ชาติเสือรักษาตัวได้สามสี่วันเขามีแม่และภรรยาคอยดูแลตลอดวันนี้ก็ได้กลับมาที่บ้านเสียที
“แม่จะอยู่ดูแลแกที่นี่ต่อไม่ว่าอะไรนะ”
สุรีพรแม้นจะไม่เคยได้รับคำพูดดีๆกับลูกชายเมื่อดูแลเขาอยู่ที่โรงพยาบาลแต่เธอก็อยากดูแลชาติเสือต่อจนหายดี
“คุณแม่กลับไปเถอะครับผมมีทั้งลูกน้องทั้งทรายแก้วดูแลอยู่แล้ว”
“อืม.. ได้.. พรุ่งนี้แม่จะกลับ”
สุรีพรรับปากกับชาติเสือด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีนักบางครั้งเธอก็เหนื่อยเหลือเกินกับลูกชายตัวเองที่แม้นเธอจะมีทีท่าห่วงใยขนาดไหนแต่เขาก็ยังทำเป็นไม่รับรู้
ทรายแก้วรับรู้คำที่ชาติเสือพูดจาไม่ค่อยดีใส่สุรีพรตลอดเธอจึงอึดอัดกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่พอสมควร
ทรายแก้วดูแลชาติเสือจนเขาหลับไปได้ก็ถึงเวลาที่เธอจะมาทำให้เรื่องคาใจมันกระจ่างเสียทีแม้นจะดูเสียมารยาทก็ตาม
“ทรายขอเสียมารยาทถามนะคะคุณแม่..พี่เสือกับคุณแม่มีอคติอะไรต่อกันเหรอคะ”
“เฮ้อ..เรื่องมันก็นานมาแล้วนะ.. ตอนนั้นตาเสือคบกับผู้หญิงอยู่คนนึง....”
คราแรกสุรีพรไม่อยากจะพูดถึงเรื่องเก่าเท่าไรแต่เธอคิดว่าควรจะเล่าให้ภรรยาลูกได้รับรู้เผื่อทรายแก้วจะช่วยทำให้ความสัมพันธ์เธอกับลูกชายดีขึ้นได้บ้าง
“อย่างนี้นี่เอง..”
ทรายแก้วฟังจบก็พอจะเข้าใจในสิ่งที่ขาติเสือเป็นและคิดว่าที่ชาติเสือยังคงขุ่นเคืองแม่ตัวเองอยู่คงเป็นเพราะยังรักอินทุอรไม่คลายยิ่งรู้เช่นนี้หัวใจของเธอตอนนี้ก็ยิ่งเริ่มหน่วงเพราะรู้ตัวว่าตัวเองนั้นรักชาติเสือไปแล้ว
“ตอนนั้นเธอจะว่าฉันใจร้ายกับเธอก็ได้แต่ฉันไม่อยากเชื่อใจใครง่ายๆเท่านั้น...กลัวประวัติศาสตร์ซ้ำรอย”
“ทรายเข้าใจค่ะคุณแม่”
“ถ้าเธอทำให้ตาเสือกลับบ้านไปบริหารงานที่บริษัทเหมือนเดิมได้ฉันจะยอมรับเธอว่าเธอเป็นคนดีและรักลูกฉันจริงๆ”
“ทรายจะลองคุยกับคุณเสือให้นะคะ”
ทรายแก้วรับปากสุรีพรไม่ใช่อยากถูกยอมรับแต่เพียงอยากช่วยให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดีขึ้นหากเธอทำสำเร็จวันที่เธอต้องจากไปอย่างน้อยก็มีความดีให้คนทั้งสองคิดถึงบ้าง
“ขอบใจมาก”
“คุณแม่จะไปหาเจ้าถังทองไหมคะตอนนี้มันตัวใหญ่มากแล้วค่ะ”
ทรายแก้วเห็นว่าคุยเรื่องไม่สบายใจกันมามากแล้วจึงอยากให้สุรีพรผ่อนคลายโดยการชวนเธอไปหาเจ้าถังทองลูกหมาที่สุรีพรนั้นออกเงินช่วยรักษาชีวิตจนมันหายดี
“ไปสิ..ฉันก็อยากเห็นมันเหมือนกัน”
ทรายแก้วพาสุรีพรเดินมาที่เรือนเล็กก่อนจะตะโกนเรียกเจ้าหมาตัวอ้วนใหญ่ให้ออกมาจากบ้านหลังสีชมพูของมัน
“ถังทองมาหาฉันเร็ว”
หงิงๆๆ
เจ้าหมาตัวอ้วนสีขาววิ่งออกมาจากบ้านกระโจนเข้าหาทรายแก้วครงหงิงๆออดอ้อนเช่นเคยทำทั้งโผเข้าหาสุรีพรโดยที่ไม่กลัวแม้นจะเจอกันในตอนเจ็บเพียงครั้งเดียว
“ดูท่ามันจะรู้นะคะว่าใครใจดีกับมัน”
ทรายแก้วยิ้มร่าที่เจ้าถังทองที่เธอเลี้ยงกับมือจำคนที่มีบุญคุณกับมันได้
“ไงล่ะแก.. ฉันนึกว่าจะไม่รอดตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว”
หงิงงๆๆ
เจ้าหมาตัวกลมออดอ้อนจนสุรีพรเริ่มคุยหยอกเล่นกับมันหน้าระรื่น
“มันอ้อนเก่งมากเลยนะคะคุณแม่...ยิ่งถ้าเห็นเรามีอะไรติดไม้ติดมือมาด้วยยิ่งอ้อนกว่านี้อีกค่ะ”
“ดูท่าเธอจะเอ็นดูมันมากเลยนะ”
“ค่ะ..มันเป็นเพื่อนคลายเหงาที่ดีที่สุดเลย”
“อืม...วันๆตาเสือทำแต่งานไม่ค่อยได้พาเธอออกไปไหนสินะ”
“ค่ะคุณแม่”
ทรายแก้วพยักหน้าเบาๆ
“เธอไม่คิดจะมีลูกบ้างเหรอ”
“เอ่อ..ทรายยังไม่ได้คุยเรื่องลูกกับพี่เสือค่ะ..”
ทรายแก้วหน้าเจื่อนในทันทีเมื่อสุรีพรพูดถึงเรื่องมีลูกเพราะเรื่องนั้นชาติเสือคงไม่คิดอยู่แล้วแถมเธอยังทานยาคุมตลอดเพราะรู้ว่าความสัมพันธ์ของเธอและชาติเสือไม่นานก็จบลงหากเขานั้นเบื่อเธอ
“อืม...ฉันว่ารีบคุยกันก็ดีนะฉันอยากจะมีหลานอุ้มแล้ว”
“ค่ะคุณแม่”
ทรายแก้วแสร้งรับปากไปผิวเผินแม้นความรักของเธอจะเป็นไปไม่ได้อย่างน้อยก็รู้ว่าสุรีพรเริ่มเอ็นดูเธอแล้วไม่เช่นนั้นคงไม่คิดอยากให้เธอมีหลานให้
ช่วงสายของวันต่อมาทรายแก้วยืนเหม่ออยู่ในครัวหลังจากที่สุรีพรกลับไปแล้วเธอก็เอาแต่นั่งคิดเรื่องของชาติเสือกับอินทุอรไม่ได้อยากให้ตัวเองฟุ้งซ่านเลยสักนิดแต่บังคับตัวเองไม่ได้จริงๆ
Rrrrr
มือน้อยล้วงหยิบมือถือในกระเป๋ากางเกงกดรับเมื่อเห็นปลายสายเป็นเพื่อนของตัวเอง
“ว่าไงริน...มาได้เลยฉันอยู่บ้าน”
หลังจากทรายแก้ววางหูเรียบร้อยไม่นานนักน้ำรินก็ขับรถเข้ามาหาเธอที่บ้านข่าวของน้ำรินที่เอ่ยบอกกับทรายแก้วทำเอาหญิงสาวตกใจไม่น้อย
“อ..อะไรนะท้อง”
“อืม..อาทิตย์หน้าฉันจะจัดงานผูกข้อไม้ข้อมือที่บ้านบอกแค่คนสนิทกับเพื่อนๆเท่านั้นไม่ได้จัดงานใหญ่โตอะไร”
น้ำรินพยักหน้าตอบเธอต้องรีบมาบอกทรายแก้วให้รับรู้ด้วยตัวเองเพราะงานแต่งของเธอจะเริ่มในเวลากระชั้นชิด
“แล้วผู้ชายคนที่แกท้องด้วยไปคบตั้งแต่เมื่อไร”
ทรายแก้วอยากจะรู้ข้อนี้เต็มแก่เพราะไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเพื่อนตัวเองมีคนที่คบหาอยู่ด้วย
“คบอะไรล่ะ...ฉันนอนกับเค้าแค่คืนเดียวตอนเมาเค้ามารู้ว่าฉันท้องตอนเจอกันที่โรงพยาบาล”
“หา..ล..แล้ว..เค้าขอรับผิดชอบเองหรือแกขอร้อง”
“หึ.. ฉันไม่เคยขอร้อง”
น้ำรินส่ายหัวในครั้งนั้นเธอคิดอะไรไม่ออกเป็นนักรบเองที่เอ่ยปากจะขอรับผิดชอบเธอทุกอย่าง
“นับว่าเค้าก็เป็นสุภาพบุรุษอยู่นะ”
ทรายแก้วคิดว่าคนที่เป็นพ่อของลูกน้ำรินคงมีความคิดที่ดีอยู่พอตัวไม่เช่นนั้นคงไม่ออกตัวรับผิดชอบทั้งที่เพื่อนเธอไม่ได้เอ่ยปาก
“ก็.. ถือว่าดีในระดับหนึ่งเค้าเป็นผู้จัดการบริษัททัวร์ในตัวเมืองใกล้ๆกับร้านดอกไม้แม่ฉัน”
น้ำรินยอมรับว่านักรบก็ถือว่าเป็นผู้ชายที่นิสัยใช้ได้คนหนึ่งจากที่สัมผัสมาแต่เสียตรงที่คืนนั้นชายหนุ่มเกิดห้ามใจให้ทำอะไรเธอไม่ได้เท่านั้น
“เดี๋ยวนะ...เค้าชื่อ..คุณรบ!”
ทรายแก้วเริ่มคิ้วชนกันหากเป็นผู้จัดการอยู่ที่บริษัททัวร์ใกล้ๆร้านดอกไม้ของพ่อแม่น้ำรินเธอคิดว่าไม่วายคงเป็นนักรบและแล้วชายหนุ่มในความคิดของเธอก็เดินเข้ามาในบ้านพอดีทรายแก้วจึงรีบเรียกนักรบเอาไว้
“คุณมาที่นี่ได้ไง”พลันสายตาชายหนุ่มยังไม่ทันตวัดมองไปที่ทรายแก้วผู้หญิงที่นั่งข้างภรรยาเจ้านายก็เป็นจุดดึงดูดความสนใจของเขาเสียก่อนในตอนนี้ทั้งน้ำรินและนักรบต่างก็มีท่าทีตกใจไปตามๆกัน“ฉันมาหาเพื่อนฉันแล้วคุณมาได้ไง”“ที่นี่บ้านเจ้านายผม...แล้วผมก็พักบ้านใกล้ๆนี้”“โลกกลมจังเลยนะคะ”ทรายแก้วไม่ต้องถามให้แน่ใจก็รู้แล้วว่าพ่อของลูกเพื่อนเธอเป็นใครเวลาพ้นผ่านไปร่วมอาทิตย์ตอนนี้ก็ถึงวันงานแต่งของนักรบและน้ำรินงานแต่งของทั้งสองจัดขึ้นที่บ้านของน้ำรินไม่ได้มีพิธีรีตรองอะไรมากมายมีเพียงบอกกล่าวให้เพื่อนๆและญาติที่สนิทได้รับรู้มีการวางสินสอดและจดทะเบียนสมรสเท่านั้นหลังเสร็จสิ้นพิธีบ่าวสาวก็สังสรรค์กับเพื่อนฝูงตามประสา“พี่ไม่นึกว่าจะเห็นภาพรบมีครอบครัวเลย”ชาติเสือยืนมองนักรบยืนคู่กับน้ำรินขณะแจกของชำร่วยให้คนที่มาในงานเขาปลื้มใจดั่งเห็นน้องชายคนหนึ่งเป็นฝั่งเป็นฝาแม้จะกะทันหันก็ตาม“ทรายก็ไม่คิดว่ารินจะแต่งงานมีลูกก่อนเพื่อนเหมือนกันค่ะ..”ทรายแก้วยิ้มร่าคิดมาเสมอว่าคนอย่างน้ำรินคงจะหาแฟนยากเพราะเป็นคนที่ค่อนข้างเลือกเยอะแล้วคนที่อยู่กับเพื่อนเธอได้ต้องเป็นคนที่ใจเย็นมากจริงๆเธอเห็นว่านี่แ
“แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความผิดคุณแม่ทั้งหมดนะคะท่านแค่หวังดีกับพี่เสือ..แล้วท่านก็ไม่ได้อยากให้เกิดเรื่องร้าย”“อย่าพูดเรื่องนี้กับพี่อีก”จบคำพูดของทรายแก้วชาติเสือก็ลุกขึ้นพรวดเอ่ยกับร่างบางเสียงแข็งด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์“เพราะพี่เสือยังรักคุณอรอยู่ใช่ไหมล่ะคะ”สาวเจ้ามองร่างสูงเดินเข้าบ้านผ่านม่านน้ำตาริมฝีปากบางเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือผสมความน้อยเนื้อต่ำใจอยากจะถามคำถามนี้กับเขาตั้งแต่เมื่อครู่แต่ใจก็ไม่กล้าเพราะกลัวคำตอบมันจะย้อนกลับมาทำร้ายจิตใจตัวเองตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงเช้าทรายแก้วไม่กล้าที่จะมองหน้าชาติเสือเท่าไรนักเพราะไม่รู้ว่าเขานั้นหายโกรธเธอหรือยังจวบจนได้เวลาอาหารเช้าเธอจึงยอมเดินมาตามชายหนุ่มที่เดินเล่นอยู่ริมชายหาดให้กลับไปที่บ้านพักเพื่อทานอาหารเช้า“พนักงานเอาอาหารเช้ามาเสริฟแล้วนะคะ”ชาติเสือดึงแขนเรียวของทรายแก้วรวบตัวเธอเข้ามากอดด้วยไม่อยากให้เธอและเขาต้องตกอยู่ในบรรยากาศที่อึมครึมขณะที่เที่ยวพักผ่อนกัน“โกรธพี่เรื่องเมื่อคืนเหรอ”หญิงสาวส่ายหัวซุกใบหน้าหวานซบกับอกแกร่ง“พี่แค่ไม่ชอบให้เธอพูดเรื่องนั้น..ขอได้หรือเปล่าอย่าพูดถึงมันอีก”“ก็ได้ค่ะ”ทรายแก้วเงียบไ
“อินเข้าใจแล้วล่ะค่ะ...แต่เอ..พี่ชายอินไม่มีใจให้คุณทรายจริงหรือเปล่าน้า”อินทิราหยอกชาติเสือด้วยรอยยิ้มอ่อนเพราะรู้ว่าคนอย่างชาติเสือหากไม่สนใจผู้หญิงคนไหนจริงๆคงไม่อยากให้อยู่ใกล้ตัว“อย่าแซวพี่สิ”ริมฝีปากหนาเริ่มคลี่ยิ้มเขินก่อนจะส่ายหัวแค่นี้อินทิราก็ดูออกแล้วว่าชาติเสือนั้นคิดอย่างไรกับทรายแก้วคงไม่ใช่แค่ผู้หญิงที่เป็นของเล่นชั่วครั้งชั่วคราวเป็นแน่แม้ชายหนุ่มจะทำทีปฏิเสธก็ตาม“น้ำผลไม้อินได้หรือยังคะคุณทราย”หลังลงมาจากชั้นบนพักใหญ่ทรายแก้วก็ตัดสินใจจะนำน้ำผลไม้ไปเสริฟให้กับอินทิราอีกครั้งแต่เธอดันลงมาก่อน“เอ่อ.. ได้พอดีค่ะช้าหน่อยนะคะ”“ขอบคุณค่ะ..”อินทิรายกแก้วน้ำผลม้ขึ้นดื่มเรียบร้อยแล้วจึงค่อๆหย่อนก้นลงนั่งที่โซฟาและล้วงกรอบรูปในกระเป๋าผ้ายื่นให้ทรายแก้วขณะที่เธอกำลังจะนั่งลงตรงข้าม“อ่อ..นี่รูปพี่อรอินลืมให้พี่เสือฝากคุณทรายด้วยนะคะ”“ค่ะ..”กรอบรูปโชว์ใบหน้าของอินทุอรหรายังไม่ทันที่จะถึงมือของทรายแก้วดีมันก็ล่วงหล่นลงพื้นเสียก่อนเพล้งง“พี่อร”อินทิรามีท่าทีตกใจจนร้องสุดเสียงทำให้ชาติเสือที่ได้ยินรีบวิ่งลงมาชั้นล่างด้วยความรวดเร็ว“ฉันขอโทษค่ะ”ทรายแก้วรีบก้มลงเก็บเศษก
ฟึ่บบบ.. ปึกกเมื่อรถตู้คันหรูแล่นออกมาจากบ้านหลังเล็กไม่นานนักก็ขับเข้ามาที่บ้านพักริมน้ำตกหลังใหญ่ติดริมถนนร่างบางที่ถูกมัดมือมัดปากถูกลากขึ้นมาโยนลงบนเตียงอย่างไร้ความนุ่มนวลทั้งถูกคนตัวโตคร่อมตรึงร่างเอาไว้ไม่ให้ดิ้นหนีไปไหน“กล้าดียังไงทรยศฉันฮะ!”เสียงทุ้มใหญ่ตวาดด้วยความโกรธก่อนจะดึงผ้าปิดปากของหญิงสาวออกเขาเชื่อใจหญิงสาวจนปล่อยให้เธอไปไหนมาไหนเองได้แต่เธอก็ดันมาทรยศความไว้ใจของเขาจนหมดสิ้น“ปล่อยทรายไปซะทีเถอะนะคะปล่อยให้ทรายมีชีวิตอิสระของทรายซะที”ทรายแก้วขอร้องด้วยเสียงสะอื้นน้ำตาแห่งความอึดอัดหัวใจหลั่งไหลมาไม่ขาดสาย“ไม่..เธอคือของของฉันถ้าฉันไม่อนุญาตให้ไปเธอก็ไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น”ร่างใหญ่ลุกขึ้นลงจากเตียงดึงขาเรียวของหญิงสาวเอาไว้ก่อนจะล่ามกับโซ่ใหญ่ขังเธอเอาไว้ให้หนีเขาไปไหนไม่ได้อีก“คิดจะหนีฉันก็ต้องเจอแบบนี้”“ทรายไม่ใช่สัตว์เลี้ยงอย่าทำแบบนี้..ฮือๆๆ”ใบหน้าหวานแปดเปื้อนไปด้วยน้ำตาเมื่อถูกคนที่ตนรักกระทำเยี่ยงเธอไม่ใช่คนแคว้กก.. “อื้อ...”เสื้อผ้าของทรายแก้วถูกฉีกทิ้งเป็นเสี่ยงๆด้วยน้ำมือของชาติเสือตอนนี้เขาดูดุร้ายกว่าทุกครั้งที่ทรายแก้วเคยพบจนเธอรู้สึกกลัวอารมณ์
สุรีพรรับรู้เรื่องราวทุกอย่างจากชาติเสือเธอก็มีท่าทีเป็นห่วงทรายแก้วไม่น้อยด้วยเอ็นดูเห็นหญิงสาวเป็นลูกคนหนึ่งไปแล้ววันนี้เธอจึงเดินทางมาที่บ้านน้ำรินเพื่อมาดูสภาพจิตใจของทรายแก้วว่าเธอนั้นเป็นอย่างไรบ้าง“ทรายแก้ว”“คุณแม่”ทรายแก้วเห็นสุรีพรก็โผเข้ากอดแน่น“กินอะไรเสียหน่อยเถอะนะ...พี่เราเค้าจะได้ไปดีไม่ต้องมามีห่วงอะไร”สุรีพรรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดของทรายแก้วเธอยกมือลูบหัวทุยเบาๆปลอบโยนหญิงสาวด้วยความสงสารสุรีพรอยู่กับทรายแก้วพักใหญ่จนหญิงสาวนั้นยอมทานข้าวได้บ้างเธอจึงกลับ“ทรายเป็นยังไงบ้างครับคุณแม่”ชาติเสือเอ่ยถามคนเป็นแม่ขณะที่ท่านเดินเข้ามาในบ้านด้วยน้ำเสียงและท่าทีเหนื่อยอ่อนเพราะยุ่งกับงานที่วัดมาทั้งวัน“เธอเจ็บปวดมาก..มากจริงๆ”“เป็นเพราะผม”ชาติเสือนั่งฟุบลงกุมขมับที่โซฟาไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองอ่อนแออย่างที่ไม่เคยเป็นเช่นนี้“รักเธอจริงๆใช่ไหม”สุรีพรลงนั่งข้างลูกชายยื่นมือแตะบ่าก่อนจะเอ่ยถามชาติเสือด้วยน้ำเสียงอ่อนแม้นจะรู้เรื่องราวทั้งหมดว่าทุกอย่างเป็นแค่สัญญาแต่เธอก็ดูออกว่าลูกชายของเธอและทรายแก้วน่าจะรักกันจริงๆ“ครับ...”ชาติเสือพยักหน้าอย่างไม่ลังเลก่อนจะรวบกอดแม่
“ผมรู้ครับว่าใครเป็นคนจับตัวคุณทรายไป”“สิชล”ชาติเสือมองไปยังผู้ชายที่เขารู้จักดีว่าเป็นใครเขาคือสิชลเพื่อนสนิทในกลุ่มของอินทุอรแต่ไม่รู้ว่าสิชลนั้นรู้ได้อย่างไรว่าทรายแก้วถูกจับตัวไป“เรื่องทุกอย่างเป็นฝีมือของอิน”“อิน.. ทำไม”ทุกคนต่างหูผึ่งจ้องมองมายังชายผู้มาใหม่รอฟังคำอธิบายของเขาเป็นตาเดียว“คุณพาฉันมาที่นี่ทำไม”ทรายแก้วที่ถูกมัดมือมัดเท้านั่งอยู่มุมห้องมองอินทิราอย่างไม่เข้าใจว่าหญิงสาวหลอกให้เธอตามมาที่นี่แล้วกระทำกับเธอแบบนี้เพราะอะไร“ก็เพราะเธอดันซวยเป็นคนรักของพี่เสือน่ะสิ”อินทิราสบถออกมาด้วยท่าทีเป็นคนละคนกับที่ทรายแก้วเคยรู้จักเธอดูมีความโกรธแค้นในใจมากมายแววตาของเธอก็ดูเศร้าอย่างเห็นได้ชัด“คนรักเหรอ...ฉันไม่ใช่คนที่เค้ารักคุณเข้าใจผิดแล้ว”ทรายแก้วรีบปฏิเสธ“ฉันรู้ว่าเธออยู่กับพี่เสือเพราะสัญญาแต่ฉันไม่ได้โง่จนดูไม่ออกว่าเธอกับพี่เสือรักกันจริงๆ”“แล้วคุณทำแบบนี้เพื่ออะไร”“ฉันจะฆ่าเธอต่อหน้าพี่เสือฉันจะทำให้พี่เสือสูญเสียคนที่ตัวเองรักอย่างที่ฉันสูญเสียพี่อรไง.. ตอนนั้นฉันจ้างคนมาฆ่าแกแต่พี่เสือก็ดันรับเคราะห์แทน..แต่ตอนนี้เธอได้ตายจริงๆแน่”“ค.. คุณอิน!”“ตั้งแต่
วันเวลาพ้นผ่านนานร่วมขวบปีณ เกาะเล็กๆทางภาคใต้ที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากนักเป็นเกาะที่สุรีพรสัมปทานเอาไว้เพื่อทำฟาร์มหอยมุกชาติเสือมาอยู่ที่นี่ได้ร่วมหนึ่งปีแล้วเขาใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายคอยคุมงานที่นี่ว่างก็ออกเรือหาปูหาปลาแก้เหงาตามประสาที่เขามาอยู่ที่นี่ก็เพราะเมื่อครั้งที่เจ็บครั้งนั้นเขาขอให้ทรายแก้วกลับมาอยู่ด้วยเธอตอบตกลงแต่ต้องรอให้เธอพร้อมก่อนเท่านั้นโดยเธอจะขอไปอยู่ที่อื่นเพื่อทำใจให้ลืมเรื่องราวในอดีตแล้วเธอจะกลับมาอยู่กับเขาชาติเสือที่กลัวว่าถึงเวลานั้นแล้วหญิงสาวจะหายไปจากชีวิตของเขาจึงเลือกที่จะให้ทรายแก้วอยู่ที่บ้านส่วนเขาก็ขอมาอยู่ที่เกาะแทนอย่างน้อยเธอไม่ได้อยู่ในสายตาแต่อยู่ในที่ของเขาก็ยังดีนี่ก็ร่วมหนึ่งปีแล้วชายหนุ่มยังไม่เห็นว่าจะมีวี่แววที่ทรายแก้วจะเอ่ยมาเสียทีว่าพร้อมที่จะอยู่กับเขาแล้วคนความอดทนต่ำอย่างเขาต้องมาฝึกรออะไรที่ไม่มีจุดหมายเป็นอะไรที่ยากมากจริงๆแต่เพื่อทรายแก้วเขายอมทุกอย่างขณะที่นั่งรับลมยามเย็นอยู่ที่ริมชายหาดหน้าบ้านไม้ริมทะเลหลังใหญ่ท้ายเกาะจู่ๆชาติเสือก็ต้องรีบหันขวับไปตามเสียงร้องโยเยของเด็กน้อยที่ดังมาแต่ไกล“แอ้..แง่ๆๆ..”“โอ๋ๆ..ไม่ร้อ
หน้าบริษัทอสังหายักใหญ่ในเวลาช่วงสายมีเสียงเอะอะโวยวายเกิดขึ้นเมื่อหญิงวัยกลางคนกำลังต่อว่าหญิงสาวที่อุ้มท้องอ่อนๆเสียงดังจนคนในบริษัทที่กำลังเดินเข้าออกมองกันเป็นตาเดียวเพราะคนที่กำลังโวยวายอยู่ไม่ใช่ใครที่ไหนเป็นแม่ของประธานบริษัทแห่งนี้ที่ยืนประจันหน้ากับสะใภ้และลูกชายของเธออยู่“มันไม่ได้ท้องกับลูก”สุรีพรยืนแผดสียงชี้หน้าต่อว่าอินทุอรภรรยาของลูกชายที่เธอไม่ชอบหน้าตั้งแต่แรกเมื่อรู้จากปากคนรู้จักมาว่าอินทุอรนั้นมีสัมพันธ์กับชายอื่นจนท้องและลูกในท้องก็ไม่ใช่ลูกของลูกชายเธอ“อรท้องกับเสือจริงๆนะคะคุณแม่”อินทุอรหญิงสาวหน้าหวานที่อยู่ในชุดคลุมท้องปฏิเสธคำครหากับสุรีพรก่อนจะหันไปเกาะแขนคนเป็นสามีอย่างชาติเสือ“ไม่ต้องมาเรียกฉันว่าแม่แกมันตอแหล”สุรีพรชี้หน้าด่าทออินทุอรอย่างเหลืออดเธอทนให้ลูกชายเธอถูกหลอกมานานพอแล้ววันนี้เธอก็จะกำจัดผู้หญิงจอมลวงโลกคนนี้ให้ออกไปจากชีวิตลูกชายเธอให้ได้“คุณแม่ครับ!...มันเกินไปแล้วนะครับ”ชาติเสือมองหน้าคนเป็นแม่ด้วยความไม่พอใจก่อนจะเอ่ยพูดเสียงแข็งไม่คิดว่าแม่เขาจะเกลียดอินทุอรจนด่าทอประจานต่อหน้าคนในบริษัทของเขาขนาดนี้แม้ก่อนหน้านี้ดูท่าจะยอมอ่อนลงรับ