Share

ตอนที่20 ไม่ชอบลูกหมา

สุรีพรเดินขึ้นมาหาทรายแก้วที่ห้องนอนในช่วงบ่ายเพราะเห็นว่าตั้งแต่ทรายแก้วกลับมาก็ไม่ลงมาด้านล่างอีกเลย

“นอนยังไงไม่ล็อคประตูแม่คนนี้”

สุรีพรบิดลูกบิดประตูห้องนอนของทรายแก้วเห็นว่าไม่ได้ล็อคจึงถือวิสาสะเดินเข้าไปด้านในทั้งส่ายหัวบ่นอุกเมื่อเห็นว่าเธอไม่รอบคอบเอาเสียเลย

“ทรายแก้ว...ทรายแก้ว... ฉันว่าแล้วเชียว”

สุรีพรเดินเข้ามาเรียกลูกสะใถ้ที่นอนฟุบอยู่กับเตียงไม่ยอมขยับก่อนจะยื่นมือไปแตะหน้าผากพบว่าตัวหญิงสาวร้อนจี๋เป็นเช่นที่เธอคิดไม่มีผิดว่าทรายแก้วตากฝนปล่อยให้ตัวเปียกนานขนาดนั้นจะต้องไข้ขึ้น

เห็นท่าไม่ดีสุรีพรจึงหาน้ำหาผ้ามาเช็ดตัวให้ทรายแก้วก่อนจะโทรเรียกหมอมาดูอการของลูกสะใภ้ด้วยเห็นว่าไข้ขึ้นสูงหากรอให้ทรายแก้วตื่นมาทานยาเองอาจจะชักได้

“แม่จ๋า...หนูอยากกลับบ้าน”

“กลับบ้าน?”

สุรีพรชะงักเล็กน้อยขณะเช็ดหน้าเช็ดตาทรายแก้วไม่เข้าใจในคำที่หญิงสาวเพ้อเท่าไรในเมื่อเห็นว่าเธออยู่ที่นี่ก็ดูจะมีความสุขดีแล้วทำไมถึงอยากกลับบ้าน​

ก๊อกๆๆ

“หมอมาแล้วครับคุณท่าน”

“อ่อ..ให้เข้ามาเลย”

สุรีพรไม่ทันที่จะหาความกระจ่างในความสงสัยได้เธอก็ต้องละทิ้งความสงสัยและลุกให้หมอเข้ามาดูอาการทรายแก้วก่อน

หลังจากที่หมอตรวจและฉีดยาลดไข้ให้ทรายแก้วเรียบร้อยแล้วสุรีพรก็คอยดูแลเช็ดเนื้อเช็ดตัวทรายแก้วตลอดจวบจนเข้าเวลาเย็นสุรีพรก็จัดแจงทำข้าวต้มปลาขึ้นมาให้ลูกสะใภ้ของเธอ

“ตื่นพอดี...ลุกมากินข้าวต้มจะได้กินยา”

“ขอบคุณค่ะ”

ร่างบางขยับตัวนั่งพิงหัวเตียง

“หมอโทรมาบอกว่าการผ่าตัดเจ้าหมาน้อยนั่นผ่านไปด้วยดีฉันให้หมอดูแลมันจนกว่าจะหายค่าใช่จ่ายทุกอย่างฉันออกเอง...ถ้ามันหายเจ็บแล้วเธอจะเลี้ยงมันต่อหรือเปล่า”

“ทรายว่าจะเลี้ยงมันเองค่ะ”

“ถามตาเสือหรือยังรายนั้นไม่ชอบหมาที่สุด...เป็นเมียยังไงถึงไม่รู้นิสัยผัว”

“ทรายจะลองขอพี่เสือดูนะคะ”

ทรายแก้วลืมนึกไปเลยว่าที่นี่คือที่ของชาติเสือไม่เข้าใจว่าทำไมเขาไม่ชอบสุนัขทั้งที่ชอบทำบุญแต่อย่างไรก็ช่างเธอจะลองคุยกับชายหนุ่มดูก่อน

ร่วมวันสองวันที่ทรายแก้วป่วยอาหารทุกอย่างที่หญิงสาวทานเป็นฝีมือของสุรีพรทั้งคนเป็นแม่สามียังคอยสอนว่าอาหารอะไรบ้างที่ชาติเสือชอบทานและอะไรที่ไม่ชอบนับว่าช่วงเวลานี้เป็นเวลาที่ทั้งสองคนพูดคุยกันดีตามประสาแม่สามีและลูกสะใภ้

ทรายแก้วเดินมาหาสุรีพรที่ห้องในช่วงดึกเมื่อเห็นว่าแม่สามีของเธอกำลังเก็บกระเป๋าจึงรู้สึกใจหายไม่น้อยรู้ตัวว่าสุรีพรไม่ได้ชอบอะไรเธอนักแต่เวลาที่มีแม่สามีอยู่ด้วยทำให้เธอมีความสุขเหมือนกับว่าได้แม่ของเธอกลับมา

“คุณแม่จะกลับแล้วเหรอคะ”

“ใช่น่ะสิ.. พรุ่งนี้ตาเสือก็กลับมาแล้วฉันไม่อยากอยู่ให้ขัดหูขัดตาเท่าไร”

“เป็นเพราะทรายใช่หรือเปล่าคะที่ทำให้คุณแม่กับคุณเสือต้องทะเลาะกัน”

ร่างบางยืนกุมมือแน่นก้มหน้างุดเธอไม่อยากให้สองแม่ลูกต้องผิดใจกันเช่นที่เป็นอยู่ทุกวันนี้เลย

“ถึงไม่มีเธอตาเสือก็ไม่ถูกกับฉันอยู่ดี..เธอกลับไปนอนพักเถอะฉันก็จะนอนเหมือนกัน”

สุรีพรเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบเสียงอ่อนเรื่องผิดใจของเธอและชาติเสือเธอเองก็ไม่อยากจะพูดถึงนัก

“ค่ะคุณแม่”

ทรายแก้วหันหลังกลับด้วยความสงสัยแต่ก็คร้านที่จะถามถึงสาเหตุที่แท้จริงของเรื่องบาดหมางสองแม่ลูกต่อเพราะคิดว่าหากแม่สามีเธออยากพูดคงอธิบายให้เธอฟังตั้งแต่เมื่อครู่ไปแล้ว​

เช้าวันต่อมาสุรีพรที่กำลังเตรียมตัวจะเดินทางกลับคราแรกคิดว่าจะไม่เจอชาติเสือเห็นทีจะคาดการณ์เวลาผิดเสียแล้วเพราะขณะที่เธอจะก้าวขาออกจากบ้านลูกชายจอมเย่อหยิ่งก็เดินเข้ามาในบ้านพอดี

“ไม่ยักรู้นะครับว่าคุณแม่จะมาค้างที่นี่ตอนผมไม่อยู่คิดจะทำอะไรภรรยาผมหรือเปล่า”

สุรีพรอารมณ์เสียแต่เช้าไม่คิดว่าลูกชายเธอจะทักทายด้วยคำพูดที่เต็มไปด้วยอคติเมื่อเจอหน้ากัน

“ฉันก็แค่อยากจะทำความรู้จักกับลูกสะใภ้ฉันให้มากขึ้นเท่านั้น”

“ทำความรู้จักหรือจับผิดกันแน่”

ทรายแก้วยืนมองทั้งสองอยู่ห่างๆด้วยแววตาที่หดหู่ไม่ชอบบรรยากาศเช่นนี้เลยสักนิดอยากให้ชาติเสือนั้นพูดจาดีๆกับแม่ตัวเองบ้างเพราะรู้ดีว่าสุรีพรห่วงชาติเสือไม่น้อย

“สายตาแกที่มองแม่ไม่เคยดีเลยสินะ...ขอตัวกลับก่อนล่ะ”

“เอ่อ...คุณแม่จะมาที่นี่อีกเมื่อไรคะ”

ทรายแก้วรีบวิ่งไปดึงมือแม่สามีเอาไว้เพราะอยากจะรู้ว่าเธอนั้นจะมาที่นี่อีกเมื่อไร

“ฉันไม่อยากจะมาเพราะรู้ดีว่าเจ้าของบ้านไม่ค่อยอยากจะต้อนรับ”

“ก็.. รู้ตัวนี่ครับ”

ชาติเสือเอ่ยเสียงห้วนไล่หลังแม่ตนขณะที่กำลังเดินออกจากบ้านไปขึ้นรถตู้ที่เด็ดเดี่ยวรอไปส่งสุรีพรน้ำตาคลอทุกครั้งที่เจอคำพูดไม่ดีของลูกชายเธอเสียใจแต่ที่ต้องทำเข้มแข็งเพียงเพราะไม่อยากถูกมองว่าเรียกความสงสาร

“จะพูดดีๆกับคุณแม่สักหน่อยก็ไม่ได้เหรอคะ”

ทรายแก้วรู้ว่าสุรีพรน่าจะเสียใจกับคำพูดของชาติเสือเธอจึงหันมามองค้อนต่อว่าคนที่ได้ชื่อว่าสามีที่แสนจะปากเสียแม้แต่กับแม่ของตัวเอง

“เรื่องของฉัน..ขอตัวอยากพักผ่อน”

ร่างสูงที่พึ่งจะกลับมาทำเป็นหูทวนลมเดินถือเสื้อสูทสาวเท้าขึ้นห้องไปหน้าตาเฉยพยายามข่มอารมณ์ไม่ให้ต่อล้อต่อเถียงกับหญิงสาวเพราะรู้ว่าเธอยังไม่รู้เรื่องที่เจ็บปวดในใจของเขาว่ามันมีมากมายแค่ไหน

ตกบ่ายทรายแก้วเห็นว่าชาติเสือออกมานั่งในห้องทำงานแล้วเธอจึงถือโอกาสนี้คุยกับเขาเรื่องเจ้าลูกหมาที่เธออยากจะเลี้ยงเสียเลยหวังในใจว่าเขาจะอนุญาตโดยง่ายโดยที่ไม่ต้องพูดอะไรมาก

ก๊อกๆๆ

“มีอะไร”

เสียงทุ้มเอ่ยถามหญิงสาวด้วยความสงสัยโดยปกติแล้วเธอจะไม่ค่อยมายุ่งกับเขาเท่าไรในเวลาทำงานหากเขาไม่สั่งให้เธอเข้ามา

ทรายแก้วเดินเข้ามานั่งหน้าโต๊ะทำงานชายหนุ่มได้ก็รีบเปิดรูปเจ้าลูกสุนัขสีขาวตัวอวบอ้วนให้ชาติเสือได้ดู

“เอามาให้ฉันดูทำไม”

“ลูกหมาที่ทรายกับคุณแม่ช่วยมันเอาไว้ค่ะ”

“อย่าบอกนะว่าเธอจะเลี้ยง”

“ขอเลี้ยงเจ้าหมาน้อยตัวเดียวเองนะคะ”

สาวเจ้าเริ่มทำสีหน้าออดอ้อนอัตโนมัติเพราะอยากจะเลี้ยงเจ้าลูกหมาตัวกลมนี้จริงๆ

“ไม่ได้ฉันไม่ชอบเสียงเห่าของมัน”

ชาติเสือส่ายหัวก่อนจะหันหน้าไปทางอื่นเขาไม่อยากจะมองสายตาขี้อ้อนของหญิงสาวตอนนี้เท่าไรนักด้วยอาจจะทำให้ใจอ่อนกับคำขอได้ง่าย

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status