บ้านมาลี
"หา...ท..ท้อง"
หลังจากที่มาลีว่างงานจากเรือนเธอก็ออกไปซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจทั้งหมดสามอันผลปรากฏว่าทั้งสามขึ้นสองขีดเหมือนกันหมดทำเอาเธอนั่งทรุดอยู่มุมห้องด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
ก๊อกๆๆๆ
"เสี่ย.."
เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูมาลีจึงรีบหาที่ซ่อนผลตรวจเพราะคิดว่าเป็นแม่เธอมาเคาะแต่ที่ไหนได้กลับเป็นเลี่ยเกลี้ยงที่เข้ามาหาเธอในนี้ต่างหาก
"เงียบ.."
"เสี่ยมาที่นี่ได้ไงแล้วเสี่ยไปบุกโรงพักมาจริงรึเปล่า"
"จริง...แล้วฉันก็มีเรื่องให้แกช่วย"
เสี่ยเกลี้ยงมีบางอย่างที่ต้องวานให้มาลีช่วยแล้วเธอก็จะปฏิเสธเขาไม่ได้ด้วย
"เสี่ยฉันมีเรื่องจะต้องบอกเสี่ย"
มาลีถือโอกาสนี้บอกเรื่องที่เธอพึ่งรู้กับเสี่ยเกลี้ยงเสียเลย
"เรื่องอะไร"
"ฉ..ฉันท้อง"
"ไปเอาออกซะ"
เสี่ยเกลี้ยงตอบได้อย่างไม่ลังเลเพราะเขาไม่คิดที่จะรับผิดชอบใครอยู่แล้ว
"พูดแบบนี้ได้ไงเสี่ยลูกทั้งคนนะ"
มาลีถึงกับหน้าเหวอกับคำพูดที่เสี่ยเกลี้ยงพูดออกมา
"ลูกฉันรึเปล่าก็ไม่รู้...นี่..พรุ่งนี้แกต้องพาเมียนายแกมาให้ฉันที่จุดนัดพบไม่งั้นแม่แกนั่นแหละที่จะไม่มีชีวิตรอด"
"เสี่ยจะทำอะไร"
"ทำอะไรมันก็เรื่องของฉันไม่เกี่ยวกับแกจะกำจัดเมียนายแกให้ไม่ดีหรือไงแล้วเรื่องลูกฉันแนะให้ว่าไม่ไปเอาออกหรือไม่แกก็บอกทุกคนไปว่านี่คือลูกนายแกแค่นั้น"
"เสี่ยนี่มันเลวกว่าที่ฉันคิดไว้เยอะเลยนะ"
มาลีกัดฟันกรอด
"จะทำไม่ทำ...ถ้าไม่ทำแม่แกตายหรือไม่ก็ตัวแกด้วย"
"แล้วจะให้ฉันพาคุณพราวไปที่ไหน"
มาลีเหมือนคนที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกแต่เธอก็ต้องทำตามที่เสี่ยเกลี้ยงบอกเพราะห่วงความปลอดภัยของตัวเอง
"ตลาดในหมู่บ้าน"
"อืม..."
22.00 น.
"เรื่องที่พี่รัญเครียดเป็นเรื่องเสี่ยเคี้ยงใช่ไหมคะ"
พราวพิไลนั่งรอหิรัญที่ระเบียงบ้านจนดึกเมื่อเขามาถึงเธอก็รีบเข้ามาคุยกับเขาทันที
"พราวรู้เหรอ"
หิรัญไม่คิดว่าหญิงสาวจะรู้เรื่องนี้แล้ว
"ค่ะ..ทำไมไม่คิดจะบอกพราวบ้างคะ"
"พี่ไม่อยากให้พราวกังวล"
หิัรัญพาพราวพิไลเข้ามานั่งคุยกันในบ้านเพราะข้างนอกยุงค่อนข้างเยอะ
"แล้วนี่ตำรวจตามตัวคนพวกนั้นได้รึยังคะ"
"ยังไม่ได้เรื่องอะไรเลย"
"ยังไงพี่รัญก็ดูแลตัวเองดีๆนะคะ"
"ส่วนมากพี่จะอยู่ที่ไร่ตอนนี้ก็เพิ่มคนคุ้มกันแน่นหนาคงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วล่ะ"
"ค่ะ"
"ที่พี่เป็นห่วงก็คือพราวเอาแบบนี้พราวกลับกรุงเทพไปก่อนดีไหม"
หิรัญคิดๆดูแล้วการที่เขาจะๆม่ห่วงหน้าพะวงหลังก็คือต้องให้หญิงสาวกับอุ่นเรือนกลับไปกรุงเทพเสียก่อน
"ไม่ค่ะถ้าพี่รัญอยู่ที่นี่พราวก็จะไม่ไปไหนค่ะ...พราวห่วงพี่รัญ"
พราวพิไลไม่ยอมไปจากที่นี่แน่นอนยิ่งรู้ว่าที่นี่หิรัญอยู่ในอันตรายให้เอาช้างมาฉุดเธอก็ไม่ไป
"......."
หิรัญกอดร่างบางทั้งมองเธอด้วยสายตาที่กังวลใจเขากลัวว่าศรัตรูมันจะไม่เล่นงานเขาทางตรงอาจจะแว้งกัดทำร้ายคนที่เขารักก็เป็นๆด้เกิดถึงวันนั้นเขาปกป้องเธอไม่ได้เขาคงจะเครียดกว่านี้หลายเท่าแน่
วันต่อมา
"วันนี้ออกไปแต่เช้าอีกแล้วนะคะ"
วันนี้ก็เป็นอีกวันที่หิรัญออกไปไร่แต่เช้าเหมือนเดิม
"พี่ต้องรีบไปดูความเรียบร้อนที่ไร่เสียหน่อย"
"พราวเข้าใจค่ะรีบไปเถอะค่ะ"
พราวพิไลส่งยิ้มอ่อนให้ชายหนุ่มเธอเข้าใจว่าเขาต้องรับผิดชอบชีวิตของคนหลายคนอยู่
10.00 น.
"คุณพราวคะ..."
มาลีมองซ้ายทองขวาดูราดราวว่าหญิงสาวอยู่คนเดียวในตอนไหนเมื่อได้จังหวะเธอจึงเดินเข้ามาหาพราวพิไลในขณะที่หญิงสาวนั่งอ่านหนังสืออยู่
"มีอะไรเธอเป็นอะไรเหรอ"
"คือลีปวดท้องน่ะค่ะ..คุณพราวช่วยพาลีไปซื้อยาที่ตลาดได้ไหมคะ"
"ได้สิงั้นไปขึ้นรถเลย"
มาลีแกล้งทำสีหน้าอิดโรยพราวพิไลเห็นดังนั้นเธอจึงรีบพามาลีออกไปข้างนอกเพื่อซื้อยาทันที
"จอดตรงไหนล่ะมาลี"
เมื่อมาถึงตลาดพราวพิไลก็วนหาที่จอดรถเธอต้องกสรหาที่สะดวกให้มาลีจะได้เดินใกล้ร้านยาที่สุดเท่าที่จะใกล้ได้
"ตรงแถวนี้ก็ได้ค่ะคุณพราวเดี๋ยวลีเดินไปซื้อยาเอง"
"เดินไหวเหรอ"
"ไหวค่ะ"
มาลีเดินลงจากรถด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีเท่าไรเธอไม่อยากมีเอี่ยวกับการทำผิดของเสีายเกลี้ยงแม้แต่น้อยแต่ก็ต้องทำ
"โอเคเดี๋ยวฉันรอตรงนี้นะ"
"ค่ะคุณพราว"
ครู่ต่อมา
ปั้กๆๆ
"ว้ายย.."
"มานี่"
พราวพิไลนั่งรอมาลีอย่างใจจดใจจ่อแต่จู่ๆก็มีผู้ชายใส่ชุดดำสวมหมวกปิดหน้าสามสี่คนมาเคาะรถเธอและเปิดประตูดึงเธอออกไป
"พวกแกเป็นใคร..อื้มมม"
หญิงสาวยังไม่ทันถามว่าพวกคนเหล่านี้เป็นใครเธอก็ถูกโปะยาสลบลากตัวขึ้นรถตู้ไปก่อน
" ฉันขอโทษนะคุณพราวถ้าฉันไม่ทำแม่ฉันอาจเป็นอันตรายได้"
มาลีที่แอบมองอยู่ห่างๆเห็นสถานการณ์ทั้งหมดก็แอบกังวลใจอยู่ไม่น้อยว่าคนพวกนั้นจะถึงกับฆ่าพราวพิไลหรือไม่ถึงเธอจะอยากแย่งสามีหญิงสาวแต่เธอก็ไม่ได้ต้องการให้ใครมาตาย
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
"ช่วยด้วยค่ะ... ช่วยด้วย"
มาลีวิ่งมาตะโกนที่กลางไร่อย่างหน้าตาตื่นคราแรกเธอกะจะปล่อยให้หิรัญได้รู้เองแต่เธอก็ทนไม่ได้ที่จะปล่อยให้พราวพิไลเป็นอะไรไปตอนนี้เพราะความเห็นแก่ตัวของเธอ
"มีเรื่องอะไร.."
จีกรภพรีบวิ่งเข้ามาถามมาลีอย่างรวดเร็ว
"ค.. คุณพราวถูกจับตัวไป"
"ที่ไหนแล้วถูกจับไปได้ไง"
หิรัญเลือดขึ้นหน้าทันท่วงทีเพราะไม่คิดว่าพราวพิไลที่เขาปล่อยให้เธออยู่ในที่ปลอดภัยแล้วจะมาถูกจับตัวไปได้
"ลีให้คุณพราวพาไปตลาดแล้วก็ถูกจับที่นั่นค่ะ"
มาลีก้มหน้างุด
"พราว..เธอรู้รึเปล่าว่ามันเป็นใคร"
"น่าจะพวกเสี่ยเกลี้ยงค่ะนาย"
"โถ่เอ้ยย.."
หิรัญกัดฟันกรอดมือไม้สั่นเกร็งไปหมดด้วยความโมโห
"ใจเย็นๆก่อนครับคุณรัญเรามาคิดวิธีช่วยคุณพราวกันดีกว่า"
จักรภพแตะบ่าหิรัญเบาๆเขาก็ไม่พอใจกับเหตุการณ์ทีาเกิดขึ้นเช่นกันเพราะดูพวกเสี่ยเกลี้ยงจะอันธพาลไปหน่อย
"อึก..อืมม.."
พราวพิไลนั้นสะลึมสะลือตื่นขึ้นมาก็เห็นว่าตัวเองอยู่ในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยทั้งยังถูกพวกคนชุดดำห้องล้อมไว้ไม่ไห้หนีไปไหนอีกด้วย
"ตื่นแล้วเหรอ"
เสื่ยเกลี้ยงเดินเข้ามานั่งต่หน้าหญิงสาวทั้งเชยคางร่างบางด้วยสีหน้าเต้าเล่ห์
"พวกแกเป็นใครจับฉันมาทำไม"
พราวพิไลสะบัดหน้าหนีอย่างรังเกียจเธอคิดว่าตัวเองต้องซวยขนาดไหนถึงได้ถูกจับมาแบบนี้
"ก็ผัวแกดันมาทำเรื่องให้พวกฉันก่อนเอง"
เสี่ยเกลี้ยงตวาดใส่หญิงสาวจนร่างบางสะดุ้งเฮือก
"แกเป็นพวกเสี่ยเคี้ยงใช่ไหม"
คำพูดจากปากคนตรงหน้าทำให้เธอพอจะเดาออกแล้วว่าเธอถูกจับมาโดยพวกใคร
"ใช่ฉันคือเสี่ยเกลี้ยงลูกเสี่ยเคี้ยงจำหน้าฉันไว้ดีๆเพราะฉันนี่แหละจะเป็นคนฆ่าผัวแก""ไม่นะ"พราวพิไลส่ายหัวพัลวันเธอจะไม่ยอมให้หิรัญเป็นอะไรไปง่ายๆเด็ดขาด"ไม่ทันแล้วล่ะมันกำลังมาให้ฉันฆ่าถึงที่"เสี่ยเกลี้ยงยิ้มเย้ยหญิงสาวอย่างสะใจ"เลว...เลวที่สุด"หญิงสาวทำได้แต่ตะโกนด่าทอคนที่เลวจนเธอสรรหาคำพูดออกมาด่าไม่ไหวจริงๆ"ขับให้เร็วกว่านี้หน่อยสิหมอ"บนถนนเลาะชายป่ารถยนต์สีดำวิ่งมาด้วยความเร็วโดยมีจักรภพเป็นคนขับหิรัญเองดูท่าความเร็วขนาด120กิโลเมตรต่อชั่วโมงมันยังไม่พอใจเขาเอาเสียเลยตอนนี้ในรถมีลุงครามจักรภพแลพหิรัญที่ล่วงหน้ามาก่อนพวกตำรวจเพราะเมื่อได้รับสายจากเสี่ยเกลี้ยงว่าต้องการแลกตัวหิรัญกับพราวพิไลที่ไหนพวกเขาก็ออกมากันเลย"นี่ก็เหยียบจะมิดอยู่แล้วนะครับคุณรัฐ"จักรภพคิดว่าเขาคงทำความเร็วกว่านี้ไม่ได้เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้มันจะไม่ดีต่อสถานหารณ์ตอนนี้"เลี้ยวซ้ายข้างหน้าเลยครับหมอ"เมื่อรถขับมาถึงทางแยกลุงครามก็รีบบอกพิกัดกับจักรภพว่าโกดังที่เสี่ยเกลี้ยงพาพราวพิไลมาอยู่ในซอยเปลี่ยวนี้"ไอ้เกลี้ยงกูมาแล้วปล่อยเมียกูเดี๋ยวนี้"เมื่อรถเลี้ยวเข้าซอยขับมาถึงโกดังยังไม่ทันจอดดีหิร
"พราวจะกลับกรุงเทพค่ะ"พราวพิไลพูดพร้อมมองจ้องคนที่กำลังเดินควงกันเข้าบ้านมาด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์แอบน้อยใจลึกๆที่ชายหนุ่มรู้ว่าเธอจะไปยังไม่แม้อตากันมามองหน้าเธอเลยสักนิด"นายคะ.. "บัวตองส่งเสียงเอะอะโวยวายทั้งลากมาลีมานั่งกองต่อหน้าหิรัญและคนในบ้าน"มีอะไร.. ""นังลีมันบอกว่าลูกในท้องมันเป็นลูกนายค่ะจริงรึเปล่าคะ"บัวตองถามด้วยท่าทีร้อนรนเพราะเธอยังไม่ค่อยเชื่อคำพูดลูกเธอเท่าไรจึงต้องลากกันมาถามให้รู้เรื่อง"จะบ้าเหรอคนอย่างรัญไม่ไฝ่ต่ำไปเอาลูกเธอหรอก"สุพิชชาตวาดเสียงหลงเพราะรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้"จริง"หิรัญตอบหน้าตาเฉย"อะไรนะคะรัญ"สุพิชชาถึงกับหน้าชาอึ้งไปชั่วขณะรวมทั้งคนอื่นๆในที่นี้ก็เช่นกัน"นายต้องรับผิดชอบลูกฉันนะคะ"บัวตองได้ยินแบบนั้นเธอเป็นแม่ก็ต้องเรียกร้องความยุติธรรมให้กับแม่ของเธอ"อืม..ฉันจะรับผิดชอบเอง"หิรัญไม่ได้ปฏิเสธที่จะไม่รับผิดชอบ"หึ่...ขอให้ปวดหัวตายกับผู้ชายเฮงซวยคนนี้นะ..หืย"เพียะพราวพิไลกัดฟันกรอดก่อนกลับเธอเดินดุ่มไปฟาดหน้าชายหนุ่มที่หลอกเธอจนเธอเชื่อใจว่ารักเธอคนเดียวแต่กลับกระทำสำส่อนกับคนอื่นไปทั่ว"....."หิรัญมองตามหลังพราวพิไลด้วยสีหน้าที่คนอื
เรือนศังกร"ทำไมทำหน้าเครียดๆคะรัญ"สุพิชชาเดินกลับมาด้วยอารมณ์หงุดหงิดแต่เธอก็ต้องเปลี่ยนอารมณ์เป็นสงสัยแทนเพราะเธอเห็นหิรัญกำลังวุ่นสีหน้าเคร่งเครียดกับเอกสารกองโตในห้องทำงาน".......""เอกสารอะไรคะ""เอกสารยึดทรัพย์...ผมไม่เหลืออะไรอีกแล้ว"หิรัญเงยหน้ามองหญิงสาวด้วยสีหน้าหดหู่"อ..อะไรนะคะ"สุพิชชาไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองสักนิด"ที่ไร่นี้ขาดทุนมานาน...ก็เลยต้องทำให้ผมต้องเอาที่ไปจำนองแล้วตอนนี้มันก็ถูกยึดแล้ว""รัญก็ให้รอบครัวรัญช่วยสิคะ"หญิงสาวพยายามหาทางออกให้หิรัญเธอเองไม่อยากให้เขาตกอับเพราะถ้สหากเธออยู่กับเขาก็จะยิ่งลำบากมากขึ้นไปอีกเธอทนไม่ได้แน่นอน"สมบัติของครอบครัวผมสละสิทธิ์ไม่รับมานานแล้วทุกอย่างเป็นของธรัฐ""ทำไมเรื่องนี้รัญไม่เคยบอกชาเลยล่ะคะ""ผมคิดว่าเรื่องนี้มันไม่สำคัญอะไรถ้าเรารักกัน""......"สุพิชชาอึ้งไปครู่หนึ่งในหัวของเธอตอนนี้กำลังคิดอยู่ว่าจะเอายังไงดีแต่แล้วเธอก็เลือกที่จะไม่ลำบากและรู้ตัวว่าต้องไปจากเขาอย่างรวดเร็วเพราะดีไม่ดีเงินเก็บที่เธอมีอาจถูกหิรัญเรียกร้องให้เธอช่วยก็เป็นได้ซึ่งเธอก็ไม่ยอมแน่นอน"ผมต้องย้ายออกจากที่นี่เราไปหาบ้านเช่าเล็กๆกันนะชา"
ชั่วโมงต่อมาสำนักงานธนาคารRrrrrr"หืม...มือถือใคร.."แพรวพิลาสต้องหยุดชะงักในขณะที่จะกดลิฟท์เพื่อขึ้นไปชั้นทำงานเธอหยิบมือถือที่กำลังดังออกมาดูทั้งมีสีหน้าสงสัยว่ามือถือเครื่องนี้มาอยู่ในกระเป๋าเธอได้อย่างไร"คุณแพรวเมื่อวานผมเอามือถือใส่กระเป๋าคุณไว้คุณน่าจะไม่เห็นมาถึงแล้วก็เอามาให้ผมที่ห้องด้วยนะครับคุณภรรยา""คุณรัฐ.."เมื่อแพรวพิลาสกดรับสายเธอก็ต้องคิ้วขมวดส่งเสียงแข็งกลับๆปให้ปลายสายอย่างโมโหแล้วจึงกดวางรีบเดินดุ่มเข้าลิฟท์ที่กำลังเปิดด้วนอาการโมโหที่ธรัฐชอบหาเรื่องเรียกร้องความสนใจจากเธออยู่เรื่อย"เลิกเล่นแบบนี้กับแพรวสักทีคุณรัฐ...อย่ามาเรียกร้องความสนใจจากแพรว... เพราะแพรวจะไม่สนใจคุณอีกอย่างก็เลิกเรียกฉันว่าภรรยาคุณสักทีคืนนั้นแพรวถือว่าทำทานก็แล้วกันได้ยินไหมคะว่าหยุดเรียกฉันว่าภรรยาคุณเสียทีฉันไม่ชอบบบ.."เมื่อมาถึงหญิงสาวก็พ่นคำพูดออกมารัวๆให้คนที่กำลังนั่งเก้าอี้ราคาแพงหันหลังให้เธออยู่"หนูแพรว!!"อนุชิตได้ยินชัดทุกคำเมื่อหญิงสาวพูดจบ้ขาจึงค่อยๆหันมา"ค..ค..คุณ..ลุง..แพรวแค่เอามือถือมาคืนคุณรัฐค่ะขอตัวก่อนนะคะ"แพรวพิลาสถึงกับตัวชาวาบรีบวางมือถือและวิ่งออกไปทันที"เร
ลานจอดรถ"ว้ายย.."แพรวพิลาสกำลังจะเดินมาที่รถของเธอหลังจากที่ซื้อของใช้ส่วนตัวเสร็จแต่ก็ถูกชายร่างใหญ่สองคนมารั้งตัวเธอแนบกับรถเอาไว้จนเธอร้องเสียงหลง"ว่าที่เจ้าสาวงั้นเหรอถ้าแกหน้าเละไปแล้วดูซิรัฐยังจะรักแกอยู่ไหม"เกวลินที่เก็บความแค้นและรอวันนี้วันที่เธอจะทำให้แพรวพิลาสเสียโฉมเพื่อที่ธรัฐจะได้ทิ้งหญิงสาวเหมือนกับที่เขาไม่แยแสเธอบ้าง"จะทำอะไร""ฉันจะเอาน้ำกรดสาดหน้าแกไง""ทางนี้ค่ะคุณตำรวจคุณนางแบบคนนี้กำลังจะทำร้ายคนอื่นค่ะ"คีรินธิดาสาวน้อยวัย20ส่งเสียงตะโกนเสียงหลงเมื่อเห็นว่าแพรวพิลาสกำลังจะถูกทำร้าย"เจ้ตำรวจมาผมไปก่อนนะ"ชายสองคนได้ยินวาสมีตำรวจมาเขาจึงรีบปล่อยหญิงสาวและวิ่งหนีไป"อ้าวเดี๋ยวสิ"พลั้ก.. "โอ้ยย.."จังหวะนั้นแพรวพิลาสถือโอกาวผลักเกวลินจนล้มและเธอก็รีบหนีไปพร้อมกับสาวน้อยอีกคนที่ยืนรอช่วยเธออยู่"พี่คะทางนี้ค่ะ"ครู่ต่อมา"ขอบคุณมากเลยนะคะที่ช่วยพี่"แพรวพิลาสนั่งอยู่ในร้านอาหารที่คนค่อนข้างพลุกพล่านจะได้ไม่มีใครบุ่มบ่ามมาทำร้ายเธออีกทั้งขอบคุณสาวน้อยหน้ารักตรงหน้าที่ช่วยเธอเอาไว้"ไม่เป็นไรค่ะพี่แพรวรออยู่ตรงนี้นะคะเดี๋ยวพี่รัฐก็มาถึงแล้วค่ะ""รู้จักชื่อพี่ด
"อย่าพูดถึงคนอื่นได้ไหมพราว.."หิรัญไม่อยากให้พราวพิไลมาประชดประชันอะไรเขาตอนนี้"พราวขอตัวนะคะ..พราวรีบ""จะไปไหนพราว""พราวจะไปอิตาลีค่ะจะไปหางานทำที่นั่นกับเพื่อนขอตัวนะคะเดี๋ยวตกเครื่อง"พราวพิไลเดินจ้ำอ้าวออกไปหน้าบ้านอย่างรวดเร็ว"พราว..พราว..เดี๋ยวสิพราว..โอ้ย.."หากหิรัญยังดีๆเขาคงตามเธอทันแค่นี่เมื่อเดินเร็วเขาก็ยิ่งเจ็บแผล"แท็กซี่..."พราวพิไลเรียกแท็กซี่ได้ก็รีบขึ้นหนีคนที่กำลังตามเธอมาทันที"พราว..อึก...อืม...หิรัญนั้นยังไม่ละความพยายามยังไงเธอก็จะตามพราวพิไลกลับมาให้ได้"เอ่อ..มีคนวิ่งตามครับ"แท็กซี่ชะลอรถเล็กน้อยเมื่อเห็นคนวิ่งตาม"ไปเลยค่ะไม่ต้องสนใจ"พราวพิไลไม่ได้สนใจที่จะหันไปมองแม้แต่น้อย"พราว...อย่าพึ่งไป...โอ้ยย..."หิรัญเลือดออกจนเปรอะเสื้อแต่ดขากะยังไม่ละความพยายามที่จะตาม"พ..พี่รัญ..จอดก่อนค่ะ"พราวพิไลตัดสินใจหันกลับมาดูวินาทีนั้นเธอเห็นชายหนุ่มล้มไปต่อหน้าต่อตาหัวใจของเธอก็อ่อนยวบลงรีบให้แท็กซี่จอดและเธอก็รีบวิ่งลงจากรถมาดูชายหนุ่มในทันที"พราว..""พี่รัญ..ล..เลือด..ทำไมเลือดออกคะ...พี่รัญเป็นแผลนี่"พราวพิไลหน้าซีดเผือดเมื่อเห็นว่าที่เอวหิรัญมีเลือดออกมา
ไร่ศังกร20.00 น."พี่รัญคะเดี๋ยวเค้กขอไปหาพี่โจเลยนะคะ"คีรินธิดาขอติดรถมากับหิรัญและพราวพิไลเพื่อที่จะมาหาจักรภพเมื่อมาถึงก็เอ่ยปากอยากจะขอไปหาจักรภพในทันที"ดึกแล้วนะเค้กอยู่ที่นี่ก่อนไปบ้านผู้ชายมืดๆค่ำๆมันดูไม่ดี"หิรัญต้องห้ามหญิงสาวเอาไว้ก่อนเพราะหากพ่อหญิงสาวรู้ว่าเขาดูแลน้องไม่ได้เขาจะถูกตำหนิเอา"ฮืม...แต่เค้กคิดถึงพี่โจนี่คะ""ถ้าคุณอาคินรู้จะตำหนิพี่เอานะ""ก็ได้ค่ะ""นั่นห้องเค้กพี่ให้คนจัดการเตรียมเอาไว้แล้ว""ค่ะ"คีรินธิดาเดินเข้าห้องไปด้วยสีหน้าบูดบึ้ง"ดูท่าน้องเค้กจะคิดถึงหมอโจมากเลยนะคะ"พราวพิไลยิ้มอ่อน"อืม...แต่หมอโจน่ะสิไม่รู้ว่าจะปวดหัวเพิ่มขึ้นรึเปล่า""ทำไมล่ะคะคู่หมั้นมาหาทั้งทีต้องปวดหัวขนาดนั้นเลยเหรอคะ""ก็ตั้งแต่น้องเค้กรู้ว่าพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายให้หมั้นกันเธอก็ตามติดหมอโจแจเลยถึงต้องย้ายมาทำงานที่ไร่นี้ดีที่ว่าตอนนี้ร้องเค้กยังเรียนไม่จบถึงตามมาไม่ได้จะมาได้แค่ช่วงปิดเทอมเท่านั้น""พราวอยากเห็นซะแล้วสิคะว่าติดแจนี่มันขนาดไหน"พราวพิไลสบถขำเล็กน้อยอาทิตย์ต่อมา"ค่ะคุณแม่..อะไรนะคะเลื่อนไวขึ้น..โอเคค่ะเดี๋ยวพราวจะรีบบอกพี่รัญนะคะ""มีอะไรเหรอ"หิรัญเห็นพรา
หลายวันต่อมาหลังจากที่แต่งงานกันเรียบร้อยแล้วหิรัญกับพราวพิไลก็กลับมาอยู่ที่ไร่กันเช่นเดิมส่วนธรัฐก็ย้ายเข้าไปอยู่บ้านใหม่ที่ซื้อเอาไว้ก่อนที่จะแต่งงานได้ไม่เท่าไรเขายังไม่ได้เข้าไปทำงานเพราะอยากให้ร่างกายพร้อมมากที่สุดเสียก่อนที่เขาตัดสินใจซื้อบ้านราคาเหยียบร้อยล้านก็เพราะเตรียมพร้อมสำหรับวันหน้าที่จะมีเจ้าตัวน้อยมาวิ่งเล่นรอบๆบ้านนั่นเองและคงไม่ใช่แค่คนเดียวสิ่งที่เขาหวังไว้ในใจตอนนี้หากจะให้บ้านหลังใหญ่ไม่เหงาเขาขอมีลูกอีกสักสองสามคนกำลังดี"แพรว..""คะ..""เราไปที่ไร่กันไหม""ไปสิคะ..แพรวอยากจะขอคุณไปอยู่พอดีเลย""งั้นพรุ่งนี้เราไปกันเลยดีไหม""ค่ะ...""ใจจริงตอนคุณท้องอยู่แบบนี้ผมอยากให้คุณไปใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นเหมือนกันนะเพราะที่นั่นทั้งอากาศแล้วก็สภาพอวดล้อมดีมากๆเลย""คุณจะให้แพรวไปไหมล่ะคะ"หญิงสาวยิ้มอ่อนหันหน้าถามคนเป็นสามี"ทำใจยาก...อืม...ไม่ให้ไปดีกว่าเพราะผมคงทนคิดถึงคุณไม่ไหว"ธรัฐบุ้ยปากเล็กน้อยคิดไปคิดมาให้เธออยู่ที่นี่กับเขาจะดีกว่าหากอยู่แต่บ้านคงจะไม่มีมลพิษอะไรมากมายทั้งเครื่องกรองอากาศก็ติดเต็มบ้าน"ปากหวานจังเลยนะคะ...หวานแบบนี้กับใครบ้างคะเนี่ย"แพรวพิลาสเอ่ยป