Share

ตอนที่26 ช่วงโปรโมชั่น

เย็นของวัน

"นี่รูปตอนพี่รัญเด็กๆเหรอคะ"

พราวพิไลหยิบรูปที่ตั้งอยู่ในตู้โชว์ข้างๆกับชั้นวาวหนังสือขึ้นมาดูเธอกะว่าจะถามหิรัญหลายครั้งแล้วในรูปมีเด็กชายสองคนที่คาดว่าน่าจะเป็นหิรัญกับน้องชายของเขาและมีอีกคนที่เป็นชายวัยกลางคนหน้าไม่เหมือนอนุชิตเท่าไรอุ้มเด็กชายทั้งสองอยู่

"อืม.. นี่พี่แล้วนี่ก็ธรัฐน้องชายพี่"

"แล้วคนที่อุ้มอยู่นี่ล่ะคะ"

"คุณปู่พี่น่ะ"

"ตอนนั้นคุณปู่อายุเท่าไรคะเนี่ยยังหล่ออยู่เลยค่ะ"

"ตอนนั้นก็หกสิบกว่าแล้วล่ะ"

"โห..ยังดูหนุ่มมากเลยนะคะ"

"ใช่แล้วคุณย่าเล่าให้ฟังว่าคุณปู่เป็นคนมีอายุที่ดูดีที่สุดในย่านนี้เลยแถมสาวๆยังติดตรึมอีกด้วย"

"แล้วคุณย่าไม่หึงแย่เหรอคะ"

"ไม่หรอกคุณปู่จะเป็นฝ่ายหวงคุณย่าเสียมากกว่าหลังจากที่คุณปู่แต่งงานกับคุณย่าผู้หญิงที่พยายามเข้าหาคุณปู่ก็ไล่ตะเพิดไปหมดเลย"

"คุณปู่ดุมากหรือเปล่าคะ"

"ก็พอตัวนะไม่งั้นคงไม่คุมคนที่ไร่นี้ได้แถมยังบริหารงานที่ธนาคารแทนคุณทวดได้อีก"

หิรัญเล่าถึงคุณปู่ของเขาอย่างภูมิใจ

"คุณปู่นี่สุดยอดเลยนะคะ"

"ใช่แล้วเห็นคุณย่าบอกว่าคนที่นิสัยคล้ายคุณปู่มากที่สุดเห็นจะเป็นธรัฐ"

"แล้วพี่รัญล่ะคะดุไหม"

พราวพิไลเงยหน้ามองคนตัวโตด้วยแววตาสงสัยเธอเห็นหรัญแต่มุมเงียบขรึมและอ่อนโยนยังไม่เคยเห็นเขาในเวลาโมโหเสียที

"พราวเห็นพี่ดุไหมล่ะ"

หิรัญโอบกอดร่างบางจากทางด้านหลัง

"..ไม่ค่ะ.."

พราวพิไลส่ายหัวหงึกหงักเธอคิดว่าเขาก็น่าจะไม่ดุเท่าไร

"ถ้าคนดีมาพี่ก็ดีตอบร้ายมาพี่ก็ร้ายตอบเหมือนกันแต่สำหรับพราวพี่จะเป็นแบบนี้ตลอดไป"

สำหรัญหิรัญพฤติกรรมของเขาก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์

"อย่ามาให้คำสัญญามั่วๆแค่ช่วงโปรโมชั่นนะคะ"

พราวพิไลไม่ชอบคำสัญญามั่วๆเพราะเธอรู้สึกว่าคำพูดคำสัญญามันเป็นเรื่องสำคัญเพราะมันจะแสดงออกถึงความจริงใจ

"ไม่เลยพี่ไม่เคยมีโปรโมชั่นกับใครทั้งนั้นชอบพี่ก็บอกชอบรักพี่ก็บอกรักเท่านั้นเอง"

คนอย่างหิรัญไม่ได้มีช่วงโปรโมชั่นสำหรับใครเขาคิดอย่างไรคำพูดกับการกระทำมันก็ออกมาเป็นแบบนั้น

อาทิตย์ต่อมา

"เป็นยังไงบ้างหมอโจ"

หิรัญรอฟังข่าวจากหมอโจอย่างใจจดใจจ่อหลังจากที่เขาคิดจะล้างบางเสี่ยเคี้ยงจึงจ้างทั้งนักสืบติดต่อกับตำรวจยศสูงๆที่รู้จักแล้วก็ซื้อตัวคนของเสี่ยเคี้ยงแล้วทุกอย่างก็เป็นไปตามผลมีหมายจับเสี่ยเคี้ยงมาในที่สุด

"ตอนนี้ทางการได้เข้ายึดของกลางของเสี่ยเคี้ยงตอนที่

มันไม่รู้ตัวเรียบร้อยแล้วครับ"

จักรภพรู้ข่าวมาจากตำรวจที่ต่อสายตรงมาถึงเขาตอนนี้เสี่ยเคี้ยงได้ถูกจับเรียบร้อยแล้ว

"ดี..จบสิ้นซะทีนะ"

หิรัญยิ้มอย่างพอใจ

"คุณรัญนี่เห็นเงียบๆก็กัดไม่ปล่อยเหมือนกันนะครับ"

จักรภพพึ่งเห็นมุมโหดของหิรัญก็ตอนนี้เหมือนน้ำนิ่งไหลลึกจริงๆหากคนอื่นมองก็คงไม่คิดว่าเขาจะเอาเรื่องเอาราวอะไรเสี่ยเคี้ยงแต่ที่ไหนได้เล่นเหยียบจมดินไม่มีวันได้เกิดกันเลยทีเดียว

"กระโตกกระตากให้มันรู้ตัวก็เสียแผนหมดสิครับหมอ"

หิรัญพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย

"ดีครับ..แล้วจะไปโรงพักกับผมเลยไหม"

"ครับ"

"พี่รัญจะไปไหนกันคะ"

พราวพิไลเห็นหิรัญและจักรภพกำลังจะขับรถออกไปข้างนอกกันจึงรีบเดินเข้ามาหา

"อ๋อ..พี่กับหมอโจจะไปธุระกันน่ะ..พี่จะรีบไปรีบกลับนะ"

เรื่องนี้หิรัญไม่ได้บอกให้หญิงสาวรู้เพราะกลัวว่าเธอจะกังวลและเป็นห่วงเขา

"ค่ะ...รีบกลับมานะคะเย็นนี้พราวจะทำของโปรดพี่รัญไว้รอค่ะ"

"โอเค.."

"ผมมาฝากท้องด้วยคนได้ไหมครับ"

จักรภพชะโงกหน้ามาขัดจังหวะคนที่กำลังหวานกัน

"ได้เลยค่ะหมอโจ"

"ขอบคุณครับ"

โรงพัก

"แกอย่าคิดว่าฉันจะยอมอยู่ในคุกนาน"

เสี่ยเคี้ยงเห็นหน้าหิรัญเขาก็กัดฟันกรอดเพราะไม่คิดว่าคนอย่างหิรัญจะทำอะไรเขาได้แต่เขาเองที่ชะล่าใจไป

"หลักฐานมัดตัวขนาดนี้คิดว่าจะรอดหรือไง"

หิรัญจ้องมองเสี่ยเคี้ยงตาเขม็งอย่างไม่เกรงกลัว

"คนอย่าเสี่ยเคี้ยงกฎหมายทำอะไรไม่ได้หรอกโว้ย"

เสี่ยเคี้ยงสบถออกมาอย่างหัวเสียทั้งประกาศก้องว่าเขาจะไม่ยอมอยู่ในห้องขังนานเป็นแน่

"แล้วฉันจะคอยดู"

หิรัญยังคงยืนจ้องหน้าเสี่ยเคี้ยงไม่วางสายตาครู่หนึ่งจึงละไปคุยกับทางตำรวจที่มาคุม​ สน.นี้ใหม่เพราะคนที่นี่่เสี่ยเคี้ยงให้การว่ามีเอี่ยวด้วยทุกกรณีตำรวจที่นี่จึงเป็นชุดใหม่ทั้งหมด

18.00​ น.

"กับข้าวฝีมือคุณพราวนี่อร่อยทุกอย่างเลยนะครับ"

จักรภพและหิรัญกลับมาทันเวลาอาหารเย็นและดูท่าคนที่ดูจะอร่อยกับฝีมือของพราวพิไลเป็นพิเศษเลยก็คือจักรภพที่ทานข้าวหมดเป็นสองจานแล้วยังไม่มีทีท่าว่าจะอิ่ม

"ท่าจะอร่อยจริงนะครับเล่นแย่งผมไปซะจะหมดเลย"

หิรัญพูดด้วยสีหน้านอยเล็กน้อยที่กับข้าวฝีมือพราวพิไลที่ทำมานั้นถูกจักรภพแย่งทานไปเสียเกือบหมด

"เอ่อ..เพลินไปหน่อยน่ะครับ"

จักรภพหันมายิ้มแหยๆให้กับหิรัญ

"ในครัวยังมีอีกค่ะพี่รัญ..หมอโจทานเยอะๆเลยนะคะ"

พราวพิไลต้องออกโรงบอกว่ามีอีกในครัวเพราะดูท่าหิรัญจะเสียมารยาทหวงกับข้าวที่เธอทำกับแขกอย่างจักรภพวันนี้เสียแล้วทั้งต้องรีบบอกให้หมอโจทานได้ตามสบายเพราะกลัวอีกฝ่ายจะเกรงใจแล้วทานไม่อิ่ม

"ขอบคุณครับ"

21.30 น.

"พี่รัญไปทำธุระอะไรกับหมอโจมากันแน่คะกลับมาดูเครียดๆ"

พราวพิไลสังเกตุอาการของหิรัญตั้งแต่กลับมาแล้วถึงเขาจะยิ้มแต่แววตาก็ยังดูมีเรื่องในใจจนเธออดถามไม่ได้

"คือ..พี่ไปโรงพักมาน่ะ"

หิรัญขยับเข้ามาใกล้ๆหญิงสาวที่นั่งพิงอยู่ที่หัวเตียง

"มีเรื่องอะไรเหรอคะ"

"คือ....."

หิรัญตัดสินใจเล่าให้พราวพิไลฟังเพราะเรื่องทุกอย่างน่าจะจบแล้วคงไม่มีอะไรที่ทำให้เธอต้องเป็นห่วงเขาอีกแล้ว

"แล้วพี่รัญไปมีเรื่องกับคนพวกนั่นน่ะเหรอคะ..ถึงว่าล่ะทำไมเพิ่มคนเฝ้าไร่"

พราวพิไลทำหน้าครุ่นคิดเพราะเธอเห็นคนตรวจตราไร่เพิ่มขึ้นเพราะเหตุผลนี้เป็นแน่

"ตอนนี้คนพวกนั้นถูกกฏหมายจัดการแล้วน่าจะไม่มีอะไรแล้วล่ะ"

"ให้มันจริงเถอะค่ะ"

พราวพิไลยังไม่นิ่งนอนใจไปเสียทีเดียว

"ทำไมเป็นห่วงพี่เหรอ"

หิรัญหันมาจ้องหน้าหญิงสาวพร้องเอ่ยเสียงอ่อนอย่างออดอ้อน

"ก็ห่วงสิคะ..ไม่ว่าจะปัญหาอะไรก็ห่วงทั้งนั้นแหละค่ะ"

"พราว.."

"คะ.."

"คดีพวกเสี่ยเคี้ยงจบเมื่อไรพี่ว่าจะพาพราวไปกรุงเทพหาแม่พี่นะ"

"ไปบอกความจริงใช่ไหมคะ"

พราวพิไลดีใจที่ชายหนุ่มจะบอกความจริงกับคนเป็นแม่แล้วเรื่องที่เขาไม่ได้ความจำเสื่อม

"อืม...แล้วก็จะไปบอกแม่พี่ให้จัดงานแต่งให้เราด้วย"

เรื่องนี้เขาตั้งใจอยู่แล้วและยังมีเรื่องแต่งงานอีกเรื่องด้วย

"งานแต่ง..ต..แต่เราพึ่งคบกันเองนะคะ"

พรางพิไลถึงกับหน้าเหวอไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากแต่งแต่เธอคิดว่าเธอยังรู้จักได้ไม่นานเลย

"แล้วไง..คนที่ใช่ก็คือคนที่ใช่น่าจะไม่มีอะไรเปลี่ยนความคิดพี่ได้"

หิรัญรวบกอดร่างบางทั้งก้มจูบหน้าผากเธออย่างหวงแหน

"ไว้เราหมั้นกันไว้ก่อนก็ได้ค่ะ"

หญิงสาวเงยหน้าบอกชายหนุ่มด้วยสีหน้าที่คิดไม่ตก

"หมั้นได้ไงพราวมาอยู่กับพี่ที่นี่ในฐานะภรรยาแล้วก็ต้องแต่งสิ"

หิรัญส่ายหัวหงึกหงักเมื่อเขาตั้งใจแล้วก็ต้องเป็นแบบนั้น

"ก็ไม่ได้เป็นภรรยาจริงๆซะหน่อยนี่คะ"

"งั้นก็เป็นซะเลยสิ"

ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะพูดจบหญิงสาวกฌถูกโน้มตัวนอนราบไปกับเตียงโดยมีคนตัวโตอยู่ด้านบนแล้ว

"หา..อื้มม...พ..พี่รัญเดี๋ยวค่ะ"

หิรัญก้มบดจูบหญิงสาวจนเธอตกใจต้องรีบผลักเขาออก

"พี่ไม่อยากรอแล้วท้องก่อนแต่งมันไปเลย"

วินาทีนี้ลูกผู้ชายอย่างเขาหรือจะหยุดทั้งยังเอ่ยคำที่ทำให้หญิงสาวเขินจนหน้าแดงออกมาเต็มปากเต็มคำอย่างหน้าไม่อาย

"พ..พี่รัญ.อื้ออ.."

และแล้วคืนนี้พราวพิไลก็ได้ตกเป็นของหิรัญจนได้ในคราแรกเธอเองก็มีอาการขัดขืนอยู่ไม่น้อยเพราะคิดว่าตัวเองยังไม่พร้อมแต่เมื่อคนตัวโตออดอ้อนเล้าโลมเธอก็เคลิ้มไปกับเขาง่ายดายเพราะเธอก็มีใจให้เขาไปมากแล้วเหมือนกัน

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status