“ครับคุณเสือ...เธอกำลังทำอาหารกับเพื่อนอยู่ครับ.. ครับ.. ผมจะคอยดูไม่ห่างครับ”
เด็ดเดี่ยวยกหูรายงานชาติเสือเป็นระยะเพราะถูกสั่งเอาไว้
“เดี่ยว..ท่าทางนายจะหวงคุณทรายมากกว่าผู้หญิงคนอื่นนายว่าหรือเปล่า”
ชาตรีเห็นเด็ดเดี่ยววางสายได้ก็รีบพูดคุยเรื่องที่ตนเองคิด
“อาจจะยังไม่ไว้ใจหรือเปล่า”
“นายคิดงั้น?”
“อืม..”
แม้นในใจเด็ดเดี่ยวจะแอบคิดเช่นชาตรีแต่เขาก็มีอีกใจที่คิดว่าอาจจะเป็นไปได้ที่นายตนน่าจะยังไม่ไว้ใจหญิงสาวเพราะพึ่งอยู่ด้วยกันได้ไม่นาน
หลังจากน้ำรินกลับไปตั้งแต่ช่วงเย็นทรายแก้วก็นั่งเหงาเช่นเดิมจนตกดึกร่างบางในชุดนอนผ้าลินินสายเดี่ยวสีขาวยาวคลุมเข่าเดินออกมานอกระเบียงห้องนอนดูดาวยามค่ำคืนที่ฟ้าเปิด
ดวงตากลมโตมองทอดยาวไปไกลสองแขนเล็กกอดอกแน่นครุ่นคิดถึงวันข้างหน้าว่าชีวิตของเธอจะเป็นเช่นไรคำถามนี้วนเวียนอยู่ในหัวทุกครั้งเมื่อต้องอยู่เงียบๆคนเดียวแต่ก็ยังหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้สักครั้ง
“เฮ้อ..!”
ริมฝีปากบางเผยอพ่นลมหายใจเบาๆก่อนจะเดินกลับเข้ามาในห้องนอน
แกร๊ก
มือน้อยยกยื่นปิดสวิตซ์ไฟให้ในห้องเหลือเพียงแค่แสงสลัวจากโคมไฟหัวเตียงเท่านั้นก่อนจะหย่อนก้นลงเตียงเอนตัวลงนอนฟุบกับหมอนนุ่ม
ร่างบางตะแคงหันไปมองพื้นที่ว่างข้างๆก่อนจะมองไปที่รูปถ่ายชาติเสือใต้โคมไฟพลันสมองก็ฉายภาพคนตัวโตนอนหลับตาพริ้มอยู่ตรงหน้า
“หื้ยย..”
สาวเจ้ารีบหลับตาปี๋ยกมือเรียวกุมใบหน้าหวานแน่น
“ไปคิดถึงเค้าทำไมกันนะ”
เธอไม่ชอบความคิดของตัวเองตอนนี้เสียเลยที่แอบไปคิดถึงเจ้าของเตียงนี้ได้
“นอนหลับได้แล้วทรายแก้ว”
ร่างบางพลิกนอนหงายทั้งยังไม่ยอมลืมตาเพราะต้องการข่มตัวเองให้นอนหลับไปไม่นานนักสาวเจ้าก็เข้าสู่ห้วงแห่งนิทราหลับสนิทลงไปได้
ในเช้าตรู่ของวันต่อมาเด็ดเดี่ยววิ่งมาต้อนรับสุรีพรที่เดินเข้ามาในบ้านไม่ทันเพราะไม่รู้มาก่อนว่าแม่ของเจ้านายตนจะมาที่นี่ในวันที่นายตนนั้นไม่อยู่
“ค.. คุณท่าน.. สวัสดีครับ”
“ได้ข่าวว่าตาเสือไม่อยู่...ฉันจะมาอยู่ที่นี่สักสามสี่วัน”
“คุณแม่สวัสดีค่ะ”
ทรายแก้วรีบสาวเท้าลงมาจากบันไดต้อนรับแม่สามีหน้าตาตื่นเพราะตกใจเช่นเดียวกับเด็ดเดี่ยวไม่รู้ว่าสุรีพรจะมาที่นี่วันนี้
“ฉันจะมาอยู่ที่นี่จนกว่าตาเสือจะกลับ”
สุรีพรเชยหางตามองลูกสะใภ้อย่างไม่ค่อยถูกชะตาก่อนจะเดินดุ่มไปนั่งที่โซฟา
“ค่ะ.. เดี๋ยวทรายไปเอาน้ำมาให้นะคะ”
ทรายแก้วหลบสายตาแม่สามีเธอเล็กน้อยทั้งรีบปรี่เข้าไปในครัวหาน้ำเย็นๆมาต้อนรับสุรีพรแม้นจะรู้อยู่แก่ใจว่าแม่สามีเธอนั้นไม่ชอบหน้าและเธอก็ไม่ได้เต็มใจจะเป็นภรรยาชาติเสือเท่าไรแต่เธอก็จะทำหน้าที่ลูกสะใภ้ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
“น้ำค่ะคุณแม่”
ร่างบางเดินมาพร้อมน้ำหนึ่งแก้วเธอย่อตัวลงวางแก้วตรงหน้าแม่สามีก่อนจะถอยออกมานั่งฝั่งตรงข้าม
“เธอคบกับลูกชายฉันมานานหรือยัง”
ยังไม่ทันที่ทรายแก้วจะลงนั่งดีสุรีพรก็รีบเอ่ยถามสะใภ้ตรงหน้าเสียงห้วน
“ก็.. สักพักแล้วค่ะ”
ทรายแก้วหน้าชาวาบเธอไม่อยากโกหกผู้หลักผู้ใหญ่แต่งานนี้เห็นทีจำเป็นต้องทำ
“เธอทำงานอะไรเป็นลูกเต้าเหล่าใคร”
“พ่อกับแม่ของทรายเป็นแค่ชาวสวนชาวไร่ธรรมดาค่ะตอนนี้ท่านทั้งสองเสียแล้วส่วนทรายเป็นพยาบาลค่ะแล้วตอนนี้พี่เสือก็ให้ลาออกมาดูแลบ้าน”
“เกาะลูกชายฉันสินะ”
สุรีพรเอ่ยด้วยน้ำเสียงและท่าทีเหยีดหยามทันควันหลังจบประโยคที่หญิงสาวพูดทางด้านทรายแก้วก็ได้แต่เงียบก้มหน้ายอมรับโดยไม่ปฏิเสธอะไรเพราะสถานะของเธอตอนนี้ก็เป็นเช่นที่แม่สามีว่าจริงๆ
“ฉันมีข้อเสนอ”
ใบหน้าหวานค่อยๆเงยมองหน้าแม่สามีด้วยแววตาที่สงสัย
“เงินสดสิบล้านจะเข้าบัญชีของเธอทันทีถ้าเธอยอมตกลงออกไปจากชีวิตของลูกชายฉัน”
ทรายแก้วส่ายหัวเบาๆก่อนจะตอบกลับสุรีพรออกไปเต็มปาก
“ทรายไม่ขอรับค่ะ..”
คำตอบของเธอไม่ใช่เพราะเธอพิศวาสอะไรชาติเสือแต่เป็นเพราะต้องการปกป้องศักดิ์ศรีของตัวเองคนอย่างเธอซื้อไม่ได้ด้วยเงิน
“อวดดี”
สุรีพรเริ่มแผดเสียงด้วยความไม่พอใจ
“ทรายไม่ได้อวดดีค่ะ..หากทรายจะไปจากพี่เสือต้องเป็นคำที่พี่เสือเอ่ยไล่ทรายเท่านั้น”
ทรายแก้วก้มหน้างุดเอ่ยเสียงสั่นด้วยกลัวว่าอีกฝ่ายจะหาว่าเธอต่อล้อต่อเถียงเพียงแต่เพียงอยากอธิบายให้สุรีพรได้เข้าใจในความคิดของเธอเท่านั้น
“หึ่..”
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วทรายขอตัวไปเตรียมห้องให้คุณแม่นะคะ”
“จะไปไหนก็ไป”
สุรีพรใช้หางตามองร่างบางด้วยความไม่พอใจเธอเคยตกหลุมพรางความดีของอินทุอรมาแล้วเธอจะไม่ยอมไว้ใจผู้หญิงที่ได้ชื่อว่ามาเกาะลูกชายเธอกินอีกแน่
“ทำไมไม่เห็นแก่ความรักของลูกเลยนะ”
ทรายแก้วขึ้นมาเตรียมจัดห้องหับให้สุรีพรเธอก็อดคิดไม่ได้ว่าสุรีพรนั้นเผด็จการแค่ไหนกันถึงไม่เห็นแก่ความรักของลูกดีที่เธอไม่ใช่คนรักของชาติเสือหากเป็นผู้หญิงที่เป็นคนรักชายหนุ่มจริงๆมาเจอฤทธิ์ของสุรีพรเช่นเธอคงลำบากใจมากๆแน่
“มื้อกลางวันคุณแม่จะรับอะไรดีคะ”
ร่างบางเดินเข้ามาหาสุรีพรขณะที่นั่งอ่านหนังสือที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ข้างบ้านเพื่อถามไถ่เรื่องอาหารในมื้อกลางวัน
“อะไรก็ได้ที่มีเพราะเธอคงทำอาหารหรูๆไม่เป็น..อ่อ..ฉันไม่ชอบรสจัดอย่าลืมของหวานหลังอาหารคาวด้วยล่ะ..ฉันถือกินคาวไม่กินหวานสันดานไพร่”
หญิงวัยกลางคนเอ่ยน้ำเนิบนาบให้หญิงสาวได้ฟังชัดเจนทั้งยังไม่แม้นจะเปรยสายตามองคนที่ถามเพราะทุกการกระทำของสุรีพรเธอจงใจทำให้ทรายแก้วได้รู้ว่าตนไม่คิดจะเป็นมิตรด้วย
“ค่ะ..คุณแม่เดี๋ยวทรายรีบจัดการให้นะคะ”
หญิงสาวรับคำสั่งก่อนจะเดินหันหลังตรงเข้าบ้านด้วยสีหน้าห่อเหี่ยวมองไม่ออกเลยว่าเธอจะทำอย่างไรให้สุรีพรมองเธอในแง่ดีได้บ้าง
เมื่อเข้าเวลาเที่ยวตอนนี้สุรีพรและทรายแก้วก็นั่งพร้อมหน้ากันที่โต๊ะอาหารกับข้าวที่ทรายแก้วทำเอาไว้ให้แม่สามีเป็นไก่ตุ๋นเนื้อนุ่มกับปลาทับทิมนึ่งมีน้ำจิ้มรสไม่จัดมากและผักลวกเป็นเครื่องเคียง
“ข้าวไม่ต้องเยอะฉันไม่อยากอ้วน”
สุรีพรปรามทรายแก้วขณะที่เธอกำลังจะตักข้าวอีกหนึ่งทัพพีลงมาในจานของเธอ
“ค่ะ”
ทรายแก้วเดินกลับมานั่งที่เก้าอี้ของตนหลังจากนั้นจึงลงมือใช้ช้อนส้อมแกะแยกเนื้อปลาไว้ให้กับแม่สามี
“แล้วเธอไม่หิวหรือไงมัวแต่แกะปลาให้ฉันอยู่ได้..ตักข้าวสิมือฉันยังดีอยู่แกะเองได้”
สุรีพรรีบปรามทรายแก้วแม้นจะไม่ชอบลูกสะใภ้แต่เธอก็ไม่ได้อยากให้หญิงสาวต้องมานั่งดูแลในเวลาอาหาร
“ค่ะ”ทรายแก้วละมือจากช้อนส้อมในจานปลานึ่งเธอเริ่มตักข้าวใส่จานตัวเองตามที่สุรีพรสั่งแอบอมยิ้มเมื่อเห็นอีกมุมของสุรีพรและชาติเสือที่มีเหมือนกันเรื่องที่ไม่ชอบให้ใครมาอดอาหารในเวลาที่ต้องทานสุรีพรเลือกที่จะตักน้ำซุปถ้วยไก่ตุ๋นทานก่อนเพราะรู้สึกว่ากลิ่นช่างหอมยั่วยวนเตะจมูกเสียเหลือเกิน“อืม..”เธอพยักหน้าเล็กน้อยเมื่อน้ำซุปรสกลมกล่อมสัมผัสลิ้นนับว่าฝีมือของลูกสะใภ้เธอดีไม่ใช่น้อยสุรีพรชื่นชมฝีมือหญิงสาวอยู่ในใจไม่ปริปากพูดอะไรออกมาแต่การที่หญิงวัยกลางคนยื่นมือตักอาหารทานไม่พูดไม่จาก็ทำให้ทรายแก้วรู้แล้วว่าแม่สามีนั้นถูกใจฝีมือเธอแค่ไหน“ของหวานค่ะคุณแม่”หลังจากทานขอคาวจนเรียบร้อยแล้วตอนนี้ก็ถึงเวลาของของหวานวันนี้ทรายแก้วเลือกที่จะเสริฟมะยงชิดลอยแก้วให้กับสุรีพรเพราะเธอแช่มะยงชิดกับน้ำเชื่อมไว้ตั้งแต่เมื่อเย็นวานหากสุรีพรได้ทานคงสดชื่นไม่น้อยคนเป็นแม่สามีอย่างสุรีพรนั่งทานของที่ลูกสะใภ้เสริฟเงียบๆเพราะเธอถูกใจฝีมือของทรายแก้วทั้งของคาวและของหวานเลยไม่มีข้อที่จะหาเรื่องตำหนิได้เลยแม้แต่ข้อเดียวช่วงหัวค่ำก่อนที่ทรายแก้วจะเตรียมตัวเข้าห้องนอนเธอก็ไม่ลืมที่จะเดินเลยไปถามไถ่แม่สามีเผื่อ
“คุณแม่จะทำอะไรคะเดี๋ยวทรายทำให้ค่ะ”“ไม่ต้องฉันทำเองได้”สุรีพรไม่ยอมปล่อยมือง่ายๆเพราะแค่ยกหม้อลงจากเตาแค่นี้ไม่ใช่เรื่องที่เธอทำไม่ได้“ให้ทรายทำนะคะมันร้อนค่ะ”ฟึ่บ..” อ๊ายย.. “เมื่อยื้อแย่งกันไปมาน้ำต้มร้อนๆในหม้อก็กระฉอกลวกมือทรายแก้วจนเธอร้องลั่นสุรีพรจึงจำต้องวางหม้อลงบนเตาแล้วรีบดึงมือทรายแก้วมาล้างน้ำ“ก็บอกแล้วไงว่าไม่ต้องมายุ่งยัยเด็กบ้าเอ้ย”หญิงวัยกลางคนบ่นอุกเมื่อเห็นว่ามือของทรายแก้วเห่อแดงจนเห็นได้ชัดเธอรีบใช้ทิชชู่ซับมือน้อยที่เปียกก่อนจะจูงหญิงสาวออกมาทายาด้านนอกทรายแก้วเห็นอาการเป็นห่วงของแม่สามีก็มีสีหน้าแปลกใจไม่น้อยก่อนจะอมยิ้มออกมาด้วยพฤติกรรมของสุรีพรที่ทีท่าทีห่วงใยเธอตอนนี้เหมือนกับแม่ของเธอไม่มีผิด“ไม่แสบร้อนหรือไงยิ้มอยู่ได้”“คุณแม่ดุทรายเหมือนที่แม่ทรายชอบพูดเปี๊ยบเลยค่ะ”“ใครจะไม่ดุอยู่ดีๆก็มาหาเรื่องเจ็บตัว...เดี๋ยวตาเสือก็ว่าฉันทำร้ายเมียตัวเองอีก”“ไม่หรอกค่ะคุณแม่...ทรายผิดเองที่ไม่ระวัง”ทรายแก้วยังไม่ยอมหุบยิ้มง่ายๆขณะที่แม่สามีกำลังทายาให้เธอรู้สึกอบอุ่นหัวใจจนลืมความเจ็บไปเลยก็ว่าได้ในเช้าของวันต่อมาเป็นอีกวันที่แม้ทรายแก้วจะยังไม่หายเจ็บมือ
สุรีพรเดินขึ้นมาหาทรายแก้วที่ห้องนอนในช่วงบ่ายเพราะเห็นว่าตั้งแต่ทรายแก้วกลับมาก็ไม่ลงมาด้านล่างอีกเลย“นอนยังไงไม่ล็อคประตูแม่คนนี้”สุรีพรบิดลูกบิดประตูห้องนอนของทรายแก้วเห็นว่าไม่ได้ล็อคจึงถือวิสาสะเดินเข้าไปด้านในทั้งส่ายหัวบ่นอุกเมื่อเห็นว่าเธอไม่รอบคอบเอาเสียเลย“ทรายแก้ว...ทรายแก้ว... ฉันว่าแล้วเชียว”สุรีพรเดินเข้ามาเรียกลูกสะใถ้ที่นอนฟุบอยู่กับเตียงไม่ยอมขยับก่อนจะยื่นมือไปแตะหน้าผากพบว่าตัวหญิงสาวร้อนจี๋เป็นเช่นที่เธอคิดไม่มีผิดว่าทรายแก้วตากฝนปล่อยให้ตัวเปียกนานขนาดนั้นจะต้องไข้ขึ้นเห็นท่าไม่ดีสุรีพรจึงหาน้ำหาผ้ามาเช็ดตัวให้ทรายแก้วก่อนจะโทรเรียกหมอมาดูอการของลูกสะใภ้ด้วยเห็นว่าไข้ขึ้นสูงหากรอให้ทรายแก้วตื่นมาทานยาเองอาจจะชักได้“แม่จ๋า...หนูอยากกลับบ้าน”“กลับบ้าน?”สุรีพรชะงักเล็กน้อยขณะเช็ดหน้าเช็ดตาทรายแก้วไม่เข้าใจในคำที่หญิงสาวเพ้อเท่าไรในเมื่อเห็นว่าเธออยู่ที่นี่ก็ดูจะมีความสุขดีแล้วทำไมถึงอยากกลับบ้านก๊อกๆๆ“หมอมาแล้วครับคุณท่าน”“อ่อ..ให้เข้ามาเลย”สุรีพรไม่ทันที่จะหาความกระจ่างในความสงสัยได้เธอก็ต้องละทิ้งความสงสัยและลุกให้หมอเข้ามาดูอาการทรายแก้วก่อนหลังจากที
“เอาไว้ที่เรือนอื่นก็ไม่ได้เหรอคะ”“ไม่ได้...หน้าที่ของเธอคือสนใจเพียงฉันไม่ใช่ไปสนใจหมา”“แต่ทรายอยากดูแลมันนี่คะมันน่าสงสารจะตาย”“ฉันไม่ให้เลี้ยง..ฉันไม่ชอบหมา”“ใจร้ายแม้กระทั่งกับหมา”ทรายแก้วผุดลุกหันหลังบุ้ยปากบ่นอู้อี้ไม่ค่อยพอใจเท่าไรที่ชายหนุ่มนั้นทำท่าทีไม่สนใจเรื่องที่เธอร้องขออีกทั้งยังหันหน้ามาคุยกับเธอดีๆอีกด้วย“ทรายแก้ว”ใบหน้าคมส่ายไปมาจ้องมองร่างบางที่เดินไม่พอใจออกนอกห้องไปจะให้เขาตามใจเธอเรื่องนี้เห็นจะเป็นไปได้ยากเพราะมีปมในใจเรื่องของลูกหมาด้วยเด็กๆอยากจะเล่นหมาบ้านของยายตนแต่กลับถูกไล่กัดหลังจากนั้นจึงไม่ชอบลูกหมาอีกเลยจนถึงตอนนี้เจอที่ไหนเป็นต้องเดินเลี่ยงทุกทีโต๊ะอาหารเย็นวันนี้ปกคลุมไปด้วยความเงียบเพราะทรายแก้วยังคงครุ่นคิดหาวิธีจะทำอย่างไรให้ขาติเสือยอมให้เธอเลี้ยงลูกสุนัขส่วนชาติเสือเองก็ยังไม่อยากหาเรื่องคุยกับหญิงสาวเพราะกลัวว่าเธอจะทำหน้าออดอ้อนขอเลี้ยงเจ้าลูกหมาที่เขาไม่ชอบขึ้นมาอีกช่วงเวลาของอาหารคาวดำเนินไปพักใหญ่เมื่อเรียบร้อยแล้วทรายแก้วจึงรีบเดินเข้าไปหยิบกล่องฟักทองเชื่อมในตู้เย็นออกมาให้ชาติเสือเธอ“ของหวานค่ะ”“อืม..”ชาติเสือเห็นกล่องฟักทองเ
“อ่า..อ้าสส..”คนตัวโตส่งเสียงคำรามลั่นขณะโหมกระแทกสะโพกแกร่งถี่รัววันนี้เขาจะทำศึกสวาทให้หนำใจจากที่ห่างตุ๊กตายางตัวโปรดไปหลายวัน“อ้ะ.. อ้ะ.. อื้ออ.. “ร่างบางนอนหัวสั่นหัวครอนครางเสียงอ่อนเสียงหวานมือเรียวยกจิกปัดป่ายไม่อยู่สุขเพราะในตัวตอนนี้มีแต่ความเสียวซ่านวาบหวามครอบงำเมื่อหนำใจกับท่วงท่าพื้นฐานแล้วคนตัวโตก็รวบอุ้มร่างบางให้กอดคอซุกหน้าแนบอกจัดการกระหน่ำซอยสะโพกใส่หญิงสาวด้วยลีลาเร่าร้อนไม่ผ่อนจนเกิดเสียงเนื้อกระทบกันสนั่นห้อง“อื้อ..อืมม..”และแล้วหญิงสาวก็ต้องซุกใบหน้ากับอกแกร่งกลั้นเสียงครางหวานอีกเช่นเคยด้วยกลัวจะดังจนคนอื่นที่เฝ้าอยู่นอกบ้านได้ยินคนตัวโตกระหน่ำซอยร่างบางพักใหญ่จนเธอเริ่มเกาะเกี่ยวรั้งคอขอเขาไม่ไหวจึงวางเธอลงที่โซฟานุ่มขึ้นคร่อมขย่มร่างบางจนหัวสั่นหัวครอนอีกครั้งบทสวาทวาบหวามของทั้งคู่กินเวลาไปเกือบค่อนแจ้งด้วยชาติเสืออยากชดเชยเวลาที่เขาห่างเธอไปหลายวันคืนนี้เขาจึงกระหน่ำบทรักหนำใจให้หายคิดถึงร่างบางอันพอดีไม้พอดีมือนี้ในคืนเดียวช่วงสายของวันต่อมาชาติเสือยังคงนอนขลุกเปลือยเปล่าล่อนจ้อนอดก่ายร่างบางไม่ยอมปล่อยทรายแก้วเริ่มขยับตัวตื่นเพราะแสงอาทิตย์เริ่มส
ช่วงเที่ยงของวันต่อมาวันนี้น้ำรินนัดเจอเตชินที่คาเฟ่แห่งหนึ่งย่านตัวเมืองของเชียงใหม่เพื่อเตรียมหาซื้อของขวัญเซอร์ไพรซ์วันเกิดของเพื่อนรักอย่างทรายแก้ว“ฉันไม่รู้จะหาของขวัญอะไรให้ทรายมันดีไม่เห็นมันจะชอบอะไรสักอย่างเลย”เตชินบ่นขณะตักก้อนเค้กฝอยทองเข้าปากเพราะไม่รู้เลยจริงๆว่าทรายแก้วชอบอะไรเป็นพิเศษเพราะเห็นว่าเพื่อนเธอไม่เคยซื้อของอะไรใหม่ๆให้กับตัวเองเลยหรือตีตี้ร่างเป็นชายรูปหล่อแต่ใจเป็นหญิงเขาเป็นเพื่อนกับสองสาวตั้งแต่สมัยมัธยมแม้นจะแยกกันเรียนในช่วงมหาลัยแต่ความสนิทก็ไม่เคยลดน้อยลงไปตอนนี้เตชินทำงานเป็นHrบริษัทแห่งหนึ่งในกรุงเทพที่มาที่นี่ได้หลายวันก็เพราะใช้วันพักร้อน“ให้อะไรมันก็ชอบทั้งนั้นแหละน่า”น้ำรินในชุดเกาะอกสีดำโชว์เนินอกอิ่มกับกระโปรงยีนส์สั้นจู๋นั่งไขว่ห้างยกแก้วจิบกาแฟก่อนจะปัดป่ายมือไปมาต่อหน้าเตชินเพราะคิดว่าของอะไรที่เพื่อนๆให้ทรายแก้วน่าจะชอบทั้งนั้นไม่อยากให้เตชินคิดอะไรมาก“เจอหน้าฉันจะเฉ่งซะทีมีผัวก็ไม่เคยจะบอกเพื่อน”เตชินบ่นอุกเธอยังคงเคืองใจที่ทรายแก้วมีสามีเป็นตัวเป็นตนจนจดทะเบียนแล้วแต่ไม่ยักจะยอมบอกเขา“มันกะทันหันแหละฉันก็พึ่งรู้เหมือนกัน”น้ำรินที
“อืม..หล่อออ..น้าเนี่ยย”ร่างของน้ำรินซุกซบอยู่ที่อกของนักรบเธอเงยหน้ามองคนที่เข้ามาช่วยพยุงด้วยสายตาปรือเยิ้มก่อนจะฉีกยิ้มชื่นชมใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาเสียงงัวเงีย“คุณ..มีสติอยู่หรือเปล่าครับ”นักรบได้กลิ่นแอลกอฮอลจากลมหายใจหญิงสาวหน้าสวยก็พอจะรู้ว่าเธอน่าจะดื่มไปเยอะพอสมควรหากปล่อยให้เธออยู่คนเดียวตรงนี้มีหวังถูกใครหิ้วไปง่ายๆแน่“.. รถ.. พางงงปายยส่งหน่อย”“บ้านคุณอยู่ที่ไหนครับ”นักรบเบือนสายตาหนีคนในอ้อมอกเพราะสายเดี่ยวแหวกอกชิ้นน้อยของเธอแทบจะปิดอะไรไม่มิด“อืม.. ปาย.. ก่อนเดี๋ยวบอก”“ครับๆ”ชายหนุ่มพยุงหญิงสาวมาขึ้นรถของตนก่อนจะขับออกจากผับไปด้วยความเร็วน้ำรินขึ้นรถได้ก็นอนฟุบไม่พูดไม่จาร่างอวบอั๋นขยับเขยื้อนแต่ละทีทำใจชายหนุ่มเต้นไม่เป็นส่ำด้วยชุดที่เธอใส่น้อยชิ้นแถมหุ่นของเธอก็ยั่วยวนผู้ชายเต็มตัวอย่างเขาได้เป็นอย่างดีรถคันหรูแล่นมาจนใกล้ถึงสี่แยกใหญ่นักรบต้องชะลอรถถามหญิงสาวที่เอาแต่นอนแน่นิ่งไม่ยอมบอกทาง“คุณ.. บ้านคุณอยู่ที่ไหนครับ”“บ้าน.!”สาวเจ้าลืมตาตื่นตะโกนจนคนขับที่นั่งข้างๆถึงกับสะดุ้ง“ค..ครับบ้านคุณอยู่ที่ไหน”“หมู่บ้านxxxบ้านเลขที่45/2อำเภอ..บลาๆๆ”“ไหวหรือเปล
“อึก..อ๊ายย.. อย่าฆ่าาากันเลย.. ฮือๆๆ”สาวเจ้าเจ็บปวดดั่งถูกมีดกรีด เธอส่งเสียงร้องระงมเมื่อริมฝีปากถูกปล่อยให้เป็นอิสระ“หา.!.”นักรบก้มลงมองส่วนเชื่อมต่อเพียงแค่เขาขยับตัวตนดึงออกแค่ครึ่งเดียวเลือดหยดน้อยก็หลั่งไหลตามออกมาไม่ขาดสายครั้นจะหยุดการกระทำตอนนี้ก็เป็นไปไม่ได้เขาใช้วิธีกลับไปเล้าโลมหญิงสาวด้วยรสจูบต่อเพื่อผ่อนคลายความเจ็บกดแช่แท่งร้อนคาร่องสวาทพักใหญ่จนเห็นได้ว่าหญิงสาวเริ่มปรับตัวได้จึงค่อยขยับสะโพกแกร่งเนิบนาบเข้าออกเชื่องช้าและเริ่มเร่าร้อนขึ้นในเวลาต่อมาจวบจนค่อนคืนศึกสวาทจึงจบลงได้ช่วงเย็นของวันต่อมา“ฮือๆๆ...”น้ำรินเอาแต่ร้องห่มร้องให้อยู่บนห้องนอนงานการของเธอก็ไม่ได้ไปทำเพราะรู้สึกระบมไปทั้งตัวแถมยังมีไข้อ่อนๆเธอนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมายังไงก็นึกไม่ออกจำได้แค่ตอนเช้าเธอนั้นตื่นมาพร้อมกับผู้ชายที่นอนเปลือยกายกกเธออยู่ที่โซฟาแถมความบริสุทธิ์ของเธอที่เก็บเอาไว้มาจนถึงตอนนี้ก็ถูกชายแปลกหน้านั่นพรากไปด้วยตอนนี้เธอพูดอะไรไม่ออกได้แต่เพียงร้องให้ระบายความเสียใจเท่านั้นบริษัทxxxตอนนี้ได้เวลาเลิกงานของนักรบแต่เขายังนั่งจมอยู่ที่เก้าอี้ทำงานทั้งที่งานทุกอย่างก็เ