หลังจากกลับขึ้นไปที่ห้องอาบน้ำแต่งตัวเตรียมจะออกไปข้างนอกเรียบร้อยแล้วทรายแก้วจึงเดินเข้ามาหาเด็ดเดี่ยวเพื่อแจ้งให้เขาทราบว่าเธอนั้นจะออกไปข้างนอกภาวนาในใจว่าขอให้เขาอนุญาตเธอโดยดีไม่อย่างนั้นคงต้องหนักใจอีกแน่
“คุณเดี่ยวคะ”
ดวงตาคมของเด็ดเดี่ยวมองทรายแก้วด้วยความสงสัยเพราะเห็นเธอแต่งตัวทั้งยังมีกระเป๋าสะพายข้างไม่รู้ว่าเธอจะออกไปไหนกันขออนุญาตเจ้านายของเขาหรือยังเรื่องนี้เขาก็ยังไม่ทราบ
“ครับ”
“พอดีว่าเพื่อนทรายนัดให้ไปหาน่ะค่ะ...ขอออกไปแปปเดียวได้หรือเปล่าคะ”
“อืม...ถ้าเรื่องออกไปจากที่นี่..คุณทรายขออนุญาตคุณเสือแล้วหรือยังครับ”
“ไปแปปเดียวเองต้องโทรขอด้วยเหรอคะ...อีกอย่างทรายก็ไม่ร็จะติดต่อคุณเสือยังไง”
“ไม่อย่างนั้นพวกผมอาจจะถูกคาดโทษได้”
เด็ดเดี่ยวตอบตามตรงเขาไม่ได้อยากจะห้ามหญิงสาวแต่เพราะโทษที่เขาละเลยหน้าที่มันน่ากลัวจึงอนุญาตให้ทรายแก้วออกไปข้างนอกไม่ได้หากเธอยังไม่ได้แจ้งให้เจ้านายของเขาทราบ
“ฉันเข้าใจค่ะ”
ใบหน้าหวานห่อเหี่ยวขึ้นมาจนชายหนุ่มตรงหน้าจับสังเกตได้แต่เขาก็ช่วยอะไรเธอไม่ได้อยู่ดีนอกจากรีบต่อสายหาชาติเสือให้ได้คุยกับหญิงสาวเอาเอง
“นายครับคุณทรายมีเรื่องจะคุยด้วยครับ..ครับ..ได้ครับ”
เด็ดเดี่ยวรีบยื่นมือถือให้ทรายแก้วเมื่อชาติเสือขอคุยกับหญิงสาวด้วยตัวเอง
“คุณเสือคะคือเพื่อนฉันโทรมานัดให้ไปหาข้างนอกฉันขอออกไปสักชั่วโมงได้หรือเปล่าคะ”
“ให้เพื่อนเธอมาหาที่บ้าน...ฉันไม่ให้เธอออกไปไหนถ้าไม่มีฉันไปด้วย”
“ก..ก็ได้ค่ะ..แค่นี้นะคะ”
เมื่อปลายสายเอ่ยกลับมาเช่นนั้นทรายแก้วจึงต้องทำตามแต่โดยดีคิดในใจด้วยความหดหู่ว่าตอนนี้ไม่ต่างอะไรจากนักโทษที่ถูกคุมขังเพียงแค่ได้อยู่ดีกินดีบ้างเท่านั้น
“ฉันขับรถเข้าหน้าปากซอยมาแล้วนะแก..อืมๆเจอกัน”
น้ำรินยกมือถือโทรหาทรายแก้วขณะที่เธอกำลังขับรถเลี้ยวเข้าซอยที่ทรายแก้วแชร์โลเคชั่นในจีพีเอสให้
น้ำรินหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกับทรายแก้วเธอเป็นหญิงสาวหน้าตาสวยคมผิวขาวอมชมพูใบหน้ารูปไข่ทำผมสีน้ำตาลลอนฟาร่ายาวถึงกลางหลังคิ้วดกดำได้รูปดวงตาคมกลมโตขนตางอนยาวจมูกนิดริมฝีปากหนาน่าจูบสูง160หนัก45หุ่นนาฬิกาทรายอกเป็นอกเอวเป็นเอวเป็นผู้หญิงที่ชอบแต่งตัวเซ็กซี่มีความมั่นใจค่อนข้างสูงเป็นลูกเจ้าของร้านดอกไม้แต่เธอรักที่จะทำงานเป็นพยาบาลจึงไม่ค่อยได้ช่วยกิจการที่บ้านเท่าไรนัก
น้ำรินและทรายแก้วสนิทกันตั้งแต่เด็กๆทั้งยังเรียนที่เดียวกันจบมาก็ทำงานด้วยกันเธอลาพักร้อนเพื่อไปเยี่ยมญาติต่างจังหวัดไม่กี่วันกลับมาก็รู้ว่าเพื่อนพึ่งจะลาออกกะทันหันก็ตกใจเป็นธรรมดาจึงต้องรีบมาหาเพื่อพูดคุยให้กระจ่างว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นถึงได้ทำให้คนที่รักงานพยาบาลอย่างทรายแก้วลาออกโดยที่ไม่มีสัญญาณล่วงหน้าเลย
ร่างบางในชุดเกาะอกสีดำกับกางเกงยีนส์ขายาวสวมรองเท้าส้นสูงเดินสะพายกระเป๋าทรงพอชสีขาวลงมาจากรถด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างตื่นกลัวเล็กน้อยเพราะเมื่อรถเก๋งสีขาวคันเล็กของเธอมาจอดที่หน้าบ้านหลังใหญ่ได้ก็มีเหล่าชายชุดดำเดินกรูมายืนเรียงหน้ากระดานต้อนรับเธออย่างกับเธอกำลังจะเข้าบ้านมาเฟียอย่างไงอย่างงั้น
“นี่มันซุ้มมือปืนหรือเปล่าเนี่ย”
หญิงสาวสบถเบาๆก่อนจะทำใจดีสู้เสือยกยิ้มให้กับเหล่าชายชุดดำตรงหน้า
“สวัสดีค่ะ”
“คุณทรายรออยู่ด้านในครับคุณน้ำริน”
“ค่ะ”
ชาตรีเดินนำหน้าน้ำรินเข้าไปในบ้านแอบยกยิ้มมุมปากเล็กน้อยด้วยคิดในใจเพลินๆตามประสาคนช่างสังเกตว่าน้ำรินกับทรายแก้วช่างบุคลิกแตกต่างกันเสียเหลือเกิน
หลังจากชาตรีมาส่งน้ำรินที่ห้องรับแขกของบ้านเรียบร้อยแล้วก็ปล่อยให้สองสาวคุยกันสองคนส่วนพวกเขาก็ออกไปดูแลอยู่ห่างๆตามคำสั่งของชาติเสือ
“จู่ๆแกก็ลาออกกะทันหัน.. มีอะไรหรือเปล่าทราย...แถมยังเปลี่ยนมาอยู่ที่นี่แล้วก็มีคนคอยดูแลอีก”
น้ำรินเห็นว่าลับสายตาเหล่าชายชุดดำไปได้ก็รีบเอ่ยถามเพื่อนรักด้วยท่าทีตื่นตระหนกยิ่งเห็นเพื่อนถูกดูแลดุจดั่งลูกสาวมาเฟียปานนี้เธอยิ่งรู้สึกว่ามันยิ่งแปลก
“เรื่องนี้ฉันจะเล่าให้แกฟังเพียงคนเดียวแล้วก็เก็บความลับนี้ไว้ให้มิดเลยนะอย่าให้ตีตี้รู้เด็ดขาด”
“อืม.. สัญญา”
ทรายแก้วได้รับคำสัญญาจากน้ำรินได้เธอก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้น้ำรินฟังเพราะไม่อยากเก็บเรื่องอึดอัดใจนี้ไว้คนเดียวเหมือนกันส่วนเรื่องที่ต้องย้ำน้ำรินให้เก็บเรื่องนี้กับตีตี้หรือเตชินเพื่อนชายใจสาวที่สนิทของพวกเธอก็เพราะรู้ว่าหากตีตี้รู้เท่ากับความลับของเธอก็จะไม่เป็นความลับอีกต่อไปด้วยตีตี้เป็นคนที่ค่อนข้างโผงผางตรงไปตรงมามากเก็บความลับอะไรไม่ค่อยอยู่
“เฮ้ย...เรื่องจริงหรือนิยายเนี่ย...ฉันสงสารแกจัง..ดูซิจะออกไปไหนก็ไม่ได้ต้องเป็นนกน้อยในกรงทองแบบนี้อีกนานเท่าไรล่ะเนี่ย”
น้ำรินบ่นอุกหน้าเสียเมื่อรู้ความจริงทุกอย่างว่าที่ทรายแก้วต้องมาเป็นคนของชาติเสือก็เพราะปัญหาที่พี่ชายเพื่อนเธอนั้นก่อขึ้นกี่ครั้งนับไม่ถ้วนที่เธอต้องมาได้ยินปัญหาที่ทรายแก้วต้องคอยตามแก้เพราะเสธฐา
“ไม่รู้เหมือนกัน”
“แล้วคุณเสืออะไรนั่นเค้าใจดีกับแกหรือเปล่า”
“ก็..ดี”
ด้วยความที่ไม่อยากให้เพื่อนเป็นห่วงทรายแก้วจึงพยักหน้าตอบเสียงอ่อนใจจริงแล้วอยากจะบอกว่าชายหนุ่มนั้นดีด้วยในตอนเธอทำอะไรถูกใจเท่านั้น
“ค่อยโล่งอก...แล้วฉันมาหาแกได้ตลอดหรือเปล่า”
“ฉันยังไม่ได้ถามคุณเสือเลย...ฉันจะพยายามขอเค้าให้ได้เพราะอยู่แบบนี้ก็เหงาเหมือนกัน”
“ขอให้ได้ล่ะเราจะได้เจอกันบ่อยๆ”
น้ำรินอยากจะมาที่นี่ได้บ่อยๆหากช่วยให้เพื่อนออกจากกรงทองนี้ไปไม่ได้ให้เธอได้คอยมาพูดคุยคลายเหงาคลายเศร้าก็ยังดี
หลังจากคุยถามไถ่เรื่องที่น่าอึดอัดใจกันมาพอสมควรแล้วทรายแก้วกับน้ำรินก็ชวนกันทำอาหารกลางวันหาเรื่องผ่อนคลายคุยกันตามประสาเพื่อนสาว
“ครับคุณเสือ...เธอกำลังทำอาหารกับเพื่อนอยู่ครับ.. ครับ.. ผมจะคอยดูไม่ห่างครับ”เด็ดเดี่ยวยกหูรายงานชาติเสือเป็นระยะเพราะถูกสั่งเอาไว้“เดี่ยว..ท่าทางนายจะหวงคุณทรายมากกว่าผู้หญิงคนอื่นนายว่าหรือเปล่า”ชาตรีเห็นเด็ดเดี่ยววางสายได้ก็รีบพูดคุยเรื่องที่ตนเองคิด“อาจจะยังไม่ไว้ใจหรือเปล่า”“นายคิดงั้น?”“อืม..”แม้นในใจเด็ดเดี่ยวจะแอบคิดเช่นชาตรีแต่เขาก็มีอีกใจที่คิดว่าอาจจะเป็นไปได้ที่นายตนน่าจะยังไม่ไว้ใจหญิงสาวเพราะพึ่งอยู่ด้วยกันได้ไม่นานหลังจากน้ำรินกลับไปตั้งแต่ช่วงเย็นทรายแก้วก็นั่งเหงาเช่นเดิมจนตกดึกร่างบางในชุดนอนผ้าลินินสายเดี่ยวสีขาวยาวคลุมเข่าเดินออกมานอกระเบียงห้องนอนดูดาวยามค่ำคืนที่ฟ้าเปิดดวงตากลมโตมองทอดยาวไปไกลสองแขนเล็กกอดอกแน่นครุ่นคิดถึงวันข้างหน้าว่าชีวิตของเธอจะเป็นเช่นไรคำถามนี้วนเวียนอยู่ในหัวทุกครั้งเมื่อต้องอยู่เงียบๆคนเดียวแต่ก็ยังหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้สักครั้ง“เฮ้อ..!”ริมฝีปากบางเผยอพ่นลมหายใจเบาๆก่อนจะเดินกลับเข้ามาในห้องนอนแกร๊กมือน้อยยกยื่นปิดสวิตซ์ไฟให้ในห้องเหลือเพียงแค่แสงสลัวจากโคมไฟหัวเตียงเท่านั้นก่อนจะหย่อนก้นลงเตียงเอนตัวลงนอนฟุบกับหมอนนุ่มร่าง
“ค่ะ”ทรายแก้วละมือจากช้อนส้อมในจานปลานึ่งเธอเริ่มตักข้าวใส่จานตัวเองตามที่สุรีพรสั่งแอบอมยิ้มเมื่อเห็นอีกมุมของสุรีพรและชาติเสือที่มีเหมือนกันเรื่องที่ไม่ชอบให้ใครมาอดอาหารในเวลาที่ต้องทานสุรีพรเลือกที่จะตักน้ำซุปถ้วยไก่ตุ๋นทานก่อนเพราะรู้สึกว่ากลิ่นช่างหอมยั่วยวนเตะจมูกเสียเหลือเกิน“อืม..”เธอพยักหน้าเล็กน้อยเมื่อน้ำซุปรสกลมกล่อมสัมผัสลิ้นนับว่าฝีมือของลูกสะใภ้เธอดีไม่ใช่น้อยสุรีพรชื่นชมฝีมือหญิงสาวอยู่ในใจไม่ปริปากพูดอะไรออกมาแต่การที่หญิงวัยกลางคนยื่นมือตักอาหารทานไม่พูดไม่จาก็ทำให้ทรายแก้วรู้แล้วว่าแม่สามีนั้นถูกใจฝีมือเธอแค่ไหน“ของหวานค่ะคุณแม่”หลังจากทานขอคาวจนเรียบร้อยแล้วตอนนี้ก็ถึงเวลาของของหวานวันนี้ทรายแก้วเลือกที่จะเสริฟมะยงชิดลอยแก้วให้กับสุรีพรเพราะเธอแช่มะยงชิดกับน้ำเชื่อมไว้ตั้งแต่เมื่อเย็นวานหากสุรีพรได้ทานคงสดชื่นไม่น้อยคนเป็นแม่สามีอย่างสุรีพรนั่งทานของที่ลูกสะใภ้เสริฟเงียบๆเพราะเธอถูกใจฝีมือของทรายแก้วทั้งของคาวและของหวานเลยไม่มีข้อที่จะหาเรื่องตำหนิได้เลยแม้แต่ข้อเดียวช่วงหัวค่ำก่อนที่ทรายแก้วจะเตรียมตัวเข้าห้องนอนเธอก็ไม่ลืมที่จะเดินเลยไปถามไถ่แม่สามีเผื่อ
“คุณแม่จะทำอะไรคะเดี๋ยวทรายทำให้ค่ะ”“ไม่ต้องฉันทำเองได้”สุรีพรไม่ยอมปล่อยมือง่ายๆเพราะแค่ยกหม้อลงจากเตาแค่นี้ไม่ใช่เรื่องที่เธอทำไม่ได้“ให้ทรายทำนะคะมันร้อนค่ะ”ฟึ่บ..” อ๊ายย.. “เมื่อยื้อแย่งกันไปมาน้ำต้มร้อนๆในหม้อก็กระฉอกลวกมือทรายแก้วจนเธอร้องลั่นสุรีพรจึงจำต้องวางหม้อลงบนเตาแล้วรีบดึงมือทรายแก้วมาล้างน้ำ“ก็บอกแล้วไงว่าไม่ต้องมายุ่งยัยเด็กบ้าเอ้ย”หญิงวัยกลางคนบ่นอุกเมื่อเห็นว่ามือของทรายแก้วเห่อแดงจนเห็นได้ชัดเธอรีบใช้ทิชชู่ซับมือน้อยที่เปียกก่อนจะจูงหญิงสาวออกมาทายาด้านนอกทรายแก้วเห็นอาการเป็นห่วงของแม่สามีก็มีสีหน้าแปลกใจไม่น้อยก่อนจะอมยิ้มออกมาด้วยพฤติกรรมของสุรีพรที่ทีท่าทีห่วงใยเธอตอนนี้เหมือนกับแม่ของเธอไม่มีผิด“ไม่แสบร้อนหรือไงยิ้มอยู่ได้”“คุณแม่ดุทรายเหมือนที่แม่ทรายชอบพูดเปี๊ยบเลยค่ะ”“ใครจะไม่ดุอยู่ดีๆก็มาหาเรื่องเจ็บตัว...เดี๋ยวตาเสือก็ว่าฉันทำร้ายเมียตัวเองอีก”“ไม่หรอกค่ะคุณแม่...ทรายผิดเองที่ไม่ระวัง”ทรายแก้วยังไม่ยอมหุบยิ้มง่ายๆขณะที่แม่สามีกำลังทายาให้เธอรู้สึกอบอุ่นหัวใจจนลืมความเจ็บไปเลยก็ว่าได้ในเช้าของวันต่อมาเป็นอีกวันที่แม้ทรายแก้วจะยังไม่หายเจ็บมือ
สุรีพรเดินขึ้นมาหาทรายแก้วที่ห้องนอนในช่วงบ่ายเพราะเห็นว่าตั้งแต่ทรายแก้วกลับมาก็ไม่ลงมาด้านล่างอีกเลย“นอนยังไงไม่ล็อคประตูแม่คนนี้”สุรีพรบิดลูกบิดประตูห้องนอนของทรายแก้วเห็นว่าไม่ได้ล็อคจึงถือวิสาสะเดินเข้าไปด้านในทั้งส่ายหัวบ่นอุกเมื่อเห็นว่าเธอไม่รอบคอบเอาเสียเลย“ทรายแก้ว...ทรายแก้ว... ฉันว่าแล้วเชียว”สุรีพรเดินเข้ามาเรียกลูกสะใถ้ที่นอนฟุบอยู่กับเตียงไม่ยอมขยับก่อนจะยื่นมือไปแตะหน้าผากพบว่าตัวหญิงสาวร้อนจี๋เป็นเช่นที่เธอคิดไม่มีผิดว่าทรายแก้วตากฝนปล่อยให้ตัวเปียกนานขนาดนั้นจะต้องไข้ขึ้นเห็นท่าไม่ดีสุรีพรจึงหาน้ำหาผ้ามาเช็ดตัวให้ทรายแก้วก่อนจะโทรเรียกหมอมาดูอการของลูกสะใภ้ด้วยเห็นว่าไข้ขึ้นสูงหากรอให้ทรายแก้วตื่นมาทานยาเองอาจจะชักได้“แม่จ๋า...หนูอยากกลับบ้าน”“กลับบ้าน?”สุรีพรชะงักเล็กน้อยขณะเช็ดหน้าเช็ดตาทรายแก้วไม่เข้าใจในคำที่หญิงสาวเพ้อเท่าไรในเมื่อเห็นว่าเธออยู่ที่นี่ก็ดูจะมีความสุขดีแล้วทำไมถึงอยากกลับบ้านก๊อกๆๆ“หมอมาแล้วครับคุณท่าน”“อ่อ..ให้เข้ามาเลย”สุรีพรไม่ทันที่จะหาความกระจ่างในความสงสัยได้เธอก็ต้องละทิ้งความสงสัยและลุกให้หมอเข้ามาดูอาการทรายแก้วก่อนหลังจากที
“เอาไว้ที่เรือนอื่นก็ไม่ได้เหรอคะ”“ไม่ได้...หน้าที่ของเธอคือสนใจเพียงฉันไม่ใช่ไปสนใจหมา”“แต่ทรายอยากดูแลมันนี่คะมันน่าสงสารจะตาย”“ฉันไม่ให้เลี้ยง..ฉันไม่ชอบหมา”“ใจร้ายแม้กระทั่งกับหมา”ทรายแก้วผุดลุกหันหลังบุ้ยปากบ่นอู้อี้ไม่ค่อยพอใจเท่าไรที่ชายหนุ่มนั้นทำท่าทีไม่สนใจเรื่องที่เธอร้องขออีกทั้งยังหันหน้ามาคุยกับเธอดีๆอีกด้วย“ทรายแก้ว”ใบหน้าคมส่ายไปมาจ้องมองร่างบางที่เดินไม่พอใจออกนอกห้องไปจะให้เขาตามใจเธอเรื่องนี้เห็นจะเป็นไปได้ยากเพราะมีปมในใจเรื่องของลูกหมาด้วยเด็กๆอยากจะเล่นหมาบ้านของยายตนแต่กลับถูกไล่กัดหลังจากนั้นจึงไม่ชอบลูกหมาอีกเลยจนถึงตอนนี้เจอที่ไหนเป็นต้องเดินเลี่ยงทุกทีโต๊ะอาหารเย็นวันนี้ปกคลุมไปด้วยความเงียบเพราะทรายแก้วยังคงครุ่นคิดหาวิธีจะทำอย่างไรให้ขาติเสือยอมให้เธอเลี้ยงลูกสุนัขส่วนชาติเสือเองก็ยังไม่อยากหาเรื่องคุยกับหญิงสาวเพราะกลัวว่าเธอจะทำหน้าออดอ้อนขอเลี้ยงเจ้าลูกหมาที่เขาไม่ชอบขึ้นมาอีกช่วงเวลาของอาหารคาวดำเนินไปพักใหญ่เมื่อเรียบร้อยแล้วทรายแก้วจึงรีบเดินเข้าไปหยิบกล่องฟักทองเชื่อมในตู้เย็นออกมาให้ชาติเสือเธอ“ของหวานค่ะ”“อืม..”ชาติเสือเห็นกล่องฟักทองเ
“อ่า..อ้าสส..”คนตัวโตส่งเสียงคำรามลั่นขณะโหมกระแทกสะโพกแกร่งถี่รัววันนี้เขาจะทำศึกสวาทให้หนำใจจากที่ห่างตุ๊กตายางตัวโปรดไปหลายวัน“อ้ะ.. อ้ะ.. อื้ออ.. “ร่างบางนอนหัวสั่นหัวครอนครางเสียงอ่อนเสียงหวานมือเรียวยกจิกปัดป่ายไม่อยู่สุขเพราะในตัวตอนนี้มีแต่ความเสียวซ่านวาบหวามครอบงำเมื่อหนำใจกับท่วงท่าพื้นฐานแล้วคนตัวโตก็รวบอุ้มร่างบางให้กอดคอซุกหน้าแนบอกจัดการกระหน่ำซอยสะโพกใส่หญิงสาวด้วยลีลาเร่าร้อนไม่ผ่อนจนเกิดเสียงเนื้อกระทบกันสนั่นห้อง“อื้อ..อืมม..”และแล้วหญิงสาวก็ต้องซุกใบหน้ากับอกแกร่งกลั้นเสียงครางหวานอีกเช่นเคยด้วยกลัวจะดังจนคนอื่นที่เฝ้าอยู่นอกบ้านได้ยินคนตัวโตกระหน่ำซอยร่างบางพักใหญ่จนเธอเริ่มเกาะเกี่ยวรั้งคอขอเขาไม่ไหวจึงวางเธอลงที่โซฟานุ่มขึ้นคร่อมขย่มร่างบางจนหัวสั่นหัวครอนอีกครั้งบทสวาทวาบหวามของทั้งคู่กินเวลาไปเกือบค่อนแจ้งด้วยชาติเสืออยากชดเชยเวลาที่เขาห่างเธอไปหลายวันคืนนี้เขาจึงกระหน่ำบทรักหนำใจให้หายคิดถึงร่างบางอันพอดีไม้พอดีมือนี้ในคืนเดียวช่วงสายของวันต่อมาชาติเสือยังคงนอนขลุกเปลือยเปล่าล่อนจ้อนอดก่ายร่างบางไม่ยอมปล่อยทรายแก้วเริ่มขยับตัวตื่นเพราะแสงอาทิตย์เริ่มส
ช่วงเที่ยงของวันต่อมาวันนี้น้ำรินนัดเจอเตชินที่คาเฟ่แห่งหนึ่งย่านตัวเมืองของเชียงใหม่เพื่อเตรียมหาซื้อของขวัญเซอร์ไพรซ์วันเกิดของเพื่อนรักอย่างทรายแก้ว“ฉันไม่รู้จะหาของขวัญอะไรให้ทรายมันดีไม่เห็นมันจะชอบอะไรสักอย่างเลย”เตชินบ่นขณะตักก้อนเค้กฝอยทองเข้าปากเพราะไม่รู้เลยจริงๆว่าทรายแก้วชอบอะไรเป็นพิเศษเพราะเห็นว่าเพื่อนเธอไม่เคยซื้อของอะไรใหม่ๆให้กับตัวเองเลยหรือตีตี้ร่างเป็นชายรูปหล่อแต่ใจเป็นหญิงเขาเป็นเพื่อนกับสองสาวตั้งแต่สมัยมัธยมแม้นจะแยกกันเรียนในช่วงมหาลัยแต่ความสนิทก็ไม่เคยลดน้อยลงไปตอนนี้เตชินทำงานเป็นHrบริษัทแห่งหนึ่งในกรุงเทพที่มาที่นี่ได้หลายวันก็เพราะใช้วันพักร้อน“ให้อะไรมันก็ชอบทั้งนั้นแหละน่า”น้ำรินในชุดเกาะอกสีดำโชว์เนินอกอิ่มกับกระโปรงยีนส์สั้นจู๋นั่งไขว่ห้างยกแก้วจิบกาแฟก่อนจะปัดป่ายมือไปมาต่อหน้าเตชินเพราะคิดว่าของอะไรที่เพื่อนๆให้ทรายแก้วน่าจะชอบทั้งนั้นไม่อยากให้เตชินคิดอะไรมาก“เจอหน้าฉันจะเฉ่งซะทีมีผัวก็ไม่เคยจะบอกเพื่อน”เตชินบ่นอุกเธอยังคงเคืองใจที่ทรายแก้วมีสามีเป็นตัวเป็นตนจนจดทะเบียนแล้วแต่ไม่ยักจะยอมบอกเขา“มันกะทันหันแหละฉันก็พึ่งรู้เหมือนกัน”น้ำรินที
“อืม..หล่อออ..น้าเนี่ยย”ร่างของน้ำรินซุกซบอยู่ที่อกของนักรบเธอเงยหน้ามองคนที่เข้ามาช่วยพยุงด้วยสายตาปรือเยิ้มก่อนจะฉีกยิ้มชื่นชมใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาเสียงงัวเงีย“คุณ..มีสติอยู่หรือเปล่าครับ”นักรบได้กลิ่นแอลกอฮอลจากลมหายใจหญิงสาวหน้าสวยก็พอจะรู้ว่าเธอน่าจะดื่มไปเยอะพอสมควรหากปล่อยให้เธออยู่คนเดียวตรงนี้มีหวังถูกใครหิ้วไปง่ายๆแน่“.. รถ.. พางงงปายยส่งหน่อย”“บ้านคุณอยู่ที่ไหนครับ”นักรบเบือนสายตาหนีคนในอ้อมอกเพราะสายเดี่ยวแหวกอกชิ้นน้อยของเธอแทบจะปิดอะไรไม่มิด“อืม.. ปาย.. ก่อนเดี๋ยวบอก”“ครับๆ”ชายหนุ่มพยุงหญิงสาวมาขึ้นรถของตนก่อนจะขับออกจากผับไปด้วยความเร็วน้ำรินขึ้นรถได้ก็นอนฟุบไม่พูดไม่จาร่างอวบอั๋นขยับเขยื้อนแต่ละทีทำใจชายหนุ่มเต้นไม่เป็นส่ำด้วยชุดที่เธอใส่น้อยชิ้นแถมหุ่นของเธอก็ยั่วยวนผู้ชายเต็มตัวอย่างเขาได้เป็นอย่างดีรถคันหรูแล่นมาจนใกล้ถึงสี่แยกใหญ่นักรบต้องชะลอรถถามหญิงสาวที่เอาแต่นอนแน่นิ่งไม่ยอมบอกทาง“คุณ.. บ้านคุณอยู่ที่ไหนครับ”“บ้าน.!”สาวเจ้าลืมตาตื่นตะโกนจนคนขับที่นั่งข้างๆถึงกับสะดุ้ง“ค..ครับบ้านคุณอยู่ที่ไหน”“หมู่บ้านxxxบ้านเลขที่45/2อำเภอ..บลาๆๆ”“ไหวหรือเปล