Share

ตอนที่30 ปวดใจ

ชาติเสือรักษาตัวได้สามสี่วันเขามีแม่และภรรยาคอยดูแลตลอดวันนี้ก็ได้กลับมาที่บ้านเสียที

“แม่จะอยู่ดูแลแกที่นี่ต่อไม่ว่าอะไรนะ”

สุรีพรแม้นจะไม่เคยได้รับคำพูดดีๆกับลูกชายเมื่อดูแลเขาอยู่ที่โรงพยาบาลแต่เธอก็อยากดูแลชาติเสือต่อจนหายดี

“คุณแม่กลับไปเถอะครับผมมีทั้งลูกน้องทั้งทรายแก้วดูแลอยู่แล้ว”

“อืม.. ได้.. พรุ่งนี้แม่จะกลับ”

สุรีพรรับปากกับชาติเสือด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีนักบางครั้งเธอก็เหนื่อยเหลือเกินกับลูกชายตัวเองที่แม้นเธอจะมีทีท่าห่วงใยขนาดไหนแต่เขาก็ยังทำเป็นไม่รับรู้

ทรายแก้วรับรู้คำที่ชาติเสือพูดจาไม่ค่อยดีใส่สุรีพรตลอดเธอจึงอึดอัดกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่พอสมควร

ทรายแก้วดูแลชาติเสือจนเขาหลับไปได้ก็ถึงเวลาที่เธอจะมาทำให้เรื่องคาใจมันกระจ่างเสียทีแม้นจะดูเสียมารยาทก็ตาม

“ทรายขอเสียมารยาทถามนะคะคุณแม่..พี่เสือกับคุณแม่มีอคติอะไรต่อกันเหรอคะ”

“เฮ้อ..เรื่องมันก็นานมาแล้วนะ.. ตอนนั้นตาเสือคบกับผู้หญิงอยู่คนนึง....”

คราแรกสุรีพรไม่อยากจะพูดถึงเรื่องเก่าเท่าไรแต่เธอคิดว่าควรจะเล่าให้ภรรยาลูกได้รับรู้เผื่อทรายแก้วจะช่วยทำให้ความสัมพันธ์เธอกับลูกชายดีขึ้นได้บ้าง

“อย่างนี้นี่เอง..”

ทรายแก้วฟังจบก็พอจะเข้าใจในสิ่งที่ขาติเสือเป็นและคิดว่าที่ชาติเสือยังคงขุ่นเคืองแม่ตัวเองอยู่คงเป็นเพราะยังรักอินทุอรไม่คลายยิ่งรู้เช่นนี้หัวใจของเธอตอนนี้ก็ยิ่งเริ่มหน่วงเพราะรู้ตัวว่าตัวเองนั้นรักชาติเสือไปแล้ว

“ตอนนั้นเธอจะว่าฉันใจร้ายกับเธอก็ได้แต่ฉันไม่อยากเชื่อใจใครง่ายๆเท่านั้น...กลัวประวัติศาสตร์ซ้ำรอย”

“ทรายเข้าใจค่ะคุณแม่”

“ถ้าเธอทำให้ตาเสือกลับบ้านไปบริหารงานที่บริษัทเหมือนเดิมได้ฉันจะยอมรับเธอว่าเธอเป็นคนดีและรักลูกฉันจริงๆ”

“ทรายจะลองคุยกับคุณเสือให้นะคะ”

ทรายแก้วรับปากสุรีพรไม่ใช่อยากถูกยอมรับแต่เพียงอยากช่วยให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดีขึ้นหากเธอทำสำเร็จวันที่เธอต้องจากไปอย่างน้อยก็มีความดีให้คนทั้งสองคิดถึงบ้าง

“ขอบใจมาก”

“คุณแม่จะไปหาเจ้าถังทองไหมคะตอนนี้มันตัวใหญ่มากแล้วค่ะ”

ทรายแก้วเห็นว่าคุยเรื่องไม่สบายใจกันมามากแล้วจึงอยากให้สุรีพรผ่อนคลายโดยการชวนเธอไปหาเจ้าถังทองลูกหมาที่สุรีพรนั้นออกเงินช่วยรักษาชีวิตจนมันหายดี

“ไปสิ..ฉันก็อยากเห็นมันเหมือนกัน”

ทรายแก้วพาสุรีพรเดินมาที่เรือนเล็กก่อนจะตะโกนเรียกเจ้าหมาตัวอ้วนใหญ่ให้ออกมาจากบ้านหลังสีชมพูของมัน

“ถังทองมาหาฉันเร็ว”

หงิงๆๆ

เจ้าหมาตัวอ้วนสีขาววิ่งออกมาจากบ้านกระโจนเข้าหาทรายแก้วครงหงิงๆออดอ้อนเช่นเคยทำทั้งโผเข้าหาสุรีพรโดยที่ไม่กลัวแม้นจะเจอกันในตอนเจ็บเพียงครั้งเดียว

“ดูท่ามันจะรู้นะคะว่าใครใจดีกับมัน”

ทรายแก้วยิ้มร่าที่เจ้าถังทองที่เธอเลี้ยงกับมือจำคนที่มีบุญคุณกับมันได้

“ไงล่ะแก.. ฉันนึกว่าจะไม่รอดตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว”

หงิงงๆๆ

เจ้าหมาตัวกลมออดอ้อนจนสุรีพรเริ่มคุยหยอกเล่นกับมันหน้าระรื่น

“มันอ้อนเก่งมากเลยนะคะคุณแม่...ยิ่งถ้าเห็นเรามีอะไรติดไม้ติดมือมาด้วยยิ่งอ้อนกว่านี้อีกค่ะ”

“ดูท่าเธอจะเอ็นดูมันมากเลยนะ”

“ค่ะ..มันเป็นเพื่อนคลายเหงาที่ดีที่สุดเลย”

“อืม...วันๆตาเสือทำแต่งานไม่ค่อยได้พาเธอออกไปไหนสินะ”

“ค่ะคุณแม่”

ทรายแก้วพยักหน้าเบาๆ

“เธอไม่คิดจะมีลูกบ้างเหรอ”

“เอ่อ..ทรายยังไม่ได้คุยเรื่องลูกกับพี่เสือค่ะ..”

ทรายแก้วหน้าเจื่อนในทันทีเมื่อสุรีพรพูดถึงเรื่องมีลูกเพราะเรื่องนั้นชาติเสือคงไม่คิดอยู่แล้วแถมเธอยังทานยาคุมตลอดเพราะรู้ว่าความสัมพันธ์ของเธอและชาติเสือไม่นานก็จบลงหากเขานั้นเบื่อเธอ

“อืม...ฉันว่ารีบคุยกันก็ดีนะฉันอยากจะมีหลานอุ้มแล้ว”

“ค่ะคุณแม่”

ทรายแก้วแสร้งรับปากไปผิวเผินแม้นความรักของเธอจะเป็นไปไม่ได้อย่างน้อยก็รู้ว่าสุรีพรเริ่มเอ็นดูเธอแล้วไม่เช่นนั้นคงไม่คิดอยากให้เธอมีหลานให้

ช่วงสายของวันต่อมาทรายแก้วยืนเหม่ออยู่ในครัวหลังจากที่สุรีพรกลับไปแล้วเธอก็เอาแต่นั่งคิดเรื่องของชาติเสือกับอินทุอรไม่ได้อยากให้ตัวเองฟุ้งซ่านเลยสักนิดแต่บังคับตัวเองไม่ได้จริงๆ

Rrrrr

มือน้อยล้วงหยิบมือถือในกระเป๋ากางเกงกดรับเมื่อเห็นปลายสายเป็นเพื่อนของตัวเอง

“ว่าไงริน...มาได้เลยฉันอยู่บ้าน”

หลังจากทรายแก้ววางหูเรียบร้อยไม่นานนักน้ำรินก็ขับรถเข้ามาหาเธอที่บ้านข่าวของน้ำรินที่เอ่ยบอกกับทรายแก้วทำเอาหญิงสาวตกใจไม่น้อย

“อ..อะไรนะท้อง”

“อืม..อาทิตย์หน้าฉันจะจัดงานผูกข้อไม้ข้อมือที่บ้านบอกแค่คนสนิทกับเพื่อนๆเท่านั้นไม่ได้จัดงานใหญ่โตอะไร”

น้ำรินพยักหน้าตอบเธอต้องรีบมาบอกทรายแก้วให้รับรู้ด้วยตัวเองเพราะงานแต่งของเธอจะเริ่มในเวลากระชั้นชิด

“แล้วผู้ชายคนที่แกท้องด้วยไปคบตั้งแต่เมื่อไร”

ทรายแก้วอยากจะรู้ข้อนี้เต็มแก่เพราะไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเพื่อนตัวเองมีคนที่คบหาอยู่ด้วย

“คบอะไรล่ะ...ฉันนอนกับเค้าแค่คืนเดียวตอนเมาเค้ามารู้ว่าฉันท้องตอนเจอกันที่โรงพยาบาล”

“หา..ล..แล้ว..เค้าขอรับผิดชอบเองหรือแกขอร้อง”

“หึ.. ฉันไม่เคยขอร้อง”

น้ำรินส่ายหัวในครั้งนั้นเธอคิดอะไรไม่ออกเป็นนักรบเองที่เอ่ยปากจะขอรับผิดชอบเธอทุกอย่าง

“นับว่าเค้าก็เป็นสุภาพบุรุษอยู่นะ”

ทรายแก้วคิดว่าคนที่เป็นพ่อของลูกน้ำรินคงมีความคิดที่ดีอยู่พอตัวไม่เช่นนั้นคงไม่ออกตัวรับผิดชอบทั้งที่เพื่อนเธอไม่ได้เอ่ยปาก

“ก็.. ถือว่าดีในระดับหนึ่งเค้าเป็นผู้จัดการบริษัททัวร์ในตัวเมืองใกล้ๆกับร้านดอกไม้แม่ฉัน”

น้ำรินยอมรับว่านักรบก็ถือว่าเป็นผู้ชายที่นิสัยใช้ได้คนหนึ่งจากที่สัมผัสมาแต่เสียตรงที่คืนนั้นชายหนุ่มเกิดห้ามใจให้ทำอะไรเธอไม่ได้เท่านั้น

“เดี๋ยวนะ...เค้าชื่อ..คุณรบ!”

ทรายแก้วเริ่มคิ้วชนกันหากเป็นผู้จัดการอยู่ที่บริษัททัวร์ใกล้ๆร้านดอกไม้ของพ่อแม่น้ำรินเธอคิดว่าไม่วายคงเป็นนักรบและแล้วชายหนุ่มในความคิดของเธอก็เดินเข้ามาในบ้านพอดีทรายแก้วจึงรีบเรียกนักรบเอาไว้

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status