รถหรูแล่นเลยปากทางเข้าบ้านไม่นานนักก็ขับเข้ามาจอดที่ใต้ต้นไม้ใหญ่หน้าโรงเรียนแห่งหนึ่งเป็นโรงเรียนเล็กๆไม่ใหญ่มากตอนนี้เป็นช่วงเที่ยงเด็กๆเลยออกมาวิ่งเล่นกันประปรายถือว่าเด็กที่นี่ไม่ได้เยอะมากนัก
“เธอรออยู่ที่นี่เดี๋ยวฉันรีบกลับมา”
“ค่ะ”
ชาติเสือปลดเข็มขัดนิรภัยหันมาสั่งหญิงสาวให้รออยู่ที่นี่ก่อนจะลงจากรถรีบเดินดุ่มฝ่าแสงแดดจ้าเข้าไปในอาคารเรียน
“มาทำอะไรของเค้า”
ดวงตากลมโตไล่มองตามหลังชาติเสือด้วยแววตาฉงนในใจไม่ยักรู้ว่าคนอย่างเขาจะมีธุระกับผู้คนหรือสถานที่แห่งนี้ด้วยหากเป็นผับบาร์เธอจะไม่สงสัยอะไรเลยครั้นคิดจะถามให้ได้ความกระจ่างจากชายหนุ่มคงไม่ได้คำตอบแถมอาจจะมีโอกาสถูกดุอีกด้วยความแครงใจนี้เห็นทีจะต้องถามคนในบ้านเห็นจะได้ความกว่า
ชาติเสือใช้เวลาทำธุระกับผู้อำนวยการที่โรงเรียนไม่นานนักก็เตรียมตัวกลับตลอดระยะเวลาที่ขับรถเขารับรู้ได้ว่าหญิงสาวมีเรื่องจะคุยแต่ไม่ยักจะเห็นว่าเธอจะเอ่ยออกมาเสียทีเอาแต่ลอบมองมายังเขาเป็นระยะเท่านั้น
“มีอะไรหรือเปล่า”
“หึ.. ไม่นี่คะ”
คนตัวเล็กรีบส่ายหัวหงึกหงักหันมองไปยังริมทางรีบปฏิเสธเมื่อเห็นชายหนุ่มรู้ทันว่ากำลังมีอะไรอยู่ในใจ
“แอบมองฉันอยู่นั่น..นึกว่าจะพิศวาสฉันเวลานี้”
ชายหนุ่มเอ่ยเสียงอ่อนทำทรายแก้วต้องรีบหันมามองหน้าคนที่พูดว่าเขานั้นมีทีเล่นหรือทีจริงเมื่อเห็นอีกฝ่ายยกยิ้มจึงเข้าใจได้ว่าคงเอ่ยหยอก
“ดูพูดเข้า..”
ริมฝีปากบางบุ้ยเล็กน้อยก่อนจะหันกลับไปมองธรรมชาติข้างทางต่อจนถึงบ้าน
ทรายแก้วกวาดพื้นอยู่ในห้องครัวช่วงบ่ายหลังจัดเก็บของสดที่พึ่งซื้อมาเสร็จ พลันกวาดสายตาออกไปหน้าห้องครัวเห็นว่านักรบเดินผ่านมาพอดีจึงรีบทักชายหนุ่ม
“คุณรบคะ”
“ครับ”
หญิงสาวมองซ้ายมองขวาเห็นว่าตรงนี้ไม่มีใครนอกจากบอดี้การ์ดหนุ่มเธอวางไม้กวาดพิงกับผนังก่อนจะเดินเข้ามาถามเรื่องคาใจกับบอดี้การ์ดหนุ่มใกล้ๆ
“ทรายอยากรู้ว่าคุณเสือไปที่โรงเรียนxxxบ่อยหรือเปล่า”
“อ๋อ..ก็ไม่บ่อยเท่าไรนะครับจะเข้าไปเมื่อตอนที่มีปัญหาเท่านั้น”
“ตอนมีปัญหา..แล้วคุณเสือไปทำไมคะ”
คิ้วเรียวบางเริ่มขมวดหากโรงเรียนมีปัญหาแล้วเกี่ยวอะไรกับชาติเสือ
“เอาเช็กไปให้ครับ คุณเสือมักจะทำบุญกับโรงเรียนที่ขาดแคลนเสมอไม่ใช่แค่โรงเรียนที่คุณทรายถามนะครับแต่ยังมีอีกหลายโรงเรียนเลย”
“คุณเสือช่วย?”
“ครับ...ไม่น่าเชื่อใช่ไหมล่ะครับ”
นักรบอมยิ้มอ่อน ไปพูดกับใครก็เห็นจะเชื่อกันยากเพราะบุคลิกของชาติเสือดูไม่ใช่คนที่ใจบุญสุนทานสักเท่าไรแต่คนสนิทจะรู้ดีว่าเจ้านายของตนเวลาดีก็ดีใจหายเมื่อร้ายก็ร้ายสุดขีด
“ก็..ประมาณนั้นค่ะ..”
ทรายแก้วพยักหน้าหงึกหงักเธอยอมรับกับนักรบตามตรงว่าเธอก็ไม่เคยคิดว่าชาติเสือจะใจบุญเพราะเท่าที่สัมผัสมาไม่วายจะแยกเขี้ยวใส่เธอได้ทุกเวลาหากเป็นสัตว์เลี้ยงที่อยู่ในบ้านเธอดุแบบนี้คงต้องซื้อตะกร้อครอบปากกันไว้บ้าง
“กินข้าวเสร็จแล้วไปเก็บเสื้อผ้าให้ฉันด้วยพรุ่งนี้ฉันต้องไปสิงคโปร์”
ชาติเสือบอกหญิงสาวที่กำลังยกอาหารเย็นมาวางบนโต๊ะทานข้าว
“ไปกี่วันเหรอคะ”
“เป็นอาทิตย์”
“ถ้างั้น.. ทรายขอไปอยู่ที่บ้านระหว่างที่พี่เสือไม่อยู่ได้หรือเปล่าคะ”
ทรายแก้วทิ้งตัวลงนั่งตรงข้ามชายหนุ่มก่อนจะใช้น้ำเสียงหวานๆเอ่ยขออนุญาตกับเขาเห็นโอกาสว่าการที่ชายหนุ่มไม่อยู่บ้านครั้งนี้จะทำให้เธอได้มีเวลากลับไปดูแลบ้านบ้าง
“ไม่ได้...ถ้าอยากจะคุยกับพี่ชายเธอก็โทรให้มาหาที่นี่”
ชาติดเสือจ้องหน้าร่างบางที่นั่งอมยิ้มอ่อนรู้ว่าเธอคิดว่าเขาจะอนุญาตแต่เธอคิดผิดเขาไม่ยอมให้เธอออกไปจากที่นี่โดยไม่มีเขาไปด้วย
“ก็ได้..ค่ะ”
ริมฝีปากบางหุบยิ้มสีหน้าเปลี่ยนเป็นความห่อเหี่ยวกะทันหันเมื่อได้รับคำตอบที่ไม่ได้ดั่งใจมือน้อยเริ่มใช้ช้อนเขี่ยข้าวในจานอาหารที่น่าอร่อยบนโต๊ะอาหารกลับดูจืดชืดไม่น่าตักเพราะผิดหวังที่ไม่ได้กลับบ้านต้องเป็นนกน้อยในกรงอยู่ที่นี่
“จะกินดีๆหรือจะให้ป้อน”
ชาติเสือวางช้อนวางส้อมยืดตัวตรงมองหน้าทรายแก้วด้วยสายตาไม่ชอบใจเพราะเห็นเธอเขี่ยข้าวเป็นพักแล้วไม่ยอมตักอะไรเข้าปากเสียที
“นี่เหรอคนใจบุญ”
ริมฝีปากบางบ่นอู้อี้เพราะพฤติกรรมและคำพูดที่เขาทำกับเธอยากเหลือเกินที่จะเชื่อว่าชายหนุ่มเป็นคนใจบุญ
“พูดอะไร”
“เปล่าค่ะ”
ใบหน้าบึ้งตึงส่ายหัวก่อนจะยื่นมือตักอาหารใส่จานทานให้หมดๆไปจะได้ไปให้พ้นจากตรงนี้เสียที
หลังจากจบมื้อเย็นทรายแก้วก็ขึ้นมาอาบน้ำหลังจากนั้นก็ง่วนอยู่กับการจัดกระเป๋าให้ชาติเสือจนตอนนี้หญิงสาวเก็บชุดทำงานกับชุดนอนให้ชายหนุ่มเรียบร้อยแต่อีกหนึ่งอย่างที่ไม่รู้จะเก็บยังไงก็คือชั้นในของเขาเพราะเธอค้นเท่าไรก็เจอแต่บ๊อกเซอร์ไม่รู้ว่าชายหนุ่มไม่มีกางเกงในหรือใส่แค่บ๊อกเซอร์กันแน่
“มันใส่สบายกว่ากางเกงในจริงเหรอ”
มือน้อยหยิบกางเกงขาสั้นสีเทาเข้มขึ้นมากางดูทั้งขมวดคิ้วบ่นอู้อี้ว่าสิ่งเรียกว่าบ๊อกเซอร์ของผู้ชายนี่มันใส่สบายกันจริงหรือเพราะจำได้ว่าพี่ชายเธอก็ใส่แบบนี้เหมือนกัน
“จัดแบบนี้ไปเลยแล้วกัน”
ร่างบางในชุดนอนลุกขึ้นยืนมองไปยังหน้าห้องน้ำใจคิดอยากจะไปเคาะประตูถามคนที่อาบน้ำอยู่ด้านในแต่คิดไปคิดมาเธอเลือกที่จะยกกางเกงบ๊อกเซอร์ในตู้ทั้งแถวลงกระเป๋าเลยจะดีกว่าด้วยไม่รู้ว่าจะถูกดุหรือไม่หากไปถามอะไรชายหนุ่มในเวลานี้
“เรียบร้อยแล้วเหรอ”
ร่างสูงในชุดคลุมสาวเท้ายาวเนิบนาบเดินเข้ามาหาทรายแก้วขณะที่หญิงสาวกำลังลากกระเป๋ามาไว้มุมห้อง
“ค่ะ”
ทรายแก้วไม่ทันได้หันหน้ากลับมาตอบชายหนุ่มดีร่างของเธอก็ถูกยกลอยขึ้นด้วยสองแขนของชาติเสือ
“เอ่อ..”
หญิงสาวเริ่มใจไม่ค่อยดีเท่าไรเมื่อถูกอุ้มมาวางบนเตียงนุ่มดวงตากลมโตไหววูบรู้ว่าตอนนี้ชาติเสือต้องการอะไรแต่เธอยังกังวลกับอาการเจ็บที่กึ่งกลางลำตัวพอสมควร
“เรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลาทำหน้าที่บนเตียง”
“คือ...ทรายยัง..ไม่หายดี”
มือเรียวทั้งสองยกขึ้นดันใบหน้าคมส่งเสียงอ่อนบอกให้ชายหนุ่มได้รับรู้ว่าวันนี้เธอไม่พร้อม
“มันจะไม่รุนแรง..เชื่อฉัน” ฟอดดชายหนุ่มก้มลงหอมแก้มนวลฟอดใหญ่จะให้เขาทนต่อไปคงไม่ไหวยิ่งรู้ว่าต้องห่างร่างนุ่มนิ่มนี้หลายวันเขายิ่งยอมปล่อยเธอไปไม่ได้สองมือหนาสอดประสานมือเรียวเริ่มไล่ริมฝีปากหนาบดจูบตั้งแต่พวงแก้มนวลนิ่มจนถึงริมฝีปากบางอวบอิ่มบดจูบด้วยความนุ่มนวลทรายแก้วได้แต่นอนนิ่งภาวนาให้เขาไม่รุนแรงตามที่พูดเพราะกลัวว่าร่างกายจะรับไม่ไหวไม่อยากที่จะให้หมอมาดูอาการเธอซ้ำๆเพราะรู้สึกอายเหมือนกันที่เจ็บป่วยเพราะเรื่องบนเตียง“อืม..”ร่างบางเริ่มเกร็งเล็กน้อยเมื่อคนตัวโตเริ่มส่งลิ้นร้ายสอดใส่เข้ามาในโพรงปากนุ่มทั้งมือทั้งสองยังล้วงเข้าด้านในชุดนอนตัวบางบีบเค้นขยำเต้างามทั้งสองไม่วางมือร่างกายของชายหนุ่มเริ่มร้อนระอุไปด้วยไฟสวาทเขากระชากเชือกผูกเอวถอดชุดคลุมโยนทิ้งข้างเตียงเผยแผงกล้ามเปลือยเปล่าต่อหน้าคนตัวเล็กใต้ร่างทรายแก้วรีบหันหน้าหนีถึงอย่างไรเธอก็ไม่ชินกับการมองร่างกายปราศจากเสื้อผ้าของชาติเสืออยู่ดีร่างบางของเธอถูกดึงให้ลุกขึ้นนั่งก่อนจะถูกถอดชุดนอนรวดเดียวโดยฝีมือคนตัวโตหัวทุยของทรายแก้วตอนนี้ถูกกอบกุมไปด้วยสองมือใหญ่ของชายหนุ่มเขาก้มลงจูบริมฝีปากบางอีกรอบโน้มตัวเธอนอนลง
หลังจากกลับขึ้นไปที่ห้องอาบน้ำแต่งตัวเตรียมจะออกไปข้างนอกเรียบร้อยแล้วทรายแก้วจึงเดินเข้ามาหาเด็ดเดี่ยวเพื่อแจ้งให้เขาทราบว่าเธอนั้นจะออกไปข้างนอกภาวนาในใจว่าขอให้เขาอนุญาตเธอโดยดีไม่อย่างนั้นคงต้องหนักใจอีกแน่“คุณเดี่ยวคะ”ดวงตาคมของเด็ดเดี่ยวมองทรายแก้วด้วยความสงสัยเพราะเห็นเธอแต่งตัวทั้งยังมีกระเป๋าสะพายข้างไม่รู้ว่าเธอจะออกไปไหนกันขออนุญาตเจ้านายของเขาหรือยังเรื่องนี้เขาก็ยังไม่ทราบ“ครับ”“พอดีว่าเพื่อนทรายนัดให้ไปหาน่ะค่ะ...ขอออกไปแปปเดียวได้หรือเปล่าคะ”“อืม...ถ้าเรื่องออกไปจากที่นี่..คุณทรายขออนุญาตคุณเสือแล้วหรือยังครับ”“ไปแปปเดียวเองต้องโทรขอด้วยเหรอคะ...อีกอย่างทรายก็ไม่ร็จะติดต่อคุณเสือยังไง”“ไม่อย่างนั้นพวกผมอาจจะถูกคาดโทษได้”เด็ดเดี่ยวตอบตามตรงเขาไม่ได้อยากจะห้ามหญิงสาวแต่เพราะโทษที่เขาละเลยหน้าที่มันน่ากลัวจึงอนุญาตให้ทรายแก้วออกไปข้างนอกไม่ได้หากเธอยังไม่ได้แจ้งให้เจ้านายของเขาทราบ“ฉันเข้าใจค่ะ”ใบหน้าหวานห่อเหี่ยวขึ้นมาจนชายหนุ่มตรงหน้าจับสังเกตได้แต่เขาก็ช่วยอะไรเธอไม่ได้อยู่ดีนอกจากรีบต่อสายหาชาติเสือให้ได้คุยกับหญิงสาวเอาเอง“นายครับคุณทรายมีเรื่องจะคุยด้วยครั
“ครับคุณเสือ...เธอกำลังทำอาหารกับเพื่อนอยู่ครับ.. ครับ.. ผมจะคอยดูไม่ห่างครับ”เด็ดเดี่ยวยกหูรายงานชาติเสือเป็นระยะเพราะถูกสั่งเอาไว้“เดี่ยว..ท่าทางนายจะหวงคุณทรายมากกว่าผู้หญิงคนอื่นนายว่าหรือเปล่า”ชาตรีเห็นเด็ดเดี่ยววางสายได้ก็รีบพูดคุยเรื่องที่ตนเองคิด“อาจจะยังไม่ไว้ใจหรือเปล่า”“นายคิดงั้น?”“อืม..”แม้นในใจเด็ดเดี่ยวจะแอบคิดเช่นชาตรีแต่เขาก็มีอีกใจที่คิดว่าอาจจะเป็นไปได้ที่นายตนน่าจะยังไม่ไว้ใจหญิงสาวเพราะพึ่งอยู่ด้วยกันได้ไม่นานหลังจากน้ำรินกลับไปตั้งแต่ช่วงเย็นทรายแก้วก็นั่งเหงาเช่นเดิมจนตกดึกร่างบางในชุดนอนผ้าลินินสายเดี่ยวสีขาวยาวคลุมเข่าเดินออกมานอกระเบียงห้องนอนดูดาวยามค่ำคืนที่ฟ้าเปิดดวงตากลมโตมองทอดยาวไปไกลสองแขนเล็กกอดอกแน่นครุ่นคิดถึงวันข้างหน้าว่าชีวิตของเธอจะเป็นเช่นไรคำถามนี้วนเวียนอยู่ในหัวทุกครั้งเมื่อต้องอยู่เงียบๆคนเดียวแต่ก็ยังหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้สักครั้ง“เฮ้อ..!”ริมฝีปากบางเผยอพ่นลมหายใจเบาๆก่อนจะเดินกลับเข้ามาในห้องนอนแกร๊กมือน้อยยกยื่นปิดสวิตซ์ไฟให้ในห้องเหลือเพียงแค่แสงสลัวจากโคมไฟหัวเตียงเท่านั้นก่อนจะหย่อนก้นลงเตียงเอนตัวลงนอนฟุบกับหมอนนุ่มร่าง
“ค่ะ”ทรายแก้วละมือจากช้อนส้อมในจานปลานึ่งเธอเริ่มตักข้าวใส่จานตัวเองตามที่สุรีพรสั่งแอบอมยิ้มเมื่อเห็นอีกมุมของสุรีพรและชาติเสือที่มีเหมือนกันเรื่องที่ไม่ชอบให้ใครมาอดอาหารในเวลาที่ต้องทานสุรีพรเลือกที่จะตักน้ำซุปถ้วยไก่ตุ๋นทานก่อนเพราะรู้สึกว่ากลิ่นช่างหอมยั่วยวนเตะจมูกเสียเหลือเกิน“อืม..”เธอพยักหน้าเล็กน้อยเมื่อน้ำซุปรสกลมกล่อมสัมผัสลิ้นนับว่าฝีมือของลูกสะใภ้เธอดีไม่ใช่น้อยสุรีพรชื่นชมฝีมือหญิงสาวอยู่ในใจไม่ปริปากพูดอะไรออกมาแต่การที่หญิงวัยกลางคนยื่นมือตักอาหารทานไม่พูดไม่จาก็ทำให้ทรายแก้วรู้แล้วว่าแม่สามีนั้นถูกใจฝีมือเธอแค่ไหน“ของหวานค่ะคุณแม่”หลังจากทานขอคาวจนเรียบร้อยแล้วตอนนี้ก็ถึงเวลาของของหวานวันนี้ทรายแก้วเลือกที่จะเสริฟมะยงชิดลอยแก้วให้กับสุรีพรเพราะเธอแช่มะยงชิดกับน้ำเชื่อมไว้ตั้งแต่เมื่อเย็นวานหากสุรีพรได้ทานคงสดชื่นไม่น้อยคนเป็นแม่สามีอย่างสุรีพรนั่งทานของที่ลูกสะใภ้เสริฟเงียบๆเพราะเธอถูกใจฝีมือของทรายแก้วทั้งของคาวและของหวานเลยไม่มีข้อที่จะหาเรื่องตำหนิได้เลยแม้แต่ข้อเดียวช่วงหัวค่ำก่อนที่ทรายแก้วจะเตรียมตัวเข้าห้องนอนเธอก็ไม่ลืมที่จะเดินเลยไปถามไถ่แม่สามีเผื่อ
“คุณแม่จะทำอะไรคะเดี๋ยวทรายทำให้ค่ะ”“ไม่ต้องฉันทำเองได้”สุรีพรไม่ยอมปล่อยมือง่ายๆเพราะแค่ยกหม้อลงจากเตาแค่นี้ไม่ใช่เรื่องที่เธอทำไม่ได้“ให้ทรายทำนะคะมันร้อนค่ะ”ฟึ่บ..” อ๊ายย.. “เมื่อยื้อแย่งกันไปมาน้ำต้มร้อนๆในหม้อก็กระฉอกลวกมือทรายแก้วจนเธอร้องลั่นสุรีพรจึงจำต้องวางหม้อลงบนเตาแล้วรีบดึงมือทรายแก้วมาล้างน้ำ“ก็บอกแล้วไงว่าไม่ต้องมายุ่งยัยเด็กบ้าเอ้ย”หญิงวัยกลางคนบ่นอุกเมื่อเห็นว่ามือของทรายแก้วเห่อแดงจนเห็นได้ชัดเธอรีบใช้ทิชชู่ซับมือน้อยที่เปียกก่อนจะจูงหญิงสาวออกมาทายาด้านนอกทรายแก้วเห็นอาการเป็นห่วงของแม่สามีก็มีสีหน้าแปลกใจไม่น้อยก่อนจะอมยิ้มออกมาด้วยพฤติกรรมของสุรีพรที่ทีท่าทีห่วงใยเธอตอนนี้เหมือนกับแม่ของเธอไม่มีผิด“ไม่แสบร้อนหรือไงยิ้มอยู่ได้”“คุณแม่ดุทรายเหมือนที่แม่ทรายชอบพูดเปี๊ยบเลยค่ะ”“ใครจะไม่ดุอยู่ดีๆก็มาหาเรื่องเจ็บตัว...เดี๋ยวตาเสือก็ว่าฉันทำร้ายเมียตัวเองอีก”“ไม่หรอกค่ะคุณแม่...ทรายผิดเองที่ไม่ระวัง”ทรายแก้วยังไม่ยอมหุบยิ้มง่ายๆขณะที่แม่สามีกำลังทายาให้เธอรู้สึกอบอุ่นหัวใจจนลืมความเจ็บไปเลยก็ว่าได้ในเช้าของวันต่อมาเป็นอีกวันที่แม้ทรายแก้วจะยังไม่หายเจ็บมือ
สุรีพรเดินขึ้นมาหาทรายแก้วที่ห้องนอนในช่วงบ่ายเพราะเห็นว่าตั้งแต่ทรายแก้วกลับมาก็ไม่ลงมาด้านล่างอีกเลย“นอนยังไงไม่ล็อคประตูแม่คนนี้”สุรีพรบิดลูกบิดประตูห้องนอนของทรายแก้วเห็นว่าไม่ได้ล็อคจึงถือวิสาสะเดินเข้าไปด้านในทั้งส่ายหัวบ่นอุกเมื่อเห็นว่าเธอไม่รอบคอบเอาเสียเลย“ทรายแก้ว...ทรายแก้ว... ฉันว่าแล้วเชียว”สุรีพรเดินเข้ามาเรียกลูกสะใถ้ที่นอนฟุบอยู่กับเตียงไม่ยอมขยับก่อนจะยื่นมือไปแตะหน้าผากพบว่าตัวหญิงสาวร้อนจี๋เป็นเช่นที่เธอคิดไม่มีผิดว่าทรายแก้วตากฝนปล่อยให้ตัวเปียกนานขนาดนั้นจะต้องไข้ขึ้นเห็นท่าไม่ดีสุรีพรจึงหาน้ำหาผ้ามาเช็ดตัวให้ทรายแก้วก่อนจะโทรเรียกหมอมาดูอการของลูกสะใภ้ด้วยเห็นว่าไข้ขึ้นสูงหากรอให้ทรายแก้วตื่นมาทานยาเองอาจจะชักได้“แม่จ๋า...หนูอยากกลับบ้าน”“กลับบ้าน?”สุรีพรชะงักเล็กน้อยขณะเช็ดหน้าเช็ดตาทรายแก้วไม่เข้าใจในคำที่หญิงสาวเพ้อเท่าไรในเมื่อเห็นว่าเธออยู่ที่นี่ก็ดูจะมีความสุขดีแล้วทำไมถึงอยากกลับบ้านก๊อกๆๆ“หมอมาแล้วครับคุณท่าน”“อ่อ..ให้เข้ามาเลย”สุรีพรไม่ทันที่จะหาความกระจ่างในความสงสัยได้เธอก็ต้องละทิ้งความสงสัยและลุกให้หมอเข้ามาดูอาการทรายแก้วก่อนหลังจากที
“เอาไว้ที่เรือนอื่นก็ไม่ได้เหรอคะ”“ไม่ได้...หน้าที่ของเธอคือสนใจเพียงฉันไม่ใช่ไปสนใจหมา”“แต่ทรายอยากดูแลมันนี่คะมันน่าสงสารจะตาย”“ฉันไม่ให้เลี้ยง..ฉันไม่ชอบหมา”“ใจร้ายแม้กระทั่งกับหมา”ทรายแก้วผุดลุกหันหลังบุ้ยปากบ่นอู้อี้ไม่ค่อยพอใจเท่าไรที่ชายหนุ่มนั้นทำท่าทีไม่สนใจเรื่องที่เธอร้องขออีกทั้งยังหันหน้ามาคุยกับเธอดีๆอีกด้วย“ทรายแก้ว”ใบหน้าคมส่ายไปมาจ้องมองร่างบางที่เดินไม่พอใจออกนอกห้องไปจะให้เขาตามใจเธอเรื่องนี้เห็นจะเป็นไปได้ยากเพราะมีปมในใจเรื่องของลูกหมาด้วยเด็กๆอยากจะเล่นหมาบ้านของยายตนแต่กลับถูกไล่กัดหลังจากนั้นจึงไม่ชอบลูกหมาอีกเลยจนถึงตอนนี้เจอที่ไหนเป็นต้องเดินเลี่ยงทุกทีโต๊ะอาหารเย็นวันนี้ปกคลุมไปด้วยความเงียบเพราะทรายแก้วยังคงครุ่นคิดหาวิธีจะทำอย่างไรให้ขาติเสือยอมให้เธอเลี้ยงลูกสุนัขส่วนชาติเสือเองก็ยังไม่อยากหาเรื่องคุยกับหญิงสาวเพราะกลัวว่าเธอจะทำหน้าออดอ้อนขอเลี้ยงเจ้าลูกหมาที่เขาไม่ชอบขึ้นมาอีกช่วงเวลาของอาหารคาวดำเนินไปพักใหญ่เมื่อเรียบร้อยแล้วทรายแก้วจึงรีบเดินเข้าไปหยิบกล่องฟักทองเชื่อมในตู้เย็นออกมาให้ชาติเสือเธอ“ของหวานค่ะ”“อืม..”ชาติเสือเห็นกล่องฟักทองเ
“อ่า..อ้าสส..”คนตัวโตส่งเสียงคำรามลั่นขณะโหมกระแทกสะโพกแกร่งถี่รัววันนี้เขาจะทำศึกสวาทให้หนำใจจากที่ห่างตุ๊กตายางตัวโปรดไปหลายวัน“อ้ะ.. อ้ะ.. อื้ออ.. “ร่างบางนอนหัวสั่นหัวครอนครางเสียงอ่อนเสียงหวานมือเรียวยกจิกปัดป่ายไม่อยู่สุขเพราะในตัวตอนนี้มีแต่ความเสียวซ่านวาบหวามครอบงำเมื่อหนำใจกับท่วงท่าพื้นฐานแล้วคนตัวโตก็รวบอุ้มร่างบางให้กอดคอซุกหน้าแนบอกจัดการกระหน่ำซอยสะโพกใส่หญิงสาวด้วยลีลาเร่าร้อนไม่ผ่อนจนเกิดเสียงเนื้อกระทบกันสนั่นห้อง“อื้อ..อืมม..”และแล้วหญิงสาวก็ต้องซุกใบหน้ากับอกแกร่งกลั้นเสียงครางหวานอีกเช่นเคยด้วยกลัวจะดังจนคนอื่นที่เฝ้าอยู่นอกบ้านได้ยินคนตัวโตกระหน่ำซอยร่างบางพักใหญ่จนเธอเริ่มเกาะเกี่ยวรั้งคอขอเขาไม่ไหวจึงวางเธอลงที่โซฟานุ่มขึ้นคร่อมขย่มร่างบางจนหัวสั่นหัวครอนอีกครั้งบทสวาทวาบหวามของทั้งคู่กินเวลาไปเกือบค่อนแจ้งด้วยชาติเสืออยากชดเชยเวลาที่เขาห่างเธอไปหลายวันคืนนี้เขาจึงกระหน่ำบทรักหนำใจให้หายคิดถึงร่างบางอันพอดีไม้พอดีมือนี้ในคืนเดียวช่วงสายของวันต่อมาชาติเสือยังคงนอนขลุกเปลือยเปล่าล่อนจ้อนอดก่ายร่างบางไม่ยอมปล่อยทรายแก้วเริ่มขยับตัวตื่นเพราะแสงอาทิตย์เริ่มส