“เงินทั้งหมดที่เสธฐามันสร้างปัญหากูจะชดใช้ให้ทั้งหมดปล่อยทรายแก้วมาให้กู”
ทรงพลที่ใบหน้าเนื้อตัวยังเหลือร่องรอยความฟกช้ำตะโกนกลับทั้งจ้องหน้าชาติเสืออย่างไม่เกรงกลัวเขาจะทำทุกอย่างเพื่อช่วยทรายแก้วให้พ้นออกไปจากนรกที่นี่
“หึ่..กูไม่คืนของเล่นชิ้นนี้กูหวง...กลับไปแล้วอย่าเสนอหน้ามาที่นี่อีกถ้าไม่อยากเจ็บตัว”
ชาติเสือแสยะยิ้มมุมปากของเล่นของหวงของเขามีหรือจะปล่อยให้ใครได้ไปง่ายๆยิ่งเกลียดขี้หน้าคนที่กำลังเอ่ยข้อต่อรองเขายิ่งไม่ยอมง่ายๆ
“ของเล่น?..มึงเห็นทรายเป็นแค่ของเล่นอย่างงั้นเหรอ”
พลั่กก
ทรงพลกระโจนประชิดตัวชาติเสือก่อนจะยกมือสาวหมัดใส่คนปากดีที่พูดจาไม่ให้เกียรติทรายแก้วเหล่าบอดี้การ์ดที่ยืนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลรีบวิ่งกรูกันเข้ามาเพื่อที่จะปกป้องชาติเสือแต่ก็ถูกเขายกมือห้ามเอาไว้ก่อน
“ไม่ต้อง...”
ชายหนุ่มเห็นว่าทรงพลมาที่นี่คนเดียวถือว่าใจถึงพอสมควรเขาเองก็จะไม่ใช้วิธีหมาหมู่ให้เสียชื่อชาติเสือปัญหานี้เขาต้องการชำระความกับทรงพลตัวต่อตัว
พลั่กก
มือที่ยกห้ามบอดี้การ์ดวาดสาวหมัดกลับไปยังทรงพลแรงหมัดของชาติเสือทำร่างสูงบึกบึนของทรงพลล้มลงฟุบกองอยู่กับพื้นหลังจากนั้นทั้งคู่ก็ชุลมุนชกต่อยวาดหมัดกันไม่เว้นว่าง
“เสียงอะไรกัน”
เสียงโวยวายเอะอะดังจนปลุกให้หญิงสาวที่ทำอาหารเย็นอยู่ในครัวรีบวิ่งออกมาดูเหตุการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้น
“หยุดนะ..”
ทรายแก้วหมายจะวิ่งเข้าไปห้ามสองคนที่กำลังฟัดกันอย่างกับหมาและดูท่าทรงพลจะเสียเปรียบชาติเสืออยู่มากหากเธอปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินไปแบบนี้ทรงพลเจ็บหนักปางตายแน่
“อย่าครับ”
เด็ดเดี่ยวและชาตรีขวางตรึงหญิงสาวไม่ยอมให้เธอได้เข้าไปด้วยเกรงว่าเธอจะถูกลูกหลงเพราะรู้ดีว่าการบาดหมางของเจ้านายตนครั้งนี้หากไม่มีใครสลบไปก่อนคงไม่หยุดต่อสู้แน่นอน
“คุณเสือหยุดปล่อยพี่พลไปนะคะ”
ปึก ปึก
“อึก..อือ.”
สิ้นเสียงตะโกนของทรายแก้วชาติเสือก็วาดเท้าเตะคนที่นอนฟุบกับพื้นไปสองครั้งสองคราเลือดสีเข้มกระเด็นพุงพรวดออกมาจากปากทรงพลทรายแก้วสงสารชายหนุ่มที่นอนกองอยู่กับพื้นจับใจแต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้
“หยุดป่าเถื่อนกับคนอื่นซะที”
ทรายแก้วต่อว่าชาติเสือเสียงสั่นไม่รู้ว่าทรงพลเข้ามาที่นี่ด้วยสาเหตุอะไรแต่ชาติเสือก็ไม่ควรรุนแรงกับทรงพลเช่นนี้ดวงตาคมตวัดมองทรายแก้วเขม็งโกรธกับคำพูดหญิงสาวเรื่องมันจะไม่เกิดหากทรงพลไม่เสนอหน้ามาที่นี่คิดว่าเธอน่าจะรู้แต่กลับต่อว่าแต่เขาหน้าตาเฉย
“จัดการทางนี้ให้เรียบร้อย”
“ครับคุณเสือ”
ชาติเสือยกมือปาดเลือดที่ไหลซิกอยู่มุมปากสั่งให้นักรบจัดการส่งทรงพลกลับบ้านก่อนจะยื่นมือดึงทรายแก้วไปเข้าไปคุยกันในบ้าน
“ทำไมต้องทำพี่พลขนาดนั้นด้วย”
ร่างบางกึ่งวิ่งกึ่งเดินด้วยถูกคนเอาแต่ใจลากให้ตามเข้ามาด้านในด้วยความไม่เต็มใจ
“มันแส่หาเรื่องมาที่นี่เอง..จะว่าฉันผิดคนเดียวก็ไม่ได้”
ชาติเสือยกมือทั้งสองบีบหัวไหล่มนก้มหน้าประจันหน้ากับหญิงสาวให้เธอได้เห็นว่าเขาก็เจ็บเช่นกันและไม่ใช่คนที่เป็นต้นเหตุของเรื่องรุนแรงนี้
“ใครมาที่นี่คุณก็ต้องชกต่อยเค้าเป็นเรื่องปกติอย่างนั้นเหรอ...นิสัยของคุณมันป่าเถื่อนขนาดไหนกัน”
“ฉันจะไม่ป่าเถื่อนเลยถ้ามันไม่มาขอเธอจากฉัน..เธอคือของๆฉันไม่มีวันที่ใครจะได้ไปทั้งนั้นถ้าฉันยังไม่เบื่อ..แล้วฉันสั่งให้เธอเรียกฉันว่าอะไร”
ทรายแก้วนิ่งเงียบเธอยังคงมีสีหน้าบึ้งตึงคิ้วผูกโบน้ำตาคลอเกลียดนิสัยเสียของชาติเสือจนไม่อยากจะสนทนาอะไรกับเขาต่อ
“เรียกว่าอะไร..พูด”
มือหนายกบีบแก้มนวลเค้นให้หญิงสาวได้พูดสิ่งที่ตัวเองต้องการหากเธอจะเรียกเขาว่าพี่เหมือนที่เรียกทรงพลไม่ได้ก็ให้มันรู้ไป
“พ..พี่เสือ..”
เสียงหวานเอ่ยตะกุกตะกักต้องยอมพูดตามคำสั่งเพราะถูกบังคับบีบเค้นจนเจ็บ
“ก็แค่นั้น..”
ชายหนุ่มได้ฟังสิ่งที่ต้องการได้จึงปล่อยแก้มนวลให้เป็นอิสระแต่โดยดีก่อนจะเดินหนีเข้าห้องทำงานไปด้วยความพึงพอใจพอสมควรจากนี้ไปผู้ชายคนเดียวที่หญิงสาวจะต้องให้ความสำคัญที่สุดคือเขาไม่ใช่คนอื่น
“เฮ้อ..”
ทรายแก้วยืนหลับตานับเลขในใจครู่หนึ่งก่อนจะถอนหายใจออกมาไม่รู้เลยว่านิสัยเสียๆของชายหนุ่มจะมีอะไรอีกบ้างคำถามในหัวตอนนี้มีแค่ว่าต้องทนกับชาติเสือไปอีกนานเท่าไรกันยังวนเวียนในหัวเรื่อยมา
ตกดึกของคืนนี้ร่างบางในชุดนอนสีขาวขยับหันหลังให้กับคนตัวโตที่พึ่งจะทิ้งตัวลงนอนบนเตียงเดียวกันเพราะไม่อยากจะหันมองหน้าดุๆของเขาแม้เพียงนิดเดียว
“เขยิบมานอนบนแขน..ถ้าไม่อยากเจ็บตัว”
ชายหนุ่มวาดแขนซ้ายกางออกพร้อมทั้งส่งเสียงทุ้มอ่อนให้หญิงสาวที่นอนอยู่ใกล้ๆได้รู้ตัวว่าตัวเองควรจะนอนตรงไหนทรายแก้วได้ยินทุกคำที่เขาพูดแต่ยังคงนอนแน่นิ่งแม้นตากลมจะเบิกว้างกลัวว่าเขาจะกระทำเช่นที่พูดก็เถอะ
“อย่าให้พูดซ้ำสอง”
หญิงสาวจำต้องพลิกตัวกลับมานอนหนุนแขนแกร่งด้วยสีหน้าบึ้งตึงขุ่นเคืองชายหนุ่มแต่คิดว่ายอมอึดอัดเพียงนอนบนแขนของเขาก็ยังดีกว่าให้เขามานอนทับเธอ
ร่างบางยอมจำนนซุกอยู่กับอ้อมอกได้ไฟสลัวของโคมไฟก็ดับลงแขนแกร่งทั้งสองกอดกระชับร่างบางนุ่มนิ่มแน่นก่อนจะก้มลงจูบกระหม่อมสูดดมกลิ่นหอมอ่อนจากเรือนผมและหลับตาพริ้มพักผ่อนสบายอารมณ์
ร่างนุ่มนิ่มในอ้อมกอดบางครั้งจะดูพยศบ้างในบางเวลาแต่ก็ยังเป็นของที่ชาติเสือยังหวงแหนหากจะถูกใครมาแย่งคงยังไม่ยอมโดยง่ายและไม่รู้เลยว่าจะปล่อยเธอไปได้เมื่อไร
ในวันต่อมารถsuvคันหรูของชาติเสือแล่นออกจากห้างสรรพสินค้าในช่วงเที่ยงหลังจากที่พาทรายแก้วเลือกซื้อของสดและของใช้ในบ้านเสร็จ
“จะพาทรายไปไหนคะ?”
ร่างบางในชุดเดรสแขนยาวสีขาวหันมาถามคนที่กำลังขับรถเลยปากทางเข้าบ้านด้วยท่าทีแปลกใจ
“ถึงแล้วเดี๋ยวก็รู้เอง”
ชาติเสือไม่ได้ให้ความกระจ่างกับหญิงสาวแต่อย่างใดทรายแก้วจึงหันกลับมามองทางด้านหน้าด้วยอารมณ์ที่แอบไม่พอใจชายหนุ่มแค่เขาบอกกับเธอว่าจะไปไหนยากเย็นสำหรับเขาขนาดไหนกันถึงพูดไม่ได้
รถหรูแล่นเลยปากทางเข้าบ้านไม่นานนักก็ขับเข้ามาจอดที่ใต้ต้นไม้ใหญ่หน้าโรงเรียนแห่งหนึ่งเป็นโรงเรียนเล็กๆไม่ใหญ่มากตอนนี้เป็นช่วงเที่ยงเด็กๆเลยออกมาวิ่งเล่นกันประปรายถือว่าเด็กที่นี่ไม่ได้เยอะมากนัก“เธอรออยู่ที่นี่เดี๋ยวฉันรีบกลับมา”“ค่ะ”ชาติเสือปลดเข็มขัดนิรภัยหันมาสั่งหญิงสาวให้รออยู่ที่นี่ก่อนจะลงจากรถรีบเดินดุ่มฝ่าแสงแดดจ้าเข้าไปในอาคารเรียน“มาทำอะไรของเค้า”ดวงตากลมโตไล่มองตามหลังชาติเสือด้วยแววตาฉงนในใจไม่ยักรู้ว่าคนอย่างเขาจะมีธุระกับผู้คนหรือสถานที่แห่งนี้ด้วยหากเป็นผับบาร์เธอจะไม่สงสัยอะไรเลยครั้นคิดจะถามให้ได้ความกระจ่างจากชายหนุ่มคงไม่ได้คำตอบแถมอาจจะมีโอกาสถูกดุอีกด้วยความแครงใจนี้เห็นทีจะต้องถามคนในบ้านเห็นจะได้ความกว่าชาติเสือใช้เวลาทำธุระกับผู้อำนวยการที่โรงเรียนไม่นานนักก็เตรียมตัวกลับตลอดระยะเวลาที่ขับรถเขารับรู้ได้ว่าหญิงสาวมีเรื่องจะคุยแต่ไม่ยักจะเห็นว่าเธอจะเอ่ยออกมาเสียทีเอาแต่ลอบมองมายังเขาเป็นระยะเท่านั้น“มีอะไรหรือเปล่า”“หึ.. ไม่นี่คะ”คนตัวเล็กรีบส่ายหัวหงึกหงักหันมองไปยังริมทางรีบปฏิเสธเมื่อเห็นชายหนุ่มรู้ทันว่ากำลังมีอะไรอยู่ในใจ“แอบมองฉันอยู่นั่น..นึก
“มันจะไม่รุนแรง..เชื่อฉัน” ฟอดดชายหนุ่มก้มลงหอมแก้มนวลฟอดใหญ่จะให้เขาทนต่อไปคงไม่ไหวยิ่งรู้ว่าต้องห่างร่างนุ่มนิ่มนี้หลายวันเขายิ่งยอมปล่อยเธอไปไม่ได้สองมือหนาสอดประสานมือเรียวเริ่มไล่ริมฝีปากหนาบดจูบตั้งแต่พวงแก้มนวลนิ่มจนถึงริมฝีปากบางอวบอิ่มบดจูบด้วยความนุ่มนวลทรายแก้วได้แต่นอนนิ่งภาวนาให้เขาไม่รุนแรงตามที่พูดเพราะกลัวว่าร่างกายจะรับไม่ไหวไม่อยากที่จะให้หมอมาดูอาการเธอซ้ำๆเพราะรู้สึกอายเหมือนกันที่เจ็บป่วยเพราะเรื่องบนเตียง“อืม..”ร่างบางเริ่มเกร็งเล็กน้อยเมื่อคนตัวโตเริ่มส่งลิ้นร้ายสอดใส่เข้ามาในโพรงปากนุ่มทั้งมือทั้งสองยังล้วงเข้าด้านในชุดนอนตัวบางบีบเค้นขยำเต้างามทั้งสองไม่วางมือร่างกายของชายหนุ่มเริ่มร้อนระอุไปด้วยไฟสวาทเขากระชากเชือกผูกเอวถอดชุดคลุมโยนทิ้งข้างเตียงเผยแผงกล้ามเปลือยเปล่าต่อหน้าคนตัวเล็กใต้ร่างทรายแก้วรีบหันหน้าหนีถึงอย่างไรเธอก็ไม่ชินกับการมองร่างกายปราศจากเสื้อผ้าของชาติเสืออยู่ดีร่างบางของเธอถูกดึงให้ลุกขึ้นนั่งก่อนจะถูกถอดชุดนอนรวดเดียวโดยฝีมือคนตัวโตหัวทุยของทรายแก้วตอนนี้ถูกกอบกุมไปด้วยสองมือใหญ่ของชายหนุ่มเขาก้มลงจูบริมฝีปากบางอีกรอบโน้มตัวเธอนอนลง
หลังจากกลับขึ้นไปที่ห้องอาบน้ำแต่งตัวเตรียมจะออกไปข้างนอกเรียบร้อยแล้วทรายแก้วจึงเดินเข้ามาหาเด็ดเดี่ยวเพื่อแจ้งให้เขาทราบว่าเธอนั้นจะออกไปข้างนอกภาวนาในใจว่าขอให้เขาอนุญาตเธอโดยดีไม่อย่างนั้นคงต้องหนักใจอีกแน่“คุณเดี่ยวคะ”ดวงตาคมของเด็ดเดี่ยวมองทรายแก้วด้วยความสงสัยเพราะเห็นเธอแต่งตัวทั้งยังมีกระเป๋าสะพายข้างไม่รู้ว่าเธอจะออกไปไหนกันขออนุญาตเจ้านายของเขาหรือยังเรื่องนี้เขาก็ยังไม่ทราบ“ครับ”“พอดีว่าเพื่อนทรายนัดให้ไปหาน่ะค่ะ...ขอออกไปแปปเดียวได้หรือเปล่าคะ”“อืม...ถ้าเรื่องออกไปจากที่นี่..คุณทรายขออนุญาตคุณเสือแล้วหรือยังครับ”“ไปแปปเดียวเองต้องโทรขอด้วยเหรอคะ...อีกอย่างทรายก็ไม่ร็จะติดต่อคุณเสือยังไง”“ไม่อย่างนั้นพวกผมอาจจะถูกคาดโทษได้”เด็ดเดี่ยวตอบตามตรงเขาไม่ได้อยากจะห้ามหญิงสาวแต่เพราะโทษที่เขาละเลยหน้าที่มันน่ากลัวจึงอนุญาตให้ทรายแก้วออกไปข้างนอกไม่ได้หากเธอยังไม่ได้แจ้งให้เจ้านายของเขาทราบ“ฉันเข้าใจค่ะ”ใบหน้าหวานห่อเหี่ยวขึ้นมาจนชายหนุ่มตรงหน้าจับสังเกตได้แต่เขาก็ช่วยอะไรเธอไม่ได้อยู่ดีนอกจากรีบต่อสายหาชาติเสือให้ได้คุยกับหญิงสาวเอาเอง“นายครับคุณทรายมีเรื่องจะคุยด้วยครั
“ครับคุณเสือ...เธอกำลังทำอาหารกับเพื่อนอยู่ครับ.. ครับ.. ผมจะคอยดูไม่ห่างครับ”เด็ดเดี่ยวยกหูรายงานชาติเสือเป็นระยะเพราะถูกสั่งเอาไว้“เดี่ยว..ท่าทางนายจะหวงคุณทรายมากกว่าผู้หญิงคนอื่นนายว่าหรือเปล่า”ชาตรีเห็นเด็ดเดี่ยววางสายได้ก็รีบพูดคุยเรื่องที่ตนเองคิด“อาจจะยังไม่ไว้ใจหรือเปล่า”“นายคิดงั้น?”“อืม..”แม้นในใจเด็ดเดี่ยวจะแอบคิดเช่นชาตรีแต่เขาก็มีอีกใจที่คิดว่าอาจจะเป็นไปได้ที่นายตนน่าจะยังไม่ไว้ใจหญิงสาวเพราะพึ่งอยู่ด้วยกันได้ไม่นานหลังจากน้ำรินกลับไปตั้งแต่ช่วงเย็นทรายแก้วก็นั่งเหงาเช่นเดิมจนตกดึกร่างบางในชุดนอนผ้าลินินสายเดี่ยวสีขาวยาวคลุมเข่าเดินออกมานอกระเบียงห้องนอนดูดาวยามค่ำคืนที่ฟ้าเปิดดวงตากลมโตมองทอดยาวไปไกลสองแขนเล็กกอดอกแน่นครุ่นคิดถึงวันข้างหน้าว่าชีวิตของเธอจะเป็นเช่นไรคำถามนี้วนเวียนอยู่ในหัวทุกครั้งเมื่อต้องอยู่เงียบๆคนเดียวแต่ก็ยังหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้สักครั้ง“เฮ้อ..!”ริมฝีปากบางเผยอพ่นลมหายใจเบาๆก่อนจะเดินกลับเข้ามาในห้องนอนแกร๊กมือน้อยยกยื่นปิดสวิตซ์ไฟให้ในห้องเหลือเพียงแค่แสงสลัวจากโคมไฟหัวเตียงเท่านั้นก่อนจะหย่อนก้นลงเตียงเอนตัวลงนอนฟุบกับหมอนนุ่มร่าง
“ค่ะ”ทรายแก้วละมือจากช้อนส้อมในจานปลานึ่งเธอเริ่มตักข้าวใส่จานตัวเองตามที่สุรีพรสั่งแอบอมยิ้มเมื่อเห็นอีกมุมของสุรีพรและชาติเสือที่มีเหมือนกันเรื่องที่ไม่ชอบให้ใครมาอดอาหารในเวลาที่ต้องทานสุรีพรเลือกที่จะตักน้ำซุปถ้วยไก่ตุ๋นทานก่อนเพราะรู้สึกว่ากลิ่นช่างหอมยั่วยวนเตะจมูกเสียเหลือเกิน“อืม..”เธอพยักหน้าเล็กน้อยเมื่อน้ำซุปรสกลมกล่อมสัมผัสลิ้นนับว่าฝีมือของลูกสะใภ้เธอดีไม่ใช่น้อยสุรีพรชื่นชมฝีมือหญิงสาวอยู่ในใจไม่ปริปากพูดอะไรออกมาแต่การที่หญิงวัยกลางคนยื่นมือตักอาหารทานไม่พูดไม่จาก็ทำให้ทรายแก้วรู้แล้วว่าแม่สามีนั้นถูกใจฝีมือเธอแค่ไหน“ของหวานค่ะคุณแม่”หลังจากทานขอคาวจนเรียบร้อยแล้วตอนนี้ก็ถึงเวลาของของหวานวันนี้ทรายแก้วเลือกที่จะเสริฟมะยงชิดลอยแก้วให้กับสุรีพรเพราะเธอแช่มะยงชิดกับน้ำเชื่อมไว้ตั้งแต่เมื่อเย็นวานหากสุรีพรได้ทานคงสดชื่นไม่น้อยคนเป็นแม่สามีอย่างสุรีพรนั่งทานของที่ลูกสะใภ้เสริฟเงียบๆเพราะเธอถูกใจฝีมือของทรายแก้วทั้งของคาวและของหวานเลยไม่มีข้อที่จะหาเรื่องตำหนิได้เลยแม้แต่ข้อเดียวช่วงหัวค่ำก่อนที่ทรายแก้วจะเตรียมตัวเข้าห้องนอนเธอก็ไม่ลืมที่จะเดินเลยไปถามไถ่แม่สามีเผื่อ
“คุณแม่จะทำอะไรคะเดี๋ยวทรายทำให้ค่ะ”“ไม่ต้องฉันทำเองได้”สุรีพรไม่ยอมปล่อยมือง่ายๆเพราะแค่ยกหม้อลงจากเตาแค่นี้ไม่ใช่เรื่องที่เธอทำไม่ได้“ให้ทรายทำนะคะมันร้อนค่ะ”ฟึ่บ..” อ๊ายย.. “เมื่อยื้อแย่งกันไปมาน้ำต้มร้อนๆในหม้อก็กระฉอกลวกมือทรายแก้วจนเธอร้องลั่นสุรีพรจึงจำต้องวางหม้อลงบนเตาแล้วรีบดึงมือทรายแก้วมาล้างน้ำ“ก็บอกแล้วไงว่าไม่ต้องมายุ่งยัยเด็กบ้าเอ้ย”หญิงวัยกลางคนบ่นอุกเมื่อเห็นว่ามือของทรายแก้วเห่อแดงจนเห็นได้ชัดเธอรีบใช้ทิชชู่ซับมือน้อยที่เปียกก่อนจะจูงหญิงสาวออกมาทายาด้านนอกทรายแก้วเห็นอาการเป็นห่วงของแม่สามีก็มีสีหน้าแปลกใจไม่น้อยก่อนจะอมยิ้มออกมาด้วยพฤติกรรมของสุรีพรที่ทีท่าทีห่วงใยเธอตอนนี้เหมือนกับแม่ของเธอไม่มีผิด“ไม่แสบร้อนหรือไงยิ้มอยู่ได้”“คุณแม่ดุทรายเหมือนที่แม่ทรายชอบพูดเปี๊ยบเลยค่ะ”“ใครจะไม่ดุอยู่ดีๆก็มาหาเรื่องเจ็บตัว...เดี๋ยวตาเสือก็ว่าฉันทำร้ายเมียตัวเองอีก”“ไม่หรอกค่ะคุณแม่...ทรายผิดเองที่ไม่ระวัง”ทรายแก้วยังไม่ยอมหุบยิ้มง่ายๆขณะที่แม่สามีกำลังทายาให้เธอรู้สึกอบอุ่นหัวใจจนลืมความเจ็บไปเลยก็ว่าได้ในเช้าของวันต่อมาเป็นอีกวันที่แม้ทรายแก้วจะยังไม่หายเจ็บมือ
สุรีพรเดินขึ้นมาหาทรายแก้วที่ห้องนอนในช่วงบ่ายเพราะเห็นว่าตั้งแต่ทรายแก้วกลับมาก็ไม่ลงมาด้านล่างอีกเลย“นอนยังไงไม่ล็อคประตูแม่คนนี้”สุรีพรบิดลูกบิดประตูห้องนอนของทรายแก้วเห็นว่าไม่ได้ล็อคจึงถือวิสาสะเดินเข้าไปด้านในทั้งส่ายหัวบ่นอุกเมื่อเห็นว่าเธอไม่รอบคอบเอาเสียเลย“ทรายแก้ว...ทรายแก้ว... ฉันว่าแล้วเชียว”สุรีพรเดินเข้ามาเรียกลูกสะใถ้ที่นอนฟุบอยู่กับเตียงไม่ยอมขยับก่อนจะยื่นมือไปแตะหน้าผากพบว่าตัวหญิงสาวร้อนจี๋เป็นเช่นที่เธอคิดไม่มีผิดว่าทรายแก้วตากฝนปล่อยให้ตัวเปียกนานขนาดนั้นจะต้องไข้ขึ้นเห็นท่าไม่ดีสุรีพรจึงหาน้ำหาผ้ามาเช็ดตัวให้ทรายแก้วก่อนจะโทรเรียกหมอมาดูอการของลูกสะใภ้ด้วยเห็นว่าไข้ขึ้นสูงหากรอให้ทรายแก้วตื่นมาทานยาเองอาจจะชักได้“แม่จ๋า...หนูอยากกลับบ้าน”“กลับบ้าน?”สุรีพรชะงักเล็กน้อยขณะเช็ดหน้าเช็ดตาทรายแก้วไม่เข้าใจในคำที่หญิงสาวเพ้อเท่าไรในเมื่อเห็นว่าเธออยู่ที่นี่ก็ดูจะมีความสุขดีแล้วทำไมถึงอยากกลับบ้านก๊อกๆๆ“หมอมาแล้วครับคุณท่าน”“อ่อ..ให้เข้ามาเลย”สุรีพรไม่ทันที่จะหาความกระจ่างในความสงสัยได้เธอก็ต้องละทิ้งความสงสัยและลุกให้หมอเข้ามาดูอาการทรายแก้วก่อนหลังจากที
“เอาไว้ที่เรือนอื่นก็ไม่ได้เหรอคะ”“ไม่ได้...หน้าที่ของเธอคือสนใจเพียงฉันไม่ใช่ไปสนใจหมา”“แต่ทรายอยากดูแลมันนี่คะมันน่าสงสารจะตาย”“ฉันไม่ให้เลี้ยง..ฉันไม่ชอบหมา”“ใจร้ายแม้กระทั่งกับหมา”ทรายแก้วผุดลุกหันหลังบุ้ยปากบ่นอู้อี้ไม่ค่อยพอใจเท่าไรที่ชายหนุ่มนั้นทำท่าทีไม่สนใจเรื่องที่เธอร้องขออีกทั้งยังหันหน้ามาคุยกับเธอดีๆอีกด้วย“ทรายแก้ว”ใบหน้าคมส่ายไปมาจ้องมองร่างบางที่เดินไม่พอใจออกนอกห้องไปจะให้เขาตามใจเธอเรื่องนี้เห็นจะเป็นไปได้ยากเพราะมีปมในใจเรื่องของลูกหมาด้วยเด็กๆอยากจะเล่นหมาบ้านของยายตนแต่กลับถูกไล่กัดหลังจากนั้นจึงไม่ชอบลูกหมาอีกเลยจนถึงตอนนี้เจอที่ไหนเป็นต้องเดินเลี่ยงทุกทีโต๊ะอาหารเย็นวันนี้ปกคลุมไปด้วยความเงียบเพราะทรายแก้วยังคงครุ่นคิดหาวิธีจะทำอย่างไรให้ขาติเสือยอมให้เธอเลี้ยงลูกสุนัขส่วนชาติเสือเองก็ยังไม่อยากหาเรื่องคุยกับหญิงสาวเพราะกลัวว่าเธอจะทำหน้าออดอ้อนขอเลี้ยงเจ้าลูกหมาที่เขาไม่ชอบขึ้นมาอีกช่วงเวลาของอาหารคาวดำเนินไปพักใหญ่เมื่อเรียบร้อยแล้วทรายแก้วจึงรีบเดินเข้าไปหยิบกล่องฟักทองเชื่อมในตู้เย็นออกมาให้ชาติเสือเธอ“ของหวานค่ะ”“อืม..”ชาติเสือเห็นกล่องฟักทองเ