“ค่ะ”
ทรายแก้วละมือจากช้อนส้อมในจานปลานึ่งเธอเริ่มตักข้าวใส่จานตัวเองตามที่สุรีพรสั่งแอบอมยิ้มเมื่อเห็นอีกมุมของสุรีพรและชาติเสือที่มีเหมือนกันเรื่องที่ไม่ชอบให้ใครมาอดอาหารในเวลาที่ต้องทาน
สุรีพรเลือกที่จะตักน้ำซุปถ้วยไก่ตุ๋นทานก่อนเพราะรู้สึกว่ากลิ่นช่างหอมยั่วยวนเตะจมูกเสียเหลือเกิน
“อืม..”
เธอพยักหน้าเล็กน้อยเมื่อน้ำซุปรสกลมกล่อมสัมผัสลิ้นนับว่าฝีมือของลูกสะใภ้เธอดีไม่ใช่น้อยสุรีพรชื่นชมฝีมือหญิงสาวอยู่ในใจไม่ปริปากพูดอะไรออกมาแต่การที่หญิงวัยกลางคนยื่นมือตักอาหารทานไม่พูดไม่จาก็ทำให้ทรายแก้วรู้แล้วว่าแม่สามีนั้นถูกใจฝีมือเธอแค่ไหน
“ของหวานค่ะคุณแม่”
หลังจากทานขอคาวจนเรียบร้อยแล้วตอนนี้ก็ถึงเวลาของของหวานวันนี้ทรายแก้วเลือกที่จะเสริฟมะยงชิดลอยแก้วให้กับสุรีพรเพราะเธอแช่มะยงชิดกับน้ำเชื่อมไว้ตั้งแต่เมื่อเย็นวานหากสุรีพรได้ทานคงสดชื่นไม่น้อย
คนเป็นแม่สามีอย่างสุรีพรนั่งทานของที่ลูกสะใภ้เสริฟเงียบๆเพราะเธอถูกใจฝีมือของทรายแก้วทั้งของคาวและของหวานเลยไม่มีข้อที่จะหาเรื่องตำหนิได้เลยแม้แต่ข้อเดียว
ช่วงหัวค่ำก่อนที่ทรายแก้วจะเตรียมตัวเข้าห้องนอนเธอก็ไม่ลืมที่จะเดินเลยไปถามไถ่แม่สามีเผื่อว่าจะขาดเหลืออะไรจะได้รีบจัดการให้
“หืม..”
ดวงตากลมโตมองไปยังประตูห้องที่เปิดแง้มอยู่ด้วยความแปลกใจก่อนจะปรี่เข้าไปเคาะประตู
ก๊อกๆๆ
“คุณแม่...เป็นอะไรคะ”
ทรายแก้วเห็นสุรีพรนั่งกองอยู่กับพื้นติดกับหน้าประตูสีหน้าเหยเกจึงรีบเข้าไปช่วยพยุงตัวขึ้นไปนั่งที่ปลายเตียง
“ตะคริวที่น่องน่ะสิ”
“เดี๋ยวทรายนวดให้ค่ะ”
หญิงสาวรีบนั่งดึงขาของสุรีพรให้ตึงก่อนจะรีบใช้มือดันปลายเท้าของคนเป็นตะคริว
“ดีขึ้นไหมคะ”
“อืม..”
ทรายแก้วปฐมพยาบาลสุรีพรพักใหญ่จนอาการของเธอเริ่มดีขึ้นหญิงสาวจึงละมือจากการกดปลายเท้าของแม่สามีก่อนจะรีบผุดลุกยืนขึ้น
“รอทรายแปปนึงนะคะ”
ว่าจบก็สาวเท้ารัวออกจากห้องลงไปในครัวเพื่อเตรียมน้ำอุ่นมาแช่เท้าให้กับแม่สามี
“คุณแม่วางเท้าลงมานะคะ”
“อืม”
สุรีพรมองทรายแก้วด้วยสายตาที่อ่อนลงกว่าเดิมมากนึกขอบคุณหญิงสาวในใจที่ทำให้อาการของเธอดีขึ้นมากแต่ก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาเช่นเดิม
“พรุ่งนี้ทรายจะออกไปซื้อข้าวกล้องให้คุณแม่นะคะธัญพืชที่ไม่ขัดสีวิตามินสูงลดพวกอาการเหน็บชาตะคริวได้ค่ะ...อีกอย่างทานแล้วไม่ค่อยอ้วนด้วย...”
เสียงหวานเอ่ยเจื้อยแจ้วขณะที่ใช้มือเล็กบีบนวดเท้านวดน่องให้สุรีพรหญิงวัยกลางคนดูพฤติกรรมของลูกสะใภ้ไม่พูดไม่จาก่อนจะสังเกตว่าตอนนี้คนที่กำลังบีบนวดให้เธอนั้นอมยิ้มกริ่มโดยไม่มีสาเหตุอยู่คนเดียว
“ยิ้มอะไรของเธอ”
“ เปล่าค่ะ”
ใบหน้าหวานเงยหน้ามาส่ายหัวที่เธอยิ้มได้ในตอนนี้เพราะนึกถึงในวันที่บีบนวดให้แม่ของเธอเท่านั้นภาพวันวานที่มีความสุขไหลย้อนกลับมาในหัวจนเธอกลั้นความสุขเอาไว้ไม่ได้
ตื๊ดด... ตื๊ดดด
มือเรียววาดหยิบมือถือที่กำลังสั่นในเวลากลางดึกมากดรับเอ่ยทักทายปลายสายที่ไม่ได้มองแม้แต่เบอด้วยน้ำเสียงงัวเงีย
“สวัสดีค่ะ”
“ทำอะไรอยู่”
“คุณโทรหาใครคะ?”
ทรายแก้วรู้สึกไม่คุ้นเสียงกับปลายสายเท่าไรทั้งยังคิดว่าคนที่โทรมาน่าจะโทรผิด
“อย่าบอกนะว่าเธอจำฉันไม่ได้”
ปลายสายเริ่มเสียงแข็งจนหญิงสาวเริ่มลืมตาเต็มที่ผุดลุกนั่งมองหมายเลขหน้าจอมือถือแต่เห็นว่าไม่มีชื่อขึ้นทั้งเบอก็ยังแปลกจึงคิดว่าน่าจะเป็นหมอที่เคยทำงานด้วยท่านไหนสักท่านที่โทรมา
“คุณหมอท่านไหนเหรอคะ”
“ฉันชาติเสือผัวเธอไง!”
ใบหน้าหวานเอียงใบหน้าหลบเสียงปลายสายที่ตะคอกกลับมาแทบไม่ทัน
“เอ่อ...ขอโทษทีค่ะ”
“ดูท่าจะมีหมอโทรหาเธอบ่อยนะ”
“ทรายก็แค่คิดว่าคนที่โรงพยาบาลค่ะ...แล้วพี่เสือโทรมาตอนนี้มีอะไรเหรอคะ”
ริมฝีปากบางว่าอู้อี้เล็กน้อยใครจะคิดว่าชายหนุ่มจะโทรหาเธอในตอนดึกดื่นเช่นนี้
“หวังว่าเธอจะไม่พูดสิ่งที่ไม่ควรพูดกับแม่ฉัน”
“ทรายรู้ค่ะว่าอะไรควรพูดไม่ควรพูด...มีอะไรอีกหรือเปล่าคะทรายง่วงมาก”
“เธอคงเหนื่อยหน่อยที่ต้องรับมือกับแม่ฉัน”
“ทรายว่าทรายรับมือคุณแม่ได้ค่ะไม่มีอะไรต้องห่วงแค่นี้นะคะ”
ทรายแก้ววางสายได้ก็ฟุบหัวลงหมอนเธอก็คิดว่าชาติเสือจะมีธุระอะไรสำคัญที่แท้ก็แค่ย้ำให้เธอไม่ลืมหน้าที่เท่านั้น
ทางด้านชาติเสือในตอนนี้เขากำลังนั่งทานอาหารว่างในห้องทำงานอันที่จริงไม่ได้อยากรบกวนเวลานอนของหญิงสาวเท่าไรนักแต่เป็นเพราะเกิดคิดถึงเสียงหวานที่เคยได้ยินขณะที่นั่งเงียบๆคนเดียวเสียอย่างนั้นหวังในใจว่าแม่ของเขาจะไม่โหดร้ายกับทรายแก้วเช่นที่เคยเป็นกับอดีตภรรยาของเขา
เช้าวันนี้ทรายแก้วจัดการหาอาหารหลากหลายเอาไว้ให้กับสุรีพรเพราะอยากจะให้แม่สามีของเธอได้รับวิตามินที่ครบถ้วน
“ข้าวต้มปลาค่ะคุณแม่ทานข้าวต้มเรียบร้อยแล้วเดี๋ยวทรายจะยกผลไม้กับของหวานมาให้นะคะทานอาหารให้หลากหลายคุณแม่จะได้แข็งแรงค่ะ”
“คิดว่าประจบฉันแล้วฉันจะยอมรับเธออย่างนั้นเหรอบอกไว้เลยว่าเธอคิดผิด”
เป็นน้ำเสียงห้วนถากถางอีกเช่นเคยที่สุรีพรนั้นชอบพูดใส่ทรายแก้วจนหญิงสาวถึงกับหน้าเจื่อนกะทันหัน
“ทรายไม่ได้อยากประจบคุณแม่นะคะแค่อยากดูแลให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้เท่านั้น...ทรายอยากให้คุณแม่ลดอคติแล้วมองทรายใหม่ว่าทรายไม่ได้ทุกอย่าเพื่อประจบ”
สาวเจ้าว่าจบก็จัดแจงตักข้าวต้มให้แม่สามีเงียบๆเธอไม่เคยคิดประจบที่ทำทุกอย่างเพราะมันมาจากใจล้วนๆสุรีพรแม้จะทำท่าทีเหมือนหูทวนลมแต่สิ่งที่หญิงสาวพูดนั้นสะกิดหัวใจของเธอพอสมควรบรรยากาศที่โต๊ะอาหารเช้านี้จึงเงียบงันเป็นพิเศษเพราะทรายแก้วก็ไม่ได้อยากพูดจากวนใจอะไรสุรีพรมากนัก
สุรีพรใช้เวลาอยู่ที่บ้านนี้ร่วมสามสี่วันแล้วเธอมีทรายแก้วคอยเกาะแกะดูแลใกล้ตัวตลอดเวลาแม้นจะมีท่าทีรำคาญใส่เท่าไรทรายแก้วก็ไม่เคยนึกเคืองใจจนทำให้ใจที่มีกำแพงกั้นกับลูกสะใภ้ตอนนี้จึงถูกพังทะลายไปมาก
ครื่นน..
ช่วงเย็นวันที่ฟ้าฝนครึ้มลงมาทรายแก้วหมายรีบวิ่งไปเก็บผ้าเข้าบ้านก่อนที่ฝนจะตกแต่เธอก็ต้องชะงักเมื่อได้กลิ่นหอมเตะจมูกลอยมาจากในครัว
“หืม.. หอมจัง”
หญิงสาวรีบวิ่งไปดูว่าใครกำลังทำอะไรพอเข้าในครัวมาได้จึงเห็นว่าสุรีพรกำลังจะยกหม้อลงจากเตาแก๊สเธอจึงต้องรีบวิ่งเข้าไปช่วยด้วยดูจากควันที่ออกจากปากหม้อก็รู้ว่าน่าจะร้อนมาก
“คุณแม่จะทำอะไรคะเดี๋ยวทรายทำให้ค่ะ”“ไม่ต้องฉันทำเองได้”สุรีพรไม่ยอมปล่อยมือง่ายๆเพราะแค่ยกหม้อลงจากเตาแค่นี้ไม่ใช่เรื่องที่เธอทำไม่ได้“ให้ทรายทำนะคะมันร้อนค่ะ”ฟึ่บ..” อ๊ายย.. “เมื่อยื้อแย่งกันไปมาน้ำต้มร้อนๆในหม้อก็กระฉอกลวกมือทรายแก้วจนเธอร้องลั่นสุรีพรจึงจำต้องวางหม้อลงบนเตาแล้วรีบดึงมือทรายแก้วมาล้างน้ำ“ก็บอกแล้วไงว่าไม่ต้องมายุ่งยัยเด็กบ้าเอ้ย”หญิงวัยกลางคนบ่นอุกเมื่อเห็นว่ามือของทรายแก้วเห่อแดงจนเห็นได้ชัดเธอรีบใช้ทิชชู่ซับมือน้อยที่เปียกก่อนจะจูงหญิงสาวออกมาทายาด้านนอกทรายแก้วเห็นอาการเป็นห่วงของแม่สามีก็มีสีหน้าแปลกใจไม่น้อยก่อนจะอมยิ้มออกมาด้วยพฤติกรรมของสุรีพรที่ทีท่าทีห่วงใยเธอตอนนี้เหมือนกับแม่ของเธอไม่มีผิด“ไม่แสบร้อนหรือไงยิ้มอยู่ได้”“คุณแม่ดุทรายเหมือนที่แม่ทรายชอบพูดเปี๊ยบเลยค่ะ”“ใครจะไม่ดุอยู่ดีๆก็มาหาเรื่องเจ็บตัว...เดี๋ยวตาเสือก็ว่าฉันทำร้ายเมียตัวเองอีก”“ไม่หรอกค่ะคุณแม่...ทรายผิดเองที่ไม่ระวัง”ทรายแก้วยังไม่ยอมหุบยิ้มง่ายๆขณะที่แม่สามีกำลังทายาให้เธอรู้สึกอบอุ่นหัวใจจนลืมความเจ็บไปเลยก็ว่าได้ในเช้าของวันต่อมาเป็นอีกวันที่แม้ทรายแก้วจะยังไม่หายเจ็บมือ
สุรีพรเดินขึ้นมาหาทรายแก้วที่ห้องนอนในช่วงบ่ายเพราะเห็นว่าตั้งแต่ทรายแก้วกลับมาก็ไม่ลงมาด้านล่างอีกเลย“นอนยังไงไม่ล็อคประตูแม่คนนี้”สุรีพรบิดลูกบิดประตูห้องนอนของทรายแก้วเห็นว่าไม่ได้ล็อคจึงถือวิสาสะเดินเข้าไปด้านในทั้งส่ายหัวบ่นอุกเมื่อเห็นว่าเธอไม่รอบคอบเอาเสียเลย“ทรายแก้ว...ทรายแก้ว... ฉันว่าแล้วเชียว”สุรีพรเดินเข้ามาเรียกลูกสะใถ้ที่นอนฟุบอยู่กับเตียงไม่ยอมขยับก่อนจะยื่นมือไปแตะหน้าผากพบว่าตัวหญิงสาวร้อนจี๋เป็นเช่นที่เธอคิดไม่มีผิดว่าทรายแก้วตากฝนปล่อยให้ตัวเปียกนานขนาดนั้นจะต้องไข้ขึ้นเห็นท่าไม่ดีสุรีพรจึงหาน้ำหาผ้ามาเช็ดตัวให้ทรายแก้วก่อนจะโทรเรียกหมอมาดูอการของลูกสะใภ้ด้วยเห็นว่าไข้ขึ้นสูงหากรอให้ทรายแก้วตื่นมาทานยาเองอาจจะชักได้“แม่จ๋า...หนูอยากกลับบ้าน”“กลับบ้าน?”สุรีพรชะงักเล็กน้อยขณะเช็ดหน้าเช็ดตาทรายแก้วไม่เข้าใจในคำที่หญิงสาวเพ้อเท่าไรในเมื่อเห็นว่าเธออยู่ที่นี่ก็ดูจะมีความสุขดีแล้วทำไมถึงอยากกลับบ้านก๊อกๆๆ“หมอมาแล้วครับคุณท่าน”“อ่อ..ให้เข้ามาเลย”สุรีพรไม่ทันที่จะหาความกระจ่างในความสงสัยได้เธอก็ต้องละทิ้งความสงสัยและลุกให้หมอเข้ามาดูอาการทรายแก้วก่อนหลังจากที
“เอาไว้ที่เรือนอื่นก็ไม่ได้เหรอคะ”“ไม่ได้...หน้าที่ของเธอคือสนใจเพียงฉันไม่ใช่ไปสนใจหมา”“แต่ทรายอยากดูแลมันนี่คะมันน่าสงสารจะตาย”“ฉันไม่ให้เลี้ยง..ฉันไม่ชอบหมา”“ใจร้ายแม้กระทั่งกับหมา”ทรายแก้วผุดลุกหันหลังบุ้ยปากบ่นอู้อี้ไม่ค่อยพอใจเท่าไรที่ชายหนุ่มนั้นทำท่าทีไม่สนใจเรื่องที่เธอร้องขออีกทั้งยังหันหน้ามาคุยกับเธอดีๆอีกด้วย“ทรายแก้ว”ใบหน้าคมส่ายไปมาจ้องมองร่างบางที่เดินไม่พอใจออกนอกห้องไปจะให้เขาตามใจเธอเรื่องนี้เห็นจะเป็นไปได้ยากเพราะมีปมในใจเรื่องของลูกหมาด้วยเด็กๆอยากจะเล่นหมาบ้านของยายตนแต่กลับถูกไล่กัดหลังจากนั้นจึงไม่ชอบลูกหมาอีกเลยจนถึงตอนนี้เจอที่ไหนเป็นต้องเดินเลี่ยงทุกทีโต๊ะอาหารเย็นวันนี้ปกคลุมไปด้วยความเงียบเพราะทรายแก้วยังคงครุ่นคิดหาวิธีจะทำอย่างไรให้ขาติเสือยอมให้เธอเลี้ยงลูกสุนัขส่วนชาติเสือเองก็ยังไม่อยากหาเรื่องคุยกับหญิงสาวเพราะกลัวว่าเธอจะทำหน้าออดอ้อนขอเลี้ยงเจ้าลูกหมาที่เขาไม่ชอบขึ้นมาอีกช่วงเวลาของอาหารคาวดำเนินไปพักใหญ่เมื่อเรียบร้อยแล้วทรายแก้วจึงรีบเดินเข้าไปหยิบกล่องฟักทองเชื่อมในตู้เย็นออกมาให้ชาติเสือเธอ“ของหวานค่ะ”“อืม..”ชาติเสือเห็นกล่องฟักทองเ
“อ่า..อ้าสส..”คนตัวโตส่งเสียงคำรามลั่นขณะโหมกระแทกสะโพกแกร่งถี่รัววันนี้เขาจะทำศึกสวาทให้หนำใจจากที่ห่างตุ๊กตายางตัวโปรดไปหลายวัน“อ้ะ.. อ้ะ.. อื้ออ.. “ร่างบางนอนหัวสั่นหัวครอนครางเสียงอ่อนเสียงหวานมือเรียวยกจิกปัดป่ายไม่อยู่สุขเพราะในตัวตอนนี้มีแต่ความเสียวซ่านวาบหวามครอบงำเมื่อหนำใจกับท่วงท่าพื้นฐานแล้วคนตัวโตก็รวบอุ้มร่างบางให้กอดคอซุกหน้าแนบอกจัดการกระหน่ำซอยสะโพกใส่หญิงสาวด้วยลีลาเร่าร้อนไม่ผ่อนจนเกิดเสียงเนื้อกระทบกันสนั่นห้อง“อื้อ..อืมม..”และแล้วหญิงสาวก็ต้องซุกใบหน้ากับอกแกร่งกลั้นเสียงครางหวานอีกเช่นเคยด้วยกลัวจะดังจนคนอื่นที่เฝ้าอยู่นอกบ้านได้ยินคนตัวโตกระหน่ำซอยร่างบางพักใหญ่จนเธอเริ่มเกาะเกี่ยวรั้งคอขอเขาไม่ไหวจึงวางเธอลงที่โซฟานุ่มขึ้นคร่อมขย่มร่างบางจนหัวสั่นหัวครอนอีกครั้งบทสวาทวาบหวามของทั้งคู่กินเวลาไปเกือบค่อนแจ้งด้วยชาติเสืออยากชดเชยเวลาที่เขาห่างเธอไปหลายวันคืนนี้เขาจึงกระหน่ำบทรักหนำใจให้หายคิดถึงร่างบางอันพอดีไม้พอดีมือนี้ในคืนเดียวช่วงสายของวันต่อมาชาติเสือยังคงนอนขลุกเปลือยเปล่าล่อนจ้อนอดก่ายร่างบางไม่ยอมปล่อยทรายแก้วเริ่มขยับตัวตื่นเพราะแสงอาทิตย์เริ่มส
ช่วงเที่ยงของวันต่อมาวันนี้น้ำรินนัดเจอเตชินที่คาเฟ่แห่งหนึ่งย่านตัวเมืองของเชียงใหม่เพื่อเตรียมหาซื้อของขวัญเซอร์ไพรซ์วันเกิดของเพื่อนรักอย่างทรายแก้ว“ฉันไม่รู้จะหาของขวัญอะไรให้ทรายมันดีไม่เห็นมันจะชอบอะไรสักอย่างเลย”เตชินบ่นขณะตักก้อนเค้กฝอยทองเข้าปากเพราะไม่รู้เลยจริงๆว่าทรายแก้วชอบอะไรเป็นพิเศษเพราะเห็นว่าเพื่อนเธอไม่เคยซื้อของอะไรใหม่ๆให้กับตัวเองเลยหรือตีตี้ร่างเป็นชายรูปหล่อแต่ใจเป็นหญิงเขาเป็นเพื่อนกับสองสาวตั้งแต่สมัยมัธยมแม้นจะแยกกันเรียนในช่วงมหาลัยแต่ความสนิทก็ไม่เคยลดน้อยลงไปตอนนี้เตชินทำงานเป็นHrบริษัทแห่งหนึ่งในกรุงเทพที่มาที่นี่ได้หลายวันก็เพราะใช้วันพักร้อน“ให้อะไรมันก็ชอบทั้งนั้นแหละน่า”น้ำรินในชุดเกาะอกสีดำโชว์เนินอกอิ่มกับกระโปรงยีนส์สั้นจู๋นั่งไขว่ห้างยกแก้วจิบกาแฟก่อนจะปัดป่ายมือไปมาต่อหน้าเตชินเพราะคิดว่าของอะไรที่เพื่อนๆให้ทรายแก้วน่าจะชอบทั้งนั้นไม่อยากให้เตชินคิดอะไรมาก“เจอหน้าฉันจะเฉ่งซะทีมีผัวก็ไม่เคยจะบอกเพื่อน”เตชินบ่นอุกเธอยังคงเคืองใจที่ทรายแก้วมีสามีเป็นตัวเป็นตนจนจดทะเบียนแล้วแต่ไม่ยักจะยอมบอกเขา“มันกะทันหันแหละฉันก็พึ่งรู้เหมือนกัน”น้ำรินที
“อืม..หล่อออ..น้าเนี่ยย”ร่างของน้ำรินซุกซบอยู่ที่อกของนักรบเธอเงยหน้ามองคนที่เข้ามาช่วยพยุงด้วยสายตาปรือเยิ้มก่อนจะฉีกยิ้มชื่นชมใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาเสียงงัวเงีย“คุณ..มีสติอยู่หรือเปล่าครับ”นักรบได้กลิ่นแอลกอฮอลจากลมหายใจหญิงสาวหน้าสวยก็พอจะรู้ว่าเธอน่าจะดื่มไปเยอะพอสมควรหากปล่อยให้เธออยู่คนเดียวตรงนี้มีหวังถูกใครหิ้วไปง่ายๆแน่“.. รถ.. พางงงปายยส่งหน่อย”“บ้านคุณอยู่ที่ไหนครับ”นักรบเบือนสายตาหนีคนในอ้อมอกเพราะสายเดี่ยวแหวกอกชิ้นน้อยของเธอแทบจะปิดอะไรไม่มิด“อืม.. ปาย.. ก่อนเดี๋ยวบอก”“ครับๆ”ชายหนุ่มพยุงหญิงสาวมาขึ้นรถของตนก่อนจะขับออกจากผับไปด้วยความเร็วน้ำรินขึ้นรถได้ก็นอนฟุบไม่พูดไม่จาร่างอวบอั๋นขยับเขยื้อนแต่ละทีทำใจชายหนุ่มเต้นไม่เป็นส่ำด้วยชุดที่เธอใส่น้อยชิ้นแถมหุ่นของเธอก็ยั่วยวนผู้ชายเต็มตัวอย่างเขาได้เป็นอย่างดีรถคันหรูแล่นมาจนใกล้ถึงสี่แยกใหญ่นักรบต้องชะลอรถถามหญิงสาวที่เอาแต่นอนแน่นิ่งไม่ยอมบอกทาง“คุณ.. บ้านคุณอยู่ที่ไหนครับ”“บ้าน.!”สาวเจ้าลืมตาตื่นตะโกนจนคนขับที่นั่งข้างๆถึงกับสะดุ้ง“ค..ครับบ้านคุณอยู่ที่ไหน”“หมู่บ้านxxxบ้านเลขที่45/2อำเภอ..บลาๆๆ”“ไหวหรือเปล
“อึก..อ๊ายย.. อย่าฆ่าาากันเลย.. ฮือๆๆ”สาวเจ้าเจ็บปวดดั่งถูกมีดกรีด เธอส่งเสียงร้องระงมเมื่อริมฝีปากถูกปล่อยให้เป็นอิสระ“หา.!.”นักรบก้มลงมองส่วนเชื่อมต่อเพียงแค่เขาขยับตัวตนดึงออกแค่ครึ่งเดียวเลือดหยดน้อยก็หลั่งไหลตามออกมาไม่ขาดสายครั้นจะหยุดการกระทำตอนนี้ก็เป็นไปไม่ได้เขาใช้วิธีกลับไปเล้าโลมหญิงสาวด้วยรสจูบต่อเพื่อผ่อนคลายความเจ็บกดแช่แท่งร้อนคาร่องสวาทพักใหญ่จนเห็นได้ว่าหญิงสาวเริ่มปรับตัวได้จึงค่อยขยับสะโพกแกร่งเนิบนาบเข้าออกเชื่องช้าและเริ่มเร่าร้อนขึ้นในเวลาต่อมาจวบจนค่อนคืนศึกสวาทจึงจบลงได้ช่วงเย็นของวันต่อมา“ฮือๆๆ...”น้ำรินเอาแต่ร้องห่มร้องให้อยู่บนห้องนอนงานการของเธอก็ไม่ได้ไปทำเพราะรู้สึกระบมไปทั้งตัวแถมยังมีไข้อ่อนๆเธอนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมายังไงก็นึกไม่ออกจำได้แค่ตอนเช้าเธอนั้นตื่นมาพร้อมกับผู้ชายที่นอนเปลือยกายกกเธออยู่ที่โซฟาแถมความบริสุทธิ์ของเธอที่เก็บเอาไว้มาจนถึงตอนนี้ก็ถูกชายแปลกหน้านั่นพรากไปด้วยตอนนี้เธอพูดอะไรไม่ออกได้แต่เพียงร้องให้ระบายความเสียใจเท่านั้นบริษัทxxxตอนนี้ได้เวลาเลิกงานของนักรบแต่เขายังนั่งจมอยู่ที่เก้าอี้ทำงานทั้งที่งานทุกอย่างก็เ
“ผมมีงานต้องเคลียอีกนิด”“เสียดายแย่”น้ำรินเห็นทีต้องสะกิดเตชินหญิงสาวเน้นเขี้ยวเน้นฟันส่ายหัวไม่ให้เตชินทำท่าทีเสียมารยาท“นี่..ผัวเพื่อน!”“ขอตัวนะครับ”ชาติเสือรีบแกะมือเตชินออกก่อนจะหมุนตัวเข้าบ้านไปทันทีเพราะไม่มีอะไรที่น่ากังวลใจสำหรับเขาแล้ว“ฉันล่ะอิจฉาแกจริงๆทรายแก้ว...ทั้งหล่อทั้งล่ำ”เตชินยังไม่วายมองตามหลังชาติเสือตาเยิ้มทรายแก้วก็ได้แต่อมยิ้มเข้าใจดีว่าเพื่อนเธอนานๆทีจะได้ออกมาเปิดหูเปิดตาเพราะทำแต่งาน“ผัวเพื่อนก็ไม่เว้น..โถ่..มานั่งนี่เลย”น้ำรินรีบดึงเตชินลงนั่งเก้าอี้จะได้เลิกฟุ้งซ่านเสียทีหลังจากนั่งคุยกันพักใหญ่เตชินก็นึกขึ้นได้ว่าเตรียมเครื่องดื่มเพิ่มความสนุกมาด้วยเขารีบวิ่งไปที่รถเพื่อหยิบถังไวน์หลังรถมาตั้งกลางโต๊ะอาหารต่อหน้าสองสาวคิดว่าหากคืนนี้จะเมาให้เต็มที่เพราะอยู่ที่บ้านเพื่อนจึงไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น“ฉันเตรียมมา”“วันนี้ฉันไม่ดื่มนะไม่ค่อยจะดี”น้ำรินรีบปฏิเสธเพราะเธอไม่อยากจะเมาอีกแล้วกลัวเหลือเกินกับการที่ทำอะไรน่าอายลงไปแล้วจำอะไรไม่ได้“อ้าว...งั้นคงต้องเป็นแกแล้วล่ะทรายที่ต้องดื่มเป็นเพื่อนฉัน”เตชินบุ้ยปากก่อนจะหันมาจับจ้องทรายแก้ว“ตีตี้..แกก็