"ตารัฐก็แบบนี้ล่ะครับทำอะไรรีบๆร้อนๆผมต้องขอโทษด้วยนะครับที่ตารัฐเหมือนจะเสียมารยาท"
อนุชิตพอจะดูอาการของลูกชายของเขาออกจึงต้องเอ่ยปากขอโทษคนทั้งสอง
"ไม่เป็นไรค่ะคุณรัฐน่าจะยุ่งๆจริงแหละค่ะ"
พิศมัยคิดในแง่ดรเอาไว้ก่อนเพราะเธอไม่อยากทำให้ลูกสาวของเธอเสียขวัญก่อนจะเริ่มงาน
"แล้วหนูแพรวพร้อมที่จะทำงานที่นี่เมื่อไร"
"แพรวพร้อมเริ่มงานทันทีค่ะ"
"งั้นเป็นพรุ่งนี้ก็แล้วกันนะเดี๋ยวลุงจะให้ศจีเลขาลุงสอนงานเราสักสามวันก่อน"
"ค่ะคุณลุง"
เมื่อตกลงกันได้ทั้งสามก็อยู่คุยกันไม่นานพิศมัยจึงพาแพรวพิลาสกลับ
เย็นของวัน
ไร่ศังกร
"อืม..."
พราวพิไลตื่นขึ้นมาในช่วงเย็นแต่เธอไม่เห็นหิรัญจึงรีบลุกจากเตียงเปิดประตูออกมาข้างนอก
"คุณแม่คะพี่รัญล่ะคะ"
หญิงดาวเดินมาหาหทัยรัตน์ที่นั่งดูทีวีอยู่ตรงโซนนั่งเล่น
"ออกไปเดินหน้าบ้านน่ะฝนพึ่งหยุดตกอากาศกำลังดี"
"อ๋อ..ค่ะ.."
"พรุ่งนี้แม่จะกลับแล้วนะหนูพราว"
"ทำไมเร็วจังล่ะคะ"
พราวพิไลถึงกับใจหายวาบเธอคิดว่าหทัยรัตน์จะอยู่ที่นี่กับเธอและหิรัญเสียอีก
"แม่มีธุระหลายอย่างที่ต้องทำทางนี้แม่ก็ฝากพี่เค้าด้วยนะ"
หทัยรัตน์ถือโอกาสนี้ฝากฝังให้พราวพิไลดูแลลูกชายของเธอเสียเลย
เพราะเธอเองก็หมายใจไว้ว่าไอ้การเป็นภรรยาจำเป็นของพราวพิไลสักวันมันจะเป็นจริงขึ้นมาไม่อย่างนั้นเธอคงไม่บากหน้าขอร้องพิศมัยให้ส่งลูกสาวทั้งสองของเพื่อนเธอมาอยู่ใกล้ลูกชายทั้งสองของเธอกันหรอกเพราะเธอต้องการดองกับบ้านของพิศมัยอยู่แล้วด้วยเห็นว่าลูกสาวของพิศมัยนั้นเหมาะที่จะเป็นสะใภ้ของเธอที่สุด
"ค่ะ.."
"อาหารเย็นเรียบร้อยแล้วค่ะ..คุณรัตน์กับคุณพราวเชิญที่โต๊ะอาหารสักครู่นะคะ"
อุ่นเรือนจัดโต๊ะอาหารเสร็จแล้วเมื่อเห็นจังหวะดีที่หิรัญอยู่ข้างนอกบ้านจึงเรียกหทัยรัตน์และพราวพิไลมาที่โต๊ะอาหารเพื่อนัดแนะเรื่องบางอย่าง
โต๊ะอาหาร
"นี่เป็นแกงเห็ดเผาะใส่ชะอมเป็นเมนูที่คุณหนูชอบมากแล้วก็ไข่เจียวปูแน่นๆด้วยค่ะ..คุณพราวจำไว้นะคะ"
"ค่ะนม..แล้วพี่รัญมีของโปรดอะไรอีกไหมคะ"
"นอกจากสองอย่างนี้ก็มีแกงส้มดอกแคกับปลาสลิดทอดที่จะต้องทานคู่กันค่ะส่วนของหวานก็จะเป็นทองหยิบทองหยอดที่ต้องหวานมากๆด้วยนะคะ"
"อ๋อ..ค่ะ.."
"คุยอะไรกันอยู่เหรอครับ"
หิรัญเดินส่งเสียงเข้ามาในบ้านในระหว่างที่ทั้งสามกำลังยืนง่วนอยู่ข้างโต๊ะอาหาร
"เปล่าน่ะ..ตารัญมาพอดีเลยมาทานข้าวเย็นกันเถอะ"
หทัยรัตน์ถึงกับตัวชาวาบหวังว่าเมื่อครู่ลูกชายเธอจะไม่ได้ยินอะไรทั้งรีบชวนลูกชายเธอมานั่งทานอาหารเย็นกลบเรื่องที่หิรัญถามเมื่อครู่
"ครับ"
"นี่แกงเห็ดเผาะกับไข่เจียวปูของโปรดของคุณหนูคุณพราวสั่งแม่ครัวให้ทำเองเลยนะคะ"
อุ่นเรือนเห็นทุกคนนั่งที่โต๊ะอาหารเรียบร้อยแล้วจึงรีบบอกกับคุณหนูของเธอให้รู้ว่าวันนี้อาหารที่เป็นของโปรดถูกสั่งให้ทำโดยพราวพิไล
"เหรอครับนี่ของโปรดผมเหรอ"
หิรัญเลิกคิ้วแปลกใจเล็กน้อย
"เอ่อใช่ค่ะ..พี่รัญชอบทานมากเลยค่ะ"
พราวพิไลก็ตามน้ำอุ่นเรือนไปเช่นกัน
21.00 น.
"พี่รัญ.. ม.. ไม่ใส่เสื้อผ้าเหรอคะ"
พราวพิไลนอนเล่นมือถืออยู่บนโซฟาที่ตั้งอยู่ไม่ห่างจากเตียงนอนมากนักเธอหันไปเห็นชายหนุ่มที่เปลือยท่อนบนออกมาจากห้องน้ำใช้ผ้าขนหนูสีขาวพันท่อนล่างเอาไว้เมื่อเช็ดตัวแห้งก็ล้มตัวลงนอนที่เตียงทันทีเธอจึงต้องเอ่ยถามเขาด้วยสีหน้าตกใจว่าเขาจะนอนแบบนี้จริงๆหรือ
"พี่ว่านอนแบบนี้มันก็สบายดีนะพราวก็คงจะเคยเห็นพี่ทั้งตัวแล้วแค่พี่ไม่ใส่อะไรนอนคงไม่เป็นไรหรอกเนอะ"
"อ๋อ..ค่ะ..เอาที่พี่รัญสบายเลยค่ะแต่พราวว่าอากาศตอนกลางคืนค่อนข้างเย็นพราวว่าพี่รัญหาเสื้อผ้าใส่ดีกว่านะคะ"
"มีผ้าห่มจะเป็นไรไป..แล้วทำไมไปนอนตรงนั้นไม่มานอนที่นี่ล่ะ"
หิรัญขมวดคิ้วเป็นปมเมื่อครู่เธอเอาแต่ถามเขาจนลืมที่จะถามว่าหญิงสาวไปนอนทำอะไรตรงนั้น
"คือช่วงนี้พราวรู้สึกว่าพราวนอนดิ้นๆน่ะค่ะเดี๋ยวเผลอไปถูกขาพี่รัญรุนแรงจะพาไม่หายเอานะคะ"
พราวพิไลรู้ว่าขาของชายหนุ่มยังไม่หายดีเท่าไรจึงใช้อ้างเป็นเหตุผลบังหน้าเพื่อที่จะได้ไม่ต้องนอนเตียงเดียวกับเขา
"ไม่เป็นไรหรอกมานี่เถอะเดี๋ยวพี่นอนกอดพราวก็ดิ้นไปไหนไม่ได้แล้ว"
หิรัญพูดไปอมยิ้มไป
"พราวว่าพราวนอนตรงนี้ดีกว่าค่ะ"
พราวพิไลยิ่งตัวชาวาบไปกับคำพูดเมื่อครู่ของเขามันยิ่งทำให้เธอคิดว่าเธอคิดถูกแล้วที่เลือกจะนอนตรงนี้
"ทำไมพี่รู้สึกเหมือนพราวไม่อยากอยู่ใกล้พี่ก็ไม่รู้"
หิรัญหุบยิ้มลงพร้อมมีสีหน้าเศร้าลงและท่าทีที่สงสัยพราวพิไลอย่างเห็นได้ชัด
"เปล่านะคะ..พราวแค่เป็นห่วงความปลอดภัยของพี่รัญแค่นั้นพราวนอนกับพี่รัญก็ได้ค่ะ"
พราวพิไลเห็นสีหน้าชายหนุ่มเธอก็เริ่มไปไม่เป็นความกลัวที่เห็นอาการสงสัยของชายหนุ่มทำให้เธอต้องหอบหมอนกับผ้าห่มมานอนที่เตียงตามที่หิรัญบอก
วันต่อมา
ห้องครัว
"อ้าวลีเดี๋ยวแกตักข้าวต้มใส่ถ้วยช่วยป้ายกไปที่โต๊ะอาหารหน่อย"
พวงใช้มาลียกถาดอาหารไปที่โต๊ะอาหารในเวลาอาหารเช้าของคนในเรือนศังกร
"จะป้า"
มาลีเองก็พึ่งจะมาทำงานวันนี้เป็นวันแรกบัวตองจึงอยากอยู่ช่วยดูช่วยสอนงานสักวันนึงจึงจะไปช่วยครัวของคนงานในไร่วันนี้แม่ครัวเลยมีกันทั้งหมดสามคนอาหารจึงเสร็จเร็วกว่าทุกวัน
"ข้าวต้มร้อนๆมาแล้วค่ะ"
"หอมจังเลยค่ะป้าพวง"
พราวพิไลสูดดมกลิ่นข้าวต้มในถ้วยก็เอ่ยปากชมเปราะ
"ถ้าไม่พอบอกนะคะที่ครัวยังมีอีกเยอะเลย"
พวงเห็นนายหญิงของบ้านชื่นชอบสิ่งที่เธอเสริฟในตอนเช้าก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เช่นเดียวกับบัวตองแต่ดูอีกคนที่จะไม่ได้สนใจเรื่องเจ้านายจะพอใจเรื่องอาหารหรือไม่เห็นจะเป็นมาลีเพราะเอาแต่จับจ้องหิรัญไม่ละสายตา
"ค่ะป้าพวง"
ชั่วโมงต่อมา
"นั่นเมียนายเหรอป้าพวง"
หลังจากเก็บถ้วยอาหารจากที่คนในบ้านทานเสร็จมาไว้ในครัวเรียบร้อยแล้วเธอจึงเอ่ยถ่งามพวงถึงทุกคนในเรือนว่าเป็นใครบ้าง
"ใช่คุณพราวเธอพึ่งจะเข้ามาอยู่ที่นี่"
"อ๋อ..."
มาลีพยักหน้าทำท่าเข้าใจในใจของเธอตอนนี้เริ่มคิดไม่ดีต่อพราวพิไลเพราะเธอหมายจะแทนที่นายหญิงที่นี่อย่างคนที่ไม่รู้จักคิดทำทุกอย่างได้เพราะความมักใหญ่ไฝ่สูงที่เธอต้องระหกระเหเร่ร่อนมาอยู่กับแม่ที่ชนบทแบบนี้ก็เพราะเธอดันไปเป็นเมียน้อยของเจ้าของโรงงานที่เธอทำอยู่จนถูกเมียหลวงรังควานจนต้องหนีหัวซุกหัวซุนกลับมา
วันต่อมาหิรัญขับรถกระบะพาพราวพิไลไล่ชมรอบๆตั้งแต่เช้าจนมาหยุดอยู่ที่หนึ่งซึ่งเหล่าคนงานกำลังจับกลุ่มกันง่วนด้วยใบหน้าเคร่งเครียดเหมือนกำลังมีปัญหากันอยู่หนึ่งในนั้นคือลุงครามผู้จัดการไร่ร่วมด้วย"ดูอะไรกันเหรอครับหน้าเคร่งเครียดเชียว"พราวพิไลและหิรัญลงจากรถมาดูเหล่าคนงานทั้งถามถึงเหตุที่ต้องมารวมกันตรงนี้ด้วยท่าทีเป็นกังวล"นายครับผมว่าจะเข้าไปหาอยู่พอดีเลยครับ"ลุงครามพอเห็นคนเป็นเจ้านายมาที่นี่พอดีจึงรีบเดินมาต้อนรับ"มีอะไรครับ""ก็แปลงผักเราสิครับทางโน้นที่ติดตีนเขาพอฝนตกหนักเข้าน้ำก็หลากจากเขาจนผักเสียหายเยอะเลย"ลุงครามชี้ไปทางแปลงผักที่อยู่ใกล้ๆกับตีนเขา"ปกติไม่เป็นแบบนี้ไม่ใช่เหรอครับ"หิรัญขมวดคิ้วเป็นปมแน่นพราวพิไลเองก็ยืนฟังด้วยสีหน้ากังวลถึงปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นที่ไร่หิรัญเองก็เห็นว่าปกติแล้วถึงฝนจะตกแรงแค่ไหนน้ำในป่าก็ไม่น่าจะหลากลงมาแรงขนาดทำให้แปลงผักเสียหายได้"ครับ..เห็นคนงานในไร่ที่ไปหาของป่าบอกว่ามีกลุ่มคนเข้าไปลักลอบตัดไม้ข้างในจนเป็นเวิ้งกว้าง"ลุงครามพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เบาลงเหมือนแค่อยากให้เรื่องนี้รู้แค่วงแคบๆเท่านั้น"ถ้ามีเรื่องแบบนี้แล้วทำไมไม่มีใครแจ
"นี่หยุดเดี๋ยวนี้นะ...ออกไปจากที่ของผมเดี๋ยวนี้"ธรัฐถอดเสื้อสูทของเขาออกคลุมร่างแพรวพิลาสเอาไว้และรีบไล่คนนอกทั้งสองออกไปทันทีเขาจำได้ว่าผู้หญิงคนที่ทำร้ายแพรวพิลาสคือคนที่มาอาละวาดหญิงสาวที่ร้านอาหารในวันนั้นและถ้าเดาไม่ผิดผู้ชายที่ยืนดูผู้หญิงตบตีกันหน้าตาเฉยคงจะเป็นตัวต้นเหตุเป็นแน่"ไปแน่...แล้วคุณเป็นเจ้าของที่นี่ใช่ไหม...บอกอีนี่ด้วยว่าอย่ามานัดผัวชาวบ้านมาพลอดรักแบบนี้อีก"นาถลดาตะคอกใส่ธรัฐและแพรวพิลาสก่อนจะดึงสามีของเธอให้รีบเดินออกไป"ฉันไม่ได้นัดนะคะ...ส่วนคุณก็เลิกยุ่งกับฉันซะที"แพรวพิลาสหลบอยู่ในอ้อมอกของธรัฐตอนนี้เธอตัวสั่นเป็นลูกนกพร้อมเค้นเสียงบอกนาถลดาด้วยเสียงสั่นเครือและอติรุจก็เช่นกันเธออยากพูดครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายว่าให้เขาเลิกยุ่งกับเธอซะที"แพรว..""นี่หยุดนะคุณรุจ"นาถลดากระชากคนเป็นสามีออกไปจากห้องอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นอติรุจทำท่าทีอาลัยอาวรแพรวพิลาสอยู่"เตือนไว้ก่อนอย่าให้ถึงวันที่ฉันหมดความอดทนแล้วแกจะไม่ได้มาเดินลอยหน้าลอยตาแบบนี้หรอก"ก่อนจะปิดประตูนาถลดายังมิวายส่งเสียงขู่แพรวพิลาสอีกครั้ง"ฮึก..อือ..ฮือ....ขอบคุณนะคะ"เมื่อทั้งสองออกไปแล้วแพรวพิลาสก
"ไม่จริง.."อติรุจดูเหมือนจะไม่ยอมรับความจริงกับสิ่งที่ได้ยินสักเท่าไรนักพยายามมองหน้าแพรวพิลาสแต่หญิงสาวก็ไม่ชายตามองมาทางเขาแม้แต่น้อย"จริงเลิกยุ่งกับภรรยาผมซะทีแล้วเอาเวลาไปดูลูกเมียตัวเองไม่อย่างนั้นผมจะแจ้งความจับคุณในข้อหาคุกคามความเป็นส่วนตัว"เมื่อขู่คนตรงหน้าเสร็จธรัฐก็รีบดึงมือหญิงสาวเดินดุ่มๆเข้าลิฟท์ไปในทันที"แพรว..."ทิ้งให้อติรุจยืนอึ้งกับคำที่พึ่งได้ยินจนหน้าเสียอย่างเห็นได้ชัดครู่ต่อมา"คุณไปพูดแบบนั้นได้ไงคะ"เมื่อขึ้นลิฟท์มาถึงชั้นที่ทั้งคู่อยู่แพรวพิลาสจึงรีบดึงมือออกจากชายหนุ่มและถามอีกฝ่ายด้วยสีหน้าบึ้งตึงเพราะเธอไม่ชอบคำที่เขาบอกกับอติรุจว่าเธอเป็นภรรยาเขาแม้แต่นิดเดียวไม่ใช่ว่ากลัวอติรุจเข้าใจผิดแต่เธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่คนแถวนั้นที่ได้ยินเขาจะคิดกันยังไง"มันจะได้เลิกยุ่งกับคุณไง..ถึงห้องคุณแล้วเข้าไปสิ""ค่ะ.."ธรัฐยังคงตอบหญิงสาวหน้าตาเฉยเฉกเช่นเดิมทั้งยังไล่หญิงสาวเข้าห้องตัวเองไปด้วยเขาจะได้เข้าห้องพักผ่อนเช่นกันซึ่งห้องเขาก็อยู่ตรงข้ามกับเธอนี่เองแกร๊กกแพรวพิลาสเปิดประตูและหันกลับมาหาชายหนุ่มจนธรัฐต้องหันมามองเธอพร้อมขมวดคิ้วสงสัย"อะไร...""ขอบคุณ
ครึ่งชั่วโมงต่อมา"อ้าว..ลุงครามมีอะไรเหรอครับ"หิรัญเดินออกมาหาลุงครามที่หน้าบ้าน"ของคุณพราวมาส่งน่ะครับ""อ๋อ.."ลุงครามยื่นพัสดุให้กับหิรัญ"ของพราวใช่ไหมคะ"พราวพิไลอาบน้ำแต่งตัวเสร็จทันเวลาที่ของเพื่อนเธอส่งมาพอดีเมื่อเห็นกล่องอยู่ในมือชายหนุ่มจึงรีบแย่งออกมาอย่างรวดเร็ว"อะไรเหรอ"หิรัญหันหน้าถามพราวพิไลอย่างสงสัยว่าด้านในเป็นอะไรเธอถึงได้หวงขนาดนั้น"ก็..เป็นพวกน้ำหอมที่พราวสั่งให้เพื่อนซื้อส่งมาให้น่ะค่ะไม่มีอะไรขอบคุณนะคะลุงครามที่เอามาให้"หญิงสาวพูดเสร็จก็รีบวิ่งกลับเข้าห้องหาที่ซ่อนของทันทีอันที่จริงแล้วมันเป็นยาสลบที่เธอสั่งให้เพื่อนเธอซื้อส่งมาให้ต่างหากเอาไว้ใช้ในเวลาที่ฉุกเฉินครู่ต่อมาโต๊ะอาหาร"ป้าพวงขาพราวขอข้าวเพิ่มอีกนะคะ"ตอนนี้พราวพิไลและหิรัญร่วมโต๊ะอาหารเย็นกันอยู่พักใหญ่วันนี้กับจ้าวค่อนข้างอร่อยเป็นพิเศษจนหญิงสาวต้องขอข้าวเพิ่ม"ได้เลยค่ะคุณพราว""ของหวานมาแล้วค่ะ..."ปึก"ว้าย..ขอโทษค่ะคุณพราว"มาลีตั้งใจที่จะให้กล้วยบวชชีในมือหกใส่พราวพิไลเธอแกล้งตกใจกับเรื่องที่เธอจงใจทำเพื่อให้ดูเป็นอุบัติเหตุ"ไม่เป็นไร.."พราพิไลเงยหน้าส่งยิ้มให้มาลีแต่สีหน้าของเธอต
วันต่อมา08.30 น."คุณหนูยังไม่ตื่นเหรอคะคุณพราว"อุ่นเรือนวันนี้ค่อนข้างสายแล้วแต่คุณหนูของเธอยังไม่ตื่นถึงถามถามพราวพิไรที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะอาหารด้วยความสงสัย"ยังเลยค่ะ"พราวพิไลส่ายกัวพร้อมยิ้มแหยๆเล็กน้อย"อ้าว.. นั่น.. วันนี้คุณหนูตื่นช้าจังล่ะคะ"อุ่นเรือนหันไปถามคนที่กำลังเดินเข้ามา"อ๋อ...เมื่อคืนคงจะเพลียๆน่ะครับ"หิรัญก็สงสัยตัวเองอยู่เหมือนกันว่าทำไมตอนตื่นมาถึงเพลียแปลกๆพวกคนที่ยืนอยู่ทั้งอุ่นเรือนบัวตองป้าพวงต่างยิ้มกริ่มเพราะคิดว่าทั้งคู่คงจะทำกิจกรรมอะไรกันจนดึกตามประสาสามีภรรยาถึงได้เพลียแต่คนที่ยิ้มไม่ออกเห็นจะเป็นมาลีเพราะเธอไม่ได้ปารถนาให้ทั้งคู่รักกันดี"ยิ้มอะไรกันเหรอคะ"พราวพิไลไม่เข้าใจว่าจู่ๆทั้งนมอุ่นและป้าพวงต่างก็อมยิ้มกันแปลกๆ"อ๋อ...ไม่มีอะไรหรอกค่ะ..ทานข้าวดีกว่านะคะ"อุ่นเรือนส่ายหัวเล็กน้อย10.00 น."ทำอะไรเหรอพราว"หิรัญเดินหาพราวหลังจากทานอาหารเสร็จเมื่อมาที่สวนข้างบ้านก็เห็นว่าหญิงสาวกำลังหยิบจับท่อนไม้ตอกลงดินอย่างขมักเขม้น"พราวเห็นว่าวันนี้ฝนน่าจะตกหนักค่ะเลยหาผ้ามาขึงกันต้นดอกไม้พวกนี้ไว้เดี๋ยวฝนตกหนักใส่แล้วจะตายซะก่อน""มาเดี๋ยวพี่ช่วย"หิรัญ
ในป่าบนภูเขา"ฝนตกหนักขนาดนี้จะตัดต่อยังไงไหวครับเสี่ย"คนงานตัดไม้รีบวิ่งมาบอกเสี่ยเคี้ยงว่าไม่มีใครตัดต้นไม้ต่อไหวเพราะฝนที่ตกหนักบวกกับดินที่ลื่นจึงทำให้ทำงานยาก"ยังไงก็ต้องตัดละวะต้องส่งไม้ให้ทันตามกำหนด"เสี่ยเคี้ยงจะให้คนงานหยุดการตัดไม้ลอตนี้ไม่ได้เพราะจะไม่ทันวันที่นัดส่งไม้กับลูกค้ารายใหญ่แล้วเขาจะเสียเครดิตเอาได้"นายครับ..ตำรวจ"ในขณะที่เสี่ยเกลี้ยงกำลังสั่งการกับคนงานอยู่นั้นก็มีคนงานอีกคนวิ่งตะโกนมาว่ามีตำรวจกำลังเข้ามาล้อมจับพวกตน"มาได้ไงวะ"เสี่ยเคี้ยงถึงกับหัวเสียกัดฟันกรอดที่ไม่รู้ว่าทำไมพวกตำรวจถึงได้มายุ่มย่ามกับงานของพวกตนได้"หนีมาทางนี้ก่อนครับนาย"คนสนิทเสี่ยเคี้ยงอย่างอาคมได้เตรียมแผนรับมือเอาไว้แล้วหากลูกน้องถูกจับเขาต้องพาเสี่ยเคี้ยงหนีไปก่อน"ยกมือขึ้นให้หมดตอนนี้ตำรวจได้ล้อมเอาไว้หมดแล้ว"ตำรวจใช้เวลาไม่นานก็จับคนงานและของกลางได้ทั้งหมดแต่หัวหน้าใหญ่อย่างเสี่ยเคี้ยงไม่มีใครจับได้และคำซักทอดจากผู้ต้องหาก็สาวไม่ถึงตัวการใหญ่ด้วยเพราะไม่มีใครปริปากพูดแม้แต่คนเดียวบ้านเสี่ยเคี้ยง"มันเป็นแบบนี้ได้ไงสารวัตร"เมื่อเสี่ยเคี้ยงกลับมาถึงบ้านเขาก็รีบให้อาคมตามสาร
"ผมคิดว่าพวกมันน่าจะใช้ที่นี่เป็นที่เก็บอะไรสักอย่างแต่ผมว่าไม่ใช่ไม้แน่นอนครับเพราะของพวกนี้พวกมันจะเอาไว้กับตัวนานไม่ได้""นายคิดว่าเป็นอะไรครับ"ลุงครามขมวดคิ้วเป็นปม"ถ้ากิจการไม่กี่อย่างของพวกมันทำให้รวยและมีอิทธิพลจนใครก็เกรงกลัวไม่ค้าสิ่งเสพติดก็ค้าอาวุธเถื่อนล่ะครับ""ผมชักไม่อยากจะให้นายยุ่งกับพวกมันเสียแล้วสิครับ"เมื่อได้ยินคนเป็นนายพูดแบบนั้นลุงครามเองก็ยิ่งคิดไม่ตกว่าอยากจะให้นายตัวเองยุ่งกับคนพวกนี้อีกดีหรือไม่"ผมรู้ว่าพวกมันรู้ว่าผมเลือกที่จะเป็นศรัตรูกับมันแล้วสักวันมันต้องหาทางเอาคืนผมอยู่ดีติดแค่ว่าวันไหนเท่านั้นเองดังนั้นเราต้องเตรียมแผนรับมือเอาไว้ก่อนและหากเป็นไปได้คนที่เป็นอันตรายต่อคนอื่นมากขนาดนี้ถอนรากถอนโคนพวกมันได้ก็ยิ่งดีครับ"หิรัญพูดด้วยสีหน้าที่แน่วแน่และใครก็ขัดเขาไม่ได้ด้วยเรือนศังกร17.00 น."นั่นขาคุณพราวเป็นอะไรคะ"มาลีเดินมาเห็นอุ่นเรือนกำลังนั่งพันผ้าที่ข้อเท้าของพราวพิไลอยู่ความอยากรู้ของเธอจึงบังเกิด"คุณพราวข้อเท้าเคล็ดนิดหน่อยไม่เป็นอะไรมากหรอก"อุ่นเรือนตอบแทนพราวพิไลเธอแอบไม่ชอบใจนิสัยช่างสอดกับคำพูดคำจาที่ไม่มีมารยาทของมาลีอยู่บ่อยครั้งแต
14.00 น."มาหาใครคะ"ตกบ่ายในขณะที่มาลีกำลังเดินถือวัตถุดิบจากโรงครัวของคนงานเข้ามาในครัวของเรือนเธอก็เห็นสาวสวยลงมาจากรถหรูด้วยท่าทีรีบร้อนหมายจะเดินเข้าไปในเรือนเธอจึงต้องรีบสะกัดเอาไว้ก่อน"ฉันมาหารัญเค้าอยู่ไหม"สุพิชชาสาวหน้าสวยหุ่นดีระดับนางงามมองสาวใช้อย่างมาลีด้วยหางตาและไม่ได้สนใจคำที่สาวใช้ตรงหน้าถามเลยสักนิดเอาแต่ถามหาหิรัญว่าเขาอยู่หรือเปล่า"คุณเป็นใคร"มาลีได้ยินว่าสาวสวยคนนี้มาหาคนเป็นนายก็เกิดอาการไม่พอใจทันทีทั้งยังไม่ยอมให้หญิงสาวเข้าไปข้างในง่ายๆ"ฉันเป็นคนสนิทกับเค้าเธอล่ะเป็นใครน่าจะเป็นแค่คนงานที่นี่อย่าสอดถามให้มันมากนักฉันถามก็แค่ตอบไม่ใช่มาย้อนถามฉัน"สุพิชชาพูดเสียงแข็งใส่มาลีด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์"ถ้าคุณไม่ตอบฉันคงให้คุณเข้าไปในบ้านไม่ได้"มาลียืนลอยหน้าลอยตาขวางอีกฝ่ายิย่างไม่เกรงกลัวตามประสาของเธอ"เธอนี่ช่างกล้านะ"สุพิชชาชี้หน้ามาลีทั้งเน้นเขี้ยวเน้นฟันพูดขู่คนตรงหน้า"มีอะไรกันลี...คุณมาหาใครคะ"ป้าพวงได้ยินเสียงดังเลยรีบออกมาจากในครัวเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น"ฉันมาหารัญฉันเป็นแฟนเค้าทีนี้มีสิทเข้าไปในบ้านได้หรือยัง"สุพิชชายืยกอดอกเชิดหน้าอย่างมั่นใจ"ยั