เรื่องราวความรักของคนทั้ง ห้าคู่ ห้ารสชาติจะเป็นยังไง ฝากติดตามด้วยค่ะ มีทั้งหมก ห้าเรื่องราว
View More‘ทุกอย่างต้องมีทางออกเสมอ’เป็นประโยคที่เธอและใครหลาย ๆ คนใช้ปลอบใจตัวเองอยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเจอเรื่องอะไรไม่ว่าจะร้ายหรือดี มันต้องมีทางออกเสมอ พนิตาตื่นเช้าเป็นประจำดั่งเคย และวันนี้เธอต้องเริ่มตั้งต้นหางานใหม่ทำให้เร็วที่สุด เพื่อที่จะเอาเงินมาช่วยเหลือป้าสะใภ้ ตอบแทนที่นางเลี้ยงดูเธอมาตั้งแต่มารดาเธอเสียไป เมื่อสิบปีก่อนพนิตาเดินลงมาจากชั้นสองของบ้านไม้หลังเก่าสอดส่ายสายตามองหาจรรยาแต่ก็ไม่พบ หญิงสาวจึงละความสนใจและออกจากบ้านเพื่อไปหางานใหม่ทำให้เร็วที่สุดเธอรู้ว่างานสมัยนี้มันหายาก แต่เธอจะไม่ยอมแพ้ เมื่อคืนเธอนั่งหางานบนอินเทอร์เน็ตจนดึกดื่น วันนี้เธอจะลองไปเดินหาว่ามีบริษัทไหนเปิดรับสมัครอยู่บ้าง จนแล้วจนรอดหญิงสาวหาสมัครงานตั้งแต่เช้าจรดบ่ายก็ยังไม่มีบริษัทไหนต้องการพนักงานเพิ่มเลย มีแต่จะเอาพนักงานเก่าออกเพื่อลดค่าใช้จ่ายในช่วง ที่เศรษฐกิจไม่ดีเฮ้อ...เสียงถอนหายใจหนักหลังจากที่พนิตาเดินคอตกออกจากบริษัทใหญ่ หญิงสาวหลับตาพริ้มลงราวกับพักสายตาและพยายามคิดหาทางออกว่าจะเอาอย่างไรต่อไป แต่อยู่ ๆ เสียงแจ้งเตือนข้อความผ่านทาง
‘เธอเคยได้ยินใครบางคนมักจะบอกว่า’‘โลกนี้มักโหดร้ายกับคนที่อ่อนแอเสมอ’วันนี้เธอเห็นแล้วว่ามันคือเรื่องจริง ที่ว่าคนอ่อนแอและยอมคนอยู่มักจะโดนเอาเปรียบอยู่เสมอ ไม่คิดว่าจะมาเจอกับตัวเอง ที่วันหนึ่งไม่คิดไม่ฝันว่าคนที่เธอรักเปรียบเสมือนมารดาแท้ ๆ คนหนึ่งจะทำแบบนี้“มีเรื่องอะไรกัน มาทำอะไรกันเยอะแยะ” พนิตาถามเหล่าคนที่มาชุมนุมเกาะกลุ่มตะโกนเรียกป้าของเธออยู่หน้าบ้านนานสองนาน“นี่หนูนิตา ยายจรรยาอยู่บ้านไหม” หญิงสาวเลิกคิ้วเรียวมองคุณป้าสูงวัยอย่างสงสัย ว่ามาถามหาป้าสะใภ้ของเธอทำไมกัน“ไม่รู้สิคะ ว่าแต่คุณป้ามีอะไรกับป้าจรรเหรอคะ”“ก็ยายจรรยาโกงเงินแชร์พวกเรา” ชายวัยกลางคนหันมาตอบกระชากเสียงแข็งกร้าว“โกงเงิน เป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ"เรื่องนี้มันต้องมีอะไรเข้าใจผิดแน่ ๆ ป้าสะใภ้ของเธอน่ะหรือจะโกงเงินแชร์ของชาวบ้านพวกนี้ เธอว่ามันเป็นไปไม่ได้ ถ้าโกงค่าหวยสิค่อยว่าไปอย่าง นอกจากอาชีพรับจ้างทั่วไปแล้ว ป้าของเธอนั้นจะรับเป็นเจ้ามือหวยคอยจดเลขที่ต้องการส่งเจ้ามือรายใหญ่ใหญ่เท่านั้น... แต่นี่โกงแชร์ ไม่น่าเป็นไปได้"ยายจรรยาออกมานะเ
พลาธิปกลับมาตั้งหลักที่บ้านเพื่อนหนึ่งคืนเต็ม ๆ ว่าตนจะง้อเมียอย่างไรให้เธอหายโกรธและยอมกลับไปกับเขา ไม่อยากให้เธอทำงานลำบากลำบนอยู่ต่างจังหวัดแบบนี้แล้วตอนนี้กำลังท้องอยู่ด้วยตื่นแต่เช้ากว่าจะได้นอนก็ดึกตลอดสัปดาห์เขาเฝ้าตามดูเมียรักอยู่ไม่ห่างตั้งแต่วันที่เข้าไปหาเธอที่บ้านวันนั้นเขายังไม่ได้ไปหาเธออีกเลย“พวกมึงช่วยกูคิดวิธีง้อเมียหน่อยดิวะ”“ฉุดไปดิ ทำเหมือนมึงฉุดเขาไปตอนนั้นไง” กัณฑ์ธรณ์เสนอความคิดเห็น“มึงเก็บวิธีนี้ไว้ใช้ตอนง้อเมียมึงนะ” กัณฑ์ธรณ์ไม่สนใจเพื่อนของเขาแม้แต่น้อย อยากได้ความคิดก็เสนอ แต่เขาเริ่มมีความคิดดี ๆ แล้ว “กูคิดอะไรดี ๆ ออกแล้ว”“อะไรของมึงวะ” เขามองใบหน้าเจ้าเล่ห์ของเพื่อนอย่างนึกสงสัย“คุณจอมอยู่บ้านนั้นกับน้องที่ชื่อหนึ่งที่คอยอยู่เป็นเพื่อนคอยดูแลใช่มั้ย” พลาธิปพยักหน้า “เออ แล้วยังไงวะ”“นั่นสิครับ เกี่ยอะไรกับยัยเด็กปากจัดนั่นด้วย” สหัสว่าเสริม“เด็กนั่นเป็นหลานของแม่บ้านมึงใช่มั้ย มึงแค่โทรบอกแม่บ้านมึงให้เรียกตัวหลานกลับไปก่อนแล้วมึงก็ใช้จังหวะนี้อยู่กับเมียง้อเมียไปสิ”“ยัยเด็กนั้นเขาจะทำตาม
ช่วงสายวันต่อมาจอมขวัญตื่นขึ้นรับยามเช้าที่แสนสดใสดั่งเช่นทุกวันแต่ด้วยร่างกายของเธออ่อนล้าเหลือเกิน เอาแต่นอนคิดตลอดทั้งคืนว่าเขามาที่นี่ได้อย่างไร ป้านิ่มบอกหรือแต่นางยืนยันว่าจะไม่บอกต่อให้เขาเป็นเจ้านายก็ตามกว่าเธอจะหลับได้ก็เกือบเที่ยงคืน แต่ไม่รู้ทำไมเธอถึงได้ตื่นเช้านักจอมขวัญเดินลงจากชั้นสองของบ้านแต่ก็อดแปลกใจไม่ได้เพราะช่วงวันหยุดน้ำหนึ่งหลานของป้านิ่มมักจะนั่งดูทีวีติดตามข่าวยามเช้าแต่วันนี้กลับไม่เห็นภายในบ้านเงียบเชียบจนอดสงสัยไม่ได้“หนึ่ง… หนึ่งอยู่ไหม” เธอร้องถามแต่ไม่มีเสียงตอบรับกลับมา เท้าเรียวกำลังจะก้าวไปยังห้องนอนชั้นล่างที่หญิงสาวขอนอนแต่ทว่าเสียงเคาะประตูจากทางหน้าบ้านดังขึ้นแต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าใครมาหาเธอแต่เช้าหรือว่าจะเป็นป้านิ่ม“อรุณสวัสดิ์จ้ะเมียจ๋า” ใบหน้าหล่อของพลาธิปเอ่ยทักทายด้วยรอยยิ้มก่อนจะแทรกกายเข้ามาภายในบ้านหลังน้อยของหญิงสาว“นี่คุณออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้นะ”“จอมจ๋า” พลาธิปพูดขึ้นเสียงอ่อนพลางเดินเข้าไปหาหญิงสาว“หยุดนะ… อย่าเข้ามา”“จอม..” เขาเดินเข้าไปหาหญิงสาวอีก แน่นอนว่าเธอต้องร่
หลังจากวันที่พลาธิปหลังรู้ว่าจอมขวัญนั้นอาศัยอยู่ที่ไหนจากปากของแม่บ้านที่ทำงานกับกัณฑ์ธรณ์ที่ว่าแม่ค้าคนสวยอยู่คนเดียวน่ารักแถมทำอาหารอร่อยเย็นวันนั้นชายหนุ่มส่งลูกน้องของเขามาสอดส่องที่บ้านหลังน้อยแห่งนั้นพบว่ามีคนอยู่เพียงสามคนแต่สิ่งที่ลูกน้องของเขาพบคือแม่บ้านคนเก่าที่เขาเคยเจอที่บ้านของนายดิลก พลาธิปไม่อาจจะรอแม้แต่วินาที แต่ก็ต้องอดใจเอาไว้จอมขวัญยกหม้อแกงเขียวหวานขนาดกลางไม่เล็กไม่ใหญ่มากออกมาให้ป้านิ่มมาให้นางที่กำลังจัดเตรียมข้าวของอยู่หน้าบ้าน ที่ต่อเติมเป็นเพิงขายข้าวแกงในตอนเช้า หญิงสาวอยากช่วยงานป้านิ่มกับเกี๊ยวที่เป็นหลานสาวบ้าง เพราะตั้งแต่รู้ว่าเธอนั้นตั้งครรภ์ก็ไม่ยอมให้หยิบจับอะไรเลยกลัวกระทบกระเทือนกับเจ้าตัวเล็กในท้อง“ป้านิ่มขา แกงเขียวหวานเสร็จแล้วจ้า” หญิงสาวร้องตอบยิ้ม ๆ“คุณจอมป้าบอกแล้วไงคะ ว่าไม่ต้องช่วยไม่ต้องทำมันหนัก เดี๋ยวจะกระทบกระเทือน” นางว่าแล้วรีบเดินเข้าไปช่วยยกหม้อแกงจากมือหญิงสาว หลังจากที่นางเอาหม้อแกงมาวางจัดเตรียมแล้วหันมาบอกหญิงสาวอีกครา “ยกหม้อแกงหนัก ๆ แบบนี้ให้ยายหนึ่งมันทำ”จอมขวัญนั่งลงบนแคร่
นับตั้งแต่วันที่พลาธิปไล่จอมขวัญออกจากบ้านหลังนั้นไปใจเขาปวดร้าวทรมาณเหลือเกินที่ตามหาหญิงสาวเท่าไรก็ไม่พบจนอาการเขาเริ่มเศร้าซึมลงทุกทีจนลูกน้องคนสนิทอดเป็นห่วงเจ้านายหนุ่มไม่ได้ ใบหน้าของเจ้านายเครียดอย่างเห็นได้ชัดไม่รู้ว่างานตรงหน้าหรือเรื่องที่ตามหาจอมขวัญไม่พบ“มีอะไรเปล่าสหัส”“ผมว่านายพักผ่อนหน่อยดีกว่าครับ” คนเป็นลูกน้องบอกกับเจ้านายด้วยความเป็นห่วง“ไม่… ฉันทำได้ไม่ได้เป็นอะไร”ตั้งแต่ที่จอมขวัญหายไปเจ้านายของเขาก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคนทำงานหามรุ่งหามค่ำออกตามหาหญิงสาวทุกที่ที่คิดว่าเธอจะไป“สหัสแล้วเรื่องที่ให้ตามหาว่าไงได้เรื่องบ้างไหม”“ได้ครับแต่ว่ายังไม่พบคุณจอมครับ พบแต่รถยนต์ของคุณจอมที่เธอใช้บ่อย ๆ ขายให้กับเต้นท์รถแห่งหนึ่งในจังหวัดทางภาคเหนือ“แล้วได้สืบต่อมั้ยว่าว่าเมียกูอยู่ที่ไหน”“เรื่องสืบต่อผมให้พีระตามอยู่ครับว่าคุณจอมอยู่ที่ไหน ถ้าได้เรื่องยังไงผมจะรีบมารายงานครับ” ลับหลังลูกน้องคนสนิทพลาธิปทิ้งกายลงเก้าอี้อย่างเหนื่อยอ่อน“จอมจ๋า… จอมไปอยู่ที่ไหนผมคิดถึง” เขาพร่ำเพ้อออกมา ร่างสูงถอนหายใจออกมาอย่
เกือบหนึ่งเดือนผ่านชีวิตใหม่ที่แสนเรียบง่ายของจอมขวัญได้เริ่มต้นขึ้น อาศัยอยู่ในจังหวัดแห่งหนึ่งทางภาคเหนือ บรรยากาศที่นี่ดีกว่าเมืองหลวงค่อนข้างมาก ที่นี่บางครั้งก็มีหมอกสีขาวจาง ๆ ในยามเช้าทำให้การเริ่มต้นในแต่ละวันแสนสดใส ผู้คนละแวกนี้ต่างให้การต้อนรับคนต่างถิ่นของเธออย่างดี หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่เธอเลือกหลังจากที่ถูกพลาธิปไล่ออกจากบ้านหลังที่เธอเคยอยู่อย่างกับหมูกับหมาเวลาเก็บของแทบไม่มีเธอมาอยู่ที่นี่โดยที่ไม่บอกใครหรือติดต่อใครกลับไปทำตัวไร้ร่องรอยแม้แต่เพื่อนสนิทอย่างแพรไหมหรือป้านิ่มที่คอยดูเธอ ตั้งแต่อยู่บ้านโน้น ในเมื่อเขาอยากได้ทุกอย่างก็เอาไปรวมทั้งเงินจำนวนหนึ่งแสนห้าหมื่นบาทที่เขายัดใส่มือเธอตอนออกจากเกาะ เธอไม่อยากได้จึงฝากป้านิ่มคืนเขาจอมขวัญมาที่นี่ด้วยเงินเก็บที่มีติดตัวไม่กี่แสนกับรถยนต์คันโปรดของเธอแต่ทว่ารถมันไม่ได้จำเป็นมากเท่าไรเธอจึงที่จะขายมันถึงแม้ว่าจะรักมากก็ตาม ขายแล้วเอาไปซื้อรถยนต์ญี่ปุ่นราคาไม่กี่แสนมาใช้แทนกับตอนนี้เธอไม่ได้ยิดติดในความสะดวกสบาย ขอแค่พออยู่พอใช้ก็เพียงพอแล้ว เงินที่เหลือจากการขายรถและซื้อรถคันใหม่เธอเอามาลงทุนเปิด
สองเดือนผ่านไปพลาธิปสั่งคนออกตามหาจอมขวัญหลังจากที่เขาให้สหัสลูกน้องคนสนิทส่งเธอกลับมาบ้านของนายดิลกที่ตอนนี้ทั้งนายดิลกและจอมพลหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ใด แน่นอนว่าเขาไม่สนใจเรื่องสองพ่อลูกนั้นสิ่งที่เขาสนคือจอมขวัญ เมียของเขาหายไป ตามหาที่ใดก็ไม่พบ ก่อนหน้านี้เขามาหาหญิงสาวที่บ้านเธออยู่กับคนรับใช้และแม่บ้านในบ้านแห่งนี้เพียงหนึ่งวันเท่านั้นเพราะเธอไปตามคำสั่งที่เขามาไล่“ยังหน้าด้านอยู่ที่นี่อีกเหรอ” เสียงเข้มดังมาจากทางด้านหลังทำให้คนที่ยืนคุยกับแม่บ้านต้องหันไปมองด้วยสายตาไม่พอใจและปวดร้าว“ไปทำงานต่อเถอะค่ะ” หันไปบอกแม่บ้านแล้วมาตอบกลับชายหนุ่มผู้เข้ามาใหม่เสียงแข็ง “คุณมาที่นี่ทำไม”“ฉันบอกเธอไปแล้วไม่ใช่หรือยังไง บ้านหลังนี้เป็นของฉันพี่ชายเธอเอาโฉนดบ้านหลังนี้มาค้ำประกันกู้เงินกับฉัน และส่วนพ่อของเธอก็เอาบริษัทไอทีที่ไปโกงพ่อฉันมาค้ำประกันกับฉันเหมือนกัน โดยที่มันไม่รู้เลยว่ากำลังเอาของทุกอย่างมาคืนเจ้าของ” ชายหนุ่มยิ้มอย่างเลือดเย็นให้กับหญิงสาวตรงหน้าก่อนเอ่ยประโยคถัดมา “ทีนี้เธอก็ไสหัวออกไปจากบ้านฉันได้แล้ว”
ร่างบางส่ายหน้าพยายามพยุงกายตัวเองให้ลุกขึ้นแล้วออกไปจากห้องนี้อย่างยากลำบาก พลาธิปประคองรินวราออกไปอย่างเอาอกเอาใจเอ่ยกับหล่อนเสียงหวานผิดกับที่ว่ากับเธอ ชบาจึงประคองจอมขวัญให้ลุกขึ้นเธอจึงบอกกับชบาว่าเธอขอช่วยแค่นี้ เธอจะกลับไปยังบ้านท้ายเกาะ แต่จอมขวัญกำลังเดินออกมาทางหลังบ้านพบกับกัณฑ์ธรณ์ที่ถือบางอย่างมาพอดี“สวัสดีครับคุณจอมขวัญ” ชายหนุ่มเอ่ยทักทาย“สวัสดีค่ะ... คุณรู้จักชื่อฉันด้วยเหรอคะ” ใบหน้าหวานฉงนปนสงสัยไม่น้อยจึงเอ่ยถามออกไป เพราะเธอนั้นไม่รู้จักเขา“อ๋อ... ผมได้ยินไอ้ทัพพ์เรียกเมื่อกี้นี้พอดีครับ… เอ่อ… ผมขอแนะนำตัวก่อนนะครับ ผมกัณฑ์ธรณ์ เพื่อนของไอ้เวรทัพพ์มัน” ชายหนุ่มเอ่ยแนะนำตัวติดตลก จอมขวัญยิ้มเล็กน้อย “สวัสดีค่ะ คุณกัณฑ์ธรณ์”“เรียกเสียเต็มยศเลยนะครับ... เรียกผมว่า กัณฑ์ เฉย ๆ ก็ได้ครับ”“ค่ะคุณกัน เรียกฉันว่าจอมก็ได้ค่ะ” ว่าแล้วชายหนุ่มยื่นมือออกไปหมายทักทายจอมขวัญก็เอื้อมมือไปจับเช่นกันเป็นการสร้างมิตรที่ดี“ฉันขอตัวก่อนนะคะ” สายตาคมของกัณฑธรณ์เหลือบไปเห็นแขนอีกข้างของเธอจับเข้าที่หลังเหนือสะโพก “คุณจอมเจ็บหลังหรือครับ
ราคีซาตาน ความเข้าใจผิดทำให้เธอต้องมีรอยราคีจากเขา ภาธร พ่อเลี้ยงหนุ่ม ที่เข้าใจผิดที่มีต่อเธอนั้น แต่กว่าจะรู้เธอก็หนีไปแสนไกล ------------------------------------------------------- “คุณภาคให้คุณวิทไปตามบัวมีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ” เธอถามและยิ้มให้คนที่กำลังหันหน้ามา “ไปเก็บของซะ” ไม่พูดพร่ำทำเพลงสั่งให้กชสรไปเก็บของอย่างรวดเร็ว “เก็บของ หมายความว่ายังไงคะ คุณภาค” หมายความว่ายังไง คำถามนี้ยังคงวนอยู่ในสมองน้อย ๆ ของเธอ แต่แล้วก็กระจ่างแจ้งเมื่อเขาเป็นคนชี้แจ้งทั้งหมดให้เธอฟัง “หึ หมายความว่ายังไง นี่ไม่รู้หรือแกล้งโง่กันแน่ฮะกชสร พูดง่าย ๆ คือ ฉันเบื่อนางบำเรออย่างเธอแล้ว” ------------------------------------------------------- “ออกไปจากบ้านของฉันเดี๋ยวนี้นะคุณภาธร” ว่าที่คุณแม่ตวาดเสียงแข็ง “ไม่ ฉันจะไม่ไปไหนทั้งนั้น จนกว่าเธอจะคุยกับฉัน” “คุยกับฉัน แต่ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับคุณ เพราะฉะนั้นกลับไร่ของคุณไปซะ” “ฉันไม่กลับ จนกว่าเธอจะคุยกับฉัน คุยเรื่องของเรา” ภาธรเอ่ยด้วยเสียงจริงจังและจริงใจ แต่คนฟังกลับไม่รู้สึกอะไรเช่นนั้น “พูดมาได้นะคะ ว่าเรื่องของเรา ระหว่างคุณกับฉันมัน...
Comments