Share

ตอนที่36 ตอนจบ

หลายวันต่อมา

หลังจากที่แต่งงานกันเรียบร้อยแล้วหิรัญกับพราวพิไลก็กลับมาอยู่ที่ไร่กันเช่นเดิมส่วนธรัฐก็ย้ายเข้าไปอยู่บ้านใหม่ที่ซื้อเอาไว้ก่อนที่จะแต่งงานได้ไม่เท่าไรเขายังไม่ได้เข้าไปทำงานเพราะอยากให้ร่างกายพร้อมมากที่สุดเสียก่อนที่เขาตัดสินใจซื้อบ้านราคาเหยียบร้อยล้านก็เพราะเตรียมพร้อมสำหรับวันหน้าที่จะมีเจ้าตัวน้อยมาวิ่งเล่นรอบๆบ้านนั่นเองและคงไม่ใช่แค่คนเดียวสิ่งที่เขาหวังไว้ในใจตอนนี้หากจะให้บ้านหลังใหญ่ไม่เหงาเขาขอมีลูกอีกสักสองสามคนกำลังดี

"แพรว.."

"คะ.."

"เราไปที่ไร่กันไหม"

"ไปสิคะ..แพรวอยากจะขอคุณไปอยู่พอดีเลย"

"งั้นพรุ่งนี้เราไปกันเลยดีไหม"

"ค่ะ..."

"ใจจริงตอนคุณท้องอยู่แบบนี้ผมอยากให้คุณไปใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นเหมือนกันนะเพราะที่นั่นทั้งอากาศแล้วก็สภาพอวดล้อมดีมากๆเลย"

"คุณจะให้แพรวไปไหมล่ะคะ"

หญิงสาวยิ้มอ่อนหันหน้าถามคนเป็นสามี

"ทำใจยาก...อืม...ไม่ให้ไปดีกว่าเพราะผมคงทนคิดถึงคุณไม่ไหว"

ธรัฐบุ้ยปากเล็กน้อยคิดไปคิดมาให้เธออยู่ที่นี่กับเขาจะดีกว่าหากอยู่แต่บ้านคงจะไม่มีมลพิษอะไรมากมายทั้งเครื่องกรองอากาศก็ติดเต็มบ้าน

"ปากหวานจังเลยนะคะ...หวานแบบนี้กับใครบ้างคะเนี่ย"

แพรวพิลาสเอ่ยปากหยอกสามีของเธอเล็กน้อย

"มีเมียเป็นตัวเป็นตนแล้วก็ต้องหวานกับเมียแค่คนเดียวสิครับ"

ธรัฐโอบกอดร่างบางเบาๆทั้งเขี้ยวทั้งเล็บเขาถอดไปหมดแล้วตั้งแต่รู้ตัวว่าอยากได้เธอมาเป็นคู่ชีวิต

ไร่ศังกร

20.00​ น.

"คืนนี้อากาศดีจังเลยนะคะ"

พราวพิไลและหิรัญออกมานั่งรับลมกันข้างนอกระเบียงบ้านเพราะวันนี้ฟ้าเปิดอากาศดี

"อืมใกล้จะเข้าหน้าหนาวแล้วอากาศก็จะดีแบบนี้แหละ"

"พี่รัญคะที่ตรงข้างหอศังกรพราวขอโละต้นไม้ออกสักสองสามต้นได้ไหมคะ"

"ได้อยู่แล้วพี่ก็ว่าจะตัดออกเหมืิอนกันอยากให้ทัศนียภาพมันโล่งๆเอาออกสักต้นสองต้นไม่เป็นไรหรอกเพราะสวนป่าตรงนั้นมีตั้งหลายสิบไร่...ว่าแต่พราวจะทำอะไรเหรอ"

"พราวอยากทำเป็นสวนดอกไม้แปลงเล็กๆค่ะเวลานั่งอ่านหนังสือที่นั่นมองออกไปจะได้มีสีสันสบายตา"

"ได้สิแล้วพี่จะบอกลุงครามจัดการให้เร็วที่สุดนะ"

"ขอบคุณค่ะ"

"หรือจะโละให้กว้างไปเลยดีเพราะต่อไปเรามีลูกจะได้วิ่งเล่นด้วย"

หิรัญกำลังคิดอยู่ว่าจะเอาแบบไหนดี

"เอาแค่ทำสวนดอกไม้ก่อนนะคะ​ตอนมีลูกค่อยว่ากันอีกที"

พราวพิไลเห็นว่าทำไปทีละอย่างจะดีกว่าเพราะเธอกลัวว่าหากชายหนุ่มทำไปแล้วจะตั้งหน้าตั้งตารอลูกอย่างเดียวซึ่งเธอก็ไม่รู้ได้ว่าลูกจะมาเมื่อไร

สองวันต่อมา

หอศังกร

"ที่นี่ร่มรื่นสดชื่นดีจังเลยนะพี่ชักจะชอบที่นี่ซะแล้วสิ"

แพรวพิลาสกับธรัฐมาถึงที่ไร่ตั้งแต่เมื่อวานพอมาวันนี้หญิงสาวได้มาเห็นหอศังกรก็รู้สึกชอบขึ้นมาทันทีเพราะเป็นที่ที่น่าอยู่มากๆห้อมล้อมไปด้วยธรรมชาติเป็นที่ผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี

"ใช่ค่ะพราวเห็นครั้งแรกพราวก็ชอบเลยเหมือนกัน"

"หนังสือเยอะแบบนี้ถ้าน้องพี่ไม่ชอบก็คงจะแปลกแล้วล่ะ"

"ขออนุญาติพาคุณภรรยาผมไปเดินเล่นก่อนนะครับคุณพราว"

ธรัฐเห็นสองพี่น้องคุยกันนานแล้วเขาจึงขอตัวพาภรรยาตัวน้อยของเขาไปเดินเล่นสองต่อสองเสียหน่อย

"เชิญเลยค่ะ"

"พราว"

"คะ.."

หญิงสาวรับหนังสือเล่มเก่ามาจากมือหิรัญเธอไม่เคยเห็นเล่มนี้มาก่อนไม่รู้ว่าสามีเธอไปเอามาจากไหน

"พี่พึ่งเห็นหนังสืิอเล่มนึงมันวางนอนอยู่ชั้นบนสุดเล่มเดียวนามปากกาปลายฟ้าเหมือนของคุณยายเพื่อนพราวเลย"

"จริงด้วยค่ะแต่เล่มมันค่อนข้างเก่าแล้วเหมือนจะอยู่ที่นี่มานานแล้วด้วย...สวาทรักรามสูร...อืม..พราวไม่เคยอ่านเรื่องนี้เลยนะคะไม่รู้ว่ามีอยู่ด้วย"

"ลองถามปอแก้วดูสิว่าใช่ของคุณยายเธอหรือเปล่า"

"ได้ค่ะแต่พี่รัญอย่าพึ่งเอาไปเก็บนะคะเดี๋ยวพราวจะลองอ่านดูก่อน"

"โอเค..ไปเตรียมอาหารใส่จานกันก่อนเถอะเดี๋ยวธรัฐกับคุณแพรวกลับมาจะได้ทานอาหารเที่ยงเลย"

"ค่ะ"

ครู่ต่อมา

"กลับมากันแล้วค่ะ"

พราวพิไลพึ่งจะจัดโต๊ะอาหารกลางวันเสร็จธรัฐกับพี่สาวเธอก็กลับมาพอดีแต่ภาพที่น่าอมยิ้มสำหรับพราวพิไลและหิรัญก็คือเห็นธรัฐอุ้มแพรวพิลาสขึ้นมานี่แหละ

"นี่น้องฉันเป็นคนโรแมนติกตั้งแต่เมื่อไร"

หิรัญเอ่ยหยอกน้องชายตัวเองเบาๆ

"ก็ตั้งแต่มีเมียคนนี้แหละครับ"

"หืม..."

แพรวพิลาสที่พึ่งถูกวางลงบนเก้าอี้ก็เขินจนปั้นหน้าไม่ถูก

"ท่าทางอาหารกลางวันวันนี้จะมีแต่ของหวานซะแล้วมั้งคะ"

พราวพิไลว่าจะไม่พูดอะไรก็อดไม่ได้จริงๆ

"เราก็แซวเก่งมาทานข้าวกันดีกว่าหิวแล้ว"

แพรวพิไลส่ายหัวเล็กน้อย

9 เดือนต่อมา

วันเวลาผ่านไปจนตอนนี้แพรวพิลาสได้คลอดลูกชายของเธอออกมาได้สองเดือนแล้วหน้าตาน่ารักน่าชังจ้ำม่ำจนคนเป็นพ่อกับแม่รามไปถึงคนในครอบครัวหลงกันหัวปลักหัวปำ

"หลานน้า..จ้ำม่ำที่สุดเลยครับ"

พราวพิไลมาเยี่ยมพี่สาวของเธอกับหลานเพราะทนคิดถึงไม่ไหวจนแทบจะมากรุงเทพอาทิตย์ละครั้งเลยทีเดียว

"แอ้ๆ..."

เด็กชายเขตแดนตัวอ้วนกลมส่งเสียงโต้ตอบคนเป็นน้าไม่ยอมหยุด

"หมั่นเขี้ยวจริงๆเลย.."

พราวพิไลเล่นกับหลานไปฟัดหลานไปด้วยความเอ็นดู

"เราล่ะแพ้ท้องบ้างรึเปล่าพราว"

แพรวพิลาสถามน้องสาวของเธอด้วยความเป็นห่วงเพราะรู้ว่สพึ่งเริ่มตั้งครรภ์อ่อนๆ

"ไม่ค่ะพี่แพรวตอนนี้พราวทานได้ทุกอย่างเลย"

"ดีแล้วล่ะ"

RrrrrrRrrrrr

"ค่ะคุณรัฐ...ได้ค่ะ"

แพรวพิลาสรับสายจากสามีของเธอเป็นรอบที่วามของวันเพื่อที่จะให้คอลคุยกับลูก

"น้องแดนครับ...คิดถึงพ่อหรือเปล่าลูก...พ่อคิดถึงหนูที่สุดเลยนะครับเจ้าก้อนของพ่ออยากไปฟัดแย่แล้ว"

"แอ้ๆๆ.."

เด็กชายเห็นคนเป็นพ่อในจอก็ดิ้นดุกดิ้กๆเหมือนรู้ว่ามีคนกำลังคิดถึงมากๆอยู่

"น้องแดนกินนมหรือยังครับ...ตอนเย็นเดี๋ยวคุณพ่อแวะซื้อของเล่นให้น้าา..."

"พอแล้วมั้งคะคุณรัฐนี่ลูกพึ่งจะสองเดือนยังเล่นอะไรไม่ได้เลยค่ะ"

แพรวพิลาสจำต้องยกมือถือมาดูแล้วบ่นกลับไปที่ธรัฐเพราะตอนนี้ลูกยังเล่นไม่ได้แค่ของที่มีก็น่าจะเล่นไม่ครบชิ้นแล้ว

"โอเคๆผมไม่ซื้อก็ได้เดี๋ยวผมขอตัวปนะชุมก่อนนะประชุมเสร็จแล้วเดี๋ยวจะโทรไปใหม่"

"ค่ะ"

"นี่คุณรัฐเค้าจะโทรหาลูกวันละกี่รอบคะเนี่ย"

"วันนึงก็สามสี่รอบนั่นแหละ"

"ทั้งที่ก็เจอดันทุกวันเนี่ยนะคะ"

"จะไม่รับก็ไม่ได้เดี๋ยวก็ทิ้งงานรีบกลับบ้านอีก"

"หนักนะคะเนี่ย"

เย็นของวัน

"หลานลุงนี่ขี้คุยจังเลยครับ"

ดูคนที่เห่อเด็กชายตัวกลมจะไม่ใช่แค่คนเป็นพ่อเท่านั้นแต่ลุงอย่างหิรัญก็เป็นไปกับเขาด้วย

"อูม..แอ้ๆๆ..อืมมมม"

"อืม..ครับลุงเข้าใจน้องแดนอยากเดินเที่ยวใช่ไหมครับ"

"แอ้.."

"พี่รัญคะพอแล้วมั้งคะเดินกี่รอบแล้วเนี่ยเดี๋ยวหลานก็ติดมือไม่ยอมให้วางกันพอดี"

"น้องแดนครับ.."

ฟอด..ฟอดดดดดดดด

ธรัฐเข้าบ้านมาก็รีบล้างไม้ล้างมือมาอุ้มลูกของเขาหอมซ้ายหอมขวาทันทีด้วยความคิดถึง

"คิดถึงที่สุดในโลกเลย"

"กลับบ้านตรงเวลาจังเลยนะ"

หิรัญอดที่จะเย้าแหย่น้องชายเขาไม่ได้เพราะนี่พึ่งจะเลยเวลาเลิกงานมาไม่เท่าไรเลย

"หัวหน้าครอบครัวก็ต้องกลับตรงเวลาอยู่แล้วครับ"

หิรัญมองคนเป็นน้องชายอย่างภูมิใจที่วันนี้เขาได้เห็นน้องชายเขาเป็นอีกคนที่ไม่ใช่เพลบอยคนเก่าแต่เป็นหัวหน้าครอบครัวที่ทำหน้าที่ไม่ขาดตกบกพร่องแม้แต่นิดเดียว

"เดินทางไกลแบบนี้คงจะเหนื่อยน่าดูเดี๋ยวพี่นวดเท้าให้นะ"

หลังจากที่พราวพิไลและหิรัญเดินทางกลับมาถึงไร่ชายหนุ่มก็ให้หญิงสาวได้พักผ่อนทันทีเพราะรู้ว่าคนท้องจะเหนื่อยง่าย

"ขอบคุณค่พี่รัญ.."

หญิงสาวนั่งมองคนทีากำลังนั่งนวดเท้าให้เธอด้วยสายตาภูมิใจเธอไม่รู้ว่าคำว่าสามีที่ดีต้องขนาดไหนแต่ที่สามีเธอเป็นอยู่เธอรู้สึกว่าเขาดีกับเธอมากๆแล้ว

"พี่จะดูแลพราวกับลูกอย่างดีทุกอย่างจะเสมอต้นเสมอปลายแบบนี้ตลอดไปนะพราว"

"พราวเชื่อพี่รัญค่ะว่าพี่รัญเป็นคนพูดจริงทำจริงแล้วพราวก็รู้สึกว่าพราวโชคดีมากกกกที่ได้สามีดีอย่างพี่รัญค่ะ"

พราวพิไลพูดไปยิ่มน้อยยิ้มใหญ่ไปอย่างภูมิใจ

ปีต่อมา

"ไงครับพี่แบบนี้สมใจไหมครับ"

ธรัฐมาเยี่ยมคนเป็นพี่ที่ไร่เพราะเห็นว่าเลี้ยงลูกจนซูบผอมลงไปมาก

"อืม..สมใจน่ะสมใจแต่ตอนนี้อดนอนแทบทุกคืนเลย"

หิรัญมองไปยังลูกชายฝาแฝดวัยสามเดือนของเขาที่กำลังหลับปุ๋ยอยู่ในเปล

"5555..อย่างนี้แหละครับทนเอาหน่อยนะเดี๋ยวตาหนูทั้งสองโตขึ้นหน่อยก็เลิกคื่นบ่อยเองผมผ่านมาแล้ว"

"ดูคุณรัญโทรมมากเลยนะพราว"

ทางด้านแพรวพิลาสที่กำลังนั่งคุยอยู่กับคนเป็นน้องสาวก็อดจะพูดถึงหิรัญไม่ได้ว่าเขาดูโทรมลงไปมาก

"พี่รัญชอบตื่นมานั่งเฝ้าพราวให้นมลูกอยู่เรื่อยทั้งที่พราวบอกแล้วว่าไม่ต้องเค้าก็ไม่ยอมดูซิกลางวันต้องทำงานกลางคืนต้องเลี้ยงลูกผอมหมดแล้ว"

"คงจะเห่อน่ะ..คุณรัฐแรกๆก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน..แล้วนั่นหนูมินใช่ไหม"

แพรวพิลาสอมยิ่มเบาๆพรางมองไปที่เด็กหญิงวัยเกือบสองขวบรุ่นราวคราวเดียวดับลูกชายเธอ

"ใช่ค่ะพี่แพรวน่าสงสารแกนะคะพ่อก็อยู่ในคุกแม่ก็หนีพี่รัญเลยรับเลี้ยงเองค่ะ"

พราวพิลาสมองไปทางเด็กหญิงที่อยู่กับคนเป็นยายด้วยแววตาสงสาร

"ดีแล้วล่ะ...เด็กเป็นผ้าขาวถ้าได้อยู่ในสภาพแวดล้อมกับผู้คนที่ดีเค้าก็จะดีเอง"

"หนูมินแกก็น่ารักนะคะเลี้ยงง่ายมากไม่ค่อยเจ็บค่อยป่วยคนในไร่ก็เอ็นดูกันทุก​คนเลย"

"นี่มาลีจะไม่คิดถึงลูกบ้างหรือไงน่ารักขนาดนี้"

"พราวก็เดาใจมาลีไม่ออกเหมือนกันค่ะ"

พราวพิไลไม่รู้เลยว่าวันที่มาลีทิ้งลูกไปนั่นคิดอะไรอยู่ทั้งที่อุ้มท้องมาตั้งเก้าเดือนแถมลูกออกมายังน่าตาน่ารักน่าชังอีก

20.00

"ลูกๆหลับกันหมดแล้วพี่รัญก็พักเถอะค่ะนอนน้อยมาหลายคืนแล้ว"

พราวพิไลเรียกคนเป็นสามีมานอนเพราะเขามัวแต่จ้องลูกชายที้งสองที่อยู่ในเปลอย่างไม่ละสายตาทั้งมือยังเตรียมจัดของใช้ให้เป็นระเบียบอีกด้วยเธอไม่รู้ว่าเขาจะขยันไปถึงไหนกัน

"พี่ขอเตรียมของใช้ให้พราวเรียบร้อยก่อนนะ"

หิรัญใช้เวลาไม่นานก็เตรียมผ้าขวดน้ำขวดนมไว้เป็นระเบียบเรียบร้อยแล้วจึงล้มตัวนอนลงได้อย่างสบายใจ

"เหนื่อยมากไหมคะ"

พราวพิไลเขยิบตัวนั่งพิงหัวเตียงแล้วลูบผมชายหนุ่มเบาๆ

"ไม่เลยพี่ทำได้"

"ถ้าลูกๆโตขึ้นคงจะรักพี่รัญมากๆเลยนะคะ"

"เค้าก็ต้องรักพราวด้วยเหมือนกันนั่นแหละพราวเสียสละอุ้มท้องมานานไหนจะให้นมลูกพี่อยากแบ่งเบาภาระพราวอะไรที่พี่ช่วยได้พี่ก็จะช่วย"

ชายหนุ่มเขยิบหัวขึ้นมานอนบนตักคนเป็นภรรยา

"ขอบคุณนะคะรักพี่รัญที่สุดเลยค่ะ"

"พี่ก็รักพราวที่สุดเหมือนกันครับ"

หิรัญเงยหน้ายิ้มให้คนเป็นภรรยาทั้งกุมมือบางไว้แนบแน่นวิธีบอกรักของเขาไม่ใช่เพียงแค่คำพูดแต่เป็นการกระทำต่างหากและเขาก็เชื่อว่าพราวพิไลนั้นรับรู้ได้

                                                                     จบแล้วค่า

เรื่องราวต่อไปจะย้อนไปรุ่นปู่ของหิรัญที่เกิดในไร่ศังกรเรื่องสวาทแค้นรามสูรค่ะอย่าลืมติดตามกันนะคะ...

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status