เกริ่น
และแล้วเหตุการณ์อันวุ่นวายกับชีวิตของเธอก็ได้เกิดขึ้นเมื่อเธอต้องมาเล่นละครเป็นภรรยาจำเป็นอย่างไม่เต็มใจ...
พราวพิไล
หญิงสาวอายุ23ปีตัวเล็กร่างบางสูงแค่155หน้าตาจิ้มลิ้มปากนิดจมูกหน่อยดวงตากลมโตขนตางอนยาวราวกับตุ๊กตาผิวขาวอมชมพูผมตรงดกดำยาวหนาถึงกลางหลังเธอเป็นหญิงสาวโลกสวยบุคลิกแอบซนเล็กน้อยเป็นลูกคุณหนูที่ใช้ชีวิตติดดินเพราะรู้ว่าที่บ้านเริ่มมีปัญหาเรื่องเงินค่อนข้างรักความเป็นส่วนตัวชอบอ่านนิยายเป็นชีวิตจิตใจหากเธอแต่งงานกับพวกหนังสือที่เก็บสะสมมาจนเต็มห้องเธอก็คงจะทำไปแล้วเพราะการอ่านหนังสือคือชีวิตของเธอจริงๆ
เมื่อวันนึงเหตุการณ์อันวุ่นวายกับชีวิตของเธอก็ได้เกิดขึ้นเมื่อเธอต้องมาเล่นละครเป็นภรรยาจำเป็นอย่างไม่เต็มใจในไร่ที่มีชายหนุ่มเจ้าของไร่อกหักและขับรถเกิดอุบัติเหตุจนความจำเสื่อมและเธอก็ต้องมานั่งคอยตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องราวของเธอและเขาไม่เว้นแต่ละวันทั้งยังมีบางครั้งเธอยังต้องพึ่งยานอนหลับแอบใส่ให้ชายหนุ่มกินเพื่อที่จะไม่ต้องมายุ่มย่ามกับเธอในยามค่ำคืนอีกด้วย
หิรัญ
ชายหนุ่มวัย30ปีสูง185รูปร่างหล่อเหลาหน้าคมจมูกโด่งปากหนาเป็นกระจับเรือนร่างบึกบึนราวกับภาพวาดร่างบุรุษที่รูปงามเพอเฟคเป็นคนนิ่งๆไปในทางเย็นชาเด็ดขาดดุดันสมกับเป็นคนที่ปกครองคนหมู่มากสิ่งที่รักที่สุดคือไร่ศังกรและสิ่งที่เกลียดที่สุดคือคนโกหกไม่ซื่อสัตย์
หิรัญเป็นลูกชายของนายธนาคารใหญ่ที่มีทรัพย์สมบัติมากมายมหาศาลแต่เขากลับเลือกที่จะใช้ชีวิตสมถะโดยการเลือกที่จะเป็นพ่อเลี้ยงดูแลไร่ศังกรที่เป็นมรดกตกทอดมาจากรุ่นปู่ทำให้แฟนสาวไฮโซของเขาเลือกที่จะทิ้งเขาไปเพียงเพราะทนอยู่ในไร่ที่ลำบากลำบนไม่ได้ทำให้เขาดื่มหนักที่รู้ว่าแฟนสาวของตนหนีไปหมั้นกับนักธุรกิจชาวต่างชาติในขณะที่พึ่งบอกเลิกเขาไปได้ไม่กี่วันและเหตุที่ไม่คาดคิดก็ได้เกิดขึ้นเมื่อรถของเขาเสียหลักในคืนฝนตกประจวบด้วยความเมาที่บังคับรถไม่อยู่ทำให้รถหรูชนกับไหล่ทางอย่างจังจนรถแหลกเป็นเสี่ยงๆดีที่เขายังโชคดีไม่ได้ประสบเหตุจนถึงแก่ชีวิตแต่ก็เจ็บหนักเอาการจนความจำบางส่วนของเขาเสื่อมไป
เมื่อหายจากอาการบาดเจ็บและมาอยู่ที่ไร่เขาก็มีภรรยาตัวเล็กหน้าตาจิ้มลิ้มคอยดูแลเขาจะมีคำถามให้คนเป็นภรรยาของเขาอยู่ทุกวันแต่ดูท่าเธอจะอ้ำอึ้งทุกครั้งเวลาที่เขาถามอะไรไป
แพรวพิลาส
หญิงสาวอายุ26ปีเป็นพี่สาวของพราวพิไลตัวเล็กสูงเพียง154หน้าตาสะสวยนัยตาคมคิ้วโก่งยิ้มหวานปานน้ำผึ้งเพราะมีรักยิ้มที่สองพวงแก้มผิวขาวอมชมพูเกลี้ยงเกลาผมยาวดกดำถึงกลางหลังหญิงสาวเป็นคนเรียบร้อยสุภาพพูดน้อยแถมขี้แงชอบถูกคนอื่นรังแกตลอดดีที่มีน้องสาวอย่างพราวพิไลคอยปกป้อง
แต่วันนึงเมื่อเธอต้องแยกกับน้องสาวเพราะต้องมาช่วยงานผู้มีพระคุณที่ธนาคารแห่งหนึ่งเธอก็ต้องเจอกับคนเกเรอย่างธรัฐไม่รู้ว่าเขานั้นไม่ชอบหน้าอะไรเธอนักหนาที่ชอบตั้งแง่กับเธอตลอดทั้งยังชอบกล่าวหาว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ชอบยุ่งกับแฟนชาวบ้านทั้งที่เธอไม่ได้ทำหากเป็นที่ทำงานที่อื่นเธอคงออกไปแล้วแต่นี่เพราะบุญคุณท่วมหัวของผู้มีพระคุณเธอจึงต้องจำใจกล้ำกลืนฝืนทนไม่ปริปากบอกใครว่าเธอจะต้องเจอกับอะไรบ้าง
ธรัฐ
ชายหนุ่มวัย28ปีน้องชายของหิรัญรูปร่างหล่อเหลาไม่แพ้พี่ชายร่างกายกำยำบึกบึนสูง187ชอบถูกเชิญตัวไปเป็นนายแบบปกนิตยาสารบ่อยๆเลยชอบมีข่าวกับดารานางแบบไม่เว้นแต่ละวันนิสัยค่อนข้างเจ้าชู้โมโหร้ายแถมปากยังร้ายกว่าผู้หญิงบางคนเสียอีกเขาต้องเข้าบริหารงานในระดับสูงในธนาคารของพ่อของเขาเพราะพี่ชายคนเดียวชอบที่จะใช้ชีวิตในบ้านไร่
ในส่วนของแพรวพิลาสที่มาทำงานเป็นเลขาของธรัฐเพราะคำสั่งคนเป็นแม่ชายหนุ่มไม่ค่อยถูกชะตากับเธอเท่าไรนักเพราะเขามองว่าเธอเป็นผู้หญิงหน้าซื่อใจเสียมั่วกับผู้ชายไม่เลือกหน้าแต่ชอบตีหน้าซื่อเข้าหาผู้ใหญ่ให้สงสารเขาจึงชอบพูดจาแดกดันเธอหลายครั้งหลายหน
เรื่องราวของสองชีวิตหิรัญกับพราวพิไลที่ต้องใช้ชีวิตร่วมกันในฐานะสามีและภรรยาจำเป็นของพวกเขาจะลงเอยเช่นไรและแพรวพิลาสจะต้องเจอความกดดันจากการทำงานร่วมกันกับธรัฐอย่างไรบ้างติดตามได้ในเรื่องวุ่นรักเมียจำเป็นได้เลยนะคะ
ซ่าาาาา"...ทางที่คุณเลือกฉันไม่สามารถทนกับมันได้จริงๆขอโทษนะคะรัญ.."คำพูดของแฟนเก่าของเขาที่พึ่งเลิกรากันไปมันก้องอยู่ในหัวของชายหนุ่มที่กำลังขับรถด้วยความเร็วในขณะที่กำลังเมาสายฝนพรำลงมาพอเห็นผ่านแสงไฟหน้ารถไรๆถนนในเมืองใหญ่ตอนดึกดื่นเที่ยงคืนนี้มันไม่ได้มากมายอะไรจึงทำให้คนที่กำลังเมาเหยียบคันเร่งได้อย่างไม่ต้องผ่อน"หึ่...ผมก็พึ่งจะรู้นะว่าทั้งหมดที่คุณทำดีกับผมก็เพื่อหวังที่จะสบายเท่านั้น"ชายหนุ่มสบถออกมาอย่างเจ็บใจที่พึ่งจะรู้ตัวเมื่อไม่นานว่าแฟนสาวที่เขาวาดวิมานว่าจะใช้ชีวิตร่วมกันเธอรักเพียงแค่เงินทองของเขาทั้งนั้นในเมื่อเขาเลือกที่จะทิ้งความสุขสบายมาอยู่ที่ไร่เธอจึงให้เหตุผลว่าเธอไม่อยากลำบากที่ทนคบเขาเพราะคิดว่าเขาจะได้นั่งตำแหน่งนายธนาคารใหญ่เท่านั้นปรี๊นนนเอี๊ยดดดดปั้งงงงงไม่นานรถของเขาก็เสียหลักชนกับไหล่ทางจนรถกระเด็นกระดอนแหลกเป็นเสี่ยงๆดีที่ช่วงเวลานี้รถที่สัญจรไปมาไม่เยอะนักรถคันอื่นจึงหักหลบกันได้2 เดือนต่อมาบ้านวัฒนคีริน"ฉันกลับก่อนนะแม่พิศยังไงก็ลองทาบทามลูกๆเราให้ฉันหน่อยแล้วกันถือว่าช่วยฉันเอาบุญเถอะนะ"หทัยรัตน์ภรรยานายธนาคารใหญ่วัยกลางคนที่มาขอร้องเพื่
"คุณ!!"แพรวพิลาสหันมาหาหญิงสาวที่สาดน้ำใส่เธอก็จำได้ทันทีว่าเธอคือนาถลดาภรรยาของอติรุจที่บุกไปถึงสิงคโปร์เพื่ออาละวาดเธอวันนั้นเสียงด่าทอของนาถลดาทำเอาแพรวพิลาสตัวสั่นเล็กน้อยเธอไม่ได้ผิดตามที่หญิงสาวกล่าวหาก็จริงแต่เธออายคนในนี้อย่างมากจนแทบจะร้องให้"เอาผัวฉันไปกกไว้ไหนบอกมาเดี๋ยวนี้นะ"นาถลดารีบเข้ามาบีบไหล่แพรวพิลาสอย่างโมโหเพราะตอนนี้สามีของเธอหายไปตั้งแต่เธอไปอาละวาดวันนั้น"ฉันไม่ได้ติดต่อกับสามีคุณแล้วนะคะแล้วฉันก็ไม่รู้ว่าเค้าอยู่ไหนด้วย"แพรวพิลาสตอบด้วยน้ำตา"โกหก...อีหน้าด้านเอาผัวฉันคืนมานะ.."เมื่อได้ยินคำตอบดังนั้นนาถลดาจึงโมโหและโวยวายดังกว่าเดิมจนพราวพิไลใช้แรงทั้งหมดกระชากนาถลดาลงไปกองกับพื้น"นี่หยุดเดี๋ยวนี้นะไปตามหาผัวเธอที่อื่นที่นี่ไม่มีผัวเธอแล้วก็กรุณาคุมผัวตัวเองให้อยู่อย่าให้มายุ่งกับพี่สาวฉัน"พราวพิไลตะคอกใส่นาถลดาอย่างโมโห"หื้มม.."นาถลดาลุกจากพื้นเงื้อมมือหมายจะฟาดไปที่หน้าของพราวพิไลแต่ก็ต้องหยุดชะงักเพราะพราวพิไลตั้งท่าสู้อย่างไม่มีท่าทีจะยอม"เข้ามาสิ..ต่อยปากแตกแน่ไปค่ะพี่แพรว"เมื่อเห็นอีกฝ่ายเริ่มไม่กล้าพราวพิไลจึงรีบพาพี่สาวของเธอออกไปจากที่นี่ท
"ใช่จะก็หนูพราวลูกของน้าพิศไง"หทัยรัตน์บอกลูกชายของเธอด้วยสีหน้าเรียบเฉย"ผมจำได้ว่าผมไม่เคยเจอเธอนะครับแล้วเธอมาเป็นภรรยาของผมตอนไหน"หิรัญยังคงตั้งคำถามกับคนเป็นแม่ด้วยท่าทีตนกเล็กน้อย"ก็ก่อนเราเกิดอุบัติเหตุได้ไม่นานหรอกจะ""คุณแม่อำผมเล่นหรือเปล่าครับถ้าเธอเป็นภรรยาผมจริงตอนที่ผมพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลเธอทำไมไม่มาดูแลผมบ้างเลยล่ะครับ""เอ่อ...ก็...จริงๆแล้วน้องก็ไม่ใช่ไม่ห่วงเรานะตารัญแต่น้องรักเรามากจนทนเห็นเราป่วยอยู่ในโรงพยาบาลไม่ได้น่ะช่วงที่เรายังไม่ฟื้นน้องก็มานะแต่เห็นเราทีไรก็เป็นลมไปทุกทีเลยแม่ก็เลยไม่ให้เธอมาจะดีกว่าแล้วพอเราหายดีค่อยมาเจอกันทีเดียว"หทัยรัตน์ตอบลูกชายของเธออย่างรื่นไหลหากลูกชายเธอไม่เชื่อเธอแล้วจะเชื่อใคร"งั้นเหรอครับ"หิรัญขมวดคิ้วเป็นปมแน่นอยู่ครู่หนึ่งจึงหันมามองหน้าแม่ของเขาอย่างสงสัยแต่ก็ไม่ได้คิดจะถามคำถามอะไรอีกต่อไปขอรอดูหน้าคนที่แม่เขาบอกว่ามาเป็นภรรยาของเขาก่อนก็แล้วกันวันต่อมา"แม่พวงที่เค้าว่ากันว่าภรรยาคุณรัญกำลังจะมานี่จริงเหรอะวะ"บัวตองเป็นแม่ครัวอยู่ในเรือนศังกรถามพวงที่เป็นแม่ครัวที่เดียวกับเธอด้วยความสงสัยเพราะไม่เคยได้ยินว่าเจ้าน
"โอเคนะจ๊ะ"หทัยรัตน์มองหน้าพราวพิไลอย่างเป็นกังวลเล็กๆหวังว่าหญิงสาวจะไม่เปลี่ยนใจตอนนี้หรอกนะ"ค่ะ..พร้อมค่ะ""ตามแม่มาเลยจะ"เมื่อพราวพิไลพยักหน้าหทัยรัตน์จึงโล่งอกและเดินนำหน้าหญิงสาวมาด้านใน"น้องมาแล้วนะรัญ""......"หิรัญหันหน้ามามองหญิงสาวร่างเล็กผมยาวสวยหน้าจิ้มลิ้มสะกดสายตาเขามองเธอด้วยอาการแน่นิ่งจนคนรอบข้างดูไม่ออกว่าเขานั้นคิดอะไรอยู่"พี่รัญ...พราวคิดถึงพี่มากๆเลยค่ะ...พราวดีใจมากเลยนะคะที่พี่รัญดีขึ้นมากๆแล้ว""เอ่อ.."พราวพิไลมองชายหนุ่มที่หล่อเหลานึกว่าหลุดออกมาจากปกนิตยสารทั้งรีบฉีกยิ้มกว้างรวบรวมความกล้ารีบวิ่งโล่เข้ามาโผกอดคนที่นั่งอยู่ที่โซฟาแน่นทั้งยังซุกอกแกร่งจนคนตัวโตที่ตั้งตัวไม่ถูกนั่งตัวแข็งทื่อ"ท่าคุณพราวจะคิดถึงคุณหนูมากเลยนะคะ"อุ่นเรือนยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่"ค่ะ..นม.."พราวพิไลพยักหน้าให้อุ่นเรือนพรางขยิบตารู้กัน"อืม...แม่ครับผมอยากจะเข้าห้องพักผ่อนแล้ว"หิรัญหันไปบอกคนเป็นแม่ทั้งยังรีบยกมือประคองโอบร่างเล็กที่เอาแต่กอดเขาอยู่ไว้เบาๆ"อ๋อ..จะ..งั้นเดี๋ยวแม่พาไปนะ""ก็ภรรยาผมมาแล้วนี่ครับให้เธอดูแลผมก็ได้อีกอย่างผมเองก็อยากคุยกับเธออยู่หลายเรื่องเลย"หิร
"ตารัฐก็แบบนี้ล่ะครับทำอะไรรีบๆร้อนๆผมต้องขอโทษด้วยนะครับที่ตารัฐเหมือนจะเสียมารยาท"อนุชิตพอจะดูอาการของลูกชายของเขาออกจึงต้องเอ่ยปากขอโทษคนทั้งสอง"ไม่เป็นไรค่ะคุณรัฐน่าจะยุ่งๆจริงแหละค่ะ"พิศมัยคิดในแง่ดรเอาไว้ก่อนเพราะเธอไม่อยากทำให้ลูกสาวของเธอเสียขวัญก่อนจะเริ่มงาน"แล้วหนูแพรวพร้อมที่จะทำงานที่นี่เมื่อไร""แพรวพร้อมเริ่มงานทันทีค่ะ""งั้นเป็นพรุ่งนี้ก็แล้วกันนะเดี๋ยวลุงจะให้ศจีเลขาลุงสอนงานเราสักสามวันก่อน""ค่ะคุณลุง"เมื่อตกลงกันได้ทั้งสามก็อยู่คุยกันไม่นานพิศมัยจึงพาแพรวพิลาสกลับเย็นของวันไร่ศังกร"อืม..."พราวพิไลตื่นขึ้นมาในช่วงเย็นแต่เธอไม่เห็นหิรัญจึงรีบลุกจากเตียงเปิดประตูออกมาข้างนอก"คุณแม่คะพี่รัญล่ะคะ"หญิงดาวเดินมาหาหทัยรัตน์ที่นั่งดูทีวีอยู่ตรงโซนนั่งเล่น"ออกไปเดินหน้าบ้านน่ะฝนพึ่งหยุดตกอากาศกำลังดี""อ๋อ..ค่ะ..""พรุ่งนี้แม่จะกลับแล้วนะหนูพราว""ทำไมเร็วจังล่ะคะ"พราวพิไลถึงกับใจหายวาบเธอคิดว่าหทัยรัตน์จะอยู่ที่นี่กับเธอและหิรัญเสียอีก"แม่มีธุระหลายอย่างที่ต้องทำทางนี้แม่ก็ฝากพี่เค้าด้วยนะ"หทัยรัตน์ถือโอกาสนี้ฝากฝังให้พราวพิไลดูแลลูกชายของเธอเสียเลยเพราะเ
วันต่อมาหิรัญขับรถกระบะพาพราวพิไลไล่ชมรอบๆตั้งแต่เช้าจนมาหยุดอยู่ที่หนึ่งซึ่งเหล่าคนงานกำลังจับกลุ่มกันง่วนด้วยใบหน้าเคร่งเครียดเหมือนกำลังมีปัญหากันอยู่หนึ่งในนั้นคือลุงครามผู้จัดการไร่ร่วมด้วย"ดูอะไรกันเหรอครับหน้าเคร่งเครียดเชียว"พราวพิไลและหิรัญลงจากรถมาดูเหล่าคนงานทั้งถามถึงเหตุที่ต้องมารวมกันตรงนี้ด้วยท่าทีเป็นกังวล"นายครับผมว่าจะเข้าไปหาอยู่พอดีเลยครับ"ลุงครามพอเห็นคนเป็นเจ้านายมาที่นี่พอดีจึงรีบเดินมาต้อนรับ"มีอะไรครับ""ก็แปลงผักเราสิครับทางโน้นที่ติดตีนเขาพอฝนตกหนักเข้าน้ำก็หลากจากเขาจนผักเสียหายเยอะเลย"ลุงครามชี้ไปทางแปลงผักที่อยู่ใกล้ๆกับตีนเขา"ปกติไม่เป็นแบบนี้ไม่ใช่เหรอครับ"หิรัญขมวดคิ้วเป็นปมแน่นพราวพิไลเองก็ยืนฟังด้วยสีหน้ากังวลถึงปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นที่ไร่หิรัญเองก็เห็นว่าปกติแล้วถึงฝนจะตกแรงแค่ไหนน้ำในป่าก็ไม่น่าจะหลากลงมาแรงขนาดทำให้แปลงผักเสียหายได้"ครับ..เห็นคนงานในไร่ที่ไปหาของป่าบอกว่ามีกลุ่มคนเข้าไปลักลอบตัดไม้ข้างในจนเป็นเวิ้งกว้าง"ลุงครามพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เบาลงเหมือนแค่อยากให้เรื่องนี้รู้แค่วงแคบๆเท่านั้น"ถ้ามีเรื่องแบบนี้แล้วทำไมไม่มีใครแจ
"นี่หยุดเดี๋ยวนี้นะ...ออกไปจากที่ของผมเดี๋ยวนี้"ธรัฐถอดเสื้อสูทของเขาออกคลุมร่างแพรวพิลาสเอาไว้และรีบไล่คนนอกทั้งสองออกไปทันทีเขาจำได้ว่าผู้หญิงคนที่ทำร้ายแพรวพิลาสคือคนที่มาอาละวาดหญิงสาวที่ร้านอาหารในวันนั้นและถ้าเดาไม่ผิดผู้ชายที่ยืนดูผู้หญิงตบตีกันหน้าตาเฉยคงจะเป็นตัวต้นเหตุเป็นแน่"ไปแน่...แล้วคุณเป็นเจ้าของที่นี่ใช่ไหม...บอกอีนี่ด้วยว่าอย่ามานัดผัวชาวบ้านมาพลอดรักแบบนี้อีก"นาถลดาตะคอกใส่ธรัฐและแพรวพิลาสก่อนจะดึงสามีของเธอให้รีบเดินออกไป"ฉันไม่ได้นัดนะคะ...ส่วนคุณก็เลิกยุ่งกับฉันซะที"แพรวพิลาสหลบอยู่ในอ้อมอกของธรัฐตอนนี้เธอตัวสั่นเป็นลูกนกพร้อมเค้นเสียงบอกนาถลดาด้วยเสียงสั่นเครือและอติรุจก็เช่นกันเธออยากพูดครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายว่าให้เขาเลิกยุ่งกับเธอซะที"แพรว..""นี่หยุดนะคุณรุจ"นาถลดากระชากคนเป็นสามีออกไปจากห้องอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นอติรุจทำท่าทีอาลัยอาวรแพรวพิลาสอยู่"เตือนไว้ก่อนอย่าให้ถึงวันที่ฉันหมดความอดทนแล้วแกจะไม่ได้มาเดินลอยหน้าลอยตาแบบนี้หรอก"ก่อนจะปิดประตูนาถลดายังมิวายส่งเสียงขู่แพรวพิลาสอีกครั้ง"ฮึก..อือ..ฮือ....ขอบคุณนะคะ"เมื่อทั้งสองออกไปแล้วแพรวพิลาสก
"ไม่จริง.."อติรุจดูเหมือนจะไม่ยอมรับความจริงกับสิ่งที่ได้ยินสักเท่าไรนักพยายามมองหน้าแพรวพิลาสแต่หญิงสาวก็ไม่ชายตามองมาทางเขาแม้แต่น้อย"จริงเลิกยุ่งกับภรรยาผมซะทีแล้วเอาเวลาไปดูลูกเมียตัวเองไม่อย่างนั้นผมจะแจ้งความจับคุณในข้อหาคุกคามความเป็นส่วนตัว"เมื่อขู่คนตรงหน้าเสร็จธรัฐก็รีบดึงมือหญิงสาวเดินดุ่มๆเข้าลิฟท์ไปในทันที"แพรว..."ทิ้งให้อติรุจยืนอึ้งกับคำที่พึ่งได้ยินจนหน้าเสียอย่างเห็นได้ชัดครู่ต่อมา"คุณไปพูดแบบนั้นได้ไงคะ"เมื่อขึ้นลิฟท์มาถึงชั้นที่ทั้งคู่อยู่แพรวพิลาสจึงรีบดึงมือออกจากชายหนุ่มและถามอีกฝ่ายด้วยสีหน้าบึ้งตึงเพราะเธอไม่ชอบคำที่เขาบอกกับอติรุจว่าเธอเป็นภรรยาเขาแม้แต่นิดเดียวไม่ใช่ว่ากลัวอติรุจเข้าใจผิดแต่เธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่คนแถวนั้นที่ได้ยินเขาจะคิดกันยังไง"มันจะได้เลิกยุ่งกับคุณไง..ถึงห้องคุณแล้วเข้าไปสิ""ค่ะ.."ธรัฐยังคงตอบหญิงสาวหน้าตาเฉยเฉกเช่นเดิมทั้งยังไล่หญิงสาวเข้าห้องตัวเองไปด้วยเขาจะได้เข้าห้องพักผ่อนเช่นกันซึ่งห้องเขาก็อยู่ตรงข้ามกับเธอนี่เองแกร๊กกแพรวพิลาสเปิดประตูและหันกลับมาหาชายหนุ่มจนธรัฐต้องหันมามองเธอพร้อมขมวดคิ้วสงสัย"อะไร...""ขอบคุณ
หลายวันต่อมาหลังจากที่แต่งงานกันเรียบร้อยแล้วหิรัญกับพราวพิไลก็กลับมาอยู่ที่ไร่กันเช่นเดิมส่วนธรัฐก็ย้ายเข้าไปอยู่บ้านใหม่ที่ซื้อเอาไว้ก่อนที่จะแต่งงานได้ไม่เท่าไรเขายังไม่ได้เข้าไปทำงานเพราะอยากให้ร่างกายพร้อมมากที่สุดเสียก่อนที่เขาตัดสินใจซื้อบ้านราคาเหยียบร้อยล้านก็เพราะเตรียมพร้อมสำหรับวันหน้าที่จะมีเจ้าตัวน้อยมาวิ่งเล่นรอบๆบ้านนั่นเองและคงไม่ใช่แค่คนเดียวสิ่งที่เขาหวังไว้ในใจตอนนี้หากจะให้บ้านหลังใหญ่ไม่เหงาเขาขอมีลูกอีกสักสองสามคนกำลังดี"แพรว..""คะ..""เราไปที่ไร่กันไหม""ไปสิคะ..แพรวอยากจะขอคุณไปอยู่พอดีเลย""งั้นพรุ่งนี้เราไปกันเลยดีไหม""ค่ะ...""ใจจริงตอนคุณท้องอยู่แบบนี้ผมอยากให้คุณไปใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นเหมือนกันนะเพราะที่นั่นทั้งอากาศแล้วก็สภาพอวดล้อมดีมากๆเลย""คุณจะให้แพรวไปไหมล่ะคะ"หญิงสาวยิ้มอ่อนหันหน้าถามคนเป็นสามี"ทำใจยาก...อืม...ไม่ให้ไปดีกว่าเพราะผมคงทนคิดถึงคุณไม่ไหว"ธรัฐบุ้ยปากเล็กน้อยคิดไปคิดมาให้เธออยู่ที่นี่กับเขาจะดีกว่าหากอยู่แต่บ้านคงจะไม่มีมลพิษอะไรมากมายทั้งเครื่องกรองอากาศก็ติดเต็มบ้าน"ปากหวานจังเลยนะคะ...หวานแบบนี้กับใครบ้างคะเนี่ย"แพรวพิลาสเอ่ยป
ไร่ศังกร20.00 น."พี่รัญคะเดี๋ยวเค้กขอไปหาพี่โจเลยนะคะ"คีรินธิดาขอติดรถมากับหิรัญและพราวพิไลเพื่อที่จะมาหาจักรภพเมื่อมาถึงก็เอ่ยปากอยากจะขอไปหาจักรภพในทันที"ดึกแล้วนะเค้กอยู่ที่นี่ก่อนไปบ้านผู้ชายมืดๆค่ำๆมันดูไม่ดี"หิรัญต้องห้ามหญิงสาวเอาไว้ก่อนเพราะหากพ่อหญิงสาวรู้ว่าเขาดูแลน้องไม่ได้เขาจะถูกตำหนิเอา"ฮืม...แต่เค้กคิดถึงพี่โจนี่คะ""ถ้าคุณอาคินรู้จะตำหนิพี่เอานะ""ก็ได้ค่ะ""นั่นห้องเค้กพี่ให้คนจัดการเตรียมเอาไว้แล้ว""ค่ะ"คีรินธิดาเดินเข้าห้องไปด้วยสีหน้าบูดบึ้ง"ดูท่าน้องเค้กจะคิดถึงหมอโจมากเลยนะคะ"พราวพิไลยิ้มอ่อน"อืม...แต่หมอโจน่ะสิไม่รู้ว่าจะปวดหัวเพิ่มขึ้นรึเปล่า""ทำไมล่ะคะคู่หมั้นมาหาทั้งทีต้องปวดหัวขนาดนั้นเลยเหรอคะ""ก็ตั้งแต่น้องเค้กรู้ว่าพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายให้หมั้นกันเธอก็ตามติดหมอโจแจเลยถึงต้องย้ายมาทำงานที่ไร่นี้ดีที่ว่าตอนนี้ร้องเค้กยังเรียนไม่จบถึงตามมาไม่ได้จะมาได้แค่ช่วงปิดเทอมเท่านั้น""พราวอยากเห็นซะแล้วสิคะว่าติดแจนี่มันขนาดไหน"พราวพิไลสบถขำเล็กน้อยอาทิตย์ต่อมา"ค่ะคุณแม่..อะไรนะคะเลื่อนไวขึ้น..โอเคค่ะเดี๋ยวพราวจะรีบบอกพี่รัญนะคะ""มีอะไรเหรอ"หิรัญเห็นพรา
"อย่าพูดถึงคนอื่นได้ไหมพราว.."หิรัญไม่อยากให้พราวพิไลมาประชดประชันอะไรเขาตอนนี้"พราวขอตัวนะคะ..พราวรีบ""จะไปไหนพราว""พราวจะไปอิตาลีค่ะจะไปหางานทำที่นั่นกับเพื่อนขอตัวนะคะเดี๋ยวตกเครื่อง"พราวพิไลเดินจ้ำอ้าวออกไปหน้าบ้านอย่างรวดเร็ว"พราว..พราว..เดี๋ยวสิพราว..โอ้ย.."หากหิรัญยังดีๆเขาคงตามเธอทันแค่นี่เมื่อเดินเร็วเขาก็ยิ่งเจ็บแผล"แท็กซี่..."พราวพิไลเรียกแท็กซี่ได้ก็รีบขึ้นหนีคนที่กำลังตามเธอมาทันที"พราว..อึก...อืม...หิรัญนั้นยังไม่ละความพยายามยังไงเธอก็จะตามพราวพิไลกลับมาให้ได้"เอ่อ..มีคนวิ่งตามครับ"แท็กซี่ชะลอรถเล็กน้อยเมื่อเห็นคนวิ่งตาม"ไปเลยค่ะไม่ต้องสนใจ"พราวพิไลไม่ได้สนใจที่จะหันไปมองแม้แต่น้อย"พราว...อย่าพึ่งไป...โอ้ยย..."หิรัญเลือดออกจนเปรอะเสื้อแต่ดขากะยังไม่ละความพยายามที่จะตาม"พ..พี่รัญ..จอดก่อนค่ะ"พราวพิไลตัดสินใจหันกลับมาดูวินาทีนั้นเธอเห็นชายหนุ่มล้มไปต่อหน้าต่อตาหัวใจของเธอก็อ่อนยวบลงรีบให้แท็กซี่จอดและเธอก็รีบวิ่งลงจากรถมาดูชายหนุ่มในทันที"พราว..""พี่รัญ..ล..เลือด..ทำไมเลือดออกคะ...พี่รัญเป็นแผลนี่"พราวพิไลหน้าซีดเผือดเมื่อเห็นว่าที่เอวหิรัญมีเลือดออกมา
ลานจอดรถ"ว้ายย.."แพรวพิลาสกำลังจะเดินมาที่รถของเธอหลังจากที่ซื้อของใช้ส่วนตัวเสร็จแต่ก็ถูกชายร่างใหญ่สองคนมารั้งตัวเธอแนบกับรถเอาไว้จนเธอร้องเสียงหลง"ว่าที่เจ้าสาวงั้นเหรอถ้าแกหน้าเละไปแล้วดูซิรัฐยังจะรักแกอยู่ไหม"เกวลินที่เก็บความแค้นและรอวันนี้วันที่เธอจะทำให้แพรวพิลาสเสียโฉมเพื่อที่ธรัฐจะได้ทิ้งหญิงสาวเหมือนกับที่เขาไม่แยแสเธอบ้าง"จะทำอะไร""ฉันจะเอาน้ำกรดสาดหน้าแกไง""ทางนี้ค่ะคุณตำรวจคุณนางแบบคนนี้กำลังจะทำร้ายคนอื่นค่ะ"คีรินธิดาสาวน้อยวัย20ส่งเสียงตะโกนเสียงหลงเมื่อเห็นว่าแพรวพิลาสกำลังจะถูกทำร้าย"เจ้ตำรวจมาผมไปก่อนนะ"ชายสองคนได้ยินวาสมีตำรวจมาเขาจึงรีบปล่อยหญิงสาวและวิ่งหนีไป"อ้าวเดี๋ยวสิ"พลั้ก.. "โอ้ยย.."จังหวะนั้นแพรวพิลาสถือโอกาวผลักเกวลินจนล้มและเธอก็รีบหนีไปพร้อมกับสาวน้อยอีกคนที่ยืนรอช่วยเธออยู่"พี่คะทางนี้ค่ะ"ครู่ต่อมา"ขอบคุณมากเลยนะคะที่ช่วยพี่"แพรวพิลาสนั่งอยู่ในร้านอาหารที่คนค่อนข้างพลุกพล่านจะได้ไม่มีใครบุ่มบ่ามมาทำร้ายเธออีกทั้งขอบคุณสาวน้อยหน้ารักตรงหน้าที่ช่วยเธอเอาไว้"ไม่เป็นไรค่ะพี่แพรวรออยู่ตรงนี้นะคะเดี๋ยวพี่รัฐก็มาถึงแล้วค่ะ""รู้จักชื่อพี่ด
ชั่วโมงต่อมาสำนักงานธนาคารRrrrrr"หืม...มือถือใคร.."แพรวพิลาสต้องหยุดชะงักในขณะที่จะกดลิฟท์เพื่อขึ้นไปชั้นทำงานเธอหยิบมือถือที่กำลังดังออกมาดูทั้งมีสีหน้าสงสัยว่ามือถือเครื่องนี้มาอยู่ในกระเป๋าเธอได้อย่างไร"คุณแพรวเมื่อวานผมเอามือถือใส่กระเป๋าคุณไว้คุณน่าจะไม่เห็นมาถึงแล้วก็เอามาให้ผมที่ห้องด้วยนะครับคุณภรรยา""คุณรัฐ.."เมื่อแพรวพิลาสกดรับสายเธอก็ต้องคิ้วขมวดส่งเสียงแข็งกลับๆปให้ปลายสายอย่างโมโหแล้วจึงกดวางรีบเดินดุ่มเข้าลิฟท์ที่กำลังเปิดด้วนอาการโมโหที่ธรัฐชอบหาเรื่องเรียกร้องความสนใจจากเธออยู่เรื่อย"เลิกเล่นแบบนี้กับแพรวสักทีคุณรัฐ...อย่ามาเรียกร้องความสนใจจากแพรว... เพราะแพรวจะไม่สนใจคุณอีกอย่างก็เลิกเรียกฉันว่าภรรยาคุณสักทีคืนนั้นแพรวถือว่าทำทานก็แล้วกันได้ยินไหมคะว่าหยุดเรียกฉันว่าภรรยาคุณเสียทีฉันไม่ชอบบบ.."เมื่อมาถึงหญิงสาวก็พ่นคำพูดออกมารัวๆให้คนที่กำลังนั่งเก้าอี้ราคาแพงหันหลังให้เธออยู่"หนูแพรว!!"อนุชิตได้ยินชัดทุกคำเมื่อหญิงสาวพูดจบ้ขาจึงค่อยๆหันมา"ค..ค..คุณ..ลุง..แพรวแค่เอามือถือมาคืนคุณรัฐค่ะขอตัวก่อนนะคะ"แพรวพิลาสถึงกับตัวชาวาบรีบวางมือถือและวิ่งออกไปทันที"เร
เรือนศังกร"ทำไมทำหน้าเครียดๆคะรัญ"สุพิชชาเดินกลับมาด้วยอารมณ์หงุดหงิดแต่เธอก็ต้องเปลี่ยนอารมณ์เป็นสงสัยแทนเพราะเธอเห็นหิรัญกำลังวุ่นสีหน้าเคร่งเครียดกับเอกสารกองโตในห้องทำงาน".......""เอกสารอะไรคะ""เอกสารยึดทรัพย์...ผมไม่เหลืออะไรอีกแล้ว"หิรัญเงยหน้ามองหญิงสาวด้วยสีหน้าหดหู่"อ..อะไรนะคะ"สุพิชชาไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองสักนิด"ที่ไร่นี้ขาดทุนมานาน...ก็เลยต้องทำให้ผมต้องเอาที่ไปจำนองแล้วตอนนี้มันก็ถูกยึดแล้ว""รัญก็ให้รอบครัวรัญช่วยสิคะ"หญิงสาวพยายามหาทางออกให้หิรัญเธอเองไม่อยากให้เขาตกอับเพราะถ้สหากเธออยู่กับเขาก็จะยิ่งลำบากมากขึ้นไปอีกเธอทนไม่ได้แน่นอน"สมบัติของครอบครัวผมสละสิทธิ์ไม่รับมานานแล้วทุกอย่างเป็นของธรัฐ""ทำไมเรื่องนี้รัญไม่เคยบอกชาเลยล่ะคะ""ผมคิดว่าเรื่องนี้มันไม่สำคัญอะไรถ้าเรารักกัน""......"สุพิชชาอึ้งไปครู่หนึ่งในหัวของเธอตอนนี้กำลังคิดอยู่ว่าจะเอายังไงดีแต่แล้วเธอก็เลือกที่จะไม่ลำบากและรู้ตัวว่าต้องไปจากเขาอย่างรวดเร็วเพราะดีไม่ดีเงินเก็บที่เธอมีอาจถูกหิรัญเรียกร้องให้เธอช่วยก็เป็นได้ซึ่งเธอก็ไม่ยอมแน่นอน"ผมต้องย้ายออกจากที่นี่เราไปหาบ้านเช่าเล็กๆกันนะชา"
"พราวจะกลับกรุงเทพค่ะ"พราวพิไลพูดพร้อมมองจ้องคนที่กำลังเดินควงกันเข้าบ้านมาด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์แอบน้อยใจลึกๆที่ชายหนุ่มรู้ว่าเธอจะไปยังไม่แม้อตากันมามองหน้าเธอเลยสักนิด"นายคะ.. "บัวตองส่งเสียงเอะอะโวยวายทั้งลากมาลีมานั่งกองต่อหน้าหิรัญและคนในบ้าน"มีอะไร.. ""นังลีมันบอกว่าลูกในท้องมันเป็นลูกนายค่ะจริงรึเปล่าคะ"บัวตองถามด้วยท่าทีร้อนรนเพราะเธอยังไม่ค่อยเชื่อคำพูดลูกเธอเท่าไรจึงต้องลากกันมาถามให้รู้เรื่อง"จะบ้าเหรอคนอย่างรัญไม่ไฝ่ต่ำไปเอาลูกเธอหรอก"สุพิชชาตวาดเสียงหลงเพราะรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้"จริง"หิรัญตอบหน้าตาเฉย"อะไรนะคะรัญ"สุพิชชาถึงกับหน้าชาอึ้งไปชั่วขณะรวมทั้งคนอื่นๆในที่นี้ก็เช่นกัน"นายต้องรับผิดชอบลูกฉันนะคะ"บัวตองได้ยินแบบนั้นเธอเป็นแม่ก็ต้องเรียกร้องความยุติธรรมให้กับแม่ของเธอ"อืม..ฉันจะรับผิดชอบเอง"หิรัญไม่ได้ปฏิเสธที่จะไม่รับผิดชอบ"หึ่...ขอให้ปวดหัวตายกับผู้ชายเฮงซวยคนนี้นะ..หืย"เพียะพราวพิไลกัดฟันกรอดก่อนกลับเธอเดินดุ่มไปฟาดหน้าชายหนุ่มที่หลอกเธอจนเธอเชื่อใจว่ารักเธอคนเดียวแต่กลับกระทำสำส่อนกับคนอื่นไปทั่ว"....."หิรัญมองตามหลังพราวพิไลด้วยสีหน้าที่คนอื
"ใช่ฉันคือเสี่ยเกลี้ยงลูกเสี่ยเคี้ยงจำหน้าฉันไว้ดีๆเพราะฉันนี่แหละจะเป็นคนฆ่าผัวแก""ไม่นะ"พราวพิไลส่ายหัวพัลวันเธอจะไม่ยอมให้หิรัญเป็นอะไรไปง่ายๆเด็ดขาด"ไม่ทันแล้วล่ะมันกำลังมาให้ฉันฆ่าถึงที่"เสี่ยเกลี้ยงยิ้มเย้ยหญิงสาวอย่างสะใจ"เลว...เลวที่สุด"หญิงสาวทำได้แต่ตะโกนด่าทอคนที่เลวจนเธอสรรหาคำพูดออกมาด่าไม่ไหวจริงๆ"ขับให้เร็วกว่านี้หน่อยสิหมอ"บนถนนเลาะชายป่ารถยนต์สีดำวิ่งมาด้วยความเร็วโดยมีจักรภพเป็นคนขับหิรัญเองดูท่าความเร็วขนาด120กิโลเมตรต่อชั่วโมงมันยังไม่พอใจเขาเอาเสียเลยตอนนี้ในรถมีลุงครามจักรภพแลพหิรัญที่ล่วงหน้ามาก่อนพวกตำรวจเพราะเมื่อได้รับสายจากเสี่ยเกลี้ยงว่าต้องการแลกตัวหิรัญกับพราวพิไลที่ไหนพวกเขาก็ออกมากันเลย"นี่ก็เหยียบจะมิดอยู่แล้วนะครับคุณรัฐ"จักรภพคิดว่าเขาคงทำความเร็วกว่านี้ไม่ได้เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้มันจะไม่ดีต่อสถานหารณ์ตอนนี้"เลี้ยวซ้ายข้างหน้าเลยครับหมอ"เมื่อรถขับมาถึงทางแยกลุงครามก็รีบบอกพิกัดกับจักรภพว่าโกดังที่เสี่ยเกลี้ยงพาพราวพิไลมาอยู่ในซอยเปลี่ยวนี้"ไอ้เกลี้ยงกูมาแล้วปล่อยเมียกูเดี๋ยวนี้"เมื่อรถเลี้ยวเข้าซอยขับมาถึงโกดังยังไม่ทันจอดดีหิร
บ้านมาลี"หา...ท..ท้อง"หลังจากที่มาลีว่างงานจากเรือนเธอก็ออกไปซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจทั้งหมดสามอันผลปรากฏว่าทั้งสามขึ้นสองขีดเหมือนกันหมดทำเอาเธอนั่งทรุดอยู่มุมห้องด้วยสีหน้าเคร่งเครียดก๊อกๆๆๆ"เสี่ย.."เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูมาลีจึงรีบหาที่ซ่อนผลตรวจเพราะคิดว่าเป็นแม่เธอมาเคาะแต่ที่ไหนได้กลับเป็นเลี่ยเกลี้ยงที่เข้ามาหาเธอในนี้ต่างหาก"เงียบ..""เสี่ยมาที่นี่ได้ไงแล้วเสี่ยไปบุกโรงพักมาจริงรึเปล่า""จริง...แล้วฉันก็มีเรื่องให้แกช่วย"เสี่ยเกลี้ยงมีบางอย่างที่ต้องวานให้มาลีช่วยแล้วเธอก็จะปฏิเสธเขาไม่ได้ด้วย"เสี่ยฉันมีเรื่องจะต้องบอกเสี่ย"มาลีถือโอกาสนี้บอกเรื่องที่เธอพึ่งรู้กับเสี่ยเกลี้ยงเสียเลย"เรื่องอะไร""ฉ..ฉันท้อง""ไปเอาออกซะ"เสี่ยเกลี้ยงตอบได้อย่างไม่ลังเลเพราะเขาไม่คิดที่จะรับผิดชอบใครอยู่แล้ว"พูดแบบนี้ได้ไงเสี่ยลูกทั้งคนนะ"มาลีถึงกับหน้าเหวอกับคำพูดที่เสี่ยเกลี้ยงพูดออกมา"ลูกฉันรึเปล่าก็ไม่รู้...นี่..พรุ่งนี้แกต้องพาเมียนายแกมาให้ฉันที่จุดนัดพบไม่งั้นแม่แกนั่นแหละที่จะไม่มีชีวิตรอด""เสี่ยจะทำอะไร""ทำอะไรมันก็เรื่องของฉันไม่เกี่ยวกับแกจะกำจัดเมียนายแกให้ไม่ดีหรือไงแ