วันเวลาที่ทรายแก้วใช้ชีวิตอยู่กับชาติเสือเนิ่นนานจวบจนสองเดือนกว่าแล้วทั่งคู่สนิทกันมากโดยที่ชาติเสือไม่รู้ตัวมีเพียงทรายแก้วเท่านั้นที่รู้ทุกอย่างว่าความรู้สึกของตัวเองแปรเปลี่ยนมากมายขนาดไหน
คำพูดคำจาของทั้งคู่ดูสนิทสนมกันมากขึ้นโดยชาติเสือนั้นเปลี่ยนจากแทนตัวเองว่าฉันเป็นพี่ทุกคำที่พูดจากับทรายแก้วหากไม่ติดว่าทั้งคู่อยู่ด้วยกันตามสัญญาก็เปรียบเสมือนคู่นี้เป็นคู่รักข้าวใหม่ปลามันที่น่ารักคู่หนึ่งเลยทีเดียว
ชาติเสือไว้ใจทรายแก้วจนปล่อยให้ไปไหนมาไหนได้แต่ต้องกลับมาตามเวลาที่เขากำหนดชีวิตทรายแก้วในตอนนี้จึงรู้สึกมีอิสระไม่อึดอัดเช่นแต่ก่อนแถมยังมีเจ้าลูกหมาที่เคยช่วยมาอยู่เป็นเพื่อนคลายเหงาเรียกได้ว่าช่วงนี้ทรายแก้วมีรอยยิ้มทุกวันเลยก็ว่าได้
พักหลังมานี้เธอค่อนข้างมีความสุขมากเพราะชาติเสือไม่เคยพูดหรือกระทำไม่ดีกับเธอคอยตามใจสารพัดทั้งตัวติดเธอไม่ค่อยห่างความรู้สึกดีที่เธอมีให้เขาจึงมากเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
วันนี้เสธฐาเข้ามาหาน้องสาวตนในช่วงเช้าเพื่อที่จะมาบอกถึงข่าวดีบางอย่างให้ทรายแก้วได้รับรู้
“เป็นยังไงบ้าง”
“ทรายเริ่มชินกับที่นี่แล้วค่ะพี่เสธ”
“อืม..เห็นแบบนี้พี่ค่อยโล่งใจ”
สองพี่น้องนั่งคุยกันที่ใต้ต้นไม้ใหญ่หน้าบ้านเสธฐาเห็นหน้าตาน้องสาวตนสดใสมีแต่รอยยิ้มเขาก็ค่อยสบายใจขึ้นมาบ้างแต่ก็ยังไม่หมดความรู้สึกผิดในใจที่ทำให้ทรายแก้วต้องมาเป็นคนของชาติเสือ
“แล้วจะไปทำงานกรุงเทพจริงๆเหรอคะ”
ทรายแก้วอยากถามเสธฐาให้แน่ใจอีกรอบเพราะเธอยังคงห่วงพี่ชายของเธอหากไปอยู่ต่างที่ต่างถิ่นเป็นอะไรหรือเกิดปัญหาอะไรใครจะช่วยได้ทัน
“พี่ตั้งใจแล้วว่าจะทำงานเก็บเงินไม่ทำตัวเละเทะให้เราต้องลำบากใจอีก”
เสญฐายกมือกุมหัวทุยของทรายแก้วก่อนที่เธอจะเข้าไปซบกอดพี่ชายตัวเองแน่นยิ้มดีใจที่ได้พี่ชายคนเดิมกลับมา
“ทรายดีใจนะคะที่พี่เสธกลับมาเป็นคนเดิม”
เมื่อเสธฐาเอ่ยมาอย่างมั่นใจแน่วแน่ทรายแก้วก็ไม่คิดขัดทั้งปลื้มปริ่มในใจอยู่มากที่พี่เธอกลับมาเป็นคนขยันทำมาหากินเช่นเดิมก่อนที่จะเผลอไปติดพวกการพนัน
“ทำอะไรอยู่เหรอ”
“ว้าย..”
ชาติเสือโผเข้ามากอดหลังทรายแก้วขณะที่เธอกำลังสวมผ้ากันเปื้อนทำครัวในช่วงใกล้เวลาอาหารเย็น
“พี่เสือ..ตกใจหมดเลยค่ะ”
“ตรงนี้ละกันนะ”
มือหนาคว้าหมับไปที่อกอวบอูมเต็มไม้เต็มมือสองข้างเอ่ยก่ายกระซิบข้างใบหน้านวลเสียงแหบพร่าเขาคิดถึงร่างนุ่มนิ่มของเธอจนต้องละมือจากการทำงานลงมาหาตัวในห้องครัว
“ทรายจะทำกับข้าวค่ะ”
ทรายแก้วรีบหันมาผลักอกแกร่งเมื่อรู้ว่าคนตัวโตต้องการอะไร
“วันนี้ไม่ต้องเราจะไปกินข้าวข้างนอกกัน”
ร่างบางถูกยกอุ้มให้ขึ้นไปนั่งบนเคาเตอร์โดยมีชาติเสือแทรกลำตัวแนบกึ่งกลางขาเรียวทั้งสอง
“แต่ว่า”
พอเห็นหญิงสาวมีทีท่าปฏิเสธแขนแกร่งจึงรวบกอดรั้งเอวบางเอาไว้แน่น
“ไม่มีใครเข้ามาหรอกน่า..พี่สั่งเอาไว้แล้ว”
มือไม้ของคนตัวโตเริ่มถลกกระโปรงสาวเจ้าขึ้นรั้งดึงแพนตี้จิ๋วสลัดทิ้งก่อนจะถอดกางเกงตัวเองร่นมาที่หน้าขา
“อืมม..”
ชาติเสือก้มลงจูบริมฝีปากบางพร้อมดึงผ้ากันเปื้อนและเสื้อสายเดี่ยวของหญิงสาวลงไว้ที่เอวเขาปลดบราสีหวานทิ้งแล้วยื่นมือหนาบดขยี้นิ้วโป้งบนยอดถันชูชันก่อนจะละมาดึงสะโพกมนเข้าหาตัวบดเบียดแท่งร้อยผงาดเข้าช่องทางรักค่อยๆเริ่มขยับสะโพกแกร่งเข้าออกจังหวะเนิบนาบเรียกความวาบหวามจากร่างบางได้ไม่น้อย
“อื้อ..อืม..”
สองแขนเรียวคล้องลำคอชายหนุ่มเอาไว้แน่นขณะที่ถูกยกกระแทกอัดแน่นจนตัวโยนพยายามกลั้นเสียงครางหวานให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้แม้นจะรู้ว่าไม่มีใครอยู่ในนี้นอกจากเธอและชายหนุ่มแต่ก็กลัวคนข้างนอกได้ยินอยู่ดี
ชาติเสือยกอุ้มกระแทกร่างบางจนพอใจแล้วเขาก็เริ่มวางเธอลงจับหมุนให้หันหน้าเข้าหาเคาเตอร์กดหลังเธอลงก่อนจะยกขาซ้ายของหญิงสาวขึ้นและเริ่มบดเบียดแท่งร้อนเข้าร่องสวาทที่เปียกชุ่มกระแทกบั้นท้ายนิ่มถี่รัวจนเกิดเสียงเนื้อกระทบกันดังลั่นอีกเช่นเคย
“อะ.. อืม..”
“อ่าสส..”
เสียงคำรามจากลำคอแกร่งมีมาเป็นระยะเขาสามารถขย่มเธอได้ไม่เคยเบื่อแถมพักหลังมานี้ยังรู้สึกติดร่างบางนี้มากขึ้นอีกด้วย
ในครัวเต็มไปด้วยไฟสวาทประมาณชั่วโมงครึ่งและแล้วบทสวาทของชาติเสือก็ได้จบลงเพราะไม่อยากให้หญิงสาวนั้นเหนื่อยมากนักด้วยเย็นนี้ต้องพาเธอไปทานข้าวข้างนอก
สองหนุ่มสาวที่เดินเข้ามาใหม่ในร้านอาหารหรูใจกลางเมืองเป็นที่จับจ้องต่อสายตาผู้คนในร้านเป็นพิเศษเพราะทั้งคู่ดูสวยหล่อเหมาะสมกันดั่งกิ่งทองกับใบหยก
“พี่มีของขวัญจะให้”
ขณะนั่งรออาหารอยู่ในโซนในสุดของร้านชาติเสือก็เดินวนมาที่หลังร่างบางในชุดเดรสชมพูเขาค่อยๆรวบเรือนผมเธอเบามือก่อนจะสวมจี้เพชรรูปหัวใจที่สั่งทำมาเป็นพิเศษให้กับเธอ
“โอกาสอะไรคะ?”
ใบหน้าหวานก้มต่ำมองสิ่งที่ห้อยอยู่ที่คอเปรยถามชายหนุ่มที่อยู่ด้านหลังด้วยรอยยิ้มอ่อนอยากจะรู้นักว่าจี้รูปหัวใจนี้เขาซื้อมาให้เธอเนื่องในโอกาสอะไร
“เป็นเด็กดีกับพี่ตลอด”
คนตัวโตก้มลงกระซิบข้างใบหน้าหวานเบาๆและรีบเดินกลับมานั่งที่ของตัวเอง
“ขอบคุณนะคะ”
ทรายแก้วหน้าเจื่อนเล็กน้อยเพราะคำตอบของเขามันไม่ใช่สิ่งที่ใจคาดหวังสักนิดแต่ใจชื้นที่เขานั้นมีกะใจซื้อของชิ้นนี้ให้เธอ
หลังจากทานอาหารเย็นกันได้พักใหญ่ทรายแก้วก็รู้สึกแปลกๆเพราะเธอหันกลับหลังไปทีไรก็เหมือนว่าคนที่อยู่บนโต๊ะอยู่ห่างเธอไม่ไกลนักลอบมองเธอกับชาติเสือตลอดเวลา
“มีอะไรหรือเปล่า”
ชาติเสือเห็นทรายแก้วหันซ้ายหัวขวาเป็นระยะจึงต้องเอ่ยถามขึ้นด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล
“เปล่าค่ะ”
ใบหน้าหวานส่ายไปมาคิดว่าเธอน่าจะคิดไปเองและหันมาสนใจกับจานอาหารหยุดที่จะหันกลับไปมองอีก
สองหนุ่มสาวเดินมาที่ลานจอดรถหลังจากทานอาหารเย็นเรียบร้อยขณะที่ชาติเสือจะเปิดประตูรถให้ทรายแก้วได้เข้าไปนั่งเขาก็ได้ยินเสียงของความอันตรายจึงรีบตวัดสายตาไปตามเสียงที่เกิดขึ้น
แกร๊กก
“ทราย”
ชาติเสือเห็นว่ามีชายชุดดำยืนอยู่ข้างต้นไม้ใหญ่จ่อปืนมาที่ทรายแก้วเขาจึงรีบโผเข้ามาบังตัวหญิงสาวเอาไว้
ปั้งง
“อ้า!”
เสียงปืนดังสนั่นขณะเดียวกันที่ชาติเสือฟุบลงกับพื้นต่อหน้าต่อตาทรายแก้ว หญิงสาวที่อยู่ในอาการตื่นตระหนกกรีดร้องลั่น
“อ๊ายย...พ..พี่เสือออ!..ช่วยด้วยค่า..”
ยิ่งเห็นเลือดไหลออกจากตัวชายหนุ่มทรายแก้วก็มือไม้อ่อนตัวสั่นทำอะไรไม่ถูกทำได้เพียงรู้ว่าต้องตะโกนขอความช่วยเหลือเพื่อส่งชาติเสือไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด
โรงพยาบาลทรายแก้วมาถึงโรงพยาบาลพร้อมชาติเสือได้เธอก็เอาแต่ร้องห่มร้องให้ดีที่ตอนนี้นำรินเข้าเวรในโรงพยาบาลจึงคอยปลอบทรายแก้วให้ผ่อนคลายความตึงเครียดได้บ้าง“ฮือๆๆ..”“ไม่เป็นไรแล้วทราย..คุณเสืออยู่ในมือหมอแล้ว”“เค้าจะปลอดภัยใช่ไหม”“อืม..เชื่อฉันเค้าไม่ได้ถูกยิงในจุดสำคัญ..เดี๋ยวฉันมานะต้องไปช่วยหมอแล้ว”“อืม..”น้ำรินคงต้องปล่อยให้ทรายแก้วนั่งอยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉินไปก่อนเพราะเธอเองต้องไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อไม่นานนักเด็ดเดี่ยวและนักรบก็มาถึงโรงพยาบาลพร้อมกับตำรวจตอนนี้ทรายแก้วถูกตำรวจพาไปนั่งสอบปากคำพักใหญ่โดยมีเด็ดเดี่ยวดูแลอยู่ไม่ห่างส่วนนักรบก็นั่งคอยฟังความคืบหน้าการรักษาจากหมอในห้องผ่าตัดด้วยสีหน้าที่ตึงเครียดเพราะเป็นห่วงเจ้านายที่รักดั่งพี่ชายคนหนึ่งก็ว่าได้“เฮ้อ.. อดนอนนิดหน่อยทำสำออยไปได้ยัยน้ำริน”น้ำรินเดินออกมาจากห้องผ่าตัดด้วยใบหน้าซีดเซียวนั่งพักลงที่เก้าอี้ตรงหน้าห้องผ่าตัดสูดยาดมเฮือกใหญ่เธอถูกหมอและพยาบาลสั่งให้มาพักเพราะเหมือนจะวูบขณะเป็นลูกมือหมอไม่เข้าใจว่าร่างกายตัวเองตอนนี้ทำไมอ่อนแอเสียจริงทั้งที่วัยของเธอก็ยังไม่เข้าเลขสามอดนอนไม่ถึงคืนถึงกับจะเป็นลมเสีย
“บอกพ่อกับแม่คุณหรือยัง”ชายหนุ่มหย่อนก้นนั่งลงเก้าอี้โซฟาตรงข้ามกับน้ำรินก่อนจะเหลือบสายตามองไปยังโซฟาตัวยาวที่มีเรื่องราวของเขาและเธอในคืนนั้น“ยัง”น้ำรินรู้ว่าชายหนุ่มตรงหน้ากำลังคิดอะไรเธอรีบเข้ามานั่งตรงหน้าของเขาก่อนจะรีบตอบไปตามตรงเพราะลำบากใจที่จะคุยกับพ่อและแม่ด้วยกลัวว่าพวกท่านจะผิดหวังที่เธอดันมาท้องก่อนที่จะแต่งงานมีสามี“จะบอกพวกท่านเมื่อไร”“คุณจะมาเจ้ากี้เจ้าการอะไรกับชีวิตฉัน”น้ำรินบ่นเสียงอู้อี้“ก็ลูกผมอยู่ในท้องคุณ..ผมต้องรับผิดชอบ”“เฮ้อ...ฉันไม่กล้าบอกพ่อกับแม่”“ทำไม”“ฉันกลัวพวกท่านเสียใจ...”“อาจจะไม่เป็นอย่างที่คุณคิดก็ได้”“แล้วคุณล่ะบอกพ่อแม่คุณหรือยัง”“ผมไม่มี”“หืม”คำตอบของนักรบทำน้ำรินตกใจพอสมควร“ถ้าคุณกลัว..ผมจะคุยกับพ่อแม่คุณเอง”นักรบตัดสินใจแล้วว่าจะเข้าไปคุยกับพ่อแม่หญิงสาวเองหากเธอไม่กล้าพูดเพราะเขาอยากจะทำให้สิ่งที่เป็นปัญหาอยู่ตอนนี้ถูกคลี่คลายไปในทางที่ถูกต้อง“ฉันกลัวแม่กับพ่อฉันผิดหวังถ้ารู้ว่าฉันเมาแล้วไปนอนกับคนที่ไม่รู้จักจนท้อง”“ตอนนี้เราก็รู้จักกันแล้วไงผมชื่อนักรบคุณชื่อน้ำริน...เราแค่บอกพวกท่านว่าเราคบกันนานแล้วแค่นี้ก็ได้”“เฮ้อ.
ชาติเสือรักษาตัวได้สามสี่วันเขามีแม่และภรรยาคอยดูแลตลอดวันนี้ก็ได้กลับมาที่บ้านเสียที“แม่จะอยู่ดูแลแกที่นี่ต่อไม่ว่าอะไรนะ”สุรีพรแม้นจะไม่เคยได้รับคำพูดดีๆกับลูกชายเมื่อดูแลเขาอยู่ที่โรงพยาบาลแต่เธอก็อยากดูแลชาติเสือต่อจนหายดี“คุณแม่กลับไปเถอะครับผมมีทั้งลูกน้องทั้งทรายแก้วดูแลอยู่แล้ว”“อืม.. ได้.. พรุ่งนี้แม่จะกลับ”สุรีพรรับปากกับชาติเสือด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีนักบางครั้งเธอก็เหนื่อยเหลือเกินกับลูกชายตัวเองที่แม้นเธอจะมีทีท่าห่วงใยขนาดไหนแต่เขาก็ยังทำเป็นไม่รับรู้ทรายแก้วรับรู้คำที่ชาติเสือพูดจาไม่ค่อยดีใส่สุรีพรตลอดเธอจึงอึดอัดกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่พอสมควรทรายแก้วดูแลชาติเสือจนเขาหลับไปได้ก็ถึงเวลาที่เธอจะมาทำให้เรื่องคาใจมันกระจ่างเสียทีแม้นจะดูเสียมารยาทก็ตาม“ทรายขอเสียมารยาทถามนะคะคุณแม่..พี่เสือกับคุณแม่มีอคติอะไรต่อกันเหรอคะ”“เฮ้อ..เรื่องมันก็นานมาแล้วนะ.. ตอนนั้นตาเสือคบกับผู้หญิงอยู่คนนึง....”คราแรกสุรีพรไม่อยากจะพูดถึงเรื่องเก่าเท่าไรแต่เธอคิดว่าควรจะเล่าให้ภรรยาลูกได้รับรู้เผื่อทรายแก้วจะช่วยทำให้ความสัมพันธ์เธอกับลูกชายดีขึ้นได้บ้าง“อย่างนี้นี่เอง..”ทรายแก้วฟั
“คุณมาที่นี่ได้ไง”พลันสายตาชายหนุ่มยังไม่ทันตวัดมองไปที่ทรายแก้วผู้หญิงที่นั่งข้างภรรยาเจ้านายก็เป็นจุดดึงดูดความสนใจของเขาเสียก่อนในตอนนี้ทั้งน้ำรินและนักรบต่างก็มีท่าทีตกใจไปตามๆกัน“ฉันมาหาเพื่อนฉันแล้วคุณมาได้ไง”“ที่นี่บ้านเจ้านายผม...แล้วผมก็พักบ้านใกล้ๆนี้”“โลกกลมจังเลยนะคะ”ทรายแก้วไม่ต้องถามให้แน่ใจก็รู้แล้วว่าพ่อของลูกเพื่อนเธอเป็นใครเวลาพ้นผ่านไปร่วมอาทิตย์ตอนนี้ก็ถึงวันงานแต่งของนักรบและน้ำรินงานแต่งของทั้งสองจัดขึ้นที่บ้านของน้ำรินไม่ได้มีพิธีรีตรองอะไรมากมายมีเพียงบอกกล่าวให้เพื่อนๆและญาติที่สนิทได้รับรู้มีการวางสินสอดและจดทะเบียนสมรสเท่านั้นหลังเสร็จสิ้นพิธีบ่าวสาวก็สังสรรค์กับเพื่อนฝูงตามประสา“พี่ไม่นึกว่าจะเห็นภาพรบมีครอบครัวเลย”ชาติเสือยืนมองนักรบยืนคู่กับน้ำรินขณะแจกของชำร่วยให้คนที่มาในงานเขาปลื้มใจดั่งเห็นน้องชายคนหนึ่งเป็นฝั่งเป็นฝาแม้จะกะทันหันก็ตาม“ทรายก็ไม่คิดว่ารินจะแต่งงานมีลูกก่อนเพื่อนเหมือนกันค่ะ..”ทรายแก้วยิ้มร่าคิดมาเสมอว่าคนอย่างน้ำรินคงจะหาแฟนยากเพราะเป็นคนที่ค่อนข้างเลือกเยอะแล้วคนที่อยู่กับเพื่อนเธอได้ต้องเป็นคนที่ใจเย็นมากจริงๆเธอเห็นว่านี่แ
“แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความผิดคุณแม่ทั้งหมดนะคะท่านแค่หวังดีกับพี่เสือ..แล้วท่านก็ไม่ได้อยากให้เกิดเรื่องร้าย”“อย่าพูดเรื่องนี้กับพี่อีก”จบคำพูดของทรายแก้วชาติเสือก็ลุกขึ้นพรวดเอ่ยกับร่างบางเสียงแข็งด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์“เพราะพี่เสือยังรักคุณอรอยู่ใช่ไหมล่ะคะ”สาวเจ้ามองร่างสูงเดินเข้าบ้านผ่านม่านน้ำตาริมฝีปากบางเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือผสมความน้อยเนื้อต่ำใจอยากจะถามคำถามนี้กับเขาตั้งแต่เมื่อครู่แต่ใจก็ไม่กล้าเพราะกลัวคำตอบมันจะย้อนกลับมาทำร้ายจิตใจตัวเองตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงเช้าทรายแก้วไม่กล้าที่จะมองหน้าชาติเสือเท่าไรนักเพราะไม่รู้ว่าเขานั้นหายโกรธเธอหรือยังจวบจนได้เวลาอาหารเช้าเธอจึงยอมเดินมาตามชายหนุ่มที่เดินเล่นอยู่ริมชายหาดให้กลับไปที่บ้านพักเพื่อทานอาหารเช้า“พนักงานเอาอาหารเช้ามาเสริฟแล้วนะคะ”ชาติเสือดึงแขนเรียวของทรายแก้วรวบตัวเธอเข้ามากอดด้วยไม่อยากให้เธอและเขาต้องตกอยู่ในบรรยากาศที่อึมครึมขณะที่เที่ยวพักผ่อนกัน“โกรธพี่เรื่องเมื่อคืนเหรอ”หญิงสาวส่ายหัวซุกใบหน้าหวานซบกับอกแกร่ง“พี่แค่ไม่ชอบให้เธอพูดเรื่องนั้น..ขอได้หรือเปล่าอย่าพูดถึงมันอีก”“ก็ได้ค่ะ”ทรายแก้วเงียบไ
“อินเข้าใจแล้วล่ะค่ะ...แต่เอ..พี่ชายอินไม่มีใจให้คุณทรายจริงหรือเปล่าน้า”อินทิราหยอกชาติเสือด้วยรอยยิ้มอ่อนเพราะรู้ว่าคนอย่างชาติเสือหากไม่สนใจผู้หญิงคนไหนจริงๆคงไม่อยากให้อยู่ใกล้ตัว“อย่าแซวพี่สิ”ริมฝีปากหนาเริ่มคลี่ยิ้มเขินก่อนจะส่ายหัวแค่นี้อินทิราก็ดูออกแล้วว่าชาติเสือนั้นคิดอย่างไรกับทรายแก้วคงไม่ใช่แค่ผู้หญิงที่เป็นของเล่นชั่วครั้งชั่วคราวเป็นแน่แม้ชายหนุ่มจะทำทีปฏิเสธก็ตาม“น้ำผลไม้อินได้หรือยังคะคุณทราย”หลังลงมาจากชั้นบนพักใหญ่ทรายแก้วก็ตัดสินใจจะนำน้ำผลไม้ไปเสริฟให้กับอินทิราอีกครั้งแต่เธอดันลงมาก่อน“เอ่อ.. ได้พอดีค่ะช้าหน่อยนะคะ”“ขอบคุณค่ะ..”อินทิรายกแก้วน้ำผลม้ขึ้นดื่มเรียบร้อยแล้วจึงค่อๆหย่อนก้นลงนั่งที่โซฟาและล้วงกรอบรูปในกระเป๋าผ้ายื่นให้ทรายแก้วขณะที่เธอกำลังจะนั่งลงตรงข้าม“อ่อ..นี่รูปพี่อรอินลืมให้พี่เสือฝากคุณทรายด้วยนะคะ”“ค่ะ..”กรอบรูปโชว์ใบหน้าของอินทุอรหรายังไม่ทันที่จะถึงมือของทรายแก้วดีมันก็ล่วงหล่นลงพื้นเสียก่อนเพล้งง“พี่อร”อินทิรามีท่าทีตกใจจนร้องสุดเสียงทำให้ชาติเสือที่ได้ยินรีบวิ่งลงมาชั้นล่างด้วยความรวดเร็ว“ฉันขอโทษค่ะ”ทรายแก้วรีบก้มลงเก็บเศษก
ฟึ่บบบ.. ปึกกเมื่อรถตู้คันหรูแล่นออกมาจากบ้านหลังเล็กไม่นานนักก็ขับเข้ามาที่บ้านพักริมน้ำตกหลังใหญ่ติดริมถนนร่างบางที่ถูกมัดมือมัดปากถูกลากขึ้นมาโยนลงบนเตียงอย่างไร้ความนุ่มนวลทั้งถูกคนตัวโตคร่อมตรึงร่างเอาไว้ไม่ให้ดิ้นหนีไปไหน“กล้าดียังไงทรยศฉันฮะ!”เสียงทุ้มใหญ่ตวาดด้วยความโกรธก่อนจะดึงผ้าปิดปากของหญิงสาวออกเขาเชื่อใจหญิงสาวจนปล่อยให้เธอไปไหนมาไหนเองได้แต่เธอก็ดันมาทรยศความไว้ใจของเขาจนหมดสิ้น“ปล่อยทรายไปซะทีเถอะนะคะปล่อยให้ทรายมีชีวิตอิสระของทรายซะที”ทรายแก้วขอร้องด้วยเสียงสะอื้นน้ำตาแห่งความอึดอัดหัวใจหลั่งไหลมาไม่ขาดสาย“ไม่..เธอคือของของฉันถ้าฉันไม่อนุญาตให้ไปเธอก็ไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น”ร่างใหญ่ลุกขึ้นลงจากเตียงดึงขาเรียวของหญิงสาวเอาไว้ก่อนจะล่ามกับโซ่ใหญ่ขังเธอเอาไว้ให้หนีเขาไปไหนไม่ได้อีก“คิดจะหนีฉันก็ต้องเจอแบบนี้”“ทรายไม่ใช่สัตว์เลี้ยงอย่าทำแบบนี้..ฮือๆๆ”ใบหน้าหวานแปดเปื้อนไปด้วยน้ำตาเมื่อถูกคนที่ตนรักกระทำเยี่ยงเธอไม่ใช่คนแคว้กก.. “อื้อ...”เสื้อผ้าของทรายแก้วถูกฉีกทิ้งเป็นเสี่ยงๆด้วยน้ำมือของชาติเสือตอนนี้เขาดูดุร้ายกว่าทุกครั้งที่ทรายแก้วเคยพบจนเธอรู้สึกกลัวอารมณ์
สุรีพรรับรู้เรื่องราวทุกอย่างจากชาติเสือเธอก็มีท่าทีเป็นห่วงทรายแก้วไม่น้อยด้วยเอ็นดูเห็นหญิงสาวเป็นลูกคนหนึ่งไปแล้ววันนี้เธอจึงเดินทางมาที่บ้านน้ำรินเพื่อมาดูสภาพจิตใจของทรายแก้วว่าเธอนั้นเป็นอย่างไรบ้าง“ทรายแก้ว”“คุณแม่”ทรายแก้วเห็นสุรีพรก็โผเข้ากอดแน่น“กินอะไรเสียหน่อยเถอะนะ...พี่เราเค้าจะได้ไปดีไม่ต้องมามีห่วงอะไร”สุรีพรรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดของทรายแก้วเธอยกมือลูบหัวทุยเบาๆปลอบโยนหญิงสาวด้วยความสงสารสุรีพรอยู่กับทรายแก้วพักใหญ่จนหญิงสาวนั้นยอมทานข้าวได้บ้างเธอจึงกลับ“ทรายเป็นยังไงบ้างครับคุณแม่”ชาติเสือเอ่ยถามคนเป็นแม่ขณะที่ท่านเดินเข้ามาในบ้านด้วยน้ำเสียงและท่าทีเหนื่อยอ่อนเพราะยุ่งกับงานที่วัดมาทั้งวัน“เธอเจ็บปวดมาก..มากจริงๆ”“เป็นเพราะผม”ชาติเสือนั่งฟุบลงกุมขมับที่โซฟาไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองอ่อนแออย่างที่ไม่เคยเป็นเช่นนี้“รักเธอจริงๆใช่ไหม”สุรีพรลงนั่งข้างลูกชายยื่นมือแตะบ่าก่อนจะเอ่ยถามชาติเสือด้วยน้ำเสียงอ่อนแม้นจะรู้เรื่องราวทั้งหมดว่าทุกอย่างเป็นแค่สัญญาแต่เธอก็ดูออกว่าลูกชายของเธอและทรายแก้วน่าจะรักกันจริงๆ“ครับ...”ชาติเสือพยักหน้าอย่างไม่ลังเลก่อนจะรวบกอดแม่