เกริ่น
และแล้วเหตุการณ์อันวุ่นวายกับชีวิตของเธอก็ได้เกิดขึ้นเมื่อเธอต้องมาเล่นละครเป็นภรรยาจำเป็นอย่างไม่เต็มใจ...
พราวพิไล
หญิงสาวอายุ23ปีตัวเล็กร่างบางสูงแค่155หน้าตาจิ้มลิ้มปากนิดจมูกหน่อยดวงตากลมโตขนตางอนยาวราวกับตุ๊กตาผิวขาวอมชมพูผมตรงดกดำยาวหนาถึงกลางหลังเธอเป็นหญิงสาวโลกสวยบุคลิกแอบซนเล็กน้อยเป็นลูกคุณหนูที่ใช้ชีวิตติดดินเพราะรู้ว่าที่บ้านเริ่มมีปัญหาเรื่องเงินค่อนข้างรักความเป็นส่วนตัวชอบอ่านนิยายเป็นชีวิตจิตใจหากเธอแต่งงานกับพวกหนังสือที่เก็บสะสมมาจนเต็มห้องเธอก็คงจะทำไปแล้วเพราะการอ่านหนังสือคือชีวิตของเธอจริงๆ
เมื่อวันนึงเหตุการณ์อันวุ่นวายกับชีวิตของเธอก็ได้เกิดขึ้นเมื่อเธอต้องมาเล่นละครเป็นภรรยาจำเป็นอย่างไม่เต็มใจในไร่ที่มีชายหนุ่มเจ้าของไร่อกหักและขับรถเกิดอุบัติเหตุจนความจำเสื่อมและเธอก็ต้องมานั่งคอยตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องราวของเธอและเขาไม่เว้นแต่ละวันทั้งยังมีบางครั้งเธอยังต้องพึ่งยานอนหลับแอบใส่ให้ชายหนุ่มกินเพื่อที่จะไม่ต้องมายุ่มย่ามกับเธอในยามค่ำคืนอีกด้วย
หิรัญ
ชายหนุ่มวัย30ปีสูง185รูปร่างหล่อเหลาหน้าคมจมูกโด่งปากหนาเป็นกระจับเรือนร่างบึกบึนราวกับภาพวาดร่างบุรุษที่รูปงามเพอเฟคเป็นคนนิ่งๆไปในทางเย็นชาเด็ดขาดดุดันสมกับเป็นคนที่ปกครองคนหมู่มากสิ่งที่รักที่สุดคือไร่ศังกรและสิ่งที่เกลียดที่สุดคือคนโกหกไม่ซื่อสัตย์
หิรัญเป็นลูกชายของนายธนาคารใหญ่ที่มีทรัพย์สมบัติมากมายมหาศาลแต่เขากลับเลือกที่จะใช้ชีวิตสมถะโดยการเลือกที่จะเป็นพ่อเลี้ยงดูแลไร่ศังกรที่เป็นมรดกตกทอดมาจากรุ่นปู่ทำให้แฟนสาวไฮโซของเขาเลือกที่จะทิ้งเขาไปเพียงเพราะทนอยู่ในไร่ที่ลำบากลำบนไม่ได้ทำให้เขาดื่มหนักที่รู้ว่าแฟนสาวของตนหนีไปหมั้นกับนักธุรกิจชาวต่างชาติในขณะที่พึ่งบอกเลิกเขาไปได้ไม่กี่วันและเหตุที่ไม่คาดคิดก็ได้เกิดขึ้นเมื่อรถของเขาเสียหลักในคืนฝนตกประจวบด้วยความเมาที่บังคับรถไม่อยู่ทำให้รถหรูชนกับไหล่ทางอย่างจังจนรถแหลกเป็นเสี่ยงๆดีที่เขายังโชคดีไม่ได้ประสบเหตุจนถึงแก่ชีวิตแต่ก็เจ็บหนักเอาการจนความจำบางส่วนของเขาเสื่อมไป
เมื่อหายจากอาการบาดเจ็บและมาอยู่ที่ไร่เขาก็มีภรรยาตัวเล็กหน้าตาจิ้มลิ้มคอยดูแลเขาจะมีคำถามให้คนเป็นภรรยาของเขาอยู่ทุกวันแต่ดูท่าเธอจะอ้ำอึ้งทุกครั้งเวลาที่เขาถามอะไรไป
แพรวพิลาส
หญิงสาวอายุ26ปีเป็นพี่สาวของพราวพิไลตัวเล็กสูงเพียง154หน้าตาสะสวยนัยตาคมคิ้วโก่งยิ้มหวานปานน้ำผึ้งเพราะมีรักยิ้มที่สองพวงแก้มผิวขาวอมชมพูเกลี้ยงเกลาผมยาวดกดำถึงกลางหลังหญิงสาวเป็นคนเรียบร้อยสุภาพพูดน้อยแถมขี้แงชอบถูกคนอื่นรังแกตลอดดีที่มีน้องสาวอย่างพราวพิไลคอยปกป้อง
แต่วันนึงเมื่อเธอต้องแยกกับน้องสาวเพราะต้องมาช่วยงานผู้มีพระคุณที่ธนาคารแห่งหนึ่งเธอก็ต้องเจอกับคนเกเรอย่างธรัฐไม่รู้ว่าเขานั้นไม่ชอบหน้าอะไรเธอนักหนาที่ชอบตั้งแง่กับเธอตลอดทั้งยังชอบกล่าวหาว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ชอบยุ่งกับแฟนชาวบ้านทั้งที่เธอไม่ได้ทำหากเป็นที่ทำงานที่อื่นเธอคงออกไปแล้วแต่นี่เพราะบุญคุณท่วมหัวของผู้มีพระคุณเธอจึงต้องจำใจกล้ำกลืนฝืนทนไม่ปริปากบอกใครว่าเธอจะต้องเจอกับอะไรบ้าง
ธรัฐ
ชายหนุ่มวัย28ปีน้องชายของหิรัญรูปร่างหล่อเหลาไม่แพ้พี่ชายร่างกายกำยำบึกบึนสูง187ชอบถูกเชิญตัวไปเป็นนายแบบปกนิตยาสารบ่อยๆเลยชอบมีข่าวกับดารานางแบบไม่เว้นแต่ละวันนิสัยค่อนข้างเจ้าชู้โมโหร้ายแถมปากยังร้ายกว่าผู้หญิงบางคนเสียอีกเขาต้องเข้าบริหารงานในระดับสูงในธนาคารของพ่อของเขาเพราะพี่ชายคนเดียวชอบที่จะใช้ชีวิตในบ้านไร่
ในส่วนของแพรวพิลาสที่มาทำงานเป็นเลขาของธรัฐเพราะคำสั่งคนเป็นแม่ชายหนุ่มไม่ค่อยถูกชะตากับเธอเท่าไรนักเพราะเขามองว่าเธอเป็นผู้หญิงหน้าซื่อใจเสียมั่วกับผู้ชายไม่เลือกหน้าแต่ชอบตีหน้าซื่อเข้าหาผู้ใหญ่ให้สงสารเขาจึงชอบพูดจาแดกดันเธอหลายครั้งหลายหน
เรื่องราวของสองชีวิตหิรัญกับพราวพิไลที่ต้องใช้ชีวิตร่วมกันในฐานะสามีและภรรยาจำเป็นของพวกเขาจะลงเอยเช่นไรและแพรวพิลาสจะต้องเจอความกดดันจากการทำงานร่วมกันกับธรัฐอย่างไรบ้างติดตามได้ในเรื่องวุ่นรักเมียจำเป็นได้เลยนะคะ
ซ่าาาาา"...ทางที่คุณเลือกฉันไม่สามารถทนกับมันได้จริงๆขอโทษนะคะรัญ.."คำพูดของแฟนเก่าของเขาที่พึ่งเลิกรากันไปมันก้องอยู่ในหัวของชายหนุ่มที่กำลังขับรถด้วยความเร็วในขณะที่กำลังเมาสายฝนพรำลงมาพอเห็นผ่านแสงไฟหน้ารถไรๆถนนในเมืองใหญ่ตอนดึกดื่นเที่ยงคืนนี้มันไม่ได้มากมายอะไรจึงทำให้คนที่กำลังเมาเหยียบคันเร่งได้อย่างไม่ต้องผ่อน"หึ่...ผมก็พึ่งจะรู้นะว่าทั้งหมดที่คุณทำดีกับผมก็เพื่อหวังที่จะสบายเท่านั้น"ชายหนุ่มสบถออกมาอย่างเจ็บใจที่พึ่งจะรู้ตัวเมื่อไม่นานว่าแฟนสาวที่เขาวาดวิมานว่าจะใช้ชีวิตร่วมกันเธอรักเพียงแค่เงินทองของเขาทั้งนั้นในเมื่อเขาเลือกที่จะทิ้งความสุขสบายมาอยู่ที่ไร่เธอจึงให้เหตุผลว่าเธอไม่อยากลำบากที่ทนคบเขาเพราะคิดว่าเขาจะได้นั่งตำแหน่งนายธนาคารใหญ่เท่านั้นปรี๊นนนเอี๊ยดดดดปั้งงงงงไม่นานรถของเขาก็เสียหลักชนกับไหล่ทางจนรถกระเด็นกระดอนแหลกเป็นเสี่ยงๆดีที่ช่วงเวลานี้รถที่สัญจรไปมาไม่เยอะนักรถคันอื่นจึงหักหลบกันได้2 เดือนต่อมาบ้านวัฒนคีริน"ฉันกลับก่อนนะแม่พิศยังไงก็ลองทาบทามลูกๆเราให้ฉันหน่อยแล้วกันถือว่าช่วยฉันเอาบุญเถอะนะ"หทัยรัตน์ภรรยานายธนาคารใหญ่วัยกลางคนที่มาขอร้องเพื่
"คุณ!!"แพรวพิลาสหันมาหาหญิงสาวที่สาดน้ำใส่เธอก็จำได้ทันทีว่าเธอคือนาถลดาภรรยาของอติรุจที่บุกไปถึงสิงคโปร์เพื่ออาละวาดเธอวันนั้นเสียงด่าทอของนาถลดาทำเอาแพรวพิลาสตัวสั่นเล็กน้อยเธอไม่ได้ผิดตามที่หญิงสาวกล่าวหาก็จริงแต่เธออายคนในนี้อย่างมากจนแทบจะร้องให้"เอาผัวฉันไปกกไว้ไหนบอกมาเดี๋ยวนี้นะ"นาถลดารีบเข้ามาบีบไหล่แพรวพิลาสอย่างโมโหเพราะตอนนี้สามีของเธอหายไปตั้งแต่เธอไปอาละวาดวันนั้น"ฉันไม่ได้ติดต่อกับสามีคุณแล้วนะคะแล้วฉันก็ไม่รู้ว่าเค้าอยู่ไหนด้วย"แพรวพิลาสตอบด้วยน้ำตา"โกหก...อีหน้าด้านเอาผัวฉันคืนมานะ.."เมื่อได้ยินคำตอบดังนั้นนาถลดาจึงโมโหและโวยวายดังกว่าเดิมจนพราวพิไลใช้แรงทั้งหมดกระชากนาถลดาลงไปกองกับพื้น"นี่หยุดเดี๋ยวนี้นะไปตามหาผัวเธอที่อื่นที่นี่ไม่มีผัวเธอแล้วก็กรุณาคุมผัวตัวเองให้อยู่อย่าให้มายุ่งกับพี่สาวฉัน"พราวพิไลตะคอกใส่นาถลดาอย่างโมโห"หื้มม.."นาถลดาลุกจากพื้นเงื้อมมือหมายจะฟาดไปที่หน้าของพราวพิไลแต่ก็ต้องหยุดชะงักเพราะพราวพิไลตั้งท่าสู้อย่างไม่มีท่าทีจะยอม"เข้ามาสิ..ต่อยปากแตกแน่ไปค่ะพี่แพรว"เมื่อเห็นอีกฝ่ายเริ่มไม่กล้าพราวพิไลจึงรีบพาพี่สาวของเธอออกไปจากที่นี่ท
"ใช่จะก็หนูพราวลูกของน้าพิศไง"หทัยรัตน์บอกลูกชายของเธอด้วยสีหน้าเรียบเฉย"ผมจำได้ว่าผมไม่เคยเจอเธอนะครับแล้วเธอมาเป็นภรรยาของผมตอนไหน"หิรัญยังคงตั้งคำถามกับคนเป็นแม่ด้วยท่าทีตนกเล็กน้อย"ก็ก่อนเราเกิดอุบัติเหตุได้ไม่นานหรอกจะ""คุณแม่อำผมเล่นหรือเปล่าครับถ้าเธอเป็นภรรยาผมจริงตอนที่ผมพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลเธอทำไมไม่มาดูแลผมบ้างเลยล่ะครับ""เอ่อ...ก็...จริงๆแล้วน้องก็ไม่ใช่ไม่ห่วงเรานะตารัญแต่น้องรักเรามากจนทนเห็นเราป่วยอยู่ในโรงพยาบาลไม่ได้น่ะช่วงที่เรายังไม่ฟื้นน้องก็มานะแต่เห็นเราทีไรก็เป็นลมไปทุกทีเลยแม่ก็เลยไม่ให้เธอมาจะดีกว่าแล้วพอเราหายดีค่อยมาเจอกันทีเดียว"หทัยรัตน์ตอบลูกชายของเธออย่างรื่นไหลหากลูกชายเธอไม่เชื่อเธอแล้วจะเชื่อใคร"งั้นเหรอครับ"หิรัญขมวดคิ้วเป็นปมแน่นอยู่ครู่หนึ่งจึงหันมามองหน้าแม่ของเขาอย่างสงสัยแต่ก็ไม่ได้คิดจะถามคำถามอะไรอีกต่อไปขอรอดูหน้าคนที่แม่เขาบอกว่ามาเป็นภรรยาของเขาก่อนก็แล้วกันวันต่อมา"แม่พวงที่เค้าว่ากันว่าภรรยาคุณรัญกำลังจะมานี่จริงเหรอะวะ"บัวตองเป็นแม่ครัวอยู่ในเรือนศังกรถามพวงที่เป็นแม่ครัวที่เดียวกับเธอด้วยความสงสัยเพราะไม่เคยได้ยินว่าเจ้าน
"โอเคนะจ๊ะ"หทัยรัตน์มองหน้าพราวพิไลอย่างเป็นกังวลเล็กๆหวังว่าหญิงสาวจะไม่เปลี่ยนใจตอนนี้หรอกนะ"ค่ะ..พร้อมค่ะ""ตามแม่มาเลยจะ"เมื่อพราวพิไลพยักหน้าหทัยรัตน์จึงโล่งอกและเดินนำหน้าหญิงสาวมาด้านใน"น้องมาแล้วนะรัญ""......"หิรัญหันหน้ามามองหญิงสาวร่างเล็กผมยาวสวยหน้าจิ้มลิ้มสะกดสายตาเขามองเธอด้วยอาการแน่นิ่งจนคนรอบข้างดูไม่ออกว่าเขานั้นคิดอะไรอยู่"พี่รัญ...พราวคิดถึงพี่มากๆเลยค่ะ...พราวดีใจมากเลยนะคะที่พี่รัญดีขึ้นมากๆแล้ว""เอ่อ.."พราวพิไลมองชายหนุ่มที่หล่อเหลานึกว่าหลุดออกมาจากปกนิตยสารทั้งรีบฉีกยิ้มกว้างรวบรวมความกล้ารีบวิ่งโล่เข้ามาโผกอดคนที่นั่งอยู่ที่โซฟาแน่นทั้งยังซุกอกแกร่งจนคนตัวโตที่ตั้งตัวไม่ถูกนั่งตัวแข็งทื่อ"ท่าคุณพราวจะคิดถึงคุณหนูมากเลยนะคะ"อุ่นเรือนยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่"ค่ะ..นม.."พราวพิไลพยักหน้าให้อุ่นเรือนพรางขยิบตารู้กัน"อืม...แม่ครับผมอยากจะเข้าห้องพักผ่อนแล้ว"หิรัญหันไปบอกคนเป็นแม่ทั้งยังรีบยกมือประคองโอบร่างเล็กที่เอาแต่กอดเขาอยู่ไว้เบาๆ"อ๋อ..จะ..งั้นเดี๋ยวแม่พาไปนะ""ก็ภรรยาผมมาแล้วนี่ครับให้เธอดูแลผมก็ได้อีกอย่างผมเองก็อยากคุยกับเธออยู่หลายเรื่องเลย"หิร
"ตารัฐก็แบบนี้ล่ะครับทำอะไรรีบๆร้อนๆผมต้องขอโทษด้วยนะครับที่ตารัฐเหมือนจะเสียมารยาท"อนุชิตพอจะดูอาการของลูกชายของเขาออกจึงต้องเอ่ยปากขอโทษคนทั้งสอง"ไม่เป็นไรค่ะคุณรัฐน่าจะยุ่งๆจริงแหละค่ะ"พิศมัยคิดในแง่ดรเอาไว้ก่อนเพราะเธอไม่อยากทำให้ลูกสาวของเธอเสียขวัญก่อนจะเริ่มงาน"แล้วหนูแพรวพร้อมที่จะทำงานที่นี่เมื่อไร""แพรวพร้อมเริ่มงานทันทีค่ะ""งั้นเป็นพรุ่งนี้ก็แล้วกันนะเดี๋ยวลุงจะให้ศจีเลขาลุงสอนงานเราสักสามวันก่อน""ค่ะคุณลุง"เมื่อตกลงกันได้ทั้งสามก็อยู่คุยกันไม่นานพิศมัยจึงพาแพรวพิลาสกลับเย็นของวันไร่ศังกร"อืม..."พราวพิไลตื่นขึ้นมาในช่วงเย็นแต่เธอไม่เห็นหิรัญจึงรีบลุกจากเตียงเปิดประตูออกมาข้างนอก"คุณแม่คะพี่รัญล่ะคะ"หญิงดาวเดินมาหาหทัยรัตน์ที่นั่งดูทีวีอยู่ตรงโซนนั่งเล่น"ออกไปเดินหน้าบ้านน่ะฝนพึ่งหยุดตกอากาศกำลังดี""อ๋อ..ค่ะ..""พรุ่งนี้แม่จะกลับแล้วนะหนูพราว""ทำไมเร็วจังล่ะคะ"พราวพิไลถึงกับใจหายวาบเธอคิดว่าหทัยรัตน์จะอยู่ที่นี่กับเธอและหิรัญเสียอีก"แม่มีธุระหลายอย่างที่ต้องทำทางนี้แม่ก็ฝากพี่เค้าด้วยนะ"หทัยรัตน์ถือโอกาสนี้ฝากฝังให้พราวพิไลดูแลลูกชายของเธอเสียเลยเพราะเ
วันต่อมาหิรัญขับรถกระบะพาพราวพิไลไล่ชมรอบๆตั้งแต่เช้าจนมาหยุดอยู่ที่หนึ่งซึ่งเหล่าคนงานกำลังจับกลุ่มกันง่วนด้วยใบหน้าเคร่งเครียดเหมือนกำลังมีปัญหากันอยู่หนึ่งในนั้นคือลุงครามผู้จัดการไร่ร่วมด้วย"ดูอะไรกันเหรอครับหน้าเคร่งเครียดเชียว"พราวพิไลและหิรัญลงจากรถมาดูเหล่าคนงานทั้งถามถึงเหตุที่ต้องมารวมกันตรงนี้ด้วยท่าทีเป็นกังวล"นายครับผมว่าจะเข้าไปหาอยู่พอดีเลยครับ"ลุงครามพอเห็นคนเป็นเจ้านายมาที่นี่พอดีจึงรีบเดินมาต้อนรับ"มีอะไรครับ""ก็แปลงผักเราสิครับทางโน้นที่ติดตีนเขาพอฝนตกหนักเข้าน้ำก็หลากจากเขาจนผักเสียหายเยอะเลย"ลุงครามชี้ไปทางแปลงผักที่อยู่ใกล้ๆกับตีนเขา"ปกติไม่เป็นแบบนี้ไม่ใช่เหรอครับ"หิรัญขมวดคิ้วเป็นปมแน่นพราวพิไลเองก็ยืนฟังด้วยสีหน้ากังวลถึงปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นที่ไร่หิรัญเองก็เห็นว่าปกติแล้วถึงฝนจะตกแรงแค่ไหนน้ำในป่าก็ไม่น่าจะหลากลงมาแรงขนาดทำให้แปลงผักเสียหายได้"ครับ..เห็นคนงานในไร่ที่ไปหาของป่าบอกว่ามีกลุ่มคนเข้าไปลักลอบตัดไม้ข้างในจนเป็นเวิ้งกว้าง"ลุงครามพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เบาลงเหมือนแค่อยากให้เรื่องนี้รู้แค่วงแคบๆเท่านั้น"ถ้ามีเรื่องแบบนี้แล้วทำไมไม่มีใครแจ
"นี่หยุดเดี๋ยวนี้นะ...ออกไปจากที่ของผมเดี๋ยวนี้"ธรัฐถอดเสื้อสูทของเขาออกคลุมร่างแพรวพิลาสเอาไว้และรีบไล่คนนอกทั้งสองออกไปทันทีเขาจำได้ว่าผู้หญิงคนที่ทำร้ายแพรวพิลาสคือคนที่มาอาละวาดหญิงสาวที่ร้านอาหารในวันนั้นและถ้าเดาไม่ผิดผู้ชายที่ยืนดูผู้หญิงตบตีกันหน้าตาเฉยคงจะเป็นตัวต้นเหตุเป็นแน่"ไปแน่...แล้วคุณเป็นเจ้าของที่นี่ใช่ไหม...บอกอีนี่ด้วยว่าอย่ามานัดผัวชาวบ้านมาพลอดรักแบบนี้อีก"นาถลดาตะคอกใส่ธรัฐและแพรวพิลาสก่อนจะดึงสามีของเธอให้รีบเดินออกไป"ฉันไม่ได้นัดนะคะ...ส่วนคุณก็เลิกยุ่งกับฉันซะที"แพรวพิลาสหลบอยู่ในอ้อมอกของธรัฐตอนนี้เธอตัวสั่นเป็นลูกนกพร้อมเค้นเสียงบอกนาถลดาด้วยเสียงสั่นเครือและอติรุจก็เช่นกันเธออยากพูดครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายว่าให้เขาเลิกยุ่งกับเธอซะที"แพรว..""นี่หยุดนะคุณรุจ"นาถลดากระชากคนเป็นสามีออกไปจากห้องอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นอติรุจทำท่าทีอาลัยอาวรแพรวพิลาสอยู่"เตือนไว้ก่อนอย่าให้ถึงวันที่ฉันหมดความอดทนแล้วแกจะไม่ได้มาเดินลอยหน้าลอยตาแบบนี้หรอก"ก่อนจะปิดประตูนาถลดายังมิวายส่งเสียงขู่แพรวพิลาสอีกครั้ง"ฮึก..อือ..ฮือ....ขอบคุณนะคะ"เมื่อทั้งสองออกไปแล้วแพรวพิลาสก
"ไม่จริง.."อติรุจดูเหมือนจะไม่ยอมรับความจริงกับสิ่งที่ได้ยินสักเท่าไรนักพยายามมองหน้าแพรวพิลาสแต่หญิงสาวก็ไม่ชายตามองมาทางเขาแม้แต่น้อย"จริงเลิกยุ่งกับภรรยาผมซะทีแล้วเอาเวลาไปดูลูกเมียตัวเองไม่อย่างนั้นผมจะแจ้งความจับคุณในข้อหาคุกคามความเป็นส่วนตัว"เมื่อขู่คนตรงหน้าเสร็จธรัฐก็รีบดึงมือหญิงสาวเดินดุ่มๆเข้าลิฟท์ไปในทันที"แพรว..."ทิ้งให้อติรุจยืนอึ้งกับคำที่พึ่งได้ยินจนหน้าเสียอย่างเห็นได้ชัดครู่ต่อมา"คุณไปพูดแบบนั้นได้ไงคะ"เมื่อขึ้นลิฟท์มาถึงชั้นที่ทั้งคู่อยู่แพรวพิลาสจึงรีบดึงมือออกจากชายหนุ่มและถามอีกฝ่ายด้วยสีหน้าบึ้งตึงเพราะเธอไม่ชอบคำที่เขาบอกกับอติรุจว่าเธอเป็นภรรยาเขาแม้แต่นิดเดียวไม่ใช่ว่ากลัวอติรุจเข้าใจผิดแต่เธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่คนแถวนั้นที่ได้ยินเขาจะคิดกันยังไง"มันจะได้เลิกยุ่งกับคุณไง..ถึงห้องคุณแล้วเข้าไปสิ""ค่ะ.."ธรัฐยังคงตอบหญิงสาวหน้าตาเฉยเฉกเช่นเดิมทั้งยังไล่หญิงสาวเข้าห้องตัวเองไปด้วยเขาจะได้เข้าห้องพักผ่อนเช่นกันซึ่งห้องเขาก็อยู่ตรงข้ามกับเธอนี่เองแกร๊กกแพรวพิลาสเปิดประตูและหันกลับมาหาชายหนุ่มจนธรัฐต้องหันมามองเธอพร้อมขมวดคิ้วสงสัย"อะไร...""ขอบคุณ