ชั่วโมงต่อมา
สำนักงานธนาคาร
Rrrrrr
"หืม...มือถือใคร.."
แพรวพิลาสต้องหยุดชะงักในขณะที่จะกดลิฟท์เพื่อขึ้นไปชั้นทำงานเธอหยิบมือถือที่กำลังดังออกมาดูทั้งมีสีหน้าสงสัยว่ามือถือเครื่องนี้มาอยู่ในกระเป๋าเธอได้อย่างไร
"คุณแพรวเมื่อวานผมเอามือถือใส่กระเป๋าคุณไว้คุณน่าจะไม่เห็นมาถึงแล้วก็เอามาให้ผมที่ห้องด้วยนะครับคุณภรรยา"
"คุณรัฐ.."
เมื่อแพรวพิลาสกดรับสายเธอก็ต้องคิ้วขมวดส่งเสียงแข็งกลับๆปให้ปลายสายอย่างโมโหแล้วจึงกดวางรีบเดินดุ่มเข้าลิฟท์ที่กำลังเปิดด้วนอาการโมโหที่ธรัฐชอบหาเรื่องเรียกร้องความสนใจจากเธออยู่เรื่อย
"เลิกเล่นแบบนี้กับแพรวสักทีคุณรัฐ...อย่ามาเรียกร้องความสนใจจากแพรว... เพราะแพรวจะไม่สนใจคุณอีกอย่างก็เลิกเรียกฉันว่าภรรยาคุณสักทีคืนนั้นแพรวถือว่าทำทานก็แล้วกันได้ยินไหมคะว่าหยุดเรียกฉันว่าภรรยาคุณเสียทีฉันไม่ชอบบบ.."
เมื่อมาถึงหญิงสาวก็พ่นคำพูดออกมารัวๆให้คนที่กำลังนั่งเก้าอี้ราคาแพงหันหลังให้เธออยู่
"หนูแพรว!!"
อนุชิตได้ยินชัดทุกคำเมื่อหญิงสาวพูดจบ้ขาจึงค่อยๆหันมา
"ค..ค..คุณ..ลุง..แพรวแค่เอามือถือมาคืนคุณรัฐค่ะขอตัวก่อนนะคะ"
แพรวพิลาสถึงกับตัวชาวาบรีบวางมือถือและวิ่งออกไปทันที
"เรื่องมันเป็นยังไงตารัฐ"
อนุชิตหันมาถามธรัฐที่กำลังออกมาจากห้องเก็บเอกสารด้วยสีหน้าสงสัยและต้อวการคำตอบเดี๋ยวนี้
"คุณพ่อได้ยินอะไรบ้างล่ะครับ"
"แกรีบอธิบายมาเดี๋ยวนี้เลยนะ"
"คือ..."
ธรัฐเล่าเรื่องราวให้อนุชิตได้ฟังทุกอย่างอนุชิตเองก็ถึงกับกุมขมับกับเรื่องของทั้งสองยังไงก็แล้วแต่หากเด็กทั้งสองเกิดมีสัมพันธ์กันไปอล้วยังไงเขาก็ต้องรีบให้ธรัฐรับผิดชอบแพรวพิลาส
"แกรีบบอกเรื่องนี้กับแม่แกให้เร็วที่สุดแล้วก็รีบรับผิดชอบหนูแพรวให้เร็วที่สุดด้วย"
"ผมบอกพ่อแล้วไงครับว่าผมขอรับผิดชอบเธอแล้วแต่เธอไม่ยอม"
ธรัฐเอ่ยด้วยสีหน้าอ่อนใจเขาไม่ไช่ไม่ทำแต่หญิงสาวไม่ยอมต่างหากเขาจึงต้องคิดแผนนี้ขึ้นมา
"ไม่รู้แหละเรื่องนี้แกต้องแก้ปัญหาเอง"
"ครับคุณพ่อ"
บ่ายของวัน
"แพรว"
"คะพี่ศจี"
"คุณหทัยรัตน์รอคุยอยู่ที่ห้องจะ"
"อ..อะไรนะคะ..มีเรื่องอะไรเหรอคะ"
แพรวพิลาสกลัวจะเป็นเรื่องที่เธอกลัวอยู่ตอนนี้เสียเหลือเกิน
"พี่ก็ไม่ทราบเหมือนกันจะ..."
"ค่ะ..แพรวจะรับไปเดี๋ยวนี้ค่ะ"
หญิงสาวเดินเข้าห้องมาหาหทัยรัตน์ด้วยสีหน้าเป็นกังวลเล็กน้อยแต่ก็ให้กำลังใจตัวเองในใจว่าอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด
"คุณป้า...มีอะไรจะคุยกับแพรวเหรอคะ"
"หนูแพรว...มานั่งนี่สิลูก"
"ค่ะ"
"มีเรื่องแบบนี้ทำไมไม่รีบบอกลุงกับป้า...ตารัฐก็จริงๆเลยป้าจะรีบไปสู่ขอหนูแพรวให้เร็วที่สุดน้ะจ้ะ"
หทัยรัตน์ค่อนข้างร้อนใจเรื่องนี้ไม่น้อยเมื่อรู้ข่าวจากสามีเธอก็รีบมาที่นี่ในทันที
"คือ..แพรว..ขอให้มันผ่านไปค่ะ...แพรวไม่ต้องการให้ใครมารับผิดชอบ"
หญิงสาวก้มหน้างุด
"ได้ยังไงล่ะหนูแพรวหนูเป็นผู้หญิงนะลูกถ้าแม่พิศรู้เข้าว่าตารัฐไม่รับผิดชอบเรื่องนี้เดี๋ยวแม่เรากับป้าก็จะผิดใจกันเสียเปล่าๆ"
"คือ...แพรวไม่พร้อมจะแต่งงานมีครอบครัวค่ะ"
"ได้ยังไงหนูแพรว...เกิดหนูท้องขึ้นมาแล้วจะทำยังไง"
"ท...ท้องเหรอคะ"
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เธอเองก็ไม่คิดมาก่อนแต่เมื่อคนตรงหน้าเธอพูดขึ้นทาเธอเองก็เริ่มคิดแล้วเพราะวันนั้นธรัฐน่าจะไม่ได้ป้องกันอะไรด้วย
"แม่ครับ"
ธรัฐเปิดประตูเข้ามาหน้าตาตื่นคิดไว้ว่ายังไงแม่ของเขาก็ต้องกล่อมแพรวพิลาสสำเร็จแน่นอน
"แกมาพอดีตารัฐคุยกับน้องให้รู้เรื่องเดี๋ยวเย็นนี้แม่จะพาเราไปหาน้าพิศ"
"ครับ"
หทัยรัตน์พูดจบก็ให้ทั้งสองได้คุยกันตามลำพังเพราะธุระของเธอเสร็จแล้วถึงแม้แพรวพิลาสจะไม่ให้คำตอบยังไงเย็นนี้เธอก็ต้องบอกเรื่องนี้กับพิศมัยและเมื่อเรื่องถึงผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายเด็กสองคนก็ได้แต่งงานกันอยู่ดี
"......"
เมื่อหทัยรัตน์ออกไแแพรวพิลาสก็เอาแต่มองชายหนุ่มตาขวางอย่างไม่ลดละเพราะเธอเชื่อว่าทั้งหมดต้องเป็นแผนของคนเจ้าเล่ห์อย่างธรัฐแน่นอน
"ทำไมมองผมแบบนั้นล่ะ"
ธรัฐเลิกคิ้วเล็กน้อยรู้สึกว่าหน้าหวานๆของหญิงสาวเวลาดุจริงจังก็น่ากลัวอยู่เหมืิอนกัน
"คุณพูดอะไรกับคุณพ่อคุณแม่คุณคะคุณรัฐ"
"ผมไม่ได้พูดอะไรเลย...เรื่องทั้งหมดก็เป็นเพราะคุณพ่อรู้จากคำพูดคุณเมื่อเช้านี้แหละ"
"......."
แพรวพิลาสหมดคำจะเอ่ยเพราะอย่างไรเขาก็ไม่ยอมรับว่าเป็นแผนของเขาอยู่ดีเธอจึงขอเดินหนีไปจากตรงนี้เสียดีกว่า
"อ้าว..จะไปไหนล่ะ"
ธรัฐรีบดึงแขนหญิงสาวเอาไว้
"อยากทำอะไรก็เชิญ...ถึงเราจะต้องแต่งงานกันอย่าคิดว่าแพรวจะมองคุณในแง่ดี"
"......."
เมื่อเห็นหญิงสาวพยศเขาจึงรวบตัวเธอมากอดเอาไว้เสียเลย
"ปล่อย.."
"ไม่ปล่อย..อื้มม.."
ธรัฐไม่เพียงไม่ปล่อยแต่เขายังบดจูบคนปากดีตรงหน้าอย่างดูดดื่มอีกด้วยเมื่อพอใจแล้วจึงปล่อยหญิงสาวให้พ้นพันธนาการไปได้ทั้งยังพ่นคำพูดตามหลังหญิงสาวอย่างไม่ยอมแพ้อีกด้วย
"ผมจะคอยดูว่าถ้าคุณอยู่ใกล้ชิดผมทุกวันจะไม่ใจอ่อนให้มันรู้ไป"
เชียงใหม่
ปั้งๆๆๆๆๆ
"คุณรัญเอาไงดีเหมือนเราจะเสียเปรียบมันนะครับ"
"จะปล่อยให้มันรอดไปไม่ได้"
หิรัญและจักรภพช่วยตำรวจต่อสู้กับพวกเสี่ยเกลี้ยงพักใหญ่ยาวนานหลายชั่วโมงแต่ดูท่าจะจัดการได้แต่พวกลูกน้องของพวกมันเท่านั้น
ปั้งๆ
"หยุด...ยังไงแกก็หนีไม่รอดมอบตัวซะก่อนที่ตำรวจจะวิสามัญแก"
หิรัญเห็นว่าเสี่ยเคี้ยงกำลังแบกลูกชายตัวเองหนีไปทางด้านหลังเขาจึงรีบดักเอาไว้ก่อน
ปั้งง
"อ้าสส.."
หิรัญมัวแต่สนใจสองพ่อลูกโดยไม่ทันดูอีกฝั่งจึงถูกอาคมยิงมาจากด้านหลังเข้าช่วงเอวเต็มๆจนล้มลงไป
"คุณรัญ"
ปั้งๆๆๆๆ
"ไอ้คม.. "
จักรภพรีบยิงอาคมกระสุนเข้ากลางลำตัวหลายนัดจนอาคมล้มลงไปในที่สุดเสี่ยเคี้ยงนั้นร้องเสียงหลงเมื่อเห็นลูกน้องคนสนิทถูกยิงต่อหน้าต่อตา
"หยุด.."
"จ่ารวบตัวพวกมันไว้"
ไม่นานสารวัตรภูดิษฐ์ก็ตามเข้ามาจับเสี่ยเคี้ยงกับลูกชายได้ทันและถือว่าภารกิจวันนี้สำเร็จลุล่วงหลังจากที่ต่อสู้กันมาแทบทั้งวัน
"คุณรัญโอเครึเปล่า"
จักรภพเห็นสีหน้าที่ซีดเผือดของหิรัญเขาเองก็ใจไม่ดีเท่าไรนัก
"โอเคผมไหว"
หิรัญแม้จะเจ็บปางตายขนาดไหนเขาก็จะไม่ยอมตายในป่านี้แน่นอน
กรุงเทพมหานคร
เพล้งงง
"พราว.."
ในขณะที่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายกำลังคุยกันในเรื่องของงานแต่งของธรัฐกับแพรวพิลาสอยู่พราวพิไลก็เกิดเป็นลมล้มพับจนมือไปปัดแก้วน้ำล่วงแตกเสียดื้อๆอย่างนั้น
"คุณแม่คะแพรวขอตัวพาพราวไปพักก่อนนะคะ"
"ไปเถอะจะหนูแพรว...ตารัฐไปช่วยพยุงน้องไปที่ก้องหน่อย"
"ครับคุณแม่"
ธรัฐรีบอุ้มพราวพิไลตามแพรวพิลาสไปอย่างรวดเร็ว
"เมื่อเช้ายังดีๆอยู่เลยนะยัยพราว"
พิศมัยชะเง้อเป็นห่วงลูกสาวคนเล็กด้วยสีหน้าเป็นกังวลเพราะเห็นว่สเมื่อเช้าก็ยังดีๆอยู่เลย
"หนูพราวคงจะเครียดน่ะเดี๋ยวเราคุยเรื่องของเราต่อแล้วกันนะ"
หทัยรัตน์คิดว่าพราวพิไลคงจะเครียดเรื่องหิรัญตอนนี้เธอก็ขอภาวนาให้หิรัญได้บอกความจริงพราวพิไลเสียที
"ค่ะคุณพี่..เรื่องค่าสินสอดน้องไม่เรียกนะคะ"
พิศมัยไม่อยากเรียกร้องอะไรเพราะการที่หทัยรัตน์ช่วยเหลือเธอหลายอย่างทั้งส่งลูดของเธอทั้งสองเรียนสูงๆก็มากพอแล้ว
"ได้ยังไงแม่พิศ"
หทัยรัตน์ส่ายหัวเล็กน้อย
"นั่นสิ..ตารัฐเป็นถึงรองประธานธนาคารใหญ่สู่ขอผู้หญิงทั้งทีไม่มีสินสอดไม่ได้หรอกอีกอย่างก็เป็นการให้เกียรติหนูแพรวด้วย"
อนุชิตไม่เห็นด้วยกับพิศมัยเพราะเรื่องสินสอดเขาก็ไม่ได้เกี่ยงอยู่แล้วยังไงมันก็ต้องมี
"ถ้าอย่างนั้นก็แล้วแต่คุณพี่ทั้งสองจะจัดการเลยนะคะฉันไม่เรียกร้องอะไร"
"เดี๋ยวทางเราจะจัดให้สมเกียรติก็แล้วกัน...ส่วนเรื่องหนูพราวช่วงนี้ต้องทำใจหน่อยนะตารัญขอร้องเอาไว้"
"ฉันเข้าใจค่ะ...เอาไว้คุณรัญพร้อมเมื่อไรทั้งคู่คงได้ปรับความเข้าใจกันเอง"
"นี่ถ้าไม่เกิดเรื่องเสียก่อนทั้งคู่คงได้แต่งพร้อมกันเลยนะ"
หทัยรัตน์เห็นว่าหากลูกชายคนโตเธอไม่ต้องมาเสี่ยงกับพวกคนชั่วพวกนั้นป่านนี้คงจะได้ฤกษ์แต่งทั้งสองคู่แล้วเป็นแน่
ลานจอดรถ"ว้ายย.."แพรวพิลาสกำลังจะเดินมาที่รถของเธอหลังจากที่ซื้อของใช้ส่วนตัวเสร็จแต่ก็ถูกชายร่างใหญ่สองคนมารั้งตัวเธอแนบกับรถเอาไว้จนเธอร้องเสียงหลง"ว่าที่เจ้าสาวงั้นเหรอถ้าแกหน้าเละไปแล้วดูซิรัฐยังจะรักแกอยู่ไหม"เกวลินที่เก็บความแค้นและรอวันนี้วันที่เธอจะทำให้แพรวพิลาสเสียโฉมเพื่อที่ธรัฐจะได้ทิ้งหญิงสาวเหมือนกับที่เขาไม่แยแสเธอบ้าง"จะทำอะไร""ฉันจะเอาน้ำกรดสาดหน้าแกไง""ทางนี้ค่ะคุณตำรวจคุณนางแบบคนนี้กำลังจะทำร้ายคนอื่นค่ะ"คีรินธิดาสาวน้อยวัย20ส่งเสียงตะโกนเสียงหลงเมื่อเห็นว่าแพรวพิลาสกำลังจะถูกทำร้าย"เจ้ตำรวจมาผมไปก่อนนะ"ชายสองคนได้ยินวาสมีตำรวจมาเขาจึงรีบปล่อยหญิงสาวและวิ่งหนีไป"อ้าวเดี๋ยวสิ"พลั้ก.. "โอ้ยย.."จังหวะนั้นแพรวพิลาสถือโอกาวผลักเกวลินจนล้มและเธอก็รีบหนีไปพร้อมกับสาวน้อยอีกคนที่ยืนรอช่วยเธออยู่"พี่คะทางนี้ค่ะ"ครู่ต่อมา"ขอบคุณมากเลยนะคะที่ช่วยพี่"แพรวพิลาสนั่งอยู่ในร้านอาหารที่คนค่อนข้างพลุกพล่านจะได้ไม่มีใครบุ่มบ่ามมาทำร้ายเธออีกทั้งขอบคุณสาวน้อยหน้ารักตรงหน้าที่ช่วยเธอเอาไว้"ไม่เป็นไรค่ะพี่แพรวรออยู่ตรงนี้นะคะเดี๋ยวพี่รัฐก็มาถึงแล้วค่ะ""รู้จักชื่อพี่ด
"อย่าพูดถึงคนอื่นได้ไหมพราว.."หิรัญไม่อยากให้พราวพิไลมาประชดประชันอะไรเขาตอนนี้"พราวขอตัวนะคะ..พราวรีบ""จะไปไหนพราว""พราวจะไปอิตาลีค่ะจะไปหางานทำที่นั่นกับเพื่อนขอตัวนะคะเดี๋ยวตกเครื่อง"พราวพิไลเดินจ้ำอ้าวออกไปหน้าบ้านอย่างรวดเร็ว"พราว..พราว..เดี๋ยวสิพราว..โอ้ย.."หากหิรัญยังดีๆเขาคงตามเธอทันแค่นี่เมื่อเดินเร็วเขาก็ยิ่งเจ็บแผล"แท็กซี่..."พราวพิไลเรียกแท็กซี่ได้ก็รีบขึ้นหนีคนที่กำลังตามเธอมาทันที"พราว..อึก...อืม...หิรัญนั้นยังไม่ละความพยายามยังไงเธอก็จะตามพราวพิไลกลับมาให้ได้"เอ่อ..มีคนวิ่งตามครับ"แท็กซี่ชะลอรถเล็กน้อยเมื่อเห็นคนวิ่งตาม"ไปเลยค่ะไม่ต้องสนใจ"พราวพิไลไม่ได้สนใจที่จะหันไปมองแม้แต่น้อย"พราว...อย่าพึ่งไป...โอ้ยย..."หิรัญเลือดออกจนเปรอะเสื้อแต่ดขากะยังไม่ละความพยายามที่จะตาม"พ..พี่รัญ..จอดก่อนค่ะ"พราวพิไลตัดสินใจหันกลับมาดูวินาทีนั้นเธอเห็นชายหนุ่มล้มไปต่อหน้าต่อตาหัวใจของเธอก็อ่อนยวบลงรีบให้แท็กซี่จอดและเธอก็รีบวิ่งลงจากรถมาดูชายหนุ่มในทันที"พราว..""พี่รัญ..ล..เลือด..ทำไมเลือดออกคะ...พี่รัญเป็นแผลนี่"พราวพิไลหน้าซีดเผือดเมื่อเห็นว่าที่เอวหิรัญมีเลือดออกมา
ไร่ศังกร20.00 น."พี่รัญคะเดี๋ยวเค้กขอไปหาพี่โจเลยนะคะ"คีรินธิดาขอติดรถมากับหิรัญและพราวพิไลเพื่อที่จะมาหาจักรภพเมื่อมาถึงก็เอ่ยปากอยากจะขอไปหาจักรภพในทันที"ดึกแล้วนะเค้กอยู่ที่นี่ก่อนไปบ้านผู้ชายมืดๆค่ำๆมันดูไม่ดี"หิรัญต้องห้ามหญิงสาวเอาไว้ก่อนเพราะหากพ่อหญิงสาวรู้ว่าเขาดูแลน้องไม่ได้เขาจะถูกตำหนิเอา"ฮืม...แต่เค้กคิดถึงพี่โจนี่คะ""ถ้าคุณอาคินรู้จะตำหนิพี่เอานะ""ก็ได้ค่ะ""นั่นห้องเค้กพี่ให้คนจัดการเตรียมเอาไว้แล้ว""ค่ะ"คีรินธิดาเดินเข้าห้องไปด้วยสีหน้าบูดบึ้ง"ดูท่าน้องเค้กจะคิดถึงหมอโจมากเลยนะคะ"พราวพิไลยิ้มอ่อน"อืม...แต่หมอโจน่ะสิไม่รู้ว่าจะปวดหัวเพิ่มขึ้นรึเปล่า""ทำไมล่ะคะคู่หมั้นมาหาทั้งทีต้องปวดหัวขนาดนั้นเลยเหรอคะ""ก็ตั้งแต่น้องเค้กรู้ว่าพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายให้หมั้นกันเธอก็ตามติดหมอโจแจเลยถึงต้องย้ายมาทำงานที่ไร่นี้ดีที่ว่าตอนนี้ร้องเค้กยังเรียนไม่จบถึงตามมาไม่ได้จะมาได้แค่ช่วงปิดเทอมเท่านั้น""พราวอยากเห็นซะแล้วสิคะว่าติดแจนี่มันขนาดไหน"พราวพิไลสบถขำเล็กน้อยอาทิตย์ต่อมา"ค่ะคุณแม่..อะไรนะคะเลื่อนไวขึ้น..โอเคค่ะเดี๋ยวพราวจะรีบบอกพี่รัญนะคะ""มีอะไรเหรอ"หิรัญเห็นพรา
หลายวันต่อมาหลังจากที่แต่งงานกันเรียบร้อยแล้วหิรัญกับพราวพิไลก็กลับมาอยู่ที่ไร่กันเช่นเดิมส่วนธรัฐก็ย้ายเข้าไปอยู่บ้านใหม่ที่ซื้อเอาไว้ก่อนที่จะแต่งงานได้ไม่เท่าไรเขายังไม่ได้เข้าไปทำงานเพราะอยากให้ร่างกายพร้อมมากที่สุดเสียก่อนที่เขาตัดสินใจซื้อบ้านราคาเหยียบร้อยล้านก็เพราะเตรียมพร้อมสำหรับวันหน้าที่จะมีเจ้าตัวน้อยมาวิ่งเล่นรอบๆบ้านนั่นเองและคงไม่ใช่แค่คนเดียวสิ่งที่เขาหวังไว้ในใจตอนนี้หากจะให้บ้านหลังใหญ่ไม่เหงาเขาขอมีลูกอีกสักสองสามคนกำลังดี"แพรว..""คะ..""เราไปที่ไร่กันไหม""ไปสิคะ..แพรวอยากจะขอคุณไปอยู่พอดีเลย""งั้นพรุ่งนี้เราไปกันเลยดีไหม""ค่ะ...""ใจจริงตอนคุณท้องอยู่แบบนี้ผมอยากให้คุณไปใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นเหมือนกันนะเพราะที่นั่นทั้งอากาศแล้วก็สภาพอวดล้อมดีมากๆเลย""คุณจะให้แพรวไปไหมล่ะคะ"หญิงสาวยิ้มอ่อนหันหน้าถามคนเป็นสามี"ทำใจยาก...อืม...ไม่ให้ไปดีกว่าเพราะผมคงทนคิดถึงคุณไม่ไหว"ธรัฐบุ้ยปากเล็กน้อยคิดไปคิดมาให้เธออยู่ที่นี่กับเขาจะดีกว่าหากอยู่แต่บ้านคงจะไม่มีมลพิษอะไรมากมายทั้งเครื่องกรองอากาศก็ติดเต็มบ้าน"ปากหวานจังเลยนะคะ...หวานแบบนี้กับใครบ้างคะเนี่ย"แพรวพิลาสเอ่ยป
เกริ่น และแล้วเหตุการณ์อันวุ่นวายกับชีวิตของเธอก็ได้เกิดขึ้นเมื่อเธอต้องมาเล่นละครเป็นภรรยาจำเป็นอย่างไม่เต็มใจ...พราวพิไลหญิงสาวอายุ23ปีตัวเล็กร่างบางสูงแค่155หน้าตาจิ้มลิ้มปากนิดจมูกหน่อยดวงตากลมโตขนตางอนยาวราวกับตุ๊กตาผิวขาวอมชมพูผมตรงดกดำยาวหนาถึงกลางหลังเธอเป็นหญิงสาวโลกสวยบุคลิกแอบซนเล็กน้อยเป็นลูกคุณหนูที่ใช้ชีวิตติดดินเพราะรู้ว่าที่บ้านเริ่มมีปัญหาเรื่องเงินค่อนข้างรักความเป็นส่วนตัวชอบอ่านนิยายเป็นชีวิตจิตใจหากเธอแต่งงานกับพวกหนังสือที่เก็บสะสมมาจนเต็มห้องเธอก็คงจะทำไปแล้วเพราะการอ่านหนังสือคือชีวิตของเธอจริงๆเมื่อวันนึงเหตุการณ์อันวุ่นวายกับชีวิตของเธอก็ได้เกิดขึ้นเมื่อเธอต้องมาเล่นละครเป็นภรรยาจำเป็นอย่างไม่เต็มใจในไร่ที่มีชายหนุ่มเจ้าของไร่อกหักและขับรถเกิดอุบัติเหตุจนความจำเสื่อมและเธอก็ต้องมานั่งคอยตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องราวของเธอและเขาไม่เว้นแต่ละวันทั้งยังมีบางครั้งเธอยังต้องพึ่งยานอนหลับแอบใส่ให้ชายหนุ่มกินเพื่อที่จะไม่ต้องมายุ่มย่ามกับเธอในยามค่ำคืนอีกด้วยหิรัญ ชายหนุ่มวัย30ปีสูง185รูปร่างหล่อเหลาหน้าคมจมูกโด่งปากหนาเป็นกระจับเรือนร่างบึกบึนราวกับภาพวาด
ซ่าาาาา"...ทางที่คุณเลือกฉันไม่สามารถทนกับมันได้จริงๆขอโทษนะคะรัญ.."คำพูดของแฟนเก่าของเขาที่พึ่งเลิกรากันไปมันก้องอยู่ในหัวของชายหนุ่มที่กำลังขับรถด้วยความเร็วในขณะที่กำลังเมาสายฝนพรำลงมาพอเห็นผ่านแสงไฟหน้ารถไรๆถนนในเมืองใหญ่ตอนดึกดื่นเที่ยงคืนนี้มันไม่ได้มากมายอะไรจึงทำให้คนที่กำลังเมาเหยียบคันเร่งได้อย่างไม่ต้องผ่อน"หึ่...ผมก็พึ่งจะรู้นะว่าทั้งหมดที่คุณทำดีกับผมก็เพื่อหวังที่จะสบายเท่านั้น"ชายหนุ่มสบถออกมาอย่างเจ็บใจที่พึ่งจะรู้ตัวเมื่อไม่นานว่าแฟนสาวที่เขาวาดวิมานว่าจะใช้ชีวิตร่วมกันเธอรักเพียงแค่เงินทองของเขาทั้งนั้นในเมื่อเขาเลือกที่จะทิ้งความสุขสบายมาอยู่ที่ไร่เธอจึงให้เหตุผลว่าเธอไม่อยากลำบากที่ทนคบเขาเพราะคิดว่าเขาจะได้นั่งตำแหน่งนายธนาคารใหญ่เท่านั้นปรี๊นนนเอี๊ยดดดดปั้งงงงงไม่นานรถของเขาก็เสียหลักชนกับไหล่ทางจนรถกระเด็นกระดอนแหลกเป็นเสี่ยงๆดีที่ช่วงเวลานี้รถที่สัญจรไปมาไม่เยอะนักรถคันอื่นจึงหักหลบกันได้2 เดือนต่อมาบ้านวัฒนคีริน"ฉันกลับก่อนนะแม่พิศยังไงก็ลองทาบทามลูกๆเราให้ฉันหน่อยแล้วกันถือว่าช่วยฉันเอาบุญเถอะนะ"หทัยรัตน์ภรรยานายธนาคารใหญ่วัยกลางคนที่มาขอร้องเพื่
"คุณ!!"แพรวพิลาสหันมาหาหญิงสาวที่สาดน้ำใส่เธอก็จำได้ทันทีว่าเธอคือนาถลดาภรรยาของอติรุจที่บุกไปถึงสิงคโปร์เพื่ออาละวาดเธอวันนั้นเสียงด่าทอของนาถลดาทำเอาแพรวพิลาสตัวสั่นเล็กน้อยเธอไม่ได้ผิดตามที่หญิงสาวกล่าวหาก็จริงแต่เธออายคนในนี้อย่างมากจนแทบจะร้องให้"เอาผัวฉันไปกกไว้ไหนบอกมาเดี๋ยวนี้นะ"นาถลดารีบเข้ามาบีบไหล่แพรวพิลาสอย่างโมโหเพราะตอนนี้สามีของเธอหายไปตั้งแต่เธอไปอาละวาดวันนั้น"ฉันไม่ได้ติดต่อกับสามีคุณแล้วนะคะแล้วฉันก็ไม่รู้ว่าเค้าอยู่ไหนด้วย"แพรวพิลาสตอบด้วยน้ำตา"โกหก...อีหน้าด้านเอาผัวฉันคืนมานะ.."เมื่อได้ยินคำตอบดังนั้นนาถลดาจึงโมโหและโวยวายดังกว่าเดิมจนพราวพิไลใช้แรงทั้งหมดกระชากนาถลดาลงไปกองกับพื้น"นี่หยุดเดี๋ยวนี้นะไปตามหาผัวเธอที่อื่นที่นี่ไม่มีผัวเธอแล้วก็กรุณาคุมผัวตัวเองให้อยู่อย่าให้มายุ่งกับพี่สาวฉัน"พราวพิไลตะคอกใส่นาถลดาอย่างโมโห"หื้มม.."นาถลดาลุกจากพื้นเงื้อมมือหมายจะฟาดไปที่หน้าของพราวพิไลแต่ก็ต้องหยุดชะงักเพราะพราวพิไลตั้งท่าสู้อย่างไม่มีท่าทีจะยอม"เข้ามาสิ..ต่อยปากแตกแน่ไปค่ะพี่แพรว"เมื่อเห็นอีกฝ่ายเริ่มไม่กล้าพราวพิไลจึงรีบพาพี่สาวของเธอออกไปจากที่นี่ท
"ใช่จะก็หนูพราวลูกของน้าพิศไง"หทัยรัตน์บอกลูกชายของเธอด้วยสีหน้าเรียบเฉย"ผมจำได้ว่าผมไม่เคยเจอเธอนะครับแล้วเธอมาเป็นภรรยาของผมตอนไหน"หิรัญยังคงตั้งคำถามกับคนเป็นแม่ด้วยท่าทีตนกเล็กน้อย"ก็ก่อนเราเกิดอุบัติเหตุได้ไม่นานหรอกจะ""คุณแม่อำผมเล่นหรือเปล่าครับถ้าเธอเป็นภรรยาผมจริงตอนที่ผมพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลเธอทำไมไม่มาดูแลผมบ้างเลยล่ะครับ""เอ่อ...ก็...จริงๆแล้วน้องก็ไม่ใช่ไม่ห่วงเรานะตารัญแต่น้องรักเรามากจนทนเห็นเราป่วยอยู่ในโรงพยาบาลไม่ได้น่ะช่วงที่เรายังไม่ฟื้นน้องก็มานะแต่เห็นเราทีไรก็เป็นลมไปทุกทีเลยแม่ก็เลยไม่ให้เธอมาจะดีกว่าแล้วพอเราหายดีค่อยมาเจอกันทีเดียว"หทัยรัตน์ตอบลูกชายของเธออย่างรื่นไหลหากลูกชายเธอไม่เชื่อเธอแล้วจะเชื่อใคร"งั้นเหรอครับ"หิรัญขมวดคิ้วเป็นปมแน่นอยู่ครู่หนึ่งจึงหันมามองหน้าแม่ของเขาอย่างสงสัยแต่ก็ไม่ได้คิดจะถามคำถามอะไรอีกต่อไปขอรอดูหน้าคนที่แม่เขาบอกว่ามาเป็นภรรยาของเขาก่อนก็แล้วกันวันต่อมา"แม่พวงที่เค้าว่ากันว่าภรรยาคุณรัญกำลังจะมานี่จริงเหรอะวะ"บัวตองเป็นแม่ครัวอยู่ในเรือนศังกรถามพวงที่เป็นแม่ครัวที่เดียวกับเธอด้วยความสงสัยเพราะไม่เคยได้ยินว่าเจ้าน