Share

ตอนที่17 เข้าข้าง

ตลาดสด

"เอาผักตามนี้จะ"

บัวตองยื่นกระดาษให้แม่ค้าขายผักเช่นเดิมที่คนมาจ่ายตลาดจากไร่ทำทุกวันวันนี้เธอมาเองเพราะไม่อยากให้มาลีมาที่นี่อีกเพราะเบื่อที่จะฟังคนเขาลือกันเต็มทนเรื่องลูกสาวเธอกับเสี่ยเกลี้ยง

"แล้ววันนี้ลูกสาวไม่มาเหรอบัวตอง"

"ฉันจะมาจ่ายตลาดเองแล้วล่ะ"

"ดีแล้วล่ะเตือนลูกแกให้อยู่ห่างๆเสี่ยเกลี้ยงหน่อยก็ดีนะ"

แม่ค้าขายผักก็เห็นว่าดีแล้วที่มาลีไม่ต้องมาเพราะน้อยคนนักที่อยากจะคบค้าสมาคมกับเสี่ยเกลี้ยงถ้าไม่จำเป็น

"ก็เพราะเหตุผลนี้นี่แหละที่ทำให้ฉันต้องมาจ่ายตลาดเอง"

บัวตองตอบกลับอย่างเหลือใจ

"ดีแล้ว"

เย็นของวัน

"ทำไมแม่ไม่ให้ฉันไปจ่ายตลาดเองล่ะ"

มาลีหน้าบูดหน้าบึ้งที่เธอไม่ได้ไปจ่ายตลาดเองเช่นทุกวัน

"ฉันไม่อยากให้แกเป็นขี้ปากใคร"

บัวตองหันมามองค้อนทำหน้าไม่พอใจใส่คนเป็นลูกสาว

"ฉันโตแล้วนะแม่เลิกห้ามโน่นห้ามนี่ซะทีได้ไหม"

มาลีรำคาญที่คนเป็นแม่คอยเจ้ากี้เจ้าการกับชีวิตเธอแทบทุกเรื่องทั้งทีาเธอก็โตจนป่านนี้แล้ว

"โตแล้วไม่มีหัวคิดอย่างแกฉันต้องคอยห้าม"

"โอ้ยยย.."

มาลีกระฟัดกระเฟียดใส่คนเป็นแม่เพราะคิดว่าแม่เธอไม่เคยเข้าใจอะไรเธอเลย

"แม่แกบ่นก็ห่วงแกนั่นแหละนังลี"

พวงเองเห็นว่าสองแม่ลูกเถียงกันก็ทนไม่ได้จะต้องสอดเข้ามาสอนมาลีเสียหน่อย

"อย่างนี้เรียกห่วงเหรอสักแต่ว่าจะบ่นมากกว่า"

มาลีพูดจบก็เดินออกจากห้องครัวไปอย่างรวดเร็วด้วยอารมณ์ที่ไม่ค่อยจะดีนัก

"เออ...จะไปไหนก็ไปเลย"

บัวตองเองก็เหนื่อยที่จะพูดกับลูกเธอเหมือนกันที่เธอพูดเธอห้ามก็เพราะห่วงทั้งนั้นไม่เข้าใจว่าลูกเธอทำไมถึงไม่เจ้าใจบ้างเลย

"เฮ้ออ.."

พวงเห็นอาการของสองแม่ลูกก็ต้องส่ายหัวเบาๆเพราะขัดกันได้ทุกวี่ทุกวัน

วันต่อมา

"คุณท่านคะมีคนมาขอพบค่ะ"

"ใครกันมาแต่เช้า"

หทัยรัตน์เดินตรงมายังห้องรับแขกด้วยสีหน้าสงสัย

"คุณแม่สวัสดีค่ะ"

สุพิชชาลุกขึ้นมาสวัสดีหทัยรัตน์ด้วยสีหน้าระรื่น

"เธอ!!"

หทัยรัตน์ไม่คิดว่าหญิงสาวจะกล้ามาเจอหน้าเธออีกทั้งที่ทำกับลูกชายเธอเอาไว้เยอะขนาดนั้น

"ชาอยากรู้ว่าผู้หญิงที่เป็นเมียรัญคือใคร"

สุพิชชาโพร่งประเด็นที่อยากรู้อย่างเสียมารยาท

"ก็ลูกสะใภ้ฉันน่ะสิ"

หทัยรัตน์ตอบด้วยรอยยิ้มอย่างเต็มปากเต็มคำที่เธอถามแบบนี้คงมิวายไปที่ไร่มาแล้วเป็นแน่

"คุณแม่กำลังเล่นอะไรอยู่คะ"

สุพิชชาดูสีหน้าหทัยรัตน์แล้วเธอก็พอรู้ว่าทุกอย่างคงเกิดขึ้นโดยหทัยรัตน์

"ฉันจะทำอะไรไม่ทำอะไรมันเกี่ยวอะไรกับเธอได้ข่าวว่าหมั้นแล้วนี่เมื่อไรจะแต่งงาน"

หทัยรัตน์เชิดหน้าใส่สุพิชชาที่หน้าไม่อายจะแต่งงานแล้วยังจะมาตามวอแวลูกชายของเธออีก

"ชาถอนหมั้นแล้วล่ะค่ะและชาจะมาทวงรัญคืนชาแค่จะมาบอกคุณแม่ให้รับรู้เท่านั้นแต่ดูท่าคุณแม่คงจะเชียร์นังลูกสะใภ้คนใหม่น่าดูถ้ารัญไม่ความจำเสื่อมคงไม่มีวันอยู่กับนังแคะนั่นหรอกค่ะ"

สุพิชชากดเสียงต่ำมองจ้องหทัยรัตน์ให้รู้ว่าเธอเอาจริง

"นี่เธอ...กล้าดียังไงมาก้าวร้าวกับฉันอย่าหวังว่าคนอย่างเธอจะได้มาเป็นสะใภ้ฉันได้"

หทัยรัตน์ตวาดคนก้าวร้าวตรงหน้าอย่างเหลืออด

"คุณแม่ก็คอยดูก็แล้วกันค่ะ"

สุพิชขาทิ้งท้ายด้วยคำพูดและรอยยิ้มมุมปากพร้อมเดินสะบัดออกไปอย่างท้าทาย

"..เฮ้อ..นวล..ฉันอายแทนยัยผู้หญิงคนนี้จริงๆ"

หทัยรัตน์ลมแทบจับในช่วงเช้าของวันไม่เคยคิดว่าสุพิชชาที่เห็นเรียบร้อยๆเวลาร้ายจะแรงขนาดนี้

"คุณท่านนั่งก่อนค่ะ"

14.00​ น.

สำนักงานธนาคาร

"ฉันมาพบรัฐเค้าอยู่ไหม"

เกวลินเดินดุ่มๆเข้ามาที่หน้าห้องธรัฐเข้ามามองแพรวพิลาสอย่างสงสัยเพราะใบหน้าเธอช่างคุ้นเหลือเกิน

"อยู่ด้านในค่ะ..คุณได้.น..."

แพรวพิลาสไม่ทันได้ถามหญิงสาวที่เดินแต่งตัวเปรี้ยวเข้ามาว่ามีนัดไว้หรือไม่เธอก็เดินเปิด​ประตูเข้าไปแล้ว

แกร๊กก

"รัฐคะ"

เกวลินเดินเข้ามานั่งตักธรัฐทั้งโอบกอดด้วยความคิดถึงเพราะเขาไม่ค่อยได้ติดต่อกับเธอไปเลยเธอจึงต้องบุกมาถึงที่นี่

"ใครให้คุณมาที่นี่จะมาทำไมไม่บอกกันก่อน"

ธรัฐมองหน้าเกวลินอย่างไม่พอใจเพราะผู้หญิงที่เขาควงเล่นไม่มีสิทธิ์มาที่นี่ซึ่งเป็นข้อห้ามในข้อตกลงกันแต่แรกอยู่แล้วแต่ผู้หญิงพวกนี้ก็ทิวายมาที่นี่อยู่บ่อยครั้งจนพนักงานต่างก็เอาไปพูดกัน

"เกวคิดถึงคุณนี่คะ"

เกวลินทำหน้าออดอ้อน

"นี่มันเวลางานของผมนะ"

"ว่าแต่แม่นั่นมาทำงานกับคุณได้ไงคะเกวจำหน้านางได้ว่าแม่นี่มีเรื่องกับคนอื่นที่ร้านอาหาร"

เกวลินทำท่าจะนึกออกแล้วว่าเธอเห็นเลขาที่อยู่หน้าห้องธรัฐตอนไหน

"เธอเป็นลูกสาวเพื่อนแม่ผมมาช่วยงานที่นี่"

ธรัฐตอบไปอย่างไม่ใส่ใจเธอเข้ามาทำงานที่นี่ได้ก็เพราะคนเป็นแม่ของเขาสั่งมา

"โลกกลมจังเลยนะคะ...หวังว่าคุณจะไม่หลงเสน่ห์คนใกล้ตัวนะเพราะคนที่ชอบยุ่งกับสามีชาวบ้านคงจะร่านไปทั่ว"

เกวลินเริ่มมีอาการหึงธรัฐเธอปฏิเสธไม่ได้เลยว่าไม่กลัวว่าธรัฐจะไม่หลงเสน่ห์แม่เลขาหน้าห้องนั่นถึงแม้จะไม่ได้สูงยาวเข่าดีอย่างเธอแต่ก็สวยหวานสะดุดตา

"เลิกพูดแบบนี้เกว...คุณก็รู้ว่าผมไม่ชอบให้ใครมาหึงหวงแล้วอีกอย่างแพรวเค้าก็ไม่ได้อยากยุ่งกับสามีใครอย่างที่คุณคิดผู้ชายต่างหากที่ตามตื๊อเธอไม่เลิก"

ธรัฐเห็นเกวลินเข้าใจผิดแพรวพิลาสไม่ได้เขาจึงต้องแก้ต่างให้เพราะเขาก็เห็นเองกับตาว่าผู้ชายคนนั้นตามตื๊อแพรวพิลาสเอง

"คุณเข้าข้างยัยเลขาของคุณงั้นเหรอคะ..นี่มันมาทำงานได้กี่วันแล้วคะถึงปกป้องกันขนาดนี้"

เกวลินยิ่งเห็นธรัฐปกป้องเลขาขนาดนั้นก็มีทีท่าไม่พอใจ

"ถ้าคุณจะมาหาเรื่องผมคุณกลับไปดีกว่า"

"คุณไล่เกว..."

"คุณไม่มีสิทธิ์มาที่นี่ด้วยซ้ำ...อย่าลืมว่าเราคบกันในฐานะอะไรถ้าผมไม่พอใจขึ้นมาอย่าหวังว่าจะได้อยู่ใกล้ผมอีก"

ธรัฐพูดเสียงแข็ง

"เกวไปก็ได้ค่ะ"

เกวลินยอมเดินออกมาจากห้องธรัฐอย่างจำใจเพราะเธอก็ยังไม่อยากถูกธรัฐเขี่ยทิ้งในตอนนี้ข่าวเธอกับเขาทำให้เธอมีงานไม่เว้นวันเธอต้องกอบโกยเอาไว้ก่อน

ปึก....

"ว้ายย..."

เกวลินเดินออกมาเห็นแพรวพิลาสกำลังยืนจัดเอกสารอยู่เธอจึงแกล้งชนจนแพรวพิลาสล้มลงไปกองกับพื้น

"เซ่อซ่าเอง.."

"นี่คุณชนคนอื่นแล้วยังไม่ขอโทษอีก"

ศจีมองค้อนใส่เกวลินเธอเดินผ่านมาเห็นพอดีจึงต่อว่าเกวลินให้สำนึก

"หึ่.."

แทนที่เกวลินจะเอ่ยขอโทษกลับยิ้มเย้ยคนที่กระเด็นกองอยู่ที่พื้นอย่สงพอใจแล้วเดินออกไปอย่างสบายอารมณ์

"ชั่งเธอเถอะค่ะ"

แพรวพิลาสไม่คิดจะต่อปากต่อคำกับคนอันธพาลเช่นนี้อยู่แล้ว

"ผู้หญิงของท่านรองนี่จะนิสัยเสียกันทุกคนเลยหรือไง"

"พูดแบบนี้แสดงว่ามีหลายคนเหรอคะ"

แพรวพิลาสได้ยินเช่นนี้นก็ต้องถามศจีด้วยความสงสัยเพราะสิ่งที่ศจีพูดเหมือนธรัฐจะไม่ได้มีผู้หญิงคนเดียวที่มาที่นี่

"ก็ที่เคยโผล่มาที่นี่นับได้อยู่นะคะแต่ข้างนอกพี่ก็ไม่รู้"

"เฮ้อ.."

แพรวพิลาสถอนหายใจเฮือกใหญ่ไม่รู้ว่าการมาทำงานตรงนี้เธอจะต้องเจออะไรอีกบ้าง

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status