ตลาดสด
"เอาผักตามนี้จะ"
บัวตองยื่นกระดาษให้แม่ค้าขายผักเช่นเดิมที่คนมาจ่ายตลาดจากไร่ทำทุกวันวันนี้เธอมาเองเพราะไม่อยากให้มาลีมาที่นี่อีกเพราะเบื่อที่จะฟังคนเขาลือกันเต็มทนเรื่องลูกสาวเธอกับเสี่ยเกลี้ยง
"แล้ววันนี้ลูกสาวไม่มาเหรอบัวตอง"
"ฉันจะมาจ่ายตลาดเองแล้วล่ะ"
"ดีแล้วล่ะเตือนลูกแกให้อยู่ห่างๆเสี่ยเกลี้ยงหน่อยก็ดีนะ"
แม่ค้าขายผักก็เห็นว่าดีแล้วที่มาลีไม่ต้องมาเพราะน้อยคนนักที่อยากจะคบค้าสมาคมกับเสี่ยเกลี้ยงถ้าไม่จำเป็น
"ก็เพราะเหตุผลนี้นี่แหละที่ทำให้ฉันต้องมาจ่ายตลาดเอง"
บัวตองตอบกลับอย่างเหลือใจ
"ดีแล้ว"
เย็นของวัน
"ทำไมแม่ไม่ให้ฉันไปจ่ายตลาดเองล่ะ"
มาลีหน้าบูดหน้าบึ้งที่เธอไม่ได้ไปจ่ายตลาดเองเช่นทุกวัน
"ฉันไม่อยากให้แกเป็นขี้ปากใคร"
บัวตองหันมามองค้อนทำหน้าไม่พอใจใส่คนเป็นลูกสาว
"ฉันโตแล้วนะแม่เลิกห้ามโน่นห้ามนี่ซะทีได้ไหม"
มาลีรำคาญที่คนเป็นแม่คอยเจ้ากี้เจ้าการกับชีวิตเธอแทบทุกเรื่องทั้งทีาเธอก็โตจนป่านนี้แล้ว
"โตแล้วไม่มีหัวคิดอย่างแกฉันต้องคอยห้าม"
"โอ้ยยย.."
มาลีกระฟัดกระเฟียดใส่คนเป็นแม่เพราะคิดว่าแม่เธอไม่เคยเข้าใจอะไรเธอเลย
"แม่แกบ่นก็ห่วงแกนั่นแหละนังลี"
พวงเองเห็นว่าสองแม่ลูกเถียงกันก็ทนไม่ได้จะต้องสอดเข้ามาสอนมาลีเสียหน่อย
"อย่างนี้เรียกห่วงเหรอสักแต่ว่าจะบ่นมากกว่า"
มาลีพูดจบก็เดินออกจากห้องครัวไปอย่างรวดเร็วด้วยอารมณ์ที่ไม่ค่อยจะดีนัก
"เออ...จะไปไหนก็ไปเลย"
บัวตองเองก็เหนื่อยที่จะพูดกับลูกเธอเหมือนกันที่เธอพูดเธอห้ามก็เพราะห่วงทั้งนั้นไม่เข้าใจว่าลูกเธอทำไมถึงไม่เจ้าใจบ้างเลย
"เฮ้ออ.."
พวงเห็นอาการของสองแม่ลูกก็ต้องส่ายหัวเบาๆเพราะขัดกันได้ทุกวี่ทุกวัน
วันต่อมา
"คุณท่านคะมีคนมาขอพบค่ะ"
"ใครกันมาแต่เช้า"
หทัยรัตน์เดินตรงมายังห้องรับแขกด้วยสีหน้าสงสัย
"คุณแม่สวัสดีค่ะ"
สุพิชชาลุกขึ้นมาสวัสดีหทัยรัตน์ด้วยสีหน้าระรื่น
"เธอ!!"
หทัยรัตน์ไม่คิดว่าหญิงสาวจะกล้ามาเจอหน้าเธออีกทั้งที่ทำกับลูกชายเธอเอาไว้เยอะขนาดนั้น
"ชาอยากรู้ว่าผู้หญิงที่เป็นเมียรัญคือใคร"
สุพิชชาโพร่งประเด็นที่อยากรู้อย่างเสียมารยาท
"ก็ลูกสะใภ้ฉันน่ะสิ"
หทัยรัตน์ตอบด้วยรอยยิ้มอย่างเต็มปากเต็มคำที่เธอถามแบบนี้คงมิวายไปที่ไร่มาแล้วเป็นแน่
"คุณแม่กำลังเล่นอะไรอยู่คะ"
สุพิชชาดูสีหน้าหทัยรัตน์แล้วเธอก็พอรู้ว่าทุกอย่างคงเกิดขึ้นโดยหทัยรัตน์
"ฉันจะทำอะไรไม่ทำอะไรมันเกี่ยวอะไรกับเธอได้ข่าวว่าหมั้นแล้วนี่เมื่อไรจะแต่งงาน"
หทัยรัตน์เชิดหน้าใส่สุพิชชาที่หน้าไม่อายจะแต่งงานแล้วยังจะมาตามวอแวลูกชายของเธออีก
"ชาถอนหมั้นแล้วล่ะค่ะและชาจะมาทวงรัญคืนชาแค่จะมาบอกคุณแม่ให้รับรู้เท่านั้นแต่ดูท่าคุณแม่คงจะเชียร์นังลูกสะใภ้คนใหม่น่าดูถ้ารัญไม่ความจำเสื่อมคงไม่มีวันอยู่กับนังแคะนั่นหรอกค่ะ"
สุพิชชากดเสียงต่ำมองจ้องหทัยรัตน์ให้รู้ว่าเธอเอาจริง
"นี่เธอ...กล้าดียังไงมาก้าวร้าวกับฉันอย่าหวังว่าคนอย่างเธอจะได้มาเป็นสะใภ้ฉันได้"
หทัยรัตน์ตวาดคนก้าวร้าวตรงหน้าอย่างเหลืออด
"คุณแม่ก็คอยดูก็แล้วกันค่ะ"
สุพิชขาทิ้งท้ายด้วยคำพูดและรอยยิ้มมุมปากพร้อมเดินสะบัดออกไปอย่างท้าทาย
"..เฮ้อ..นวล..ฉันอายแทนยัยผู้หญิงคนนี้จริงๆ"
หทัยรัตน์ลมแทบจับในช่วงเช้าของวันไม่เคยคิดว่าสุพิชชาที่เห็นเรียบร้อยๆเวลาร้ายจะแรงขนาดนี้
"คุณท่านนั่งก่อนค่ะ"
14.00 น.
สำนักงานธนาคาร
"ฉันมาพบรัฐเค้าอยู่ไหม"
เกวลินเดินดุ่มๆเข้ามาที่หน้าห้องธรัฐเข้ามามองแพรวพิลาสอย่างสงสัยเพราะใบหน้าเธอช่างคุ้นเหลือเกิน
"อยู่ด้านในค่ะ..คุณได้.น..."
แพรวพิลาสไม่ทันได้ถามหญิงสาวที่เดินแต่งตัวเปรี้ยวเข้ามาว่ามีนัดไว้หรือไม่เธอก็เดินเปิดประตูเข้าไปแล้ว
แกร๊กก
"รัฐคะ"
เกวลินเดินเข้ามานั่งตักธรัฐทั้งโอบกอดด้วยความคิดถึงเพราะเขาไม่ค่อยได้ติดต่อกับเธอไปเลยเธอจึงต้องบุกมาถึงที่นี่
"ใครให้คุณมาที่นี่จะมาทำไมไม่บอกกันก่อน"
ธรัฐมองหน้าเกวลินอย่างไม่พอใจเพราะผู้หญิงที่เขาควงเล่นไม่มีสิทธิ์มาที่นี่ซึ่งเป็นข้อห้ามในข้อตกลงกันแต่แรกอยู่แล้วแต่ผู้หญิงพวกนี้ก็ทิวายมาที่นี่อยู่บ่อยครั้งจนพนักงานต่างก็เอาไปพูดกัน
"เกวคิดถึงคุณนี่คะ"
เกวลินทำหน้าออดอ้อน
"นี่มันเวลางานของผมนะ"
"ว่าแต่แม่นั่นมาทำงานกับคุณได้ไงคะเกวจำหน้านางได้ว่าแม่นี่มีเรื่องกับคนอื่นที่ร้านอาหาร"
เกวลินทำท่าจะนึกออกแล้วว่าเธอเห็นเลขาที่อยู่หน้าห้องธรัฐตอนไหน
"เธอเป็นลูกสาวเพื่อนแม่ผมมาช่วยงานที่นี่"
ธรัฐตอบไปอย่างไม่ใส่ใจเธอเข้ามาทำงานที่นี่ได้ก็เพราะคนเป็นแม่ของเขาสั่งมา
"โลกกลมจังเลยนะคะ...หวังว่าคุณจะไม่หลงเสน่ห์คนใกล้ตัวนะเพราะคนที่ชอบยุ่งกับสามีชาวบ้านคงจะร่านไปทั่ว"
เกวลินเริ่มมีอาการหึงธรัฐเธอปฏิเสธไม่ได้เลยว่าไม่กลัวว่าธรัฐจะไม่หลงเสน่ห์แม่เลขาหน้าห้องนั่นถึงแม้จะไม่ได้สูงยาวเข่าดีอย่างเธอแต่ก็สวยหวานสะดุดตา
"เลิกพูดแบบนี้เกว...คุณก็รู้ว่าผมไม่ชอบให้ใครมาหึงหวงแล้วอีกอย่างแพรวเค้าก็ไม่ได้อยากยุ่งกับสามีใครอย่างที่คุณคิดผู้ชายต่างหากที่ตามตื๊อเธอไม่เลิก"
ธรัฐเห็นเกวลินเข้าใจผิดแพรวพิลาสไม่ได้เขาจึงต้องแก้ต่างให้เพราะเขาก็เห็นเองกับตาว่าผู้ชายคนนั้นตามตื๊อแพรวพิลาสเอง
"คุณเข้าข้างยัยเลขาของคุณงั้นเหรอคะ..นี่มันมาทำงานได้กี่วันแล้วคะถึงปกป้องกันขนาดนี้"
เกวลินยิ่งเห็นธรัฐปกป้องเลขาขนาดนั้นก็มีทีท่าไม่พอใจ
"ถ้าคุณจะมาหาเรื่องผมคุณกลับไปดีกว่า"
"คุณไล่เกว..."
"คุณไม่มีสิทธิ์มาที่นี่ด้วยซ้ำ...อย่าลืมว่าเราคบกันในฐานะอะไรถ้าผมไม่พอใจขึ้นมาอย่าหวังว่าจะได้อยู่ใกล้ผมอีก"
ธรัฐพูดเสียงแข็ง
"เกวไปก็ได้ค่ะ"
เกวลินยอมเดินออกมาจากห้องธรัฐอย่างจำใจเพราะเธอก็ยังไม่อยากถูกธรัฐเขี่ยทิ้งในตอนนี้ข่าวเธอกับเขาทำให้เธอมีงานไม่เว้นวันเธอต้องกอบโกยเอาไว้ก่อน
ปึก....
"ว้ายย..."
เกวลินเดินออกมาเห็นแพรวพิลาสกำลังยืนจัดเอกสารอยู่เธอจึงแกล้งชนจนแพรวพิลาสล้มลงไปกองกับพื้น
"เซ่อซ่าเอง.."
"นี่คุณชนคนอื่นแล้วยังไม่ขอโทษอีก"
ศจีมองค้อนใส่เกวลินเธอเดินผ่านมาเห็นพอดีจึงต่อว่าเกวลินให้สำนึก
"หึ่.."
แทนที่เกวลินจะเอ่ยขอโทษกลับยิ้มเย้ยคนที่กระเด็นกองอยู่ที่พื้นอย่สงพอใจแล้วเดินออกไปอย่างสบายอารมณ์
"ชั่งเธอเถอะค่ะ"
แพรวพิลาสไม่คิดจะต่อปากต่อคำกับคนอันธพาลเช่นนี้อยู่แล้ว
"ผู้หญิงของท่านรองนี่จะนิสัยเสียกันทุกคนเลยหรือไง"
"พูดแบบนี้แสดงว่ามีหลายคนเหรอคะ"
แพรวพิลาสได้ยินเช่นนี้นก็ต้องถามศจีด้วยความสงสัยเพราะสิ่งที่ศจีพูดเหมือนธรัฐจะไม่ได้มีผู้หญิงคนเดียวที่มาที่นี่
"ก็ที่เคยโผล่มาที่นี่นับได้อยู่นะคะแต่ข้างนอกพี่ก็ไม่รู้"
"เฮ้อ.."
แพรวพิลาสถอนหายใจเฮือกใหญ่ไม่รู้ว่าการมาทำงานตรงนี้เธอจะต้องเจออะไรอีกบ้าง
ครู่ต่อมา"ปวดจัง.."หลังจากที่เกวลินจากไปพักใหญ่แต่แพรวพิลาสยังคงปวดข้อเท้าอยู่ไม่หายที่ล้มลงไปเธอจึงพยายามนวดให้หายปวดด้วยสีหน้าที่ห่อเหี่ยว"มาพบท่านรองครับ"ภัคดนัยกรรมการอีกฝ่ายของที่นี่เดินมาหน้าห้องธรัฐเพื่อมาแจ้งข่าวกำหนดการการทำงานที่ญี่ปุ่น"สักครู่นะคะ..พี่นัย"แพรวพิลาสเงยหน้าขึ้นมาก็ยิ้มหน้่บานเมื่อเจอเพื่อนรุ่นพี่ที่สนิทและไม่ได้เจอกันนานแล้วตั้งแต่เรียนจบ"อ้าวแพรวทำงานที่นี่เหรอ"ภัคดนัยเองก็ดีใจไม่แพ้กันเขาคิดว่าแพรวพิลาสจะทำงานอยู่สิงคโปร์เสียอีกไม่รู้ว่าเธอกลับมาตอนไหนเหมือนกัน"ค่ะแพรวพึ่งเข้ามาช่วยงานที่นี่ค่ะพี่นัยล่ะคะมาทำอะไรที่นี่""พี่มาพบท่านรองน่ะพอดีพี่ช่วยงานพ่อของนิที่นี่""พึ่งรู้นะคะเนี่ยไม่งั้นเราคงเจอกันไปนานแล้ว""พี่ดีใจมากเลยนะที่มีโอกาสได้เจอแพรวอีก""หลังจากนี้เราคงเจอกันบ่อยขึ้นแล้วล่ะค่ะ"ทั้งสองคุยกันหัวเราะเสียงดังอย่างสนิทสนมจนคนในห้องต้องออกมาดูว่าเลขาของเขานั้นยืนคุยอยู่กับใคร"อ้าวคุณนัย"ธรัฐมองท่าทีที่ภัคดนัยและแพรวพิลาสคุยกันก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยเพราะมันดูสนิทสนมกันมากเป็นพิเศษ"ท่านรองผมกำลังจะเข้าไปคุยเรื่องที่เราต้องไปดูงานที่ญี่ปุ่นพ
"อะไรนะ"ธรัฐเองก็พึ่งรู้ข้อนี้เหมือนกันถึงว่าทำไมดูภัคดนัยกับแพรวพิลาสจะสนิทสนมกันเป็นพิเศษ"เอาเป็นว่าคุณสบายใจได้ว่าเมื่อคืนนัยไม่ได้อยู่กับแพรวเพราะผมก็อยู่ห้องตรงข้ามกับแพรวทำไมผมจะไม่รู้เมื่อเช้าเธอก็มาทำงานพร้อมผม"ความจริงเป็นอย่างไรไม่รู้แต่เขาขอแก้ผ้าเอาหน้ารอดไปก่อนเพื่อที่ทุกคนจะได้ไม่มีปัญหากัน"จริงเหรอคะ"นิรชาดูใจชื้นขึ้นมาหน่อย"คุณนัยเค้าอาจจะไปหาที่นอนที่อื่นก็ได้เพราะเลี่ยงที่จะทะเลาะกับคุณถ้าเค้ากลับบ้านคุณก็เคลียกันให้ดี""ค่ะ.."นิรชายอมรับฟังความคิดเห็นจากธรัฐและยอมกลับไปแต่โดยดี17.00 น."แพรว"ภัคดนัยเดินมาหาแพรวในช่วงเวลาเลิกงานเพื่อที่จะขอไปส่งหญิงสาวอีกเพราะเขารู้สึกว่าเมื่ออยู่กับเธอหรือได้พูดคุยกันมันทำให้เขาสบายใจขึ้นอย่างมาก"พี่นัย""วันนี้พี่ขอไปส่งแพรวอีกนะ""เอ่อ..ไม่เป็นไรค่ะแพรวกลับกับท่านรองเอ่อ..แล้วเมื่อวานพี่นัยไปไหนมาคะตอนเช้าพี่นิถึงตามมาที่นี่"แพรวพิลาสขอปฏิเสธจะดีกว่าเพราะเธอไม่อยากมีปัญหากับใครอีกทั้งถามเรื่องที่ภัคดนัยไม่กลับบ้านจนนิรชาต้องตามมาที่นี่อีกด้วย"คือพี่ทะเลาะกับเค้านิดหน่อยเลยไม่อยากกลับบ้าน"ภัคดนัยพูดด้วยแววตาที่เศร้าหมอ
ครู่ต่อมาเมื่อทั้งสามมาถึงเพลิงก็ได้ไหม้ไปเกือบหมดแล้วแต่คนงานก็ยังห่วงของข้างในห้องตัวเองจึงไม่ลดละที่จะหาน้ำหาท่ามาดับไฟรถดับเพลิงที่เรียกมาก็เข้ามาค่อนข้างช้าเพราะทางเข้าไล่ค่อนข้างลำบาก"ทุกคนหนีออกมาก่อนของช่างมันเดี๋ยวฉันจะซื้อให้ใหม่"หิรัญตะโกนก้องบอกทุกคนให้ละจาดการดับไฟเพราะห่วงความปลอดภัยของลูกไร่ของทุกอย่สงหาซื้อใหม่ได้แต่ชีวิตคนหาซื้อไม่ได้"ออกมาก่อน""ลูกแม่...ฮือๆๆๆ.."หิรัญหันไปเห็นคนงานผู้หญิงที่กำลังพยายามจะเข้าไปในกองไฟให้ได้แต่ก็ถูกคนที่ทำงานด้วยกันรั้งเอาไว้เขาจึงต้องเข้าไปดูว่ามันมีปัญหาเรื่องอะไรถึงอยากจะเข้าไปในกองเพลิงนัก"อะไรกัน""ลูกฉันอยู่ข้างในจะนาย..ช่วยลูกฉันด้วย"หญิงสาวภรรยาคนงานที่เป็นแม่ลูกอ่อนร้องให้ขอร้องหิรัญด้วยสีหน้าแทบขาดใจว่าให้ช่วยลูกสาววัยสองขวบของเธอที่อยู่ด้านในกองเพลิงด้วย"ได้.."หิรัญไม่ลังเลเลยสักนิดเขาถอดเสื้อชุบน้ำคลุมหัววิ่งฝ่าเข้าไปในกองเพลิงโดยไม่ห่วงชีวิต"พ..พี่รัญ""คุณพราวอย่าตามไปครับ"พราวพิไลเห็นหิรัญวิ่งเข้าไปข้างในกองเพลิงด้วยความเป็นห่วงเธอจึงวิ่งตามไปแต่ดีที่ลุงครามได้รั้งเธอเอาไว้ก่อน"ไฟลุกโชนขนาดนั้นพี่รัญจะปลอดภั
ฟอดดดด..หิรัญขโมยหอมแก้มนวลฟอดใหญ่เสร็จก็ลุกเดินไปเข้าห้องน้ำหน้าตาเฉยทิ้งพราวพิไลนั่งกุมใบหน้าเขินจนหน้าแดงเป็นลูกตำลึง"อีพี่รัญบ้า..เล่นอะไรเนี่ย"ชั่วโมงต่อมา"พราวขอดูแผลหน่อยนะคะ""เป็นยังไงบ้าง"หิรัญหันหลังให้หญิงสาวดูแผลของเขาทั้งถามสภาพตอนนี้มันเป็นอย่างไรบ้าง"คำถามนี้พราวต้องถามพี่รัญมากกว่าเพราะเหมือนมันจะบวมแดงกว่าเดิมอีกนะคะเจ็บมากไหมคะ"พราวพิไลมีสีหน้าเหยเกเล็กน้อยเมื่อเห็นสภาพแผลของเขาในตอนนี้"มีพราวดูแลอยู่ใกล้ๆเจ็บแค่ไหนพี่ก็ทนได้"หิรัญไม่ปฏิเสธว่าวันนี้รู้สึกระบมมากดว่าเมื่ิอวานแต่เพราะมีหญิงสาวคอยดูแลอยู่ใกล้ๆมันทำให้เขาลืมความเจ็บไปได้เป็นอย่างดี"จู่ๆทำไมมาหยอดคำหวานกับพราวล่ะคะ"พราวพิไลอมยิ้มกริ่ม"พี่จะจีบพราวน่ะสิ""เอ่อ..พูดตรงๆแบบนี้เลยเหรอคะ""วันที่พี่บอกกับพราวว่าพี่รู้สึกดีกับพราวมากขึ้นทุกวันคำนั้นพี่ไม่ได้แกล้งนะ..ถ้าพี่ไม่ถูกชะตากับพราวตั้งแต่ทีแรกพี่ไม่ยอมให้พราวมาเล่นบทภรรยาดูแลพี่หรอก"หิรัญกันหน้ามาจ้องพราวพิไลทั้งรวบกอดเธอเอาไว้ด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์"พี่รัญหันหลังมาค่ะพราวจะทายาให้"พราวพิไลเขินจนก้มหน้างุดต้องหาข้ออ้างให้เขาหันหลังไปเพราะเธอ
"ไม่ได้คือมันเป็นเรื่องที่ต้องคุยต่อหน้าจริงๆ""แพรวออกไปได้ประมาณสิบนาทีนะคะ"แพรวพิลาสออกมาดูด้านนอกเห็นว่าธรัฐน่าจะเข้าห้องไปแล้วเธอจึงรีบปลีกตัวออกมาแต่เธอก็ต้องบอกภัคดนัยก่อนว่าเธอมีเวลาไม่นานมากนัก"โอเค"ครู่ต่อมา"พี่นัยมีเรื่องอะไรคะ""คือพี่ทะเลาะกับนิจนเธอจะหย่ากับพี่แล้วขอไม่ให้พี่เจอลูกอีกพี่ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว"สองหนุ่มสาวนั่งคุยกันอยู่ที่ระเบียงหน้าบ้านพีกของภัคดนัยตอนนี้ชายหนุ่มมืดไปหมดแปดด้านเรื่องครอบครัวจนต้องหาคนปรึกษาเพื่อให้ตัวเองสบายใจและหาทางออกได้"ทะเลาะกันแรงขนาดนั้นเลยเหรอคะ""คือ..นิจับได้ว่าพี่มีคนอื่น"ภัคดนัยเอ่ยเสียงอ่อนด้วยแววตาที่รู้สึกผิด"พี่นัยมีคนอื่นจริงเหรอคะ...เฮ้อ"แพรวพิลาสถอนหายใจเฮือกใหญ่ที่แท้ก็เป็นเรื่องนี้ถึงว่าถึงได้ทะเลาะกันรุนแรงจนถึงขั้นจะหย่า"พี่ไม่ได้ตั้งใจแพรว...ตอนนั้นพี่แค่เบื่อที่นิสนใจแต่ลูกปล่อยเนื้อปล่อยตัวแล้วพี่ก็แค่เผลอเท่านั้นแต่ผู้หญิงคนนั้นขู่พี่ว่าถ้าพี่ไม่รับผิดชอบเธอจะแฉทำให้พี่กับนิทะเลาะกันพี่กลัวว่านิรู้เรื่องแล้วจะขอเลิกกับพี่แล้วพี่จะไม่ได้เจอลูกพี่เลยยอมที่จะดูแลผู้หญิงคนนั้น"อันที่จริงมันเป็นเรื่องที่เขาไม
ร้านอาหารxxx"พาแพรวมาทำไมคะฉันไม่ได้หิวซะหน่อย"แพรวพิลาสนั่งหน้าบึ้งตึงตั้งแต่ก่อนจะมาถึงร้านอาหารหรูที่นี่แล้ว"ไม่หิวก็ต้องทานเพราะผมหิว."ธรัฐจ้องหน้าหญิงสาวอย่างมีเลศนัยและพอใจที่ลากเธอมากับเขาสองต่อสองได้จะได้อยู่ห่างกับภัคดนัยด้วยกรุงเทพมหานครห้างสรรพสินค้า"คุณเกวนางแบบดังใช่ไหมคะ"นาถลดาเดินนำหน้าอติรุจคนเป็นสามีที่กำลังอุ้มลูกสาววัยสองขวบของเขาอยู่ในอกตรงมาที่เกวลินนางแบบสาวที่กำลังเลือกซื้อกระเป๋าอยู่ในชอปแบรนด์ดังในห้างหรูแห่งนี้"ใช่ค่ะ.."เกวลินยิ้มกว้างทักทายหญิงสาวที่เข้ามาทักเธอเพราะคิดว่าคงเป็นแฟนคลับที่ติดตามผลงานของเธออยู่"ฉันเห็นข่าวว่าคุณกำลังคบหาดูใจกับคุณรัฐรองประธานธนาคารใหญ่อยู่ใช่ไหมคะ"นาถลดาเอ่ยกับอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มอย่างเป็นมิตรคำพูดของเธอทำเอานางแบบสางอย่างเกวลินยิ้มน้อยยิ้มใหญ่พอใจกับคำทักทายของนาถลดาอยู่มากเพราะเธอชอบเวลาที่คนมาทักเธอเรื่องความสัมพันธ์กับธรัฐ"อ๋อ...ใช่ค่ะ""แต่เห็นสามีฉันบอกว่าเค้ามีภรรยาแล้วนี่คะ"นาถลดารีบเปิดประเด็นที่เธอตั้งใจมาทักเกวลินทันทีเพราะเธออยากที่จะสุมไฟกองโตให้ชีวิตของแพรวพิลาสนั้นปวดหัวเล่นในอีกไม่นาน"คงเข้าใจผิดแล
"เกวผมบอกให้หยุด..""โอ้ย.."ธรัฐสุดจะทนกับพฤติกรรมของเกวลินเขาจึงเหวี่ยงเธอลงไปบนพื้นอย่างไม่ทะนุถนอม"พูดอะไรใครเป็นผัวคุณ..อย่าให้มันมากนักต่อไปนี้คุณกับผมไม่เป็นแม้แต่คนที่รู้จักกัน"ธรัฐชี้หน้าเกวลินทั้งเอ่ยเสียงแข็งเตือนเธอเพราะเขาไม่ได้เป็นสามีเธออย่างที่เธอพูดเธอก็แค่คู่ควงเพื่อนเที่ยวของเขาเวลาเบื่อๆเหงาๆเท่านั้นเรื่องบนเตียงไม่เคยมีเลยสักครั้ง"รัฐคะ..รัฐ..เกวไม่ยอมนะคะรัฐ"เกวลินนั่งหน้าทุ่ยอยู่กับพื้นอย่างโมโห"คุณล้ำเส้นพื้นที่ส่วนตัวผมเองนะ""ออกไป...""ไม่..""อยากหมดอนาคตในหน้าที่การงานใช่ไหม"ธรัฐลาก้กวลินออกไปที่ประตูรั้วหน้าบ้าน"อย่ามาขู่เกว"เกวลินคิดว่าธรัฐคงแค่ขู่เธอเท่านั้น"ผมไม่ได้ขู่แค่ผมต่อสายหาโมเดลลิ่งคุณก็หมดอนาคตแล้ว"ธรัฐไม่เคยขู่ใครหากคนอย่างเขาควบคุมผู้หญิงของเขาไม่ได้เขาก็จะเขี่ยทิ้งโดยทันที"รัฐคะ.. ""กลับไปแล้วอย่ามายุ่งกับผมอีก"ธรัฐผลักหญิงสาวออกนอกรั้วบ้านแล้วเดินกลับเข้าไปอย่างไม่สนใจทิ้งให้คนที่กำลังบ้าดีเดือดอย่างเกวลินยืนกำมทอแน่นตัวสั่นด้วยความโกรธอยู่คนเดียว"หื๊มมมมม..."ทางด้านแพรวพิลาส"โอเคไหมแพรว"ภัคดนัยพาแพรวพิลาสขับรถออกมาจากบ้าน
"ช่าย...ถูกต้อง...อื้มมมมมม"แคว้กกกกธรัฐบดจูบหญิงสาวอย่างรุนแรงจนเธอแทบไม่หายใจไม่ทันมือหนากระชากเดรสสีหวานของหญิงสาวขาดเป็นชิ้นๆด้วยอารมณ์หวง"อื้อ.."เพียะ.ปึกๆๆๆ...แพรวพิลาสทั้งตบตีจิกข่วนอีกฝ่ายอย่างไม่ละมือแต่มีหรือแรงของเธอจะทำอะไรเขาได้ทั้งฤทธิ์แอลกอฮอลล์ที่เธอดื่มทำให้สติลดลงเธอจึงต่อต้านอะไรคนที่กระทำย่ำยีตัวเธอไม่ได้เลย"อร้ายยยย.."แพรวพิลาสส่งเสียงร้องและขัดขืนจนหมดแรงแต่ดูท่าคนที่กำลังหึงจนหน้ามืดตามัวจะไม่ฟังอะไรเธอทั้งรั้นและคืนนี้แทบค่อนคืนเขาไม่ปล่อยให้เธอได้พักหายใจแม้แต่วินาทีเดียววันต่อมา.."อืม..แพรว..แพรว.. ตัวร้อนจี๋เลย"ธรัฐตื่นขึ้นมาในช่วงสายของวันเขาสัมผัสได้ว่าคนในอ้อมกอดตัวร้อนผ่าวและท่าจะไม่ได้สติแถมยังตัวสั่นเป็นลูกนกอย่างน่าสงสาร"หา...นี่..."เขาหมายจะลุกออกไปเอาน้ำมาเช็ดตัวให้เธอเมื่อเปิดผ้าห่มออกก็เห็นรอยแดงเต็มเตียงนอนไปหมดทั้งเนื้อตัวของหญิงสาวยังมีรอยช้ำรอยแดงเป็นร่องรอยการกระทำของเขาเมื่อคืนอีกด้วยรอยเลือดที่เปรอะเปื้อนเรียวขาอ่อนของเธอและเตียงนอนมันทำให้เขาต้องกุมขมับและเปลี่ยนความคิดหญิงสาวนั้นบริสุทธิ์กว่าที่เขาจะกระทำแบบนี้กับเธอได้ที่ผ่าน