Share

ตอนที่35 เลื่อนวันแต่ง

ไร่ศังกร

20.00 น.

"พี่รัญคะเดี๋ยวเค้กขอไปหาพี่โจเลยนะคะ"

คีรินธิดาขอติดรถมากับหิรัญและพราวพิไลเพื่อที่จะมาหาจักรภพเมื่อมาถึงก็เอ่ยปากอยากจะขอไปหาจักรภพในทันที

"ดึกแล้วนะเค้กอยู่ที่นี่ก่อนไปบ้านผู้ชายมืดๆค่ำๆมันดูไม่ดี"

หิรัญต้องห้ามหญิงสาวเอาไว้ก่อนเพราะหากพ่อหญิงสาวรู้ว่าเขาดูแลน้องไม่ได้เขาจะถูกตำหนิเอา

"ฮืม...แต่เค้กคิดถึงพี่โจนี่คะ"

"ถ้าคุณอาคินรู้จะตำหนิพี่เอานะ"

"ก็ได้ค่ะ"

"นั่นห้องเค้กพี่ให้คนจัดการเตรียมเอาไว้แล้ว"

"ค่ะ"

คีรินธิดาเดินเข้าห้องไปด้วยสีหน้าบูดบึ้ง

"ดูท่าน้องเค้กจะคิดถึงหมอโจมากเลยนะคะ"

พราวพิไลยิ้มอ่อน

"อืม...แต่หมอโจน่ะสิไม่รู้ว่าจะปวดหัวเพิ่มขึ้นรึเปล่า"

"ทำไมล่ะคะคู่หมั้นมาหาทั้งทีต้องปวดหัวขนาดนั้นเลยเหรอคะ"

"ก็ตั้งแต่น้องเค้กรู้ว่าพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายให้หมั้นกันเธอก็ตามติดหมอโจแจเลยถึงต้องย้ายมาทำงานที่ไร่นี้ดีที่ว่าตอนนี้ร้องเค้กยังเรียนไม่จบถึงตามมาไม่ได้จะมาได้แค่ช่วงปิดเทอมเท่านั้น"

"พราวอยากเห็นซะแล้วสิคะว่าติดแจนี่มันขนาดไหน"

พราวพิไลสบถขำเล็กน้อย

อาทิตย์ต่อมา

"ค่ะคุณแม่..อะไรนะคะเลื่อนไวขึ้น..โอเคค่ะเดี๋ยวพราวจะรีบบอกพี่รัญนะคะ"

"มีอะไรเหรอ"

หิรัญเห็นพราวพิไลคุยกับคนเป็นแม่แล้วเอ่ยถึงเขาเมื่อหญิงสาววางมือถือลงชายหนุ่มจึงถามด้วยสีหน้าสงสัย

"คือพี่แพรว...ท้องได้สิบสัปดาห์แล้วค่ะคุณแม่เลยโทรมาบอกว่าจะเลื่อนวันแต่งงานของคุณรัฐกับพี่แพรวให้เร็วขึ้นเป็นเดือนหน้าเลย"

"ไอ้น้องคนนี้ทันไวไฟจริงๆเลื่อนเป็นเดือนหน้าแล้วเจ้าบ่าวจะทันแข็งแรงแล้วเหรอ"

"ไม่ไหวก็ต้องไหวแล้วล่ะค่ะเกิดท้องพี่แพรวโตกว่านี้จะดูไม่ดี"

"นั่นสิ...แล้ว...เมื่อไรพราวจะท้องกับเค้าบ้างนี่พี่เหมือนจะตามน้องชายพี่ไม่ทันแล้วนะ"

หิรัญหันไปอมยิ้มให้หญิงสาว

"รักษาแผลให้หายก่อนเถอะค่ะแล้วค่อยว่ากัน"

"แปลว่าแผลหายแล้วปั๊มลูกได้ทันทีเลยใช่ไหม"

"แต่งก่อนค่ะแล้วค่อยว่ากันอีกที"

"แบบนี้งั้นพี่ขอเลื่อนวันแต่งให้เร็วขึ้นเหมือนธรัฐเลยดีกว่า"

หิรัญล้มตัวนอนลงตักของหญิงสาวทั้งทำสีหน้าวาดฝันวันแต่งงานอย่างระรื่น

"พี่รัญนี่ก็..."

วันต่อมา

เรือนศังกร

"นี่ครับคุณพราว"

"ขอบคุณนะคะลุงคราม"

"ครับเรียบร้อยแล้วผมขอตัวก่อนนะครับ"

"อะไรเหรอพราว"

หิรัญเห็นว่าของที่ส่งมาให้พราวพิไลมันค่อนบ้างใหญ่พอสมควรเขาจึงต้องเดินมาดูในขณะที่หญิงสาวกำลังแกะ

"หนังสือน่ะค่ะปอแก้วส่งมาให้พราว"

"ที่หอศังกรก็มีหนังสือตั้งเยอะพราวยังอ่านไม่พออีกหรือไง"

"มี​เยอะก็จริงแต่ไม่เหมือนกันค่ะหนังสือพวกนี้เป็นนามปากกาปลายฟ้าเป็นคุณยายของปอแก้วที่เขียนเอาไว้นานแล้วพึ่งจะทำเป็นรูปเล่มให้ได้อ่านพราวอ่านเรื่องแรกของคุณยายที่ตีพิมพ์ออกมาจากนั้นพราวก็ต้องตามอ่านทุกเล่มเลยค่ะ"

"วันหลังพี่คงต้องยืมอ่านบ้างเสียแล้วสิว่ามันจะสนุกขนาดไหน"

"ส่วนมากเป็นรักโรแมนติกดราม่านิดๆตามประสาผู้หญิงนะคะพี่ีัรัญอ่านแนวนี้เป็นด้วยเหรอ"

"อ้าวพี่ก็อยากลองดูเหมือนกันเผื่อพี่อาจจะติดใจเหมือนพราวก็ได้"

RrrrrrRrrrrrr

"ครับหมอ...ตอนนี้เป็นยังไงบ้างครับเดี๋ยวผมจะรีบไป"

"หมอโจมีอะไรเหรอคะ"

พราวพิไลเห็นหิรัญมีสีหน้าเครียดอย่างเห็นได้ชัด

"ก็เค้กน่ะสิแพ้อะไรก็ไม่รู้ผื่นขึ้นเต็มตัวหายใจไม่ออกจนหมอต้องล้างท้อง"

"งั้นเรารีบไปเถอะค่ะเดี๋ยวพราวขับรถให้เองค่ะ"

ชั่วโมงต่อมา

ห้องพักผู้ป่วยใน

"ดูซิเนี่ยเนื้อตัวแดงไปหมด"

พราวพิไลมองเนื้อตัวของคีรินธิดาก็ต้องส่ายหัวเบาๆ

"คราวหน้าคราวหลังถ้าไม่เคยทานอะไรก็อย่าทานให้มันเยอะขนาดนั้นรู้ไหม.."

จักรภพพูดดุหญิงสาวเสียงแข็ง

"เค้กรู้แล้วค่ะ"

หญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงก้มหน้างุด

"เอาน่าหมอน้องไม่รู้...ถ้ารู้ก็คงไม่ทานมันเข้าไปหรอก"

หิรัญตบไหล่จักรภพเบาๆ

"นั่นสิคะตอนนี้น้องเค้กปลอดภัยก็ดีแล้ว...แล้วคืนนี้หมอจะอยู่เฝ้าน้องเค้กไหมคะ"

"เค้ก..นอนที่นี่คนเดียวได้ค่ะพี่พราว"

คีรินธิดารู้ตัวดีว่าเธอสร้างปัญหาให้คนที่นี่​เพราะฉะนั้นเธอจะไม่ให้ใคร้ดือดร้อนเฝ้าเธอเด็ดขาด

"เดี๋ยวผมเฝ้าเธอเองครับคุณพราว"

"ไม่เป็นไรค่ะ"

"เค้ก"

จักรภพหันไปทำสีหน้าดุใส่หญิงสาวจนเธอเงียบไป

"งั้นเดี๋ยวผมให้ลุงครามเอาเสื้อผ้ากับของใช้มาให้นะครับหมอ"

เมื่อเห็นว่าน่าจะตกลงกันเรียบร้อยแล้วว่าจักรภพเป็นคนเฝ้าหิรัญก็จะจัดการเรื่องของใช้ให้ลุงครามเอามาให้

"ขอบคุณครับ"

เรือนศังกร

"ดูท่าหมอโจจะหงุดหงิดน่าดูเลยนะคะนี่ถ้าพราวไม่ติดว่าต้องดูแลพี่รัญพราวจะเฝ้าเองแล้วค่ะ"

พราวพิไลกลับมาถึงเรือนก็พูดเรื่องตักรภพทันที

"ถึงเป็นแบบนั้นพี่ก็ไม่ให้พราวเฝ้าเพราะพี่ดูออกว่าที่หมอโจหงุดหงิดขนาดนั้นเพราะห่วงเค้กมากกว่า.."

"ห่วง...เลยพาลหงุดหงิดเป็นแบบนั้นจริงเหรอคะ"

หญิงสาวขมวดคิ้วเป็นปม

"หงุดหงิดที่ปกป้องคนของตัวเองไม่ได้ไงถ้าเป็นพี่พี่อาจจะเป็นมากกว่าหมอโจก็ได้"

"ไหนพี่รัญบอกว่าหมอโจรำคาญเค้กไงคะ"

"ไอ้รำคาญก็น่าจะจริงเพราะเค้กเป็นคนจู้จี้จุกจิกแต่ไม่เคยทำให้ใครเดือดร้อน...คนที่ชีวิตไม่ค่อยมีสีสันอย่างหมอโจเจอคนอย่างเค้กเข้าไปอยู่ใกล้ๆก็พาลรำคาญได้แต่ถ้าขาดไปก็รู้สึกเหงาอยู่ดีถึงแม้ปากจะบอกอยากอยู่อย่างสงบก็เถอะ"

"พี่รัญนี่มองขาดจริงๆเลยนะคะ"

"ไม่งั้นพี่คงไม่เลือกพราวในเวลาอันรวดเร็วหรอกประสบการณ์ที่ทำให้พี่ผิดพลาดมันมีมาเยอะดังนั้นพี่พอจะมองออกว่าคนแบบไหนเป็นยังไง"

"เก่งจังเลยนะคะ"

"แน่นอน"

"แต่ตอนนี้คนเก่งต้องเช็ดตัวก่อนค่ะ..."

พราวพิไลยกกะละมังกับผ้าขาวมาวางที่โต๊ะข้างเตียง

"โอเค...พราวถอดสิ"

หิรัญมองหน้าหญิงสาวด้วยสายตาเจ้าเล่ห์

"ไม่ถอดเองล่ะคะ..."

"ก็พี่ขี้เกียจยกแขนถอดเสื้อมันพาลเจ็บไปถึงแผล"

"ทีนี้เปลี่ยนจากคนเก่งเป็นสำออยเลยนะคะ"

"ก็เป็นแค่กับเมียเท่านั้นแหละ"

"หืม.."

คำพูดของชายหนุ่มทำเอาคนฟังเขินหน้าแดงจนสังเกตได้ชัด

เดือนต่อมา

"โอเคดีแล้วใช่ไหม"

หิรัญเดินเข้ามาถามธรัฐหลังขบวนแห่ขันหมากไปบ้านเจ้าสาววันนี้เป็นฤกษ์ดีที่ทั้งสองคู่จะแต่งงานพร้อมกันแม้ร่างกายเจ้าบ่าวทั้งสองนั้นยังไม่ได้ดีร้อยเปอร์เซ็น

"ครับพี่..ไปเถอะได้เวลาตั้งขบวนแห่เข้าบ้านเจ้าสาวแล้วนึกไงอยากแต่งพร้อมผมครับไหนบอกจะรอแต่งทีหลังแล้วแต่งที่ไร่ไง"

ธรัฐหันมาถามคนเป็นพี่ด้วยท่าทีสงสัย

"ก็อยากมีลูกแย่แล้ว"

"ใจร้อนเหมือนกันนะครับ"

"เห็นแกมีแล้วพี่ก็อยากมีบ้าง"

สองพี่น้องใส่สูทสีครีมเดินคู่กันด้วยสีหน้ายิ้มแย้มปลื้มปริ่มที่วันนี้จะได้แต่งงานมีครอบครัวกันเสียที

"พี่แพรวดูสิคะเค้าตั้งขบวนกันมาแล้ว"

พราวพิไลเปิดม่านมองผ่านหน้าต่างจากชั้นบนยืนมองขบวนแห่ที่กำลังเดินกันเข้ามาด้วยท่าทีตื่นเต้น

"พี่ตื่นเต้นจังเลยพราว"

แพรวพิลาสที่อยู่ในชุดไทยสีทองอ่อนๆเช่นเดียงกับคนเป็นน้องสาวตอนนี้เธอก็ใจเต้นไม่เป็นจังหวะเหมือนกัน

"พราวก็เหมือนกันค่ะ"

"ดีนะที่คนไม่เยอะไม่งั้นคุณรัญกับคุณรัฐคงจะเหนื่อยแย่"

แพรวพิลาสยิ้มอ่อนอย่างพอใจที่เธอเลือกที่จะแต่งงานเล็กๆเพราะเจ้าบ่าวทั้งสองจะได้ไม่ต้องยืนรับแขกนานๆจะพาลเหนื่อยเอาได้เธอเองก็ด้วยเช่นกัน

"เราคิดถูกแล้วไงคะที่ให้จัดงานเล็กๆเดี๋ยวสื่อก็ประกาศให้คนอื่นรู้เองแหละค่ะ"

"พี่โจคะน่าตื่นเต้นจังเลยนะคะนี่ถ้าเป็นงานแต่งเราเค้กคงตื่นเต้นกว่านี้มากเลย"

"รีบเดินเถอะ"

"ค่ะ"

ทางด้านจักรภพและคีรินธิดามาในนามฝ่ายเจ้าบ่ายหญิงสาวค่อนข้างตื่นเต้นกับงานครั้งนี้เป็นพิเศษและเธอก็จะเก็บรายละเอียดทุกอย่างไว้เผื่อวันงานของตัวเองเธอจะได้ไม่มีอะไรผิดพลาด

พิธีแต่งงานของบ่าวสาวทั้งองคู่ในวันนี้ดำเนินไปอย่างเรียบง่ายแขกเหลื่อที่มาต่างก็เป็นญาติๆและเพื่อนที่สนิทมาร่วมยินดีกับที้งสองคู่วันนี้ทุกคนมีแต่รอยยิ้มและความยินดีที่มอบให้ทั้งสองคู่อย่างจริงใจ

เมื่อพิธีทำบุญตักบาตรช่วงเช้าเสร็จทั้งสองคู่ก็ได้ฤกษ์เข้าหอเมื่อนั้นแขกทั้งหลายก็ทยอยกันกลับปล่อยให้บ่าวสาวได้อยู่เป็นส่วนตัว

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status