ในโลกที่เปี่ยมไปด้วยแสงสีของวงการบันเทิง หยางซูมี่คือชื่อที่ไม่มีใครไม่รู้จัก เธอเป็นนางแบบลูกครึ่งไทย-จีนวัย 25 ปี ที่ครองตำแหน่งท็อปโมเดลของประเทศ ด้วยความงามที่ตราตรึงใจและความมั่นใจที่สะกดทุกสายตา แต่ภายใต้ภาพลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบนั้น ไม่มีใครรู้ว่าเบื้องลึกในหัวใจของเธอเต็มไปด้วยคำถามที่ไร้คำตอบ และความรู้สึกที่โหยหาบางสิ่งที่ไม่อาจอธิบายได้ เมื่อการทำงานที่เหน็ดเหนื่อยสิ้นสุดลง ซูมี่ตัดสินใจเดินทางกลับไปเยี่ยมอากงอาม่าในชนบทของจีน หมู่บ้านเล็กๆ ที่เธอเคยใช้เวลาในวัยเด็ก ความเงียบสงบของสถานที่และความอบอุ่นจากครอบครัวช่วยปลอบประโลมจิตใจที่อ่อนล้า แต่การเดินทางครั้งนี้กลับพาเธอไปสู่จุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิต จุดเริ่มต้นของโชคชะตาที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง ในวันที่เธอไปเยือนวัดโบราณอันเก่าแก่ที่ตั้งอยู่บนยอดเขาสูง เธอได้พบกับพระชรารูปหนึ่งโดยบังเอิญ ขณะที่เธอยืนอธิษฐานหน้าศาลเจ้า พระรูปนั้นยื่นกำไลหยกขาวเรืองรองให้เธอ พร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงลึกลับว่า “ถึงเวลาหวนคืนแล้ว เจ้าจงเตรียมตัวให้พร้อม” คำพูดนั้นดังก้องในจิตใจของซูมี่ แม้เธอไม่เข้าใจความหมายของมัน แต่ความรู้สึกบางอย่างบอกเธอว่าสิ่งนี้จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของเธอตลอดกาล…
View Moreหลังจากกลับจากประเทศจีน หยางซูมี่รู้สึกว่าหัวใจเธอหนักอึ้ง แม้ทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นเพียงเรื่องเหนือธรรมชาติที่ยากจะอธิบาย แต่กำไลหยกขาวที่พระรูปนั้นให้มาทำให้เธอปฏิเสธความจริงไม่ได้ซูมี่นัดพ่อแม่และหยางเหว่ย พี่ชายของเธอ ทานข้าวที่บ้านในค่ำวันหนึ่ง บรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่น อาหารจีนจานโปรดถูกจัดเรียงเต็มโต๊ะ ทั้งเป็ดย่าง เกี๊ยวน้ำ และผัดหมี่ที่อาม่าทำให้กินตั้งแต่เด็ก“ซูมี่ กลับมาจากจีน ดูเหมือนจะมีเรื่องอะไรในใจนะ” แม่ถามพลางมองหน้าลูกสาวด้วยความเป็นห่วงซูมี่เม้มปาก ก่อนสูดลมหายใจลึก “หนูมีเรื่องสำคัญจะบอกค่ะ… มันอาจฟังดูเหมือนเรื่องแต่ง แต่หนูอยากให้พ่อแม่กับพี่เชื่อหนู”“อะไรกันล่ะ” พ่อมองด้วยสายตาสงสัย แต่เปิดใจฟังซูมี่ดึงกำไลหยกขาวออกมาและวางไว้กลางโต๊ะ “ตอนหนูไปวัดในจีน พระรูปหนึ่งให้กำไลนี้กับหนู แล้วบอกว่าหนูต้อง ‘หวนคืน’ และ… หนูก็พบว่ามันไม่ใช่กำไลธรรมดา”หยางเหว่ยหัวเราะเบาๆ “กำไลมิติ? เดี๋ยวนี้ดูหนังไซไฟเยอะไปหรือเปล่า ”“พี่ ฟังหนูก่อน” ซูมี่เถียงพลางมองหน้าพี่ชายอย่างจริงจัง “ตอนหนูกำลังจะกลับไทย หนูลองใส่ของลงไปในกำไลโดยไม่ตั้งใจ แล้วมัน…หายไป หายไปจริงๆ! เหมือนกำ
หลังกลับจากงานปารีสแฟชั่นวีค หยางซูมี่ตัดสินใจใช้ช่วงเวลาหยุดพักจากชีวิตที่วุ่นวาย เดินทางกลับไปยังหมู่บ้านชนบทเล็กๆ ในมณฑลเสฉวน ที่ซึ่งอากงและอาม่าของเธอยังคงอาศัยอยู่ สถานที่ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นบ้านของเธอ สถานที่ที่เต็มไปด้วยความทรงจำอันอบอุ่นในวัยเด็ก เธอได้บอกพ่อแม่และชวนพี่ชายมาด้วยกัน แต่ก็ไม่มีใครว่างเลย เหตุเพราะเธอชวนกะทันหันเกินไป ไม่สามารถเคลียงานได้ทัน เธอเลยบินเดี่ยวสู่จีนแผ่นดินใหญ่ด้วยตัวคนเดียว จริงๆพี่ลิซ่าอาสามาเป็นเพื่อนด้วย แต่โดนเธอปฎิเสธไปเพราะเกรงใจ นานๆจะได้มีวันหยุดทั้งที ปล่อยให้พี่ลิซ่าเดทกับคุณสามีไปเถอะ การเดินทางสู่ชนบท เมื่อเครื่องบินแตะพื้นดินในมณฑลใกล้บ้านเกิด ซูมี่ออกเดินทางต่อด้วยรถยนต์ ท่ามกลางภูมิประเทศที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ จากเมืองใหญ่สู่ชนบทที่เงียบสงบ ถนนสายเล็กๆ ลัดเลาะไปตามภูเขาสูงที่เต็มไปด้วยต้นไม้เขียวขจี กลิ่นอายของธรรมชาติและเสียงนกร้องทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อรถแล่นเข้าสู่หมู่บ้านเล็กๆ ที่เธอเคยเรียกว่าบ้านในวัยเด็ก ความทรงจำในอดีตก็พลันหลั่งไหลเข้ามา บ้านไม้หลังเก่าที่เธอเคยวิ่งเล่นยังคงตั้งอยู่กลางลานดินกว้าง ที่น
ค่ำคืนที่เต็มไปด้วยแสงสีและเสียงดนตรีจากแฟชั่นโชว์ระดับโลก ณ Grand Palais Paris สถานที่จัดงานอันหรูหราซึ่งเหล่าดีไซเนอร์ชั้นนำจากทั่วโลกต่างมารวมตัวกันเพื่อเปิดตัวคอลเลกชันใหม่ของพวกเขา เวทีที่ประดับด้วยแชนเดอเลียร์คริสตัลส่องประกายระยิบระยับ ราวกับเป็นดินแดนแห่งเทพนิยาย ภายในงาน บรรดาแขกผู้ทรงอิทธิพลในวงการแฟชั่น นักออกแบบระดับโลก และเซเลบริตี้ชั้นนำต่างจับจ้องไปที่รันเวย์ ในขณะที่เสียงดนตรีอันทรงพลังดังกระหึ่มขึ้น และในที่สุด…เธอก็ปรากฏตัว หยางซูมี่ ย่างก้าวออกมาอย่างสง่างาม ดวงตาคมดั่งนิลจับจ้องไปข้างหน้า เสื้อผ้าทอด้วยผ้าไหมสีทองประดับด้วยคริสตัล Swarovski นับร้อยสะท้อนแสงไฟทุกย่างก้าวของเธอ ทำให้เธอดูราวกับเจ้าหญิงในเทพนิยาย ชุดราตรีจากแบรนด์ระดับตำนาน “Maison de Lumière” ถูกออกแบบมาเพื่อเธอโดยเฉพาะ เสียงแฟลชจากกล้องถ่ายรูปดังระรัว นักข่าวและช่างภาพพากันถ่ายภาพของเธออย่างไม่หยุดหย่อน เสียงกระซิบชื่นชมดังกระหึ่มไปทั่วงาน “เธอสง่างามจริงๆ …เหมือนนางพญาที่ก้าวออกจากจอภาพยนตร์” “หยางซูมี่คือราชินีแห่งวงการแฟชั่นของยุคนี้” “ไม่มีใครเทียบเธอได้เลย” เธอยิ้มเพียงเล็กน้อย รั
ค่ำคืนที่เต็มไปด้วยแสงสีและเสียงดนตรีจากแฟชั่นโชว์ระดับโลก ณ Grand Palais Paris สถานที่จัดงานอันหรูหราซึ่งเหล่าดีไซเนอร์ชั้นนำจากทั่วโลกต่างมารวมตัวกันเพื่อเปิดตัวคอลเลกชันใหม่ของพวกเขา เวทีที่ประดับด้วยแชนเดอเลียร์คริสตัลส่องประกายระยิบระยับ ราวกับเป็นดินแดนแห่งเทพนิยาย ภายในงาน บรรดาแขกผู้ทรงอิทธิพลในวงการแฟชั่น นักออกแบบระดับโลก และเซเลบริตี้ชั้นนำต่างจับจ้องไปที่รันเวย์ ในขณะที่เสียงดนตรีอันทรงพลังดังกระหึ่มขึ้น และในที่สุด…เธอก็ปรากฏตัว หยางซูมี่ ย่างก้าวออกมาอย่างสง่างาม ดวงตาคมดั่งนิลจับจ้องไปข้างหน้า เสื้อผ้าทอด้วยผ้าไหมสีทองประดับด้วยคริสตัล Swarovski นับร้อยสะท้อนแสงไฟทุกย่างก้าวของเธอ ทำให้เธอดูราวกับเจ้าหญิงในเทพนิยาย ชุดราตรีจากแบรนด์ระดับตำนาน “Maison de Lumière” ถูกออกแบบมาเพื่อเธอโดยเฉพาะ เสียงแฟลชจากกล้องถ่ายรูปดังระรัว นักข่าวและช่างภาพพากันถ่ายภาพของเธออย่างไม่หยุดหย่อน เสียงกระซิบชื่นชมดังกระหึ่มไปทั่วงาน “เธอสง่างามจริงๆ …เหมือนนางพญาที่ก้าวออกจากจอภาพยนตร์” “หยางซูมี่คือราชินีแห่งวงการแฟชั่นของยุคนี้” “ไม่มีใครเทียบเธอได้เลย” เธอยิ้มเพียงเล็กน้อย รั...
Comments