“มันจะไม่รุนแรง..เชื่อฉัน” ฟอดด
ชายหนุ่มก้มลงหอมแก้มนวลฟอดใหญ่จะให้เขาทนต่อไปคงไม่ไหวยิ่งรู้ว่าต้องห่างร่างนุ่มนิ่มนี้หลายวันเขายิ่งยอมปล่อยเธอไปไม่ได้
สองมือหนาสอดประสานมือเรียวเริ่มไล่ริมฝีปากหนาบดจูบตั้งแต่พวงแก้มนวลนิ่มจนถึงริมฝีปากบางอวบอิ่มบดจูบด้วยความนุ่มนวล
ทรายแก้วได้แต่นอนนิ่งภาวนาให้เขาไม่รุนแรงตามที่พูดเพราะกลัวว่าร่างกายจะรับไม่ไหวไม่อยากที่จะให้หมอมาดูอาการเธอซ้ำๆเพราะรู้สึกอายเหมือนกันที่เจ็บป่วยเพราะเรื่องบนเตียง
“อืม..”
ร่างบางเริ่มเกร็งเล็กน้อยเมื่อคนตัวโตเริ่มส่งลิ้นร้ายสอดใส่เข้ามาในโพรงปากนุ่มทั้งมือทั้งสองยังล้วงเข้าด้านในชุดนอนตัวบางบีบเค้นขยำเต้างามทั้งสองไม่วางมือ
ร่างกายของชายหนุ่มเริ่มร้อนระอุไปด้วยไฟสวาทเขากระชากเชือกผูกเอวถอดชุดคลุมโยนทิ้งข้างเตียงเผยแผงกล้ามเปลือยเปล่าต่อหน้าคนตัวเล็กใต้ร่าง
ทรายแก้วรีบหันหน้าหนีถึงอย่างไรเธอก็ไม่ชินกับการมองร่างกายปราศจากเสื้อผ้าของชาติเสืออยู่ดีร่างบางของเธอถูกดึงให้ลุกขึ้นนั่งก่อนจะถูกถอดชุดนอนรวดเดียวโดยฝีมือคนตัวโต
หัวทุยของทรายแก้วตอนนี้ถูกกอบกุมไปด้วยสองมือใหญ่ของชายหนุ่มเขาก้มลงจูบริมฝีปากบางอีกรอบโน้มตัวเธอนอนลงราบไปกับเตียงนุ่มพร้อมกับมีร่างของตัวเองทาบทับแนบชิดกับกายนุ่มนิ่มของหญิงสาว
“อือ..”
ใบหน้าหวานเริ่มขมวดคิ้วเหยเกด้วยกำลังหายใจไม่ออกเพราะถูกบดจูบไม่ยอมผ่อนคนตัวโตเห็นเช่นนั้นจึงละริมฝีปากก้มลงซุกไซร้ใบหน้าคมลงที่ลำคอระหงส์ขบเม้มดูดดึงจนเนื้อนวลนิ่มเกิดเป็นรอยแดงก่อนจะจูบไล่เนื้อนิ่มจนมาถึงเนินอกมือทั้งสองช่วยกันขยำเต้างามไม่วางก่อนจะสลับด้วยปากหนาดูดดึงยอดอกอิ่มเป็นระยะ
“อือ.. อืม..”
ริมฝีปากบางขบเม้มกันแน่นดวงตากลมปรือเยิ้มวาบหวามไปกับบทสวาทที่ชายหนุ่มมอบให้มือน้อยวาดสะเปะสะปะกำจิกหมอนนุ่มจนแทบขาด
ไม่นานนักขาเรียวทั้งสองของเธอก็ถูกแยกออกกว้างร่องสวาทที่กำลังฉ่ำเยิ้มถูกหัวเห็ดบานบดเบียดและแล้วความเจ็บก็เริ่มแผ่ซ่านขึ้นมาอีกรอบ
“ อ.. อ๊ายย...”
มือเรียวทั้งสองจิกแผ่นหลังกว้างแน่นนอนตัวเกร็งเจ็บจุกขณะที่คนตัวโตสอดใส่ตัวตนเกินขนาดเข้ามา
“อืม.. อึก”
สองแขนแกร่งรวบกอดร่างบางแน่นกัดฟันจนขึ้นสันกรามเมื่อถูกบีบรัดแท่งร้อนจนแทบปริแตกใบหน้าคมแดงก่ำด้วยไฟสวาทกำลังประทุแผดเผาอยู่ภายใน
“จ.. เจ็บ.. อืม..”
ริมฝีปากบางถูกกอบกุมยัดเยียดบทจูบอีกรอบครั้งนี้เหมือนจะเร่าร้อนกว่าคราแรกด้วยไฟสวาทในตัวชายหนุ่มลุกโหมระอุแรงกว่าเดิมหลายเท่า
“อือ..อืมมม..”
เสียงหายใจของชาติเสือหอบถี่ความกระสันมีมากล้นแต่ยังคงต้องควบคุมไม่ให้รุนแรงมากนักเพราะยังห่วงกลัวว่าคนตัวเล็กจะทรมาน
สะโพกแกร่งขยับเข้าออกเป็นจังหวะเนิบนาบแต่หนักแน่นบทสวาทนุ่มนวลดำเนินได้พักใหญ่จนทรายแก้วนั้นเริ่มเคลิบเคลิ้มลืมความเจ็บดั่งเช่นคราแรกที่เป็น
แขนเรียวเริ่มกอดก่ายตอบสนองชายหนุ่มมากขึ้นเสียงร้องของความเจ็บแปรเปลี่ยนเป็นเสียงครางแห่งความสุขชายหนุ่มจึงพอจะปรับเปลี่ยนจังหวะสะโพกเนิบนาบเป็นเร่าร้อนตามอารมณ์ได้
“อ้ะ.. อ๊า..อื้อ..”
ร่างบางแอ่นเร่าเมื่อสะโพกมนถูกตึงด้วยสองมือหนายกขึ้นรับแรงกระแทกของสะโพกแกร่งใบหน้าหวานแดงซ่านเมื่อความกระสันวาบหวามในตัวพุ่งสูง
“อ..อ้าสส..”
ใบหน้าคมเงยแหงนหลับตาปี๋รัวสะโพกถี่ยิบด้วยความเมามันเมื่อสาแก่ใจแล้วจึงยกร่างบางให้นั่งอยู่บนตักสอดแขนใต้ข้อพับขาอ่อนของหญิงสาวรวบอุ้มเธอลงมาจากเตียงก่อนจะยืนกระแทกสะโพกแกร่งถี่รัวเข้าร่องสวาทพักใหญ่
“อ.. อ๊ายย.. อื้มม..”
ความวาบหวามที่ชายหนุ่มมอบให้ทำร่างบางครางไม่ได้ศัพท์จนต้องก้มใบหน้าลงปิดปากกล้ามเนื้ออกแน่นเพราะไม่อยากให้เสียงครางของตัวเองดังเกินไป
“อืม.. อ้าสส..”
คนตัวโตคำรามจนคอขึ้นเอ็นถูกใจกับร่างกายของหญิงสาวไม่น้อยที่มันพอเหมาะพอดีกับมือไม้ของเขาไปเสียทุกส่วนชายหนุ่มยืนกระแทกร่องสวาทพักใหญ่จนพอใจแล้วจึงวางร่างบางให้หันหลังฟุบนอนลงกับเตียงนุ่มยกสะโพกมนตั้งขึ้นแล้วคุกเข่าเสียบแท่งร้อนบดเบียดเข้าร่องสวาทฉ่ำเยิ้มพรวดเดียวจนสุดแล้วเริ่มขยับสะโพกกระแทกกระทั้นบั้นท้ายนุ่มนิ่มเป็นจังหวะถี่รัวจนเกิดเสียงเนื้อกระทบกันดังลั่นทั่วห้อง
“อืมม...อ๊า..”
ใบหน้าหวานฟุบอยู่กับเตียงนุ่มริมฝีปากบางเผยอร้องครางเป็นระยะขณะชายหนุ่มขย่มกระแทกตัวตนจนเธอรู้สึกจุก
“อืม...”
สองแขนแกร่งยกรวบเอวบางให้เธอนั่งชันเข่ารีบจะวาดมือสองมือบีบเค้นเต้างามใช้นิ้วโป้งเขียยอดถันเล่นแล้วก้มลงจูบโลมเลียใบหูหญิงสาวเล่นขณะที่สะโพกแกร่งยังรัวกระแทกบั้นท้ายหญิงสาวไม่หยุด
“อ๊ะ..อ๊า..”
ดวงตากลมโตปรือเยิ้มหวานดั่งน้ำเชื่อมมือเรียวเล็กยกกุมแขนชายหนุ่มแน่นทั้งเผยอปากร้องครางเสียงหวานไม่ผ่อน
ฟึ่บบ
ไม่นานนักร่างบางก็ถูกพลิกให้นอนหงายสองขาเรียวถูกแยกออกก่อนจะมีคนตัวโตทาบทับอยู่กลางร่างเช่นเดิม
“ยัยตุ๊กตายาง”
เสียงแหบพร่าลอดรายฟันเอ่ยกระซิบข้างหูหญิงสาวก่อนจะกระแทกสะรัวสะโพกจนสาวเจ้าตัวโยนจนแล้วจนเล่าบทสวาทครั้งนี้ก็กินเวลาผ่านไปค่อนคืนจนร่างบางแทบไม่เหลือเสียงครางจบสิ้นบทสวาทได้ร่างบางก็แทบลืมตาไม่ขึ้น
เป็นเวลาร่วมสองวันแล้วที่ชาติเสือเดินทางไปสิงคโปร์พร้อมกับนักรบวันๆทรายแก้วก็ได้แต่ทำความสะอาดบ้านทำอาหารเงียบๆคนเดียวไม่มีคนประทะฝีปากด้วยเช่นเคยจึงรู้สึกแปลกไปบ้างเหมือนจะเป็นข้อดีที่ชายหนุ่มไม่อยู่แต่เธอดันรู้สึกเหงาทั้งที่ไม่ควรจะเป็น
ตื๊ดดด
ทรายแก้ววางไม้ถูพื้นในมือก่อนจะรีบเดินมาดูมือถือเมื่อเห็นว่าเป็นเบอโทรของน้ำรินเพื่อนสนิทจึงรีบยกหูรับสายทันที
“ว่าไงริน...”
ริมฝีปากบางขบเม้มครุ่นคิดก่อนจะเอ่ยตอบกลับปลายสายไป
“อืม...ได้เดี๋ยวฉันโทรบอกอีกทีนะ”
เมื่อวางสายได้ทรายแก้วก็รีบเดินถือไม้ถูพื้นไปเก็บธุระที่น้ำรินโทรหาเธอเมื่อครู่เพราะอยากให้เธอออกไปเจอและอยากจะรู้ว่าทำไมถึงได้หายหน้าหายตาไปกะทันหัน
หลังจากกลับขึ้นไปที่ห้องอาบน้ำแต่งตัวเตรียมจะออกไปข้างนอกเรียบร้อยแล้วทรายแก้วจึงเดินเข้ามาหาเด็ดเดี่ยวเพื่อแจ้งให้เขาทราบว่าเธอนั้นจะออกไปข้างนอกภาวนาในใจว่าขอให้เขาอนุญาตเธอโดยดีไม่อย่างนั้นคงต้องหนักใจอีกแน่“คุณเดี่ยวคะ”ดวงตาคมของเด็ดเดี่ยวมองทรายแก้วด้วยความสงสัยเพราะเห็นเธอแต่งตัวทั้งยังมีกระเป๋าสะพายข้างไม่รู้ว่าเธอจะออกไปไหนกันขออนุญาตเจ้านายของเขาหรือยังเรื่องนี้เขาก็ยังไม่ทราบ“ครับ”“พอดีว่าเพื่อนทรายนัดให้ไปหาน่ะค่ะ...ขอออกไปแปปเดียวได้หรือเปล่าคะ”“อืม...ถ้าเรื่องออกไปจากที่นี่..คุณทรายขออนุญาตคุณเสือแล้วหรือยังครับ”“ไปแปปเดียวเองต้องโทรขอด้วยเหรอคะ...อีกอย่างทรายก็ไม่ร็จะติดต่อคุณเสือยังไง”“ไม่อย่างนั้นพวกผมอาจจะถูกคาดโทษได้”เด็ดเดี่ยวตอบตามตรงเขาไม่ได้อยากจะห้ามหญิงสาวแต่เพราะโทษที่เขาละเลยหน้าที่มันน่ากลัวจึงอนุญาตให้ทรายแก้วออกไปข้างนอกไม่ได้หากเธอยังไม่ได้แจ้งให้เจ้านายของเขาทราบ“ฉันเข้าใจค่ะ”ใบหน้าหวานห่อเหี่ยวขึ้นมาจนชายหนุ่มตรงหน้าจับสังเกตได้แต่เขาก็ช่วยอะไรเธอไม่ได้อยู่ดีนอกจากรีบต่อสายหาชาติเสือให้ได้คุยกับหญิงสาวเอาเอง“นายครับคุณทรายมีเรื่องจะคุยด้วยครั
“ครับคุณเสือ...เธอกำลังทำอาหารกับเพื่อนอยู่ครับ.. ครับ.. ผมจะคอยดูไม่ห่างครับ”เด็ดเดี่ยวยกหูรายงานชาติเสือเป็นระยะเพราะถูกสั่งเอาไว้“เดี่ยว..ท่าทางนายจะหวงคุณทรายมากกว่าผู้หญิงคนอื่นนายว่าหรือเปล่า”ชาตรีเห็นเด็ดเดี่ยววางสายได้ก็รีบพูดคุยเรื่องที่ตนเองคิด“อาจจะยังไม่ไว้ใจหรือเปล่า”“นายคิดงั้น?”“อืม..”แม้นในใจเด็ดเดี่ยวจะแอบคิดเช่นชาตรีแต่เขาก็มีอีกใจที่คิดว่าอาจจะเป็นไปได้ที่นายตนน่าจะยังไม่ไว้ใจหญิงสาวเพราะพึ่งอยู่ด้วยกันได้ไม่นานหลังจากน้ำรินกลับไปตั้งแต่ช่วงเย็นทรายแก้วก็นั่งเหงาเช่นเดิมจนตกดึกร่างบางในชุดนอนผ้าลินินสายเดี่ยวสีขาวยาวคลุมเข่าเดินออกมานอกระเบียงห้องนอนดูดาวยามค่ำคืนที่ฟ้าเปิดดวงตากลมโตมองทอดยาวไปไกลสองแขนเล็กกอดอกแน่นครุ่นคิดถึงวันข้างหน้าว่าชีวิตของเธอจะเป็นเช่นไรคำถามนี้วนเวียนอยู่ในหัวทุกครั้งเมื่อต้องอยู่เงียบๆคนเดียวแต่ก็ยังหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้สักครั้ง“เฮ้อ..!”ริมฝีปากบางเผยอพ่นลมหายใจเบาๆก่อนจะเดินกลับเข้ามาในห้องนอนแกร๊กมือน้อยยกยื่นปิดสวิตซ์ไฟให้ในห้องเหลือเพียงแค่แสงสลัวจากโคมไฟหัวเตียงเท่านั้นก่อนจะหย่อนก้นลงเตียงเอนตัวลงนอนฟุบกับหมอนนุ่มร่าง
“ค่ะ”ทรายแก้วละมือจากช้อนส้อมในจานปลานึ่งเธอเริ่มตักข้าวใส่จานตัวเองตามที่สุรีพรสั่งแอบอมยิ้มเมื่อเห็นอีกมุมของสุรีพรและชาติเสือที่มีเหมือนกันเรื่องที่ไม่ชอบให้ใครมาอดอาหารในเวลาที่ต้องทานสุรีพรเลือกที่จะตักน้ำซุปถ้วยไก่ตุ๋นทานก่อนเพราะรู้สึกว่ากลิ่นช่างหอมยั่วยวนเตะจมูกเสียเหลือเกิน“อืม..”เธอพยักหน้าเล็กน้อยเมื่อน้ำซุปรสกลมกล่อมสัมผัสลิ้นนับว่าฝีมือของลูกสะใภ้เธอดีไม่ใช่น้อยสุรีพรชื่นชมฝีมือหญิงสาวอยู่ในใจไม่ปริปากพูดอะไรออกมาแต่การที่หญิงวัยกลางคนยื่นมือตักอาหารทานไม่พูดไม่จาก็ทำให้ทรายแก้วรู้แล้วว่าแม่สามีนั้นถูกใจฝีมือเธอแค่ไหน“ของหวานค่ะคุณแม่”หลังจากทานขอคาวจนเรียบร้อยแล้วตอนนี้ก็ถึงเวลาของของหวานวันนี้ทรายแก้วเลือกที่จะเสริฟมะยงชิดลอยแก้วให้กับสุรีพรเพราะเธอแช่มะยงชิดกับน้ำเชื่อมไว้ตั้งแต่เมื่อเย็นวานหากสุรีพรได้ทานคงสดชื่นไม่น้อยคนเป็นแม่สามีอย่างสุรีพรนั่งทานของที่ลูกสะใภ้เสริฟเงียบๆเพราะเธอถูกใจฝีมือของทรายแก้วทั้งของคาวและของหวานเลยไม่มีข้อที่จะหาเรื่องตำหนิได้เลยแม้แต่ข้อเดียวช่วงหัวค่ำก่อนที่ทรายแก้วจะเตรียมตัวเข้าห้องนอนเธอก็ไม่ลืมที่จะเดินเลยไปถามไถ่แม่สามีเผื่อ
“คุณแม่จะทำอะไรคะเดี๋ยวทรายทำให้ค่ะ”“ไม่ต้องฉันทำเองได้”สุรีพรไม่ยอมปล่อยมือง่ายๆเพราะแค่ยกหม้อลงจากเตาแค่นี้ไม่ใช่เรื่องที่เธอทำไม่ได้“ให้ทรายทำนะคะมันร้อนค่ะ”ฟึ่บ..” อ๊ายย.. “เมื่อยื้อแย่งกันไปมาน้ำต้มร้อนๆในหม้อก็กระฉอกลวกมือทรายแก้วจนเธอร้องลั่นสุรีพรจึงจำต้องวางหม้อลงบนเตาแล้วรีบดึงมือทรายแก้วมาล้างน้ำ“ก็บอกแล้วไงว่าไม่ต้องมายุ่งยัยเด็กบ้าเอ้ย”หญิงวัยกลางคนบ่นอุกเมื่อเห็นว่ามือของทรายแก้วเห่อแดงจนเห็นได้ชัดเธอรีบใช้ทิชชู่ซับมือน้อยที่เปียกก่อนจะจูงหญิงสาวออกมาทายาด้านนอกทรายแก้วเห็นอาการเป็นห่วงของแม่สามีก็มีสีหน้าแปลกใจไม่น้อยก่อนจะอมยิ้มออกมาด้วยพฤติกรรมของสุรีพรที่ทีท่าทีห่วงใยเธอตอนนี้เหมือนกับแม่ของเธอไม่มีผิด“ไม่แสบร้อนหรือไงยิ้มอยู่ได้”“คุณแม่ดุทรายเหมือนที่แม่ทรายชอบพูดเปี๊ยบเลยค่ะ”“ใครจะไม่ดุอยู่ดีๆก็มาหาเรื่องเจ็บตัว...เดี๋ยวตาเสือก็ว่าฉันทำร้ายเมียตัวเองอีก”“ไม่หรอกค่ะคุณแม่...ทรายผิดเองที่ไม่ระวัง”ทรายแก้วยังไม่ยอมหุบยิ้มง่ายๆขณะที่แม่สามีกำลังทายาให้เธอรู้สึกอบอุ่นหัวใจจนลืมความเจ็บไปเลยก็ว่าได้ในเช้าของวันต่อมาเป็นอีกวันที่แม้ทรายแก้วจะยังไม่หายเจ็บมือ
สุรีพรเดินขึ้นมาหาทรายแก้วที่ห้องนอนในช่วงบ่ายเพราะเห็นว่าตั้งแต่ทรายแก้วกลับมาก็ไม่ลงมาด้านล่างอีกเลย“นอนยังไงไม่ล็อคประตูแม่คนนี้”สุรีพรบิดลูกบิดประตูห้องนอนของทรายแก้วเห็นว่าไม่ได้ล็อคจึงถือวิสาสะเดินเข้าไปด้านในทั้งส่ายหัวบ่นอุกเมื่อเห็นว่าเธอไม่รอบคอบเอาเสียเลย“ทรายแก้ว...ทรายแก้ว... ฉันว่าแล้วเชียว”สุรีพรเดินเข้ามาเรียกลูกสะใถ้ที่นอนฟุบอยู่กับเตียงไม่ยอมขยับก่อนจะยื่นมือไปแตะหน้าผากพบว่าตัวหญิงสาวร้อนจี๋เป็นเช่นที่เธอคิดไม่มีผิดว่าทรายแก้วตากฝนปล่อยให้ตัวเปียกนานขนาดนั้นจะต้องไข้ขึ้นเห็นท่าไม่ดีสุรีพรจึงหาน้ำหาผ้ามาเช็ดตัวให้ทรายแก้วก่อนจะโทรเรียกหมอมาดูอการของลูกสะใภ้ด้วยเห็นว่าไข้ขึ้นสูงหากรอให้ทรายแก้วตื่นมาทานยาเองอาจจะชักได้“แม่จ๋า...หนูอยากกลับบ้าน”“กลับบ้าน?”สุรีพรชะงักเล็กน้อยขณะเช็ดหน้าเช็ดตาทรายแก้วไม่เข้าใจในคำที่หญิงสาวเพ้อเท่าไรในเมื่อเห็นว่าเธออยู่ที่นี่ก็ดูจะมีความสุขดีแล้วทำไมถึงอยากกลับบ้านก๊อกๆๆ“หมอมาแล้วครับคุณท่าน”“อ่อ..ให้เข้ามาเลย”สุรีพรไม่ทันที่จะหาความกระจ่างในความสงสัยได้เธอก็ต้องละทิ้งความสงสัยและลุกให้หมอเข้ามาดูอาการทรายแก้วก่อนหลังจากที
“เอาไว้ที่เรือนอื่นก็ไม่ได้เหรอคะ”“ไม่ได้...หน้าที่ของเธอคือสนใจเพียงฉันไม่ใช่ไปสนใจหมา”“แต่ทรายอยากดูแลมันนี่คะมันน่าสงสารจะตาย”“ฉันไม่ให้เลี้ยง..ฉันไม่ชอบหมา”“ใจร้ายแม้กระทั่งกับหมา”ทรายแก้วผุดลุกหันหลังบุ้ยปากบ่นอู้อี้ไม่ค่อยพอใจเท่าไรที่ชายหนุ่มนั้นทำท่าทีไม่สนใจเรื่องที่เธอร้องขออีกทั้งยังหันหน้ามาคุยกับเธอดีๆอีกด้วย“ทรายแก้ว”ใบหน้าคมส่ายไปมาจ้องมองร่างบางที่เดินไม่พอใจออกนอกห้องไปจะให้เขาตามใจเธอเรื่องนี้เห็นจะเป็นไปได้ยากเพราะมีปมในใจเรื่องของลูกหมาด้วยเด็กๆอยากจะเล่นหมาบ้านของยายตนแต่กลับถูกไล่กัดหลังจากนั้นจึงไม่ชอบลูกหมาอีกเลยจนถึงตอนนี้เจอที่ไหนเป็นต้องเดินเลี่ยงทุกทีโต๊ะอาหารเย็นวันนี้ปกคลุมไปด้วยความเงียบเพราะทรายแก้วยังคงครุ่นคิดหาวิธีจะทำอย่างไรให้ขาติเสือยอมให้เธอเลี้ยงลูกสุนัขส่วนชาติเสือเองก็ยังไม่อยากหาเรื่องคุยกับหญิงสาวเพราะกลัวว่าเธอจะทำหน้าออดอ้อนขอเลี้ยงเจ้าลูกหมาที่เขาไม่ชอบขึ้นมาอีกช่วงเวลาของอาหารคาวดำเนินไปพักใหญ่เมื่อเรียบร้อยแล้วทรายแก้วจึงรีบเดินเข้าไปหยิบกล่องฟักทองเชื่อมในตู้เย็นออกมาให้ชาติเสือเธอ“ของหวานค่ะ”“อืม..”ชาติเสือเห็นกล่องฟักทองเ
“อ่า..อ้าสส..”คนตัวโตส่งเสียงคำรามลั่นขณะโหมกระแทกสะโพกแกร่งถี่รัววันนี้เขาจะทำศึกสวาทให้หนำใจจากที่ห่างตุ๊กตายางตัวโปรดไปหลายวัน“อ้ะ.. อ้ะ.. อื้ออ.. “ร่างบางนอนหัวสั่นหัวครอนครางเสียงอ่อนเสียงหวานมือเรียวยกจิกปัดป่ายไม่อยู่สุขเพราะในตัวตอนนี้มีแต่ความเสียวซ่านวาบหวามครอบงำเมื่อหนำใจกับท่วงท่าพื้นฐานแล้วคนตัวโตก็รวบอุ้มร่างบางให้กอดคอซุกหน้าแนบอกจัดการกระหน่ำซอยสะโพกใส่หญิงสาวด้วยลีลาเร่าร้อนไม่ผ่อนจนเกิดเสียงเนื้อกระทบกันสนั่นห้อง“อื้อ..อืมม..”และแล้วหญิงสาวก็ต้องซุกใบหน้ากับอกแกร่งกลั้นเสียงครางหวานอีกเช่นเคยด้วยกลัวจะดังจนคนอื่นที่เฝ้าอยู่นอกบ้านได้ยินคนตัวโตกระหน่ำซอยร่างบางพักใหญ่จนเธอเริ่มเกาะเกี่ยวรั้งคอขอเขาไม่ไหวจึงวางเธอลงที่โซฟานุ่มขึ้นคร่อมขย่มร่างบางจนหัวสั่นหัวครอนอีกครั้งบทสวาทวาบหวามของทั้งคู่กินเวลาไปเกือบค่อนแจ้งด้วยชาติเสืออยากชดเชยเวลาที่เขาห่างเธอไปหลายวันคืนนี้เขาจึงกระหน่ำบทรักหนำใจให้หายคิดถึงร่างบางอันพอดีไม้พอดีมือนี้ในคืนเดียวช่วงสายของวันต่อมาชาติเสือยังคงนอนขลุกเปลือยเปล่าล่อนจ้อนอดก่ายร่างบางไม่ยอมปล่อยทรายแก้วเริ่มขยับตัวตื่นเพราะแสงอาทิตย์เริ่มส
ช่วงเที่ยงของวันต่อมาวันนี้น้ำรินนัดเจอเตชินที่คาเฟ่แห่งหนึ่งย่านตัวเมืองของเชียงใหม่เพื่อเตรียมหาซื้อของขวัญเซอร์ไพรซ์วันเกิดของเพื่อนรักอย่างทรายแก้ว“ฉันไม่รู้จะหาของขวัญอะไรให้ทรายมันดีไม่เห็นมันจะชอบอะไรสักอย่างเลย”เตชินบ่นขณะตักก้อนเค้กฝอยทองเข้าปากเพราะไม่รู้เลยจริงๆว่าทรายแก้วชอบอะไรเป็นพิเศษเพราะเห็นว่าเพื่อนเธอไม่เคยซื้อของอะไรใหม่ๆให้กับตัวเองเลยหรือตีตี้ร่างเป็นชายรูปหล่อแต่ใจเป็นหญิงเขาเป็นเพื่อนกับสองสาวตั้งแต่สมัยมัธยมแม้นจะแยกกันเรียนในช่วงมหาลัยแต่ความสนิทก็ไม่เคยลดน้อยลงไปตอนนี้เตชินทำงานเป็นHrบริษัทแห่งหนึ่งในกรุงเทพที่มาที่นี่ได้หลายวันก็เพราะใช้วันพักร้อน“ให้อะไรมันก็ชอบทั้งนั้นแหละน่า”น้ำรินในชุดเกาะอกสีดำโชว์เนินอกอิ่มกับกระโปรงยีนส์สั้นจู๋นั่งไขว่ห้างยกแก้วจิบกาแฟก่อนจะปัดป่ายมือไปมาต่อหน้าเตชินเพราะคิดว่าของอะไรที่เพื่อนๆให้ทรายแก้วน่าจะชอบทั้งนั้นไม่อยากให้เตชินคิดอะไรมาก“เจอหน้าฉันจะเฉ่งซะทีมีผัวก็ไม่เคยจะบอกเพื่อน”เตชินบ่นอุกเธอยังคงเคืองใจที่ทรายแก้วมีสามีเป็นตัวเป็นตนจนจดทะเบียนแล้วแต่ไม่ยักจะยอมบอกเขา“มันกะทันหันแหละฉันก็พึ่งรู้เหมือนกัน”น้ำรินที