Share

ตอนที่10 จะแกล้งได้อีกนานเท่าไร

ครึ่งชั่วโมงต่อมา

"อ้าว..ลุงครามมีอะไรเหรอครับ"

หิรัญเดินออกมาหาลุงครามที่หน้าบ้าน

"ของคุณพราวมาส่งน่ะครับ"

"อ๋อ.."

ลุงครามยื่นพัสดุให้กับหิรัญ

"ของพราวใช่ไหมคะ"

พราวพิไลอาบน้ำแต่งตัวเสร็จทันเวลาที่ของเพื่อนเธอส่งมาพอดีเมื่อเห็นกล่องอยู่ในมือชายหนุ่มจึงรีบแย่งออกมาอย่างรวดเร็ว

"อะไรเหรอ"

หิรัญหันหน้าถามพราวพิไลอย่างสงสัยว่าด้านในเป็นอะไรเธอถึงได้หวงขนาดนั้น

"ก็..เป็นพวกน้ำหอมที่พราวสั่งให้เพื่อนซื้อส่งมาให้น่ะค่ะไม่มีอะไรขอบคุณนะคะลุงครามที่เอามาให้"

หญิงสาวพูดเสร็จก็รีบวิ่งกลับเข้าห้องหาที่ซ่อนของทันที

อันที่จริงแล้วมันเป็นยาสลบที่เธอสั่งให้เพื่อนเธอซื้อส่งมาให้ต่างหากเอาไว้ใช้ในเวลาที่ฉุกเฉิน

ครู่ต่อมา

โต๊ะอาหาร

"ป้าพวงขาพราวขอข้าวเพิ่มอีกนะคะ"

ตอนนี้พราวพิไลและหิรัญร่วมโต๊ะอาหารเย็นกันอยู่พักใหญ่วันนี้กับจ้าวค่อนข้างอร่อยเป็นพิเศษจนหญิงสาวต้องขอข้าวเพิ่ม

"ได้เลยค่ะคุณพราว"

"ของหวานมาแล้วค่ะ..."

ปึก

"ว้าย..ขอโทษค่ะคุณพราว"

มาลีตั้งใจที่จะให้กล้วยบวชชีในมือหกใส่พราวพิไลเธอแกล้งตกใจกับเรื่องที่เธอจงใจทำเพื่อให้ดูเป็นอุบัติเหตุ

"ไม่เป็นไร.."

พราพิไลเงยหน้าส่งยิ้มให้มาลีแต่สีหน้าของเธอตอนนี้กลับยิ้มเย้ยเธอในขณะที่พูดว่าขอโทษเธอจึงรู้ได้ทันทีว่าอีกฝ่ายตั้งใจ

"เดี๋ยวลีไปเอาผ้ามาเช็ดพื้นก่อนนะคะ​"

มาลีเดินเยื้องย่างอย่างพึงพอใจที่เธอสามารถแกล้งพราวพิไลได้

"เดี๋ยวพราวขอตัวไปล้างตัวก่อน"

พราวพิไลเดิมตามหลังมาลีไปติดๆ

ปึก

"ว้ายย.."

จู่ๆมาลีก็สะดุดล้มกับอะไรบางอย่างจนไปกองอยู่กับพื้น

"อุ้ย...ฉันขอโทษทีนะไม่ทันมองน่ะมัวแต่ดูเสื้อที่เลอะอยู่"

พราวพิไลแสร้งทำหน้าเสียไม่ได้ตั้งใจการกระทำนี้ทำนี้เธอต้องการให้อีกฝ่ายได้รู้ว่าเธอต้องการสั่งสอนคนที่มาทำเธอก่อนและให้รู้ว่าเธอไม่ใช่คนยอมคน

"ไม่เป็นไรค่ะคุณพราว"

มาลีกัดฟันกรอดแต่เมื่ออยู่ต่อหน้าทุกคนในบ้านเธอจึงรีบลุกขึ้นและเดินออกไปอย่างรวดเร็วก่อนที่จะควบคุมอารมณ์ไม่ได้มีปากเสียงกับพราวพิไลเธอจะอยู่ที่นี่ยาก

"......"

หิรัญนั่งอมยิ้มเล็กน้อยเขารู้ทั้งหมดว่าอะไรเป็นอะไรและก็ชอบใจพราวพิไลที่รู้จักปกป้องตัวเอง

"ฉันเห็นนะว่าแกทำอะไร"

บัวตองรีบเอ็ดใส่มาลีคนเป็นลูกสาวที่ทำพฤติกรรมแย่ๆใส่คนเป็นนาย

"ทำอะไรล่ะแม่"

มาลียังคงปฏิเสธหน้าซื่อ

"อยู่ที่นี่นายให้ข้าวให้น้ำให้งานแกก็ทำตัวดีๆเดี๋ยวจะเสียมาถึงฉัน"

บัวตองเห็นว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกเธอจึงต้องปรามลูกสาวของเธอเอาไว้ก่อนเพราะกลัวว่าจะเสียมาถึงเธอ

"...."

มาลีทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้เธอไม่ยอมฟังคำของแม่เธอแม้แต่นิดเดียว

21.00​ น.

"อ่านอะไรอยู่เหรอ"

หิรัญมองหญิงสาวจากบนเตียงเขาเห็นเธออ่านหนังสือในมือตั้งแต่ก่อนที่เขาจะอาบน้ำแล้วเมื่ออาบน้ำจนเสร็จพร้อมแต่งตัวก็ยังไม่เห็นเธอนั้นจะเลิกอ่านไม่รู้ว่าหนังสือเล่มนั้นมันมีอะไรดีนักหนา

"นิยายค่ะ"

"พี่เห็นพราวอ่านมาเป็นชั่วโมงสองชั่วโมงแล้วไม่พักบ้างเหรอ"

"นี่พราวยังอ่านไม่ถึงครึ่งเรื่องเลยนะคะ"

พราวพิไลหันมาส่งยิ้มอ่อนให้ชายหนุ่มก่อนจะหันหน้ามาก้มมองหนังสือในมือของเธอต่อ

"กะจะอ่านให้จบเรื่องเลยหรือไงพี่ว่าเล่มมันหนามากเลยนะ"

"พราวเคยอ่านจบเรื่องในคืนเดียวมาหลายครั้งแล้วนะคะพราวชอบค่ะ"

"แล้วคืนนี้จะอ่านทั้งคืนเลยไหม"

หิรัญขยับตัวเข้ามาประชิดหญิงสาวในขณะที่พราวพิไลไม่รู้ตัว

"ไม่ค่ะถ้าพราวอ่านก็ต้องเปิดไปพราวไม่กวนพี่รัญหรอกค่ะอีกแปปเดียวพราวก็เลิกอ่านแล้วค่ะ"

"พราวนี่เหมือนคุณย่าพี่เลยนะชอบอ่านนิยายเป็นชีวิตจิตใจเลย"

หิรัญอมยิ้มเล็กๆเขาเห็นคนที่อ่านหนังสือได้นานๆนอกจากคุณย่าของเขาก็มีหญิงสาว​นี่แหละ

"ผู้หญิงส่วนมากก็ชอบอ่านกันทั้งนั้นแหละค่ะเท่าที่พราวรู้นะคะ"

"พี่ว่าคืนนี้พอแค่นี้เถอะนะ"

หิรัญดึงหนังสือออกจากมือพราวพิไลทั้งรวบร่างบางให้นอนลง

"พ..พี่รัญจะทำอะไรคะ.."

พราวพิไลสะดุ้งเฮือกพยายามจะลุกแต่ก็ถูกแรงที่แขนของชายหนุ่มกดเอาไว้เธอมีท่าทีเลิ่กลั่กพอสมควรจนชายหนุ่มแอบขำในใจ

"ก็ทำอะไรที่สามีภรรยาเค้าทำกันไง"

หิรัญส่งสายตาหยาดเยิ้มขยับใบหน้าของเขาเข้ามาใกล้ๆแก้มนวลของหญิงสาวใช้จมูกโด่งเป็นสันของเขาเขี่ยพวงแก้มสูดดมเบาๆ

"ค..คือ..พี่รัญความจำยังไม่กลับมาเลยแล้วจำความรู้สึกของเราสองคนได้แล้วเหรอคะ"

พราวพิไลหันหน้าหนีหลับตาปี๋ไม่คิดว่าคืนนี้ชายหนุ่มจะมาแนวนี้เพราะหลายวันที่ผ่านมาเขาก็ดูปกติดีต่อจากนี้เธอจะประมาทเขาไม่ได้อีกแล้ว

"อืม...หลายวันมานี้ถึงพี่จะจำอะไรไม่ได้แต่พี่ก็รู้ว่าพราวรักพี่ถึงคอบดูแลพี่ตลอดแล้วความรู้สึกดีๆพี่ก็มีให้พราวมากขึ้นทุกวันแล้วอีกอย่างเราก็เป็นสามีภรรยากันแล้วเรื่องแบบนี้ก็เป็นเรื่องปกติที่พี่ทำได้นะ"

หิรัญอธิบายด้วยรอยยิ้มกริ่ม

"อ...เอ่อ...เดี๋ยวพราวขอเข้าห้องน้ำสักครู่นะคะ"

พราวพิไลนึกขึ้นได้ว่าเธอมีตัวช่วยอยู่เพียงแต่ต้องลุกออกไปเอาเท่านั้นเองจึงออกอุบายว่าอยากจะเข้าหเองน้ำเพราะของที่ปอแก้วส่งมาให้เธอมันอยู่ในนั้น

"เร็วๆนะ"

"ค่ะ"

หิรัญยอมปล่อยหญิงสาวให้เธอไปจัดการธุระของเธอแต่โดยดีและนอนรอด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มบนเตียงอย่างสบายใจพรางคิดในใจอย่างเอ็นดูคนตัวเล็กว่าเธอจะแกล้งเป็นภรรยาของเขาไปอีกนานเท่าไร

ใช่แล้วเขาไม่ได้ความจำเสื่อมเขาเพียงแค่อยากทำตัวให้ลืมแฟนเก่าเขาไปก็เท่านั้นและหากเจอหน้าเธอเขาจะได้ทำเป็นไม่รู้จักเธอได้อย่างไม่มีข้อกังขาและรู้ว่าทุกคนจะไม่พูดถึงแฟนเก่าเขาอีกเป็นแน่และจะไม่ถามเรื่องอาการอกหักของเขาอีกแล้วด้วยแต่เขาก็ไม่คิดว่าแม่ของเขาจะแผนสูงพาสาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มมาเล่นบทเป็นภรรยาของเขาแต่เขาเองก็อยากจะบอกคนเป็นแม่ว่าเธอคนนี้ช่างเป็นที่ต้องตาของเขาเสียเหลือเกินแถมยังเป็นคนทำให้เขาอมยิ้มได้อยู่บ่อยครั้งอีกด้วยและครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งที่เขาอยากจะแกล้งเธอและดูซิว่าเธอนั้นจะรับมือเขาอย่างไร

"อยู่ไหนนะ..อ่อ..นี่.."

เมื่อได้รับคำอนุญาตจากชายหนุ่มพราวพิไลก็รีบวิ่งแจ้นเข้าห้องน้ำมาหาของของเธอทันทีเมื่อจัดการได้ไม่นานเธอก็ใส่ยาสลบในผ้าเช็ดหน้าเสร็จและรีบออกมาจากห้องน้ำทันที

"มานอนนี่สิ"

หิรัญที่นอนตะแคงชันหัวมองมาทางหญิงสาวเมื่อเห็นเธอออกมาจากห้องน้ำเขาก็ใช้มือตบที่นอนเบาๆเรียกเธอมานอนด้วยสายตาเจ้าเล่ห์

"ค่ะ.."

พราวพิไลค่อยๆเดินมานอนข้างๆชายหนุ่มเมื่อเห็นว่าเขาหลับตาพริ้มจะก้มลงหอมเธอจึงรีบใช้ผ้าโปะจมูกของเขาไว้ก่อน

ฟอดดดดด

"อืม.."

เมื่อชายหนุ่มสูดดมสารที่ทำให้สลบไปเต็มๆจึงหลับคอพับคออ่อนไปในทันที

"เฮ้ออ...โล่งอก"

เมื่อเห็นชายหนุ่มหลับลงไปได้พราวพิไลก็ลุกขึ้นนั่งด้วยท่าทีโล่งอกทั้งหันมองชายหนุ่มและส่ายหัววันนี้เธอรอดไปได้แต่ไม่รู้ว่าอีกหลายๆวันเธอจะผ่านมันไปแบบนี้ได้หรือเปล่าเดี๋ยวเธอคงต้องหาแผนการอะไรใหม่ๆที่ทำให้เขายุ่งกับเธอไม่ได้เสียแล้ว

เมื่อนั่งคิดอะไรเพลินๆจู่ๆเธอก็หน้าแดงขึ้นมาเพราะคำบางคำที่ชายหนุ่มพูดดันโผล่เข้ามาในหัวทำให้เธอรู้สึกเขินคนที่หลับอยู่แปลกๆ

"เขินทำไมเนี่ยพราว"

ยิ่งมองหน้าชายหนุ่มเธอก็ยิ่งเขินจึงใช้ผ้าห่มปิดหน้าของเขาเอาไว้และปิดไฟนอนอย่างสบายใจที่ไม่มีคนมายุ่มย่ามกับเธอแล้ว

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status