“อืม..หล่อออ..น้าเนี่ยย”
ร่างของน้ำรินซุกซบอยู่ที่อกของนักรบเธอเงยหน้ามองคนที่เข้ามาช่วยพยุงด้วยสายตาปรือเยิ้มก่อนจะฉีกยิ้มชื่นชมใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาเสียงงัวเงีย
“คุณ..มีสติอยู่หรือเปล่าครับ”
นักรบได้กลิ่นแอลกอฮอลจากลมหายใจหญิงสาวหน้าสวยก็พอจะรู้ว่าเธอน่าจะดื่มไปเยอะพอสมควรหากปล่อยให้เธออยู่คนเดียวตรงนี้มีหวังถูกใครหิ้วไปง่ายๆแน่
“.. รถ.. พางงงปายยส่งหน่อย”
“บ้านคุณอยู่ที่ไหนครับ”
นักรบเบือนสายตาหนีคนในอ้อมอกเพราะสายเดี่ยวแหวกอกชิ้นน้อยของเธอแทบจะปิดอะไรไม่มิด
“อืม.. ปาย.. ก่อนเดี๋ยวบอก”
“ครับๆ”
ชายหนุ่มพยุงหญิงสาวมาขึ้นรถของตนก่อนจะขับออกจากผับไปด้วยความเร็วน้ำรินขึ้นรถได้ก็นอนฟุบไม่พูดไม่จาร่างอวบอั๋นขยับเขยื้อนแต่ละทีทำใจชายหนุ่มเต้นไม่เป็นส่ำด้วยชุดที่เธอใส่น้อยชิ้นแถมหุ่นของเธอก็ยั่วยวนผู้ชายเต็มตัวอย่างเขาได้เป็นอย่างดี
รถคันหรูแล่นมาจนใกล้ถึงสี่แยกใหญ่นักรบต้องชะลอรถถามหญิงสาวที่เอาแต่นอนแน่นิ่งไม่ยอมบอกทาง
“คุณ.. บ้านคุณอยู่ที่ไหนครับ”
“บ้าน.!”
สาวเจ้าลืมตาตื่นตะโกนจนคนขับที่นั่งข้างๆถึงกับสะดุ้ง
“ค..ครับบ้านคุณอยู่ที่ไหน”
“หมู่บ้านxxxบ้านเลขที่45/2อำเภอ..บลาๆๆ”
“ไหวหรือเปล่าเนี่ย..เฮ้อ!”
นักรบส่ายหัวเพียงแค่เขาถามที่อยู่หญิงสาวดันร่ายยาวบอกถึงแห่งหนตำบลจังหวัดราวกับเขาเป็นไปรษณีย์ไม่นานนักนักรบก็พาหญิงสาวสุดเซ็กซี่ที่เมาจนไม่ได้สติมาถึงที่หน้าบ้านหลังเล็กสีขาว
“คุณ..”
มือหนาเอื้อมเขย่าหัวไหล่มนเบาๆ
“อืม..”
“ถึงบ้านแล้วครับ”
“อุ้มหน่อย..เดินม่ายหวาย”
สาวเจ้าเอ่ยเสียงอู้อี้หนำซ้ำยังไม่ยอมลืมตาหรือแม้แต่จะขยับตัวแม้แต่น้อย
“เฮ้อ..”
นักรบจำต้องลงรถไปเปิดประตูฝั่งหญิงสาวควานหากุญแจบ้านในกระเป๋าใบเล็กของเธอเมื่อเจอพวงกุญแจรูปหัวใจที่คาดว่าน่าจะใช่กุญแจบ้านจึงหยิบขึ้นมาก่อนจะดึงร่างบางลงมาจากรถและอุ้มเธอพาดบ่า
“อื้อ..ห้อยหัวทามมาย..ม่ายชอบห้อยหัว..อย่าแกล้งดิวะตี้”
หญิงสาวยังคงบ่นอู้อี้ไม่รู้เรื่องรู้ราวส่วนนักรบก็ไขกุญแจจนเข้าประตูบ้านมาได้เขาใช้มือถือเปิดแฟลชหาสวิตซ์ไฟไม่นานบ้านก็สว่างด้วยฝีมือของเขา
“นอนตรงนี้ละกัน”
ชายหนุ่มหันซ้ายหันขวาเห็นโซฟาตัวใหญ่ก็รีบพาร่างอวบอิ่มวางลงแต่ดูท่ามือเหนียวหนึบทั้งสองของหญิงสาวจะไม่ยอมปล่อยออกจากลำคอของนักรบง่ายๆ
“คุณ..ปล่อยผม”
นักรบออกแรงเขย่าหัวไหล่มนจนน้ำรินค่อยๆลืมตาขึ้น
“อืม..ผู้ชายยย..หล่ออออจางง”
เมื่อเห็นใบหน้าหล่อเหลาของคนตรงหน้าได้ร่างบางก็เริ่มมีพละกำลังดีดตัวขึ้นโถมชายหนุ่มที่ไม่ทันตั้งตัวจนเขานั้นนอนราบไปกับโซฟาโดยมีตัวหญิงสาวนอนฟุบอยู่ด้านบน
“คุณ..ปล่อยผม”
“ม่าย..อืมม..”
ยังไม่ทันที่นักรบจะลุกหนีเขาก็ถูกจู่โจมจูบที่ริมฝีปากหนาเสียก่อนเลือดร้อนในตัวผู้ชายอกสามศอกเช่นเขาก็เริ่มพลุ่งพล่านอย่างรวดเร็วเพราะมีฤทธิ์แอลกอฮอลผสมอยู่ด้วย
“ค้าว..จูบกานนนแบบเน้..ใช่มะ”
สาวเจ้าชันแขนบนอกแกร่งก่อนจะเงยหน้ายกยิ้มตาปรือเยิ้มเป็นพฤติกรรมที่แสนจะยั่วยวนชายใต้ร่างได้เป็นอย่างดี
“ค..คือ..”
ใบหน้านักรบเริ่มแดงซ่านตัวตนช่วงล่างก็เริ่มผงาดผึงจนตึงกางเกงเพราะตอนนี้หน้าอกหน้าใจของสาวเจ้าทะลักบดเบียดกันอยู่ต่อหน้าเขาไม่ถึงคืบ
”ลอง..อีกทีได้..อื้อ..”
คราวนี้นักรบไม่รอให้หญิงสาวมาจู่โจมตนก่อนเขารวบร่างอวบอิ่มกอดแน่นบดจูบริมฝีปากบางก่อนจะพลิกตัวเองให้ขึ้นคร่อมอยู่ด้านบนคนจอมยั่วน้ำรินแน่นิ่งปล่อยให้คนตัวโตบดจูบด้วยความเร่าร้อนครู่หนึ่งก่อนจะเริ่มดิ้นทุรนทุรายเพราะเริ่มหายใจไม่ออก
“อ.. อื้ออ.. “
ปึก.. ปึก
มือน้อยทุบแขนแกร่งของคนที่คร่อมอยู่บนตัวระรัวหยุดได้เมื่ออีกฝ่ายถอนจูบออกไปแล้ว
“คุณทำได้ไม่ดีเท่าไรนะผมว่า”
นักรบผ่อนจูบเงยหน้าขึ้นเพียงแค่จูบหญิงสาวครู่หนึ่งก็ทำให้เขารู้ว่าหญิงสาวนั้นยังไม่ประสากับเรื่องบทจูบเท่าไรไม่รู้ว่าเธอเคยมีสัมพันธ์กับผู้ชายมาแล้วกี่ครั้งแต่เขาก็ไม่ได้คิดจะถามด้วยอารมณ์ตอนนี้อยากจะปลดปล่อยแทบแย่แล้ว
“อืมม..”
ริมฝีปากหนาก้มลงบดจูบริมฝีปากอวบอิ่มขบกัดริมฝีปากร่างหญิงสาวเล่นนิดหน่อยก่อนจะส่งลิ้นร้ายไซร้ฉกชิมความหวานจากโพรงปากนุ่มทั้งมือหนาตอนนี้ยังล้วงกระชากสายเดี่ยวตัวจิ๋วจนขาดวิ่นเผยเต้าอวบอิ่มชูชัน
“ไม่คิดจะเซฟอะไรเลยหรือไง”
เมื่อไม่มัมผัสถึงผ้าชิ้นไหนนอกจากชิ้นที่ฉีกจนขาดใบหน้าคมจึงผละจูบก้มดูพบว่าหญิงสาวนั้นไม่มีชั้นในอะไรใส่นอกจากสายเดี่ยวที่เขาพึ่งดึงขาดไปเมื่อครู่
“อื้อ..”
หญิงสาวไร้สติแหงนใบหน้าสวยกัดริมฝีปากอวบอิ่มแน่นแอ่นอกเร่าเมื่อถูกตะกุมตะกามดูดดึงยอดถันแพนตี้ตัวจิ๋วก็ถูกดึงถอดทิ้งไปอย่างรวดเร็วด้วยฝีมือชายหนุ่มมือไม้เรียววาดสะเปะสะปะหาที่ยึดเหนี่ยวจนได้หยุดอยู่ที่หัวทุยของคนที่กำลังมูมมามอยู่บนเนินอก
ลมหายใจของนักรบเริ่มหอบถี่ขึ้นแข่งกับร่างอวบอิ่มใต้ร่าง ชายหนุ่มผละจากเต้างามชันตัวขึ้นถอดผ้าผ่อนสลัดทิ้งจนเหลือล่อนจ้อนเผยแผงกล้ามแน่นต่อหน้าสาวเจ้าที่นอนตาปรือเยิ้ม
“ผู้.. ชายยย.. เหมือนนายยย.หนัง.. อิๆๆ”
น้ำรินที่ยังไม่รู้ตัวว่ากำลังจะเจอศึกหนักยังนอนหัวเราะคิกคักอารมณ์ดีเมื่อเห็นแผงกล้ามแกร่งของชายหนุ่ม
“ไปดูหนังอะไรมาล่ะครับ”
นักรบยิ้มกริ่มพอจะเดาได้ว่าหนังที่หญิงสาวดูเป็นประเภทไหนถึงได้หัวเราะคิกคักไม่ตื่นกลัวเมื่อเห็นเจ้าโลกชูชันชี้หน้าอยู่แบบนี้
ดวงตาคมไล่มองทรวดทรงองเอวคนที่นอนยิ้มอ่อนอยู่บนโซฟายอมรับในใจว่าร่างกายของเธอสมบูรณ์แบบเต็มไม้เต็มมือเขาไปทุกส่วน
ชายหนุ่มเริ่มขึ้นคร่อมแทรกลำขาแกร่งเข้ากลางขาเรียวยกมือหนาแยกดันเข่ามนให้สรีระของเธอพอดีกับตัวเขาจนกระโปรงตัวจิ๋วร่นขึ้นไปอยู่ที่หน้าท้องน้อยก่อนจะก้มลงบดจูบริมฝีปากอวบอิ่มอย่างเร่าร้อน
“อือ..อื้ออ..”
น้ำรินเริ่มดิ้นหนีด้วยรู้สึกเจ็บขณะที่ถูกท่อนเอ็นแข็งอุ่นอัดบดเบียดเข้ามาในใจกลางน้องสาวนักรบรีบรวบกอดหญิงสาวเอาไว้แน่นส่งลิ้นร้านตวัดในโพรงปากนิ่มดูดดึงลิ้นเรียวเล้าโลมด้วยอารมณ์ดิบขึ้นก่อนจะกดแท่งร้อนให้เข้าไปสู่ร่องสวาทจนมิดและแล้วเยื่อบางๆในร่างกายหญิงสาวที่เขาได้ผ่านเข้าไปทำให้รู้ได้ทันทีว่าเธอนอนกับเขาเป็นคนแรก
“อึก..อ๊ายย.. อย่าฆ่าาากันเลย.. ฮือๆๆ”สาวเจ้าเจ็บปวดดั่งถูกมีดกรีด เธอส่งเสียงร้องระงมเมื่อริมฝีปากถูกปล่อยให้เป็นอิสระ“หา.!.”นักรบก้มลงมองส่วนเชื่อมต่อเพียงแค่เขาขยับตัวตนดึงออกแค่ครึ่งเดียวเลือดหยดน้อยก็หลั่งไหลตามออกมาไม่ขาดสายครั้นจะหยุดการกระทำตอนนี้ก็เป็นไปไม่ได้เขาใช้วิธีกลับไปเล้าโลมหญิงสาวด้วยรสจูบต่อเพื่อผ่อนคลายความเจ็บกดแช่แท่งร้อนคาร่องสวาทพักใหญ่จนเห็นได้ว่าหญิงสาวเริ่มปรับตัวได้จึงค่อยขยับสะโพกแกร่งเนิบนาบเข้าออกเชื่องช้าและเริ่มเร่าร้อนขึ้นในเวลาต่อมาจวบจนค่อนคืนศึกสวาทจึงจบลงได้ช่วงเย็นของวันต่อมา“ฮือๆๆ...”น้ำรินเอาแต่ร้องห่มร้องให้อยู่บนห้องนอนงานการของเธอก็ไม่ได้ไปทำเพราะรู้สึกระบมไปทั้งตัวแถมยังมีไข้อ่อนๆเธอนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมายังไงก็นึกไม่ออกจำได้แค่ตอนเช้าเธอนั้นตื่นมาพร้อมกับผู้ชายที่นอนเปลือยกายกกเธออยู่ที่โซฟาแถมความบริสุทธิ์ของเธอที่เก็บเอาไว้มาจนถึงตอนนี้ก็ถูกชายแปลกหน้านั่นพรากไปด้วยตอนนี้เธอพูดอะไรไม่ออกได้แต่เพียงร้องให้ระบายความเสียใจเท่านั้นบริษัทxxxตอนนี้ได้เวลาเลิกงานของนักรบแต่เขายังนั่งจมอยู่ที่เก้าอี้ทำงานทั้งที่งานทุกอย่างก็เ
“ผมมีงานต้องเคลียอีกนิด”“เสียดายแย่”น้ำรินเห็นทีต้องสะกิดเตชินหญิงสาวเน้นเขี้ยวเน้นฟันส่ายหัวไม่ให้เตชินทำท่าทีเสียมารยาท“นี่..ผัวเพื่อน!”“ขอตัวนะครับ”ชาติเสือรีบแกะมือเตชินออกก่อนจะหมุนตัวเข้าบ้านไปทันทีเพราะไม่มีอะไรที่น่ากังวลใจสำหรับเขาแล้ว“ฉันล่ะอิจฉาแกจริงๆทรายแก้ว...ทั้งหล่อทั้งล่ำ”เตชินยังไม่วายมองตามหลังชาติเสือตาเยิ้มทรายแก้วก็ได้แต่อมยิ้มเข้าใจดีว่าเพื่อนเธอนานๆทีจะได้ออกมาเปิดหูเปิดตาเพราะทำแต่งาน“ผัวเพื่อนก็ไม่เว้น..โถ่..มานั่งนี่เลย”น้ำรินรีบดึงเตชินลงนั่งเก้าอี้จะได้เลิกฟุ้งซ่านเสียทีหลังจากนั่งคุยกันพักใหญ่เตชินก็นึกขึ้นได้ว่าเตรียมเครื่องดื่มเพิ่มความสนุกมาด้วยเขารีบวิ่งไปที่รถเพื่อหยิบถังไวน์หลังรถมาตั้งกลางโต๊ะอาหารต่อหน้าสองสาวคิดว่าหากคืนนี้จะเมาให้เต็มที่เพราะอยู่ที่บ้านเพื่อนจึงไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น“ฉันเตรียมมา”“วันนี้ฉันไม่ดื่มนะไม่ค่อยจะดี”น้ำรินรีบปฏิเสธเพราะเธอไม่อยากจะเมาอีกแล้วกลัวเหลือเกินกับการที่ทำอะไรน่าอายลงไปแล้วจำอะไรไม่ได้“อ้าว...งั้นคงต้องเป็นแกแล้วล่ะทรายที่ต้องดื่มเป็นเพื่อนฉัน”เตชินบุ้ยปากก่อนจะหันมาจับจ้องทรายแก้ว“ตีตี้..แกก็
วันเวลาที่ทรายแก้วใช้ชีวิตอยู่กับชาติเสือเนิ่นนานจวบจนสองเดือนกว่าแล้วทั่งคู่สนิทกันมากโดยที่ชาติเสือไม่รู้ตัวมีเพียงทรายแก้วเท่านั้นที่รู้ทุกอย่างว่าความรู้สึกของตัวเองแปรเปลี่ยนมากมายขนาดไหนคำพูดคำจาของทั้งคู่ดูสนิทสนมกันมากขึ้นโดยชาติเสือนั้นเปลี่ยนจากแทนตัวเองว่าฉันเป็นพี่ทุกคำที่พูดจากับทรายแก้วหากไม่ติดว่าทั้งคู่อยู่ด้วยกันตามสัญญาก็เปรียบเสมือนคู่นี้เป็นคู่รักข้าวใหม่ปลามันที่น่ารักคู่หนึ่งเลยทีเดียวชาติเสือไว้ใจทรายแก้วจนปล่อยให้ไปไหนมาไหนได้แต่ต้องกลับมาตามเวลาที่เขากำหนดชีวิตทรายแก้วในตอนนี้จึงรู้สึกมีอิสระไม่อึดอัดเช่นแต่ก่อนแถมยังมีเจ้าลูกหมาที่เคยช่วยมาอยู่เป็นเพื่อนคลายเหงาเรียกได้ว่าช่วงนี้ทรายแก้วมีรอยยิ้มทุกวันเลยก็ว่าได้พักหลังมานี้เธอค่อนข้างมีความสุขมากเพราะชาติเสือไม่เคยพูดหรือกระทำไม่ดีกับเธอคอยตามใจสารพัดทั้งตัวติดเธอไม่ค่อยห่างความรู้สึกดีที่เธอมีให้เขาจึงมากเพิ่มขึ้นเรื่อยๆวันนี้เสธฐาเข้ามาหาน้องสาวตนในช่วงเช้าเพื่อที่จะมาบอกถึงข่าวดีบางอย่างให้ทรายแก้วได้รับรู้“เป็นยังไงบ้าง” “ทรายเริ่มชินกับที่นี่แล้วค่ะพี่เสธ”“อืม..เห็นแบบนี้พี่ค่อยโล่งใจ
โรงพยาบาลทรายแก้วมาถึงโรงพยาบาลพร้อมชาติเสือได้เธอก็เอาแต่ร้องห่มร้องให้ดีที่ตอนนี้นำรินเข้าเวรในโรงพยาบาลจึงคอยปลอบทรายแก้วให้ผ่อนคลายความตึงเครียดได้บ้าง“ฮือๆๆ..”“ไม่เป็นไรแล้วทราย..คุณเสืออยู่ในมือหมอแล้ว”“เค้าจะปลอดภัยใช่ไหม”“อืม..เชื่อฉันเค้าไม่ได้ถูกยิงในจุดสำคัญ..เดี๋ยวฉันมานะต้องไปช่วยหมอแล้ว”“อืม..”น้ำรินคงต้องปล่อยให้ทรายแก้วนั่งอยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉินไปก่อนเพราะเธอเองต้องไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อไม่นานนักเด็ดเดี่ยวและนักรบก็มาถึงโรงพยาบาลพร้อมกับตำรวจตอนนี้ทรายแก้วถูกตำรวจพาไปนั่งสอบปากคำพักใหญ่โดยมีเด็ดเดี่ยวดูแลอยู่ไม่ห่างส่วนนักรบก็นั่งคอยฟังความคืบหน้าการรักษาจากหมอในห้องผ่าตัดด้วยสีหน้าที่ตึงเครียดเพราะเป็นห่วงเจ้านายที่รักดั่งพี่ชายคนหนึ่งก็ว่าได้“เฮ้อ.. อดนอนนิดหน่อยทำสำออยไปได้ยัยน้ำริน”น้ำรินเดินออกมาจากห้องผ่าตัดด้วยใบหน้าซีดเซียวนั่งพักลงที่เก้าอี้ตรงหน้าห้องผ่าตัดสูดยาดมเฮือกใหญ่เธอถูกหมอและพยาบาลสั่งให้มาพักเพราะเหมือนจะวูบขณะเป็นลูกมือหมอไม่เข้าใจว่าร่างกายตัวเองตอนนี้ทำไมอ่อนแอเสียจริงทั้งที่วัยของเธอก็ยังไม่เข้าเลขสามอดนอนไม่ถึงคืนถึงกับจะเป็นลมเสีย
“บอกพ่อกับแม่คุณหรือยัง”ชายหนุ่มหย่อนก้นนั่งลงเก้าอี้โซฟาตรงข้ามกับน้ำรินก่อนจะเหลือบสายตามองไปยังโซฟาตัวยาวที่มีเรื่องราวของเขาและเธอในคืนนั้น“ยัง”น้ำรินรู้ว่าชายหนุ่มตรงหน้ากำลังคิดอะไรเธอรีบเข้ามานั่งตรงหน้าของเขาก่อนจะรีบตอบไปตามตรงเพราะลำบากใจที่จะคุยกับพ่อและแม่ด้วยกลัวว่าพวกท่านจะผิดหวังที่เธอดันมาท้องก่อนที่จะแต่งงานมีสามี“จะบอกพวกท่านเมื่อไร”“คุณจะมาเจ้ากี้เจ้าการอะไรกับชีวิตฉัน”น้ำรินบ่นเสียงอู้อี้“ก็ลูกผมอยู่ในท้องคุณ..ผมต้องรับผิดชอบ”“เฮ้อ...ฉันไม่กล้าบอกพ่อกับแม่”“ทำไม”“ฉันกลัวพวกท่านเสียใจ...”“อาจจะไม่เป็นอย่างที่คุณคิดก็ได้”“แล้วคุณล่ะบอกพ่อแม่คุณหรือยัง”“ผมไม่มี”“หืม”คำตอบของนักรบทำน้ำรินตกใจพอสมควร“ถ้าคุณกลัว..ผมจะคุยกับพ่อแม่คุณเอง”นักรบตัดสินใจแล้วว่าจะเข้าไปคุยกับพ่อแม่หญิงสาวเองหากเธอไม่กล้าพูดเพราะเขาอยากจะทำให้สิ่งที่เป็นปัญหาอยู่ตอนนี้ถูกคลี่คลายไปในทางที่ถูกต้อง“ฉันกลัวแม่กับพ่อฉันผิดหวังถ้ารู้ว่าฉันเมาแล้วไปนอนกับคนที่ไม่รู้จักจนท้อง”“ตอนนี้เราก็รู้จักกันแล้วไงผมชื่อนักรบคุณชื่อน้ำริน...เราแค่บอกพวกท่านว่าเราคบกันนานแล้วแค่นี้ก็ได้”“เฮ้อ.
ชาติเสือรักษาตัวได้สามสี่วันเขามีแม่และภรรยาคอยดูแลตลอดวันนี้ก็ได้กลับมาที่บ้านเสียที“แม่จะอยู่ดูแลแกที่นี่ต่อไม่ว่าอะไรนะ”สุรีพรแม้นจะไม่เคยได้รับคำพูดดีๆกับลูกชายเมื่อดูแลเขาอยู่ที่โรงพยาบาลแต่เธอก็อยากดูแลชาติเสือต่อจนหายดี“คุณแม่กลับไปเถอะครับผมมีทั้งลูกน้องทั้งทรายแก้วดูแลอยู่แล้ว”“อืม.. ได้.. พรุ่งนี้แม่จะกลับ”สุรีพรรับปากกับชาติเสือด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีนักบางครั้งเธอก็เหนื่อยเหลือเกินกับลูกชายตัวเองที่แม้นเธอจะมีทีท่าห่วงใยขนาดไหนแต่เขาก็ยังทำเป็นไม่รับรู้ทรายแก้วรับรู้คำที่ชาติเสือพูดจาไม่ค่อยดีใส่สุรีพรตลอดเธอจึงอึดอัดกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่พอสมควรทรายแก้วดูแลชาติเสือจนเขาหลับไปได้ก็ถึงเวลาที่เธอจะมาทำให้เรื่องคาใจมันกระจ่างเสียทีแม้นจะดูเสียมารยาทก็ตาม“ทรายขอเสียมารยาทถามนะคะคุณแม่..พี่เสือกับคุณแม่มีอคติอะไรต่อกันเหรอคะ”“เฮ้อ..เรื่องมันก็นานมาแล้วนะ.. ตอนนั้นตาเสือคบกับผู้หญิงอยู่คนนึง....”คราแรกสุรีพรไม่อยากจะพูดถึงเรื่องเก่าเท่าไรแต่เธอคิดว่าควรจะเล่าให้ภรรยาลูกได้รับรู้เผื่อทรายแก้วจะช่วยทำให้ความสัมพันธ์เธอกับลูกชายดีขึ้นได้บ้าง“อย่างนี้นี่เอง..”ทรายแก้วฟั
“คุณมาที่นี่ได้ไง”พลันสายตาชายหนุ่มยังไม่ทันตวัดมองไปที่ทรายแก้วผู้หญิงที่นั่งข้างภรรยาเจ้านายก็เป็นจุดดึงดูดความสนใจของเขาเสียก่อนในตอนนี้ทั้งน้ำรินและนักรบต่างก็มีท่าทีตกใจไปตามๆกัน“ฉันมาหาเพื่อนฉันแล้วคุณมาได้ไง”“ที่นี่บ้านเจ้านายผม...แล้วผมก็พักบ้านใกล้ๆนี้”“โลกกลมจังเลยนะคะ”ทรายแก้วไม่ต้องถามให้แน่ใจก็รู้แล้วว่าพ่อของลูกเพื่อนเธอเป็นใครเวลาพ้นผ่านไปร่วมอาทิตย์ตอนนี้ก็ถึงวันงานแต่งของนักรบและน้ำรินงานแต่งของทั้งสองจัดขึ้นที่บ้านของน้ำรินไม่ได้มีพิธีรีตรองอะไรมากมายมีเพียงบอกกล่าวให้เพื่อนๆและญาติที่สนิทได้รับรู้มีการวางสินสอดและจดทะเบียนสมรสเท่านั้นหลังเสร็จสิ้นพิธีบ่าวสาวก็สังสรรค์กับเพื่อนฝูงตามประสา“พี่ไม่นึกว่าจะเห็นภาพรบมีครอบครัวเลย”ชาติเสือยืนมองนักรบยืนคู่กับน้ำรินขณะแจกของชำร่วยให้คนที่มาในงานเขาปลื้มใจดั่งเห็นน้องชายคนหนึ่งเป็นฝั่งเป็นฝาแม้จะกะทันหันก็ตาม“ทรายก็ไม่คิดว่ารินจะแต่งงานมีลูกก่อนเพื่อนเหมือนกันค่ะ..”ทรายแก้วยิ้มร่าคิดมาเสมอว่าคนอย่างน้ำรินคงจะหาแฟนยากเพราะเป็นคนที่ค่อนข้างเลือกเยอะแล้วคนที่อยู่กับเพื่อนเธอได้ต้องเป็นคนที่ใจเย็นมากจริงๆเธอเห็นว่านี่แ
“แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความผิดคุณแม่ทั้งหมดนะคะท่านแค่หวังดีกับพี่เสือ..แล้วท่านก็ไม่ได้อยากให้เกิดเรื่องร้าย”“อย่าพูดเรื่องนี้กับพี่อีก”จบคำพูดของทรายแก้วชาติเสือก็ลุกขึ้นพรวดเอ่ยกับร่างบางเสียงแข็งด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์“เพราะพี่เสือยังรักคุณอรอยู่ใช่ไหมล่ะคะ”สาวเจ้ามองร่างสูงเดินเข้าบ้านผ่านม่านน้ำตาริมฝีปากบางเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือผสมความน้อยเนื้อต่ำใจอยากจะถามคำถามนี้กับเขาตั้งแต่เมื่อครู่แต่ใจก็ไม่กล้าเพราะกลัวคำตอบมันจะย้อนกลับมาทำร้ายจิตใจตัวเองตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงเช้าทรายแก้วไม่กล้าที่จะมองหน้าชาติเสือเท่าไรนักเพราะไม่รู้ว่าเขานั้นหายโกรธเธอหรือยังจวบจนได้เวลาอาหารเช้าเธอจึงยอมเดินมาตามชายหนุ่มที่เดินเล่นอยู่ริมชายหาดให้กลับไปที่บ้านพักเพื่อทานอาหารเช้า“พนักงานเอาอาหารเช้ามาเสริฟแล้วนะคะ”ชาติเสือดึงแขนเรียวของทรายแก้วรวบตัวเธอเข้ามากอดด้วยไม่อยากให้เธอและเขาต้องตกอยู่ในบรรยากาศที่อึมครึมขณะที่เที่ยวพักผ่อนกัน“โกรธพี่เรื่องเมื่อคืนเหรอ”หญิงสาวส่ายหัวซุกใบหน้าหวานซบกับอกแกร่ง“พี่แค่ไม่ชอบให้เธอพูดเรื่องนั้น..ขอได้หรือเปล่าอย่าพูดถึงมันอีก”“ก็ได้ค่ะ”ทรายแก้วเงียบไ