"ช่าย...ถูกต้อง...อื้มมมมมม"
แคว้กกกก
ธรัฐบดจูบหญิงสาวอย่างรุนแรงจนเธอแทบไม่หายใจไม่ทันมือหนากระชากเดรสสีหวานของหญิงสาวขาดเป็นชิ้นๆด้วยอารมณ์หวง
"อื้อ.."
เพียะ.ปึกๆๆๆ...
แพรวพิลาสทั้งตบตีจิกข่วนอีกฝ่ายอย่างไม่ละมือแต่มีหรือแรงของเธอจะทำอะไรเขาได้ทั้งฤทธิ์แอลกอฮอลล์ที่เธอดื่มทำให้สติลดลงเธอจึงต่อต้านอะไรคนที่กระทำย่ำยีตัวเธอไม่ได้เลย
"อร้ายยยย.."
แพรวพิลาสส่งเสียงร้องและขัดขืนจนหมดแรงแต่ดูท่าคนที่กำลังหึงจนหน้ามืดตามัวจะไม่ฟังอะไรเธอทั้งรั้นและคืนนี้แทบค่อนคืนเขาไม่ปล่อยให้เธอได้พักหายใจแม้แต่วินาทีเดียว
วันต่อมา..
"อืม..แพรว..แพรว.. ตัวร้อนจี๋เลย"
ธรัฐตื่นขึ้นมาในช่วงสายของวันเขาสัมผัสได้ว่าคนในอ้อมกอดตัวร้อนผ่าวและท่าจะไม่ได้สติแถมยังตัวสั่นเป็นลูกนกอย่างน่าสงสาร
"หา...นี่..."
เขาหมายจะลุกออกไปเอาน้ำมาเช็ดตัวให้เธอเมื่อเปิดผ้าห่มออกก็เห็นรอยแดงเต็มเตียงนอนไปหมดทั้งเนื้อตัวของหญิงสาวยังมีรอยช้ำรอยแดงเป็นร่องรอยการกระทำของเขาเมื่อคืนอีกด้วยรอยเลือดที่เปรอะเปื้อนเรียวขาอ่อนของเธอและเตียงนอนมันทำให้เขาต้องกุมขมับและเปลี่ยนความคิดหญิงสาวนั้นบริสุทธิ์กว่าที่เขาจะกระทำแบบนี้กับเธอได้ที่ผ่านมาเขากล่าวหาเธอเสียๆหายๆมาตลอดด้วยความเข้าใจผิดนั่นเองวันนี้เขาได้รู้แล้วว่าผู้ชายคนแรกของเธอก็คือเขายิ่งมองหญิงสาวเขาก็ยิ่งรู้สึกผิด
ชายหนุ่มหลับตาลงครู่หนึ่งแล้วจึงรีบหาผ้ามาเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้เธอและรีบตามหมอมาดูอาการเธอทันที
ชั่วโมงต่อมา
เมื่อหมอตรวจดูอาการหญิงสาวฉีดยาแก้ไข้และให้ยาแก้อักเสบไว้หลังจากที่หมอไปชายหนุ่มก็ดูแลคอยเช็ดเนื้อเช็ดตัวหญิงสาวอยู่ไม่ห่าง
"ผมขอโทษ..แพรว..ผมขอโทษ"
เขากุมมือหญิงสาวที่นอนหน้าซีดเผือดอยู่บนเตียงด้วยความรู้สึกผิดเขาเอ่ยขอโทษเธอไม่รู้กี่รอบและไม่รู้ว่าถ้าหากเธอตื่นมาแล้วเธอจะโกรธเขาแค่ไหนแต่ยังไงเรื่องนี้เขาจะเป็นคนรับผิดชอบทุกอย่างเอง
งานวันนี้ธรัฐให้ภัคดนัยจัดการคนเดียวโดยให้เหตุผลกับชายหนุ่มว่าแพรวพิลาสไม่สบายเขาต้องอยู่ดูแลภัคดนัยเองก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรเพราะเขาคนเดียวก็ดำเนินงานได้อย่างสบายอยู่แล้ว
18.00 น.
"อึก..อืม.."
หญิงสาวตื่นมาในช่วงเย็นเธอรู้สึกหนักอึ้งปวดหัวปวดตัวไปหมดเมื่อลืมตาขึ้นมาได้เธอก็เห็นธรัฐนั่งเฝ้าเธออยู่ข้างๆทั้งยังดึงมือเธอไปกุมเอาไว้ภาพเมื่อคืนที่แม้มันจะเลือนลางแต่เธอก็จำได้ว่าเขาทำอะไรกับเธอจึงดึงมือออกจากมือเขาและถดตัวหนีด้วยความกลัว
"ตื่นแล้วเหรอ...จะได้ทานข้าวทานยา"
ธรัฐยิ้มออกเมื่อเห็นหญิงสาวตื่นมาแล้วก่อนหน้าที่เธอจะตื่นเขาก็ได้สั่งอาหารอ่อนๆรอเธอไว้แล้วตอนนี้ก็เหลือแค่อุ่นให้เธอทานตอนตื่นเท่านั้น
"......."
แพรวพิลาสมองชายหนุ่มด้วยอาการสั่นเทาทั้งยังไม่ยอมพูดกับอีกฝ่าย
"เดี๋ยวผมเช็ดหน้าเช็ดตาให้นะ"
ธรัฐหยิบผ้าชุบน้ำหมาดๆพร้อมขึ้นมานั่งบนเตียงข้างๆหญิงสาวหมายจะเช็ดหน้าเช็ดตาให้เธอแต่หญิงสาวก็ผลักมือของเขาออกอย่างรวดเร็วทั้งมองค้อนอย่างโกรธแค้น
ปึก
"ไม่ต้อง...อึก...ฮึก..อืม..แพรว..จะกลับบ้าน..ฮึก.."
แพรวพิลาสน้ำคาคลอเอ่อล้นหยดมาเป็นทางสะอื้นให้ด้วยความรู้สึกเกลียดชายหนุ่มที่เขาทำอะไรไว้กับเธอ
"ผมขอโทษ.."
ธรัฐเอ่ยเสียงอ่อนเขาไม่อยากมองภาพที่เธอมีน้ำตาแม้แต่นิดเดียว
"ขอโทษแล้วแพรวได้อะไรคืนมาคะ"
แพรวพิลาสกอดเข่าก้มหน้างุด
"ผมจะรับผิดชอบคุณทุกอย่าง"
ธรัฐหมายจะกอดปลอบแต่หญิงสาวก็ถอยตัวหนีเขาไป
"อย่ามาแตะตัวแพรว"
"งั้นก็ทานข้าวทานยาถ้าคุณค่อยยังชั่วแล้วผมจะพาคุณกลับ"
ตอนนี้เขาไม่อยากขัดใจอะไรเธอมากนักหากเธออยากกลับเขาก็จะพาเธอกลับแต่ข้อแม้ของเขาคือเธอต้องทานข้าวทานยาให้หายดีก่อนเท่านั้น
"..."
ซึ่งข้อเสนอนี้ก็ทำให้แพรวพิลาสยอมฟังเขาแต่โดยดี
หอศังกร
"ไหนดูแผลหน่อยสิคะ"
พราวพิไลดูแผลชายหนุ่มในตอนเช้าของทุกวันเป็นอาทิตย์กว่สแล้วที่เธอดูแลหิรัญอยู่ไม่ห่างเมื่อคืนทั้งสองก็มานอนที่หอศังกรเพราะพราวพิไลอยากจะนอนที่นี่
"พี่ว่าน่าจะใกล้หายแล้วใช่ไหม"
"ค่ะแผลใกล้หายแต่เรื่องแผลเป็นน่าจะรักษานานอยู่เหมือนกันพี่รัญไม่ซีเรียสใช่ไหมคะ"
พราวพิไลบุ้ยปากเล็กน้อย
"สำหรับพี่ไม่.. แต่พราวล่ะซีเรียสรึเปล่า"
หิรัญหันมาถามร่างบางพร้อมจับแก้มนวลเล่นอย่างเอ็นดู
"เกี่ยวอะไรกับพราวล่ะคะก็มันตัวพี่รัญ"
"ก็อีกหน่อยเดี๋ยวพี่ก็ต้องเป็นของพราวแล้วพราวจะรับคนมีแผลเป็นอย่างพี่ได้เหรอ"
หิรัญจ้องตาหญิงสาวทั้งอมยิ้มโปรยเสน่ห์จนหญิงสาวเขินหน้าแดงรีบก้มหน้างุดในทันที
"พี่รัญ..พูดอะไร..ถ้าแพรวจะรักใครมันไม่เกี่ยวกับเค้ามีรอยแผลเป็นตรงไหนหรอกค่ะ"
"พราว"
ชายหนุ่มเชยคางพราวพิไลขึ้น
"คะ"
หญิงสาวมองหน้าอีกฝ่ายคาแป๋วว่าเขามีเรื่องอะไรจะพูดกับเธอ
"เมื่อไรจะตกลงเป็นแฟนกับพี่"
หิรัญถามหญิงสาวเสียงอ่อน
"ก็ที่พราวดูแลพี่รัญอยู่ทุกวันไม่ใช่หน้าที่แฟนอีกเหรอคะ"
พราวพิไลพูดพรางอมยิ้มละสายตาไปทางอื่นเพราะเขินที่จะมองหน้าชายหนุ่ม
"ช่างหาคำตอบนะเรา"
หิรัญรวบกอดร่างบางอย่างแนบแน่น
"กอดเบาๆสิคะพราวจะกระดูกหักแล้วค่ะ"
"โทษทีพี่ดีใจไปหน่อย"
"แล้วจะปล่อยได้รึยังคะ"
"ขอชื่นใจอีกพักนึงนะ"
หิรัญยังคงนอนกอดก่ายพราวพิไลอย่างไม่ยอมปล่อยเธอไปง่ายๆเช้านี้ช่างเป็นเช้าที่สดชื่นของทั้งสองจริงๆ
ครู่ต่อมา
"ยังกอดพราวไม่พอใจอีกเหรอคะ"
พราวพิไลนอนขลุกอยู่กับชายหนุ่มร่วมชั่วโมงแล้วแต่ดูท่าเขาก็ไม่ยักจะปล่อยเธอเสียที
"วันนี้พี่ว่างกอดพราวได้ทั้งวันเลย"
หิรัญเงยหน้ามามองหญิงสาวด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
"จะกอดหรือจะสิงคะเนี่ย"
พราวพิไลบุ้ยปากเล็กน้อย
"สิงได้ก็สิงไปนานแล้วล่ะ"
หิรัญกระซิบข้างหูหญิงสาวเบาๆ
"พี่รัญคะตกลงเงินเดือนพราวไม่เอานะคะ"
"ทำไม...ไม่อยากอยู่กับพี่แล้วเหรอ"
หิรัญขมวดคิ้วเป็นปมเพราะคิดว่าหญิงสาวจะไม่อยู่กับเขาแล้ว
"ก็พราวถือว่าพราวไม่ได้ช่วยอะไรพี่รัญที่พราวอยู่ที่นี่เพราะเต็มใจจะอยู่ค่ะ"
"......."
หิรัญจ้องหน้าพราวพิไลเขม็งด้วยแววตาที่หญิงสาวเองก็เดาไม่ออกว่าเขาคิดอะไรอยู่
"จ้องหน้าพราวทำไมคะ"
"มีแฟนน่ารักก็ชอบมองเป็นธรรมดา"
"......."
เป็นอีกคำที่หิรัญทำเอาหญิงสาวหน้าแดงก่ำอีกรอบ
"นอนที่นี่สักพักเย็นๆเราค่อยกลับไปที่เรือนกันนะ"
"ค่ะ"
บ้านเสี่ยเคี้ยง
"ทางนั้นมันรู้แล้วว่าเสี่ยเป็นคนทำแต่ทำไมไม่มีอะไรเคลื่อนไหวเลย"
กิตติภูมิพูดกับเสี่ยเคี้ยงด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
"นั่นสิผมก็รอดูอยู่เหมือนกันสารวัตร"
"ผมว่าคนอย่างหิรัญถ้าจะเล่นงานเสี่ยไม่ยากเลยนะครับ"
"คิดว่าผมกลัวมันหรือไงถึงมันจะเป็นลูกนายธนาคารใหญ่รู้จักคนใหญ่คนโตมากแค่ไหนแต่ที่นี่ก็คือถิ่นผมจะลองกับผมก็ต้องเหนื่อยหน่อย...ดูท่าสารวัตรดูจะกลัวมันอยู่เหมือนกันนะ"
เสี่ยเคี้ยงกำมือแน่น
"ผมก็แค่กังวลนิดหน่อยน่ะเสี่ย"
กิตติภูมิรู้ดีว่าคนระดับหิรัญหากอยากจะล้างบางเสี่ยเคี้ยงคงทำได้ไม่ยากอีกอย่างหากเสี่ยเคี้ยงถูกจับเขาหรือจะไม่โดนหางเลขไปด้วย
เย็นของวัน"นี่รูปตอนพี่รัญเด็กๆเหรอคะ"พราวพิไลหยิบรูปที่ตั้งอยู่ในตู้โชว์ข้างๆกับชั้นวาวหนังสือขึ้นมาดูเธอกะว่าจะถามหิรัญหลายครั้งแล้วในรูปมีเด็กชายสองคนที่คาดว่าน่าจะเป็นหิรัญกับน้องชายของเขาและมีอีกคนที่เป็นชายวัยกลางคนหน้าไม่เหมือนอนุชิตเท่าไรอุ้มเด็กชายทั้งสองอยู่"อืม.. นี่พี่แล้วนี่ก็ธรัฐน้องชายพี่""แล้วคนที่อุ้มอยู่นี่ล่ะคะ""คุณปู่พี่น่ะ""ตอนนั้นคุณปู่อายุเท่าไรคะเนี่ยยังหล่ออยู่เลยค่ะ""ตอนนั้นก็หกสิบกว่าแล้วล่ะ""โห..ยังดูหนุ่มมากเลยนะคะ""ใช่แล้วคุณย่าเล่าให้ฟังว่าคุณปู่เป็นคนมีอายุที่ดูดีที่สุดในย่านนี้เลยแถมสาวๆยังติดตรึมอีกด้วย""แล้วคุณย่าไม่หึงแย่เหรอคะ""ไม่หรอกคุณปู่จะเป็นฝ่ายหวงคุณย่าเสียมากกว่าหลังจากที่คุณปู่แต่งงานกับคุณย่าผู้หญิงที่พยายามเข้าหาคุณปู่ก็ไล่ตะเพิดไปหมดเลย""คุณปู่ดุมากหรือเปล่าคะ""ก็พอตัวนะไม่งั้นคงไม่คุมคนที่ไร่นี้ได้แถมยังบริหารงานที่ธนาคารแทนคุณทวดได้อีก"หิรัญเล่าถึงคุณปู่ของเขาอย่างภูมิใจ"คุณปู่นี่สุดยอดเลยนะคะ""ใช่แล้วเห็นคุณย่าบอกว่าคนที่นิสัยคล้ายคุณปู่มากที่สุดเห็นจะเป็นธรัฐ""แล้วพี่รัญล่ะคะดุไหม"พราวพิไลเงยหน้ามองคนตัวโตด้วยแววตา
เช้าวันต่อมา"อืม..ลุกออกไปจากตัวพราวได้แล้วค่ะ"พราวพิไลตื่นมาในช่วงสายเธอขยับตัวไม่ได้เพราะคนที่นอนเปลือยกายอยู่ข้างเธอพาดทั้งแขนที้งขารั้งเธอเปอาไว้"ขออยู่อย่างนี้ก่อนนะเมื่อคืนนอนน้อย"หิรัญพูดโดยที่ไม่ลืมตาเพราะเมื่อคืนกว่าเขาจะได้นอนก็เกือบเช้า"..งั้นพราวลุกไปก่อนนะคะ"ที่จริงหญิงสาวเองก็แทบระบมไปทั้งตัวแต่ที่เธออยากลุกออกจากตรงนี้ก็เพราะว่าเธอทนมองหน้าเขาด้วยความเขินอายไม่ได้ยิ่งมองหน้าอีกฝ่ายที่หลับตาพริ้มอยู่ภาพเมื่อคืนก็หลั่งไหลเข้ามาในหัวไม่ขาด"ลุกไหวเหรอ...พี่ว่านอนต่ออีกสักพักดีกว่านะ"หิรัญเชื่อว่าเธอคงจะเดินเหินลำบากเป็นแน่เพราะเมื่อคืนยากเหลือเกินที่เขาจะควบคุมอารมณ์ไม่ให้รุนแรงกับเธอได้"พี่รัญ.."หญิงสาวยังพยายามแกะมือของเขาออก"ขืนยังไม่อยู่เฉยระวังจะไม่ได้นอนนะ....อีกอย่างก็คือพี่ขอบคุณนะที่ให้พี่เป็นคนแรกของพราว"หิรัญกระชับกอดหญิงสาวแน่นขึ้นทั้งกระซิบอะไรบางอย่างข้างๆหูที่ทำให้หญิงสาวหลับตาปี๋และยอมนอนต่อในที่สุด10.00 น."เอาไปไหนป้าพวง"มาลีถามพวงด้วยความสงสัยว่าจะยกถาดอาหารจากโต๊ะทานข้าวไปไหนทั้งที่เจ้านายทั้งสองยังไม่ออกมาทาน"คุณรัญสั่งให้ทำข้าวต้มไปให้ใน
บ้านมาลี"หา...ท..ท้อง"หลังจากที่มาลีว่างงานจากเรือนเธอก็ออกไปซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจทั้งหมดสามอันผลปรากฏว่าทั้งสามขึ้นสองขีดเหมือนกันหมดทำเอาเธอนั่งทรุดอยู่มุมห้องด้วยสีหน้าเคร่งเครียดก๊อกๆๆๆ"เสี่ย.."เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูมาลีจึงรีบหาที่ซ่อนผลตรวจเพราะคิดว่าเป็นแม่เธอมาเคาะแต่ที่ไหนได้กลับเป็นเลี่ยเกลี้ยงที่เข้ามาหาเธอในนี้ต่างหาก"เงียบ..""เสี่ยมาที่นี่ได้ไงแล้วเสี่ยไปบุกโรงพักมาจริงรึเปล่า""จริง...แล้วฉันก็มีเรื่องให้แกช่วย"เสี่ยเกลี้ยงมีบางอย่างที่ต้องวานให้มาลีช่วยแล้วเธอก็จะปฏิเสธเขาไม่ได้ด้วย"เสี่ยฉันมีเรื่องจะต้องบอกเสี่ย"มาลีถือโอกาสนี้บอกเรื่องที่เธอพึ่งรู้กับเสี่ยเกลี้ยงเสียเลย"เรื่องอะไร""ฉ..ฉันท้อง""ไปเอาออกซะ"เสี่ยเกลี้ยงตอบได้อย่างไม่ลังเลเพราะเขาไม่คิดที่จะรับผิดชอบใครอยู่แล้ว"พูดแบบนี้ได้ไงเสี่ยลูกทั้งคนนะ"มาลีถึงกับหน้าเหวอกับคำพูดที่เสี่ยเกลี้ยงพูดออกมา"ลูกฉันรึเปล่าก็ไม่รู้...นี่..พรุ่งนี้แกต้องพาเมียนายแกมาให้ฉันที่จุดนัดพบไม่งั้นแม่แกนั่นแหละที่จะไม่มีชีวิตรอด""เสี่ยจะทำอะไร""ทำอะไรมันก็เรื่องของฉันไม่เกี่ยวกับแกจะกำจัดเมียนายแกให้ไม่ดีหรือไงแ
"ใช่ฉันคือเสี่ยเกลี้ยงลูกเสี่ยเคี้ยงจำหน้าฉันไว้ดีๆเพราะฉันนี่แหละจะเป็นคนฆ่าผัวแก""ไม่นะ"พราวพิไลส่ายหัวพัลวันเธอจะไม่ยอมให้หิรัญเป็นอะไรไปง่ายๆเด็ดขาด"ไม่ทันแล้วล่ะมันกำลังมาให้ฉันฆ่าถึงที่"เสี่ยเกลี้ยงยิ้มเย้ยหญิงสาวอย่างสะใจ"เลว...เลวที่สุด"หญิงสาวทำได้แต่ตะโกนด่าทอคนที่เลวจนเธอสรรหาคำพูดออกมาด่าไม่ไหวจริงๆ"ขับให้เร็วกว่านี้หน่อยสิหมอ"บนถนนเลาะชายป่ารถยนต์สีดำวิ่งมาด้วยความเร็วโดยมีจักรภพเป็นคนขับหิรัญเองดูท่าความเร็วขนาด120กิโลเมตรต่อชั่วโมงมันยังไม่พอใจเขาเอาเสียเลยตอนนี้ในรถมีลุงครามจักรภพแลพหิรัญที่ล่วงหน้ามาก่อนพวกตำรวจเพราะเมื่อได้รับสายจากเสี่ยเกลี้ยงว่าต้องการแลกตัวหิรัญกับพราวพิไลที่ไหนพวกเขาก็ออกมากันเลย"นี่ก็เหยียบจะมิดอยู่แล้วนะครับคุณรัฐ"จักรภพคิดว่าเขาคงทำความเร็วกว่านี้ไม่ได้เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้มันจะไม่ดีต่อสถานหารณ์ตอนนี้"เลี้ยวซ้ายข้างหน้าเลยครับหมอ"เมื่อรถขับมาถึงทางแยกลุงครามก็รีบบอกพิกัดกับจักรภพว่าโกดังที่เสี่ยเกลี้ยงพาพราวพิไลมาอยู่ในซอยเปลี่ยวนี้"ไอ้เกลี้ยงกูมาแล้วปล่อยเมียกูเดี๋ยวนี้"เมื่อรถเลี้ยวเข้าซอยขับมาถึงโกดังยังไม่ทันจอดดีหิร
"พราวจะกลับกรุงเทพค่ะ"พราวพิไลพูดพร้อมมองจ้องคนที่กำลังเดินควงกันเข้าบ้านมาด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์แอบน้อยใจลึกๆที่ชายหนุ่มรู้ว่าเธอจะไปยังไม่แม้อตากันมามองหน้าเธอเลยสักนิด"นายคะ.. "บัวตองส่งเสียงเอะอะโวยวายทั้งลากมาลีมานั่งกองต่อหน้าหิรัญและคนในบ้าน"มีอะไร.. ""นังลีมันบอกว่าลูกในท้องมันเป็นลูกนายค่ะจริงรึเปล่าคะ"บัวตองถามด้วยท่าทีร้อนรนเพราะเธอยังไม่ค่อยเชื่อคำพูดลูกเธอเท่าไรจึงต้องลากกันมาถามให้รู้เรื่อง"จะบ้าเหรอคนอย่างรัญไม่ไฝ่ต่ำไปเอาลูกเธอหรอก"สุพิชชาตวาดเสียงหลงเพราะรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้"จริง"หิรัญตอบหน้าตาเฉย"อะไรนะคะรัญ"สุพิชชาถึงกับหน้าชาอึ้งไปชั่วขณะรวมทั้งคนอื่นๆในที่นี้ก็เช่นกัน"นายต้องรับผิดชอบลูกฉันนะคะ"บัวตองได้ยินแบบนั้นเธอเป็นแม่ก็ต้องเรียกร้องความยุติธรรมให้กับแม่ของเธอ"อืม..ฉันจะรับผิดชอบเอง"หิรัญไม่ได้ปฏิเสธที่จะไม่รับผิดชอบ"หึ่...ขอให้ปวดหัวตายกับผู้ชายเฮงซวยคนนี้นะ..หืย"เพียะพราวพิไลกัดฟันกรอดก่อนกลับเธอเดินดุ่มไปฟาดหน้าชายหนุ่มที่หลอกเธอจนเธอเชื่อใจว่ารักเธอคนเดียวแต่กลับกระทำสำส่อนกับคนอื่นไปทั่ว"....."หิรัญมองตามหลังพราวพิไลด้วยสีหน้าที่คนอื
เรือนศังกร"ทำไมทำหน้าเครียดๆคะรัญ"สุพิชชาเดินกลับมาด้วยอารมณ์หงุดหงิดแต่เธอก็ต้องเปลี่ยนอารมณ์เป็นสงสัยแทนเพราะเธอเห็นหิรัญกำลังวุ่นสีหน้าเคร่งเครียดกับเอกสารกองโตในห้องทำงาน".......""เอกสารอะไรคะ""เอกสารยึดทรัพย์...ผมไม่เหลืออะไรอีกแล้ว"หิรัญเงยหน้ามองหญิงสาวด้วยสีหน้าหดหู่"อ..อะไรนะคะ"สุพิชชาไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองสักนิด"ที่ไร่นี้ขาดทุนมานาน...ก็เลยต้องทำให้ผมต้องเอาที่ไปจำนองแล้วตอนนี้มันก็ถูกยึดแล้ว""รัญก็ให้รอบครัวรัญช่วยสิคะ"หญิงสาวพยายามหาทางออกให้หิรัญเธอเองไม่อยากให้เขาตกอับเพราะถ้สหากเธออยู่กับเขาก็จะยิ่งลำบากมากขึ้นไปอีกเธอทนไม่ได้แน่นอน"สมบัติของครอบครัวผมสละสิทธิ์ไม่รับมานานแล้วทุกอย่างเป็นของธรัฐ""ทำไมเรื่องนี้รัญไม่เคยบอกชาเลยล่ะคะ""ผมคิดว่าเรื่องนี้มันไม่สำคัญอะไรถ้าเรารักกัน""......"สุพิชชาอึ้งไปครู่หนึ่งในหัวของเธอตอนนี้กำลังคิดอยู่ว่าจะเอายังไงดีแต่แล้วเธอก็เลือกที่จะไม่ลำบากและรู้ตัวว่าต้องไปจากเขาอย่างรวดเร็วเพราะดีไม่ดีเงินเก็บที่เธอมีอาจถูกหิรัญเรียกร้องให้เธอช่วยก็เป็นได้ซึ่งเธอก็ไม่ยอมแน่นอน"ผมต้องย้ายออกจากที่นี่เราไปหาบ้านเช่าเล็กๆกันนะชา"
ชั่วโมงต่อมาสำนักงานธนาคารRrrrrr"หืม...มือถือใคร.."แพรวพิลาสต้องหยุดชะงักในขณะที่จะกดลิฟท์เพื่อขึ้นไปชั้นทำงานเธอหยิบมือถือที่กำลังดังออกมาดูทั้งมีสีหน้าสงสัยว่ามือถือเครื่องนี้มาอยู่ในกระเป๋าเธอได้อย่างไร"คุณแพรวเมื่อวานผมเอามือถือใส่กระเป๋าคุณไว้คุณน่าจะไม่เห็นมาถึงแล้วก็เอามาให้ผมที่ห้องด้วยนะครับคุณภรรยา""คุณรัฐ.."เมื่อแพรวพิลาสกดรับสายเธอก็ต้องคิ้วขมวดส่งเสียงแข็งกลับๆปให้ปลายสายอย่างโมโหแล้วจึงกดวางรีบเดินดุ่มเข้าลิฟท์ที่กำลังเปิดด้วนอาการโมโหที่ธรัฐชอบหาเรื่องเรียกร้องความสนใจจากเธออยู่เรื่อย"เลิกเล่นแบบนี้กับแพรวสักทีคุณรัฐ...อย่ามาเรียกร้องความสนใจจากแพรว... เพราะแพรวจะไม่สนใจคุณอีกอย่างก็เลิกเรียกฉันว่าภรรยาคุณสักทีคืนนั้นแพรวถือว่าทำทานก็แล้วกันได้ยินไหมคะว่าหยุดเรียกฉันว่าภรรยาคุณเสียทีฉันไม่ชอบบบ.."เมื่อมาถึงหญิงสาวก็พ่นคำพูดออกมารัวๆให้คนที่กำลังนั่งเก้าอี้ราคาแพงหันหลังให้เธออยู่"หนูแพรว!!"อนุชิตได้ยินชัดทุกคำเมื่อหญิงสาวพูดจบ้ขาจึงค่อยๆหันมา"ค..ค..คุณ..ลุง..แพรวแค่เอามือถือมาคืนคุณรัฐค่ะขอตัวก่อนนะคะ"แพรวพิลาสถึงกับตัวชาวาบรีบวางมือถือและวิ่งออกไปทันที"เร
ลานจอดรถ"ว้ายย.."แพรวพิลาสกำลังจะเดินมาที่รถของเธอหลังจากที่ซื้อของใช้ส่วนตัวเสร็จแต่ก็ถูกชายร่างใหญ่สองคนมารั้งตัวเธอแนบกับรถเอาไว้จนเธอร้องเสียงหลง"ว่าที่เจ้าสาวงั้นเหรอถ้าแกหน้าเละไปแล้วดูซิรัฐยังจะรักแกอยู่ไหม"เกวลินที่เก็บความแค้นและรอวันนี้วันที่เธอจะทำให้แพรวพิลาสเสียโฉมเพื่อที่ธรัฐจะได้ทิ้งหญิงสาวเหมือนกับที่เขาไม่แยแสเธอบ้าง"จะทำอะไร""ฉันจะเอาน้ำกรดสาดหน้าแกไง""ทางนี้ค่ะคุณตำรวจคุณนางแบบคนนี้กำลังจะทำร้ายคนอื่นค่ะ"คีรินธิดาสาวน้อยวัย20ส่งเสียงตะโกนเสียงหลงเมื่อเห็นว่าแพรวพิลาสกำลังจะถูกทำร้าย"เจ้ตำรวจมาผมไปก่อนนะ"ชายสองคนได้ยินวาสมีตำรวจมาเขาจึงรีบปล่อยหญิงสาวและวิ่งหนีไป"อ้าวเดี๋ยวสิ"พลั้ก.. "โอ้ยย.."จังหวะนั้นแพรวพิลาสถือโอกาวผลักเกวลินจนล้มและเธอก็รีบหนีไปพร้อมกับสาวน้อยอีกคนที่ยืนรอช่วยเธออยู่"พี่คะทางนี้ค่ะ"ครู่ต่อมา"ขอบคุณมากเลยนะคะที่ช่วยพี่"แพรวพิลาสนั่งอยู่ในร้านอาหารที่คนค่อนข้างพลุกพล่านจะได้ไม่มีใครบุ่มบ่ามมาทำร้ายเธออีกทั้งขอบคุณสาวน้อยหน้ารักตรงหน้าที่ช่วยเธอเอาไว้"ไม่เป็นไรค่ะพี่แพรวรออยู่ตรงนี้นะคะเดี๋ยวพี่รัฐก็มาถึงแล้วค่ะ""รู้จักชื่อพี่ด