"ผมคิดว่าพวกมันน่าจะใช้ที่นี่เป็นที่เก็บอะไรสักอย่างแต่ผมว่าไม่ใช่ไม้แน่นอนครับเพราะของพวกนี้พวกมันจะเอาไว้กับตัวนานไม่ได้"
"นายคิดว่าเป็นอะไรครับ"
ลุงครามขมวดคิ้วเป็นปม
"ถ้ากิจการไม่กี่อย่างของพวกมันทำให้รวยและมีอิทธิพลจนใครก็เกรงกลัวไม่ค้าสิ่งเสพติดก็ค้าอาวุธเถื่อนล่ะครับ"
"ผมชักไม่อยากจะให้นายยุ่งกับพวกมันเสียแล้วสิครับ"
เมื่อได้ยินคนเป็นนายพูดแบบนั้นลุงครามเองก็ยิ่งคิดไม่ตกว่าอยากจะให้นายตัวเองยุ่งกับคนพวกนี้อีกดีหรือไม่
"ผมรู้ว่าพวกมันรู้ว่าผมเลือกที่จะเป็นศรัตรูกับมันแล้วสักวันมันต้องหาทางเอาคืนผมอยู่ดีติดแค่ว่าวันไหนเท่านั้นเองดังนั้นเราต้องเตรียมแผนรับมือเอาไว้ก่อนและหากเป็นไปได้คนที่เป็นอันตรายต่อคนอื่นมากขนาดนี้ถอนรากถอนโคนพวกมันได้ก็ยิ่งดีครับ"
หิรัญพูดด้วยสีหน้าที่แน่วแน่และใครก็ขัดเขาไม่ได้ด้วย
เรือนศังกร
17.00 น.
"นั่นขาคุณพราวเป็นอะไรคะ"
มาลีเดินมาเห็นอุ่นเรือนกำลังนั่งพันผ้าที่ข้อเท้าของพราวพิไลอยู่ความอยากรู้ของเธอจึงบังเกิด
"คุณพราวข้อเท้าเคล็ดนิดหน่อยไม่เป็นอะไรมากหรอก"
อุ่นเรือนตอบแทนพราวพิไลเธอแอบไม่ชอบใจนิสัยช่างสอดกับคำพูดคำจาที่ไม่มีมารยาทของมาลีอยู่บ่อยครั้งแต่เห็นว่าเป็นลูกสาวบัวตองเธอเลยไม่อยากว่าอะไรเท่าไรรู้ว่าบัวตองคงจะไปสั่งสอนลูกสาวเอาเอง
"เกิดอุบัติเหตุตอนไหนเหรอคะลีไม่เห็นรู้เรื่องเลย"
"พอดีฉันแค่ลื่นล้มในห้องน้ำไม่มีอะไรหรอก"
พราวพิไลตอบคำถามให้แม่ครัวช่างสอดได้หายคาใจจะได้ไม่ต้องสงสัยอะไรอีก
"เดี๋ยวนมไปดูกับข้าวในครัวก่อนนะคะ"
อุ่นเรือนพันผ้าให้พราวพิไลเสร็จเธอก็เดินออกไปดูในครัวเชคความเรียบร้อยก่อนจะได้เวลาอาหารเย็น
"ค่ะนม"
พราวพิไลเห็นว่าอุ่นเรือนก็เดินเข้าครัวไปแล้ว แต่ดูท่าคนที่สงสัยเธอไม่หายจะเป็นมาลีเสียมากกว่าที่ยืนจ้องหน้าเธอไม่เว้นว่างจนทำให้เธอต้องเอ่ยคำถามที่เหมือนจะหาเรื่องออกไป
"เธอมองฉันนานละนะมีปัญหาอะไรหรือเปล่า"
"เปล่านี่คะลีแค่กำลังคิดว่าคุณพราวอาจจะกำลังหาเรื่องสำออยใส่ผัวอยู่ก็ได้"
มาลีพูดอย่างลอยหน้าลอยตา
"หึ่...ฉันจะสำออยใส่พี่รัญอย่างไงก็ได้เพราะเค้าคือผัวฉันแต่ถ้าคนอื่นมาสำออยใส่ผัวฉันสิแปลกจริงไหม"
พราวพิไลแสยะยิ้มตอกกลับจนอีกฝ่ายแน่นิ่งไปบางทีเธอก็รู้สึกรำคาญจนอยากจะไล่มาลีออกไปเหมือนกันติดที่เธอไม่ใช่เจ้าของไร่นี่แหละ
"....."
มาลีกัดฟันกรอดที่ถูกอีกฝ่ายตอกมาเสียหน้าหงายเธอเลยเดินกระฟัดกระเฟียดออกไปตามนิสัยของเธอ
"เห้อ...ฉันจะอยู่ที่นี่อย่างสงบไม่ได้รึไง...เอ..เมื่อกี้นี่เรากล้าพูดคำว่าผัวเต็มปากเต็มคำได้ยังไงเนี่ย"
เมื่อมาลีออกไปแล้วพราวพิไลถึงขั้นถอนหายใจทั้งยังทบทวนคำพูดตัวเองเมื่อครู่ก็เกิดอาการอายคำพูดตัวเองขึ้นมาเล็กน้อย
20.00 น.
"กลับมาแล้วเหรอคะ"
พราวพิไลนั่งเล่นอยู่ที่โซฟาหน้าทีวีเมื่อเห็นหิรัญกลับมาเธอก็แทบจะวิ่งไปต้อนรับแต่ดีที่ห้ามตัวเองไว้ได้ก่อนว่าเธอต้องเล่นบทเป็นคนข้อเท้าแพลงเพราะล้มในห้องน้ำแผนนี้ทำมาเพื่อหิรัญนั้นจะได้ไม่กล้ามายุ่มย่ามกับตัวเธอในเวลากลางคืนอรกเพราะเธอจะใช้ยาสลบในสถานการณ์นั้นบ่อยๆมันก็ไม่ไหวเหมือนกัน
"ขาเป็นอะไรพราว"
หิรัญเห็นผ้าพันที่ข้อเท้าหญิงสาวเขาก็รีบเข้ามาดูทันทีด้วยความเป็นห่วง
"ข้อเท้าพลิกน่ะค่ะพอดีลื่นล้มในห้องน้ำ"
"แล้วเป็นยังไงบ้างเจ็บตรงไหนอีก"
หิรัญดูจะเป็นห่วงหญิงสาวมากเป็นพิเศษจนเธอเองก็ตกใจและรู้สึกผิดนิดๆที่ทำให้เขาห่วงเธอขนาดนี้
"เอ่อ..ก็มีปวดเนื้อปวดตัวอยู่เยอะเหมือนกันค่ะ"
"ทีหลังระวังตัวหน่อยเข้าใจไหม"
"ข..เข้าใจค่ะขอบคุณที่เป็นห่วงนะคะ"
"พี่ไปอาบน้ำก่อนเดี๋ยวจะมาพาเข้าห้องอย่าลุกเดินเองล่ะ"
หิรัญรีบลุกขึ้นเดินเข้าห้องเพื่อที่จะไปชำระล้างร่างกายและมาดูแลเธอ
"โอเคค่ะ"
21.00 น.
พราวพิไลรู้สึกง่วงเป็นพิเศษเธอจึงเผลอหลับที่โซฟาหิรัญแต่งตัวเสร็จเดินออกมาก็เห็นว่าหญิงสาวนั้นหลับไปแล้วทั้งเรียกชื่อก็ยังไม่ตื่นอีกต่างหาก
"หลับแล้วเหรอ..พราว..พราว"
เมื่อปลุกไม่ตื่นชายหนุ่มก็ต้องอุ้มพราวพิไลไปที่ห้องนอนด้วยความอยากรู้ว่สหญิงสาวบาดเจ็บมากขนาดไหนเขาจึงแกะผ้าพันข้อเท้าหญิงสาวดูปรากฎว่ามันไม่มีรอยแดงแม้แต่น้อยทั้งยังลองขยับข้อเท้าเธอนิดหน่อยรู้สึกว่ามันไม่เป็นอะไรแถมเจ้าตัวยังไม่ตื่นและเขาก็รู้ว่านี่คงเป็นแผนที่เธอเล่นอะไรแผลงๆอีกแน่จึงอมยิ้มและส่ายหัวให้กับความแสบของเธอ
เช้าวันต่อมา
"อืม..เอ่อ..พี่รัญ"
พราวพิไลลืมตาตื่นขึ้นมาก็ต้องเอี้ยวตัวหลบหอรัญเพราะเขากำลังนอนจ้องหน้าเธออยู่อย่างไม่ละสายตา
"ว่าไงตื่นแล้วเหรอ"
"มานอนจ้องหน้าพราวทำไมคะ"
"พี่ก็รอพราวตื่นจะได้พาพราวไปอาบน้ำแปรงฟันไงพราวขาเจ็บพี่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด"
"ม..ไม่ต้องดูแลพราวหรอกค่ะพราวดูแลตัวเองได้"
พราวพิไลถึงกับหน้าเจื่อนจนอีกฝ่ายจับสังเกตได้
"ไม่ได้ขืนคุณแม่รู้พี่โดนดุแน่ว่าภรรยาเจ็บอยู่แต่ไม่ดูแล"
หิรัญรวบร่างบางอุ้มขึ้นด้วยท่าเจ้าสาวตรงไปที่ห้องน้ำ
"คือ..พราวดูแลตัวเองได้จริงๆค่ะพี่รัญมีอะไรทำก็ไปทำเถอะนะคะ"
พราวพิไลเหงื่อซิกขึ้นมาที่หน้าผากอย่างรวดเร็วทั้งในหัวยังมีแต่คำว่าทำยังไงดีๆวนอยู่แบบนั้นตั้งหลายรอบ
"ไม่ได้.."
หิรัญยังคงแกล้งหญิงสาวต่อไปเขาก็อยากรู้เหมือนกันว่าเธอจะงัดแผนไหนมาอีก
"เอ่อ..พี่รัญคะ..พี่รัญพราวค่อยยังชั่วแล้วล่ะค่ะดูแลตัวเองได้จริงๆพี่รัญออกไปนะคะ"
เมื่อหิรัญวางเธอลงที่เก้าอี้พร้อมทั้งจะถอดเสื้อผ้าเธอพราวพิไลจำต้องลุกขึ้นมาทำท่าเดินคล่องแล้วให้อีกฝ่ายดูว่าเธอช่วยเหลือตัวเองได้จริงๆ
"งั้นเหรอ..โอเคงั้นพี่ไม่กวนเราแล้วก็ได้"
"ดีค่ะ..ออกไปเถอะค่ะ"
หิรัญอุ้มพราวพิไลมานั่งที่เก้าอี้ในห้องน้ำที่เขาเตรียมเอาไว้ทั้งยังทำท่าจะถอดเสื้อผ้าให้เธอทำเอาสาวเจ้าต้องรีบไล่อีกฝ่ายออกไปจากห้องน้ำอย่างรวดเร็วและลุกขึ้นให้เขาดูว่าขาเธอไม่ได้เป็นอะไรแล้ว
"หึ่มม.."
หิรัญอมยิ้มสบถขำหลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำทั้งส่ายหัวเล็กน้อยคิดว่าหญิงสาวจะไม่ยอมแกล้งเจ็บง่ายๆเสียอีกมีเธออยู่ด้วยก็พาเขาอารมณ์ดีมากขึ้นทุกวันเลยจริงๆ
14.00 น."มาหาใครคะ"ตกบ่ายในขณะที่มาลีกำลังเดินถือวัตถุดิบจากโรงครัวของคนงานเข้ามาในครัวของเรือนเธอก็เห็นสาวสวยลงมาจากรถหรูด้วยท่าทีรีบร้อนหมายจะเดินเข้าไปในเรือนเธอจึงต้องรีบสะกัดเอาไว้ก่อน"ฉันมาหารัญเค้าอยู่ไหม"สุพิชชาสาวหน้าสวยหุ่นดีระดับนางงามมองสาวใช้อย่างมาลีด้วยหางตาและไม่ได้สนใจคำที่สาวใช้ตรงหน้าถามเลยสักนิดเอาแต่ถามหาหิรัญว่าเขาอยู่หรือเปล่า"คุณเป็นใคร"มาลีได้ยินว่าสาวสวยคนนี้มาหาคนเป็นนายก็เกิดอาการไม่พอใจทันทีทั้งยังไม่ยอมให้หญิงสาวเข้าไปข้างในง่ายๆ"ฉันเป็นคนสนิทกับเค้าเธอล่ะเป็นใครน่าจะเป็นแค่คนงานที่นี่อย่าสอดถามให้มันมากนักฉันถามก็แค่ตอบไม่ใช่มาย้อนถามฉัน"สุพิชชาพูดเสียงแข็งใส่มาลีด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์"ถ้าคุณไม่ตอบฉันคงให้คุณเข้าไปในบ้านไม่ได้"มาลียืนลอยหน้าลอยตาขวางอีกฝ่ายิย่างไม่เกรงกลัวตามประสาของเธอ"เธอนี่ช่างกล้านะ"สุพิชชาชี้หน้ามาลีทั้งเน้นเขี้ยวเน้นฟันพูดขู่คนตรงหน้า"มีอะไรกันลี...คุณมาหาใครคะ"ป้าพวงได้ยินเสียงดังเลยรีบออกมาจากในครัวเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น"ฉันมาหารัญฉันเป็นแฟนเค้าทีนี้มีสิทเข้าไปในบ้านได้หรือยัง"สุพิชชายืยกอดอกเชิดหน้าอย่างมั่นใจ"ยั
ครู่ต่อมา"ตกลงคุณเป็นใครกันแน่"ด้วยความสอดรู้สอดเห็นและอยากจะรู้เรื่องท่ี่แท้จริงมาลีจึงเดินออกมาหน้าเรือนในขณะที่สุพิชชากำลังจะขับรถกลับ"ฉันเป็นใครแล้วคนใช้อย่างเธอมายุ่งอะไรด้วย"สุพิชชามองมาลีด้วยหางตาและรีบขับรถกลับออกไปเพราะเธอไม่จำเป็นจะต้องบอกอะไรสาวใช้อย่างมาลี"หืม..นังหน้าพลาสติกฉันอุตส่าห์จะช่วยงั้นก็ช่วยเหลือตัวเองไปแล้วกัน"มาลีเห็นอาการสุพิชชาแล้วเธอก็หมั่นไส้สุดทนเธอตั้งใจว่าจะยืมมือสุพิชชากำจัดพราวพิไลเสียกน่อยแต่เหผ้นครั้งนี้เธอจะต้องเชียพราวพิไลแล้วล่ะมั้ง"......"หิรัญพาพราวพิไลมาในห้องนอนทั้งยืนจ้องมองเธอนานสองนานจนหญิงสาวรู้สึกแปลกๆ"พ..พี่รัญทำไมมองพราวแบบนั้นคะ""บอกความจริงได้ไหม""ค..ความจริงเรื่องอะไรคะ"พราวพิไลได้ยินคำถามก็เกิดกลืนน้ำลายไม่ลงคอเสียอย่างนั้น"ทำไมถึงยอมมาเล่นบทภรรยาพี่ที่นี่"หิรัญเดินมานั่งใกล้ๆกับพราวพิไลและถามเธอด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบไม่ได้บ่งบอกถึงอารมณ์ใดๆ"พ..พี่รัญรู้เหรอคะ"พราวพิไลเบิกตาโพรงตกใจเข้าไปอีกรอบ"ใช่..พี่จะบอกก็ได้ว่าพี่ไม่ได้ความจำเสื่อม""นี่แสดงว่าพี่รัญโกหกตั้งแต่แรก"หญิงสาวมองหน้าคนตัวโตอย่างไม่น่าเชื่อ"อืม..
ครู่ต่อมา"หึ่...นึกว่าจะไม่มาแล้วนะคะ"มาลีได้ยินเสียงรถมาจอดหน้าบ้านเธอจึงเดินมาดูเมื่อเห็นว่าเป็นสุพิชชาเธอจึงกรอกตามองบนอย่างไม่สบอารมณ์"ถอย.."สุพิชชาไม่อยากจะเสวนากับมาลีเท่าไรจึงเดินผ่านมาลีอย่างไม่สนใจ"นายไม่อยู่หรอกยังไม่กลับเห็นว่าพาเมียเค้าไปเปลี่ยนบรรยากาศนอนที่อื่น"มาลียิ้มเยาะอีกฝ่ายอย่างสะใจ"ที่ไหน.."สุพิชชาหันกลับมาค้อนขวับใส่มาลีทันทีหลังจากหญิงสาวพูดจบ"ไม่รู้สินะ"มาลีเดินเยื้องย่างออกไปด้วยรอยยิ้มแห่งผู้ชนะที่ยั่วโมโหสุพิชชาได้"นี่..หื้มม.."สุพิชชากำมือแน่นกัดฟันกรอดที่ทุกอย่างไม่เป็นดั่งใจหอศังกร"พี่รัญคะ"พราวพิไลลุกจากเตียงนอนในช่วงสายออกทาจากห้องนอนเห็นหิรัญยืนชมวิวอยู่ที่ระเบียงจึงหน้ามุ่ยเล็กน้อยที่เขาตื่นแล้วแต่ไม่ยอมปลุกเธอ"ตื่นแล้วเหรอ""สายแล้วทำไมไม่ปลุกพราวล่ะคะ""พี่เห็นว่าพราวนอนดึกเลยไม่อยากปลุกแต่เช้า""นี่เราจะกลับกันรึยังคะ"เมื่อตื่นมาได้คนนอนน้อยอย่างพราวพิไลก็เริ่มหิวขึ้นมาเสียแล้วจึงอยากจะกลับไปที่เรือนทานอาหารเช้าเต็มทน"ไปสิ"20 นาทีต่อมาหิรัญใช้เวลาไม่นานก็ขับรถมาถึงเรือนทั้งสองเดินเข้ามาในบ้านก็ต้องมีสีหน้าเอือมระอาตั้งแต่มาถึง
ตลาดสด"เอาผักตามนี้จะ"บัวตองยื่นกระดาษให้แม่ค้าขายผักเช่นเดิมที่คนมาจ่ายตลาดจากไร่ทำทุกวันวันนี้เธอมาเองเพราะไม่อยากให้มาลีมาที่นี่อีกเพราะเบื่อที่จะฟังคนเขาลือกันเต็มทนเรื่องลูกสาวเธอกับเสี่ยเกลี้ยง"แล้ววันนี้ลูกสาวไม่มาเหรอบัวตอง""ฉันจะมาจ่ายตลาดเองแล้วล่ะ""ดีแล้วล่ะเตือนลูกแกให้อยู่ห่างๆเสี่ยเกลี้ยงหน่อยก็ดีนะ"แม่ค้าขายผักก็เห็นว่าดีแล้วที่มาลีไม่ต้องมาเพราะน้อยคนนักที่อยากจะคบค้าสมาคมกับเสี่ยเกลี้ยงถ้าไม่จำเป็น"ก็เพราะเหตุผลนี้นี่แหละที่ทำให้ฉันต้องมาจ่ายตลาดเอง"บัวตองตอบกลับอย่างเหลือใจ"ดีแล้ว"เย็นของวัน"ทำไมแม่ไม่ให้ฉันไปจ่ายตลาดเองล่ะ"มาลีหน้าบูดหน้าบึ้งที่เธอไม่ได้ไปจ่ายตลาดเองเช่นทุกวัน"ฉันไม่อยากให้แกเป็นขี้ปากใคร"บัวตองหันมามองค้อนทำหน้าไม่พอใจใส่คนเป็นลูกสาว"ฉันโตแล้วนะแม่เลิกห้ามโน่นห้ามนี่ซะทีได้ไหม"มาลีรำคาญที่คนเป็นแม่คอยเจ้ากี้เจ้าการกับชีวิตเธอแทบทุกเรื่องทั้งทีาเธอก็โตจนป่านนี้แล้ว"โตแล้วไม่มีหัวคิดอย่างแกฉันต้องคอยห้าม""โอ้ยยย.."มาลีกระฟัดกระเฟียดใส่คนเป็นแม่เพราะคิดว่าแม่เธอไม่เคยเข้าใจอะไรเธอเลย"แม่แกบ่นก็ห่วงแกนั่นแหละนังลี"พวงเองเห็นว่าสองแ
ครู่ต่อมา"ปวดจัง.."หลังจากที่เกวลินจากไปพักใหญ่แต่แพรวพิลาสยังคงปวดข้อเท้าอยู่ไม่หายที่ล้มลงไปเธอจึงพยายามนวดให้หายปวดด้วยสีหน้าที่ห่อเหี่ยว"มาพบท่านรองครับ"ภัคดนัยกรรมการอีกฝ่ายของที่นี่เดินมาหน้าห้องธรัฐเพื่อมาแจ้งข่าวกำหนดการการทำงานที่ญี่ปุ่น"สักครู่นะคะ..พี่นัย"แพรวพิลาสเงยหน้าขึ้นมาก็ยิ้มหน้่บานเมื่อเจอเพื่อนรุ่นพี่ที่สนิทและไม่ได้เจอกันนานแล้วตั้งแต่เรียนจบ"อ้าวแพรวทำงานที่นี่เหรอ"ภัคดนัยเองก็ดีใจไม่แพ้กันเขาคิดว่าแพรวพิลาสจะทำงานอยู่สิงคโปร์เสียอีกไม่รู้ว่าเธอกลับมาตอนไหนเหมือนกัน"ค่ะแพรวพึ่งเข้ามาช่วยงานที่นี่ค่ะพี่นัยล่ะคะมาทำอะไรที่นี่""พี่มาพบท่านรองน่ะพอดีพี่ช่วยงานพ่อของนิที่นี่""พึ่งรู้นะคะเนี่ยไม่งั้นเราคงเจอกันไปนานแล้ว""พี่ดีใจมากเลยนะที่มีโอกาสได้เจอแพรวอีก""หลังจากนี้เราคงเจอกันบ่อยขึ้นแล้วล่ะค่ะ"ทั้งสองคุยกันหัวเราะเสียงดังอย่างสนิทสนมจนคนในห้องต้องออกมาดูว่าเลขาของเขานั้นยืนคุยอยู่กับใคร"อ้าวคุณนัย"ธรัฐมองท่าทีที่ภัคดนัยและแพรวพิลาสคุยกันก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยเพราะมันดูสนิทสนมกันมากเป็นพิเศษ"ท่านรองผมกำลังจะเข้าไปคุยเรื่องที่เราต้องไปดูงานที่ญี่ปุ่นพ
"อะไรนะ"ธรัฐเองก็พึ่งรู้ข้อนี้เหมือนกันถึงว่าทำไมดูภัคดนัยกับแพรวพิลาสจะสนิทสนมกันเป็นพิเศษ"เอาเป็นว่าคุณสบายใจได้ว่าเมื่อคืนนัยไม่ได้อยู่กับแพรวเพราะผมก็อยู่ห้องตรงข้ามกับแพรวทำไมผมจะไม่รู้เมื่อเช้าเธอก็มาทำงานพร้อมผม"ความจริงเป็นอย่างไรไม่รู้แต่เขาขอแก้ผ้าเอาหน้ารอดไปก่อนเพื่อที่ทุกคนจะได้ไม่มีปัญหากัน"จริงเหรอคะ"นิรชาดูใจชื้นขึ้นมาหน่อย"คุณนัยเค้าอาจจะไปหาที่นอนที่อื่นก็ได้เพราะเลี่ยงที่จะทะเลาะกับคุณถ้าเค้ากลับบ้านคุณก็เคลียกันให้ดี""ค่ะ.."นิรชายอมรับฟังความคิดเห็นจากธรัฐและยอมกลับไปแต่โดยดี17.00 น."แพรว"ภัคดนัยเดินมาหาแพรวในช่วงเวลาเลิกงานเพื่อที่จะขอไปส่งหญิงสาวอีกเพราะเขารู้สึกว่าเมื่ออยู่กับเธอหรือได้พูดคุยกันมันทำให้เขาสบายใจขึ้นอย่างมาก"พี่นัย""วันนี้พี่ขอไปส่งแพรวอีกนะ""เอ่อ..ไม่เป็นไรค่ะแพรวกลับกับท่านรองเอ่อ..แล้วเมื่อวานพี่นัยไปไหนมาคะตอนเช้าพี่นิถึงตามมาที่นี่"แพรวพิลาสขอปฏิเสธจะดีกว่าเพราะเธอไม่อยากมีปัญหากับใครอีกทั้งถามเรื่องที่ภัคดนัยไม่กลับบ้านจนนิรชาต้องตามมาที่นี่อีกด้วย"คือพี่ทะเลาะกับเค้านิดหน่อยเลยไม่อยากกลับบ้าน"ภัคดนัยพูดด้วยแววตาที่เศร้าหมอ
ครู่ต่อมาเมื่อทั้งสามมาถึงเพลิงก็ได้ไหม้ไปเกือบหมดแล้วแต่คนงานก็ยังห่วงของข้างในห้องตัวเองจึงไม่ลดละที่จะหาน้ำหาท่ามาดับไฟรถดับเพลิงที่เรียกมาก็เข้ามาค่อนข้างช้าเพราะทางเข้าไล่ค่อนข้างลำบาก"ทุกคนหนีออกมาก่อนของช่างมันเดี๋ยวฉันจะซื้อให้ใหม่"หิรัญตะโกนก้องบอกทุกคนให้ละจาดการดับไฟเพราะห่วงความปลอดภัยของลูกไร่ของทุกอย่สงหาซื้อใหม่ได้แต่ชีวิตคนหาซื้อไม่ได้"ออกมาก่อน""ลูกแม่...ฮือๆๆๆ.."หิรัญหันไปเห็นคนงานผู้หญิงที่กำลังพยายามจะเข้าไปในกองไฟให้ได้แต่ก็ถูกคนที่ทำงานด้วยกันรั้งเอาไว้เขาจึงต้องเข้าไปดูว่ามันมีปัญหาเรื่องอะไรถึงอยากจะเข้าไปในกองเพลิงนัก"อะไรกัน""ลูกฉันอยู่ข้างในจะนาย..ช่วยลูกฉันด้วย"หญิงสาวภรรยาคนงานที่เป็นแม่ลูกอ่อนร้องให้ขอร้องหิรัญด้วยสีหน้าแทบขาดใจว่าให้ช่วยลูกสาววัยสองขวบของเธอที่อยู่ด้านในกองเพลิงด้วย"ได้.."หิรัญไม่ลังเลเลยสักนิดเขาถอดเสื้อชุบน้ำคลุมหัววิ่งฝ่าเข้าไปในกองเพลิงโดยไม่ห่วงชีวิต"พ..พี่รัญ""คุณพราวอย่าตามไปครับ"พราวพิไลเห็นหิรัญวิ่งเข้าไปข้างในกองเพลิงด้วยความเป็นห่วงเธอจึงวิ่งตามไปแต่ดีที่ลุงครามได้รั้งเธอเอาไว้ก่อน"ไฟลุกโชนขนาดนั้นพี่รัญจะปลอดภั
ฟอดดดด..หิรัญขโมยหอมแก้มนวลฟอดใหญ่เสร็จก็ลุกเดินไปเข้าห้องน้ำหน้าตาเฉยทิ้งพราวพิไลนั่งกุมใบหน้าเขินจนหน้าแดงเป็นลูกตำลึง"อีพี่รัญบ้า..เล่นอะไรเนี่ย"ชั่วโมงต่อมา"พราวขอดูแผลหน่อยนะคะ""เป็นยังไงบ้าง"หิรัญหันหลังให้หญิงสาวดูแผลของเขาทั้งถามสภาพตอนนี้มันเป็นอย่างไรบ้าง"คำถามนี้พราวต้องถามพี่รัญมากกว่าเพราะเหมือนมันจะบวมแดงกว่าเดิมอีกนะคะเจ็บมากไหมคะ"พราวพิไลมีสีหน้าเหยเกเล็กน้อยเมื่อเห็นสภาพแผลของเขาในตอนนี้"มีพราวดูแลอยู่ใกล้ๆเจ็บแค่ไหนพี่ก็ทนได้"หิรัญไม่ปฏิเสธว่าวันนี้รู้สึกระบมมากดว่าเมื่ิอวานแต่เพราะมีหญิงสาวคอยดูแลอยู่ใกล้ๆมันทำให้เขาลืมความเจ็บไปได้เป็นอย่างดี"จู่ๆทำไมมาหยอดคำหวานกับพราวล่ะคะ"พราวพิไลอมยิ้มกริ่ม"พี่จะจีบพราวน่ะสิ""เอ่อ..พูดตรงๆแบบนี้เลยเหรอคะ""วันที่พี่บอกกับพราวว่าพี่รู้สึกดีกับพราวมากขึ้นทุกวันคำนั้นพี่ไม่ได้แกล้งนะ..ถ้าพี่ไม่ถูกชะตากับพราวตั้งแต่ทีแรกพี่ไม่ยอมให้พราวมาเล่นบทภรรยาดูแลพี่หรอก"หิรัญกันหน้ามาจ้องพราวพิไลทั้งรวบกอดเธอเอาไว้ด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์"พี่รัญหันหลังมาค่ะพราวจะทายาให้"พราวพิไลเขินจนก้มหน้างุดต้องหาข้ออ้างให้เขาหันหลังไปเพราะเธอ