เช้าวันต่อมา
"อืม..ลุกออกไปจากตัวพราวได้แล้วค่ะ"
พราวพิไลตื่นมาในช่วงสายเธอขยับตัวไม่ได้เพราะคนที่นอนเปลือยกายอยู่ข้างเธอพาดทั้งแขนที้งขารั้งเธอเปอาไว้
"ขออยู่อย่างนี้ก่อนนะเมื่อคืนนอนน้อย"
หิรัญพูดโดยที่ไม่ลืมตาเพราะเมื่อคืนกว่าเขาจะได้นอนก็เกือบเช้า
"..งั้นพราวลุกไปก่อนนะคะ"
ที่จริงหญิงสาวเองก็แทบระบมไปทั้งตัวแต่ที่เธออยากลุกออกจากตรงนี้ก็เพราะว่าเธอทนมองหน้าเขาด้วยความเขินอายไม่ได้ยิ่งมองหน้าอีกฝ่ายที่หลับตาพริ้มอยู่ภาพเมื่อคืนก็หลั่งไหลเข้ามาในหัวไม่ขาด
"ลุกไหวเหรอ...พี่ว่านอนต่ออีกสักพักดีกว่านะ"
หิรัญเชื่อว่าเธอคงจะเดินเหินลำบากเป็นแน่เพราะเมื่อคืนยากเหลือเกินที่เขาจะควบคุมอารมณ์ไม่ให้รุนแรงกับเธอได้
"พี่รัญ.."
หญิงสาวยังพยายามแกะมือของเขาออก
"ขืนยังไม่อยู่เฉยระวังจะไม่ได้นอนนะ....อีกอย่างก็คือพี่ขอบคุณนะที่ให้พี่เป็นคนแรกของพราว"
หิรัญกระชับกอดหญิงสาวแน่นขึ้นทั้งกระซิบอะไรบางอย่างข้างๆหูที่ทำให้หญิงสาวหลับตาปี๋และยอมนอนต่อในที่สุด
10.00 น.
"เอาไปไหนป้าพวง"
มาลีถามพวงด้วยความสงสัยว่าจะยกถาดอาหารจากโต๊ะทานข้าวไปไหนทั้งที่เจ้านายทั้งสองยังไม่ออกมาทาน
"คุณรัญสั่งให้ทำข้าวต้มไปให้ในห้องน่ะ"
"นี่ถึงกับลุกไม่ขึ้นกันเลยหรือไง"
มาลีพูดอย่างจีบปากจีบคอ
"ปากเธอให้มันเพลาๆบ้างนี่ฉันถือว่าฉันเห็นแก่บัวตองแม่เธอนะถ้าฉันได้ยินเธอลามปามถึงคุณหนูกับคุณพราวอีกล่ะก็อย่าหาว่าฉันไม่เตือน"
อุ่นเรือนที่ดูเป็นคนใจเย็นที่สุดของบ้านครั้งนี้เธอเหลืออดจริงๆจึงต้องเตือนและหากถ้ามีอีกครั้งเธอจะไม่เอามาลีไว้แน่นอน
"....."
มาลีพึ่งเคยถูกอุ่นเรือนเตือนครั้งแรกก็หน้าเจื่อนอย่างเห็นได้ชัดเพราะรู้ว่าอุ่นเรือนสามารถเอาเธอออกเมื่อไรก็ได้
เย็นของวัน
"ฝากนมดูแลพราวด้วยนะครับเธอไข้ขึ้นเดี๋ยวผมต้องออกไปหาหมอโจก่อน"
หิรัญนั่งดูอาการพราวพิไลอย่างเป็นห่วงเพราะเธอไข้ขึ้นจนนอนซมแต่ตอนนี้เขาดูเธอต่อไม่ได้เพราะจักรภพส่งข้อความมาหาเขาให้ไปหาบอกว่ามีธุระด่วนมากเขาจึงต้องรีบไป
"ได้ค่ะ...คุณหนู"
อุ่นเรือนไม่ได้มีปัญหาเรื่องดูแลหญิงสาวอยู่แล้วและก็พอจะรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นพราวพิไลถึงได้นอนซมแบบนี้ยิ่งรอยตามเนื้อตัวหญิงสาวที่เธอกำลังเช็ดตัวให้มันบ่งบอกว่าน่าจะมีเรื่องดีๆเกิดขึ้นให้เธอต้องโทรรายงานหทัยรัตน์เสียแล้ว
ครู่ต่อมา
"เรียกผมมาที่นี่ด่วนมีเรื่องอะไรหมอโจ"
หิรัญขับรถมาที่เรือนพักของจักรภพอย่างรวดเร็วเมื่อมาถึงเขาก็เห็นลุงครามอยู่ที่นี่ด้วยกันจึงโพร่งถามเรื่องด่วนจากจักรภพทันที
"ตอนนี้พวกเสี่ยเกลี้ยงมันพาคนไปถล่มโรงพักพาเสี่ยเคี้ยงหนีไปได้ครับคุณรัญ"
จักรภพเอ่ยออกมาด้วยสีหน้ากังวลเพราะลืมคิดไปว่าเสี่ยเคี้ยงเท่านั้นที่ถูกจับแต่ลูกชายของมันยังอยู่
"นายครับผมว่าช่วงนี้นายกลับไปกรุงเทพก่อนดีไหมครับผมไม่รู้ว่าพวกมันจะบ้าระห่ำได้ขนาดไหน"
ลุงครามเอ่ยบอกกับคนเป็นนายด้วยสีหน้าร้อนใจ
"ผมกลับไปแล้วใครจะดูแลคนที่นี่ล่ะครับคนอย่างเสี่ยเคี้ยงเหมือนหมาลอบกัดไว้ใจไม่ได้หรอกครับลุงคราม"
"ตอนนี้ผมขอกำลังจากเพื่อนที่เป็นตำรวจมาคุ้มกันที่นี่แล้วแต่คงต้องเป็นพรุ่งนี้ถึงจะมากัน"
จักรภพรีบติดต่อขอกำลังคุ้มกันแต่กว่าจะมาก็พรุ่งนี้เร็วสุด
"คืนนี้พวกผมจะจัดเวรยามทุกจุดอย่างแน่นหนากว่าเดิมครับ"
ในส่วนของลุงครามที่วางแผนไว้เขาจะให้คนที่มีอยู่จัดเฝ้าเวรยามรอบไร่ให้แน่นหนาขึ้นเพราะจะประมาทพวกคนที่เถื่อนได้อย่างเต็มที่ไม่ได้อีกแล้ว
"อาวุธที่เรามีให้ทุกคนพกติดตัวให้ครบมือนะครับลุง"
"ครับนาย"
20.00 น.
"กลับมามืดเลยไปไหนมาคะ"
พราวพิไลจ้องหน้าหิรัญอย่างสงสัย
"พี่ก็ไปดูไร่มานั่นแหละ...ตัวพราวยังร้อนอยู่เลยนี่ทานยารึยัง"
ชายหนุ่มอมยิ้มมุมปากทั้งมานั่งข้างๆหญิงสาวและใช้หลังมืออังหน้าผากของเธอ
"พึ่งทานไปเมื่อกี้เองค่ะนมเช็ดตัวให้พราวแล้ว"
"พี่ขอโทษนะที่ทำให้พราวต้องไม่สบาย.."
ชายหนุ่มโอบกอดหญิงสาวเบาๆ
"....."
พราวพิไลส่ายหัวเล็กน้อยเรื่องที่มันเกิดเธอไม่โทษเขาเลยสักนิด
23.00 น.
"นอนไม่หลับเหรอคะ"
หญิงสาวตื่นขึินมาในกลางดึกเพราะรู้สึกตัวว่าคนข้างๆเธอยังอยู่ไม่สุกพลิกไปพลิกมา
"พี่ยังไม่ง่วงเท่าไรน่ะ"
"ดึกแล้วนอนนะคะ"
หญิงสาวเขยิบตัวเข้าไปกอดคนที่บอกว่ายังไม่ง่วงให้เขาได้พักผ่อนเธอไม่รู้หนอกว่าเขามีเรื่องอะไรในใจหรือเปล่าแต่ไม่อยากให้เขาเสียสุขภาพคิดมากจนนอนไม่หลับ
"อืม.."
หิรัญกอดหญิงสาวแน่นเขาแอบกังวลไม่น้อยว่าต่อไปเสี่ยเคี้ยงกับพวกจะทำอะไร
วันต่อมา
"วันนี้ออกไปเช้าจังคะ"
พราวพิไลพึ่งจะตื่นนอนก็เห็นชายหนุ่มแต่งตัวเรียบร้อยแล้วเธอสงสัยว่าวันนี้เขามีงานด่วนอะไรหรือเปล่า
"พอดีที่ไร่รับคนมาดูแลใหม่พี่เลยต้องออกไปเช้าหน่อย"
"ไม่ทานข้าวก่อนเหรอคะ"
หญิงสาวตะโกนตามหลังคนที่กำลังจะเปิดประตูห้องออกไป
"เดี๋ยวพี่ไปทานกับพวกลุงครามที่ไร่ทีเดียว"
วันนี้หิรัญจะช้าไม่ได้ดพราะเขานัดประชุมคนในไร่แต่เช้าเขาต้องเน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยและวางแผนรับมือเอาไว้ก่อนที่จะเกิดเรื่อง
"ค่ะ"
08.00 น.
"ป้าพวงที่เค้าว่าเสี่ยเกลี้ยงไปบุกโรงพักพาเสี่ยเคี้ยงหนีจริงเหรอ"
มาลีไม่อยากจะเชื่อว่าเสี่ยเกลี้ยงจะระห่ำได้ขนาดนั้น
"ก็ใช่น่ะสิคนในไร่ยังหวาดๆกันอยู่เลยตอนนี้"
พวงเองก็กังวลอยู่ไม่น้อยกลัวว่าที่ไร่จะมีปัญหาอีก
"อะไรนะคะเมื่อกี้ป้าพวงว่าอะไรนะคะ"
พราวพิไลออกมาจากห้องได้ยินสิ่งที่พวงคุยกับมาลีพอดีเธอจึงตกใจไม่น้อย
"เอ่อ..ก็พวกเสี่ยเกลี้ยงบุกโรงพักไปพาเสี่ยเคี้ยงหนีน่ะค่ะ"
พวงถึงกับหน้าเสียเพราะหิรัญย้ำชัดว่าเรื่องนี้ไม่อยากให้พราวพิไลรู้แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว
"แล้วพี่รัญรู้เรื่องนี้รึเปล่าคะ"
"น่าจะรู้แล้วล่ะค่ะ"
"อ่อ..ค่ะ..ถึงว่าเห็นเครียดๆไม่คิดจะบอกกันบ้างเลยหรือไงนะ"
พราวพิไลส่ายหัวสีหน้าของเธอเป็นกังวลขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
"อุ้บ..."
มาลีที่กำลังจะวางถาดอาหารลงที่โต๊ะอาหารเธอก็เกิดอาการคลื่นไส้เพราะได้กลิ่นกับข้าวที่พึ่งเปิดออกมา
"เป็นอะไรนังลี"
พวงรีบเดินตามมาลีไปที่ห้องน้ำดูว่าเธอเป็นอะไร
"ป..เปล่าจะไม่เป็นอะไรสงสัยฉันจะนอนน้อยน่ะ"
มาลีชะงักงันครู่หนึ่งหวังว่าสิ่งที่เธอคิดมันจะไม่เกิดขึ้นตอนนี้
บ้านมาลี"หา...ท..ท้อง"หลังจากที่มาลีว่างงานจากเรือนเธอก็ออกไปซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจทั้งหมดสามอันผลปรากฏว่าทั้งสามขึ้นสองขีดเหมือนกันหมดทำเอาเธอนั่งทรุดอยู่มุมห้องด้วยสีหน้าเคร่งเครียดก๊อกๆๆๆ"เสี่ย.."เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูมาลีจึงรีบหาที่ซ่อนผลตรวจเพราะคิดว่าเป็นแม่เธอมาเคาะแต่ที่ไหนได้กลับเป็นเลี่ยเกลี้ยงที่เข้ามาหาเธอในนี้ต่างหาก"เงียบ..""เสี่ยมาที่นี่ได้ไงแล้วเสี่ยไปบุกโรงพักมาจริงรึเปล่า""จริง...แล้วฉันก็มีเรื่องให้แกช่วย"เสี่ยเกลี้ยงมีบางอย่างที่ต้องวานให้มาลีช่วยแล้วเธอก็จะปฏิเสธเขาไม่ได้ด้วย"เสี่ยฉันมีเรื่องจะต้องบอกเสี่ย"มาลีถือโอกาสนี้บอกเรื่องที่เธอพึ่งรู้กับเสี่ยเกลี้ยงเสียเลย"เรื่องอะไร""ฉ..ฉันท้อง""ไปเอาออกซะ"เสี่ยเกลี้ยงตอบได้อย่างไม่ลังเลเพราะเขาไม่คิดที่จะรับผิดชอบใครอยู่แล้ว"พูดแบบนี้ได้ไงเสี่ยลูกทั้งคนนะ"มาลีถึงกับหน้าเหวอกับคำพูดที่เสี่ยเกลี้ยงพูดออกมา"ลูกฉันรึเปล่าก็ไม่รู้...นี่..พรุ่งนี้แกต้องพาเมียนายแกมาให้ฉันที่จุดนัดพบไม่งั้นแม่แกนั่นแหละที่จะไม่มีชีวิตรอด""เสี่ยจะทำอะไร""ทำอะไรมันก็เรื่องของฉันไม่เกี่ยวกับแกจะกำจัดเมียนายแกให้ไม่ดีหรือไงแ
"ใช่ฉันคือเสี่ยเกลี้ยงลูกเสี่ยเคี้ยงจำหน้าฉันไว้ดีๆเพราะฉันนี่แหละจะเป็นคนฆ่าผัวแก""ไม่นะ"พราวพิไลส่ายหัวพัลวันเธอจะไม่ยอมให้หิรัญเป็นอะไรไปง่ายๆเด็ดขาด"ไม่ทันแล้วล่ะมันกำลังมาให้ฉันฆ่าถึงที่"เสี่ยเกลี้ยงยิ้มเย้ยหญิงสาวอย่างสะใจ"เลว...เลวที่สุด"หญิงสาวทำได้แต่ตะโกนด่าทอคนที่เลวจนเธอสรรหาคำพูดออกมาด่าไม่ไหวจริงๆ"ขับให้เร็วกว่านี้หน่อยสิหมอ"บนถนนเลาะชายป่ารถยนต์สีดำวิ่งมาด้วยความเร็วโดยมีจักรภพเป็นคนขับหิรัญเองดูท่าความเร็วขนาด120กิโลเมตรต่อชั่วโมงมันยังไม่พอใจเขาเอาเสียเลยตอนนี้ในรถมีลุงครามจักรภพแลพหิรัญที่ล่วงหน้ามาก่อนพวกตำรวจเพราะเมื่อได้รับสายจากเสี่ยเกลี้ยงว่าต้องการแลกตัวหิรัญกับพราวพิไลที่ไหนพวกเขาก็ออกมากันเลย"นี่ก็เหยียบจะมิดอยู่แล้วนะครับคุณรัฐ"จักรภพคิดว่าเขาคงทำความเร็วกว่านี้ไม่ได้เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้มันจะไม่ดีต่อสถานหารณ์ตอนนี้"เลี้ยวซ้ายข้างหน้าเลยครับหมอ"เมื่อรถขับมาถึงทางแยกลุงครามก็รีบบอกพิกัดกับจักรภพว่าโกดังที่เสี่ยเกลี้ยงพาพราวพิไลมาอยู่ในซอยเปลี่ยวนี้"ไอ้เกลี้ยงกูมาแล้วปล่อยเมียกูเดี๋ยวนี้"เมื่อรถเลี้ยวเข้าซอยขับมาถึงโกดังยังไม่ทันจอดดีหิร
"พราวจะกลับกรุงเทพค่ะ"พราวพิไลพูดพร้อมมองจ้องคนที่กำลังเดินควงกันเข้าบ้านมาด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์แอบน้อยใจลึกๆที่ชายหนุ่มรู้ว่าเธอจะไปยังไม่แม้อตากันมามองหน้าเธอเลยสักนิด"นายคะ.. "บัวตองส่งเสียงเอะอะโวยวายทั้งลากมาลีมานั่งกองต่อหน้าหิรัญและคนในบ้าน"มีอะไร.. ""นังลีมันบอกว่าลูกในท้องมันเป็นลูกนายค่ะจริงรึเปล่าคะ"บัวตองถามด้วยท่าทีร้อนรนเพราะเธอยังไม่ค่อยเชื่อคำพูดลูกเธอเท่าไรจึงต้องลากกันมาถามให้รู้เรื่อง"จะบ้าเหรอคนอย่างรัญไม่ไฝ่ต่ำไปเอาลูกเธอหรอก"สุพิชชาตวาดเสียงหลงเพราะรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้"จริง"หิรัญตอบหน้าตาเฉย"อะไรนะคะรัญ"สุพิชชาถึงกับหน้าชาอึ้งไปชั่วขณะรวมทั้งคนอื่นๆในที่นี้ก็เช่นกัน"นายต้องรับผิดชอบลูกฉันนะคะ"บัวตองได้ยินแบบนั้นเธอเป็นแม่ก็ต้องเรียกร้องความยุติธรรมให้กับแม่ของเธอ"อืม..ฉันจะรับผิดชอบเอง"หิรัญไม่ได้ปฏิเสธที่จะไม่รับผิดชอบ"หึ่...ขอให้ปวดหัวตายกับผู้ชายเฮงซวยคนนี้นะ..หืย"เพียะพราวพิไลกัดฟันกรอดก่อนกลับเธอเดินดุ่มไปฟาดหน้าชายหนุ่มที่หลอกเธอจนเธอเชื่อใจว่ารักเธอคนเดียวแต่กลับกระทำสำส่อนกับคนอื่นไปทั่ว"....."หิรัญมองตามหลังพราวพิไลด้วยสีหน้าที่คนอื
เรือนศังกร"ทำไมทำหน้าเครียดๆคะรัญ"สุพิชชาเดินกลับมาด้วยอารมณ์หงุดหงิดแต่เธอก็ต้องเปลี่ยนอารมณ์เป็นสงสัยแทนเพราะเธอเห็นหิรัญกำลังวุ่นสีหน้าเคร่งเครียดกับเอกสารกองโตในห้องทำงาน".......""เอกสารอะไรคะ""เอกสารยึดทรัพย์...ผมไม่เหลืออะไรอีกแล้ว"หิรัญเงยหน้ามองหญิงสาวด้วยสีหน้าหดหู่"อ..อะไรนะคะ"สุพิชชาไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองสักนิด"ที่ไร่นี้ขาดทุนมานาน...ก็เลยต้องทำให้ผมต้องเอาที่ไปจำนองแล้วตอนนี้มันก็ถูกยึดแล้ว""รัญก็ให้รอบครัวรัญช่วยสิคะ"หญิงสาวพยายามหาทางออกให้หิรัญเธอเองไม่อยากให้เขาตกอับเพราะถ้สหากเธออยู่กับเขาก็จะยิ่งลำบากมากขึ้นไปอีกเธอทนไม่ได้แน่นอน"สมบัติของครอบครัวผมสละสิทธิ์ไม่รับมานานแล้วทุกอย่างเป็นของธรัฐ""ทำไมเรื่องนี้รัญไม่เคยบอกชาเลยล่ะคะ""ผมคิดว่าเรื่องนี้มันไม่สำคัญอะไรถ้าเรารักกัน""......"สุพิชชาอึ้งไปครู่หนึ่งในหัวของเธอตอนนี้กำลังคิดอยู่ว่าจะเอายังไงดีแต่แล้วเธอก็เลือกที่จะไม่ลำบากและรู้ตัวว่าต้องไปจากเขาอย่างรวดเร็วเพราะดีไม่ดีเงินเก็บที่เธอมีอาจถูกหิรัญเรียกร้องให้เธอช่วยก็เป็นได้ซึ่งเธอก็ไม่ยอมแน่นอน"ผมต้องย้ายออกจากที่นี่เราไปหาบ้านเช่าเล็กๆกันนะชา"
ชั่วโมงต่อมาสำนักงานธนาคารRrrrrr"หืม...มือถือใคร.."แพรวพิลาสต้องหยุดชะงักในขณะที่จะกดลิฟท์เพื่อขึ้นไปชั้นทำงานเธอหยิบมือถือที่กำลังดังออกมาดูทั้งมีสีหน้าสงสัยว่ามือถือเครื่องนี้มาอยู่ในกระเป๋าเธอได้อย่างไร"คุณแพรวเมื่อวานผมเอามือถือใส่กระเป๋าคุณไว้คุณน่าจะไม่เห็นมาถึงแล้วก็เอามาให้ผมที่ห้องด้วยนะครับคุณภรรยา""คุณรัฐ.."เมื่อแพรวพิลาสกดรับสายเธอก็ต้องคิ้วขมวดส่งเสียงแข็งกลับๆปให้ปลายสายอย่างโมโหแล้วจึงกดวางรีบเดินดุ่มเข้าลิฟท์ที่กำลังเปิดด้วนอาการโมโหที่ธรัฐชอบหาเรื่องเรียกร้องความสนใจจากเธออยู่เรื่อย"เลิกเล่นแบบนี้กับแพรวสักทีคุณรัฐ...อย่ามาเรียกร้องความสนใจจากแพรว... เพราะแพรวจะไม่สนใจคุณอีกอย่างก็เลิกเรียกฉันว่าภรรยาคุณสักทีคืนนั้นแพรวถือว่าทำทานก็แล้วกันได้ยินไหมคะว่าหยุดเรียกฉันว่าภรรยาคุณเสียทีฉันไม่ชอบบบ.."เมื่อมาถึงหญิงสาวก็พ่นคำพูดออกมารัวๆให้คนที่กำลังนั่งเก้าอี้ราคาแพงหันหลังให้เธออยู่"หนูแพรว!!"อนุชิตได้ยินชัดทุกคำเมื่อหญิงสาวพูดจบ้ขาจึงค่อยๆหันมา"ค..ค..คุณ..ลุง..แพรวแค่เอามือถือมาคืนคุณรัฐค่ะขอตัวก่อนนะคะ"แพรวพิลาสถึงกับตัวชาวาบรีบวางมือถือและวิ่งออกไปทันที"เร
ลานจอดรถ"ว้ายย.."แพรวพิลาสกำลังจะเดินมาที่รถของเธอหลังจากที่ซื้อของใช้ส่วนตัวเสร็จแต่ก็ถูกชายร่างใหญ่สองคนมารั้งตัวเธอแนบกับรถเอาไว้จนเธอร้องเสียงหลง"ว่าที่เจ้าสาวงั้นเหรอถ้าแกหน้าเละไปแล้วดูซิรัฐยังจะรักแกอยู่ไหม"เกวลินที่เก็บความแค้นและรอวันนี้วันที่เธอจะทำให้แพรวพิลาสเสียโฉมเพื่อที่ธรัฐจะได้ทิ้งหญิงสาวเหมือนกับที่เขาไม่แยแสเธอบ้าง"จะทำอะไร""ฉันจะเอาน้ำกรดสาดหน้าแกไง""ทางนี้ค่ะคุณตำรวจคุณนางแบบคนนี้กำลังจะทำร้ายคนอื่นค่ะ"คีรินธิดาสาวน้อยวัย20ส่งเสียงตะโกนเสียงหลงเมื่อเห็นว่าแพรวพิลาสกำลังจะถูกทำร้าย"เจ้ตำรวจมาผมไปก่อนนะ"ชายสองคนได้ยินวาสมีตำรวจมาเขาจึงรีบปล่อยหญิงสาวและวิ่งหนีไป"อ้าวเดี๋ยวสิ"พลั้ก.. "โอ้ยย.."จังหวะนั้นแพรวพิลาสถือโอกาวผลักเกวลินจนล้มและเธอก็รีบหนีไปพร้อมกับสาวน้อยอีกคนที่ยืนรอช่วยเธออยู่"พี่คะทางนี้ค่ะ"ครู่ต่อมา"ขอบคุณมากเลยนะคะที่ช่วยพี่"แพรวพิลาสนั่งอยู่ในร้านอาหารที่คนค่อนข้างพลุกพล่านจะได้ไม่มีใครบุ่มบ่ามมาทำร้ายเธออีกทั้งขอบคุณสาวน้อยหน้ารักตรงหน้าที่ช่วยเธอเอาไว้"ไม่เป็นไรค่ะพี่แพรวรออยู่ตรงนี้นะคะเดี๋ยวพี่รัฐก็มาถึงแล้วค่ะ""รู้จักชื่อพี่ด
"อย่าพูดถึงคนอื่นได้ไหมพราว.."หิรัญไม่อยากให้พราวพิไลมาประชดประชันอะไรเขาตอนนี้"พราวขอตัวนะคะ..พราวรีบ""จะไปไหนพราว""พราวจะไปอิตาลีค่ะจะไปหางานทำที่นั่นกับเพื่อนขอตัวนะคะเดี๋ยวตกเครื่อง"พราวพิไลเดินจ้ำอ้าวออกไปหน้าบ้านอย่างรวดเร็ว"พราว..พราว..เดี๋ยวสิพราว..โอ้ย.."หากหิรัญยังดีๆเขาคงตามเธอทันแค่นี่เมื่อเดินเร็วเขาก็ยิ่งเจ็บแผล"แท็กซี่..."พราวพิไลเรียกแท็กซี่ได้ก็รีบขึ้นหนีคนที่กำลังตามเธอมาทันที"พราว..อึก...อืม...หิรัญนั้นยังไม่ละความพยายามยังไงเธอก็จะตามพราวพิไลกลับมาให้ได้"เอ่อ..มีคนวิ่งตามครับ"แท็กซี่ชะลอรถเล็กน้อยเมื่อเห็นคนวิ่งตาม"ไปเลยค่ะไม่ต้องสนใจ"พราวพิไลไม่ได้สนใจที่จะหันไปมองแม้แต่น้อย"พราว...อย่าพึ่งไป...โอ้ยย..."หิรัญเลือดออกจนเปรอะเสื้อแต่ดขากะยังไม่ละความพยายามที่จะตาม"พ..พี่รัญ..จอดก่อนค่ะ"พราวพิไลตัดสินใจหันกลับมาดูวินาทีนั้นเธอเห็นชายหนุ่มล้มไปต่อหน้าต่อตาหัวใจของเธอก็อ่อนยวบลงรีบให้แท็กซี่จอดและเธอก็รีบวิ่งลงจากรถมาดูชายหนุ่มในทันที"พราว..""พี่รัญ..ล..เลือด..ทำไมเลือดออกคะ...พี่รัญเป็นแผลนี่"พราวพิไลหน้าซีดเผือดเมื่อเห็นว่าที่เอวหิรัญมีเลือดออกมา
ไร่ศังกร20.00 น."พี่รัญคะเดี๋ยวเค้กขอไปหาพี่โจเลยนะคะ"คีรินธิดาขอติดรถมากับหิรัญและพราวพิไลเพื่อที่จะมาหาจักรภพเมื่อมาถึงก็เอ่ยปากอยากจะขอไปหาจักรภพในทันที"ดึกแล้วนะเค้กอยู่ที่นี่ก่อนไปบ้านผู้ชายมืดๆค่ำๆมันดูไม่ดี"หิรัญต้องห้ามหญิงสาวเอาไว้ก่อนเพราะหากพ่อหญิงสาวรู้ว่าเขาดูแลน้องไม่ได้เขาจะถูกตำหนิเอา"ฮืม...แต่เค้กคิดถึงพี่โจนี่คะ""ถ้าคุณอาคินรู้จะตำหนิพี่เอานะ""ก็ได้ค่ะ""นั่นห้องเค้กพี่ให้คนจัดการเตรียมเอาไว้แล้ว""ค่ะ"คีรินธิดาเดินเข้าห้องไปด้วยสีหน้าบูดบึ้ง"ดูท่าน้องเค้กจะคิดถึงหมอโจมากเลยนะคะ"พราวพิไลยิ้มอ่อน"อืม...แต่หมอโจน่ะสิไม่รู้ว่าจะปวดหัวเพิ่มขึ้นรึเปล่า""ทำไมล่ะคะคู่หมั้นมาหาทั้งทีต้องปวดหัวขนาดนั้นเลยเหรอคะ""ก็ตั้งแต่น้องเค้กรู้ว่าพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายให้หมั้นกันเธอก็ตามติดหมอโจแจเลยถึงต้องย้ายมาทำงานที่ไร่นี้ดีที่ว่าตอนนี้ร้องเค้กยังเรียนไม่จบถึงตามมาไม่ได้จะมาได้แค่ช่วงปิดเทอมเท่านั้น""พราวอยากเห็นซะแล้วสิคะว่าติดแจนี่มันขนาดไหน"พราวพิไลสบถขำเล็กน้อยอาทิตย์ต่อมา"ค่ะคุณแม่..อะไรนะคะเลื่อนไวขึ้น..โอเคค่ะเดี๋ยวพราวจะรีบบอกพี่รัญนะคะ""มีอะไรเหรอ"หิรัญเห็นพรา