แชร์

ตัดสินใจบอกครอบครัว

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-10 15:07:15

หลังจากกลับจากประเทศจีน หยางซูมี่รู้สึกว่าหัวใจเธอหนักอึ้ง แม้ทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นเพียงเรื่องเหนือธรรมชาติที่ยากจะอธิบาย แต่กำไลหยกขาวที่พระรูปนั้นให้มาทำให้เธอปฏิเสธความจริงไม่ได้

ซูมี่นัดพ่อแม่และหยางเหว่ย พี่ชายของเธอ ทานข้าวที่บ้านในค่ำวันหนึ่ง บรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่น อาหารจีนจานโปรดถูกจัดเรียงเต็มโต๊ะ ทั้งเป็ดย่าง เกี๊ยวน้ำ และผัดหมี่ที่อาม่าทำให้กินตั้งแต่เด็ก

“ซูมี่ กลับมาจากจีน ดูเหมือนจะมีเรื่องอะไรในใจนะ” แม่ถามพลางมองหน้าลูกสาวด้วยความเป็นห่วง

ซูมี่เม้มปาก ก่อนสูดลมหายใจลึก “หนูมีเรื่องสำคัญจะบอกค่ะ… มันอาจฟังดูเหมือนเรื่องแต่ง แต่หนูอยากให้พ่อแม่กับพี่เชื่อหนู”

“อะไรกันล่ะ” พ่อมองด้วยสายตาสงสัย แต่เปิดใจฟัง

ซูมี่ดึงกำไลหยกขาวออกมาและวางไว้กลางโต๊ะ “ตอนหนูไปวัดในจีน พระรูปหนึ่งให้กำไลนี้กับหนู แล้วบอกว่าหนูต้อง ‘หวนคืน’ และ… หนูก็พบว่ามันไม่ใช่กำไลธรรมดา”

หยางเหว่ยหัวเราะเบาๆ “กำไลมิติ? เดี๋ยวนี้ดูหนังไซไฟเยอะไปหรือเปล่า ”

“พี่ ฟังหนูก่อน” ซูมี่เถียงพลางมองหน้าพี่ชายอย่างจริงจัง

“ตอนหนูกำลังจะกลับไทย หนูลองใส่ของลงไปในกำไลโดยไม่ตั้งใจ แล้วมัน…หายไป หายไปจริงๆ! เหมือนกำไลดูดของเข้าไป”

ครอบครัวหยางเงียบงัน พ่อกับแม่มองหน้ากันด้วยความประหลาดใจ

“นี่ หนูลองให้ดู” ซูมี่หยิบขวดน้ำบนโต๊ะ จากนั้นเธอใช้มือแตะกำไลพร้อมกับตั้งสมาธิ ขวดน้ำบนโต๊ะหายวับไปทันที

“โธ่ลูก… พ่อเคยคิดว่าสิ่งแบบนี้มีแค่ในหนังจีนกำลังภายใน” พ่อพูดอย่างตื่นเต้น แต่ยังตกตะลึง

แม่พูดเสียงสั่น “ตายแล้วลูกกก….แล้วหนูจะทำยังไง? กำไลนี่มันเกี่ยวอะไรกับหนู”

ซูมี่นิ่งไป ก่อนจะดึงจดหมายที่เธอพบในกำไลออกมา “ในนี้บอกว่าหนูต้องกลับไปใน ‘ที่แท้จริงของตัวเอง’ หนูยังไม่รู้ว่าหมายถึงอะไร แต่รู้ว่ามันสำคัญ และหนูไม่สามารถหลีกเลี่ยงชะตานี้ได้”

บรรยากาศเริ่มหนักอึ้ง ซูมี่รู้สึกถึงน้ำตาที่เอ่อคลอขณะพูด “หนูไม่อยากจากพ่อแม่กับพี่ไปเลย แต่มันไม่ใช่สิ่งที่หนูเลือกได้”

แม่เข้ามากอดเธอแน่น “ซูมี่… ถึงมันจะน่าเหลือเชื่อแค่ไหน แม่ก็อยากให้ลูกมีสติและปลอดภัย แม่กับพ่อจะช่วยลูกเตรียมตัวให้ดีที่สุด”

หยางเหว่ยพยักหน้า “ใช่ พี่ก็ด้วย ต่อให้น้องต้องไปในที่แปลกประหลาดแค่ไหน พี่ก็อยากให้น้องเอาตัวรอดได้”

หลังจากนั้น ครอบครัวหยางช่วยกันจัดหาสิ่งของที่จำเป็น ไม่ว่าจะเป็นอาหารแห้ง เสื้อผ้า ที่นอน และชุดเครื่องนอนต่าง อุปกรณ์เอาชีวิตรอด เครื่องมือสารพัดอย่าง เต็นท์และชุดครัวสนามทั้งหมดสั่งตรงจากโรงงานโดยตรง แม้กระทั่งอาวุธทุกชนิดจะเรียกว่าคลังอาวุธเคลื่อนที่ก็ไม่ผิด

“นี่น้องจะย้ายไปอยู่ที่ไหนกันแน่ ดาวอังคารเหรอ?” หยางเหว่ยแซวพลางหัวเราะ

ซูมี่ยิ้มพลางบ่น “นี่มันเยอะไปมั้ยคะ กินกี่ชาติถึงจะหมด”

พ่อหัวเราะ “พกไปให้หมดนั่นแหละ ไหนๆ กำไลลูกก็ใส่ได้ไม่มีวันเต็มอยู่แล้ว”

และเธอคิดว่าจะลองกลับไปเอาคอนโดและซุปเปอร์คาร์ลูกรักของเธอใส่ในกำไลไปด้วย เธอไม่รู้หรอกว่าจะใส่ไปได้มั้ย แต่เธอตัดใจทิ้งมันไปไม่ลง เธอเคยอ่านนิยายแนวทะลุมิติมาเยอะ ที่นางเอกสามารถใส่บ้านทั้งหลัง เธอก็ต้องใส่ไปได้สิ ซูมี่นิ่งคิดในใจ

คืนนั้นในบ้านหยาง เสียงหัวเราะและบทสนทนาจากครอบครัวที่รักกันดังก้องไปทั่วห้องนอนใหญ่ อากาศหนาวนอกบ้านไม่อาจทำให้หัวใจของพวกเขาเย็นลงได้ เพราะทั้งครอบครัวได้นอนรวมกันเหมือนเมื่อครั้งหยางซูมี่และหยางเหว่ยยังเป็นเด็ก

“นี่พี่เหว่ย อย่ามานอนเบียดฉันสิ!” ซูมี่พูดพร้อมหัวเราะ เมื่อพี่ชายขยับตัวมาใกล้เกินไป

“ก็เตียงมันแคบเอง ใครใช้ให้พวกเราโตแล้วแต่มานอนรวมกันแบบนี้ล่ะ!” หยางเหว่ยพูดพลางดึงผ้าห่มจากน้องสาว

พ่อหัวเราะเบาๆ พลางพูดแซว “นี่พ่อไม่ได้ยินเสียงลูกเถียงกันแบบนี้มานานแล้วนะ คิดถึงจริงๆ”

แม่ยิ้มมองภาพลูกๆ ที่คุยหยอกล้อกัน “ใช่เลย สมัยเด็กทั้งสองคนก็ชอบแย่งกันแบบนี้ พ่อกับแม่ต้องคอยห้ามอยู่เรื่อย”

“แต่แม่คะ ตอนนี้พี่เหว่ยก็ยังแย่งหนูเหมือนเดิมนะ” ซูมี่แกล้งบ่น

“โอเคๆ พี่ผิดเอง” หยางเหว่ยยอมรับแต่โดยดี ก่อนทุกคนจะหัวเราะกันอย่างมีความสุข

ในค่ำคืนนั้น ไม่มีใครพูดถึงการจากลา ไม่มีความเศร้า มีเพียงความอบอุ่นและเสียงหัวเราะที่ทำให้ทุกคนรู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปในวัยเด็กอีกครั้ง

เช้าวันรุ่งขึ้น ครอบครัวหยางพากันออกเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ในเมือง ตั้งแต่ตลาดสด แหล่งท่องเที่ยวในท้องถิ่น ไปจนถึงร้านค้าที่เต็มไปด้วยของหายาก

“พ่อคะ แม่คะ นี่มันเหมือนทริปครอบครัวเลยนะ!” ซูมี่พูดขณะมองวิวจากรถ

“ใช่สิลูก พ่ออยากให้เรามีช่วงเวลาที่ดีที่สุดก่อนที่ลูกจะต้องไป” พ่อพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“แม่เองก็อยากให้ลูกมีทุกอย่างที่ต้องการ ถ้าที่ไหนมีอะไรที่ลูกอยากได้ ก็บอกมานะ แม่จะซื้อให้หมด”

ในตลาดสด ซูมี่เดินเลือกซื้อของกินพื้นบ้านหลากหลายชนิด ทั้งผลไม้ ขนม และอาหารแห้ง “อันนี้หนูอยากได้ค่ะ พ่อดูสิ ของโปรดหนูเลย”

“ถ้าลูกชอบก็เอาไปเยอะๆ เลย” พ่อตอบพร้อมหยิบใส่ถุง

ที่ร้านของฝาก หยางเหว่ยเดินมาพร้อมของฝากในมือ “นี่ๆ ซูมี่ น้องจะเอาพวงกุญแจพวกนี้ไปเป็นของขวัญในมิติใหม่มั้ย”

“พี่เหว่ย ใครจะใช้พวงกุญแจในโลกนั้นล่ะ” ซูมี่ตอบพร้อมหัวเราะ แต่สุดท้ายก็หยิบมาเก็บไว้

ทุกๆ ที่ที่ครอบครัวหยางไป พวกเขาต่างซื้อของกลับมาให้ซูมี่ ทั้งเสื้อผ้าแบบพื้นบ้าน เครื่องใช้ในครัวที่หาได้ยาก อาหารพื้นถิ่น และแม้กระทั่งของตกแต่งเล็กๆ น้อยๆ

“นี่หนูมีของเยอะจนเหมือนจะย้ายบ้านทั้งหลังไปเลย” ซูมี่พูดพลางมองกองของที่เพิ่มขึ้นทุกวัน

“ก็ดีแล้วไงลูก จะได้ไม่ขาดเหลืออะไร” แม่ตอบด้วยรอยยิ้ม

แต่ถึงแม้จะมีของมากมายแค่ไหน ซูมี่ก็ยังรู้สึกว่ามันยังไม่พอ “ยังมีอะไรอีกนะที่ฉันอยากได้…” เธอพึมพำกับตัวเอง

ในคืนนั้น ขณะที่เธอนั่งจัดของในมิติ กองของที่เรียงรายไม่ใช่สิ่งที่เธอคิดถึง แต่กลับเป็นใบหน้าของ “ลินดา” เพื่อนรักคนเดียวที่เคยอยู่เคียงข้างเธอมาตลอด

“ลินดา… ฉันไม่ได้บอกลาแกเลย” เธอคิดในใจ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาเพื่อน

“ลินดา พรุ่งนี้ว่างมั้ย ไปช้อปปิ้งกับฉันหน่อย”

“อืม… ว่างสิ แกจะไปซื้ออะไรล่ะ ” ลินดาตอบด้วยน้ำเสียงแปลกใจ

“พรุ่งนี้แกมาก็รู้เอง ฉันมีเรื่องสำคัญอยากบอกแก”

วันรุ่งขึ้น ลินดามาพบซูมี่ที่ห้างสรรพสินค้า เธออดไม่ได้ที่จะพูดแซว “แกนี่มันบ้าช้อปปิ้งจริงๆ แกจะซื้อของไปไหนมากมายขนาดนี้เนี่ย”

“ก็… ฉันอยากให้แกช่วยเลือกของที่มีความหมายหน่อย”

ทั้งสองเดินเลือกของกันอย่างสนุกสนาน ซูมี่เลือกซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ หนังสือที่เธอชอบ และของเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำให้เธอคิดถึงบ้าน

“ลินดา… ฉันอยากบอกลาแก” ซูมี่พูดขึ้นขณะที่ทั้งคู่กำลังนั่งพักในร้านกาแฟ

“บอกลา? แกพูดเรื่องอะไร”

ซูมี่ถอนหายใจ “ฉันอาจจะไม่ได้อยู่ที่นี่อีกแล้ว… ฉันกำลังจะไปที่ที่ไกลมาก และไม่รู้ว่าจะได้กลับมาหรือเปล่า”

ลินดานิ่งไป ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “แกจะไปไหน ทำไมพึ่งมาบอกฉัน”

“มันเป็นเรื่องเหลือธรรมชาติเกินไป… แต่ฉันอยากให้แกจำไว้ว่าฉันรักแก และขอบคุณที่อยู่เคียงข้างฉันเสมอ”

ลินดาน้ำตาคลอ เธอจับมือซูมี่แน่น “แกคือเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันนะ ไม่ว่าแกจะอยู่ที่ไหน ฉันก็ขอให้แกปลอดภัย”

เมื่อกลับถึงบ้าน ซูมี่จัดของที่ได้มาใหม่ใส่มิติ พร้อมกับใช้เวลาช่วงสุดท้ายกับครอบครัว

ในคืนนั้น ทุกคนต่างพูดคุยและหัวเราะเหมือนเดิม แต่ลึกๆ แล้ว ทุกคนรู้ดีว่านี่อาจเป็นค่ำคืนสุดท้ายที่พวกเขาจะได้อยู่ด้วยกัน

“ซูมี่ ลูกจำไว้นะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ครอบครัวเราจะอยู่เคียงข้างลูกเสมอ” แม่พูดพร้อมน้ำตาที่เอ่อคลอ

“และอย่าลืมกลับมาหาพวกเรานะ” พ่อพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

หยางเหว่ยเดินเข้ามากอดเธอ “พี่เชื่อว่าน้องสาวพี่คนนี้จะทำได้ทุกอย่าง และไม่ว่าแกจะอยู่ที่ไหน พี่จะรอแกกลับมาเล่าเรื่องผจญภัยให้ฟัง”

ซูมี่กอดพวกเขาแน่น น้ำตาไหลอาบแก้ม “ขอบคุณนะคะ ขอบคุณที่รักหนูมากขนาดนี้ ”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ย้อนกลับมาเปลี่ยนชะตาของนางร้าย (ยุค70)   การจากลาแบบคาดไม่ถึง

    เสียงเพลงในงานแฟชั่นโชว์ยังคงดังก้อง พร้อมแสงไฟที่วูบวาบจับไปยังนางแบบคนดังที่เดินออกมาจากรันเวย์อย่างสง่างาม “หยางซูมี่” คือชื่อที่ทุกคนพูดถึงในค่ำคืนนี้ เธอคือดวงดาวที่ส่องแสงเหนือใครทั้งในสายตาของผู้ชมและเหล่านักออกแบบ แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นเป้าหมายของความอิจฉาริษยา“เธอสมบูรณ์แบบจนเหมือนภาพวาด…” ใครบางคนพึมพำเบาๆ ในฝูงชนในอีกมุมหนึ่งของงาน “อลิซาเบธ” ยืนมองด้วยสายตาเย็นชา หญิงสาวผู้เป็นทั้งคู่แข่งและศัตรูตลอดกาลของซูมี่ เธอคลี่ยิ้มบางๆ ที่ซ่อนความคิดลึกซึ้งไว้เบื้องหลังหลังจบโชว์ เจ้าของงานได้เชิญซูมี่ พร้อมนางแบบและทีมงานคนอื่นๆ เข้าร่วมงานเลี้ยงมื้อค่ำในโรงแรมสุดหรู“คืนนี้นายทุนใหญ่หลายคนอยากพบเธอเป็นการส่วนตัว เธอเป็นเหมือนตัวชูโรงของงานนี้เลยนะซูมี่” ลิซ่า ผู้จัดการส่วนตัวของเธอพูดขึ้นระหว่างที่พวกเขากำลังเดินไปยังห้องจัดเลี้ยงซูมี่พยักหน้ารับ แม้เธอจะยิ้ม แต่ลึกๆ เธอกลับรู้สึกไม่สบายใจ ราวกับมีเงาแห่งอันตรายวนเวียนอยู่รอบตัวลิซ่าอดไม่ได้ที่จะสังเกตถึงสายตาของอลิซาเบธที่จับจ้องมาทางพวกเธอ สีหน้าของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความอาฆาต“ซูมี่ ฉันว่าเธอควรระวังตัวหน่อยนะ อลิซาเบธดูไม่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-25
  • ย้อนกลับมาเปลี่ยนชะตาของนางร้าย (ยุค70)   ปุ๊บปั๊บ…รับโชค

    หลังจากเหตุการณ์ที่ลู่เฉิงช่วยชีวิตหยางซูมี่จากการตกน้ำ เรื่องนี้ก็แพร่กระจายไปราวกับโรคระบาด ในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้ ต่างพูดถึงเหตุการณ์นี้ไม่หยุดในขณะที่บ้านหยางสายรองกำลังทำงานในแปลงนาอยู่นั้น ก็ต้องหยุดชะงักลงเพราะได้ยินเสียงชาวบ้านคนหนึ่งพูดถึงเรื่องที่ลู่เฉิงอุ้มซูมี่ที่หมดสติตัวเปียกปอนกลับมาที่บ้าน "แบบนี้เรียกผิดผี ผิดธรรมเนียมแล้ว อย่างไรลูกชายสามบ้านลู่ต้องรับผิดชอบ ถึงซูมี่จะมีนิสัยร้ายกาจขนาดไหนก็ตาม ห้ามปล่อยเรื่องนี้ไปเด็ดขาด" ชาวบ้านอีกคนพูดขึ้นเมื่อมีคนพูดเรื่องนี้มา ทุกคนต่างพากันคิดตาม และพยักหน้าเห็นด้วยและเริ่มพากันพูดเสียงดัง ซู่เม่ยหันไปหาสามีสามีทันที เพื่อขอความคิดเห็น"เรื่องนี้เป็นแค่การช่วยชีวิตซูมี่ด้วยความจำเป็นและบริสุทธิ์ใจ อย่ามาผูกมัดกันด้วยเรื่องนี้เลย" หยางเหวินเทาพูดเพื่อปกป้องลูกและไม่อยากไปผูกมัดลู่เฉิงด้วยเรื่องนี้"ได้อย่างไร แม้จะเป็นการช่วยชีวิตก็เถอะ"อีกคนพูดพร้อมกับมองไปที่บ้านลู่ซึ่งทำงานอยู่ไกลออกไปแน่นอนว่าไม่มีทางได้ยินสิ่งที่ทุกคนพูดส่วนทางลู่เฉิงก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ตัวเขาคิดไว้แล้วว่าการแต่งงานมันต้องมีขึ้นอย่างแน่นอน เขาคิดไว้ว่าแต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-25
  • ย้อนกลับมาเปลี่ยนชะตาของนางร้าย (ยุค70)   แผนการร้าย

    ลู่เฉิงเดินมาหยุดหน้าบ้านของซูมี่ในเช้าวันหนึ่ง เพื่อมาบอกลาซูมี่ก่อนเดินทางกลับค่ายทหาร เขายืนอยู่ที่ลานหน้าบ้าน มองเธอด้วยแววตาอบอุ่น“ฉันคงต้องไปแล้ว” ลู่เฉิงพูด พร้อมยื่นมือมาลูบศีรษะเธอเบาๆ“เดินทางปลอดภัยนะคะ” ซูมี่ตอบพลางส่งรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความห่วงใยหยางหลินที่บังเอิญเดินผ่านมาได้ยินบทสนทนานั้นเต็มสองหู เธอกำหมัดแน่นด้วยความโกรธพลางกัดฟันกรอด“ฉันคิดว่าลู่เฉิงจะอยู่นานกว่านี้… ทำไมเขาต้องรีบกลับค่ายด้วย” หยางหลินพึมพำในใจแต่เมื่อความโกรธเริ่มคลายลง รอยยิ้มร้ายกาจกลับปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ “แต่ช่างเถอะ แผนฉันยังไม่ล่มเสียทีเดียว” เธอคิด ก่อนจะรีบเดินออกไปจากตรงนั้น หยางหลินเดินเลียบถนนในหมู่บ้าน ทิ้งสายตาดูถูกใส่บ้านเรือนที่ดูเก่าคร่ำคร่า จนกระทั่งเธอเดินลึกไปจนถึงท้ายหมู่บ้าน สถานที่ที่ผู้คนไม่อยากยุ่งเกี่ยว เพราะเป็นที่อยู่ของ “ชายพิการขี้เมา” ชื่อว่า “เหลียงฟู่”เหลียงฟู่เป็นชายพิการที่ขาเสียจากอุบัติเหตุ และใช้ชีวิตไปวันๆ ด้วยการดื่มเหล้าจนเมามาย ไม่มีใครในหมู่บ้านให้ความสนใจเขาแม้แต่น้อย หยางหลินหยุดยืนหน้ากระท่อมเก่าๆ ของเหลียงฟู่ เธอตะโกนเรียกเสียงดัง“เหลียงฟู่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-25
  • ย้อนกลับมาเปลี่ยนชะตาของนางร้าย (ยุค70)   หยางซูมี่ นางพญารันเวย์

    ค่ำคืนที่เต็มไปด้วยแสงสีและเสียงดนตรีจากแฟชั่นโชว์ระดับโลก ณ Grand Palais Paris สถานที่จัดงานอันหรูหราซึ่งเหล่าดีไซเนอร์ชั้นนำจากทั่วโลกต่างมารวมตัวกันเพื่อเปิดตัวคอลเลกชันใหม่ของพวกเขา เวทีที่ประดับด้วยแชนเดอเลียร์คริสตัลส่องประกายระยิบระยับ ราวกับเป็นดินแดนแห่งเทพนิยาย ภายในงาน บรรดาแขกผู้ทรงอิทธิพลในวงการแฟชั่น นักออกแบบระดับโลก และเซเลบริตี้ชั้นนำต่างจับจ้องไปที่รันเวย์ ในขณะที่เสียงดนตรีอันทรงพลังดังกระหึ่มขึ้น และในที่สุด…เธอก็ปรากฏตัว หยางซูมี่ ย่างก้าวออกมาอย่างสง่างาม ดวงตาคมดั่งนิลจับจ้องไปข้างหน้า เสื้อผ้าทอด้วยผ้าไหมสีทองประดับด้วยคริสตัล Swarovski นับร้อยสะท้อนแสงไฟทุกย่างก้าวของเธอ ทำให้เธอดูราวกับเจ้าหญิงในเทพนิยาย ชุดราตรีจากแบรนด์ระดับตำนาน “Maison de Lumière” ถูกออกแบบมาเพื่อเธอโดยเฉพาะ เสียงแฟลชจากกล้องถ่ายรูปดังระรัว นักข่าวและช่างภาพพากันถ่ายภาพของเธออย่างไม่หยุดหย่อน เสียงกระซิบชื่นชมดังกระหึ่มไปทั่วงาน “เธอสง่างามจริงๆ …เหมือนนางพญาที่ก้าวออกจากจอภาพยนตร์” “หยางซูมี่คือราชินีแห่งวงการแฟชั่นของยุคนี้” “ไม่มีใครเทียบเธอได้เลย” เธอยิ้มเพียงเล็กน้อย รั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-08
  • ย้อนกลับมาเปลี่ยนชะตาของนางร้าย (ยุค70)   กำไลหยกขาวแห่งชะตา

    หลังกลับจากงานปารีสแฟชั่นวีค หยางซูมี่ตัดสินใจใช้ช่วงเวลาหยุดพักจากชีวิตที่วุ่นวาย เดินทางกลับไปยังหมู่บ้านชนบทเล็กๆ ในมณฑลเสฉวน ที่ซึ่งอากงและอาม่าของเธอยังคงอาศัยอยู่ สถานที่ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นบ้านของเธอ สถานที่ที่เต็มไปด้วยความทรงจำอันอบอุ่นในวัยเด็ก เธอได้บอกพ่อแม่และชวนพี่ชายมาด้วยกัน แต่ก็ไม่มีใครว่างเลย เหตุเพราะเธอชวนกะทันหันเกินไป ไม่สามารถเคลียงานได้ทัน เธอเลยบินเดี่ยวสู่จีนแผ่นดินใหญ่ด้วยตัวคนเดียว จริงๆพี่ลิซ่าอาสามาเป็นเพื่อนด้วย แต่โดนเธอปฎิเสธไปเพราะเกรงใจ นานๆจะได้มีวันหยุดทั้งที ปล่อยให้พี่ลิซ่าเดทกับคุณสามีไปเถอะ การเดินทางสู่ชนบท เมื่อเครื่องบินแตะพื้นดินในมณฑลใกล้บ้านเกิด ซูมี่ออกเดินทางต่อด้วยรถยนต์ ท่ามกลางภูมิประเทศที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ จากเมืองใหญ่สู่ชนบทที่เงียบสงบ ถนนสายเล็กๆ ลัดเลาะไปตามภูเขาสูงที่เต็มไปด้วยต้นไม้เขียวขจี กลิ่นอายของธรรมชาติและเสียงนกร้องทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อรถแล่นเข้าสู่หมู่บ้านเล็กๆ ที่เธอเคยเรียกว่าบ้านในวัยเด็ก ความทรงจำในอดีตก็พลันหลั่งไหลเข้ามา บ้านไม้หลังเก่าที่เธอเคยวิ่งเล่นยังคงตั้งอยู่กลางลานดินกว้าง ที่น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-10

บทล่าสุด

  • ย้อนกลับมาเปลี่ยนชะตาของนางร้าย (ยุค70)   แผนการร้าย

    ลู่เฉิงเดินมาหยุดหน้าบ้านของซูมี่ในเช้าวันหนึ่ง เพื่อมาบอกลาซูมี่ก่อนเดินทางกลับค่ายทหาร เขายืนอยู่ที่ลานหน้าบ้าน มองเธอด้วยแววตาอบอุ่น“ฉันคงต้องไปแล้ว” ลู่เฉิงพูด พร้อมยื่นมือมาลูบศีรษะเธอเบาๆ“เดินทางปลอดภัยนะคะ” ซูมี่ตอบพลางส่งรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความห่วงใยหยางหลินที่บังเอิญเดินผ่านมาได้ยินบทสนทนานั้นเต็มสองหู เธอกำหมัดแน่นด้วยความโกรธพลางกัดฟันกรอด“ฉันคิดว่าลู่เฉิงจะอยู่นานกว่านี้… ทำไมเขาต้องรีบกลับค่ายด้วย” หยางหลินพึมพำในใจแต่เมื่อความโกรธเริ่มคลายลง รอยยิ้มร้ายกาจกลับปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ “แต่ช่างเถอะ แผนฉันยังไม่ล่มเสียทีเดียว” เธอคิด ก่อนจะรีบเดินออกไปจากตรงนั้น หยางหลินเดินเลียบถนนในหมู่บ้าน ทิ้งสายตาดูถูกใส่บ้านเรือนที่ดูเก่าคร่ำคร่า จนกระทั่งเธอเดินลึกไปจนถึงท้ายหมู่บ้าน สถานที่ที่ผู้คนไม่อยากยุ่งเกี่ยว เพราะเป็นที่อยู่ของ “ชายพิการขี้เมา” ชื่อว่า “เหลียงฟู่”เหลียงฟู่เป็นชายพิการที่ขาเสียจากอุบัติเหตุ และใช้ชีวิตไปวันๆ ด้วยการดื่มเหล้าจนเมามาย ไม่มีใครในหมู่บ้านให้ความสนใจเขาแม้แต่น้อย หยางหลินหยุดยืนหน้ากระท่อมเก่าๆ ของเหลียงฟู่ เธอตะโกนเรียกเสียงดัง“เหลียงฟู่

  • ย้อนกลับมาเปลี่ยนชะตาของนางร้าย (ยุค70)   ปุ๊บปั๊บ…รับโชค

    หลังจากเหตุการณ์ที่ลู่เฉิงช่วยชีวิตหยางซูมี่จากการตกน้ำ เรื่องนี้ก็แพร่กระจายไปราวกับโรคระบาด ในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้ ต่างพูดถึงเหตุการณ์นี้ไม่หยุดในขณะที่บ้านหยางสายรองกำลังทำงานในแปลงนาอยู่นั้น ก็ต้องหยุดชะงักลงเพราะได้ยินเสียงชาวบ้านคนหนึ่งพูดถึงเรื่องที่ลู่เฉิงอุ้มซูมี่ที่หมดสติตัวเปียกปอนกลับมาที่บ้าน "แบบนี้เรียกผิดผี ผิดธรรมเนียมแล้ว อย่างไรลูกชายสามบ้านลู่ต้องรับผิดชอบ ถึงซูมี่จะมีนิสัยร้ายกาจขนาดไหนก็ตาม ห้ามปล่อยเรื่องนี้ไปเด็ดขาด" ชาวบ้านอีกคนพูดขึ้นเมื่อมีคนพูดเรื่องนี้มา ทุกคนต่างพากันคิดตาม และพยักหน้าเห็นด้วยและเริ่มพากันพูดเสียงดัง ซู่เม่ยหันไปหาสามีสามีทันที เพื่อขอความคิดเห็น"เรื่องนี้เป็นแค่การช่วยชีวิตซูมี่ด้วยความจำเป็นและบริสุทธิ์ใจ อย่ามาผูกมัดกันด้วยเรื่องนี้เลย" หยางเหวินเทาพูดเพื่อปกป้องลูกและไม่อยากไปผูกมัดลู่เฉิงด้วยเรื่องนี้"ได้อย่างไร แม้จะเป็นการช่วยชีวิตก็เถอะ"อีกคนพูดพร้อมกับมองไปที่บ้านลู่ซึ่งทำงานอยู่ไกลออกไปแน่นอนว่าไม่มีทางได้ยินสิ่งที่ทุกคนพูดส่วนทางลู่เฉิงก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ตัวเขาคิดไว้แล้วว่าการแต่งงานมันต้องมีขึ้นอย่างแน่นอน เขาคิดไว้ว่าแต

  • ย้อนกลับมาเปลี่ยนชะตาของนางร้าย (ยุค70)   การจากลาแบบคาดไม่ถึง

    เสียงเพลงในงานแฟชั่นโชว์ยังคงดังก้อง พร้อมแสงไฟที่วูบวาบจับไปยังนางแบบคนดังที่เดินออกมาจากรันเวย์อย่างสง่างาม “หยางซูมี่” คือชื่อที่ทุกคนพูดถึงในค่ำคืนนี้ เธอคือดวงดาวที่ส่องแสงเหนือใครทั้งในสายตาของผู้ชมและเหล่านักออกแบบ แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นเป้าหมายของความอิจฉาริษยา“เธอสมบูรณ์แบบจนเหมือนภาพวาด…” ใครบางคนพึมพำเบาๆ ในฝูงชนในอีกมุมหนึ่งของงาน “อลิซาเบธ” ยืนมองด้วยสายตาเย็นชา หญิงสาวผู้เป็นทั้งคู่แข่งและศัตรูตลอดกาลของซูมี่ เธอคลี่ยิ้มบางๆ ที่ซ่อนความคิดลึกซึ้งไว้เบื้องหลังหลังจบโชว์ เจ้าของงานได้เชิญซูมี่ พร้อมนางแบบและทีมงานคนอื่นๆ เข้าร่วมงานเลี้ยงมื้อค่ำในโรงแรมสุดหรู“คืนนี้นายทุนใหญ่หลายคนอยากพบเธอเป็นการส่วนตัว เธอเป็นเหมือนตัวชูโรงของงานนี้เลยนะซูมี่” ลิซ่า ผู้จัดการส่วนตัวของเธอพูดขึ้นระหว่างที่พวกเขากำลังเดินไปยังห้องจัดเลี้ยงซูมี่พยักหน้ารับ แม้เธอจะยิ้ม แต่ลึกๆ เธอกลับรู้สึกไม่สบายใจ ราวกับมีเงาแห่งอันตรายวนเวียนอยู่รอบตัวลิซ่าอดไม่ได้ที่จะสังเกตถึงสายตาของอลิซาเบธที่จับจ้องมาทางพวกเธอ สีหน้าของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความอาฆาต“ซูมี่ ฉันว่าเธอควรระวังตัวหน่อยนะ อลิซาเบธดูไม่

  • ย้อนกลับมาเปลี่ยนชะตาของนางร้าย (ยุค70)   ตัดสินใจบอกครอบครัว

    หลังจากกลับจากประเทศจีน หยางซูมี่รู้สึกว่าหัวใจเธอหนักอึ้ง แม้ทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นเพียงเรื่องเหนือธรรมชาติที่ยากจะอธิบาย แต่กำไลหยกขาวที่พระรูปนั้นให้มาทำให้เธอปฏิเสธความจริงไม่ได้ซูมี่นัดพ่อแม่และหยางเหว่ย พี่ชายของเธอ ทานข้าวที่บ้านในค่ำวันหนึ่ง บรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่น อาหารจีนจานโปรดถูกจัดเรียงเต็มโต๊ะ ทั้งเป็ดย่าง เกี๊ยวน้ำ และผัดหมี่ที่อาม่าทำให้กินตั้งแต่เด็ก“ซูมี่ กลับมาจากจีน ดูเหมือนจะมีเรื่องอะไรในใจนะ” แม่ถามพลางมองหน้าลูกสาวด้วยความเป็นห่วงซูมี่เม้มปาก ก่อนสูดลมหายใจลึก “หนูมีเรื่องสำคัญจะบอกค่ะ… มันอาจฟังดูเหมือนเรื่องแต่ง แต่หนูอยากให้พ่อแม่กับพี่เชื่อหนู”“อะไรกันล่ะ” พ่อมองด้วยสายตาสงสัย แต่เปิดใจฟังซูมี่ดึงกำไลหยกขาวออกมาและวางไว้กลางโต๊ะ “ตอนหนูไปวัดในจีน พระรูปหนึ่งให้กำไลนี้กับหนู แล้วบอกว่าหนูต้อง ‘หวนคืน’ และ… หนูก็พบว่ามันไม่ใช่กำไลธรรมดา”หยางเหว่ยหัวเราะเบาๆ “กำไลมิติ? เดี๋ยวนี้ดูหนังไซไฟเยอะไปหรือเปล่า ”“พี่ ฟังหนูก่อน” ซูมี่เถียงพลางมองหน้าพี่ชายอย่างจริงจัง “ตอนหนูกำลังจะกลับไทย หนูลองใส่ของลงไปในกำไลโดยไม่ตั้งใจ แล้วมัน…หายไป หายไปจริงๆ! เหมือนกำ

  • ย้อนกลับมาเปลี่ยนชะตาของนางร้าย (ยุค70)   กำไลหยกขาวแห่งชะตา

    หลังกลับจากงานปารีสแฟชั่นวีค หยางซูมี่ตัดสินใจใช้ช่วงเวลาหยุดพักจากชีวิตที่วุ่นวาย เดินทางกลับไปยังหมู่บ้านชนบทเล็กๆ ในมณฑลเสฉวน ที่ซึ่งอากงและอาม่าของเธอยังคงอาศัยอยู่ สถานที่ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นบ้านของเธอ สถานที่ที่เต็มไปด้วยความทรงจำอันอบอุ่นในวัยเด็ก เธอได้บอกพ่อแม่และชวนพี่ชายมาด้วยกัน แต่ก็ไม่มีใครว่างเลย เหตุเพราะเธอชวนกะทันหันเกินไป ไม่สามารถเคลียงานได้ทัน เธอเลยบินเดี่ยวสู่จีนแผ่นดินใหญ่ด้วยตัวคนเดียว จริงๆพี่ลิซ่าอาสามาเป็นเพื่อนด้วย แต่โดนเธอปฎิเสธไปเพราะเกรงใจ นานๆจะได้มีวันหยุดทั้งที ปล่อยให้พี่ลิซ่าเดทกับคุณสามีไปเถอะ การเดินทางสู่ชนบท เมื่อเครื่องบินแตะพื้นดินในมณฑลใกล้บ้านเกิด ซูมี่ออกเดินทางต่อด้วยรถยนต์ ท่ามกลางภูมิประเทศที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ จากเมืองใหญ่สู่ชนบทที่เงียบสงบ ถนนสายเล็กๆ ลัดเลาะไปตามภูเขาสูงที่เต็มไปด้วยต้นไม้เขียวขจี กลิ่นอายของธรรมชาติและเสียงนกร้องทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อรถแล่นเข้าสู่หมู่บ้านเล็กๆ ที่เธอเคยเรียกว่าบ้านในวัยเด็ก ความทรงจำในอดีตก็พลันหลั่งไหลเข้ามา บ้านไม้หลังเก่าที่เธอเคยวิ่งเล่นยังคงตั้งอยู่กลางลานดินกว้าง ที่น

  • ย้อนกลับมาเปลี่ยนชะตาของนางร้าย (ยุค70)   หยางซูมี่ นางพญารันเวย์

    ค่ำคืนที่เต็มไปด้วยแสงสีและเสียงดนตรีจากแฟชั่นโชว์ระดับโลก ณ Grand Palais Paris สถานที่จัดงานอันหรูหราซึ่งเหล่าดีไซเนอร์ชั้นนำจากทั่วโลกต่างมารวมตัวกันเพื่อเปิดตัวคอลเลกชันใหม่ของพวกเขา เวทีที่ประดับด้วยแชนเดอเลียร์คริสตัลส่องประกายระยิบระยับ ราวกับเป็นดินแดนแห่งเทพนิยาย ภายในงาน บรรดาแขกผู้ทรงอิทธิพลในวงการแฟชั่น นักออกแบบระดับโลก และเซเลบริตี้ชั้นนำต่างจับจ้องไปที่รันเวย์ ในขณะที่เสียงดนตรีอันทรงพลังดังกระหึ่มขึ้น และในที่สุด…เธอก็ปรากฏตัว หยางซูมี่ ย่างก้าวออกมาอย่างสง่างาม ดวงตาคมดั่งนิลจับจ้องไปข้างหน้า เสื้อผ้าทอด้วยผ้าไหมสีทองประดับด้วยคริสตัล Swarovski นับร้อยสะท้อนแสงไฟทุกย่างก้าวของเธอ ทำให้เธอดูราวกับเจ้าหญิงในเทพนิยาย ชุดราตรีจากแบรนด์ระดับตำนาน “Maison de Lumière” ถูกออกแบบมาเพื่อเธอโดยเฉพาะ เสียงแฟลชจากกล้องถ่ายรูปดังระรัว นักข่าวและช่างภาพพากันถ่ายภาพของเธออย่างไม่หยุดหย่อน เสียงกระซิบชื่นชมดังกระหึ่มไปทั่วงาน “เธอสง่างามจริงๆ …เหมือนนางพญาที่ก้าวออกจากจอภาพยนตร์” “หยางซูมี่คือราชินีแห่งวงการแฟชั่นของยุคนี้” “ไม่มีใครเทียบเธอได้เลย” เธอยิ้มเพียงเล็กน้อย รั

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status