"อย่าพูดถึงคนอื่นได้ไหมพราว.."
หิรัญไม่อยากให้พราวพิไลมาประชดประชันอะไรเขาตอนนี้
"พราวขอตัวนะคะ..พราวรีบ"
"จะไปไหนพราว"
"พราวจะไปอิตาลีค่ะจะไปหางานทำที่นั่นกับเพื่อนขอตัวนะคะเดี๋ยวตกเครื่อง"
พราวพิไลเดินจ้ำอ้าวออกไปหน้าบ้านอย่างรวดเร็ว
"พราว..พราว..เดี๋ยวสิพราว..โอ้ย.."
หากหิรัญยังดีๆเขาคงตามเธอทันแค่นี่เมื่อเดินเร็วเขาก็ยิ่งเจ็บแผล
"แท็กซี่..."
พราวพิไลเรียกแท็กซี่ได้ก็รีบขึ้นหนีคนที่กำลังตามเธอมาทันที
"พราว..อึก...อืม...หิรัญนั้นยังไม่ละความพยายามยังไงเธอก็จะตามพราวพิไลกลับมาให้ได้
"เอ่อ..มีคนวิ่งตามครับ"
แท็กซี่ชะลอรถเล็กน้อยเมื่อเห็นคนวิ่งตาม
"ไปเลยค่ะไม่ต้องสนใจ"
พราวพิไลไม่ได้สนใจที่จะหันไปมองแม้แต่น้อย
"พราว...อย่าพึ่งไป...โอ้ยย..."
หิรัญเลือดออกจนเปรอะเสื้อแต่ดขากะยังไม่ละความพยายามที่จะตาม
"พ..พี่รัญ..จอดก่อนค่ะ"
พราวพิไลตัดสินใจหันกลับมาดูวินาทีนั้นเธอเห็นชายหนุ่มล้มไปต่อหน้าต่อตาหัวใจของเธอก็อ่อนยวบลงรีบให้แท็กซี่จอดและเธอก็รีบวิ่งลงจากรถมาดูชายหนุ่มในทันที
"พราว.."
"พี่รัญ..ล..เลือด..ทำไมเลือดออกคะ...พี่รัญเป็นแผลนี่"
พราวพิไลหน้าซีดเผือดเมื่อเห็นว่าที่เอวหิรัญมีเลือดออกมามากตนน่ากลัว
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
โรงพยาบาลxxx
"พี่รัญจะเป็นไรไหมคะคุณแม่พราวไม่น่าหนีออกมาแบบนั้นเลย"
พราวพิไลยืนใจจดใจจ่ออยู่หน้าห้องฉุกเฉินเธอเอาแต่โทษตัวเองที่ทำให้หิรัญต้องเจ็บ
"พี่เค้าอยู่ในมือหมอแล้วไม่เป็นอะไรหรอกลูก"
พิศมัยกอดปลอบลูกสาวของเธอเบาๆ
"แม่พิศ"
"คุณพี่"
"คุณแม่...พราวขอโทษค่ะพราวทำให้พี่รัญต้องเจ็บ"
"ไม่เป็นไรลูกไม่เป็นไรแม่รู้ว่าหนูไม่ได้ตั้งใจ"
เมื่อเหตุการณ์มันมาถึงจนาดนี้แล้วหทัยรัตน์เองคงต้องอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้พราวพิไลได้ฟังแล้วเพราะรอต่อไปมีแต่จะทำให้ทั้งหิรัญและพราวพิไลทุกข์ใจกันไปปล่าวๆ
"เรื่องทั้งหมดก็เป็นแบบนี้แหละจะ"
"นี่..พี่รัญห่วงพราวขนาดนี้เลยเหรอคะ..ฮึก..ฮือๆๆ.."
พราวพิไลได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดก็อดที่จะร้องให้ไม่ได้เพราะเธอไม่คิดว้าหิรัญจะห่วงเธอขนาดนี้
"เอาไว้พี่เค้าออกมาห้องพักผู้ป่วยแล้วค่อยคุยกันก็แล้วกันนะ"
ชั่วโมงต่อมา
"ฮึก.. ฮือๆๆๆ"
หลังจากที่หิรัญออกมาจากห้องฉุกเฉินและพักที่ห้องุ้ป่วยในพราวพิไลก็ยังคงสะอื้นไม่หยุดจนหิรัญต้องลูบหัวปลอบเธออยู่ตลอดเวลา
"เลิกร้องได้แล้วพี่ไม่ได้เป็นอะไรแล้ว"
"ทีหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะคะไม่งั้นพราวจะโกรธมากแล้วจะหนีไปไกลๆเลยด้วย"
"พี่สัญญาว่าพี่จะไม่ทำอีกแล้ว"
หิรัญยื่นมือมาจับมือหญิงสาวเพื่อเป็นการสัญญา
"อื้อ..."
คอนโดxxx
"มาทำไมแค่ถูกถอดจากพรีเซนเตอร์ไม่เข็ดใช่ไหม"
ธรัฐลงมาตากคอนโดเพื่อมาคุยกับเกวลินเพราะเธอขู่ว่าหากเขาไม่มาเธอจะไม่เลิกยุ่งกับแพรวพิลาส
"เกวแค่มาดูหน้าคุณเป็นครั้งสุดท้าย...ถ้าคนอย่างเกวไม่ได้คุณใครหน้าไหนก็อย่าหวังจะได้"
เกวลินพูดด้วยแววตาเคียดแค้น
"คุณจะทำอะไรผม"
ปั้งงงง
"อ้าสส.."
ธรัฐพูดยังไม่ทันขาดคำก็ถูกคนที่ซุ่มอยู่ยิงล้มลงทันที
"หึ่"
เมื่อธรัฐล้มไปตรงหน้าเกวลินก็รีบหนีไปอย่างรวดเร็วเพราะสิ่งที่เธอต้องการสำเร็จแล้ว
สองชั่วโมงต่อมา
"หมอ...ลูกฉันเป็นยังไงบ้างคะ"
"กระสุนเฉียดขั้วหัวใจไปนิดเดียวครับดีที่คนร้ายยิงพลาดตอนนี้หมอยังต้องให้คนไข้อยู่ในห้องไอซียูเพื่อรอดูอาการต่อไปครับ"
"หา...นี่กะเอาถึงตายเลยเหรอ"
หทัยรัตน์แทบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองที่ลูกเธอต้องถูกทำร้ายปางตายขนาดนี้ไม่รู้ว่าคนทำมันจะแค้นอะไรลูกเธอนักหนา
RrrrrrRrrrrrr
"สวัสดีค่ะ...ค่ะคุณตำรวจ"
"ตำรวจได้เรื่องอะไรบ้างหนูแพรว"
หทัยรัตน์หันไปถามแพรวพิลาสหน้าตาตื่น
"ตำรวจโทรมาบอกว่าตามตับคนร้ายได้แล้วค่ะแล้วก็จับตัวคนบงการไว้แล้วด้วย"
"งั้นหนูแพรวอยู่ดูพี่เค้าที่นี่ป้าจะไปดูหน้าคนที่มันทำกับตารัฐเสียหน่อย"
"ค่ะ.."
โรงพัก
เพียะ
"เธอนี่มันสารเลวที่สุด"
เมื่อมาถึงโรงพักคนที่ไม่คิดจะใช้กำลังกับใครอย่างหทัยรัตน์ก็ฟิวส์ขาดตบเกวลินเสียหน้าหันด้วยความโมโห
"....."
"ใจเย็นๆหน่อยคุณ"
ตำรวจรีบเข้ามาห้ามก่อนที่จะมีการทำร้ายผู้ต้องหาอีกครั้ง
"ถ้าลูกชายฉันเป็นอะไรเธออย่าหวังว่าจะได้อยู่อย่างเป็นสุข"
หทัยรัตน์ชี้หน้าเกวลินมือไม้สั่นเพราะยังโกรธมากและสิางที่เธอพูดไม่ได้ขู่แต่เธอจะทำจริง
วันต่อมา
ร้านกาแฟ
"พี่แพรวเป็นห่วงคุณรัฐมากเลยใช่ไหมคะ"
พราวพิไลพาพี่สาวของเธอมานั่งดื่มกาแฟที่ร้านเพราะเห็นว่าพี่เธอไม่ได้นอนตั้งแต่เมื่อคืน
ทั้งแปลกใจที่ไม่คิดว่สพี่สาวเธอจะเป็นห่วงชายหนุ่มเช่นนี้เพราะเห็นบอกว่าไม่ชอบหน้าเขาเท่าไรที่ต้องแต่งเพราะเรื่องผิดพลาด
"ก..คนเห็นกันทุกวันเป็นอะไรพี่ก็ต้องห่วงเป็นธรรมดา"
แพรวพิลาสตอบกลับอย่างอึกๆอักๆเธอก็ไม่คิดเหมือนกันว่าทำไมถึงต้องเป็นห่วงเขาขนาดนี้แต่อาจจะเป็นเพราะเป็นคนที่เห็นกันทุกวันเลยต้องก็เป็นได้
"พราวว่าพี่แพรวกลับไปพักผ่อนก่อนเถอะค่ะเดี๋ยวทางนี้ถ้ามีข่าวอะไรพราวจะรีบโทรบอกยังไงพราวก็เฝ้าพี่รัญตลอดอยู่แล้ว"
พราวพิไลเห็นท่าทีเพลียๆของพี่สาวเธอก็ต้องบอกให้กลับบ้านไปพักผ่อนก่อนเพราะหากเป็นอะไรไปอีกคนคงไม่ดี
"อืม...แล้วนี่คุณรัญเป็นยังไงบ้าง"
"หมอบอกว่าพรุ่งนี้ก็กลับบ้านได้แล้วค่ะแต่ต้องระวังไม่ให้แผลแตกอีก"
"ดีแล้วล่ะ"
อาทิตย์ต่อมา
คอนโด
ธรัฐออกจากโรงพยาบาลได้ก็เลือกที่จะกลับมาพักที่คอนโดแทนที่จะกลับไปนอนบ้าน
"ดูสิแม่บอกให้กลับไปอยู่บ้านก็ไม่กลับ..ยังไงฝากหนูแพรวดูแลตารัฐด้วยน้ะจ้ะ"
หทัยรัตน์นั่งมองลูกชายเธอที่เตียงคิ้วขมวดทั้งฝากฝังให้แพรวพิลาสดูแลแทนเธอด้วย
"ค่ะคุณป้า"
"เลิกเรียกคุณป้าได้แล้วจะแต่งงานกับตารัฐอีกไม่กี่เดือนนี้แล้วเรียกคุณแม่จะ"
"ค่ะคุณแม่"
"แล้วแม่จะมาหาบ่อยๆนะตารัฐ...หนูแพรวมีอะไรขาดเหลือก็โทรบอกแม่เลยนะเดี๋ยวแม่จะรีบให้คนจัดการให้จะได้ไม่ต้องออกไปหาซื้ิอให้เหนื่อย"
"ค่ะคุณแม่"
"งั้นแม่กลับก่อนดึกมากแล้ว"
"เดี๋ยวแพรวไปส่งค่ะ"
หลังจากที่ส่งหทัยรัตน์เรียบร้อยแล้วแพรวพิลาสก็กลับมาดูแลธรัฐต่อ
"เดี๋ยวแพรวเช็ดตัวให้นะคะคุณจะได้นอนสบายๆ"
"อืม..."
"นี่คุณเต็มใจดูแลผมรึเปล่าถ้าไม่เต็มใจผมไม่กวนคุณก็ได้"
ธรัฐพูดออกมาเบาๆกับหญิงสาวในขณะที่เธอถอดเสื้อเพื่อที่จะเช็ดตัวให้เขา
"แพรวก็ดูแลคุณอยู่นี่ไงคะ...บ่นสักคำหรือยัง"
"คืนนี้นอนกับผมนะ"
ชายหนุ่มเอื้อมมือไปจับมือเรียวของหญิงสาวและทำสีหน้าออดอ้อน
"แพรวก็นอนอยู่ในห้องนี้แหละค่ะ"
"หมายถึงนอนข้างๆผม...ถ้าคุณอยู่ไกลผมก็ต้องส่งเสียงเรียกอีก"
"ก็ได้ค่ะ"
และแล้วเหตุผลของชายหนุ่มก็ทำให้แพรวพิลาสยอมแต่โดยดี
ไร่ศังกร20.00 น."พี่รัญคะเดี๋ยวเค้กขอไปหาพี่โจเลยนะคะ"คีรินธิดาขอติดรถมากับหิรัญและพราวพิไลเพื่อที่จะมาหาจักรภพเมื่อมาถึงก็เอ่ยปากอยากจะขอไปหาจักรภพในทันที"ดึกแล้วนะเค้กอยู่ที่นี่ก่อนไปบ้านผู้ชายมืดๆค่ำๆมันดูไม่ดี"หิรัญต้องห้ามหญิงสาวเอาไว้ก่อนเพราะหากพ่อหญิงสาวรู้ว่าเขาดูแลน้องไม่ได้เขาจะถูกตำหนิเอา"ฮืม...แต่เค้กคิดถึงพี่โจนี่คะ""ถ้าคุณอาคินรู้จะตำหนิพี่เอานะ""ก็ได้ค่ะ""นั่นห้องเค้กพี่ให้คนจัดการเตรียมเอาไว้แล้ว""ค่ะ"คีรินธิดาเดินเข้าห้องไปด้วยสีหน้าบูดบึ้ง"ดูท่าน้องเค้กจะคิดถึงหมอโจมากเลยนะคะ"พราวพิไลยิ้มอ่อน"อืม...แต่หมอโจน่ะสิไม่รู้ว่าจะปวดหัวเพิ่มขึ้นรึเปล่า""ทำไมล่ะคะคู่หมั้นมาหาทั้งทีต้องปวดหัวขนาดนั้นเลยเหรอคะ""ก็ตั้งแต่น้องเค้กรู้ว่าพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายให้หมั้นกันเธอก็ตามติดหมอโจแจเลยถึงต้องย้ายมาทำงานที่ไร่นี้ดีที่ว่าตอนนี้ร้องเค้กยังเรียนไม่จบถึงตามมาไม่ได้จะมาได้แค่ช่วงปิดเทอมเท่านั้น""พราวอยากเห็นซะแล้วสิคะว่าติดแจนี่มันขนาดไหน"พราวพิไลสบถขำเล็กน้อยอาทิตย์ต่อมา"ค่ะคุณแม่..อะไรนะคะเลื่อนไวขึ้น..โอเคค่ะเดี๋ยวพราวจะรีบบอกพี่รัญนะคะ""มีอะไรเหรอ"หิรัญเห็นพรา
หลายวันต่อมาหลังจากที่แต่งงานกันเรียบร้อยแล้วหิรัญกับพราวพิไลก็กลับมาอยู่ที่ไร่กันเช่นเดิมส่วนธรัฐก็ย้ายเข้าไปอยู่บ้านใหม่ที่ซื้อเอาไว้ก่อนที่จะแต่งงานได้ไม่เท่าไรเขายังไม่ได้เข้าไปทำงานเพราะอยากให้ร่างกายพร้อมมากที่สุดเสียก่อนที่เขาตัดสินใจซื้อบ้านราคาเหยียบร้อยล้านก็เพราะเตรียมพร้อมสำหรับวันหน้าที่จะมีเจ้าตัวน้อยมาวิ่งเล่นรอบๆบ้านนั่นเองและคงไม่ใช่แค่คนเดียวสิ่งที่เขาหวังไว้ในใจตอนนี้หากจะให้บ้านหลังใหญ่ไม่เหงาเขาขอมีลูกอีกสักสองสามคนกำลังดี"แพรว..""คะ..""เราไปที่ไร่กันไหม""ไปสิคะ..แพรวอยากจะขอคุณไปอยู่พอดีเลย""งั้นพรุ่งนี้เราไปกันเลยดีไหม""ค่ะ...""ใจจริงตอนคุณท้องอยู่แบบนี้ผมอยากให้คุณไปใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นเหมือนกันนะเพราะที่นั่นทั้งอากาศแล้วก็สภาพอวดล้อมดีมากๆเลย""คุณจะให้แพรวไปไหมล่ะคะ"หญิงสาวยิ้มอ่อนหันหน้าถามคนเป็นสามี"ทำใจยาก...อืม...ไม่ให้ไปดีกว่าเพราะผมคงทนคิดถึงคุณไม่ไหว"ธรัฐบุ้ยปากเล็กน้อยคิดไปคิดมาให้เธออยู่ที่นี่กับเขาจะดีกว่าหากอยู่แต่บ้านคงจะไม่มีมลพิษอะไรมากมายทั้งเครื่องกรองอากาศก็ติดเต็มบ้าน"ปากหวานจังเลยนะคะ...หวานแบบนี้กับใครบ้างคะเนี่ย"แพรวพิลาสเอ่ยป
เกริ่น และแล้วเหตุการณ์อันวุ่นวายกับชีวิตของเธอก็ได้เกิดขึ้นเมื่อเธอต้องมาเล่นละครเป็นภรรยาจำเป็นอย่างไม่เต็มใจ...พราวพิไลหญิงสาวอายุ23ปีตัวเล็กร่างบางสูงแค่155หน้าตาจิ้มลิ้มปากนิดจมูกหน่อยดวงตากลมโตขนตางอนยาวราวกับตุ๊กตาผิวขาวอมชมพูผมตรงดกดำยาวหนาถึงกลางหลังเธอเป็นหญิงสาวโลกสวยบุคลิกแอบซนเล็กน้อยเป็นลูกคุณหนูที่ใช้ชีวิตติดดินเพราะรู้ว่าที่บ้านเริ่มมีปัญหาเรื่องเงินค่อนข้างรักความเป็นส่วนตัวชอบอ่านนิยายเป็นชีวิตจิตใจหากเธอแต่งงานกับพวกหนังสือที่เก็บสะสมมาจนเต็มห้องเธอก็คงจะทำไปแล้วเพราะการอ่านหนังสือคือชีวิตของเธอจริงๆเมื่อวันนึงเหตุการณ์อันวุ่นวายกับชีวิตของเธอก็ได้เกิดขึ้นเมื่อเธอต้องมาเล่นละครเป็นภรรยาจำเป็นอย่างไม่เต็มใจในไร่ที่มีชายหนุ่มเจ้าของไร่อกหักและขับรถเกิดอุบัติเหตุจนความจำเสื่อมและเธอก็ต้องมานั่งคอยตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องราวของเธอและเขาไม่เว้นแต่ละวันทั้งยังมีบางครั้งเธอยังต้องพึ่งยานอนหลับแอบใส่ให้ชายหนุ่มกินเพื่อที่จะไม่ต้องมายุ่มย่ามกับเธอในยามค่ำคืนอีกด้วยหิรัญ ชายหนุ่มวัย30ปีสูง185รูปร่างหล่อเหลาหน้าคมจมูกโด่งปากหนาเป็นกระจับเรือนร่างบึกบึนราวกับภาพวาด
ซ่าาาาา"...ทางที่คุณเลือกฉันไม่สามารถทนกับมันได้จริงๆขอโทษนะคะรัญ.."คำพูดของแฟนเก่าของเขาที่พึ่งเลิกรากันไปมันก้องอยู่ในหัวของชายหนุ่มที่กำลังขับรถด้วยความเร็วในขณะที่กำลังเมาสายฝนพรำลงมาพอเห็นผ่านแสงไฟหน้ารถไรๆถนนในเมืองใหญ่ตอนดึกดื่นเที่ยงคืนนี้มันไม่ได้มากมายอะไรจึงทำให้คนที่กำลังเมาเหยียบคันเร่งได้อย่างไม่ต้องผ่อน"หึ่...ผมก็พึ่งจะรู้นะว่าทั้งหมดที่คุณทำดีกับผมก็เพื่อหวังที่จะสบายเท่านั้น"ชายหนุ่มสบถออกมาอย่างเจ็บใจที่พึ่งจะรู้ตัวเมื่อไม่นานว่าแฟนสาวที่เขาวาดวิมานว่าจะใช้ชีวิตร่วมกันเธอรักเพียงแค่เงินทองของเขาทั้งนั้นในเมื่อเขาเลือกที่จะทิ้งความสุขสบายมาอยู่ที่ไร่เธอจึงให้เหตุผลว่าเธอไม่อยากลำบากที่ทนคบเขาเพราะคิดว่าเขาจะได้นั่งตำแหน่งนายธนาคารใหญ่เท่านั้นปรี๊นนนเอี๊ยดดดดปั้งงงงงไม่นานรถของเขาก็เสียหลักชนกับไหล่ทางจนรถกระเด็นกระดอนแหลกเป็นเสี่ยงๆดีที่ช่วงเวลานี้รถที่สัญจรไปมาไม่เยอะนักรถคันอื่นจึงหักหลบกันได้2 เดือนต่อมาบ้านวัฒนคีริน"ฉันกลับก่อนนะแม่พิศยังไงก็ลองทาบทามลูกๆเราให้ฉันหน่อยแล้วกันถือว่าช่วยฉันเอาบุญเถอะนะ"หทัยรัตน์ภรรยานายธนาคารใหญ่วัยกลางคนที่มาขอร้องเพื่
"คุณ!!"แพรวพิลาสหันมาหาหญิงสาวที่สาดน้ำใส่เธอก็จำได้ทันทีว่าเธอคือนาถลดาภรรยาของอติรุจที่บุกไปถึงสิงคโปร์เพื่ออาละวาดเธอวันนั้นเสียงด่าทอของนาถลดาทำเอาแพรวพิลาสตัวสั่นเล็กน้อยเธอไม่ได้ผิดตามที่หญิงสาวกล่าวหาก็จริงแต่เธออายคนในนี้อย่างมากจนแทบจะร้องให้"เอาผัวฉันไปกกไว้ไหนบอกมาเดี๋ยวนี้นะ"นาถลดารีบเข้ามาบีบไหล่แพรวพิลาสอย่างโมโหเพราะตอนนี้สามีของเธอหายไปตั้งแต่เธอไปอาละวาดวันนั้น"ฉันไม่ได้ติดต่อกับสามีคุณแล้วนะคะแล้วฉันก็ไม่รู้ว่าเค้าอยู่ไหนด้วย"แพรวพิลาสตอบด้วยน้ำตา"โกหก...อีหน้าด้านเอาผัวฉันคืนมานะ.."เมื่อได้ยินคำตอบดังนั้นนาถลดาจึงโมโหและโวยวายดังกว่าเดิมจนพราวพิไลใช้แรงทั้งหมดกระชากนาถลดาลงไปกองกับพื้น"นี่หยุดเดี๋ยวนี้นะไปตามหาผัวเธอที่อื่นที่นี่ไม่มีผัวเธอแล้วก็กรุณาคุมผัวตัวเองให้อยู่อย่าให้มายุ่งกับพี่สาวฉัน"พราวพิไลตะคอกใส่นาถลดาอย่างโมโห"หื้มม.."นาถลดาลุกจากพื้นเงื้อมมือหมายจะฟาดไปที่หน้าของพราวพิไลแต่ก็ต้องหยุดชะงักเพราะพราวพิไลตั้งท่าสู้อย่างไม่มีท่าทีจะยอม"เข้ามาสิ..ต่อยปากแตกแน่ไปค่ะพี่แพรว"เมื่อเห็นอีกฝ่ายเริ่มไม่กล้าพราวพิไลจึงรีบพาพี่สาวของเธอออกไปจากที่นี่ท
"ใช่จะก็หนูพราวลูกของน้าพิศไง"หทัยรัตน์บอกลูกชายของเธอด้วยสีหน้าเรียบเฉย"ผมจำได้ว่าผมไม่เคยเจอเธอนะครับแล้วเธอมาเป็นภรรยาของผมตอนไหน"หิรัญยังคงตั้งคำถามกับคนเป็นแม่ด้วยท่าทีตนกเล็กน้อย"ก็ก่อนเราเกิดอุบัติเหตุได้ไม่นานหรอกจะ""คุณแม่อำผมเล่นหรือเปล่าครับถ้าเธอเป็นภรรยาผมจริงตอนที่ผมพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลเธอทำไมไม่มาดูแลผมบ้างเลยล่ะครับ""เอ่อ...ก็...จริงๆแล้วน้องก็ไม่ใช่ไม่ห่วงเรานะตารัญแต่น้องรักเรามากจนทนเห็นเราป่วยอยู่ในโรงพยาบาลไม่ได้น่ะช่วงที่เรายังไม่ฟื้นน้องก็มานะแต่เห็นเราทีไรก็เป็นลมไปทุกทีเลยแม่ก็เลยไม่ให้เธอมาจะดีกว่าแล้วพอเราหายดีค่อยมาเจอกันทีเดียว"หทัยรัตน์ตอบลูกชายของเธออย่างรื่นไหลหากลูกชายเธอไม่เชื่อเธอแล้วจะเชื่อใคร"งั้นเหรอครับ"หิรัญขมวดคิ้วเป็นปมแน่นอยู่ครู่หนึ่งจึงหันมามองหน้าแม่ของเขาอย่างสงสัยแต่ก็ไม่ได้คิดจะถามคำถามอะไรอีกต่อไปขอรอดูหน้าคนที่แม่เขาบอกว่ามาเป็นภรรยาของเขาก่อนก็แล้วกันวันต่อมา"แม่พวงที่เค้าว่ากันว่าภรรยาคุณรัญกำลังจะมานี่จริงเหรอะวะ"บัวตองเป็นแม่ครัวอยู่ในเรือนศังกรถามพวงที่เป็นแม่ครัวที่เดียวกับเธอด้วยความสงสัยเพราะไม่เคยได้ยินว่าเจ้าน
"โอเคนะจ๊ะ"หทัยรัตน์มองหน้าพราวพิไลอย่างเป็นกังวลเล็กๆหวังว่าหญิงสาวจะไม่เปลี่ยนใจตอนนี้หรอกนะ"ค่ะ..พร้อมค่ะ""ตามแม่มาเลยจะ"เมื่อพราวพิไลพยักหน้าหทัยรัตน์จึงโล่งอกและเดินนำหน้าหญิงสาวมาด้านใน"น้องมาแล้วนะรัญ""......"หิรัญหันหน้ามามองหญิงสาวร่างเล็กผมยาวสวยหน้าจิ้มลิ้มสะกดสายตาเขามองเธอด้วยอาการแน่นิ่งจนคนรอบข้างดูไม่ออกว่าเขานั้นคิดอะไรอยู่"พี่รัญ...พราวคิดถึงพี่มากๆเลยค่ะ...พราวดีใจมากเลยนะคะที่พี่รัญดีขึ้นมากๆแล้ว""เอ่อ.."พราวพิไลมองชายหนุ่มที่หล่อเหลานึกว่าหลุดออกมาจากปกนิตยสารทั้งรีบฉีกยิ้มกว้างรวบรวมความกล้ารีบวิ่งโล่เข้ามาโผกอดคนที่นั่งอยู่ที่โซฟาแน่นทั้งยังซุกอกแกร่งจนคนตัวโตที่ตั้งตัวไม่ถูกนั่งตัวแข็งทื่อ"ท่าคุณพราวจะคิดถึงคุณหนูมากเลยนะคะ"อุ่นเรือนยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่"ค่ะ..นม.."พราวพิไลพยักหน้าให้อุ่นเรือนพรางขยิบตารู้กัน"อืม...แม่ครับผมอยากจะเข้าห้องพักผ่อนแล้ว"หิรัญหันไปบอกคนเป็นแม่ทั้งยังรีบยกมือประคองโอบร่างเล็กที่เอาแต่กอดเขาอยู่ไว้เบาๆ"อ๋อ..จะ..งั้นเดี๋ยวแม่พาไปนะ""ก็ภรรยาผมมาแล้วนี่ครับให้เธอดูแลผมก็ได้อีกอย่างผมเองก็อยากคุยกับเธออยู่หลายเรื่องเลย"หิร
"ตารัฐก็แบบนี้ล่ะครับทำอะไรรีบๆร้อนๆผมต้องขอโทษด้วยนะครับที่ตารัฐเหมือนจะเสียมารยาท"อนุชิตพอจะดูอาการของลูกชายของเขาออกจึงต้องเอ่ยปากขอโทษคนทั้งสอง"ไม่เป็นไรค่ะคุณรัฐน่าจะยุ่งๆจริงแหละค่ะ"พิศมัยคิดในแง่ดรเอาไว้ก่อนเพราะเธอไม่อยากทำให้ลูกสาวของเธอเสียขวัญก่อนจะเริ่มงาน"แล้วหนูแพรวพร้อมที่จะทำงานที่นี่เมื่อไร""แพรวพร้อมเริ่มงานทันทีค่ะ""งั้นเป็นพรุ่งนี้ก็แล้วกันนะเดี๋ยวลุงจะให้ศจีเลขาลุงสอนงานเราสักสามวันก่อน""ค่ะคุณลุง"เมื่อตกลงกันได้ทั้งสามก็อยู่คุยกันไม่นานพิศมัยจึงพาแพรวพิลาสกลับเย็นของวันไร่ศังกร"อืม..."พราวพิไลตื่นขึ้นมาในช่วงเย็นแต่เธอไม่เห็นหิรัญจึงรีบลุกจากเตียงเปิดประตูออกมาข้างนอก"คุณแม่คะพี่รัญล่ะคะ"หญิงดาวเดินมาหาหทัยรัตน์ที่นั่งดูทีวีอยู่ตรงโซนนั่งเล่น"ออกไปเดินหน้าบ้านน่ะฝนพึ่งหยุดตกอากาศกำลังดี""อ๋อ..ค่ะ..""พรุ่งนี้แม่จะกลับแล้วนะหนูพราว""ทำไมเร็วจังล่ะคะ"พราวพิไลถึงกับใจหายวาบเธอคิดว่าหทัยรัตน์จะอยู่ที่นี่กับเธอและหิรัญเสียอีก"แม่มีธุระหลายอย่างที่ต้องทำทางนี้แม่ก็ฝากพี่เค้าด้วยนะ"หทัยรัตน์ถือโอกาสนี้ฝากฝังให้พราวพิไลดูแลลูกชายของเธอเสียเลยเพราะเ