“อึก..อ๊ายย.. อย่าฆ่าาากันเลย.. ฮือๆๆ”
สาวเจ้าเจ็บปวดดั่งถูกมีดกรีด เธอส่งเสียงร้องระงมเมื่อริมฝีปากถูกปล่อยให้เป็นอิสระ
“หา.!.”
นักรบก้มลงมองส่วนเชื่อมต่อเพียงแค่เขาขยับตัวตนดึงออกแค่ครึ่งเดียวเลือดหยดน้อยก็หลั่งไหลตามออกมาไม่ขาดสายครั้นจะหยุดการกระทำตอนนี้ก็เป็นไปไม่ได้
เขาใช้วิธีกลับไปเล้าโลมหญิงสาวด้วยรสจูบต่อเพื่อผ่อนคลายความเจ็บกดแช่แท่งร้อนคาร่องสวาทพักใหญ่จนเห็นได้ว่าหญิงสาวเริ่มปรับตัวได้จึงค่อยขยับสะโพกแกร่งเนิบนาบเข้าออกเชื่องช้าและเริ่มเร่าร้อนขึ้นในเวลาต่อมาจวบจนค่อนคืนศึกสวาทจึงจบลงได้
ช่วงเย็นของวันต่อมา
“ฮือๆๆ...”
น้ำรินเอาแต่ร้องห่มร้องให้อยู่บนห้องนอนงานการของเธอก็ไม่ได้ไปทำเพราะรู้สึกระบมไปทั้งตัวแถมยังมีไข้อ่อนๆ
เธอนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมายังไงก็นึกไม่ออกจำได้แค่ตอนเช้าเธอนั้นตื่นมาพร้อมกับผู้ชายที่นอนเปลือยกายกกเธออยู่ที่โซฟาแถมความบริสุทธิ์ของเธอที่เก็บเอาไว้มาจนถึงตอนนี้ก็ถูกชายแปลกหน้านั่นพรากไปด้วยตอนนี้เธอพูดอะไรไม่ออกได้แต่เพียงร้องให้ระบายความเสียใจเท่านั้น
บริษัทxxx
ตอนนี้ได้เวลาเลิกงานของนักรบแต่เขายังนั่งจมอยู่ที่เก้าอี้ทำงานทั้งที่งานทุกอย่างก็เสร็จเรียบร้อยไปได้ด้วยดีเพราะยังนั่งคิดถึงเรื่องเมื่อคืนแถมยังแปลกใจกับพฤติกรรมของหญิงสาวที่ยั่วยวนเขาแทบบ้าในเวลาเมาแต่พอเช้ามาเกิดจำอะไรไม่ได้เสียอย่างนั้น
เหตุการณ์เมื่อช่วงเช้า
“อ๊ายย.. ไอ้บ้าแกข่มขืนฉันเหรอฮะ”
นักรบเริ่มรู้สึกตัวตื่นเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องและรู้สึกว่ามีคนกำลังทุบตีอยู่ที่แผงอก
“ฟ...ฟังผมอธิบายก่อน”
คนตัวโตผงกหัวมองคนในอ้อมกอดก่อนจะเอ่ยปรามหญิงสาวเสียงงัวเงียแต่ดูท่าเธอจะไม่ฟังอะไรเอาเสียเลย
“ทำไม.. ต้องเป็นแบบนี้ด้วย..ฮือๆๆ”
“หยุดร้องก่อนเมื่อคืนคุณเป็นคนให้ผมมาส่งเองแถมยัง..รั้งผมไปจูบเองด้วย”
“ฉันเนี่ยนะ..”
นำรินยกมือปาดน้ำตาก่อนจะจ้องค้อนชายหนุ่มเขม็ง
“ใช่..”
“..ความสาวของฉัน!”
น้ำรินเบะปากก้มหน้างุดน้ำตาตกหยดลงไม่ขาดสายไม่รู้ว่าชายหนุ่มพูดจริงหรือไม่จริงแต่ความรู้สึกเจ็บช่วงล่างแถมยังมีรอยเลือดทำให้รู้ว่าตัวเองได้เสียครั้งแรกให้คนแปลกหน้าไปแล้ว
“คุณจะให้ผมรับผิดชอบยังไงก็ว่ามาเลยครับผมเองก็ผิดที่ควบคุมตัวเองไม่ได้”
นักรบรู้ว่าแม้นหญิวสาวจะยั่วยวนเขาเพียงใดแต่ตัวเองก็ไม่มีสิทธิ์ละเมิดในตัวเธอตอนนี้เขาจึงยอมรับที่จะรับผิดชิบหญิงสาวทุกอย่างขอแค่เธอว่ามาว่าต้องการอะไร
เพี๊ยะ
ชายหนุ่มว่าไม่ทันขาดคำใบหน้าคมก็หันไปด้วยแรงฟาดของฝ่ามือเรียว
“ออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้แล้วก็ลืมเรื่องเมื่อคืนไปซะ”
“คุณ..”
“บอกให้ออกไปไงออกไปสิ...ฮือๆๆ”
นักรบจำต้องรีบสวมกางเกงกอบเสื้อผ้าที่ถอดกองกับพื้นเปลือยท่อนบนเดินออกจากบ้านหญิงสาวแต่โดยดีในเมื่อเธอไม่ประสงค์ที่จะให้เขารับผิดชอบก็ตามแต่ใจของเธอเลย
วันต่อมา
เตชินออกมาจากโรงแรมตรงมาที่บ้านน้ำรินช่วงเย็นเพื่อเตรียมตัวไปงานวันเกิดของทรายแก้วพร้อมกันเขามาถึงก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นสภาพเพื่อนตัวเองโทรมแปลกๆ
“แกเป็นอะไรหรือเปล่าเหมือนไม่ค่อยสบายเลย”
เตชินรีบยื่นมือไปอังหน้าผาก
“แค่ปวดหัวนิดหน่อย..”
“เออแล้วคืนนั้นแกกลับไงฉันขอโทษนะที่เมาแล้วทิ้งแกอีกแล้ว”
เตชินรีบขอโทษเพื่อนรักที่วันนั้นดันเมาจนหนีกลับไปพักที่โรงแรมก่อนเขาก็เบื่อตัวเองที่ชอบเป็นเช่นนี้เหมือนกัน
“อืม..ลืมฉันแต่กลับโรงแรมถูกนะ..ช่างมันเถอะวันนั้นฉันกลับแท็กซี่ยังไม่ได้ไปเอารถวันนี้ฉันไปกับแกละกัน”
แม้นจะนึกเคืองใจเพื่อนอยู่บ้างแต่เธอก็ไม่อยากจะพูดถึงเรื่องคืนนั้นสักเท่าไรนักเพราะมันมีประสปการณ์ที่เธอไม่อยากจะจำเท่าไร
“ได้สิ..แต่ไม่โกรธจริงๆนะ”
“ไม่หรอกก็เมากันทั้งคู่นี่เนอะ”
น้ำรินเอ่ยเสียงอ่อนฝืนยิ้มให้เพื่อนไม่สงสัยแต่ในใจของเธอตอนนี้มันหดหู่ปวดร้าวยังไม่หายดี
เตชินและน้ำรินเดินทางมาถึงบ้านของชาติเสือในช่วงหัวค่ำ
“ทราย...คิดถึงแกจัง”
ทั้งสองลงจากรถเดินขึ้นมาที่ชานระเบียงบ้านได้ก็รีบโผเข้าไปสวมกอดทรายแก้วขณะที่หญิงสาวกำลังจัดแจงวางอาหารบนโต๊ะเพื่อจะฉลองในคืนนี้
น้ำรินนึกโล่งอกที่วันนี้ไม่มีเหล่าบอดี้การ์ดมาคอยยืนคุมดั่งเช่นที่เธอเจอครั้งก่อนไม่เช่นนั้นเธอคงต้องตอบคำถามเตชินยาวแน่ว่าทำไมทรายแก้วต้องมีคนคอยคุม
“คิดถึงเหมือนกัน”
ทรายแก้วยิ้มร่าสวมกอดเตชินจนแน่นเช่นกันภาพของทั้งสองตอนนี้อยู่ในสายตาของคนที่นั่งทำงานอยู่ชั้นบนทุกฉากทุกตอนชาติเสืออุตส่าห์ไว้ใจทรายแก้วไม่ให้ใครมาเฝ้าแต่หญิงสาวกลับกล้ากอดกับผู้ชายหน้าตาเฉยทั้งที่อยู่ไม่ไกลสายตาของเขา
“นี่ในบ้านฉันนะทรายแก้ว”
ร่างสูงใหญ่ผุดลุกจากเก้าอี้เดินปรี่ออกนอกห้องทำงานลงมาชานระเบียงบ้านทันที
“มีผัวทั้งทีก็ไม่ยอมบอกเพื่อนบอกฝูงเก็บตัวเงียบไม่ออกไปไหนเลยนะ”
เตชินแอบตวัดมองค้อนเพื่อนตนหนึ่งฉาด
“ต้องดูแลบ้านน่ะเลยไม่ค่อยได้ออกไปไหน”
“นั่นใคร?”
น้ำรินและทรายแก้วหันมองไปทางเดียวกับที่เตชินชี้มือไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นชาติเสือที่เดินหน้าตึงเข้ามารวบไหล่มนซบติดกับตัวเองเป็นแตงเม
“ผัวแกเหรอ...หล่อขนาดนี้ไม่คิดจะแนะนำให้เพื่อนให้ฝูงรู้จักบ้างหรือไง..สวัสดีค่ะฉันตีตี้”
“เอ่อ..สวัสดีครับผมชาติเสือ”
เตชินเอ่ยทักทายคนที่มาใหม่ด้วยท่าทีกระมิดกระเมี้ยนพฤติกรรมของเขาทำให้ชาติเสือที่หน้าตึงตั้งแต่แรกเริ่มผ่อนคลายลงเมื่อได้เข้าใจว่าคนตรงหน้าไม่ใช่ชายแท้
“ฉันน้ำรินค่ะยินดีที่ได้รู้จักนะคะ”
น้ำรินเอ่ยทักทายชาติเสือด้วยรอยยิ้มอ่อนมองออกว่าชายหนุ่มท่าจะหวงทรายแก้วไม่น้อยไม่เช่นนั้นคงไม่รีบปรี่มาดึงทรายแก้วไว้ข้างตัวขนาดนั้นเธอเดาไม่ออกเลยว่าชาติเสือจะยอมปล่อยเพื่อนเธอไปเมื่อไรแล้วทรายแก้วเองจะทำใจให้ไม่มีใจกับชาติเสือได้หรือเปล่า
“เช่นกันครับ..เอ่อผม..แค่..จะลงมาบอกว่า..ตามสบายมีอะไรขาดเหลือก็บอกได้เลยครับ”
“ขอบคุณนะคะ..อ.อ้าวไม่อยู่ฉลองกับพวกเราเหรอคะ”
เป็นตีตี้ที่ตอบรับชาติเสือทั้งดึงไม้ดึงมือชายหนุ่มหมายจะให้อยู่ต่อ
“ผมมีงานต้องเคลียอีกนิด”“เสียดายแย่”น้ำรินเห็นทีต้องสะกิดเตชินหญิงสาวเน้นเขี้ยวเน้นฟันส่ายหัวไม่ให้เตชินทำท่าทีเสียมารยาท“นี่..ผัวเพื่อน!”“ขอตัวนะครับ”ชาติเสือรีบแกะมือเตชินออกก่อนจะหมุนตัวเข้าบ้านไปทันทีเพราะไม่มีอะไรที่น่ากังวลใจสำหรับเขาแล้ว“ฉันล่ะอิจฉาแกจริงๆทรายแก้ว...ทั้งหล่อทั้งล่ำ”เตชินยังไม่วายมองตามหลังชาติเสือตาเยิ้มทรายแก้วก็ได้แต่อมยิ้มเข้าใจดีว่าเพื่อนเธอนานๆทีจะได้ออกมาเปิดหูเปิดตาเพราะทำแต่งาน“ผัวเพื่อนก็ไม่เว้น..โถ่..มานั่งนี่เลย”น้ำรินรีบดึงเตชินลงนั่งเก้าอี้จะได้เลิกฟุ้งซ่านเสียทีหลังจากนั่งคุยกันพักใหญ่เตชินก็นึกขึ้นได้ว่าเตรียมเครื่องดื่มเพิ่มความสนุกมาด้วยเขารีบวิ่งไปที่รถเพื่อหยิบถังไวน์หลังรถมาตั้งกลางโต๊ะอาหารต่อหน้าสองสาวคิดว่าหากคืนนี้จะเมาให้เต็มที่เพราะอยู่ที่บ้านเพื่อนจึงไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น“ฉันเตรียมมา”“วันนี้ฉันไม่ดื่มนะไม่ค่อยจะดี”น้ำรินรีบปฏิเสธเพราะเธอไม่อยากจะเมาอีกแล้วกลัวเหลือเกินกับการที่ทำอะไรน่าอายลงไปแล้วจำอะไรไม่ได้“อ้าว...งั้นคงต้องเป็นแกแล้วล่ะทรายที่ต้องดื่มเป็นเพื่อนฉัน”เตชินบุ้ยปากก่อนจะหันมาจับจ้องทรายแก้ว“ตีตี้..แกก็
วันเวลาที่ทรายแก้วใช้ชีวิตอยู่กับชาติเสือเนิ่นนานจวบจนสองเดือนกว่าแล้วทั่งคู่สนิทกันมากโดยที่ชาติเสือไม่รู้ตัวมีเพียงทรายแก้วเท่านั้นที่รู้ทุกอย่างว่าความรู้สึกของตัวเองแปรเปลี่ยนมากมายขนาดไหนคำพูดคำจาของทั้งคู่ดูสนิทสนมกันมากขึ้นโดยชาติเสือนั้นเปลี่ยนจากแทนตัวเองว่าฉันเป็นพี่ทุกคำที่พูดจากับทรายแก้วหากไม่ติดว่าทั้งคู่อยู่ด้วยกันตามสัญญาก็เปรียบเสมือนคู่นี้เป็นคู่รักข้าวใหม่ปลามันที่น่ารักคู่หนึ่งเลยทีเดียวชาติเสือไว้ใจทรายแก้วจนปล่อยให้ไปไหนมาไหนได้แต่ต้องกลับมาตามเวลาที่เขากำหนดชีวิตทรายแก้วในตอนนี้จึงรู้สึกมีอิสระไม่อึดอัดเช่นแต่ก่อนแถมยังมีเจ้าลูกหมาที่เคยช่วยมาอยู่เป็นเพื่อนคลายเหงาเรียกได้ว่าช่วงนี้ทรายแก้วมีรอยยิ้มทุกวันเลยก็ว่าได้พักหลังมานี้เธอค่อนข้างมีความสุขมากเพราะชาติเสือไม่เคยพูดหรือกระทำไม่ดีกับเธอคอยตามใจสารพัดทั้งตัวติดเธอไม่ค่อยห่างความรู้สึกดีที่เธอมีให้เขาจึงมากเพิ่มขึ้นเรื่อยๆวันนี้เสธฐาเข้ามาหาน้องสาวตนในช่วงเช้าเพื่อที่จะมาบอกถึงข่าวดีบางอย่างให้ทรายแก้วได้รับรู้“เป็นยังไงบ้าง” “ทรายเริ่มชินกับที่นี่แล้วค่ะพี่เสธ”“อืม..เห็นแบบนี้พี่ค่อยโล่งใจ
โรงพยาบาลทรายแก้วมาถึงโรงพยาบาลพร้อมชาติเสือได้เธอก็เอาแต่ร้องห่มร้องให้ดีที่ตอนนี้นำรินเข้าเวรในโรงพยาบาลจึงคอยปลอบทรายแก้วให้ผ่อนคลายความตึงเครียดได้บ้าง“ฮือๆๆ..”“ไม่เป็นไรแล้วทราย..คุณเสืออยู่ในมือหมอแล้ว”“เค้าจะปลอดภัยใช่ไหม”“อืม..เชื่อฉันเค้าไม่ได้ถูกยิงในจุดสำคัญ..เดี๋ยวฉันมานะต้องไปช่วยหมอแล้ว”“อืม..”น้ำรินคงต้องปล่อยให้ทรายแก้วนั่งอยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉินไปก่อนเพราะเธอเองต้องไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อไม่นานนักเด็ดเดี่ยวและนักรบก็มาถึงโรงพยาบาลพร้อมกับตำรวจตอนนี้ทรายแก้วถูกตำรวจพาไปนั่งสอบปากคำพักใหญ่โดยมีเด็ดเดี่ยวดูแลอยู่ไม่ห่างส่วนนักรบก็นั่งคอยฟังความคืบหน้าการรักษาจากหมอในห้องผ่าตัดด้วยสีหน้าที่ตึงเครียดเพราะเป็นห่วงเจ้านายที่รักดั่งพี่ชายคนหนึ่งก็ว่าได้“เฮ้อ.. อดนอนนิดหน่อยทำสำออยไปได้ยัยน้ำริน”น้ำรินเดินออกมาจากห้องผ่าตัดด้วยใบหน้าซีดเซียวนั่งพักลงที่เก้าอี้ตรงหน้าห้องผ่าตัดสูดยาดมเฮือกใหญ่เธอถูกหมอและพยาบาลสั่งให้มาพักเพราะเหมือนจะวูบขณะเป็นลูกมือหมอไม่เข้าใจว่าร่างกายตัวเองตอนนี้ทำไมอ่อนแอเสียจริงทั้งที่วัยของเธอก็ยังไม่เข้าเลขสามอดนอนไม่ถึงคืนถึงกับจะเป็นลมเสีย
“บอกพ่อกับแม่คุณหรือยัง”ชายหนุ่มหย่อนก้นนั่งลงเก้าอี้โซฟาตรงข้ามกับน้ำรินก่อนจะเหลือบสายตามองไปยังโซฟาตัวยาวที่มีเรื่องราวของเขาและเธอในคืนนั้น“ยัง”น้ำรินรู้ว่าชายหนุ่มตรงหน้ากำลังคิดอะไรเธอรีบเข้ามานั่งตรงหน้าของเขาก่อนจะรีบตอบไปตามตรงเพราะลำบากใจที่จะคุยกับพ่อและแม่ด้วยกลัวว่าพวกท่านจะผิดหวังที่เธอดันมาท้องก่อนที่จะแต่งงานมีสามี“จะบอกพวกท่านเมื่อไร”“คุณจะมาเจ้ากี้เจ้าการอะไรกับชีวิตฉัน”น้ำรินบ่นเสียงอู้อี้“ก็ลูกผมอยู่ในท้องคุณ..ผมต้องรับผิดชอบ”“เฮ้อ...ฉันไม่กล้าบอกพ่อกับแม่”“ทำไม”“ฉันกลัวพวกท่านเสียใจ...”“อาจจะไม่เป็นอย่างที่คุณคิดก็ได้”“แล้วคุณล่ะบอกพ่อแม่คุณหรือยัง”“ผมไม่มี”“หืม”คำตอบของนักรบทำน้ำรินตกใจพอสมควร“ถ้าคุณกลัว..ผมจะคุยกับพ่อแม่คุณเอง”นักรบตัดสินใจแล้วว่าจะเข้าไปคุยกับพ่อแม่หญิงสาวเองหากเธอไม่กล้าพูดเพราะเขาอยากจะทำให้สิ่งที่เป็นปัญหาอยู่ตอนนี้ถูกคลี่คลายไปในทางที่ถูกต้อง“ฉันกลัวแม่กับพ่อฉันผิดหวังถ้ารู้ว่าฉันเมาแล้วไปนอนกับคนที่ไม่รู้จักจนท้อง”“ตอนนี้เราก็รู้จักกันแล้วไงผมชื่อนักรบคุณชื่อน้ำริน...เราแค่บอกพวกท่านว่าเราคบกันนานแล้วแค่นี้ก็ได้”“เฮ้อ.
ชาติเสือรักษาตัวได้สามสี่วันเขามีแม่และภรรยาคอยดูแลตลอดวันนี้ก็ได้กลับมาที่บ้านเสียที“แม่จะอยู่ดูแลแกที่นี่ต่อไม่ว่าอะไรนะ”สุรีพรแม้นจะไม่เคยได้รับคำพูดดีๆกับลูกชายเมื่อดูแลเขาอยู่ที่โรงพยาบาลแต่เธอก็อยากดูแลชาติเสือต่อจนหายดี“คุณแม่กลับไปเถอะครับผมมีทั้งลูกน้องทั้งทรายแก้วดูแลอยู่แล้ว”“อืม.. ได้.. พรุ่งนี้แม่จะกลับ”สุรีพรรับปากกับชาติเสือด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีนักบางครั้งเธอก็เหนื่อยเหลือเกินกับลูกชายตัวเองที่แม้นเธอจะมีทีท่าห่วงใยขนาดไหนแต่เขาก็ยังทำเป็นไม่รับรู้ทรายแก้วรับรู้คำที่ชาติเสือพูดจาไม่ค่อยดีใส่สุรีพรตลอดเธอจึงอึดอัดกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่พอสมควรทรายแก้วดูแลชาติเสือจนเขาหลับไปได้ก็ถึงเวลาที่เธอจะมาทำให้เรื่องคาใจมันกระจ่างเสียทีแม้นจะดูเสียมารยาทก็ตาม“ทรายขอเสียมารยาทถามนะคะคุณแม่..พี่เสือกับคุณแม่มีอคติอะไรต่อกันเหรอคะ”“เฮ้อ..เรื่องมันก็นานมาแล้วนะ.. ตอนนั้นตาเสือคบกับผู้หญิงอยู่คนนึง....”คราแรกสุรีพรไม่อยากจะพูดถึงเรื่องเก่าเท่าไรแต่เธอคิดว่าควรจะเล่าให้ภรรยาลูกได้รับรู้เผื่อทรายแก้วจะช่วยทำให้ความสัมพันธ์เธอกับลูกชายดีขึ้นได้บ้าง“อย่างนี้นี่เอง..”ทรายแก้วฟั
“คุณมาที่นี่ได้ไง”พลันสายตาชายหนุ่มยังไม่ทันตวัดมองไปที่ทรายแก้วผู้หญิงที่นั่งข้างภรรยาเจ้านายก็เป็นจุดดึงดูดความสนใจของเขาเสียก่อนในตอนนี้ทั้งน้ำรินและนักรบต่างก็มีท่าทีตกใจไปตามๆกัน“ฉันมาหาเพื่อนฉันแล้วคุณมาได้ไง”“ที่นี่บ้านเจ้านายผม...แล้วผมก็พักบ้านใกล้ๆนี้”“โลกกลมจังเลยนะคะ”ทรายแก้วไม่ต้องถามให้แน่ใจก็รู้แล้วว่าพ่อของลูกเพื่อนเธอเป็นใครเวลาพ้นผ่านไปร่วมอาทิตย์ตอนนี้ก็ถึงวันงานแต่งของนักรบและน้ำรินงานแต่งของทั้งสองจัดขึ้นที่บ้านของน้ำรินไม่ได้มีพิธีรีตรองอะไรมากมายมีเพียงบอกกล่าวให้เพื่อนๆและญาติที่สนิทได้รับรู้มีการวางสินสอดและจดทะเบียนสมรสเท่านั้นหลังเสร็จสิ้นพิธีบ่าวสาวก็สังสรรค์กับเพื่อนฝูงตามประสา“พี่ไม่นึกว่าจะเห็นภาพรบมีครอบครัวเลย”ชาติเสือยืนมองนักรบยืนคู่กับน้ำรินขณะแจกของชำร่วยให้คนที่มาในงานเขาปลื้มใจดั่งเห็นน้องชายคนหนึ่งเป็นฝั่งเป็นฝาแม้จะกะทันหันก็ตาม“ทรายก็ไม่คิดว่ารินจะแต่งงานมีลูกก่อนเพื่อนเหมือนกันค่ะ..”ทรายแก้วยิ้มร่าคิดมาเสมอว่าคนอย่างน้ำรินคงจะหาแฟนยากเพราะเป็นคนที่ค่อนข้างเลือกเยอะแล้วคนที่อยู่กับเพื่อนเธอได้ต้องเป็นคนที่ใจเย็นมากจริงๆเธอเห็นว่านี่แ
“แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความผิดคุณแม่ทั้งหมดนะคะท่านแค่หวังดีกับพี่เสือ..แล้วท่านก็ไม่ได้อยากให้เกิดเรื่องร้าย”“อย่าพูดเรื่องนี้กับพี่อีก”จบคำพูดของทรายแก้วชาติเสือก็ลุกขึ้นพรวดเอ่ยกับร่างบางเสียงแข็งด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์“เพราะพี่เสือยังรักคุณอรอยู่ใช่ไหมล่ะคะ”สาวเจ้ามองร่างสูงเดินเข้าบ้านผ่านม่านน้ำตาริมฝีปากบางเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือผสมความน้อยเนื้อต่ำใจอยากจะถามคำถามนี้กับเขาตั้งแต่เมื่อครู่แต่ใจก็ไม่กล้าเพราะกลัวคำตอบมันจะย้อนกลับมาทำร้ายจิตใจตัวเองตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงเช้าทรายแก้วไม่กล้าที่จะมองหน้าชาติเสือเท่าไรนักเพราะไม่รู้ว่าเขานั้นหายโกรธเธอหรือยังจวบจนได้เวลาอาหารเช้าเธอจึงยอมเดินมาตามชายหนุ่มที่เดินเล่นอยู่ริมชายหาดให้กลับไปที่บ้านพักเพื่อทานอาหารเช้า“พนักงานเอาอาหารเช้ามาเสริฟแล้วนะคะ”ชาติเสือดึงแขนเรียวของทรายแก้วรวบตัวเธอเข้ามากอดด้วยไม่อยากให้เธอและเขาต้องตกอยู่ในบรรยากาศที่อึมครึมขณะที่เที่ยวพักผ่อนกัน“โกรธพี่เรื่องเมื่อคืนเหรอ”หญิงสาวส่ายหัวซุกใบหน้าหวานซบกับอกแกร่ง“พี่แค่ไม่ชอบให้เธอพูดเรื่องนั้น..ขอได้หรือเปล่าอย่าพูดถึงมันอีก”“ก็ได้ค่ะ”ทรายแก้วเงียบไ
“อินเข้าใจแล้วล่ะค่ะ...แต่เอ..พี่ชายอินไม่มีใจให้คุณทรายจริงหรือเปล่าน้า”อินทิราหยอกชาติเสือด้วยรอยยิ้มอ่อนเพราะรู้ว่าคนอย่างชาติเสือหากไม่สนใจผู้หญิงคนไหนจริงๆคงไม่อยากให้อยู่ใกล้ตัว“อย่าแซวพี่สิ”ริมฝีปากหนาเริ่มคลี่ยิ้มเขินก่อนจะส่ายหัวแค่นี้อินทิราก็ดูออกแล้วว่าชาติเสือนั้นคิดอย่างไรกับทรายแก้วคงไม่ใช่แค่ผู้หญิงที่เป็นของเล่นชั่วครั้งชั่วคราวเป็นแน่แม้ชายหนุ่มจะทำทีปฏิเสธก็ตาม“น้ำผลไม้อินได้หรือยังคะคุณทราย”หลังลงมาจากชั้นบนพักใหญ่ทรายแก้วก็ตัดสินใจจะนำน้ำผลไม้ไปเสริฟให้กับอินทิราอีกครั้งแต่เธอดันลงมาก่อน“เอ่อ.. ได้พอดีค่ะช้าหน่อยนะคะ”“ขอบคุณค่ะ..”อินทิรายกแก้วน้ำผลม้ขึ้นดื่มเรียบร้อยแล้วจึงค่อๆหย่อนก้นลงนั่งที่โซฟาและล้วงกรอบรูปในกระเป๋าผ้ายื่นให้ทรายแก้วขณะที่เธอกำลังจะนั่งลงตรงข้าม“อ่อ..นี่รูปพี่อรอินลืมให้พี่เสือฝากคุณทรายด้วยนะคะ”“ค่ะ..”กรอบรูปโชว์ใบหน้าของอินทุอรหรายังไม่ทันที่จะถึงมือของทรายแก้วดีมันก็ล่วงหล่นลงพื้นเสียก่อนเพล้งง“พี่อร”อินทิรามีท่าทีตกใจจนร้องสุดเสียงทำให้ชาติเสือที่ได้ยินรีบวิ่งลงมาชั้นล่างด้วยความรวดเร็ว“ฉันขอโทษค่ะ”ทรายแก้วรีบก้มลงเก็บเศษก