น้ำตาที่ไหลเป็นสายธารเปียกเลอะเทอะใบหน้าสวยและไรผมรามไปถึงฟูกนอนเป็นวงกว้างแต่มีหรือคนป่าเถื่อนจะสนใจเพราะเอาแต่อารมณ์ตัวเองเป็นหลักในขณะที่ไม่ได้สติแบบนี้
วันต่อมา
"......."
นรีนาถตื่นมานั่งกอดเข่าร้องให้กระซิกเบาๆคนเดียวตั้งแต่หัวรุ่งไม่อยากเหลือบสายตามองร่างกายตัวเองแม้แต่นิดเพราะเธอเกลียดรอยที่เขาทำไว้บนเนื้อตัวของเธอที่สุด
"ไปไร่กับฉัน"
"..โอ้ยย.."
ไม่กี่ชั่วโมงต่อมาในขณะที่หญิงสาวอาบน้ำอาบท่าชำระล้างร่างกายเรียบร้อยแล้วหมายจะเดินเข้ามาในกระท่อมแต่กลับถูกพ่อเลี้ยงเถื่อนดึงแขนเธอให้เดินตามไปเสียก่อน
ครั้งนี้หญิงสาวนิ่งเงียบไม่โต้ตอบเพราะเธอเกลียดการที่จะสนทนาและการมองหน้าเขาในเวลานี้
"พรวนดินให้หมดทุกร่องแล้วค่อยกินข้าว"
เมืองรามเหวี่ยงหญิงสาวมาที่แปลงดินเปล่าใช้ให้เธอพรวนดินเพราะต้องการจะลงปลูกพืชล้มลุกที่นี่
"....."
"หึ่...อวดเก่งดีนี่"
ชายหนุ่มมองหน้าคนที่กำลังถือเสียมลงมือขุดดินอย่างไม่พูดไม่จาอย่างหมั่นไส้เพราะการกระทำแบบนี้ของหญิงสาวทำไมเขาจะไม่รู้ว่าเธอกำลังประชะประชัน
เย็นของวัน
"......"
นรีนาถนั่งทำงานตากแดดตากลมตั้งแต่เช้าจรดเย็นปิ่นโตข้าวที่เมืองรามเอามาวางไว้ให้เธอก็ไม่เคยแตะเพราะกินอะไรไม่ลงมือน้อยที่เป็นแผลยังไม่หายดีก็กำเสียมจนเลือดไหลแล้วไหลอีกแต่เธอไม่รู้สึกเจ็บเลยสักนิดเพราะหัวใจของเธอนั้นกำลังเจ็บกว่าเมื่อตะวันจะตกดินหญิงสาวก็เป็นลมล้มพับไปโดยที่ไม่มีใครเห็น
"คุณ...คุณหญิง"
ไม่นานนักคำสอนที่กำลังจะเดินกลับบ้านมาพร้อมบุญตาสายตาของเขาเหลือบไปเห็นหญิงสาวที่นอนฟุบอยู่กลางแปลงดินจึงรีบเข้าไปดูและเห็นว่าเป็นนรีนาถจึงรีบประคองเธอนอนบนตักและเขย่าตัวเธอเล็กน้อย
"นังนี่เป็นอะไรพี่สอน"
บุญตามองนรีนาถอย่างไม่ใส่ใจและคิดในใจว่านรีนาถนั้นหมั่นสร้างแต่ปัญหาเรียกร้องความสนใจจากคนอื่นไปทั่ว
"เป็นลมน่ะสิวะ..ถามได้เอ็งมาดูหน่อยข้าจะไปตามพ่อเลี้ยง"
"เดี๋ยวๆ..ฉันไปตามเอง"
บุญตาหรือจะปล่อยโอกาสนี้หลุดมือหากพ่อเลี้ยงหนุ่มมาเห็นว่านรีนาถกำลังถูกเนื้อต้องตัวอยู่กับคำสอนอาจจะเขี่ยทิ้งออกจากการเป็นผู้หญิงของตัวเองก็เป็นได้ดังนั่นเธอจึงอาสาจะไปตามเมืองรามเอง
"รีบไปรีบมาล่ะ"
หลังจากที่บุญตารีบวิ่งไปตามพ่อเลี้ยงคำสอนก็อุ้มหญิงสาวมาพักที่แคร่ไม้ใต้ต้นไม้ใหญ่ใกล้ๆ
"คุณ.. คุณ.. อ่อนแอแบบนี้พ่อเลี้ยงก็ยังจะให้มาทำงานอีกน้าา"
"อืม..."
"ฟื้นแล้วเหรอ...ค่อยๆลุก"
คำสอนเห็นหญิงสาวฟื้นมาได้ก็โล่งใจทั้งรีบประคองตัวเธอให้ลุกขึ้นนั่ง
"ขอบใจจะพี่สอน..โอ้ยย"
ด้วยความที่รีบลุกอาการปวดหัวจี๊ดก็แล่นมาเล่นงานและตัวอ่อนไปอีกรอบทำให้ตอนนี้นรีนาถนั้นล้มตัวซบอยู่กับอกของคำสอนอย่างไม่ได้ตั้งใจ
"งั้นนอนลงดีกว่านะผมว่า"
คำสอนเห็นว่าหญิงสาวน่าจะต้องนอนพักก่อนจึงค่อยๆโอบตัวเธอลงนอนและก็มีบางเสียงที่แข็งกร้าวตะโกนข้างหลังทำให้เขาต้องผละออกจากตัวหญิงสาวโดยเร็ว
"ไอ้สอน.."
"....."
เมืิองรามมองหน้าคำสอนอย่างเอาเรื่องเพราะเขาไม่ขอบให้ใครมาแตะของๆเขาจะเป็นของที่ไม่ได้รักก็ตามทั้งรีีบอุ้มหญิงสาวกลับไปที่กระท่อมด้วยความโมโหกับภาพที่เห็นเมื่อครู่อีกด้วย
พลั้กกก
"..จ.. เจ็บ"
ชายหนุ่มอุ้มร่างบางมาถึงกระท่อมได้ก็วางเธอลงกับฟูกอย่างแรงจนคนที่เพลียจนไม่มีแรงจะลืมตาต้องร้องออกมาเบาๆ
"สำออยอ่อยใส่คนของฉันงั้นเหรอ"
เมืองรามจ้องหน้าหญิงสาวที่หลับตาอยู่เสียงฝาด
"....."
"นี่..ลืมตามาคุยเดี๋ยวนี้"
ยิ่งเห็นเธอไม่ตอบโต้เขาก็ยิ่งโมโหทั้งเขย่าตัวเธอเหมือนเป็นสิ่งของอีกต่างหาก
".อืม.."
"โถ่.."
เมื่อหยุดมือเขาจึงเห็นว่าหญิงสาวขยับตัวเล็กน้อยแต่ไม่ลืมตาเช่นเดิมชายหนุ่มจึงค่อยๆสัมผัสร่างกายหญิงสาวให้แน่ใจอีกทีว่าตกลงเธอป่วยจริงหรือแค่สำออยและก็ได้รู้ว่าตัวหญิงสาวนั้นร้อนผ่าวขึ้นจริงๆก่อนหน้าที่อุ้มมาน่าจะไม่ได้สังเกตุเพราะกำลังโมโหอยู่
"......."
ไม่นานเมืองรามเองก็ต้องมานั่งเช็ดตัวให้หญิงสาวอย่างหงุดหงิดกับตัวเองเพราะรำคาญที่หญิงสาวนั้นเอะอะป่วยๆจนเขาไม่รู้จะใช้เธอทำงานอะไรดีแล้วเพราะใช้งานทีไรก็มาเป็นภารเขาทุกที
ในขณะที่เช็ดตัวหญิงสาวเขาก็ไล่ดูผลงานของตนที่ทำรอบตามตัวของหญิงสาวเอาไว้และแอบยิ้มกริ่มอยู่คนเดียวอย่างพอใจแต่เมื่อมาถึงมือเขาถึงกับหน้าเสียที่มือหญิงสาวบวมแดงมีเลือดออกจนน่ากลัวและนั่นก็ทำให้เขาขมวดคิ้วคิดอะไรเล็กน้อยไม่นานก็ส่ายหัวเบาๆบอกตัวเองว่าอย่าสนใจและจะคิดสงสารคนตรงหน้าไม่ได้เด็ดขาด
วันต่อมา
"ให้ถางหญ้าพรวนดินเดี๋ยวก็จะเป็นลมเป็นแล้งสำออยใส่คนของฉันอีกวันนี้ก็นั่งเฝ้าวัวเฝ้าควายมันกินหญ้าละกัน....ไอ้ทองวันนี้กูให้มึงพักเย็นๆมึงค่อยมาต้อนควาย"
เช้าวันนี้เมืองรามก็ลากหญิงสาวมานั่งเฝ้าวัวความยที่ทุ่งหญ้าแทนทองดีเขาจะลองดูว่าเธอจะเป็นอะไรไปอีกหรือเปล่า
"ฉันช่วยพี่สาวเค้าดูก็ได้จะพ่อเลี้ยง"
ทองดีมีสีหน้ากังวล
"เมื่อกี้กูพูดไม่ได้ยินหรือไงว่าให้มึงพัก"
เมืองรามมองค้อนใส่ทองดีให้รู้ตัวว่ากำลังขัดคำสั่งของเขาอยู่
"ฉันจะไปพักเดี๋ยวนี้แหละจะ"
เมื่อเห็นท่าทางพ่อเลี้ยงทองดีจำต้องรีบเดินออกไแใปทันทีวันนี้ของทองดีแม้จะสบายกายอใแต่เหมือนจะไม่สบายใจเสียแล้ว
"อีกเดี๋ยวคำแก้วมันคงจะเอาปิ่นโตมาให้..ดูพวกมันให้ดีล่ะ"
"..อืม.."
เมืองรามพูดจบก็เดินออกไปทำงานทำการของเขาต่อนรีนาถโล่งใจที่วันนี้มือของเธอจะไม่ต้องเจ็บซ้ำอีกแม้จะต้องมานั่งดูวัวควายก็ดีกว่าต้องอยู่กับคนนิสัยไม่ดีอย่างเมืองรามตลอดเวลา
"พี่หญิง"
"แก้ว"
นรีนาถหันไปยิ้มให้กับคำแก้วที่เดินหิ้วปิ่นโตมาสองเถาวางลงตรงหน้าเธอ
"กินข้าวเช้ากันก่อนจะ"
"ทำไมปิ่นโตมีสองเถาล่ะ"
"ของแก้วด้วยจะพี่หญิงจะได้มีคนกินเป็นเพื่อนไง"
"ขอบใจนะ"
นรีนาถเห็นทีเธอจะยิ้มออกบ้างก็เพราะที่นี่มีคำแก้วอยู่นี่แหละ
"เห็นว่าเมื่อวานพี่หญิงเป็นลมไปเลยตอนนี้ยังเพลียอยู่ไหมจ้ะ"
คำแก้วถามอีกฝ่ายด้วยความเป็นห่วง
"พี่ค่อยยังชั่วแล้วล่ะเมื่อวานตากแดดทั้งวันนับว่าพ่อเลี้ยงนั่นยังปราณีพี่บ้างที่ให้มานั่งเฝ้าพวกวัวควายพวกนี้"
นรีนาถบุ้ยปากเล็กน้อย
"พ่อเลี้ยงแกเป็นคนไม่ชอบให้ใครขัดใจปากร้ายแต่ใจดีแก้วว่าอีกหน่อยถ้าพี่หญิงอยู่ๆไปวันนึงพ่อเลี้ยงอาจจะใจดีกับพี่หญิงก็ได้นะจ้ะ"
คำแก้วพูดไปก็จัดวางอาหารไปเธอแอบสงสารนรีนาถอยู่มากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ทำได้เพียงเป็นเพื่อนคลายเหงาคลายเศร้าของนรีนาถได้เท่านั้น
"พี่ก็หวังให้เป็นเช่นนั้น"
นรีนาถพึมพำเบาๆก่อนจะหันมาสนใจอาหารตรงหน้าเธอนึกอยากกินอาหารตรงหน้าก็เพราะมีคำแก้วกินเป็นเพื่อนนี่แหละ
เย็นของวัน
(แก้วว่าอีกหน่อยพี่หญิงอยู่ๆไปวันนึงพ่อเลี้ยงอาจจะใจดีกับพี่หญิงก็ได้นะจ้ะ)
"พี่จะเชื่อคำพูดเรานะคำแก้ว"
วันทั้งวันนรีนาถแทบจะนึกถึงแต่คำพูดของคำแก้วเธอหวังลึกๆว่าอยากให้เป็นดังเช่นคำของคำแก้วในเร็ววันนี้เช่นกัน"เหนื่อยไหมพี่""ไม่เหนื่อยจะทอง"นรีนาถหลุดจากภวังค์เมื่อได้ยินเสียงของทองดีทักขึ้น"เดี๋ยวฉันต้อนควายเสร็จแล้วจะไปส่งที่กระท่อม""ขอบใจจะ""พี่สาว..ลูกวัวหายไปไหนเห็นรึเปล่า"ทองดีต้อนความยเข้าคอกจนหมดมาถึงวัวเขานับดูก็แปลกใจเล็กน้อยว่าลูกวัวหายไปไหนตัวนึงจึงถามหากับนรีนาถ"อะไรนะ...เมื่อกี้พี่ไม่ทันมองด้วยสิ"นรีนาถถึงกับหน้าเจื่อนลงทันที"มีอะไรกัน""....."ทองดีถึงขั้นหน้าเสียกว่านรีนาถหลายเท่าเมื่อเห็นเมืองรามเดินเข้ามาในขณะที่ยังมีปัญหาอยู่ในตอนนี้หวังว่าพ่อเลี้ยงนั้นจะไม่เอ็ดนรีนาถขึ้นมาอีก"คือ..ฉันทำลูกวัวหาย"นรีนาถมองหน้าทองดีเล็กน้อยทั้งยอมรับกับเมืองรามตรงๆว่าเธอทำลูกวัวหาย"นี่แค่ให้นั่งเฝ้ายังมีปัญหาคนอย่างเธอมันมีประโยชน์อะไรบ้างห้ะ"เมืองรามเท้าเอวต่อว่านรีนาถเสียงแข็งจนเธอสะดุ้งตกใจทำให้ทองดีรีบเอ่ยว่าจะแก้ปัญหานี้เองเพราะมันไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไรมากมายแค่วัวหายก็ไปตามกลับมาก็เท่านั้น"ลูกวัวมันก็ซนเป็นธรรมดาเดี๋ยวฉันต้อนพวกมันเข้าคอกเสร็จเดี๋ยวจะตามกลับมาเอ
"ยิ้มแย้มหน่อยสิแก้ว"ทางด้านคำแก้ววันนี้เธอดูผุดผ่องเป็นพิเศษเพราะถูกขัดศรีฉวีวรรณโดยฟองจันทร์หญิงสาวเกล้าผมใส่ชุดแต่งงานแบบล้านนาเป็นชุดที่เมืองราหาซื้อมาให้แม้ภายนอกจะดูงดงามเพียงใดแต่จิตใจของเธอตอนนี้ช่างห่อเหี่ยวเสียเหลือเกิน"แม่จันทร์จ้ะ..คือแก้ว"คำแก้วส่ายหัวเบาๆเมื่อถึงเวลาจริงๆเธอกลับทำใจไม่ได้เสียอย่างนั้น"เห็นแก่หน้าพ่อเลี้ยงท่องเอาไว้""จะ"ฟองจันทร์รับรู้ได้ถึงความรู้สึกของคำแก้วเธอเองก็ได้แต่ขอให้งานวันนี้มันผ่านพ้นไปด้วยดี"มึงดูหน้าเจ้าบ่าวเจ้าสาวดิวะ"ในขณะที่ตอนนี้หมอทำขสัญของหมู่บ้านกำลังทำขวัญให้กับบ่าวสาวอยู่ทองดีจำต้องหันมาคุยกับทศพลที่ดูสีหน้าบ่าวสาวไม่ได้มีความสุขเอาเสียเลย"กูผะอืดผะอมแทนหมอทำขวัญเลยว่ะ"ทศพลเองก็ได้แต่ส่ายหัวเบาๆ"เงียบหน่อยพวกมึง""ครับ.. พ่อเลี้ยง"เมืองรามรับรู้ถึงเหตุการณ์ทั้งหมดเพราะเขาก็เห็นอยู่ตรงหน้าแต่ก็พยายามเฉยไว้และปรามคนสนิทที่ยั่งซุบซิบกันไม่ดูเวลา"ขอให้อยู่กันอย่างร่มเย็นเป็นสุขนะ...ฝากดูแลคำแก้วแทนกูด้วย"หลังจากทำขวัญเสร็จตอนนี้ก็ได้เวลาผู้ข้อไม้ข้อมือเมืองรามในฐานะที่เปรียบเสมือนพ่อของเจ้าสาวก็เดินเข้ามารดน้ำสังข์ผูกข้อ
สามวันต่อมา09.00 น.ไร่วัฒนพรรณ"ดูแลคำแก้วให้ดีล่ะ""อืม.."วันนี้ก็ครบสามวันแล้วที่พันแสงนอนที่เรือนศังกรตามพิธีวันนี้ก็ได้ฤกษ์ย้ายมาที่เรือนของพันแสงเองเสียทีเมืองรามและฟองจันทร์เลนมาส่งคำแก้วทั้งเอ่ยปากให้พันแสงดูแลคำแก้วให้ดีเหมือนที่เขาได้ดูแลมา"ดูแลงานบ้านงานเรือนอย่าให้ขาดตกบกพร่องนะแก้ว""จะแม่จันทร์"ฟองจันทร์ลูบหัวคำแก้วเบาๆก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับเมืองราม"นี่ห้องนอน..ส่วนนั่นเดินออกไปหน่อยก็ครัวตอนเช้ากับเย็นๆสำอางมันจะเข้ามาทำครัวเอ็งอยากกินอะไรก็บอกมันแล้วกัน""จะพ่อเลี้ยง""ฉันจะออกไปดูไร่..เอ็งจะทำอะไรก็เรื่องของเอ็ง"หลังจากเมืองรามและฟองจันทร์กลับไปกันแล้วพันแสงก็พาคำแก้วเอาของมาเก็บที่ห้องนอนและพาเดินรอบบ้านก่อนที่จะออกไปดูไร่ของเขาต่อและปล่อยหญิงสาวให้อยู่คนเดียว"....."คำแก้วนั่งถอนหายใจเบาๆอยู่ในบ้านเธอดูท่าแล้วคงจะเหงากว่าอยู่ที่ไร่ศังกรอยู่มากแต่ก็พยายามทำตัวให้ชินกับมันให้เร็วที่สุด16.00 น.กระท่อมริมธารหลังจากวันนั้นเมืองรามก็ล่ามไม่ให้หญิงออกไปไหนอีกเลยและเขาก็กระทำย่ำยีเธอทุกวันจนเธอไม่มองว่าตัวเองมีค่าอีกต่อไป"ฮึกๆ..ฮือ..พี่สิงคุณพ่อหญิงไม่อยากอยู่ต
"คนที่มันทำกับฉันก่อนจะต้องถูกกระทำคืนหลายเท่า""นายทรมานฉันสารพัดยังไม่พอใจอีกหรือไง""ไม่...จนกว่าพ่อเธอจะทุรนทุรายตรงหน้าฉัน""แล้วถ้าพ่อฉันกลับมาพร้อมเมียนายล่ะ""ฉันรอวันนั้นอยู่วันที่ฉันจะได้เห็นหน้าคนทรยศมันทรมานด้วยน้ำมือของฉัน""เฮ้อ...นายทำแบบนี้ชีวิตนายจะมีความสุขหรือไง""เรื่องของฉันเธอชักจะพูดมากเกินไปแล้วน่ารำคาญ""จะไปไหน"เมืองรามต้องเอ่ยเสียงแข็งเมื่อหญิงสาวนั้นจู่ๆก็จะเดินออกไปดื้อๆทั้งที่ยังไม่พันแผลเขากลับอย่างเดิม"ก็รำคาญไม่ใช่หรือไงฉันจะได้ไปให้พ้นๆ"นรีนาถชะงักหันกลับมาประชดอีกฝ่ายด้วยสีหน้สบูดบึ้ง"อนุญาตหรือยัง""จะอะไรกับฉันนักหนา""มานั่งเฝ้าฉันเธอเป็นต้นเหตุทำให้ฉันต้องเจ็บเธอต้องมาดูแล"สิ้นคำพูดนรีนาถก็ต้องหันกลับมาดูแลชายหนุ่มเพราะมันก็จริงอย่างที่เขาพูดเขาเจ็บเพราะช่วยเธอสองวันต่อมาตั้งแต่วันที่กระท่อมถูกเผาไปนรีนาถก็ดูแลคนเจ็บอย่างเมืองรามแทบทุกกระเบียดนิ้วและดูท่าคนเจ็บนั้นจะติดพยาบาลสาวไปเสียแล้วอีกอย่างเมื่อนรีนาถได้มีฟองจันทร์คอยคุยด้วยจึงรู้สึกว่าชีวิตมีชีวิตชีวาขึ้นเยอะได้ทำอะไรที่ไม่เคยได้ทำแอบหวนย้อนคิดถึงวันที่อยากจบชีวิตตนเองวันนั้นก็หดหู
"ถามหน่อยเถอะบ้านเธอมีคนตั้งเยอะนั่นเรียกเหงาเหรอ"เมืองรามไม่ยักจะเชื่อว่าหญิงสาวจะเหงาเมื่อตอยอยู่ที่บ้านของเธอเอง"นายไม่รู้อะไรที่เรือนฉันมีคนเยอะก็จริงแต่ไม่มีใครเป็นเพื่อนฉันได้สักคนต่างคนก็มีหน้าที่ของตัวเองและไท่กล้าที่จะมีใครคุยกับฉันเพราะเห็นว่าเป็นเจ้านายมีพี่สิงห์ที่ฉันจะพอคุยได้บ้างแต่เค้าก็ต้องดูแลรับผิดชอบอะไรหลายๆอย่างจนไม่มีเวลาคุยกับฉันเท่าไร..""เพื่อนเธอล่ะไม่มีหรือไง""ตั้งแต่เด็กๆพ่อฉันไม่ให้ไปเรียนหนังสือให้เพียงแค่ครูมาสอนที่บ้านฉันเลยไม่มีเพื่อนมีแค่นาราลูกแม่ค้าขายขนมหวานหมู่บ้านใกล้ๆแต่ก็เจอกันไม่บ่อยเพราะนาราก็ต้องช่วยแม่ขายของ""พูดจบแล้วใช่ไหม..ฉันจะได้นอนพูดมากน่ารำคาญ"เมืองรามพอจะเข้าใจความรู้สึกของนรีนาถอยู่พอสมควรแต่ครั้นจะให้เขาลอบเธอเขาคงปลอบไม่เป็นจึงทำตัวให้เธอโมโหใส่จะดีกส่าเผื่อว่าเธอจะได้ไม่ต้องสนใจเรื่องที่มันทำให้หดหู่อีก"นายนี่..ถ้ารำคาญที่ฉันพูดทีหลังก็อย่ามาถาม"นรีนาถแทบจะฉีกเนื้อคนที่นอนตะแคงหันหลังให้เธอเป็นชิ้นๆที่ทำเหมือนไม่สนใจความรู้สึกเธอเลยแม้แต่นิดเดียวหลายวันต่อมานรีนาถดูแลเมืองรามจนแผลหายดีเหลือเพียงแค่รอยแผลเป็นเท่านั้นแ
"ก็น่าจะใจดี..."นรีนาถทำหน้าครุ่นคิดและพยักหน้าเบาๆ"อย่าได้ใจไปล่ะ"เมืองรามเตือนทั้งหญิงสาวและคำพูดของเขาก็เปรียบเสมือนการเตือนใจตัวเองด้วย"นาย..""อะไรอีก""ฉ..ฉันขอให้เรื่องความแค้นของนายจบลงที่ฉันได้ไหมปล่อยพ่อฉันกับเมียนายไปเถอะ"นรีนาถจ้องหน้าชายหนุ่มด้วยท่าทีที่แอบลุ้นว่าสิ่งที่เธอร้องขอกับเขาจะได้ผลหรือไม่"ฉันบอกแล้วไงว่าอย่าได้ใจไป""ฉันเจ็บ"เมืองรามฉุนขึ้นมาทันทีเมื่อหญิงสาวพูดจบมือหนาบีบแขนเธออย่างแรงจนนรีนาถสีหน้าเหยเก"อย่าลืมว่าเธอมาอยู่ที่นี่เพราะอะไรเป้าหมายของฉันไม่ใช่เธอทุกวันนี้ฉันพูดดีกับเธอก็ดีนักหนาแล้ว"เมืองรามผลักหญิงสาวนอนลงมือหนาจับข้อมือทั้งสองของหญิงสาวชูขึ้น"..ฉันเคยเชื่อคำของคำแก้วว่าสักวันนายจะใจดีกับฉันแต่เปล่าเลย"นรีนาถมีสีหน้าผิดหวังอยู่มากเธอคิดว่าพักหลังที่เมืองรามพูดดีกับเธอนั่นเหมือนเป็นสัญญาณที่ดีเสียอีก"มันเป็นเพราะเธอทำตัวเธอเอง..ถ้าไม่พูดอะไรที่ทำให้ฉันโมโหขึ้นมาเธอก็จะไม่เจ็บตัวหรอก""ฉันอยากรู้นักถ้าแก้แค้นสำเร็จมันจะได้อะไรขึ้นมามีแต่ต่างคนต่างเจ็บปวดเปล่าๆ""หยุดพูด"เมืองรามเอ่ยเสียงแข็งเขาไม่ได้อยากได้ยินคำพวกนี้จากปากหญิงสาวเพร
"ขอบคุณมากๆเลยนะ"หญิงสาวเลือกที่จะหยิบหนังสือออกมาชื่นชมนี่คือสิ่งที่เธอถูกใจกว่าเสื้อผ้าสวยๆหลายเท่า"ต่อจากนี้เธอขาดเหลือหรืออยากได้อะไรก็บอกฉันแล้วกัน""ทำไมใจดีจังล่ะ"นรีนาถจ้องตาชายหนุ่มด้วยสีหน้าสงสัย"ก็บอกแล้วไงช่วงนี้เธอทำตัวเป็นเด็กดีกับฉัน..เธอก็จะได้อะไรดีๆตอบแทน"เมืองรามหลบสายตาหญิงสาวก่อนที่เขาจะเผลอยิ้มออกมา".......""พรุ่งนี้อยากออกไปไหนไหม"เมืองรามหาเรื่องคุยกับหญิงสาวในขณะที่เธอนั้นสนใจหนังสืออยู่เขาไม่รู้ว่าคิดถูกหรือคิดผิดที่ซื้อหนังสือมาให้เธอเพราะดูท่ามันจะเป็นจุดสนใจสำหรับเธอมากกว่าเขาไปเสียแล้ว"อืม..ไม่"นรีนาถส่ายหัวในขณะที่เธอจับหนังสือเปิดดูใกล้ๆกับตะเกียง"วัวที่คอกพึ่งตกลูกเธออยากไปดูไหม""จริงเหรอ..ไปสิ"เมื่อได้ยินเช่นนั้นหญิงสาวจึงละสายตาจากหนังสือได้"รีบนอนเดี๋ยวพรุ่งนี้จะพาไปแต่เช้า""อืม"เมืองรามเห็นท่าทีหญิงสาวดูจะตื่นเต้นขนาดนั้นจึงรีบหยิบหนังสืออกจากมือของเธอและรวบกอดร่างบางให้หลับลงในอ้อมอกของเขาเช้าวันต่อมา"เจ้าวัวน้อย..ลืมตามาดูโลกสองวันแล้วรู้สึกดีไหม""....."นรีนาถรบให้เมืองรามพาเธอมาหาลูกวัวแต่้้เช้าตามสัญญาเมื่อมาถึงก็เอาแต่คุยกั
"......"เมืองรามได้นิ่งนิ่งงันคิดไตร่ตรองในเรื่องที่ฟองจันทร์พูดแล้วจึงรีบกลับไปในห้องนอนของเขาทันที"ยังไม่เลิกร้องอีกหรือไง""ปล่อย...""ฉันปล่อยเธอไปไม่ได้.."เมืองรามเข้ามาสวมกอดคนที่กำลังนั่งกอดเข่าร้องให้อย่างไม่ยอมหยุดแม้เวลาจะผ่านมาร่วมหลายชั่วโมงแล้วก็ตามเขาเอ่ยปากพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมาทำเอานรีนาถแปลกใจกับคำพูดของเขาอยู่มากว่าเหตุผลอะไรกันที่ทำให้เขาพูดว่าปล่อยเธอไปไม่ได้"......""ความรู้สึกของฉันมันเปลี่ยนไปพักใหญ่แล้ว"เมื่อนรีนาถมีทีท่าว่าจะฟังเขาชายหนุ่มจึงเริ่มพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมา"ความรู้สึกอะไร""ในใจฉันมันต้องการเธอ...มันบอกว่ายอมเสียเธอไปไม่ได้""นายจะเล่นลิ้นอะไรอีก"ตอนนี้นรีนาถไม่รู้ว่าเขาจะมาไม้ไหนกับเธออีกครั้งก่อนก็เล่นลูกบังคับครั้งนี้ก็มาเล่นลูกขอร้องกับเธออีกเพื่อให้เธอไม่อยู่ห่างเขา"เธอดูไม่ออกจริงๆหรือไงว่าฉันเปลี่ยนไป...หรือทำเป็นไม่รับรู้กันแน่"เมืองรามจ้องหน้านรีนาถด้วยสายตาจริงจัง"......."หญิงสาวก้มหน้าลงเล็กน้อยเธอเคยแอบคิดเหมือนกันว่าเขามีใจให้เธอแบบที่เธอมีให้เขาแต่เมื่อคิดแล้วมันก็ชอบมีความคิดแย้งมาว่าเขาทำไปทั้งหมดเพราะอยากแก้แค้นเธอจึงข