"ใช่ฉันคือเสี่ยเกลี้ยงลูกเสี่ยเคี้ยงจำหน้าฉันไว้ดีๆเพราะฉันนี่แหละจะเป็นคนฆ่าผัวแก"
"ไม่นะ"
พราวพิไลส่ายหัวพัลวันเธอจะไม่ยอมให้หิรัญเป็นอะไรไปง่ายๆเด็ดขาด
"ไม่ทันแล้วล่ะมันกำลังมาให้ฉันฆ่าถึงที่"
เสี่ยเกลี้ยงยิ้มเย้ยหญิงสาวอย่างสะใจ
"เลว...เลวที่สุด"
หญิงสาวทำได้แต่ตะโกนด่าทอคนที่เลวจนเธอสรรหาคำพูดออกมาด่าไม่ไหวจริงๆ
"ขับให้เร็วกว่านี้หน่อยสิหมอ"
บนถนนเลาะชายป่ารถยนต์สีดำวิ่งมาด้วยความเร็วโดยมีจักรภพเป็นคนขับหิรัญเองดูท่าความเร็วขนาด120กิโลเมตรต่อชั่วโมงมันยังไม่พอใจเขาเอาเสียเลย
ตอนนี้ในรถมีลุงครามจักรภพแลพหิรัญที่ล่วงหน้ามาก่อนพวกตำรวจเพราะเมื่อได้รับสายจากเสี่ยเกลี้ยงว่าต้องการแลกตัวหิรัญกับพราวพิไลที่ไหนพวกเขาก็ออกมากันเลย
"นี่ก็เหยียบจะมิดอยู่แล้วนะครับคุณรัฐ"
จักรภพคิดว่าเขาคงทำความเร็วกว่านี้ไม่ได้เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้มันจะไม่ดีต่อสถานหารณ์ตอนนี้
"เลี้ยวซ้ายข้างหน้าเลยครับหมอ"
เมื่อรถขับมาถึงทางแยกลุงครามก็รีบบอกพิกัดกับจักรภพว่าโกดังที่เสี่ยเกลี้ยงพาพราวพิไลมาอยู่ในซอยเปลี่ยวนี้
"ไอ้เกลี้ยงกูมาแล้วปล่อยเมียกูเดี๋ยวนี้"
เมื่อรถเลี้ยวเข้าซอยขับมาถึงโกดังยังไม่ทันจอดดีหิรัญก็เปิดระตูวิ่งเข้าไปในฌกดังทันทีอย่างไม่เกรงกลัวว่าตัวเองจะเป็นอันตราย
"หึ่..เอาชีวิตมึงมาแลกสิ"
เสี่ยเกลี้ยงกระชากคอเสื้อพราวพิไลขึ้นบังตัวเองเอาไว้ทั้งส่งเสียงต่อรองกับคนที่เข้าทาอาละวาดอย่างบ้าคลั่ง
"ได้.."
หิรัญไม่กลัวอะไรทั้งนั้นให้พราวพิไลปลอดภัยเป็นพอชายหนุ่มเดินดุ่มหมายจะเข้ามาแลกตัวกับหญิงสาวแต่มีหรือพราวพิไลที่ห่วงหิรัญกว่าตัวเองจะยอม
"พี่รัญ"
ปึก
"โอ้ยยยย..."
หญิงสาวหาจังหวะกระทืบเท้าเสีายเกลี้ยงแล้วเธอจึงรีบวิ่งเข้าไปหาหิรัญอย่างรวดเร็ว
"พราว.."
ปั้งง..
"อร้ายย..."
เสี่ยเกลี้ยงลุกขึ้นมาได้ก็วาดแขนยิงปืนใส่หญิงสาวกระสุนนัดนี้พลาดเลยทำให้พราวพิไลถูกยิงที่ต้นแขนแค่ถากๆแต่นั่นก็ทำให้เธอล้มลงต่อหน้าต่อตาชายหนุ่มไปเหมือนกัน
"พราววววว..."
ปั้งๆๆ
"อ้าส.. "
หิรัญกัดฟันกรอดรีบรับร่างพราวพิไลเอาไว้พร้อมยิงไปที่เสี่ยเกลี้ยงเต็มๆที่ขาสองนัด
"หนีก่อนเสี่ย...ตำรวจมาเต็มเลย"
อาคมที่มากับเสี่ยเกลี้ยงได้ยินเสียงรถตำรวจและ้ห็นท่าจะไม่ดีเลยต้องรีบลากตัวเสี่ยเกลี้ยงหนีออกๆปก่อน
"พราว..พราว..อย่าเป็นอะไรนะพราว.."
หิรัญน้ำตาคลอแทบร่วงเมื่อเห็นพราวพิไลเจ็บอยู่ตรงหน้า
"พี่รัญเป็นอะไรไหมคะ"
พราวพิไลถามหิรัญเสียงอ่อนเธอเจ็บมากในตอนนี้แต่ก็ยังห่วงอีกคนมากกว่า
"พี่ไม่เป็นอะไรเลยพราว..อย่าพึ่งหลับนะพราว..พราวว.."
หิรัญร้องเสียงหลงเมื่อเห็นพราวพิไลหลับไปต่อหน้าต่อตาภาพนี้มันบีบหัวใจของเขาแทบจะขาด
"พาคุณพราวไปโรงพยาบาลก่อนครับนายทางนี้ผมจัดการเอง"
ลุงครามรีบเจ้ามาลอกคนที่กำลังทำอะไรไม่ถูกให้พาพราวพิไลไปโรงพยาบาลพร้อมหมอโจส่วนตรงนี้เขาและตำรวจจะจัดการต่อเอง
"คนเจ็บไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงครับตอนนี้เย็บแผลเรียบร้อยแล้วอีกสักพักจะพาออกไปห้องพักผู้ป่วยแล้วครับ"
หลังจากที่พาพราวพิไลขึ้นรถมาได้จักรภพก็ดิ่งตรงไปที่โรงพยาบาลด้วยความเร็วจนใช้เวลาไม่กี่สิบนาทีก็ถึงโรงพยาบาลและตอนนี้พราวพิไลก็ปลอดภัยดีแล้วรอแค่พยาบาลพาออกไปที่ห้องพักผู้ป่วยในเท่านั้น
"ครับ...ขอบคุณครับหมอ"
หิรัญค่อยหายใจทั่วท้องเมื่อรู้ว่าคนรักของตนปลอดภัยเขานั่งทรุดลงกับเก้าอี้คิดอะไรในใจอย่างเคร่งเครียดและเขาก็คิดได้ว่าเขาต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อที่จะปกป้องคนรักของเขาให้ได้แม้ว่าเขาจะต้องเจ็บก็ตาม
วันต่อมา
"อึก...อืม..."
พราวพิไลหลับไปทั้งคืนตื่นมาอีกทีก็ช่วงสายของวันหญิงสาวสะลึมสะลือมองห้องสีาเหลี่ยมสีขาวก็รู้ได้ทันทีว่าที่นี่คือโรงพยาบาลทั้งยังรู้สึกเจ็บปวดที่แขนซ้ายจนสีหน้าเหยเกอีกด้วย
"ตื่นแล้วเหรอคะคุณพราว"
"นม.."
"จิบน้ำก่อนค่ะนี่เป็นยังไงบ้างคะ"
อุ่นเรือนมาหาหญิงสาวเมื่อช่วงเช้าเพราะเธอจะมาบอกกับพราวพิไลว่าเธอนั้นจะกลับกรุงเทพแล้วเพราะคำสั่งของหิรัญเนื่องจากเป็นห่วงในความปลอดภัยของเธอ
"ปวดแขนค่ะ"
"อย่าพึ่งขยับค่ะเดี๋ยวแผลจะอักเสบนะคะ"
"พี่รัญล่ะคะนม"
หญิงสาวมองหาคนรักรอบห้องแต่กลับไม่เห็นแม้แต่เงา
"คือคุณรัญยุ่งอยู่ที่ไร่น่ะค่ะเลยไม่ได้มาเฝ้าคุณพราว"
อุ่นเรือนตอบเสียงอ่อนบางเรื่องที่เธออยากจะพูดออกมาแต่มันก็พูดไม่ได้คิดเอาเสียว่าเมื่อถึงเวลาที่หญิงสาวต้องรับรู้ก็จะรู้เอง
"อ๋อ..พราวเข้าใจค่ะ"
พราวพิไลเข้าใจในสิ่งที่อุ่นเรือนพูดแต่เธอก็อดนอยไม่ได้ที่หากตื่นมาเห็นหน้าหิรัญก็คงจะดี
"นมจะมาบอกคุณพราวว่านมจะกลับกรุงเทพแล้วนะคะ"
"ดีแล้วค่ะนมที่นี่ไม่ปลอดภัย"
"คุณพราวอบากกลับไปไหมคะ"
"ไม่ค่ะนมพราวห่วงพี่รัญพราวจะไม่ไปไหนทั้งนั้นค่ะ"
พราวพิไลส่ายหัวเบาๆพร้อมเม้มปากถึงเธอจะเจอเรื่องร้ายแค่ไหนขอแค่กิรัญรักเธออยู่เธอก็จะอยู่เคียงข้างเขาตลอดไป
"ค่ะคุณพราว"
อุ่นเรือนยิ้มอ่อนนับถือใจสาวน้อยคนนี้จริงๆ
วันแล้ววันเล่าจนครบกำหนดที่พราวพิไลต้องออกจากโรงพยาบาลหิรัญก็ยังไใ่โผล่หน้ามาเจอเธอทั้งโทรไปเขาก็ไม่เคยรับจนตอนนี้พราวพิไลอดคิดไม่ได้ว่าหิรัญยังห่วงเธออยู่หรือเปล่า
"นายให้มารับคุณพราวกลับไร่ครับ"
"สองสามวันนี้พี่รัญไม่ว่างเลยเหรอคะลุงคราม"
พราวพิไลขึ้นรถด้วยสีหน้าห่อเหี่ยวถามลุงครามเสียงอ่อนถึงเรื่องหิรัญ
"เอ่อ...ไว้คุณพราวกลับไปแล้วก็จะเห็นเองครับ"
ลุงครามเองก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเขาปัดที่จะไใ่ตอบแต่ให้หญิงสาวไปรับรู้ด้วยตัวเองจะดีกว่าว่าเกิดอะไรขึ้น
"ไม่นอนพักก่อนเหรอคะคุณพราว"
ไม่นานลุงครามก็พาพราวพิไลมาส่งที่เรือนศังกรตอนนี้พราวพิไลกระวนกระวายอยู่ไใ่ติดบ้านถึงร่างกายเธอยังไม่ค่อยจะดีแต่ก็ขออกไปดูหิรัญหน่อยเถอะว่าเขานั้นยุ่งอะไรนักหนา
"ไม่ค่ะป้าพวง..ตอนนี้พี่ัรัญอยู่ไหนคะพราวอยากเจอพี่รัญ"
"น่าจะอยู่ที่เรือนกาแฟนะคะคุณพราว"
"อ๋อ.. ค่ะ"
เมื่ิอได้คำตอบจากป้าพวงพราวพิไลก็เดินมาที่เรือนกาแฟเพราะอยู่ไม่ห่างจากเรือนศังกรนักเธอจะเอาคำตอบจากเขาให้ได้ว่างานอะไรมันยุ่งจนไม่เห็นความสำคัญของเธอเลย
"รัญคะนึกยังไงยอมคุยดีกับชาคะเนี่ย"
สุพิชชายิ้มหน้าระรื่นเมื่อกลับมาครั้งนี้เธอได้รับการต้อนรับจากหิรัญและดูเหมือนหิรัญจะจำเธอได้และมีความรู้สึกให้เธอเหมือนเดิมแล้วด้วยเธอไม่สนว่าชายหนุ่มจะมีพราวพิไลอยู่เพราะในเมื่อหิรัญเลือกเธอ
"ผมก็คิดถึงคุณไง.."
หิรัญโอบกอดสุพิชชาอยู่ที่ระเบียงชมวิวของเรือนกาแฟทั้งยังทำเสียงอ่อนเสียงหวานหัวร่อต่กระซิกกันอย่างไม่อายคนงานในไร่ที่กำลังทำงานอยู่
"พอไม่มีเมียอยุ่ด้วยก็ปากหวานใส่ชาเลยนะคะ"
"ผู้หญิงคนนั้นน่ะเหรอก็แค่ของเล่นแก้เบื่อพูดดีด้วยหน่อยก็อ่อนระทวยแล้ว"
เพล้งงงง
"ว้ายย..."
เสียงแจกันที่ปามาทางทั้งสองทำเอาสุพิชชาร้องเสียงหลงและฝีมือคนที่ทำคือพราวพิไลที่แอบฟังทั้งสองอยู่นานจนเลือดขึ้นหน้าและพอจะรู้เหตุผลแล้วว่สทำไมหิรัญทิ้งเธอเอาไว้คนเดียวไม่เคยไปเยี่ยมเลย
"ทำกับพราวแบบนี้ใช่ไหมคะเมื่อกี้พราวได้ยินหมดแล้วพราวมันโง่เองที่เชื่อพี่รัญ"
เพล้งงง.. ปั้ก.. ตุ้บ..
พราวพิไลเสียงสั่นเครือเพราะกำลังสะอื้นน้อยใจทั้งมือขวาที่ยังดีก็ปัดป่ายของใช้ล่วงหล่นระบายอารมณ์อย่างเคียดแค้น
"แพ้แล้วพาลนี่นาจะไปไหนก็ไปเลย"
สุพิชชาเอ่ยปากไล่พราวพิไลด้วยสีหน้าเย้ยหยัน
"......."
หิรัญคร้านจะมองสีหน้าของพราวพิไลตอนนี้เลยหันไปมองทางอื่นแทน
"หึ่..ฉันไม่น่าเสียรู้ผู้ชายเฮงซวยแบบนี้เลยผู้ชายมันก็มักมากเหมือนกันหมด"
พราวพิไลเดินไปยืนต่อหน้าหิรัญทั้งเค้นคำพูดต่อว่าชายหนุ่มอย่างเหลืออดแล้วจึงเดินกลับไปเพื่อไปเก็บกระเป๋ากลับบ้านของเธอเธอจะไม่ทนอยู่กับคนที่ไม่เห็นค่าของเธอเด็ดขาด
"คุณพราวจะไปไหนคะ"
ป้าพวงเห็นหญิงสาวเดินถือกระเป๋าออกมาก็ต้องถามด้วยความตกใจ
"พราวจะกลับกรุงเทพค่ะ"พราวพิไลพูดพร้อมมองจ้องคนที่กำลังเดินควงกันเข้าบ้านมาด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์แอบน้อยใจลึกๆที่ชายหนุ่มรู้ว่าเธอจะไปยังไม่แม้อตากันมามองหน้าเธอเลยสักนิด"นายคะ.. "บัวตองส่งเสียงเอะอะโวยวายทั้งลากมาลีมานั่งกองต่อหน้าหิรัญและคนในบ้าน"มีอะไร.. ""นังลีมันบอกว่าลูกในท้องมันเป็นลูกนายค่ะจริงรึเปล่าคะ"บัวตองถามด้วยท่าทีร้อนรนเพราะเธอยังไม่ค่อยเชื่อคำพูดลูกเธอเท่าไรจึงต้องลากกันมาถามให้รู้เรื่อง"จะบ้าเหรอคนอย่างรัญไม่ไฝ่ต่ำไปเอาลูกเธอหรอก"สุพิชชาตวาดเสียงหลงเพราะรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้"จริง"หิรัญตอบหน้าตาเฉย"อะไรนะคะรัญ"สุพิชชาถึงกับหน้าชาอึ้งไปชั่วขณะรวมทั้งคนอื่นๆในที่นี้ก็เช่นกัน"นายต้องรับผิดชอบลูกฉันนะคะ"บัวตองได้ยินแบบนั้นเธอเป็นแม่ก็ต้องเรียกร้องความยุติธรรมให้กับแม่ของเธอ"อืม..ฉันจะรับผิดชอบเอง"หิรัญไม่ได้ปฏิเสธที่จะไม่รับผิดชอบ"หึ่...ขอให้ปวดหัวตายกับผู้ชายเฮงซวยคนนี้นะ..หืย"เพียะพราวพิไลกัดฟันกรอดก่อนกลับเธอเดินดุ่มไปฟาดหน้าชายหนุ่มที่หลอกเธอจนเธอเชื่อใจว่ารักเธอคนเดียวแต่กลับกระทำสำส่อนกับคนอื่นไปทั่ว"....."หิรัญมองตามหลังพราวพิไลด้วยสีหน้าที่คนอื
เรือนศังกร"ทำไมทำหน้าเครียดๆคะรัญ"สุพิชชาเดินกลับมาด้วยอารมณ์หงุดหงิดแต่เธอก็ต้องเปลี่ยนอารมณ์เป็นสงสัยแทนเพราะเธอเห็นหิรัญกำลังวุ่นสีหน้าเคร่งเครียดกับเอกสารกองโตในห้องทำงาน".......""เอกสารอะไรคะ""เอกสารยึดทรัพย์...ผมไม่เหลืออะไรอีกแล้ว"หิรัญเงยหน้ามองหญิงสาวด้วยสีหน้าหดหู่"อ..อะไรนะคะ"สุพิชชาไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองสักนิด"ที่ไร่นี้ขาดทุนมานาน...ก็เลยต้องทำให้ผมต้องเอาที่ไปจำนองแล้วตอนนี้มันก็ถูกยึดแล้ว""รัญก็ให้รอบครัวรัญช่วยสิคะ"หญิงสาวพยายามหาทางออกให้หิรัญเธอเองไม่อยากให้เขาตกอับเพราะถ้สหากเธออยู่กับเขาก็จะยิ่งลำบากมากขึ้นไปอีกเธอทนไม่ได้แน่นอน"สมบัติของครอบครัวผมสละสิทธิ์ไม่รับมานานแล้วทุกอย่างเป็นของธรัฐ""ทำไมเรื่องนี้รัญไม่เคยบอกชาเลยล่ะคะ""ผมคิดว่าเรื่องนี้มันไม่สำคัญอะไรถ้าเรารักกัน""......"สุพิชชาอึ้งไปครู่หนึ่งในหัวของเธอตอนนี้กำลังคิดอยู่ว่าจะเอายังไงดีแต่แล้วเธอก็เลือกที่จะไม่ลำบากและรู้ตัวว่าต้องไปจากเขาอย่างรวดเร็วเพราะดีไม่ดีเงินเก็บที่เธอมีอาจถูกหิรัญเรียกร้องให้เธอช่วยก็เป็นได้ซึ่งเธอก็ไม่ยอมแน่นอน"ผมต้องย้ายออกจากที่นี่เราไปหาบ้านเช่าเล็กๆกันนะชา"
ชั่วโมงต่อมาสำนักงานธนาคารRrrrrr"หืม...มือถือใคร.."แพรวพิลาสต้องหยุดชะงักในขณะที่จะกดลิฟท์เพื่อขึ้นไปชั้นทำงานเธอหยิบมือถือที่กำลังดังออกมาดูทั้งมีสีหน้าสงสัยว่ามือถือเครื่องนี้มาอยู่ในกระเป๋าเธอได้อย่างไร"คุณแพรวเมื่อวานผมเอามือถือใส่กระเป๋าคุณไว้คุณน่าจะไม่เห็นมาถึงแล้วก็เอามาให้ผมที่ห้องด้วยนะครับคุณภรรยา""คุณรัฐ.."เมื่อแพรวพิลาสกดรับสายเธอก็ต้องคิ้วขมวดส่งเสียงแข็งกลับๆปให้ปลายสายอย่างโมโหแล้วจึงกดวางรีบเดินดุ่มเข้าลิฟท์ที่กำลังเปิดด้วนอาการโมโหที่ธรัฐชอบหาเรื่องเรียกร้องความสนใจจากเธออยู่เรื่อย"เลิกเล่นแบบนี้กับแพรวสักทีคุณรัฐ...อย่ามาเรียกร้องความสนใจจากแพรว... เพราะแพรวจะไม่สนใจคุณอีกอย่างก็เลิกเรียกฉันว่าภรรยาคุณสักทีคืนนั้นแพรวถือว่าทำทานก็แล้วกันได้ยินไหมคะว่าหยุดเรียกฉันว่าภรรยาคุณเสียทีฉันไม่ชอบบบ.."เมื่อมาถึงหญิงสาวก็พ่นคำพูดออกมารัวๆให้คนที่กำลังนั่งเก้าอี้ราคาแพงหันหลังให้เธออยู่"หนูแพรว!!"อนุชิตได้ยินชัดทุกคำเมื่อหญิงสาวพูดจบ้ขาจึงค่อยๆหันมา"ค..ค..คุณ..ลุง..แพรวแค่เอามือถือมาคืนคุณรัฐค่ะขอตัวก่อนนะคะ"แพรวพิลาสถึงกับตัวชาวาบรีบวางมือถือและวิ่งออกไปทันที"เร
ลานจอดรถ"ว้ายย.."แพรวพิลาสกำลังจะเดินมาที่รถของเธอหลังจากที่ซื้อของใช้ส่วนตัวเสร็จแต่ก็ถูกชายร่างใหญ่สองคนมารั้งตัวเธอแนบกับรถเอาไว้จนเธอร้องเสียงหลง"ว่าที่เจ้าสาวงั้นเหรอถ้าแกหน้าเละไปแล้วดูซิรัฐยังจะรักแกอยู่ไหม"เกวลินที่เก็บความแค้นและรอวันนี้วันที่เธอจะทำให้แพรวพิลาสเสียโฉมเพื่อที่ธรัฐจะได้ทิ้งหญิงสาวเหมือนกับที่เขาไม่แยแสเธอบ้าง"จะทำอะไร""ฉันจะเอาน้ำกรดสาดหน้าแกไง""ทางนี้ค่ะคุณตำรวจคุณนางแบบคนนี้กำลังจะทำร้ายคนอื่นค่ะ"คีรินธิดาสาวน้อยวัย20ส่งเสียงตะโกนเสียงหลงเมื่อเห็นว่าแพรวพิลาสกำลังจะถูกทำร้าย"เจ้ตำรวจมาผมไปก่อนนะ"ชายสองคนได้ยินวาสมีตำรวจมาเขาจึงรีบปล่อยหญิงสาวและวิ่งหนีไป"อ้าวเดี๋ยวสิ"พลั้ก.. "โอ้ยย.."จังหวะนั้นแพรวพิลาสถือโอกาวผลักเกวลินจนล้มและเธอก็รีบหนีไปพร้อมกับสาวน้อยอีกคนที่ยืนรอช่วยเธออยู่"พี่คะทางนี้ค่ะ"ครู่ต่อมา"ขอบคุณมากเลยนะคะที่ช่วยพี่"แพรวพิลาสนั่งอยู่ในร้านอาหารที่คนค่อนข้างพลุกพล่านจะได้ไม่มีใครบุ่มบ่ามมาทำร้ายเธออีกทั้งขอบคุณสาวน้อยหน้ารักตรงหน้าที่ช่วยเธอเอาไว้"ไม่เป็นไรค่ะพี่แพรวรออยู่ตรงนี้นะคะเดี๋ยวพี่รัฐก็มาถึงแล้วค่ะ""รู้จักชื่อพี่ด
"อย่าพูดถึงคนอื่นได้ไหมพราว.."หิรัญไม่อยากให้พราวพิไลมาประชดประชันอะไรเขาตอนนี้"พราวขอตัวนะคะ..พราวรีบ""จะไปไหนพราว""พราวจะไปอิตาลีค่ะจะไปหางานทำที่นั่นกับเพื่อนขอตัวนะคะเดี๋ยวตกเครื่อง"พราวพิไลเดินจ้ำอ้าวออกไปหน้าบ้านอย่างรวดเร็ว"พราว..พราว..เดี๋ยวสิพราว..โอ้ย.."หากหิรัญยังดีๆเขาคงตามเธอทันแค่นี่เมื่อเดินเร็วเขาก็ยิ่งเจ็บแผล"แท็กซี่..."พราวพิไลเรียกแท็กซี่ได้ก็รีบขึ้นหนีคนที่กำลังตามเธอมาทันที"พราว..อึก...อืม...หิรัญนั้นยังไม่ละความพยายามยังไงเธอก็จะตามพราวพิไลกลับมาให้ได้"เอ่อ..มีคนวิ่งตามครับ"แท็กซี่ชะลอรถเล็กน้อยเมื่อเห็นคนวิ่งตาม"ไปเลยค่ะไม่ต้องสนใจ"พราวพิไลไม่ได้สนใจที่จะหันไปมองแม้แต่น้อย"พราว...อย่าพึ่งไป...โอ้ยย..."หิรัญเลือดออกจนเปรอะเสื้อแต่ดขากะยังไม่ละความพยายามที่จะตาม"พ..พี่รัญ..จอดก่อนค่ะ"พราวพิไลตัดสินใจหันกลับมาดูวินาทีนั้นเธอเห็นชายหนุ่มล้มไปต่อหน้าต่อตาหัวใจของเธอก็อ่อนยวบลงรีบให้แท็กซี่จอดและเธอก็รีบวิ่งลงจากรถมาดูชายหนุ่มในทันที"พราว..""พี่รัญ..ล..เลือด..ทำไมเลือดออกคะ...พี่รัญเป็นแผลนี่"พราวพิไลหน้าซีดเผือดเมื่อเห็นว่าที่เอวหิรัญมีเลือดออกมา
ไร่ศังกร20.00 น."พี่รัญคะเดี๋ยวเค้กขอไปหาพี่โจเลยนะคะ"คีรินธิดาขอติดรถมากับหิรัญและพราวพิไลเพื่อที่จะมาหาจักรภพเมื่อมาถึงก็เอ่ยปากอยากจะขอไปหาจักรภพในทันที"ดึกแล้วนะเค้กอยู่ที่นี่ก่อนไปบ้านผู้ชายมืดๆค่ำๆมันดูไม่ดี"หิรัญต้องห้ามหญิงสาวเอาไว้ก่อนเพราะหากพ่อหญิงสาวรู้ว่าเขาดูแลน้องไม่ได้เขาจะถูกตำหนิเอา"ฮืม...แต่เค้กคิดถึงพี่โจนี่คะ""ถ้าคุณอาคินรู้จะตำหนิพี่เอานะ""ก็ได้ค่ะ""นั่นห้องเค้กพี่ให้คนจัดการเตรียมเอาไว้แล้ว""ค่ะ"คีรินธิดาเดินเข้าห้องไปด้วยสีหน้าบูดบึ้ง"ดูท่าน้องเค้กจะคิดถึงหมอโจมากเลยนะคะ"พราวพิไลยิ้มอ่อน"อืม...แต่หมอโจน่ะสิไม่รู้ว่าจะปวดหัวเพิ่มขึ้นรึเปล่า""ทำไมล่ะคะคู่หมั้นมาหาทั้งทีต้องปวดหัวขนาดนั้นเลยเหรอคะ""ก็ตั้งแต่น้องเค้กรู้ว่าพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายให้หมั้นกันเธอก็ตามติดหมอโจแจเลยถึงต้องย้ายมาทำงานที่ไร่นี้ดีที่ว่าตอนนี้ร้องเค้กยังเรียนไม่จบถึงตามมาไม่ได้จะมาได้แค่ช่วงปิดเทอมเท่านั้น""พราวอยากเห็นซะแล้วสิคะว่าติดแจนี่มันขนาดไหน"พราวพิไลสบถขำเล็กน้อยอาทิตย์ต่อมา"ค่ะคุณแม่..อะไรนะคะเลื่อนไวขึ้น..โอเคค่ะเดี๋ยวพราวจะรีบบอกพี่รัญนะคะ""มีอะไรเหรอ"หิรัญเห็นพรา
หลายวันต่อมาหลังจากที่แต่งงานกันเรียบร้อยแล้วหิรัญกับพราวพิไลก็กลับมาอยู่ที่ไร่กันเช่นเดิมส่วนธรัฐก็ย้ายเข้าไปอยู่บ้านใหม่ที่ซื้อเอาไว้ก่อนที่จะแต่งงานได้ไม่เท่าไรเขายังไม่ได้เข้าไปทำงานเพราะอยากให้ร่างกายพร้อมมากที่สุดเสียก่อนที่เขาตัดสินใจซื้อบ้านราคาเหยียบร้อยล้านก็เพราะเตรียมพร้อมสำหรับวันหน้าที่จะมีเจ้าตัวน้อยมาวิ่งเล่นรอบๆบ้านนั่นเองและคงไม่ใช่แค่คนเดียวสิ่งที่เขาหวังไว้ในใจตอนนี้หากจะให้บ้านหลังใหญ่ไม่เหงาเขาขอมีลูกอีกสักสองสามคนกำลังดี"แพรว..""คะ..""เราไปที่ไร่กันไหม""ไปสิคะ..แพรวอยากจะขอคุณไปอยู่พอดีเลย""งั้นพรุ่งนี้เราไปกันเลยดีไหม""ค่ะ...""ใจจริงตอนคุณท้องอยู่แบบนี้ผมอยากให้คุณไปใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นเหมือนกันนะเพราะที่นั่นทั้งอากาศแล้วก็สภาพอวดล้อมดีมากๆเลย""คุณจะให้แพรวไปไหมล่ะคะ"หญิงสาวยิ้มอ่อนหันหน้าถามคนเป็นสามี"ทำใจยาก...อืม...ไม่ให้ไปดีกว่าเพราะผมคงทนคิดถึงคุณไม่ไหว"ธรัฐบุ้ยปากเล็กน้อยคิดไปคิดมาให้เธออยู่ที่นี่กับเขาจะดีกว่าหากอยู่แต่บ้านคงจะไม่มีมลพิษอะไรมากมายทั้งเครื่องกรองอากาศก็ติดเต็มบ้าน"ปากหวานจังเลยนะคะ...หวานแบบนี้กับใครบ้างคะเนี่ย"แพรวพิลาสเอ่ยป
เกริ่น และแล้วเหตุการณ์อันวุ่นวายกับชีวิตของเธอก็ได้เกิดขึ้นเมื่อเธอต้องมาเล่นละครเป็นภรรยาจำเป็นอย่างไม่เต็มใจ...พราวพิไลหญิงสาวอายุ23ปีตัวเล็กร่างบางสูงแค่155หน้าตาจิ้มลิ้มปากนิดจมูกหน่อยดวงตากลมโตขนตางอนยาวราวกับตุ๊กตาผิวขาวอมชมพูผมตรงดกดำยาวหนาถึงกลางหลังเธอเป็นหญิงสาวโลกสวยบุคลิกแอบซนเล็กน้อยเป็นลูกคุณหนูที่ใช้ชีวิตติดดินเพราะรู้ว่าที่บ้านเริ่มมีปัญหาเรื่องเงินค่อนข้างรักความเป็นส่วนตัวชอบอ่านนิยายเป็นชีวิตจิตใจหากเธอแต่งงานกับพวกหนังสือที่เก็บสะสมมาจนเต็มห้องเธอก็คงจะทำไปแล้วเพราะการอ่านหนังสือคือชีวิตของเธอจริงๆเมื่อวันนึงเหตุการณ์อันวุ่นวายกับชีวิตของเธอก็ได้เกิดขึ้นเมื่อเธอต้องมาเล่นละครเป็นภรรยาจำเป็นอย่างไม่เต็มใจในไร่ที่มีชายหนุ่มเจ้าของไร่อกหักและขับรถเกิดอุบัติเหตุจนความจำเสื่อมและเธอก็ต้องมานั่งคอยตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องราวของเธอและเขาไม่เว้นแต่ละวันทั้งยังมีบางครั้งเธอยังต้องพึ่งยานอนหลับแอบใส่ให้ชายหนุ่มกินเพื่อที่จะไม่ต้องมายุ่มย่ามกับเธอในยามค่ำคืนอีกด้วยหิรัญ ชายหนุ่มวัย30ปีสูง185รูปร่างหล่อเหลาหน้าคมจมูกโด่งปากหนาเป็นกระจับเรือนร่างบึกบึนราวกับภาพวาด