ครู่ต่อมา
เมื่อทั้งสามมาถึงเพลิงก็ได้ไหม้ไปเกือบหมดแล้วแต่คนงานก็ยังห่วงของข้างในห้องตัวเองจึงไม่ลดละที่จะหาน้ำหาท่ามาดับไฟรถดับเพลิงที่เรียกมาก็เข้ามาค่อนข้างช้าเพราะทางเข้าไล่ค่อนข้างลำบาก
"ทุกคนหนีออกมาก่อนของช่างมันเดี๋ยวฉันจะซื้อให้ใหม่"
หิรัญตะโกนก้องบอกทุกคนให้ละจาดการดับไฟเพราะห่วงความปลอดภัยของลูกไร่ของทุกอย่สงหาซื้อใหม่ได้แต่ชีวิตคนหาซื้อไม่ได้
"ออกมาก่อน"
"ลูกแม่...ฮือๆๆๆ.."
หิรัญหันไปเห็นคนงานผู้หญิงที่กำลังพยายามจะเข้าไปในกองไฟให้ได้แต่ก็ถูกคนที่ทำงานด้วยกันรั้งเอาไว้เขาจึงต้องเข้าไปดูว่ามันมีปัญหาเรื่องอะไรถึงอยากจะเข้าไปในกองเพลิงนัก
"อะไรกัน"
"ลูกฉันอยู่ข้างในจะนาย..ช่วยลูกฉันด้วย"
หญิงสาวภรรยาคนงานที่เป็นแม่ลูกอ่อนร้องให้ขอร้องหิรัญด้วยสีหน้าแทบขาดใจว่าให้ช่วยลูกสาววัยสองขวบของเธอที่อยู่ด้านในกองเพลิงด้วย
"ได้.."
หิรัญไม่ลังเลเลยสักนิดเขาถอดเสื้อชุบน้ำคลุมหัววิ่งฝ่าเข้าไปในกองเพลิงโดยไม่ห่วงชีวิต
"พ..พี่รัญ"
"คุณพราวอย่าตามไปครับ"
พราวพิไลเห็นหิรัญวิ่งเข้าไปข้างในกองเพลิงด้วยความเป็นห่วงเธอจึงวิ่งตามไปแต่ดีที่ลุงครามได้รั้งเธอเอาไว้ก่อน
"ไฟลุกโชนขนาดนั้นพี่รัญจะปลอดภัยไหมคะ"
"เดี๋ยวผมไปช่วยดูครับ"
ลุงครามเห็นท่าไม่ดีเขาเลยรีบวิ่งตามคนเป็นนายเข้าไปด้วย
"แง้งง....ๆๆๆ"
หิรัญตั้งสติมองหาเสียงเด็กร้องว่าอยู่ทางไหนเมื่อจับทางได้เขาก็รีบวิ่งไปหาเด็กหญิงวัยสองขวบที่กำลังนั่งร้องให้อยู่และรีบเอาเสื้อของเขาคลุมตัวเด็กและรีบอุ้มเด็กหญิงออกมาทันที
"ไม่เป็นไรแล้วนะหนูน้อย"
หิรัญมองซ้ายมองขวาหาทางออกกลับเห็นแต่ไฟลุกโชนจนตอนนี้เขาเริ่มใจไม่ดีเท่าไร
"นายครับ"
ลุงครามส่งเสียงตะโกนเรียกคนด้านใน
"ลุงครามเจอเด็กแล้วครับ"
"มาทางนี้ครับนาย"
ปึก..
"โอ้ยยย..."
หิรัญเอาแต่วิ่งไปทางลุงครามโดยลืมระวังว่าไม้ด้านบนนั้นมันกำลังล่วงลงมาเลยถูกหลังของเขาเต็มๆทำให้ผิวหนังด้านหลังพุพองขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
"นาย..ผมช่วยครับ"
ลุงครามเห็นคนเป็นนายชะงักเพราะอุบัติเกตุจึงรีบเข้าทาช่วยอุ้มเด็กหญิงและพยุงหิรัญออกไป
"ไปครับ"
"พี่รัญ.."
พราวพิไลเห็หิรัญออกมาพร้อมลุงครามเธอก็โล่งใจแต่สิ่งที่ทำให้เธอต้องตกใจคือแผลที่หลังของชาบหนุ่มที่ดูจะน่ากลัวไม่น้อย
"แง้งงงงง....ๆๆๆ"
"ลูกแม่..ขอบคุณนายมากนะคะขอบคุณจริงๆ"
หญิงสาวแม่ของเด็กหญิงเมื่อหิรัญและลุงครามช่วยลูกเธอออกมาได้ก็รีบโอบกอดลูกทั้งขอบคุณคนทั้งสองยกใหญ่
"ทุกคนไปรวมกันที่เรือนกลางไร่"
ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วเพราะหิรัญเห็นรถดับเพลิงทะยอยกันเข้ามาแล้วเขาจึงให้คนในไร่ของเขาไปรวมตัวกันที่เรือนกลางไร่
"ค่ะนาย/ครับนาย"
"พี่รัญไปทำแผลก่อนเถอะค่ะ"
พราวพิไลรู้ว่าอย่างเดียวว่าตอนนี้เธอต้อวให้หิรัญไปทำแผลก่อน
"ลุงครามช่วยดูคนงานด้วยนะครับเรื่องของมีค่าทรัพย์สินอะไรผมจะเป็นคนซื้อให้พวกเค้าใหม่เองบอกพวกเค้าว่าไม่ต้องกังวลส่วนเรื่องที่มันเกิดขึ้นรอให้เพลิงสงบก่อนเดี๋ยวผมจะรอคุยกับตำรวจอีกที"
"ครับนาย.. นายไปพักก่อนเถอะครับตรงนี้ผมดูแลต่อเอง"
หลังจากที่สั่งทุกอย่างเรียบร้อยแล้วหิรัญจึงยอมกลับมาที่เรือนเพื่อทำแผล
ครู่ต่อมา
"แดงไปหมดทั้งหลังเลยไปทำอีท่าไหนคะคุณหนู"
อุ่นเรือนนั่งเช็ดทำความสะอาดแผลที่พุพองของคุณหนูของเธอด้วยใบหน้าที่เป็นกังวลไม่น้อย
"ผมไม่ทันได้ระวังน่ะครับนม"
"คงปวดแสบปวดร้อนน่าดูเลยนะคะจะไม่ไปหาหมอจริงๆเหรอคะพี่รัญ"
พราวพิไลนั่งหน้ามุ่ยด้วยความเป็นห่วงชายหนุ่มที่เจ็บขนาดนี้แล้วยังจัรั้นไม่ไปหาหมอ
"หาหมอก็คงได้แค่ยาทาแผลนั่นแหละ"
"คุณหนูก็เป็นอย่างนี้ทุกทีเป็นอะไรไม่ค่อยอยากจะไปหาหมอเท่าไร"
"เดี๋ยวพราวไปหาซื้อยาแก้ปวดแก้อักเสบให้แล้วกันนะคะ"
พราวพิไลสุดจะเอ่ยอะไรแล้วเพราะเธอคะยั้นคะยอให้ช่ยหนุ่มไปหาหมอเท่าไรก็ไม่ยอมไปเธอเลยคิดว่สจะต้องออกไปซื้อยาเอาเองเพราะกลัวว่าแผลจะติดเชื้อได้ถ้าไม่ทานยาแก้อักเสบ
"ก็ได้"
20.00 น.
"เท่าที่ผมตรวจดูแล้วน่าจะไม่ใช่เพลิงไหม้ธรรมดาแต่เป็นการวางเพลิงมากกว่าครับ"
จักรภพนั่งคุยกับหิรัญที่ห้องทำงานอย่างตึงเครียด
"ผมคิดไว้ไม่มีผิด"
หิรัญเองก็ตะหงิดๆเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน
"ตอนนี้ตำรวจกำลังสอบสวนคนงานในไร่อยู่ผมว่าคดีนี้ไม่นานคงรู้ตัวคนร้ายครับเพราะไร่นี้คนนอกเข้ามายากอยู่พอสมควร"
21.00 น.
"นี่ยาค่ะพี่รัญอย่าลืมทานนะคะ"
พราวพิไลเห็นหิรัญคุยกับจักรภพเรียบร้อยแล้วเธอจึงเตรียมยาไว้ให้เขาทาน
"อืม.."
"หันหลังมาค่ะเดี๋ยวพราวทายาให้"
"โอ้ย.."
"เจ็บมากเหรอคะ"
หญิงสาวชะงักมือเมื่อได้ยินเสียงร้องของชายหนุ่มเธอเพียงแค่แตะไปนิดเดียวไม่คิดว่าเขาจะเจ็บขนาดนี้
"ก็พอทนได้"
"ตอนนั้นที่วิ่งฝ่ากองไฟเข้าไปช่วยเด็กพี่รัญคิดอะไรอยู่คะ"
พราวพิไลเบามือกว่าเดิมในการลงยาทาแผล
"พี่ไม่คิดอะไรมากอย่างเดียวคือพี่จะปล่อยให้คนในไร่พี่ตายในเหตุการณ์แบบนี้ไม่ได้"
"นี่ถือว่าดีนะคะที่พี่รัญไม่ได้เป็นอันตรายมากตอนนั้นพราวห่วงพี่รัญแทบแย่เลย"
"ห่วงพี่มากเลยเหรอ"
หิรัญหันกลับมาจ้องหน้าคนที่กำลังทายาให้เขา
"เอ่อ...ค่ะ..ก็..ห่วงทุกคนนั่นแหละค่ะ"
พราวพิไลหลบสายตาชายหนุ่มเล็กน้อยถึงแม้เธอจะดูแก่นๆกล้าๆแต่เธอก็เขินผู้ชายเป็นเหมือนกันที่เล่นจ้องหน้าเธอแบบนี้
"อ๋อ..งั้นพี่คงดีใจไปเอง"
หิรัญพยักหน้าเข้าใจทั้งเอ่ยในลำคอเสียงเบา
"คะ...ดีใจเรื่อง"
"เปล่า"
"เสร็จแล้วค่ะ..."
พราวพิไลเก็บอุปกรณ์ทำแผลลงกล่องหมายจะเดินไปเก็บที่แต่ก็ถูกมือของชายหนุ่มรั้งเอาไว้เสียก่อน
"อะไรคะ.."
"เรื่องนี้อย่าบอกแม่พี่นะ"
"ได้ค่ะพราวเข้าใจ"
พราวพิไลยิ้มกริ่มพร้อมพยักหน้าเธอเข้าใจว่าหิรัญคงไม่อยากให้คนเป็นแม่้ป็นห่วง
"ขอบคุณนะ"
หิรัญดึงร่างบางไปกอดอย่างเบามือ
"เอ่อ.."
พราวพิไลตกใจเล็กน้อยแต่ก็ไม่กล้าขืนตัวอะไรมากเพราะกลัวหิรัญจะเจ็บ
"พี่ขอกำลังใจหน่อยนะ"
"....."
คำพูดของเขาทำเอาหญิงสาวเองก็แอบอมยิ้มอยู่เหมือนกัน
เช้าวันต่อมา
"..ขนาดหลับยังจับซะแน่นเชียว"
พราวพิไลตื่นมาในช่วงเช้าเธอพยายามแกะมือหนาของหิรัญออกแต่ก็ดูคนตัวโตจะจับเธอไว้ซะแน่นจนแกะเท่าไรก็แกะไม่ออก
"ใครบอกพี่หลับ"
หิรัญลืมตาขึ้นทั้งอมยิ้มหยอกหญิงสาวเขาตื่นมาก่อนเธอนานแล้วแต่แค่ยังไม่ลุกไปไหนเท่านั้นเอง
"ตื่นแล้วก็ปล่อยมือพราวสิคะ"
"ก็ได้แต่พี่ขอแลกกับ"
ฟอดดดด..หิรัญขโมยหอมแก้มนวลฟอดใหญ่เสร็จก็ลุกเดินไปเข้าห้องน้ำหน้าตาเฉยทิ้งพราวพิไลนั่งกุมใบหน้าเขินจนหน้าแดงเป็นลูกตำลึง"อีพี่รัญบ้า..เล่นอะไรเนี่ย"ชั่วโมงต่อมา"พราวขอดูแผลหน่อยนะคะ""เป็นยังไงบ้าง"หิรัญหันหลังให้หญิงสาวดูแผลของเขาทั้งถามสภาพตอนนี้มันเป็นอย่างไรบ้าง"คำถามนี้พราวต้องถามพี่รัญมากกว่าเพราะเหมือนมันจะบวมแดงกว่าเดิมอีกนะคะเจ็บมากไหมคะ"พราวพิไลมีสีหน้าเหยเกเล็กน้อยเมื่อเห็นสภาพแผลของเขาในตอนนี้"มีพราวดูแลอยู่ใกล้ๆเจ็บแค่ไหนพี่ก็ทนได้"หิรัญไม่ปฏิเสธว่าวันนี้รู้สึกระบมมากดว่าเมื่ิอวานแต่เพราะมีหญิงสาวคอยดูแลอยู่ใกล้ๆมันทำให้เขาลืมความเจ็บไปได้เป็นอย่างดี"จู่ๆทำไมมาหยอดคำหวานกับพราวล่ะคะ"พราวพิไลอมยิ้มกริ่ม"พี่จะจีบพราวน่ะสิ""เอ่อ..พูดตรงๆแบบนี้เลยเหรอคะ""วันที่พี่บอกกับพราวว่าพี่รู้สึกดีกับพราวมากขึ้นทุกวันคำนั้นพี่ไม่ได้แกล้งนะ..ถ้าพี่ไม่ถูกชะตากับพราวตั้งแต่ทีแรกพี่ไม่ยอมให้พราวมาเล่นบทภรรยาดูแลพี่หรอก"หิรัญกันหน้ามาจ้องพราวพิไลทั้งรวบกอดเธอเอาไว้ด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์"พี่รัญหันหลังมาค่ะพราวจะทายาให้"พราวพิไลเขินจนก้มหน้างุดต้องหาข้ออ้างให้เขาหันหลังไปเพราะเธอ
"ไม่ได้คือมันเป็นเรื่องที่ต้องคุยต่อหน้าจริงๆ""แพรวออกไปได้ประมาณสิบนาทีนะคะ"แพรวพิลาสออกมาดูด้านนอกเห็นว่าธรัฐน่าจะเข้าห้องไปแล้วเธอจึงรีบปลีกตัวออกมาแต่เธอก็ต้องบอกภัคดนัยก่อนว่าเธอมีเวลาไม่นานมากนัก"โอเค"ครู่ต่อมา"พี่นัยมีเรื่องอะไรคะ""คือพี่ทะเลาะกับนิจนเธอจะหย่ากับพี่แล้วขอไม่ให้พี่เจอลูกอีกพี่ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว"สองหนุ่มสาวนั่งคุยกันอยู่ที่ระเบียงหน้าบ้านพีกของภัคดนัยตอนนี้ชายหนุ่มมืดไปหมดแปดด้านเรื่องครอบครัวจนต้องหาคนปรึกษาเพื่อให้ตัวเองสบายใจและหาทางออกได้"ทะเลาะกันแรงขนาดนั้นเลยเหรอคะ""คือ..นิจับได้ว่าพี่มีคนอื่น"ภัคดนัยเอ่ยเสียงอ่อนด้วยแววตาที่รู้สึกผิด"พี่นัยมีคนอื่นจริงเหรอคะ...เฮ้อ"แพรวพิลาสถอนหายใจเฮือกใหญ่ที่แท้ก็เป็นเรื่องนี้ถึงว่าถึงได้ทะเลาะกันรุนแรงจนถึงขั้นจะหย่า"พี่ไม่ได้ตั้งใจแพรว...ตอนนั้นพี่แค่เบื่อที่นิสนใจแต่ลูกปล่อยเนื้อปล่อยตัวแล้วพี่ก็แค่เผลอเท่านั้นแต่ผู้หญิงคนนั้นขู่พี่ว่าถ้าพี่ไม่รับผิดชอบเธอจะแฉทำให้พี่กับนิทะเลาะกันพี่กลัวว่านิรู้เรื่องแล้วจะขอเลิกกับพี่แล้วพี่จะไม่ได้เจอลูกพี่เลยยอมที่จะดูแลผู้หญิงคนนั้น"อันที่จริงมันเป็นเรื่องที่เขาไม
ร้านอาหารxxx"พาแพรวมาทำไมคะฉันไม่ได้หิวซะหน่อย"แพรวพิลาสนั่งหน้าบึ้งตึงตั้งแต่ก่อนจะมาถึงร้านอาหารหรูที่นี่แล้ว"ไม่หิวก็ต้องทานเพราะผมหิว."ธรัฐจ้องหน้าหญิงสาวอย่างมีเลศนัยและพอใจที่ลากเธอมากับเขาสองต่อสองได้จะได้อยู่ห่างกับภัคดนัยด้วยกรุงเทพมหานครห้างสรรพสินค้า"คุณเกวนางแบบดังใช่ไหมคะ"นาถลดาเดินนำหน้าอติรุจคนเป็นสามีที่กำลังอุ้มลูกสาววัยสองขวบของเขาอยู่ในอกตรงมาที่เกวลินนางแบบสาวที่กำลังเลือกซื้อกระเป๋าอยู่ในชอปแบรนด์ดังในห้างหรูแห่งนี้"ใช่ค่ะ.."เกวลินยิ้มกว้างทักทายหญิงสาวที่เข้ามาทักเธอเพราะคิดว่าคงเป็นแฟนคลับที่ติดตามผลงานของเธออยู่"ฉันเห็นข่าวว่าคุณกำลังคบหาดูใจกับคุณรัฐรองประธานธนาคารใหญ่อยู่ใช่ไหมคะ"นาถลดาเอ่ยกับอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มอย่างเป็นมิตรคำพูดของเธอทำเอานางแบบสางอย่างเกวลินยิ้มน้อยยิ้มใหญ่พอใจกับคำทักทายของนาถลดาอยู่มากเพราะเธอชอบเวลาที่คนมาทักเธอเรื่องความสัมพันธ์กับธรัฐ"อ๋อ...ใช่ค่ะ""แต่เห็นสามีฉันบอกว่าเค้ามีภรรยาแล้วนี่คะ"นาถลดารีบเปิดประเด็นที่เธอตั้งใจมาทักเกวลินทันทีเพราะเธออยากที่จะสุมไฟกองโตให้ชีวิตของแพรวพิลาสนั้นปวดหัวเล่นในอีกไม่นาน"คงเข้าใจผิดแล
"เกวผมบอกให้หยุด..""โอ้ย.."ธรัฐสุดจะทนกับพฤติกรรมของเกวลินเขาจึงเหวี่ยงเธอลงไปบนพื้นอย่างไม่ทะนุถนอม"พูดอะไรใครเป็นผัวคุณ..อย่าให้มันมากนักต่อไปนี้คุณกับผมไม่เป็นแม้แต่คนที่รู้จักกัน"ธรัฐชี้หน้าเกวลินทั้งเอ่ยเสียงแข็งเตือนเธอเพราะเขาไม่ได้เป็นสามีเธออย่างที่เธอพูดเธอก็แค่คู่ควงเพื่อนเที่ยวของเขาเวลาเบื่อๆเหงาๆเท่านั้นเรื่องบนเตียงไม่เคยมีเลยสักครั้ง"รัฐคะ..รัฐ..เกวไม่ยอมนะคะรัฐ"เกวลินนั่งหน้าทุ่ยอยู่กับพื้นอย่างโมโห"คุณล้ำเส้นพื้นที่ส่วนตัวผมเองนะ""ออกไป...""ไม่..""อยากหมดอนาคตในหน้าที่การงานใช่ไหม"ธรัฐลาก้กวลินออกไปที่ประตูรั้วหน้าบ้าน"อย่ามาขู่เกว"เกวลินคิดว่าธรัฐคงแค่ขู่เธอเท่านั้น"ผมไม่ได้ขู่แค่ผมต่อสายหาโมเดลลิ่งคุณก็หมดอนาคตแล้ว"ธรัฐไม่เคยขู่ใครหากคนอย่างเขาควบคุมผู้หญิงของเขาไม่ได้เขาก็จะเขี่ยทิ้งโดยทันที"รัฐคะ.. ""กลับไปแล้วอย่ามายุ่งกับผมอีก"ธรัฐผลักหญิงสาวออกนอกรั้วบ้านแล้วเดินกลับเข้าไปอย่างไม่สนใจทิ้งให้คนที่กำลังบ้าดีเดือดอย่างเกวลินยืนกำมทอแน่นตัวสั่นด้วยความโกรธอยู่คนเดียว"หื๊มมมมม..."ทางด้านแพรวพิลาส"โอเคไหมแพรว"ภัคดนัยพาแพรวพิลาสขับรถออกมาจากบ้าน
"ช่าย...ถูกต้อง...อื้มมมมมม"แคว้กกกกธรัฐบดจูบหญิงสาวอย่างรุนแรงจนเธอแทบไม่หายใจไม่ทันมือหนากระชากเดรสสีหวานของหญิงสาวขาดเป็นชิ้นๆด้วยอารมณ์หวง"อื้อ.."เพียะ.ปึกๆๆๆ...แพรวพิลาสทั้งตบตีจิกข่วนอีกฝ่ายอย่างไม่ละมือแต่มีหรือแรงของเธอจะทำอะไรเขาได้ทั้งฤทธิ์แอลกอฮอลล์ที่เธอดื่มทำให้สติลดลงเธอจึงต่อต้านอะไรคนที่กระทำย่ำยีตัวเธอไม่ได้เลย"อร้ายยยย.."แพรวพิลาสส่งเสียงร้องและขัดขืนจนหมดแรงแต่ดูท่าคนที่กำลังหึงจนหน้ามืดตามัวจะไม่ฟังอะไรเธอทั้งรั้นและคืนนี้แทบค่อนคืนเขาไม่ปล่อยให้เธอได้พักหายใจแม้แต่วินาทีเดียววันต่อมา.."อืม..แพรว..แพรว.. ตัวร้อนจี๋เลย"ธรัฐตื่นขึ้นมาในช่วงสายของวันเขาสัมผัสได้ว่าคนในอ้อมกอดตัวร้อนผ่าวและท่าจะไม่ได้สติแถมยังตัวสั่นเป็นลูกนกอย่างน่าสงสาร"หา...นี่..."เขาหมายจะลุกออกไปเอาน้ำมาเช็ดตัวให้เธอเมื่อเปิดผ้าห่มออกก็เห็นรอยแดงเต็มเตียงนอนไปหมดทั้งเนื้อตัวของหญิงสาวยังมีรอยช้ำรอยแดงเป็นร่องรอยการกระทำของเขาเมื่อคืนอีกด้วยรอยเลือดที่เปรอะเปื้อนเรียวขาอ่อนของเธอและเตียงนอนมันทำให้เขาต้องกุมขมับและเปลี่ยนความคิดหญิงสาวนั้นบริสุทธิ์กว่าที่เขาจะกระทำแบบนี้กับเธอได้ที่ผ่าน
เย็นของวัน"นี่รูปตอนพี่รัญเด็กๆเหรอคะ"พราวพิไลหยิบรูปที่ตั้งอยู่ในตู้โชว์ข้างๆกับชั้นวาวหนังสือขึ้นมาดูเธอกะว่าจะถามหิรัญหลายครั้งแล้วในรูปมีเด็กชายสองคนที่คาดว่าน่าจะเป็นหิรัญกับน้องชายของเขาและมีอีกคนที่เป็นชายวัยกลางคนหน้าไม่เหมือนอนุชิตเท่าไรอุ้มเด็กชายทั้งสองอยู่"อืม.. นี่พี่แล้วนี่ก็ธรัฐน้องชายพี่""แล้วคนที่อุ้มอยู่นี่ล่ะคะ""คุณปู่พี่น่ะ""ตอนนั้นคุณปู่อายุเท่าไรคะเนี่ยยังหล่ออยู่เลยค่ะ""ตอนนั้นก็หกสิบกว่าแล้วล่ะ""โห..ยังดูหนุ่มมากเลยนะคะ""ใช่แล้วคุณย่าเล่าให้ฟังว่าคุณปู่เป็นคนมีอายุที่ดูดีที่สุดในย่านนี้เลยแถมสาวๆยังติดตรึมอีกด้วย""แล้วคุณย่าไม่หึงแย่เหรอคะ""ไม่หรอกคุณปู่จะเป็นฝ่ายหวงคุณย่าเสียมากกว่าหลังจากที่คุณปู่แต่งงานกับคุณย่าผู้หญิงที่พยายามเข้าหาคุณปู่ก็ไล่ตะเพิดไปหมดเลย""คุณปู่ดุมากหรือเปล่าคะ""ก็พอตัวนะไม่งั้นคงไม่คุมคนที่ไร่นี้ได้แถมยังบริหารงานที่ธนาคารแทนคุณทวดได้อีก"หิรัญเล่าถึงคุณปู่ของเขาอย่างภูมิใจ"คุณปู่นี่สุดยอดเลยนะคะ""ใช่แล้วเห็นคุณย่าบอกว่าคนที่นิสัยคล้ายคุณปู่มากที่สุดเห็นจะเป็นธรัฐ""แล้วพี่รัญล่ะคะดุไหม"พราวพิไลเงยหน้ามองคนตัวโตด้วยแววตา
เช้าวันต่อมา"อืม..ลุกออกไปจากตัวพราวได้แล้วค่ะ"พราวพิไลตื่นมาในช่วงสายเธอขยับตัวไม่ได้เพราะคนที่นอนเปลือยกายอยู่ข้างเธอพาดทั้งแขนที้งขารั้งเธอเปอาไว้"ขออยู่อย่างนี้ก่อนนะเมื่อคืนนอนน้อย"หิรัญพูดโดยที่ไม่ลืมตาเพราะเมื่อคืนกว่าเขาจะได้นอนก็เกือบเช้า"..งั้นพราวลุกไปก่อนนะคะ"ที่จริงหญิงสาวเองก็แทบระบมไปทั้งตัวแต่ที่เธออยากลุกออกจากตรงนี้ก็เพราะว่าเธอทนมองหน้าเขาด้วยความเขินอายไม่ได้ยิ่งมองหน้าอีกฝ่ายที่หลับตาพริ้มอยู่ภาพเมื่อคืนก็หลั่งไหลเข้ามาในหัวไม่ขาด"ลุกไหวเหรอ...พี่ว่านอนต่ออีกสักพักดีกว่านะ"หิรัญเชื่อว่าเธอคงจะเดินเหินลำบากเป็นแน่เพราะเมื่อคืนยากเหลือเกินที่เขาจะควบคุมอารมณ์ไม่ให้รุนแรงกับเธอได้"พี่รัญ.."หญิงสาวยังพยายามแกะมือของเขาออก"ขืนยังไม่อยู่เฉยระวังจะไม่ได้นอนนะ....อีกอย่างก็คือพี่ขอบคุณนะที่ให้พี่เป็นคนแรกของพราว"หิรัญกระชับกอดหญิงสาวแน่นขึ้นทั้งกระซิบอะไรบางอย่างข้างๆหูที่ทำให้หญิงสาวหลับตาปี๋และยอมนอนต่อในที่สุด10.00 น."เอาไปไหนป้าพวง"มาลีถามพวงด้วยความสงสัยว่าจะยกถาดอาหารจากโต๊ะทานข้าวไปไหนทั้งที่เจ้านายทั้งสองยังไม่ออกมาทาน"คุณรัญสั่งให้ทำข้าวต้มไปให้ใน
บ้านมาลี"หา...ท..ท้อง"หลังจากที่มาลีว่างงานจากเรือนเธอก็ออกไปซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจทั้งหมดสามอันผลปรากฏว่าทั้งสามขึ้นสองขีดเหมือนกันหมดทำเอาเธอนั่งทรุดอยู่มุมห้องด้วยสีหน้าเคร่งเครียดก๊อกๆๆๆ"เสี่ย.."เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูมาลีจึงรีบหาที่ซ่อนผลตรวจเพราะคิดว่าเป็นแม่เธอมาเคาะแต่ที่ไหนได้กลับเป็นเลี่ยเกลี้ยงที่เข้ามาหาเธอในนี้ต่างหาก"เงียบ..""เสี่ยมาที่นี่ได้ไงแล้วเสี่ยไปบุกโรงพักมาจริงรึเปล่า""จริง...แล้วฉันก็มีเรื่องให้แกช่วย"เสี่ยเกลี้ยงมีบางอย่างที่ต้องวานให้มาลีช่วยแล้วเธอก็จะปฏิเสธเขาไม่ได้ด้วย"เสี่ยฉันมีเรื่องจะต้องบอกเสี่ย"มาลีถือโอกาสนี้บอกเรื่องที่เธอพึ่งรู้กับเสี่ยเกลี้ยงเสียเลย"เรื่องอะไร""ฉ..ฉันท้อง""ไปเอาออกซะ"เสี่ยเกลี้ยงตอบได้อย่างไม่ลังเลเพราะเขาไม่คิดที่จะรับผิดชอบใครอยู่แล้ว"พูดแบบนี้ได้ไงเสี่ยลูกทั้งคนนะ"มาลีถึงกับหน้าเหวอกับคำพูดที่เสี่ยเกลี้ยงพูดออกมา"ลูกฉันรึเปล่าก็ไม่รู้...นี่..พรุ่งนี้แกต้องพาเมียนายแกมาให้ฉันที่จุดนัดพบไม่งั้นแม่แกนั่นแหละที่จะไม่มีชีวิตรอด""เสี่ยจะทำอะไร""ทำอะไรมันก็เรื่องของฉันไม่เกี่ยวกับแกจะกำจัดเมียนายแกให้ไม่ดีหรือไงแ