ลานจอดรถ
"ว้ายย.."
แพรวพิลาสกำลังจะเดินมาที่รถของเธอหลังจากที่ซื้อของใช้ส่วนตัวเสร็จแต่ก็ถูกชายร่างใหญ่สองคนมารั้งตัวเธอแนบกับรถเอาไว้จนเธอร้องเสียงหลง
"ว่าที่เจ้าสาวงั้นเหรอถ้าแกหน้าเละไปแล้วดูซิรัฐยังจะรักแกอยู่ไหม"
เกวลินที่เก็บความแค้นและรอวันนี้วันที่เธอจะทำให้แพรวพิลาสเสียโฉมเพื่อที่ธรัฐจะได้ทิ้งหญิงสาวเหมือนกับที่เขาไม่แยแสเธอบ้าง
"จะทำอะไร"
"ฉันจะเอาน้ำกรดสาดหน้าแกไง"
"ทางนี้ค่ะคุณตำรวจคุณนางแบบคนนี้กำลังจะทำร้ายคนอื่นค่ะ"
คีรินธิดาสาวน้อยวัย20ส่งเสียงตะโกนเสียงหลงเมื่อเห็นว่าแพรวพิลาสกำลังจะถูกทำร้าย
"เจ้ตำรวจมาผมไปก่อนนะ"
ชายสองคนได้ยินวาสมีตำรวจมาเขาจึงรีบปล่อยหญิงสาวและวิ่งหนีไป
"อ้าวเดี๋ยวสิ"
พลั้ก..
"โอ้ยย.."
จังหวะนั้นแพรวพิลาสถือโอกาวผลักเกวลินจนล้มและเธอก็รีบหนีไปพร้อมกับสาวน้อยอีกคนที่ยืนรอช่วยเธออยู่
"พี่คะทางนี้ค่ะ"
ครู่ต่อมา
"ขอบคุณมากเลยนะคะที่ช่วยพี่"
แพรวพิลาสนั่งอยู่ในร้านอาหารที่คนค่อนข้างพลุกพล่านจะได้ไม่มีใครบุ่มบ่ามมาทำร้ายเธออีกทั้งขอบคุณสาวน้อยหน้ารักตรงหน้าที่ช่วยเธอเอาไว้
"ไม่เป็นไรค่ะพี่แพรวรออยู่ตรงนี้นะคะเดี๋ยวพี่รัฐก็มาถึงแล้วค่ะ"
"รู้จักชื่อพี่ด้วยเหรอคะ"
"รู้ค่ะเค้กเป็นญาติกับพี่รัฐเห็นพี่ในข่าวว่ากำลังจะแต่งงานกันเค้กเดินผ่านมาว่าจะทักพี่แพรวแต่พี่แพรวเดินออกมาจากร้านซะก่อนเค้กก็เลยเดินตามมาค่ะแล้วก็เห็นผู้หญิงคนนั้นกำลังจะทำร้ายพี่แพรวเค้กก็เลยตะโกนหลอกพวกนั้นไปก่อนว่ามีตำรวจมา"
"ขอบคุณมากเลยนะคะน้องเค้ก...ยังไงเดี๋ยวพี่กลับก่อนนะคะ"
"ไม่ได้ค่ะพี่รัฐบอกว่าให้เค้กเฝ้าพี่แพรวอยู่ที่นี่ก่อนที่พี่รัฐจะมาถึง"
คีรินธิดายังให้แพรวพิลาสกลับไปไม่ได้เพราะตอนที่เธอคุยกับธรัฐชายหนุ่มบอกว่าให้เธอและแพรวพิลาสอยู่ที่นี่ก่อน
"แต่ว่า..."
"นั่นไงพี่รัฐมาแล้ว"
"ไงเค้กพี่ขอบใจเรามากเลยนะ"
"ไม่เป็นไรค่ะงั้นเค้กไปก่อนนะคะ"
"อืม...กลับดีๆล่ะ"
"ค่ะ.."
"เป็นอะไรมากไหมคุณ"
หลังจากที่คีรินธิดากลับไปแล้วธรัฐก็หันมาถามหญิงสาวด้วยความเป็นห่วง
"ถ้าไม่ใช่เพราะคุณแพรวคงไม่เจอเรื่องแบบนี้หรอกค่ะ"
แพรวพิลาสพูดด้วยสีหน้าอ่อนใจ
"เรื่องเกวผมจะจัดการเธอเองแล้วจะไม่มีใครมาทำร้ายคุณได้อีก"
"ให้จริงอย่างที่พูดเถอะค่ะ"
แพรวพิลาสไม่ค่อยจะเชื่อคำพูดของธรัฐเท่าไรและไม่คิดว่าธรัฐจะคุมเกวลินได้ด้วย
สามวันต่อมา
"อร้ายยยยย.."
"เป็นบ้าอะไรของแกห้ะ.."
แคตตี้เพื่อนสาวของเกวลินที่เป็นนางแบบด้วยกันถึงกับตวาดเสียงหลงที่จู่ๆเกวลินก็กรี้ดออกม่อย่างม่มีเหตุผลหลังจากที่คุยโทรศัพท์เสร็จ
"งานพรีเซนเตอร์ของฉันถูกถอด"
เกวลินพูดด้วยสีหน้าโมโห
"หึ่..ฉันบอกแกแล้วไงว่าอย่าหือกับคุณรัฐ"
แคตตี้ส่ายหัวเบาๆเธอรู้ว่าเป็นฝีมือใครและก็รู้ด้วยว่าหากเพื่อนเธอไม่ทำตัวชั่วกับคนอื่นก่อนคงไม่เจอแบบนี้
"ทำไมๆๆๆๆ...อร้ายย..."
"โอ้ยย...กรี้ดๆๆๆ..กรี๊ดให้ตายไปเลยแทนที่จะหาทางแก้ปัญหากลับมานั่งย้าอยู่แบบนี้แกนี่มันโง่จริงๆ"
แคตตี้พูดจบก็ยกจานข้าวเข้าห้องของเธอไปเพราะรำคาญคนที่ทำอะไรไม่รู้จักคิดแล้วมาโวยวายทีหลัง
3วันต่อมา
บ้านพิศมัย
"ทำไมลูกฉันถึงอาเจียนบ่อยแบบนี้คะ"
พิศมัยเงยหน้าถามหมอหนุ่มที่เธอเรียกมาดูอาการพราวพิไลที่บ้าน
"คนไข้เครียดลงกระเพาะน่ะครับอีกอย่างเหมือนเธอพักผ่อนไม่เพียงพอด้วยเดี๋ยวหมอจะจัดยาคลายเครียดให้ไปนะครับยังไงควรจะให้คนไข้ทานข้าวทานยาให้ตรงเวลาพยายามอย่าให้เธอเครียดนะครับ"
"ค่ะคุณหมอ"
พิศมัยมองหน้าลูกสาวคนเล็กของเธอด้วยความสงสาร
เชียงใหม่
โรงพยาบาลxxx
"เป็นยังไงบ้างลูก"
หทัยรัตน์นั่งเฝ้าหิรัญร่วมสามสี่คืนแล้ว
"เจ็บแผลนิดหน่อยครับคุณแม่"
"หมดเคราะห์หมดโศกซะทีนะ"
"แล้วนี่่คุณพิศว่ายังไงบ้าง"
อนุชิตเห็นว่าอาการของหิรัญดีขึ้นแล้วก็โล่งใจทั้งหันมาถามภรรยาของเชาว่าทางด้านพราวพิไลที่ว่าป่วยเป็นอย่างไรบ้าง
"หนูพราวแค่เครียดลงกระเพาะน่ะค่ะเห็นว่าหมอให้ยาแก้เครียดเอาไว้"
"พราวเป็นอะไรครับคุณแม่"
หิรัญขมวดคิ้วแน่นเมื่อรู้ว่าพรางพิไลป่วย
"น้องไม่สบายนิดหน่อยน่ะลูก"
"ผมอยากไปเยี่ยมเธอครับ"
"ตัวเองเจ็บอยู่แบบนี้จะไปยังไง"
หทัยรัตน์ต้องปรามลูกชายของเธอเอาไว้เสียก่อน
"รอให้ตัวเองหายดีก่อนเถอะตารัญ"
อนุชิตเห็นว่าหากหิรัญไปก็คงจะช่วยอะไรไม่ได้อยู่ดี
"เดี๋ยวพรุ่งนี้พ่อกับแม่ก็ต้องกลับแล้วยังไงดูแลตัวเองดีๆนะ"
"ครับคุณพ่อคุณแม่"
อาทิตย์ต่อมา
เรือนศังกร
"นมกลับมาที่นี่ตั้งแต่เมื่อไรครับ"
หิรัญกลับม่ที่ไร่ก็เห็นอุ่นเรือนอยู่ที่นี่อล้วเขาไม่ยักรู็ว่าอุ่นเรือนกลับมาตั้งแต่เมื่อไร
"หลังจากที่คุณทั้งสองกลับไปบอกว่าที่นี่ไม่มีอันตรายแล้วนมก็ขอมาอยู่ดูแลคุณหนูค่ะ..ต่อไปนี้ก็หมดเรื่องร้ายแล้วนะคะ"
"นมครับ.."
"คะคุณหนู"
"ผมอยากไปหาพราวครับ"
"แผลคุณหนูยังไม่หายจะขึ้นเครื่องได้ยังไงคะ"
"นั่งรถไปก็ได้ครับนม"
หิรัญตั้งใจเอาไว้แล้วว่าออกจากโรงพยาบาลเมื่อไรเขาก็จะไปหาพราวพิไลทันที
"ห่วงตัวเองก่อนนะคะคุณหนูเดี๋ยวนมจะโทรบอกคุณพราวเองค่ะว่าเรื่องทั้งหมดมันเป็นยังไง"
"ไม่นะครับนมตอนนี้ผมยังไม่หายดีผมไม่อยากให้เธอเป็นห่วงผม"
"แบบนี้แล้วคิดจะไปหาเธอไม่คิดว่าคุณพราวจะเห็นว่าคุณหนูเจ็บเหรอคะ"
"แผลอยู่ข้างในเธอไม่เห็นหรอกครับ"
"คุณหนูนี่ก็จริงๆเลยนะคะ"
อุ่นเรือนเห็นทีจะห้ามหิรัญไม่ได้เสียแล้วยังไงก็ภาวนาว่าให้ทั้งสองปรับความเข้าใจกันโดยเร็วก็แล้วกัน
วันต่อมา
"พราวจะไปจริงๆเหรอลูกตัวเองก็ยังไม่ค่อยจะดีเกิดเป็นลมเป็นแล้งไปใครจะดู"
พราวพิไลเก็บกระเป๋าลงมาจากชั้นบนเพื่อมาลาแม่ของเธอด้วยสีหน้าห่อเหี่ยวพิศมัยเองไม่อยากให้ลูกเธอไปตอนนี้เลยเพราะเจ้าตัวนั้นชอบวูบอยู่บ่อยๆเพราะไม่ค่อยจะยอมทานข้าวทานปลาเท่าไร
"พราวไม่เป็นอะไรหรอกค่ะคุณแม่ถ้าใกล้วันแต่งพี่แพรวแล้วพราวจะรีบกลับมานะคะ"
"พราว.."
"พี่รัญ..มาทำไมคะ"
พราวพิไลชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นชายหนุ่มยืนอยู่ตรงหน้า
"พี่ได้ข่าวว่าพราวไม่สบายเป็นอะไรมากรึเปล่า"
หิรัญลูบผมหญิงสาวเบาๆ
"ไม่ต้องมาห่วงพราวหรอกค่ะ..ห่วงบรรดาเมียๆพี่เถอะมาที่นี่เค้าไม่ตามมาด้วยเหรอคะ"
พราวพิไลอดไม่ได้ที่จะประชดประชันอีกฝ่าย
"เอ่อ...คุยกันไปก่อนนะแม่ขอตัว"
พิศมัยรู้ตัวดีว่าเธอควรจะเอาตัวเองออกจากตรงนี้เพื่อที่จะให้ทั้งสองได้คุยกันเอง
"อย่าพูดถึงคนอื่นได้ไหมพราว.."หิรัญไม่อยากให้พราวพิไลมาประชดประชันอะไรเขาตอนนี้"พราวขอตัวนะคะ..พราวรีบ""จะไปไหนพราว""พราวจะไปอิตาลีค่ะจะไปหางานทำที่นั่นกับเพื่อนขอตัวนะคะเดี๋ยวตกเครื่อง"พราวพิไลเดินจ้ำอ้าวออกไปหน้าบ้านอย่างรวดเร็ว"พราว..พราว..เดี๋ยวสิพราว..โอ้ย.."หากหิรัญยังดีๆเขาคงตามเธอทันแค่นี่เมื่อเดินเร็วเขาก็ยิ่งเจ็บแผล"แท็กซี่..."พราวพิไลเรียกแท็กซี่ได้ก็รีบขึ้นหนีคนที่กำลังตามเธอมาทันที"พราว..อึก...อืม...หิรัญนั้นยังไม่ละความพยายามยังไงเธอก็จะตามพราวพิไลกลับมาให้ได้"เอ่อ..มีคนวิ่งตามครับ"แท็กซี่ชะลอรถเล็กน้อยเมื่อเห็นคนวิ่งตาม"ไปเลยค่ะไม่ต้องสนใจ"พราวพิไลไม่ได้สนใจที่จะหันไปมองแม้แต่น้อย"พราว...อย่าพึ่งไป...โอ้ยย..."หิรัญเลือดออกจนเปรอะเสื้อแต่ดขากะยังไม่ละความพยายามที่จะตาม"พ..พี่รัญ..จอดก่อนค่ะ"พราวพิไลตัดสินใจหันกลับมาดูวินาทีนั้นเธอเห็นชายหนุ่มล้มไปต่อหน้าต่อตาหัวใจของเธอก็อ่อนยวบลงรีบให้แท็กซี่จอดและเธอก็รีบวิ่งลงจากรถมาดูชายหนุ่มในทันที"พราว..""พี่รัญ..ล..เลือด..ทำไมเลือดออกคะ...พี่รัญเป็นแผลนี่"พราวพิไลหน้าซีดเผือดเมื่อเห็นว่าที่เอวหิรัญมีเลือดออกมา
ไร่ศังกร20.00 น."พี่รัญคะเดี๋ยวเค้กขอไปหาพี่โจเลยนะคะ"คีรินธิดาขอติดรถมากับหิรัญและพราวพิไลเพื่อที่จะมาหาจักรภพเมื่อมาถึงก็เอ่ยปากอยากจะขอไปหาจักรภพในทันที"ดึกแล้วนะเค้กอยู่ที่นี่ก่อนไปบ้านผู้ชายมืดๆค่ำๆมันดูไม่ดี"หิรัญต้องห้ามหญิงสาวเอาไว้ก่อนเพราะหากพ่อหญิงสาวรู้ว่าเขาดูแลน้องไม่ได้เขาจะถูกตำหนิเอา"ฮืม...แต่เค้กคิดถึงพี่โจนี่คะ""ถ้าคุณอาคินรู้จะตำหนิพี่เอานะ""ก็ได้ค่ะ""นั่นห้องเค้กพี่ให้คนจัดการเตรียมเอาไว้แล้ว""ค่ะ"คีรินธิดาเดินเข้าห้องไปด้วยสีหน้าบูดบึ้ง"ดูท่าน้องเค้กจะคิดถึงหมอโจมากเลยนะคะ"พราวพิไลยิ้มอ่อน"อืม...แต่หมอโจน่ะสิไม่รู้ว่าจะปวดหัวเพิ่มขึ้นรึเปล่า""ทำไมล่ะคะคู่หมั้นมาหาทั้งทีต้องปวดหัวขนาดนั้นเลยเหรอคะ""ก็ตั้งแต่น้องเค้กรู้ว่าพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายให้หมั้นกันเธอก็ตามติดหมอโจแจเลยถึงต้องย้ายมาทำงานที่ไร่นี้ดีที่ว่าตอนนี้ร้องเค้กยังเรียนไม่จบถึงตามมาไม่ได้จะมาได้แค่ช่วงปิดเทอมเท่านั้น""พราวอยากเห็นซะแล้วสิคะว่าติดแจนี่มันขนาดไหน"พราวพิไลสบถขำเล็กน้อยอาทิตย์ต่อมา"ค่ะคุณแม่..อะไรนะคะเลื่อนไวขึ้น..โอเคค่ะเดี๋ยวพราวจะรีบบอกพี่รัญนะคะ""มีอะไรเหรอ"หิรัญเห็นพรา
หลายวันต่อมาหลังจากที่แต่งงานกันเรียบร้อยแล้วหิรัญกับพราวพิไลก็กลับมาอยู่ที่ไร่กันเช่นเดิมส่วนธรัฐก็ย้ายเข้าไปอยู่บ้านใหม่ที่ซื้อเอาไว้ก่อนที่จะแต่งงานได้ไม่เท่าไรเขายังไม่ได้เข้าไปทำงานเพราะอยากให้ร่างกายพร้อมมากที่สุดเสียก่อนที่เขาตัดสินใจซื้อบ้านราคาเหยียบร้อยล้านก็เพราะเตรียมพร้อมสำหรับวันหน้าที่จะมีเจ้าตัวน้อยมาวิ่งเล่นรอบๆบ้านนั่นเองและคงไม่ใช่แค่คนเดียวสิ่งที่เขาหวังไว้ในใจตอนนี้หากจะให้บ้านหลังใหญ่ไม่เหงาเขาขอมีลูกอีกสักสองสามคนกำลังดี"แพรว..""คะ..""เราไปที่ไร่กันไหม""ไปสิคะ..แพรวอยากจะขอคุณไปอยู่พอดีเลย""งั้นพรุ่งนี้เราไปกันเลยดีไหม""ค่ะ...""ใจจริงตอนคุณท้องอยู่แบบนี้ผมอยากให้คุณไปใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นเหมือนกันนะเพราะที่นั่นทั้งอากาศแล้วก็สภาพอวดล้อมดีมากๆเลย""คุณจะให้แพรวไปไหมล่ะคะ"หญิงสาวยิ้มอ่อนหันหน้าถามคนเป็นสามี"ทำใจยาก...อืม...ไม่ให้ไปดีกว่าเพราะผมคงทนคิดถึงคุณไม่ไหว"ธรัฐบุ้ยปากเล็กน้อยคิดไปคิดมาให้เธออยู่ที่นี่กับเขาจะดีกว่าหากอยู่แต่บ้านคงจะไม่มีมลพิษอะไรมากมายทั้งเครื่องกรองอากาศก็ติดเต็มบ้าน"ปากหวานจังเลยนะคะ...หวานแบบนี้กับใครบ้างคะเนี่ย"แพรวพิลาสเอ่ยป
เกริ่น และแล้วเหตุการณ์อันวุ่นวายกับชีวิตของเธอก็ได้เกิดขึ้นเมื่อเธอต้องมาเล่นละครเป็นภรรยาจำเป็นอย่างไม่เต็มใจ...พราวพิไลหญิงสาวอายุ23ปีตัวเล็กร่างบางสูงแค่155หน้าตาจิ้มลิ้มปากนิดจมูกหน่อยดวงตากลมโตขนตางอนยาวราวกับตุ๊กตาผิวขาวอมชมพูผมตรงดกดำยาวหนาถึงกลางหลังเธอเป็นหญิงสาวโลกสวยบุคลิกแอบซนเล็กน้อยเป็นลูกคุณหนูที่ใช้ชีวิตติดดินเพราะรู้ว่าที่บ้านเริ่มมีปัญหาเรื่องเงินค่อนข้างรักความเป็นส่วนตัวชอบอ่านนิยายเป็นชีวิตจิตใจหากเธอแต่งงานกับพวกหนังสือที่เก็บสะสมมาจนเต็มห้องเธอก็คงจะทำไปแล้วเพราะการอ่านหนังสือคือชีวิตของเธอจริงๆเมื่อวันนึงเหตุการณ์อันวุ่นวายกับชีวิตของเธอก็ได้เกิดขึ้นเมื่อเธอต้องมาเล่นละครเป็นภรรยาจำเป็นอย่างไม่เต็มใจในไร่ที่มีชายหนุ่มเจ้าของไร่อกหักและขับรถเกิดอุบัติเหตุจนความจำเสื่อมและเธอก็ต้องมานั่งคอยตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องราวของเธอและเขาไม่เว้นแต่ละวันทั้งยังมีบางครั้งเธอยังต้องพึ่งยานอนหลับแอบใส่ให้ชายหนุ่มกินเพื่อที่จะไม่ต้องมายุ่มย่ามกับเธอในยามค่ำคืนอีกด้วยหิรัญ ชายหนุ่มวัย30ปีสูง185รูปร่างหล่อเหลาหน้าคมจมูกโด่งปากหนาเป็นกระจับเรือนร่างบึกบึนราวกับภาพวาด
ซ่าาาาา"...ทางที่คุณเลือกฉันไม่สามารถทนกับมันได้จริงๆขอโทษนะคะรัญ.."คำพูดของแฟนเก่าของเขาที่พึ่งเลิกรากันไปมันก้องอยู่ในหัวของชายหนุ่มที่กำลังขับรถด้วยความเร็วในขณะที่กำลังเมาสายฝนพรำลงมาพอเห็นผ่านแสงไฟหน้ารถไรๆถนนในเมืองใหญ่ตอนดึกดื่นเที่ยงคืนนี้มันไม่ได้มากมายอะไรจึงทำให้คนที่กำลังเมาเหยียบคันเร่งได้อย่างไม่ต้องผ่อน"หึ่...ผมก็พึ่งจะรู้นะว่าทั้งหมดที่คุณทำดีกับผมก็เพื่อหวังที่จะสบายเท่านั้น"ชายหนุ่มสบถออกมาอย่างเจ็บใจที่พึ่งจะรู้ตัวเมื่อไม่นานว่าแฟนสาวที่เขาวาดวิมานว่าจะใช้ชีวิตร่วมกันเธอรักเพียงแค่เงินทองของเขาทั้งนั้นในเมื่อเขาเลือกที่จะทิ้งความสุขสบายมาอยู่ที่ไร่เธอจึงให้เหตุผลว่าเธอไม่อยากลำบากที่ทนคบเขาเพราะคิดว่าเขาจะได้นั่งตำแหน่งนายธนาคารใหญ่เท่านั้นปรี๊นนนเอี๊ยดดดดปั้งงงงงไม่นานรถของเขาก็เสียหลักชนกับไหล่ทางจนรถกระเด็นกระดอนแหลกเป็นเสี่ยงๆดีที่ช่วงเวลานี้รถที่สัญจรไปมาไม่เยอะนักรถคันอื่นจึงหักหลบกันได้2 เดือนต่อมาบ้านวัฒนคีริน"ฉันกลับก่อนนะแม่พิศยังไงก็ลองทาบทามลูกๆเราให้ฉันหน่อยแล้วกันถือว่าช่วยฉันเอาบุญเถอะนะ"หทัยรัตน์ภรรยานายธนาคารใหญ่วัยกลางคนที่มาขอร้องเพื่
"คุณ!!"แพรวพิลาสหันมาหาหญิงสาวที่สาดน้ำใส่เธอก็จำได้ทันทีว่าเธอคือนาถลดาภรรยาของอติรุจที่บุกไปถึงสิงคโปร์เพื่ออาละวาดเธอวันนั้นเสียงด่าทอของนาถลดาทำเอาแพรวพิลาสตัวสั่นเล็กน้อยเธอไม่ได้ผิดตามที่หญิงสาวกล่าวหาก็จริงแต่เธออายคนในนี้อย่างมากจนแทบจะร้องให้"เอาผัวฉันไปกกไว้ไหนบอกมาเดี๋ยวนี้นะ"นาถลดารีบเข้ามาบีบไหล่แพรวพิลาสอย่างโมโหเพราะตอนนี้สามีของเธอหายไปตั้งแต่เธอไปอาละวาดวันนั้น"ฉันไม่ได้ติดต่อกับสามีคุณแล้วนะคะแล้วฉันก็ไม่รู้ว่าเค้าอยู่ไหนด้วย"แพรวพิลาสตอบด้วยน้ำตา"โกหก...อีหน้าด้านเอาผัวฉันคืนมานะ.."เมื่อได้ยินคำตอบดังนั้นนาถลดาจึงโมโหและโวยวายดังกว่าเดิมจนพราวพิไลใช้แรงทั้งหมดกระชากนาถลดาลงไปกองกับพื้น"นี่หยุดเดี๋ยวนี้นะไปตามหาผัวเธอที่อื่นที่นี่ไม่มีผัวเธอแล้วก็กรุณาคุมผัวตัวเองให้อยู่อย่าให้มายุ่งกับพี่สาวฉัน"พราวพิไลตะคอกใส่นาถลดาอย่างโมโห"หื้มม.."นาถลดาลุกจากพื้นเงื้อมมือหมายจะฟาดไปที่หน้าของพราวพิไลแต่ก็ต้องหยุดชะงักเพราะพราวพิไลตั้งท่าสู้อย่างไม่มีท่าทีจะยอม"เข้ามาสิ..ต่อยปากแตกแน่ไปค่ะพี่แพรว"เมื่อเห็นอีกฝ่ายเริ่มไม่กล้าพราวพิไลจึงรีบพาพี่สาวของเธอออกไปจากที่นี่ท
"ใช่จะก็หนูพราวลูกของน้าพิศไง"หทัยรัตน์บอกลูกชายของเธอด้วยสีหน้าเรียบเฉย"ผมจำได้ว่าผมไม่เคยเจอเธอนะครับแล้วเธอมาเป็นภรรยาของผมตอนไหน"หิรัญยังคงตั้งคำถามกับคนเป็นแม่ด้วยท่าทีตนกเล็กน้อย"ก็ก่อนเราเกิดอุบัติเหตุได้ไม่นานหรอกจะ""คุณแม่อำผมเล่นหรือเปล่าครับถ้าเธอเป็นภรรยาผมจริงตอนที่ผมพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลเธอทำไมไม่มาดูแลผมบ้างเลยล่ะครับ""เอ่อ...ก็...จริงๆแล้วน้องก็ไม่ใช่ไม่ห่วงเรานะตารัญแต่น้องรักเรามากจนทนเห็นเราป่วยอยู่ในโรงพยาบาลไม่ได้น่ะช่วงที่เรายังไม่ฟื้นน้องก็มานะแต่เห็นเราทีไรก็เป็นลมไปทุกทีเลยแม่ก็เลยไม่ให้เธอมาจะดีกว่าแล้วพอเราหายดีค่อยมาเจอกันทีเดียว"หทัยรัตน์ตอบลูกชายของเธออย่างรื่นไหลหากลูกชายเธอไม่เชื่อเธอแล้วจะเชื่อใคร"งั้นเหรอครับ"หิรัญขมวดคิ้วเป็นปมแน่นอยู่ครู่หนึ่งจึงหันมามองหน้าแม่ของเขาอย่างสงสัยแต่ก็ไม่ได้คิดจะถามคำถามอะไรอีกต่อไปขอรอดูหน้าคนที่แม่เขาบอกว่ามาเป็นภรรยาของเขาก่อนก็แล้วกันวันต่อมา"แม่พวงที่เค้าว่ากันว่าภรรยาคุณรัญกำลังจะมานี่จริงเหรอะวะ"บัวตองเป็นแม่ครัวอยู่ในเรือนศังกรถามพวงที่เป็นแม่ครัวที่เดียวกับเธอด้วยความสงสัยเพราะไม่เคยได้ยินว่าเจ้าน
"โอเคนะจ๊ะ"หทัยรัตน์มองหน้าพราวพิไลอย่างเป็นกังวลเล็กๆหวังว่าหญิงสาวจะไม่เปลี่ยนใจตอนนี้หรอกนะ"ค่ะ..พร้อมค่ะ""ตามแม่มาเลยจะ"เมื่อพราวพิไลพยักหน้าหทัยรัตน์จึงโล่งอกและเดินนำหน้าหญิงสาวมาด้านใน"น้องมาแล้วนะรัญ""......"หิรัญหันหน้ามามองหญิงสาวร่างเล็กผมยาวสวยหน้าจิ้มลิ้มสะกดสายตาเขามองเธอด้วยอาการแน่นิ่งจนคนรอบข้างดูไม่ออกว่าเขานั้นคิดอะไรอยู่"พี่รัญ...พราวคิดถึงพี่มากๆเลยค่ะ...พราวดีใจมากเลยนะคะที่พี่รัญดีขึ้นมากๆแล้ว""เอ่อ.."พราวพิไลมองชายหนุ่มที่หล่อเหลานึกว่าหลุดออกมาจากปกนิตยสารทั้งรีบฉีกยิ้มกว้างรวบรวมความกล้ารีบวิ่งโล่เข้ามาโผกอดคนที่นั่งอยู่ที่โซฟาแน่นทั้งยังซุกอกแกร่งจนคนตัวโตที่ตั้งตัวไม่ถูกนั่งตัวแข็งทื่อ"ท่าคุณพราวจะคิดถึงคุณหนูมากเลยนะคะ"อุ่นเรือนยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่"ค่ะ..นม.."พราวพิไลพยักหน้าให้อุ่นเรือนพรางขยิบตารู้กัน"อืม...แม่ครับผมอยากจะเข้าห้องพักผ่อนแล้ว"หิรัญหันไปบอกคนเป็นแม่ทั้งยังรีบยกมือประคองโอบร่างเล็กที่เอาแต่กอดเขาอยู่ไว้เบาๆ"อ๋อ..จะ..งั้นเดี๋ยวแม่พาไปนะ""ก็ภรรยาผมมาแล้วนี่ครับให้เธอดูแลผมก็ได้อีกอย่างผมเองก็อยากคุยกับเธออยู่หลายเรื่องเลย"หิร