"นี่หยุดเดี๋ยวนี้นะ...ออกไปจากที่ของผมเดี๋ยวนี้"
ธรัฐถอดเสื้อสูทของเขาออกคลุมร่างแพรวพิลาสเอาไว้และรีบไล่คนนอกทั้งสองออกไปทันทีเขาจำได้ว่าผู้หญิงคนที่ทำร้ายแพรวพิลาสคือคนที่มาอาละวาดหญิงสาวที่ร้านอาหารในวันนั้นและถ้าเดาไม่ผิดผู้ชายที่ยืนดูผู้หญิงตบตีกันหน้าตาเฉยคงจะเป็นตัวต้นเหตุเป็นแน่
"ไปแน่...แล้วคุณเป็นเจ้าของที่นี่ใช่ไหม...บอกอีนี่ด้วยว่าอย่ามานัดผัวชาวบ้านมาพลอดรักแบบนี้อีก"
นาถลดาตะคอกใส่ธรัฐและแพรวพิลาสก่อนจะดึงสามีของเธอให้รีบเดินออกไป
"ฉันไม่ได้นัดนะคะ...ส่วนคุณก็เลิกยุ่งกับฉันซะที"
แพรวพิลาสหลบอยู่ในอ้อมอกของธรัฐตอนนี้เธอตัวสั่นเป็นลูกนกพร้อมเค้นเสียงบอกนาถลดาด้วยเสียงสั่นเครือและอติรุจก็เช่นกันเธออยากพูดครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายว่าให้เขาเลิกยุ่งกับเธอซะที
"แพรว.."
"นี่หยุดนะคุณรุจ"
นาถลดากระชากคนเป็นสามีออกไปจากห้องอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นอติรุจทำท่าทีอาลัยอาวรแพรวพิลาสอยู่
"เตือนไว้ก่อนอย่าให้ถึงวันที่ฉันหมดความอดทนแล้วแกจะไม่ได้มาเดินลอยหน้าลอยตาแบบนี้หรอก"
ก่อนจะปิดประตูนาถลดายังมิวายส่งเสียงขู่แพรวพิลาสอีกครั้ง
"ฮึก..อือ..ฮือ....ขอบคุณนะคะ"
เมื่อทั้งสองออกไปแล้วแพรวพิลาสก็สะอึกสะอื้นจนตัวโยนทั้งรีบขอบคุณที่ธรัฐนั้นช่วยเธอเอาไว้ไม่อย่างนั้นเธออาจจะเละกว่านี้ก็เป็นแน่
"ทีหลังก็อย่าไปยุ่งกับสามีคนอื่นสิคุณ..วันนี้คุณไม่ต้องทำงานแล้วกลับไปพักเถอะ"
ธรัฐไม่รู้ตื้นลึกหนาบางอะไรเขาแค่มองไปตามรูปการหากหญิงสาวไม่นัดสามีคนอื่นมาที่นี่ภรรยาเขาก็คงไม่มาอาละวาดแบบนี้แอบเสียดายความสาวความสวยของเธอที่น่าจะมีตัวเลือกมากมายกลับเลือกที่จะเป็นเมียน้อยคนอื่นเมื่อเขาพูดจบก็เดินออกไปด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ทิ้งให้แพรวพิลาสนั่งอยู่คนเดียว
"ฮึก..ฮือๆๆๆ.."
แพรวพิลาสมองคนที่กำลังเดินออกไปด้วยสีหน้าห่อเหี่ยวทั้งน้ำตาก็รื้นออกมาไม่ยอมหยุดเธอไม่ได้อยากยุ่งกับสามีใครครั้นจะอธิบายตอนนี้ชายหนุ่มก็คงจะไม่เชื่อ
คอนโดแพรวพิลาส
"......"
หญิงสาวกลับมาพักที่คอนโดของเธอเป็นที่ๆหทัยรัตน์จัดเอาไว้ให้เธอเอาไว้พักใกล้ๆกับที่ทำงานทั้งยังตรงข้ามกับห้องของธรัฐอีกด้วยเมื่อกลับมาถึงอาบน้ำอาบท่าเปลี่ยนเสื้อผ้าได้เธอก็เอาแต่นอนร้องให้ไม่รู้ว่าชีวิตเธอนั้นเมื่อไรจะพ้นๆคนเฮงซวยอย่างอติรุจเสียที
วันต่อมา
สำนักงานธนาคาร
ก๊อกๆๆ
"มีอะไร"
ธรัฐเงยหน้าเห็นแพรวพิลาสเดินเข้าห้องมาแต่เช้าวันนี้เขาจำได้ว่ายังไม่ได้เรียกเธอจึงต้องเสียงห้วนว่าเธอมีธุระอะไรถึงเข้ามาในนี้
"เมื่อวานแพรวต้องขอโทษด้วยค่ะที่ทำให้เกิดเรื่อง"
แพรวพิลาสนั่งลวที่เก้าอี้ตรงหน้าชายหนุ่มเธอเอ่ยปากขอโทษเขากับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวาน
"ผมว่าถ้าคุณไม่ไปยุ่งกับสามีคนอื่นมันก็คงไม่เกิดเรื่องแบบนี้หรอก"
ธรัฐบอกกับหญิงสาวด้วยสีหน้าเรียบเฉยหากเธอมีสำนึกที่จะขอโทษนั่นก็เป็นเรื่องที่ดีแต่เขาก็อยากจะสอนเธออีกอย่างก็คือหากเธอไม่ยุ่งกับสามีคนอื่นตั้งแต่แรกเธอคงไม่ต้องถูกตามรังควานจากเมียหลวงแบบนี้หรอก
"แพรวจบกับเค้าตั้งแต่รู้ว่าเค้ามีภรรยาแล้วล่ะค่ะแต่เค้าก็ยังตามแพรวไม่เลิก"
แพรวพิลาสก้มหน้างุดเธออธิบายให้คนตรงหน้าเข้าใจได้เพียงเท่านี้เขาจะเชื่อเธอหรือไม่เชื่อก็แล้วแต่
"งั้นถ้าคนเก่าของคุณมาที่นี่อีกผมจะสั่งให้ รปภ ลากมันออกไปก็แล้วกัน"
"แล้วแต่ท่านรองจะสั่งค่ะ.."
เย็นของวัน
"คุณจะกลับหรือยัง"
"คะ??"
แพรวพิลาสเงยหน้าขึ้นมาหลังจากที่ดึงกระเป๋าในชั้นวางของเธอทำหน้าสงสัยเล็กน้อยว่าธรัฐถามเธอเรื่องนี้ทำไมหรือว่ามีอะไรจะให้เธอทำอีก
"ก็คุณอยู่คอนโดเดียวกับผมกลับพร้อมกันก็ได้"
ธรัฐบอกกับหญิงสาวด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่เรียบเฉยหากแม่เขาไม่สั่งว่าให้พาหญิงสาวไปกลับด้วยเขาก็คงไม่ทำ
"ไม่เป็นไรค่ะท่านรองแพรวกลับเองได้ค่ะ"
แพรวพิลาสส่ายหัวเล็กน้อยเธอกลับเองได้ไม่อยากเป็นภาระใคร
"แม่ผมสั่งมา"
ธรัฐจำต้องเอ่ยเสียงแข็งให้เธอได้รู้ว่านี่คือคำสั่งของใคร
"ก็ได้ค่ะ"
เมื่อรู้ว่าเป็นคำสั่งของหทัยรัตน์แพรวพิลาสจึงต้องเดินตามคนตัวโตไปแต่โดยดี
ครู่ต่อมา
"คุณไม่มีรถใช้เหรอ"
ธรัฐเอ่ยถามคนที่นั่งอยู่ข้างๆเพราะรู้มาจากแม่ของเขาว่าเธอไม่ได้ใช้รถยนต์ส่วนตัว
"แพรวเห็นว่าใช้รถไฟฟ้าสะดวกกว่าน่ะค่ะเลยไม่ได้เอารถมาใช้"
หญิงสาวเห็นว่าเธอกลับรถไฟฟ้าจะสะดวกกว่ามากเธอจึงเลือกที่จะไม่เอารถยนต์ส่วนตัวมาใช้
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
ธรัฐขับรถมาจอดที่หน้าคอนโดแล้วให้คนเอารถขึ้นลิฟไปและเตรียมที่จะเดินเข้าไปด้านในพร้อมหญิงสาวแต่เขาก็ต้องสะดุดตากับคนบางคนที่กำลังนั่งอยู่ด้านหน้า
"เหมือนจะมีคนรอคุณอยู่ที่หน้าคอนโดนะ"
"คุณรุจ..."
แพรวพิลาสมองตามสายตาที่ธรัฐกำลังมองอยู่เธอก็สีหน้าเปลี่ยนทันทีเพราะไม่ชอบใจเอาอย่างมากที่อติรุจไม่ยอมจบกับเธอง่ายๆ
"บอกเค้าเหรอว่าคุณอยู่ที่นี่"
ธรัฐหันมาถามหญิงสาวทีากำลังยืนหน้ามุ่ยอยู่ข้างๆเขา
"เปล่านะคะแพรวไม่ได้บอกอะไรกับเค้าทั้งนั้นทั้งที่ทำงานกับที่อยู่"
แพรวพิลาสส่ายหัวหงึกหงัก
"นับว่าเค้าเก่งนะที่หาคุณเจอ"
หากเป็นเช่นที่หญิงสาวพูดธรัฐนับถือใจผู้ชายคนนี้จริงๆที่พยายามเป็นเลิศเสียเหลือเกิน
"ทำอะไรคะ"
แพรวพิลาสเงยหน้ามองร่างสูงอย่างตกใจที่จู่ๆเขาก็ดึงมือเธอไปจับเอาไว้
"เดินไปเถอะน่าแล้วก็ไม่ต้องพูดอะไร"
หากหญิงสาวอยากให้ผู้ชายคนนี้เลิกยุ่งกับเธอจริงๆเขาก็จะช่วยจะได้ไม่ต้องไปมีใครมาอาละวาดที่ทำงานของเขาอีก
"แพรว..."
อติรุจเห็นแพรวพิลาสเดินเข้ามาพร้อมผู้ชายอีกคนที่ช่วยเธอไว้วันนั้นเขาก็มีสีหน้าไม่พอใจเท่าไรนักเพราะยังหวงแพรวพิลาสอยู่
"คุณมาทำอะไรที่นี่"
ธรัฐถามอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยและยังคงกุมมือหญิงสาวเอาไว้แน่น
"ผมก็มาหาแพรวแฟนผม"
อติรุจพูดเสียงดังฟังชัดให้ชายหนุ่มที่กุมมือแพรวพิลาสอยู่ได้ยินเต็มๆหู
"แพรวแฟนคุณเหรอ..ผมจำได้ว่าเธอเป็นภรรยาผมนะ"
ธรัฐพูดด้วยอาการลอยหน้าลอยตาทำเอาหญิงสาวถึงกับแทบกลืนน้ำลายไม่ลงหน้าชาเล็กน้อยที่จู่ๆเขาก็พูดอะไรออกมาโดยที่ไม่เตี๊ยมกับเธอก่อน
"ไม่จริง.."อติรุจดูเหมือนจะไม่ยอมรับความจริงกับสิ่งที่ได้ยินสักเท่าไรนักพยายามมองหน้าแพรวพิลาสแต่หญิงสาวก็ไม่ชายตามองมาทางเขาแม้แต่น้อย"จริงเลิกยุ่งกับภรรยาผมซะทีแล้วเอาเวลาไปดูลูกเมียตัวเองไม่อย่างนั้นผมจะแจ้งความจับคุณในข้อหาคุกคามความเป็นส่วนตัว"เมื่อขู่คนตรงหน้าเสร็จธรัฐก็รีบดึงมือหญิงสาวเดินดุ่มๆเข้าลิฟท์ไปในทันที"แพรว..."ทิ้งให้อติรุจยืนอึ้งกับคำที่พึ่งได้ยินจนหน้าเสียอย่างเห็นได้ชัดครู่ต่อมา"คุณไปพูดแบบนั้นได้ไงคะ"เมื่อขึ้นลิฟท์มาถึงชั้นที่ทั้งคู่อยู่แพรวพิลาสจึงรีบดึงมือออกจากชายหนุ่มและถามอีกฝ่ายด้วยสีหน้าบึ้งตึงเพราะเธอไม่ชอบคำที่เขาบอกกับอติรุจว่าเธอเป็นภรรยาเขาแม้แต่นิดเดียวไม่ใช่ว่ากลัวอติรุจเข้าใจผิดแต่เธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่คนแถวนั้นที่ได้ยินเขาจะคิดกันยังไง"มันจะได้เลิกยุ่งกับคุณไง..ถึงห้องคุณแล้วเข้าไปสิ""ค่ะ.."ธรัฐยังคงตอบหญิงสาวหน้าตาเฉยเฉกเช่นเดิมทั้งยังไล่หญิงสาวเข้าห้องตัวเองไปด้วยเขาจะได้เข้าห้องพักผ่อนเช่นกันซึ่งห้องเขาก็อยู่ตรงข้ามกับเธอนี่เองแกร๊กกแพรวพิลาสเปิดประตูและหันกลับมาหาชายหนุ่มจนธรัฐต้องหันมามองเธอพร้อมขมวดคิ้วสงสัย"อะไร...""ขอบคุณ
ครึ่งชั่วโมงต่อมา"อ้าว..ลุงครามมีอะไรเหรอครับ"หิรัญเดินออกมาหาลุงครามที่หน้าบ้าน"ของคุณพราวมาส่งน่ะครับ""อ๋อ.."ลุงครามยื่นพัสดุให้กับหิรัญ"ของพราวใช่ไหมคะ"พราวพิไลอาบน้ำแต่งตัวเสร็จทันเวลาที่ของเพื่อนเธอส่งมาพอดีเมื่อเห็นกล่องอยู่ในมือชายหนุ่มจึงรีบแย่งออกมาอย่างรวดเร็ว"อะไรเหรอ"หิรัญหันหน้าถามพราวพิไลอย่างสงสัยว่าด้านในเป็นอะไรเธอถึงได้หวงขนาดนั้น"ก็..เป็นพวกน้ำหอมที่พราวสั่งให้เพื่อนซื้อส่งมาให้น่ะค่ะไม่มีอะไรขอบคุณนะคะลุงครามที่เอามาให้"หญิงสาวพูดเสร็จก็รีบวิ่งกลับเข้าห้องหาที่ซ่อนของทันทีอันที่จริงแล้วมันเป็นยาสลบที่เธอสั่งให้เพื่อนเธอซื้อส่งมาให้ต่างหากเอาไว้ใช้ในเวลาที่ฉุกเฉินครู่ต่อมาโต๊ะอาหาร"ป้าพวงขาพราวขอข้าวเพิ่มอีกนะคะ"ตอนนี้พราวพิไลและหิรัญร่วมโต๊ะอาหารเย็นกันอยู่พักใหญ่วันนี้กับจ้าวค่อนข้างอร่อยเป็นพิเศษจนหญิงสาวต้องขอข้าวเพิ่ม"ได้เลยค่ะคุณพราว""ของหวานมาแล้วค่ะ..."ปึก"ว้าย..ขอโทษค่ะคุณพราว"มาลีตั้งใจที่จะให้กล้วยบวชชีในมือหกใส่พราวพิไลเธอแกล้งตกใจกับเรื่องที่เธอจงใจทำเพื่อให้ดูเป็นอุบัติเหตุ"ไม่เป็นไร.."พราพิไลเงยหน้าส่งยิ้มให้มาลีแต่สีหน้าของเธอต
วันต่อมา08.30 น."คุณหนูยังไม่ตื่นเหรอคะคุณพราว"อุ่นเรือนวันนี้ค่อนข้างสายแล้วแต่คุณหนูของเธอยังไม่ตื่นถึงถามถามพราวพิไรที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะอาหารด้วยความสงสัย"ยังเลยค่ะ"พราวพิไลส่ายกัวพร้อมยิ้มแหยๆเล็กน้อย"อ้าว.. นั่น.. วันนี้คุณหนูตื่นช้าจังล่ะคะ"อุ่นเรือนหันไปถามคนที่กำลังเดินเข้ามา"อ๋อ...เมื่อคืนคงจะเพลียๆน่ะครับ"หิรัญก็สงสัยตัวเองอยู่เหมือนกันว่าทำไมตอนตื่นมาถึงเพลียแปลกๆพวกคนที่ยืนอยู่ทั้งอุ่นเรือนบัวตองป้าพวงต่างยิ้มกริ่มเพราะคิดว่าทั้งคู่คงจะทำกิจกรรมอะไรกันจนดึกตามประสาสามีภรรยาถึงได้เพลียแต่คนที่ยิ้มไม่ออกเห็นจะเป็นมาลีเพราะเธอไม่ได้ปารถนาให้ทั้งคู่รักกันดี"ยิ้มอะไรกันเหรอคะ"พราวพิไลไม่เข้าใจว่าจู่ๆทั้งนมอุ่นและป้าพวงต่างก็อมยิ้มกันแปลกๆ"อ๋อ...ไม่มีอะไรหรอกค่ะ..ทานข้าวดีกว่านะคะ"อุ่นเรือนส่ายหัวเล็กน้อย10.00 น."ทำอะไรเหรอพราว"หิรัญเดินหาพราวหลังจากทานอาหารเสร็จเมื่อมาที่สวนข้างบ้านก็เห็นว่าหญิงสาวกำลังหยิบจับท่อนไม้ตอกลงดินอย่างขมักเขม้น"พราวเห็นว่าวันนี้ฝนน่าจะตกหนักค่ะเลยหาผ้ามาขึงกันต้นดอกไม้พวกนี้ไว้เดี๋ยวฝนตกหนักใส่แล้วจะตายซะก่อน""มาเดี๋ยวพี่ช่วย"หิรัญ
ในป่าบนภูเขา"ฝนตกหนักขนาดนี้จะตัดต่อยังไงไหวครับเสี่ย"คนงานตัดไม้รีบวิ่งมาบอกเสี่ยเคี้ยงว่าไม่มีใครตัดต้นไม้ต่อไหวเพราะฝนที่ตกหนักบวกกับดินที่ลื่นจึงทำให้ทำงานยาก"ยังไงก็ต้องตัดละวะต้องส่งไม้ให้ทันตามกำหนด"เสี่ยเคี้ยงจะให้คนงานหยุดการตัดไม้ลอตนี้ไม่ได้เพราะจะไม่ทันวันที่นัดส่งไม้กับลูกค้ารายใหญ่แล้วเขาจะเสียเครดิตเอาได้"นายครับ..ตำรวจ"ในขณะที่เสี่ยเกลี้ยงกำลังสั่งการกับคนงานอยู่นั้นก็มีคนงานอีกคนวิ่งตะโกนมาว่ามีตำรวจกำลังเข้ามาล้อมจับพวกตน"มาได้ไงวะ"เสี่ยเคี้ยงถึงกับหัวเสียกัดฟันกรอดที่ไม่รู้ว่าทำไมพวกตำรวจถึงได้มายุ่มย่ามกับงานของพวกตนได้"หนีมาทางนี้ก่อนครับนาย"คนสนิทเสี่ยเคี้ยงอย่างอาคมได้เตรียมแผนรับมือเอาไว้แล้วหากลูกน้องถูกจับเขาต้องพาเสี่ยเคี้ยงหนีไปก่อน"ยกมือขึ้นให้หมดตอนนี้ตำรวจได้ล้อมเอาไว้หมดแล้ว"ตำรวจใช้เวลาไม่นานก็จับคนงานและของกลางได้ทั้งหมดแต่หัวหน้าใหญ่อย่างเสี่ยเคี้ยงไม่มีใครจับได้และคำซักทอดจากผู้ต้องหาก็สาวไม่ถึงตัวการใหญ่ด้วยเพราะไม่มีใครปริปากพูดแม้แต่คนเดียวบ้านเสี่ยเคี้ยง"มันเป็นแบบนี้ได้ไงสารวัตร"เมื่อเสี่ยเคี้ยงกลับมาถึงบ้านเขาก็รีบให้อาคมตามสาร
"ผมคิดว่าพวกมันน่าจะใช้ที่นี่เป็นที่เก็บอะไรสักอย่างแต่ผมว่าไม่ใช่ไม้แน่นอนครับเพราะของพวกนี้พวกมันจะเอาไว้กับตัวนานไม่ได้""นายคิดว่าเป็นอะไรครับ"ลุงครามขมวดคิ้วเป็นปม"ถ้ากิจการไม่กี่อย่างของพวกมันทำให้รวยและมีอิทธิพลจนใครก็เกรงกลัวไม่ค้าสิ่งเสพติดก็ค้าอาวุธเถื่อนล่ะครับ""ผมชักไม่อยากจะให้นายยุ่งกับพวกมันเสียแล้วสิครับ"เมื่อได้ยินคนเป็นนายพูดแบบนั้นลุงครามเองก็ยิ่งคิดไม่ตกว่าอยากจะให้นายตัวเองยุ่งกับคนพวกนี้อีกดีหรือไม่"ผมรู้ว่าพวกมันรู้ว่าผมเลือกที่จะเป็นศรัตรูกับมันแล้วสักวันมันต้องหาทางเอาคืนผมอยู่ดีติดแค่ว่าวันไหนเท่านั้นเองดังนั้นเราต้องเตรียมแผนรับมือเอาไว้ก่อนและหากเป็นไปได้คนที่เป็นอันตรายต่อคนอื่นมากขนาดนี้ถอนรากถอนโคนพวกมันได้ก็ยิ่งดีครับ"หิรัญพูดด้วยสีหน้าที่แน่วแน่และใครก็ขัดเขาไม่ได้ด้วยเรือนศังกร17.00 น."นั่นขาคุณพราวเป็นอะไรคะ"มาลีเดินมาเห็นอุ่นเรือนกำลังนั่งพันผ้าที่ข้อเท้าของพราวพิไลอยู่ความอยากรู้ของเธอจึงบังเกิด"คุณพราวข้อเท้าเคล็ดนิดหน่อยไม่เป็นอะไรมากหรอก"อุ่นเรือนตอบแทนพราวพิไลเธอแอบไม่ชอบใจนิสัยช่างสอดกับคำพูดคำจาที่ไม่มีมารยาทของมาลีอยู่บ่อยครั้งแต
14.00 น."มาหาใครคะ"ตกบ่ายในขณะที่มาลีกำลังเดินถือวัตถุดิบจากโรงครัวของคนงานเข้ามาในครัวของเรือนเธอก็เห็นสาวสวยลงมาจากรถหรูด้วยท่าทีรีบร้อนหมายจะเดินเข้าไปในเรือนเธอจึงต้องรีบสะกัดเอาไว้ก่อน"ฉันมาหารัญเค้าอยู่ไหม"สุพิชชาสาวหน้าสวยหุ่นดีระดับนางงามมองสาวใช้อย่างมาลีด้วยหางตาและไม่ได้สนใจคำที่สาวใช้ตรงหน้าถามเลยสักนิดเอาแต่ถามหาหิรัญว่าเขาอยู่หรือเปล่า"คุณเป็นใคร"มาลีได้ยินว่าสาวสวยคนนี้มาหาคนเป็นนายก็เกิดอาการไม่พอใจทันทีทั้งยังไม่ยอมให้หญิงสาวเข้าไปข้างในง่ายๆ"ฉันเป็นคนสนิทกับเค้าเธอล่ะเป็นใครน่าจะเป็นแค่คนงานที่นี่อย่าสอดถามให้มันมากนักฉันถามก็แค่ตอบไม่ใช่มาย้อนถามฉัน"สุพิชชาพูดเสียงแข็งใส่มาลีด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์"ถ้าคุณไม่ตอบฉันคงให้คุณเข้าไปในบ้านไม่ได้"มาลียืนลอยหน้าลอยตาขวางอีกฝ่ายิย่างไม่เกรงกลัวตามประสาของเธอ"เธอนี่ช่างกล้านะ"สุพิชชาชี้หน้ามาลีทั้งเน้นเขี้ยวเน้นฟันพูดขู่คนตรงหน้า"มีอะไรกันลี...คุณมาหาใครคะ"ป้าพวงได้ยินเสียงดังเลยรีบออกมาจากในครัวเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น"ฉันมาหารัญฉันเป็นแฟนเค้าทีนี้มีสิทเข้าไปในบ้านได้หรือยัง"สุพิชชายืยกอดอกเชิดหน้าอย่างมั่นใจ"ยั
ครู่ต่อมา"ตกลงคุณเป็นใครกันแน่"ด้วยความสอดรู้สอดเห็นและอยากจะรู้เรื่องท่ี่แท้จริงมาลีจึงเดินออกมาหน้าเรือนในขณะที่สุพิชชากำลังจะขับรถกลับ"ฉันเป็นใครแล้วคนใช้อย่างเธอมายุ่งอะไรด้วย"สุพิชชามองมาลีด้วยหางตาและรีบขับรถกลับออกไปเพราะเธอไม่จำเป็นจะต้องบอกอะไรสาวใช้อย่างมาลี"หืม..นังหน้าพลาสติกฉันอุตส่าห์จะช่วยงั้นก็ช่วยเหลือตัวเองไปแล้วกัน"มาลีเห็นอาการสุพิชชาแล้วเธอก็หมั่นไส้สุดทนเธอตั้งใจว่าจะยืมมือสุพิชชากำจัดพราวพิไลเสียกน่อยแต่เหผ้นครั้งนี้เธอจะต้องเชียพราวพิไลแล้วล่ะมั้ง"......"หิรัญพาพราวพิไลมาในห้องนอนทั้งยืนจ้องมองเธอนานสองนานจนหญิงสาวรู้สึกแปลกๆ"พ..พี่รัญทำไมมองพราวแบบนั้นคะ""บอกความจริงได้ไหม""ค..ความจริงเรื่องอะไรคะ"พราวพิไลได้ยินคำถามก็เกิดกลืนน้ำลายไม่ลงคอเสียอย่างนั้น"ทำไมถึงยอมมาเล่นบทภรรยาพี่ที่นี่"หิรัญเดินมานั่งใกล้ๆกับพราวพิไลและถามเธอด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบไม่ได้บ่งบอกถึงอารมณ์ใดๆ"พ..พี่รัญรู้เหรอคะ"พราวพิไลเบิกตาโพรงตกใจเข้าไปอีกรอบ"ใช่..พี่จะบอกก็ได้ว่าพี่ไม่ได้ความจำเสื่อม""นี่แสดงว่าพี่รัญโกหกตั้งแต่แรก"หญิงสาวมองหน้าคนตัวโตอย่างไม่น่าเชื่อ"อืม..
ครู่ต่อมา"หึ่...นึกว่าจะไม่มาแล้วนะคะ"มาลีได้ยินเสียงรถมาจอดหน้าบ้านเธอจึงเดินมาดูเมื่อเห็นว่าเป็นสุพิชชาเธอจึงกรอกตามองบนอย่างไม่สบอารมณ์"ถอย.."สุพิชชาไม่อยากจะเสวนากับมาลีเท่าไรจึงเดินผ่านมาลีอย่างไม่สนใจ"นายไม่อยู่หรอกยังไม่กลับเห็นว่าพาเมียเค้าไปเปลี่ยนบรรยากาศนอนที่อื่น"มาลียิ้มเยาะอีกฝ่ายอย่างสะใจ"ที่ไหน.."สุพิชชาหันกลับมาค้อนขวับใส่มาลีทันทีหลังจากหญิงสาวพูดจบ"ไม่รู้สินะ"มาลีเดินเยื้องย่างออกไปด้วยรอยยิ้มแห่งผู้ชนะที่ยั่วโมโหสุพิชชาได้"นี่..หื้มม.."สุพิชชากำมือแน่นกัดฟันกรอดที่ทุกอย่างไม่เป็นดั่งใจหอศังกร"พี่รัญคะ"พราวพิไลลุกจากเตียงนอนในช่วงสายออกทาจากห้องนอนเห็นหิรัญยืนชมวิวอยู่ที่ระเบียงจึงหน้ามุ่ยเล็กน้อยที่เขาตื่นแล้วแต่ไม่ยอมปลุกเธอ"ตื่นแล้วเหรอ""สายแล้วทำไมไม่ปลุกพราวล่ะคะ""พี่เห็นว่าพราวนอนดึกเลยไม่อยากปลุกแต่เช้า""นี่เราจะกลับกันรึยังคะ"เมื่อตื่นมาได้คนนอนน้อยอย่างพราวพิไลก็เริ่มหิวขึ้นมาเสียแล้วจึงอยากจะกลับไปที่เรือนทานอาหารเช้าเต็มทน"ไปสิ"20 นาทีต่อมาหิรัญใช้เวลาไม่นานก็ขับรถมาถึงเรือนทั้งสองเดินเข้ามาในบ้านก็ต้องมีสีหน้าเอือมระอาตั้งแต่มาถึง