Share

ตอนที่20 ฝ่ากองเพลิง

ครู่ต่อมา

เมื่อทั้งสามมาถึงเพลิงก็ได้ไหม้ไปเกือบหมดแล้วแต่คนงานก็ยังห่วงของข้างในห้องตัวเองจึงไม่ลดละที่จะหาน้ำหาท่ามาดับไฟรถดับเพลิงที่เรียกมาก็เข้ามาค่อนข้างช้าเพราะทางเข้าไล่ค่อนข้างลำบาก

"ทุกคนหนีออกมาก่อนของช่างมันเดี๋ยวฉันจะซื้อให้ใหม่"

หิรัญตะโกนก้องบอกทุกคนให้ละจาดการดับไฟเพราะห่วงความปลอดภัยของลูกไร่ของทุกอย่สงหาซื้อใหม่ได้แต่ชีวิตคนหาซื้อไม่ได้

"ออกมาก่อน"

"ลูกแม่...ฮือๆๆๆ.."

หิรัญหันไปเห็นคนงานผู้หญิงที่กำลังพยายามจะเข้าไปในกองไฟให้ได้แต่ก็ถูกคนที่ทำงานด้วยกันรั้งเอาไว้เขาจึงต้องเข้าไปดูว่ามันมีปัญหาเรื่องอะไรถึงอยากจะเข้าไปในกองเพลิงนัก

"อะไรกัน"

"ลูกฉันอยู่ข้างในจะนาย..ช่วยลูกฉันด้วย"

หญิงสาวภรรยาคนงานที่เป็นแม่ลูกอ่อนร้องให้ขอร้องหิรัญด้วยสีหน้าแทบขาดใจว่าให้ช่วยลูกสาววัยสองขวบของเธอที่อยู่ด้านในกองเพลิงด้วย

"ได้.."

หิรัญไม่ลังเลเลยสักนิดเขาถอดเสื้อชุบน้ำคลุมหัววิ่งฝ่าเข้าไปในกองเพลิงโดยไม่ห่วงชีวิต

"พ..พี่รัญ"

"คุณพราวอย่าตามไปครับ"

พราวพิไลเห็นหิรัญวิ่งเข้าไปข้างในกองเพลิงด้วยความเป็นห่วงเธอจึงวิ่งตามไปแต่ดีที่ลุงครามได้รั้งเธอเอาไว้ก่อน

"ไฟลุกโชนขนาดนั้นพี่รัญจะปลอดภัยไหมคะ"

"เดี๋ยวผมไปช่วยดูครับ"

ลุงครามเห็นท่าไม่ดีเขาเลยรีบวิ่งตามคนเป็นนายเข้าไปด้วย

"แง้งง....ๆๆๆ"

หิรัญตั้งสติมองหาเสียงเด็กร้องว่าอยู่ทางไหนเมื่อจับทางได้เขาก็รีบวิ่งไปหาเด็กหญิงวัยสองขวบที่กำลังนั่งร้องให้อยู่และรีบเอาเสื้อของเขาคลุมตัวเด็กและรีบอุ้มเด็กหญิงออกมาทันที

"ไม่เป็นไรแล้วนะหนูน้อย"

หิรัญมองซ้ายมองขวาหาทางออกกลับเห็นแต่ไฟลุกโชนจนตอนนี้เขาเริ่มใจไม่ดีเท่าไร

"นายครับ"

ลุงครามส่งเสียงตะโกนเรียกคนด้านใน

"ลุงครามเจอเด็กแล้วครับ"

"มาทางนี้ครับนาย"

ปึก..

"โอ้ยยย..."

หิรัญเอาแต่วิ่งไปทางลุงครามโดยลืมระวังว่าไม้ด้านบนนั้นมันกำลังล่วงลงมาเลยถูกหลังของเขาเต็มๆทำให้ผิวหนังด้านหลังพุพองขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

"นาย..ผมช่วยครับ"

ลุงครามเห็นคนเป็นนายชะงักเพราะอุบัติเกตุจึงรีบเข้าทาช่วยอุ้มเด็กหญิงและพยุงหิรัญออกไป

"ไปครับ"

"พี่รัญ.."

พราวพิไลเห็หิรัญออกมาพร้อมลุงครามเธอก็โล่งใจแต่สิ่งที่ทำให้เธอต้องตกใจคือแผลที่หลังของชาบหนุ่มที่ดูจะน่ากลัวไม่น้อย

"แง้งงงงง....ๆๆๆ"

"ลูกแม่..ขอบคุณนายมากนะคะขอบคุณจริงๆ"

หญิงสาวแม่ของเด็กหญิงเมื่อหิรัญและลุงครามช่วยลูกเธอออกมาได้ก็รีบโอบกอดลูกทั้งขอบคุณคนทั้งสองยกใหญ่

"ทุกคนไปรวมกันที่เรือนกลางไร่"

ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วเพราะหิรัญเห็นรถดับเพลิงทะยอยกันเข้ามาแล้วเขาจึงให้คนในไร่ของเขาไปรวมตัวกันที่เรือนกลางไร่

"ค่ะนาย/ครับนาย"

"พี่รัญไปทำแผลก่อนเถอะค่ะ"

พราวพิไลรู้ว่าอย่างเดียวว่าตอนนี้เธอต้อวให้หิรัญไปทำแผลก่อน

"ลุงครามช่วยดูคนงานด้วยนะครับเรื่องของมีค่าทรัพย์สินอะไรผมจะเป็นคนซื้อให้พวกเค้าใหม่เองบอกพวกเค้าว่าไม่ต้องกังวลส่วนเรื่องที่มันเกิดขึ้นรอให้เพลิงสงบก่อนเดี๋ยวผมจะรอคุยกับตำรวจอีกที"

"ครับนาย.. นายไปพักก่อนเถอะครับตรงนี้ผมดูแลต่อเอง"

หลังจากที่สั่งทุกอย่างเรียบร้อยแล้วหิรัญจึงยอมกลับมาที่เรือนเพื่อทำแผล

ครู่ต่อมา

"แดงไปหมดทั้งหลังเลยไปทำอีท่าไหนคะคุณหนู"

อุ่นเรือนนั่งเช็ดทำความสะอาดแผลที่พุพองของคุณหนูของเธอด้วยใบหน้าที่เป็นกังวลไม่น้อย

"ผมไม่ทันได้ระวังน่ะครับนม"

"คงปวดแสบปวดร้อนน่าดูเลยนะคะจะไม่ไปหาหมอจริงๆเหรอคะพี่รัญ"

พราวพิไลนั่งหน้ามุ่ยด้วยความเป็นห่วงชายหนุ่มที่เจ็บขนาดนี้แล้วยังจัรั้นไม่ไปหาหมอ

"หาหมอก็คงได้แค่ยาทาแผลนั่นแหละ"

"คุณหนูก็เป็นอย่างนี้ทุกทีเป็นอะไรไม่ค่อยอยากจะไปหาหมอเท่าไร"

"เดี๋ยวพราวไปหาซื้อยาแก้ปวดแก้อักเสบให้แล้วกันนะคะ"

พราวพิไลสุดจะเอ่ยอะไรแล้วเพราะเธอคะยั้นคะยอให้ช่ยหนุ่มไปหาหมอเท่าไรก็ไม่ยอมไปเธอเลยคิดว่สจะต้องออกไปซื้อยาเอาเองเพราะกลัวว่าแผลจะติดเชื้อได้ถ้าไม่ทานยาแก้อักเสบ

"ก็ได้"

20.00 น.

"เท่าที่ผมตรวจดูแล้วน่าจะไม่ใช่เพลิงไหม้ธรรมดาแต่เป็นการวางเพลิงมากกว่าครับ"

จักรภพนั่งคุยกับหิรัญที่ห้องทำงานอย่างตึงเครียด

"ผมคิดไว้ไม่มีผิด"

หิรัญเองก็ตะหงิดๆเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน

"ตอนนี้ตำรวจกำลังสอบสวนคนงานในไร่อยู่ผมว่าคดีนี้ไม่นานคงรู้ตัวคนร้ายครับเพราะไร่นี้คนนอกเข้ามายากอยู่พอสมควร"

21.00 น.

"นี่ยาค่ะพี่รัญอย่าลืมทานนะคะ"

พราวพิไลเห็นหิรัญคุยกับจักรภพเรียบร้อยแล้วเธอจึงเตรียมยาไว้ให้เขาทาน

"อืม.."

"หันหลังมาค่ะเดี๋ยวพราวทายาให้"

"โอ้ย.."

"เจ็บมากเหรอคะ"

หญิงสาวชะงักมือเมื่อได้ยินเสียงร้องของชายหนุ่มเธอเพียงแค่แตะไปนิดเดียวไม่คิดว่าเขาจะเจ็บขนาดนี้

"ก็พอทนได้"

"ตอนนั้นที่วิ่งฝ่ากองไฟเข้าไปช่วยเด็กพี่รัญคิดอะไรอยู่คะ"

พราวพิไลเบามือกว่าเดิมในการลงยาทาแผล

"พี่ไม่คิดอะไรมากอย่างเดียวคือพี่จะปล่อยให้คนในไร่พี่ตายในเหตุการณ์แบบนี้ไม่ได้"

"นี่ถือว่าดีนะคะที่พี่รัญไม่ได้เป็นอันตรายมากตอนนั้นพราวห่วงพี่รัญแทบแย่เลย"

"ห่วงพี่มากเลยเหรอ"

หิรัญหันกลับมาจ้องหน้าคนที่กำลังทายาให้เขา

"เอ่อ...ค่ะ..ก็..ห่วงทุกคนนั่นแหละค่ะ"

พราวพิไลหลบสายตาชายหนุ่มเล็กน้อยถึงแม้เธอจะดูแก่นๆกล้าๆแต่เธอก็เขินผู้ชายเป็นเหมือนกันที่เล่นจ้องหน้าเธอแบบนี้

"อ๋อ..งั้นพี่คงดีใจไปเอง"

หิรัญพยักหน้าเข้าใจทั้งเอ่ยในลำคอเสียงเบา

"คะ...ดีใจเรื่อง"

"เปล่า"

"เสร็จแล้วค่ะ..."

พราวพิไลเก็บอุปกรณ์ทำแผลลงกล่องหมายจะเดินไปเก็บที่แต่ก็ถูกมือของชายหนุ่มรั้งเอาไว้เสียก่อน

"อะไรคะ.."

"เรื่องนี้อย่าบอกแม่พี่นะ"

"ได้ค่ะพราวเข้าใจ"

พราวพิไลยิ้มกริ่มพร้อมพยักหน้าเธอเข้าใจว่าหิรัญคงไม่อยากให้คนเป็นแม่้ป็นห่วง

"ขอบคุณนะ"

หิรัญดึงร่างบางไปกอดอย่างเบามือ

"เอ่อ.."

พราวพิไลตกใจเล็กน้อยแต่ก็ไม่กล้าขืนตัวอะไรมากเพราะกลัวหิรัญจะเจ็บ

"พี่ขอกำลังใจหน่อยนะ"

"....."

คำพูดของเขาทำเอาหญิงสาวเองก็แอบอมยิ้มอยู่เหมือนกัน

เช้าวันต่อมา

"..ขนาดหลับยังจับซะแน่นเชียว"

พราวพิไลตื่นมาในช่วงเช้าเธอพยายามแกะมือหนาของหิรัญออกแต่ก็ดูคนตัวโตจะจับเธอไว้ซะแน่นจนแกะเท่าไรก็แกะไม่ออก

"ใครบอกพี่หลับ"

หิรัญลืมตาขึ้นทั้งอมยิ้มหยอกหญิงสาวเขาตื่นมาก่อนเธอนานแล้วแต่แค่ยังไม่ลุกไปไหนเท่านั้นเอง

"ตื่นแล้วก็ปล่อยมือพราวสิคะ"

"ก็ได้แต่พี่ขอแลกกับ"

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status