"คุณ!!"
แพรวพิลาสหันมาหาหญิงสาวที่สาดน้ำใส่เธอก็จำได้ทันทีว่าเธอคือนาถลดาภรรยาของอติรุจที่บุกไปถึงสิงคโปร์เพื่ออาละวาดเธอวันนั้นเสียงด่าทอของนาถลดาทำเอาแพรวพิลาสตัวสั่นเล็กน้อยเธอไม่ได้ผิดตามที่หญิงสาวกล่าวหาก็จริงแต่เธออายคนในนี้อย่างมากจนแทบจะร้องให้
"เอาผัวฉันไปกกไว้ไหนบอกมาเดี๋ยวนี้นะ"
นาถลดารีบเข้ามาบีบไหล่แพรวพิลาสอย่างโมโหเพราะตอนนี้สามีของเธอหายไปตั้งแต่เธอไปอาละวาดวันนั้น
"ฉันไม่ได้ติดต่อกับสามีคุณแล้วนะคะแล้วฉันก็ไม่รู้ว่าเค้าอยู่ไหนด้วย"
แพรวพิลาสตอบด้วยน้ำตา
"โกหก...อีหน้าด้านเอาผัวฉันคืนมานะ.."
เมื่อได้ยินคำตอบดังนั้นนาถลดาจึงโมโหและโวยวายดังกว่าเดิมจนพราวพิไลใช้แรงทั้งหมดกระชากนาถลดาลงไปกองกับพื้น
"นี่หยุดเดี๋ยวนี้นะไปตามหาผัวเธอที่อื่นที่นี่ไม่มีผัวเธอแล้วก็กรุณาคุมผัวตัวเองให้อยู่อย่าให้มายุ่งกับพี่สาวฉัน"
พราวพิไลตะคอกใส่นาถลดาอย่างโมโห
"หื้มม.."
นาถลดาลุกจากพื้นเงื้อมมือหมายจะฟาดไปที่หน้าของพราวพิไลแต่ก็ต้องหยุดชะงักเพราะพราวพิไลตั้งท่าสู้อย่างไม่มีท่าทีจะยอม
"เข้ามาสิ..ต่อยปากแตกแน่ไปค่ะพี่แพรว"
เมื่อเห็นอีกฝ่ายเริ่มไม่กล้าพราวพิไลจึงรีบพาพี่สาวของเธอออกไปจากที่นี่ทันที
ทางด้านในร้าน
"หืม...เห็นหน้าตาสวยใสซื่อๆแบบนี้ล่ะค่ะตัวดีชอบแอบฉกสามีชาวบ้าน"
เกวลินนั่งมองสถานการณ์จนจบเธอก็ฟันธงเอาเองว่าแพรวพิไลเป็นคนผิดจริง
"รู้ได้ไงว่าเค้าเป็นชู้กับสามีผู้หญิงคนนั้นจริง"
ธรัฐไม่ค่อยใส่ใจกับเหตุการณ์เท่าไรแต่ก็เห็นหน้าทุกคนชัดเจน
"ผู้หญิงถ้าไม่เหลืออดคงไม่มาอาละวาดให้อายคนอื่นแบบนี้หรอกค่ะแล้วแม่นั่นก็ดูจะกลัวจริงท่าจะผิดจริงๆนั่นแหละค่ะ"
"งั้นเหรอ"
ธรัฐลองคิดตามที่เกวลินพูดมันก็มีส่วนจริงเหมือนกันเพราะผู้หญิงที่เขาเจอมาก็มีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวกันทั้งนั้นดีที่เขายังพอรู้ทันบ้างเพราะก็ได้ขึ้นชื่อว่าเสือผู้หญิงเหมือนกัน
"ค่ะ..อย่าไปสนใจเลยค่ะทานต่อเถอะค่ะ"
บ้านวัฒนคีริน
20.00 น.
"อะไรนะคะให้แกล้งเป็นภรรยากับช่วยงานที่ธนาคาร"
พราพิไลกับแพรวพิลาสกลับมาถึงบ้านก็ต้องมีเรื่องให้น่าตกใจต่อกับเรื่องที่แม่ของเธอขอร้องให้เธอกับพี่สาวของเธอช่วยครอบครัวของผู้มีพระคุณ
"อันที่จริงคุณป้าเราเค้าก็ไม่ได้บังคับหรอกนะเพียงแต่แม่เห็นว่าเราสองคนน่าจะตอบแทนอะไรคุณป้าเค้าบ้างเค้าทั้งส่งเราสองคนเรียนทั้งยังช่วยให้บ้านหลังนี้ไม่ถูกยึดอีก"
พิศมัยเองก็พูดออกมาด้วยความลำบากใจเล็กน้อยเรื่องช่วยงานมันก็ยังโอเคอยู่แต่เรื่องเป็นภรรยาจำเป็นเธอไม่แน่ใจว่าลูกเธอคนไหนจะพร้อมใจทำที่สุด
"แพรวพร้อมช่วยค่ะคุณแม่จะให้พราวเลือกทางไหนบอกมาได้เลยนะคะ"
แพรวพิลาสไม่ได้ลำบากใจเลยสักนิดเพียงแค่ให้แม่เธอตัดสินใจมาว่าอยากให้เธอทำอะไรเธอก็พร้อมจะทำ
ครู่ต่อมา
"เฮ้อ...เอาเป็นว่าพราวไปที่ไร่เองค่ะพราวว่าพราวทำได้"
ทั้งสามนั่งเงียบกันอยู่ครู่หนึ่งและก็ได้คำตองจากพราวพิไลว่าเธอพร้อมที่จะไปอยู่ที่ไร่เพราะเธอคิดดีแล้วว่าเธอน่าจะรับมือกับเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดีและอีกอย่างพี่สาวเธอก็ถนัดงานในธนาคารมากกว่าเธอจึงคิดว่าเธอเลือกแบบนี้มันดีที่สุดแล้ว
"แน่ใจดีแล้วใช่ไหมลูก"
พิศมัยถามพราวพิไลอีกครั้ง
"ค่ะให้พี่แพรวทำงานที่ธนาคารจะดีกว่าค่ะเพราะพี่แพรวเก่งเรื่องตัวเลข"
"งั้นตกลงตามนี้นะแม่จะได้บอกคุณป้าเราเลย"
"ค่ะ"
ในเมื่อลูกสาวของเธอทั้งสองตกลงกันลงตัวอย่างเต็มใจพิศมัยเองก็โล่งใจและรีบส่งข่าวบอกกับหทัยรัตน์ทันที
วันต่อมา
เชียงใหม่
ไร่ศังกร
ไร่ศังกรเป็นไร่ที่มีอาณาเขตกว้างขวางและยากที่คนนอกจะเข้ามาง่ายๆเป็นมรดกตกทอดมาตั้งแต่รุ่นปู่ของหิรัญและที่นี่ยังเป็นพื้นที่การเกษตรที่ปลูกหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นพืชผักผลไม้รวมไปถึงแปลงดอกไม้อีกหลายแปลงที่แบ่งเป็นโซนๆแล้วแต่พื้นที่ว่าครงไหนเหมาะที่จะลงอะไรและยังมีการเลี้ยงสัตว์ทั้งแพะแกะโคนมโคเนื้อและหมูที่ยังคงความเป็นธรรมชาติเอาไว้มากๆไร้สารเคมีเพราะทำเกษตรอินทรี
หลังจากที่หิรัญรักษาตัวอยู่สองเดือนเต็มอาการของเขาก็ดีขึ้นอย่างมากผิดกับวันแรกที่มาโรงพยาบาลสภาพเนื้อตัวไม่มีชิ้นดีแทบจะหักทุกส่วนเลยด้วยซ้ำหลังจากที่ชายหนุ่มฟื้นขึ้นมาในสองอาทิตย์หลังจากที่สลบไปทำให้ทุกคนได้รู้ว่าหิรัญได้ความจำเสื่อมน่าจะหายไปประมาณสี่ห้าปีได้เพราะไม่รู้แม้กระทั่งว่าตัวเองมีแฟนและมาบริหารที่ไร่ศังกรแล้ว
เรือนศังกร
เรือนศังกรเป็นเรือนไม้ศักชั้นเดียวยกพื้นไม่สูงมากบันไดสามขั้นที่มีอายุหลายปีมาแล้วตั้งแต่รุ่นที่ปู่ของหิรัญนั้นใช้ชีวิตอยู่มีการปรับปรุงภายในใหม่ทั้งหมดให้เป็นสไตล์โมเดิร์นและมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครันโดยปล่อยให้ตัวบ้านด้านนอกยังเป็นรูปแบบเดิมรอบอาณาเขตบ้านก็จะเป็นสนามหญ้าและมีการปลูกพืชผักสวนครัวรวมไปถึงดอกไม้แปลงเล็กๆไว้ใกล้ๆมองยังไงบ้านหลังนี้ก็เป็นสวรรค์ของคนรักสันโดษได้อย่างดีเลยทีเดียว
"ยินดีต้อนรับค่ะคุณหนู"
อุ่นเรือนแม่นมของหิรัญเลี้ยงหิรัญมาตั้งแต่ยังแบเบาะอายุ64ปีแล้วแต่เธอยังดูแข็งแรงอยู่มากเมื่อหิรัญตัดสินใจมาอยู่ที่ไร่อุ่นเรือนเลยขอตามมาดูแลคุณหนูของเธอที่นี่วันนี้อุ่นเรือนยิ้มกว้างได้อย่างไม่ต้องฝืนเมื่อเห็นคุณหนูของเธอหายดีเกือบร้อยเปอร์เซ็นแล้ว
"นี่ผมกับนมย้ายมาอยู่ที่นี่นานหรือยังครับคุณแม่"
หิรัญเห็นแม่นมของเขาก็รีบเข้าไปโผกอดอย่างที่เคยทำประจำตั้งแต่เด็กๆทั้งหันมาถามคน้ป็นแม่ว่าเขาและแม่นมนั้นย้านมาอยู่ที่นี่เป็นเวลาเท่าไร
"ก็เป็นปีแล้วล่ะจะ"
"คุณพ่อยอมให้ผมมาอยู่ดูแลที่นี่ได้ยังไงครับ"
หิรัญถามคนเป็นแม่ด้วยสีหน้าสงสัย
"ก็ตารัฐรับปากว่าจะดูแลทุกอย่างเองพ่อเราก็เลยยอม"
"อ๋อ...งั้นเหรอครับ"
"เข้าบ้านกันก่อนเถอะค่ะคุณหนูดูท่าฝนจะตกลงมาอีกแล้วค่ะ"
อุ่นเรือนเห็นทีว่าฟ้าครึ้มลมมาแรงเธอจึงชวนทั้งสองเข้าไปคุยด้านในบ้านกันจะดีกว่า
ห้องนั่งเล่น
"วันนี้นอนคนเดียวไปก่อนนะเดี๋ยวพรุ่งนี้ภรรยาของเราก็มาที่นี่แล้ว"
หิรัญและหทัยรัตน์เข้ามานั่งคุยกันที่โซฟาในห้องนั่งเล่นของบ้านที่อยู่หัวมุมติดกับระเบียงที่กั้นเป็นกระจก
"ภ..ภรรยา.."
หิรัญถึงกับหน้าชาผงะเล็กน้อยกับคำพูดของแม่เขาที่พูดออกมาเมื่อครู่
"ใช่จะก็หนูพราวลูกของน้าพิศไง"หทัยรัตน์บอกลูกชายของเธอด้วยสีหน้าเรียบเฉย"ผมจำได้ว่าผมไม่เคยเจอเธอนะครับแล้วเธอมาเป็นภรรยาของผมตอนไหน"หิรัญยังคงตั้งคำถามกับคนเป็นแม่ด้วยท่าทีตนกเล็กน้อย"ก็ก่อนเราเกิดอุบัติเหตุได้ไม่นานหรอกจะ""คุณแม่อำผมเล่นหรือเปล่าครับถ้าเธอเป็นภรรยาผมจริงตอนที่ผมพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลเธอทำไมไม่มาดูแลผมบ้างเลยล่ะครับ""เอ่อ...ก็...จริงๆแล้วน้องก็ไม่ใช่ไม่ห่วงเรานะตารัญแต่น้องรักเรามากจนทนเห็นเราป่วยอยู่ในโรงพยาบาลไม่ได้น่ะช่วงที่เรายังไม่ฟื้นน้องก็มานะแต่เห็นเราทีไรก็เป็นลมไปทุกทีเลยแม่ก็เลยไม่ให้เธอมาจะดีกว่าแล้วพอเราหายดีค่อยมาเจอกันทีเดียว"หทัยรัตน์ตอบลูกชายของเธออย่างรื่นไหลหากลูกชายเธอไม่เชื่อเธอแล้วจะเชื่อใคร"งั้นเหรอครับ"หิรัญขมวดคิ้วเป็นปมแน่นอยู่ครู่หนึ่งจึงหันมามองหน้าแม่ของเขาอย่างสงสัยแต่ก็ไม่ได้คิดจะถามคำถามอะไรอีกต่อไปขอรอดูหน้าคนที่แม่เขาบอกว่ามาเป็นภรรยาของเขาก่อนก็แล้วกันวันต่อมา"แม่พวงที่เค้าว่ากันว่าภรรยาคุณรัญกำลังจะมานี่จริงเหรอะวะ"บัวตองเป็นแม่ครัวอยู่ในเรือนศังกรถามพวงที่เป็นแม่ครัวที่เดียวกับเธอด้วยความสงสัยเพราะไม่เคยได้ยินว่าเจ้าน
"โอเคนะจ๊ะ"หทัยรัตน์มองหน้าพราวพิไลอย่างเป็นกังวลเล็กๆหวังว่าหญิงสาวจะไม่เปลี่ยนใจตอนนี้หรอกนะ"ค่ะ..พร้อมค่ะ""ตามแม่มาเลยจะ"เมื่อพราวพิไลพยักหน้าหทัยรัตน์จึงโล่งอกและเดินนำหน้าหญิงสาวมาด้านใน"น้องมาแล้วนะรัญ""......"หิรัญหันหน้ามามองหญิงสาวร่างเล็กผมยาวสวยหน้าจิ้มลิ้มสะกดสายตาเขามองเธอด้วยอาการแน่นิ่งจนคนรอบข้างดูไม่ออกว่าเขานั้นคิดอะไรอยู่"พี่รัญ...พราวคิดถึงพี่มากๆเลยค่ะ...พราวดีใจมากเลยนะคะที่พี่รัญดีขึ้นมากๆแล้ว""เอ่อ.."พราวพิไลมองชายหนุ่มที่หล่อเหลานึกว่าหลุดออกมาจากปกนิตยสารทั้งรีบฉีกยิ้มกว้างรวบรวมความกล้ารีบวิ่งโล่เข้ามาโผกอดคนที่นั่งอยู่ที่โซฟาแน่นทั้งยังซุกอกแกร่งจนคนตัวโตที่ตั้งตัวไม่ถูกนั่งตัวแข็งทื่อ"ท่าคุณพราวจะคิดถึงคุณหนูมากเลยนะคะ"อุ่นเรือนยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่"ค่ะ..นม.."พราวพิไลพยักหน้าให้อุ่นเรือนพรางขยิบตารู้กัน"อืม...แม่ครับผมอยากจะเข้าห้องพักผ่อนแล้ว"หิรัญหันไปบอกคนเป็นแม่ทั้งยังรีบยกมือประคองโอบร่างเล็กที่เอาแต่กอดเขาอยู่ไว้เบาๆ"อ๋อ..จะ..งั้นเดี๋ยวแม่พาไปนะ""ก็ภรรยาผมมาแล้วนี่ครับให้เธอดูแลผมก็ได้อีกอย่างผมเองก็อยากคุยกับเธออยู่หลายเรื่องเลย"หิร
"ตารัฐก็แบบนี้ล่ะครับทำอะไรรีบๆร้อนๆผมต้องขอโทษด้วยนะครับที่ตารัฐเหมือนจะเสียมารยาท"อนุชิตพอจะดูอาการของลูกชายของเขาออกจึงต้องเอ่ยปากขอโทษคนทั้งสอง"ไม่เป็นไรค่ะคุณรัฐน่าจะยุ่งๆจริงแหละค่ะ"พิศมัยคิดในแง่ดรเอาไว้ก่อนเพราะเธอไม่อยากทำให้ลูกสาวของเธอเสียขวัญก่อนจะเริ่มงาน"แล้วหนูแพรวพร้อมที่จะทำงานที่นี่เมื่อไร""แพรวพร้อมเริ่มงานทันทีค่ะ""งั้นเป็นพรุ่งนี้ก็แล้วกันนะเดี๋ยวลุงจะให้ศจีเลขาลุงสอนงานเราสักสามวันก่อน""ค่ะคุณลุง"เมื่อตกลงกันได้ทั้งสามก็อยู่คุยกันไม่นานพิศมัยจึงพาแพรวพิลาสกลับเย็นของวันไร่ศังกร"อืม..."พราวพิไลตื่นขึ้นมาในช่วงเย็นแต่เธอไม่เห็นหิรัญจึงรีบลุกจากเตียงเปิดประตูออกมาข้างนอก"คุณแม่คะพี่รัญล่ะคะ"หญิงดาวเดินมาหาหทัยรัตน์ที่นั่งดูทีวีอยู่ตรงโซนนั่งเล่น"ออกไปเดินหน้าบ้านน่ะฝนพึ่งหยุดตกอากาศกำลังดี""อ๋อ..ค่ะ..""พรุ่งนี้แม่จะกลับแล้วนะหนูพราว""ทำไมเร็วจังล่ะคะ"พราวพิไลถึงกับใจหายวาบเธอคิดว่าหทัยรัตน์จะอยู่ที่นี่กับเธอและหิรัญเสียอีก"แม่มีธุระหลายอย่างที่ต้องทำทางนี้แม่ก็ฝากพี่เค้าด้วยนะ"หทัยรัตน์ถือโอกาสนี้ฝากฝังให้พราวพิไลดูแลลูกชายของเธอเสียเลยเพราะเ
วันต่อมาหิรัญขับรถกระบะพาพราวพิไลไล่ชมรอบๆตั้งแต่เช้าจนมาหยุดอยู่ที่หนึ่งซึ่งเหล่าคนงานกำลังจับกลุ่มกันง่วนด้วยใบหน้าเคร่งเครียดเหมือนกำลังมีปัญหากันอยู่หนึ่งในนั้นคือลุงครามผู้จัดการไร่ร่วมด้วย"ดูอะไรกันเหรอครับหน้าเคร่งเครียดเชียว"พราวพิไลและหิรัญลงจากรถมาดูเหล่าคนงานทั้งถามถึงเหตุที่ต้องมารวมกันตรงนี้ด้วยท่าทีเป็นกังวล"นายครับผมว่าจะเข้าไปหาอยู่พอดีเลยครับ"ลุงครามพอเห็นคนเป็นเจ้านายมาที่นี่พอดีจึงรีบเดินมาต้อนรับ"มีอะไรครับ""ก็แปลงผักเราสิครับทางโน้นที่ติดตีนเขาพอฝนตกหนักเข้าน้ำก็หลากจากเขาจนผักเสียหายเยอะเลย"ลุงครามชี้ไปทางแปลงผักที่อยู่ใกล้ๆกับตีนเขา"ปกติไม่เป็นแบบนี้ไม่ใช่เหรอครับ"หิรัญขมวดคิ้วเป็นปมแน่นพราวพิไลเองก็ยืนฟังด้วยสีหน้ากังวลถึงปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นที่ไร่หิรัญเองก็เห็นว่าปกติแล้วถึงฝนจะตกแรงแค่ไหนน้ำในป่าก็ไม่น่าจะหลากลงมาแรงขนาดทำให้แปลงผักเสียหายได้"ครับ..เห็นคนงานในไร่ที่ไปหาของป่าบอกว่ามีกลุ่มคนเข้าไปลักลอบตัดไม้ข้างในจนเป็นเวิ้งกว้าง"ลุงครามพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เบาลงเหมือนแค่อยากให้เรื่องนี้รู้แค่วงแคบๆเท่านั้น"ถ้ามีเรื่องแบบนี้แล้วทำไมไม่มีใครแจ
"นี่หยุดเดี๋ยวนี้นะ...ออกไปจากที่ของผมเดี๋ยวนี้"ธรัฐถอดเสื้อสูทของเขาออกคลุมร่างแพรวพิลาสเอาไว้และรีบไล่คนนอกทั้งสองออกไปทันทีเขาจำได้ว่าผู้หญิงคนที่ทำร้ายแพรวพิลาสคือคนที่มาอาละวาดหญิงสาวที่ร้านอาหารในวันนั้นและถ้าเดาไม่ผิดผู้ชายที่ยืนดูผู้หญิงตบตีกันหน้าตาเฉยคงจะเป็นตัวต้นเหตุเป็นแน่"ไปแน่...แล้วคุณเป็นเจ้าของที่นี่ใช่ไหม...บอกอีนี่ด้วยว่าอย่ามานัดผัวชาวบ้านมาพลอดรักแบบนี้อีก"นาถลดาตะคอกใส่ธรัฐและแพรวพิลาสก่อนจะดึงสามีของเธอให้รีบเดินออกไป"ฉันไม่ได้นัดนะคะ...ส่วนคุณก็เลิกยุ่งกับฉันซะที"แพรวพิลาสหลบอยู่ในอ้อมอกของธรัฐตอนนี้เธอตัวสั่นเป็นลูกนกพร้อมเค้นเสียงบอกนาถลดาด้วยเสียงสั่นเครือและอติรุจก็เช่นกันเธออยากพูดครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายว่าให้เขาเลิกยุ่งกับเธอซะที"แพรว..""นี่หยุดนะคุณรุจ"นาถลดากระชากคนเป็นสามีออกไปจากห้องอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นอติรุจทำท่าทีอาลัยอาวรแพรวพิลาสอยู่"เตือนไว้ก่อนอย่าให้ถึงวันที่ฉันหมดความอดทนแล้วแกจะไม่ได้มาเดินลอยหน้าลอยตาแบบนี้หรอก"ก่อนจะปิดประตูนาถลดายังมิวายส่งเสียงขู่แพรวพิลาสอีกครั้ง"ฮึก..อือ..ฮือ....ขอบคุณนะคะ"เมื่อทั้งสองออกไปแล้วแพรวพิลาสก
"ไม่จริง.."อติรุจดูเหมือนจะไม่ยอมรับความจริงกับสิ่งที่ได้ยินสักเท่าไรนักพยายามมองหน้าแพรวพิลาสแต่หญิงสาวก็ไม่ชายตามองมาทางเขาแม้แต่น้อย"จริงเลิกยุ่งกับภรรยาผมซะทีแล้วเอาเวลาไปดูลูกเมียตัวเองไม่อย่างนั้นผมจะแจ้งความจับคุณในข้อหาคุกคามความเป็นส่วนตัว"เมื่อขู่คนตรงหน้าเสร็จธรัฐก็รีบดึงมือหญิงสาวเดินดุ่มๆเข้าลิฟท์ไปในทันที"แพรว..."ทิ้งให้อติรุจยืนอึ้งกับคำที่พึ่งได้ยินจนหน้าเสียอย่างเห็นได้ชัดครู่ต่อมา"คุณไปพูดแบบนั้นได้ไงคะ"เมื่อขึ้นลิฟท์มาถึงชั้นที่ทั้งคู่อยู่แพรวพิลาสจึงรีบดึงมือออกจากชายหนุ่มและถามอีกฝ่ายด้วยสีหน้าบึ้งตึงเพราะเธอไม่ชอบคำที่เขาบอกกับอติรุจว่าเธอเป็นภรรยาเขาแม้แต่นิดเดียวไม่ใช่ว่ากลัวอติรุจเข้าใจผิดแต่เธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่คนแถวนั้นที่ได้ยินเขาจะคิดกันยังไง"มันจะได้เลิกยุ่งกับคุณไง..ถึงห้องคุณแล้วเข้าไปสิ""ค่ะ.."ธรัฐยังคงตอบหญิงสาวหน้าตาเฉยเฉกเช่นเดิมทั้งยังไล่หญิงสาวเข้าห้องตัวเองไปด้วยเขาจะได้เข้าห้องพักผ่อนเช่นกันซึ่งห้องเขาก็อยู่ตรงข้ามกับเธอนี่เองแกร๊กกแพรวพิลาสเปิดประตูและหันกลับมาหาชายหนุ่มจนธรัฐต้องหันมามองเธอพร้อมขมวดคิ้วสงสัย"อะไร...""ขอบคุณ
ครึ่งชั่วโมงต่อมา"อ้าว..ลุงครามมีอะไรเหรอครับ"หิรัญเดินออกมาหาลุงครามที่หน้าบ้าน"ของคุณพราวมาส่งน่ะครับ""อ๋อ.."ลุงครามยื่นพัสดุให้กับหิรัญ"ของพราวใช่ไหมคะ"พราวพิไลอาบน้ำแต่งตัวเสร็จทันเวลาที่ของเพื่อนเธอส่งมาพอดีเมื่อเห็นกล่องอยู่ในมือชายหนุ่มจึงรีบแย่งออกมาอย่างรวดเร็ว"อะไรเหรอ"หิรัญหันหน้าถามพราวพิไลอย่างสงสัยว่าด้านในเป็นอะไรเธอถึงได้หวงขนาดนั้น"ก็..เป็นพวกน้ำหอมที่พราวสั่งให้เพื่อนซื้อส่งมาให้น่ะค่ะไม่มีอะไรขอบคุณนะคะลุงครามที่เอามาให้"หญิงสาวพูดเสร็จก็รีบวิ่งกลับเข้าห้องหาที่ซ่อนของทันทีอันที่จริงแล้วมันเป็นยาสลบที่เธอสั่งให้เพื่อนเธอซื้อส่งมาให้ต่างหากเอาไว้ใช้ในเวลาที่ฉุกเฉินครู่ต่อมาโต๊ะอาหาร"ป้าพวงขาพราวขอข้าวเพิ่มอีกนะคะ"ตอนนี้พราวพิไลและหิรัญร่วมโต๊ะอาหารเย็นกันอยู่พักใหญ่วันนี้กับจ้าวค่อนข้างอร่อยเป็นพิเศษจนหญิงสาวต้องขอข้าวเพิ่ม"ได้เลยค่ะคุณพราว""ของหวานมาแล้วค่ะ..."ปึก"ว้าย..ขอโทษค่ะคุณพราว"มาลีตั้งใจที่จะให้กล้วยบวชชีในมือหกใส่พราวพิไลเธอแกล้งตกใจกับเรื่องที่เธอจงใจทำเพื่อให้ดูเป็นอุบัติเหตุ"ไม่เป็นไร.."พราพิไลเงยหน้าส่งยิ้มให้มาลีแต่สีหน้าของเธอต
วันต่อมา08.30 น."คุณหนูยังไม่ตื่นเหรอคะคุณพราว"อุ่นเรือนวันนี้ค่อนข้างสายแล้วแต่คุณหนูของเธอยังไม่ตื่นถึงถามถามพราวพิไรที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะอาหารด้วยความสงสัย"ยังเลยค่ะ"พราวพิไลส่ายกัวพร้อมยิ้มแหยๆเล็กน้อย"อ้าว.. นั่น.. วันนี้คุณหนูตื่นช้าจังล่ะคะ"อุ่นเรือนหันไปถามคนที่กำลังเดินเข้ามา"อ๋อ...เมื่อคืนคงจะเพลียๆน่ะครับ"หิรัญก็สงสัยตัวเองอยู่เหมือนกันว่าทำไมตอนตื่นมาถึงเพลียแปลกๆพวกคนที่ยืนอยู่ทั้งอุ่นเรือนบัวตองป้าพวงต่างยิ้มกริ่มเพราะคิดว่าทั้งคู่คงจะทำกิจกรรมอะไรกันจนดึกตามประสาสามีภรรยาถึงได้เพลียแต่คนที่ยิ้มไม่ออกเห็นจะเป็นมาลีเพราะเธอไม่ได้ปารถนาให้ทั้งคู่รักกันดี"ยิ้มอะไรกันเหรอคะ"พราวพิไลไม่เข้าใจว่าจู่ๆทั้งนมอุ่นและป้าพวงต่างก็อมยิ้มกันแปลกๆ"อ๋อ...ไม่มีอะไรหรอกค่ะ..ทานข้าวดีกว่านะคะ"อุ่นเรือนส่ายหัวเล็กน้อย10.00 น."ทำอะไรเหรอพราว"หิรัญเดินหาพราวหลังจากทานอาหารเสร็จเมื่อมาที่สวนข้างบ้านก็เห็นว่าหญิงสาวกำลังหยิบจับท่อนไม้ตอกลงดินอย่างขมักเขม้น"พราวเห็นว่าวันนี้ฝนน่าจะตกหนักค่ะเลยหาผ้ามาขึงกันต้นดอกไม้พวกนี้ไว้เดี๋ยวฝนตกหนักใส่แล้วจะตายซะก่อน""มาเดี๋ยวพี่ช่วย"หิรัญ