Share

ตอนที่5 แต่งงานกันตอนไหน

"โอเคนะจ๊ะ"

หทัยรัตน์มองหน้าพราวพิไลอย่างเป็นกังวลเล็กๆหวังว่าหญิงสาวจะไม่เปลี่ยนใจตอนนี้หรอกนะ

"ค่ะ..พร้อมค่ะ"

"ตามแม่มาเลยจะ"

เมื่อพราวพิไลพยักหน้าหทัยรัตน์จึงโล่งอกและเดินนำหน้าหญิงสาวมาด้านใน

"น้องมาแล้วนะรัญ"

"......"

หิรัญหันหน้ามามองหญิงสาวร่างเล็กผมยาวสวยหน้าจิ้มลิ้มสะกดสายตาเขามองเธอด้วยอาการแน่นิ่งจนคนรอบข้างดูไม่ออกว่าเขานั้นคิดอะไรอยู่

"พี่รัญ...พราวคิดถึงพี่มากๆเลยค่ะ...พราวดีใจมากเลยนะคะที่พี่รัญดีขึ้นมากๆแล้ว"

"เอ่อ.."

พราวพิไลมองชายหนุ่มที่หล่อเหลานึกว่าหลุดออกมาจากปกนิตยสารทั้งรีบฉีกยิ้มกว้างรวบรวมความกล้ารีบวิ่งโล่เข้ามาโผกอดคนที่นั่งอยู่ที่โซฟาแน่นทั้งยังซุกอกแกร่งจนคนตัวโตที่ตั้งตัวไม่ถูกนั่งตัวแข็งทื่อ

"ท่าคุณพราวจะคิดถึงคุณหนูมากเลยนะคะ"

อุ่นเรือนยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่

"ค่ะ..นม.."

พราวพิไลพยักหน้าให้อุ่นเรือนพรางขยิบตารู้กัน

"อืม...แม่ครับผมอยากจะเข้าห้องพักผ่อนแล้ว"

หิรัญหันไปบอกคนเป็นแม่ทั้งยังรีบยกมือประคองโอบร่างเล็กที่เอาแต่กอดเขาอยู่ไว้เบาๆ

"อ๋อ..จะ..งั้นเดี๋ยวแม่พาไปนะ"

"ก็ภรรยาผมมาแล้วนี่ครับให้เธอดูแลผมก็ได้อีกอย่างผมเองก็อยากคุยกับเธออยู่หลายเรื่องเลย"

หิรัญปฏิเสธด้วยรอยยิ้มเล็กๆทำเอาพราวพิไลหน้าเจื่อนอย่างเห็นได้ชัดเมื่อรู้ว่าต่อจากนี้จะต้องอยู่ในห้องกับชายหนุ่มที่พึ่งเจอกันสองต่อสอง

"0*0"

คำพูดของหิรัญทำเอาพราวพิไลอ้าปากค้างเล็กน้อย

"งั้น...ก็...เชิญตามสบายนะ"

หทัยรัตน์ยิ้มแห้งๆพรางมองไปที่พราวพิไลและหวังว่สเธอจะรับมือได้เป็นอย่างดี

"ไป...เข้าห้องกัน"

หิรัญเดินจูงร่างเล็กไปหน้าตาเฉยตรงไปยังห้องนอนของเขา

"ค..ค่ะ.."

หญิงสาวแอบมีสีหน้ากังวลหันกลับมามองหทัยรัตน์เล็กน้อยอีกฝ่ายก็ได้แต่ยกมือบอกให้สู้ๆเท่านั้นเพราะตอนนี้เธอยุ่งอะไรไม่ได้แล้วเหมือนกัน

แกร๊กกก

"...พราวว่าเรื่องคุยกันเอาไว้ก่อนดีกว่าค่ะ...ถ้าพี่รัญอยากพักผ่อนก็พักไปก่อนเลยค่ะ.."

หิรัญเดินจูงพราวพิไลมานั่งอยู่ที่เตียงนุ่มสีขาวของเขาบริเวณในห้องค่อนข้างจะกว้างพอสมควรแต่หญิงสาวในตอนนี้ดันรู้สึกอึดอัดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดทั้งยังนั่งตัวรีบเกร็งจนชายหนุ่มต้องอุ้มคนตัวเล็กมานั่งพิงที่หัวเตียงข้างๆเขา

"อืม...งั้นพราวมานอนข้างๆพี่สิมาเหนื่อยๆนอนพักสักแปปตื่นมาก็น่าจะเย็นพอดี.."

"เอ่อ...พราว..ม..ไม่ค่อยง่วงเท่าไรค่ะ"

"อย่าลุกไปไหนเลยถ้าพราวไม่ง่วงเรานอนคุยกันก็ได้"

"อืม..ฮืมม.."

พราวพิไลรีบถดตัวลงจากเตียงแต่ถูกมือหนารั้งเอาไว้ให้เธอนอนลงหญิงสาวจึงทำได้แต่ยิ้มแหยๆเท่านั้นเธอรู้สึกใจเต้นไม่ค่อยเป็นส่ำเท่าไรที่ดูเหมือนเธอจะประมาทคิดว่าน่าจะไม่มีอะไรเกินไปซะแล้วสิ

"พี่รู้จากคุณแม่มาว่าเราแต่งงานกันก่อนที่พี่จะเกิดอุบัติเหตุช่วยบอกพี่หน่อยสิว่าเราเจอกันรักกันได้ยังไงเพราะที่พี่จำได้ว่าพี่กับพราวเรายังไม่เคยเจอกัน"

หิรัญนอนตะแคงใช้แขนชันหัวมาทางหญิงสาวทั้งถามคำถามที่อยากได้ยินคำตอบจากปากของคนหน้าจิ้มลิ้มที่ยิ้มหน้าเจื่อนอยู่ตรงหน้าของเขา

"อืม...ก็เราเจอกันตอน..ที่..งานเลี้ยงงานนึงน่ะค่ะ"

"งั้นเหรอ...แล้วเราตกลงคบกันตอนไหน"

หิรัญเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจเขาไม่ค่อยออกงานสังคมเท่าไรแต่เธอกลับตอบว่าเจอเขาตามงานเลี้ยงเสียอย่างนั้น

"คือพราวเป็นคนจีบพี่รัญก่อนเองค่ะหลังจากนั้นเราก็คุยกันมาเรื่อยๆแล้วก็ตกลงแต่งงานกัน"

"เรื่องราวมีแค่นี้เองเหรอ.."

"ค่ะ..อืมพราวรู้สึกง่วงแล้วขอนอนก่อนนะคะ"

พราวพิไลชิงแกล้งง่วงไปก่อนเพราะตอนนี้เธอไม่รู้ว่าเขาจะถามคำถามลงลึกอะไรอีก

"อืม..ก็ได้"

การแกล้งหลับของหญิงสาวเป็นไปได้ไม่นานเธอก็ผลอยหลับไปจริงเพราะว่าบรรยากาศตอนที่ฝนตกมาจนเย็นชุ่มฉ่ำมันทำให้เธอเคลิ้มหลับไปอย่างง่ายดาย

สำนักงานธนาคาร

"ลุงขอบใจมากนะที่มาช่วยงานลุง"

พิศมัยและแพรวพิลาสนั่งคุยกันอยู่ในห้องผู้บริหารระดับสูงของธนาคารนั่นก็คืออนุชิตสามีของหทัยรัตน์นั่นเองอนุชิตยินดีที่จะได้คนเก่งๆอย่สงแพรวพิลาสมาทำงานด้วยเพราะเขารู้ว่าเธอเก่งเรื่องบัญชีจากปากของหทัยรัตน์อยู่บ่อยครั้งจากนี้​ลูกชายคนเล็กของเขาจะได้มีคนมาช่วยงานเสียที

"แพรวเธอเต็มใจค่ะ"

"เก่งๆอย่างนี้ลุงจะให้หนูแพรวมาเป็นผู้ช่วยตารัฐแล้วกัน"

"ผู้ช่วยคุณรัฐเหรอคะ"

แพรวพิลาสเคยรู้จักธรัฐจากในข่าวแต่เธอเองก็ไม่เคยเจอตัวจริงเสียทีไม่รู้ว่าเธอกับเขาจะทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดีหรือไม่แต่นั่นก็ต้องลองกันสักตั้งมันอาจจะ​ราบรื่นมากกว่าที่เธอคิดเอาไว้ก็ได้

"ใช่เป็นเลขานุการกรรมการผู้จัดการหนูแพรวรับงานนี้ไหม"

"ถ้าคุณลุงเห็นว่าแพรวมีศักยภาพในการทำงานนี้ได้แพรวก็จะทำให้เต็มที่ึค่ะ"

"คุณพ่อครับ"

ธรัฐเดินเข้าห้องคนเป็นพ่อโดยที่ไม่ได้เคาะประ​ตูเพราะคิดว่าคงไม่มีแขกอยู่

"ตารัฐเข้ามาพอดีนี่น้าพิศมัยกับหนูแพรวพิลาส"

อนุชิตแนะนำให้ธรัฐได้รู้จักกับคนทั้งสองเพราะวันนี้เป็นวันแรกที่ธรัฐนั้นได้เจอคนทั้งสองครั้งแรกหลังจากที่รู้จักกันเพียงชื่อมานาน

"สวัสดีครับ"

ธรัฐค่อนข้างตกใจเล็กน้อยเขาไม่คิดว่าโลกมันจะกลมจนเกินไปเพราะหญิงสาวคนที่เขาเจอที่ร้านอาหารแถมยังพ่วงข้อหาชอบแย่งสามีคนอื่นเป็นคนรู้จักกับพ่อแม่ของเขามานมนานแถมเท่าที่เขารู้มาลูกสาวบ้านนี้เรียนจบได้ก็เพราะเงินของแม่เขาอีกด้วย

"สวัสดีจะ"

"สวัสดีค่ะ"

พิศมัยทักทายชายหนุ่มด้วยรอยยิ้มแพรวพิลาสก็รีบยกมือสวัสดีอีกฝ่ายทั้งส่งยิ้มหวานทักทายอย่างเป็นมิตรด้วยเช่นกัน

"คุณพ่อเรียกผมมามีอะไรหรือเปล่าครับ"

ธรัฐแอบยืนนิ่งงันกับรอยยิ้มหวานๆกับลักยิ้มที่สองพวงแก้มของหญิงสาวอยู่ครู่หนึ่งจึงรีบผละสายตามองมาทางคนเป็นพ่อโดยทันทีเพราะรอยยิ้มแบบนี้สินะถึงได้มีปัญหาแบบวันนั้นเขาคิดในใจ

"พ่อจะให้หนูแพรวมาเป็นเลขาแกหนูแพรวเก่งมากคงจะช่วยงานแกได้เยอะ"

"อ๋อ..ครับเรื่องพ่อจะแจ้งผมมีเท่านี้ใช่ไหมครับงั้นผมขอตัวไปทำงานต่อก่อน"

ธรัฐค่อนข้างไม่ค่อยพอใจเท่าไรนักที่พ่อของเขาให้คนมาช่วยงานโดยที่ไม่บอกเขาก่อนแต่ต่อหน้าผู้ใหญ่ทั้งสองเขาจึงไม่อยากพูดอะไรตอนนี้เพียงแค่เดินออกจากห้องไปหน้าตาเฉยเท่านั้นหากหญิงสาวมีความสามารถทำงานได้จริงก็คงอยู่กับเขาได้แต่ถ้ามาทำไปวันๆเขาไล่ตะเพิดกลับอย่างไม่เกรงใจแน่

"......"

พิศมัยและแพรวพิลาสค่อนข้างงงกับอาการของธรัฐอยู่อย่างมากที่ท่าทีของเขาดูไม่ออกเลยว่ายินดีหรือยินร้ายที่จะมีผู้ช่วย

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status