วันต่อมา
08.30 น.
"คุณหนูยังไม่ตื่นเหรอคะคุณพราว"
อุ่นเรือนวันนี้ค่อนข้างสายแล้วแต่คุณหนูของเธอยังไม่ตื่นถึงถามถามพราวพิไรที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะอาหารด้วยความสงสัย
"ยังเลยค่ะ"
พราวพิไลส่ายกัวพร้อมยิ้มแหยๆเล็กน้อย
"อ้าว.. นั่น.. วันนี้คุณหนูตื่นช้าจังล่ะคะ"
อุ่นเรือนหันไปถามคนที่กำลังเดินเข้ามา
"อ๋อ...เมื่อคืนคงจะเพลียๆน่ะครับ"
หิรัญก็สงสัยตัวเองอยู่เหมือนกันว่าทำไมตอนตื่นมาถึงเพลียแปลกๆ
พวกคนที่ยืนอยู่ทั้งอุ่นเรือนบัวตองป้าพวงต่างยิ้มกริ่มเพราะคิดว่าทั้งคู่คงจะทำกิจกรรมอะไรกันจนดึกตามประสาสามีภรรยาถึงได้เพลียแต่คนที่ยิ้มไม่ออกเห็นจะเป็นมาลีเพราะเธอไม่ได้ปารถนาให้ทั้งคู่รักกันดี
"ยิ้มอะไรกันเหรอคะ"
พราวพิไลไม่เข้าใจว่าจู่ๆทั้งนมอุ่นและป้าพวงต่างก็อมยิ้มกันแปลกๆ
"อ๋อ...ไม่มีอะไรหรอกค่ะ..ทานข้าวดีกว่านะคะ"
อุ่นเรือนส่ายหัวเล็กน้อย
10.00 น.
"ทำอะไรเหรอพราว"
หิรัญเดินหาพราวหลังจากทานอาหารเสร็จเมื่อมาที่สวนข้างบ้านก็เห็นว่าหญิงสาวกำลังหยิบจับท่อนไม้ตอกลงดินอย่างขมักเขม้น
"พราวเห็นว่าวันนี้ฝนน่าจะตกหนักค่ะเลยหาผ้ามาขึงกันต้นดอกไม้พวกนี้ไว้เดี๋ยวฝนตกหนักใส่แล้วจะตายซะก่อน"
"มาเดี๋ยวพี่ช่วย"
หิรัญเห็นหญิงสาวทำงานผู้ชายแบบนี้คนเดียวคงจะไม่ได้
"ค่ะ.."
"อืม...พราว"
หิรัญช่วยหญิงสาวตอกไม้ขึงผ้าสแลนจนเรียบร้อยในเวลาอันรวดเร็วมีเรื่องบางอย่างที่เขากำลังคาใจจึงเอ่ยถามหญิงสาวขึ้น
"คะ.."
"เมื่อคืนพี่หลับไปตอนไหนไม่เห็นรู้เรื่องเลย"
หิรัญขมวดคิ้วสงสัยและมองพราวพิไลอย่างต้องการคำตอบ
"เอ่อ..ก็..ตอนที่พราวอ่านหนังสืออยู่พี่รัญก็หลับไปเลยค่ะ"
หญิงสาวถึงกับหน้าถอดสีแต่ก็รีบฉีกยิ้มทำหน้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"งั้นเหรอ"
หิรัญได้ยินคำตอบจากหญิงสาวเขาก็ยิ่งงงกับตัวเองหนักเขาจำไม่ๆด้จริงๆว่าหลับไปตอนไหน
"ค่ะ..หยิบไม้ให้พราวหน่อยสิคะ"
พราวพิไลหาเรื่องอื่นขึ้นมาพูดเพื่อที่ชายหนุ่มจะได้ไม่ต้องถามเธอเรื่องนี้ให้ยืดเยื้ออีก
"อืม.."
ตลาดสด
"วันนี้มาซื้อของอีกแล้วเหรอจะน้องลี"
เสี่ยเกลี้ยงเดินเข้ามาหามาลีพร้อมกับลูกน้องอีกสองสามคนเป็นเช่นนี้ทุกครั้งที่มาลีมาจ่ายตลาดจนคนทั้งตลาดต่างก็รู้กันว่าช่วงนี้เสี่ยเกลี้ยงกำลังติดสาวคนใหม่เป็นแม่ครัวของทางไร่ศังกรสาวสวยที่ชื่อมาลีนั่นเอง
"รู้ชื่อฉันได้ไงจ้ะ"
มาลีเองถึงจะเจอหน้าเสี่ยเกลี้ยงอยู่บ่อยครั้งแต่ก็ไม่ยอมบอกชื่ออีกฝ่ายเพื่อต้องการให้ชายหนุ่มสนใจที่จะาืบค้นเกี่ยวกับตัวเธอ
"คนอย่างพี่เกลี้ยงอยากรู้อะไรก็ต้องรู้"
"คือฉันไม่ได้มาซื้อของหรอกจะแค่มาเดินเล่น"
วันนี้มาลีไม่ได้มีหน้าที่มาจ่ายตลาดเพราะเป็นวันหยุดของเธอที่เธอเลือกมาเดินเล่นเวลานี้ก็เพราะว่าเธอรู้ว่าเสี่ยเกลี้ยงนั้นจะอยู่ที่นี่เวลานี้นั่นเอง
"งั้นดีเลยไปนั่งที่ร้านนั้นกับพี่เถอะเดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง"
"จริงเหรอจ้ะพี่เกลี้ยงนี่ใจดีที่สุดเลยจะ"
มาลีเดินกระทิดกระเมี้ยนส่งสายตายั่วยวนอีกฝ่ายสุดฤทธิ์เพราะรู้ว่าวันนี้เธอต้องมีอะไรติดไม้ติดมือกลับบ้านอย่างแน่นอน
ชั่วโมงต่อมา
ไร่ศังกร
"ไปไหนมา"
บัวตองถามคนเป็นลูกสาวที่หายหัวไปเกือบทั้งวันด้วยท่าทีไม่พอใจเพราะเธอรู้จากคนในตลาดที่เค้ารือกันมาว่าเสี่ยเกลี้ยงมาติดลูกสาวเธอเลยกลัวว่าลูกเธอจะเห็นดีเห็นงามไปคบกับพวกนักเลงจอมเจ้าชู้แล้วเสียตัวให้พวกนั้นฟรีๆซึ่งเธอไม่อยากให้มันเกิดขึ้น
"ฉันก็แค่แวะไปเที่ยวตลาดแปปนึงน่ะแม่"
มาลีพูดด้วยสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์เพราะเธอโตพอที่จะไปไหนมาไหนเองโดยที่ไม่ต้องตอบคำถามใครแล้ว
"แล้วนี่อะไร...เสื้อผ้านี่...เยอะขนาดนี้แกเอาตังไหนไปซื้อ"
บัวตองดึงถุงจากมือลูกสาวของเธอมากางดูแล้วจึงถามมาลีเสียงดังว่าเอาเงินที่ไหนไปซื้อนักหนาทั้งที่ทำงานยังไม่ถึงเดือน
"ถึงฉันไม่มีตังฉันก็มีเสื้อผ้าสวยๆพวกนี้ใส่ได้แม่อย่ายุ่งน่า"
มาลีกระชากถุงเสื้อผ้าขากมือคนเป็นแม่และเดินเข้าบ้านๆปด้วยท่าทีกะฟัดกะเฟียด
14.00 น.
ครื่นนน....ๆ...ซ่าาาาาา
"วันนี้ฝนตกหนักกว่าทุกวันเลยนะคะ"
พราวพิไลนั่งมองสายฝนที่เทกระหน่ำลงมาผ่านกระจกห้องนั่งเล่นเธอบุ้ยหน้าเล็กน้อยเพราะฟ้าฝนวันนี้ตกหนักจนน่ากลัวกว่าทุกวัน
"นั่นสิ...ดีนะที่เราจัดการหาที่บังดอกกุหลาบพวกนั้นเรียบร้อยแล้ว"
หิรัญเองก็กังวลเกี่ยวกับไร่เขาอยู่มากเพราะเกรงว่าฝนที่เทกระหน่ำลงมาแบบนี้พืชสวนเขาจะเสียหายหนักเข้าไปอีก
"นั่นสิคะ.."
พราวพิไลเตรียมควานหาหนังสืออ่านแก้เบื่อเพราะฝนตกเธอก็ออกไปเดินเล่นที่ไหนไม่ได้
"เตรียมหาหนังสืออ่านอีกแล้วเหรอ"
"ค่ะ...บรรยากาศแบบนี้อ่านหนังสือฟินดีค่ะ"
"งั้นพี่จะอยู่ตรงนี้เงียบๆไม่กวนพราวแล้ว"
"ขอบคุณค่ะ"
ซ่าาาาาาา....
ชั่วโมงต่อมา
ผ่านไปเป็นชั่วโมงดูท่าฝนก็ยังตกหนักไม่หยุดจนหิรัญเห็นว่าหากฝนเบาแล้วเขาคงต้องรีบออกไปดูไร่อย่างเร่งด่วน
"นายครับนาย"
"เสียงลุงครามนี่คะ"
พราวพิไลวางหนังสือลงเธอได้นินแว่วๆว่ามีคนตะโกนเรียกหิรัญอยู่ที่หน้าบ้าน
"จริงด้วย"
หิรัญได้ยินเช่นนั้นจึงรีบออกไปดูทันทีเพราะเวลานี้หากลุงครามมาเรียกคงมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นอีกแน่นอน
"นายครับตอนนี้วัวที่คอกกำลังจะคลอดแต่เหมือนจะคลอดไม่ได้ครับหมอโจก็ไม่อยู่ครับ"
เมื่อเห็นคนเป็นนายเดินออกมาลุงครามที่ตัวเปียกโชกไปด้วยน้ำฝนรีบรายงานคนเป็นนายทันทีว่าวัวที่คอกออกลูกไม่ได้เวลานี้สัตวแพทย์ประจำไร่อย่างหมอโจก็ไม่อยู่ด้วย
"งั้นเหรอเดี่ยวผมจะรีบไปดูเดี๋ยวนี้"
"พราวไปด้วยค่ะ"
หิรัญได้ยินเช่นนั้นจึงรีบออกจากบ้านไปพร้อมลุงครามโดยมีพราวพิไลตามไปด้วยทันที
ครู่ต่อมา
มอ...มอ...
เมื่อทั้งสามมาถึงคอกวัวเห็นมันร้องด้วยความเจ็บปวดหิรัญจึงรีบเข้าไปดูอาการมันทันทีโดยทีลุงครามเป็นลูกมืออยู่ข้างๆพราวพิไลด้วยความกลัวเธอจึงยืนดูอยู่ห่างๆ
"คงต้องล้วงจัดท่าแล้วล่ะครับแบบนี้"
"ครับ"
หิรัญและลุงครามช่วยกันเอาลูกวัวออกโดยการล้วงจัดท่าลูกวัวและดึงออกมาทุกอย่างผ่านไปอย่างทุลักทุเลแต่ก็สำเร็จไปได้อย่างดี
พราวพิไลเองก็เอามือปิดตาบ้างเพราะภาพอันน่าหวาดเสียวแบบนี้เธอเองก็ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนและไม่คิดว่าหิรัญจะทำเป็นด้วย
เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นหน้าที่ตรงนี้ลุงครามและคนงานในไร่เป็นคนดูแลต่อหิรัญและพราวพิไลจึงพากันกลับบ้านไปอาบน้ำอาบท่าเพราะทั้งเปรอะเปื้อนดินโคลนไปตามๆกัน
ในป่าบนภูเขา"ฝนตกหนักขนาดนี้จะตัดต่อยังไงไหวครับเสี่ย"คนงานตัดไม้รีบวิ่งมาบอกเสี่ยเคี้ยงว่าไม่มีใครตัดต้นไม้ต่อไหวเพราะฝนที่ตกหนักบวกกับดินที่ลื่นจึงทำให้ทำงานยาก"ยังไงก็ต้องตัดละวะต้องส่งไม้ให้ทันตามกำหนด"เสี่ยเคี้ยงจะให้คนงานหยุดการตัดไม้ลอตนี้ไม่ได้เพราะจะไม่ทันวันที่นัดส่งไม้กับลูกค้ารายใหญ่แล้วเขาจะเสียเครดิตเอาได้"นายครับ..ตำรวจ"ในขณะที่เสี่ยเกลี้ยงกำลังสั่งการกับคนงานอยู่นั้นก็มีคนงานอีกคนวิ่งตะโกนมาว่ามีตำรวจกำลังเข้ามาล้อมจับพวกตน"มาได้ไงวะ"เสี่ยเคี้ยงถึงกับหัวเสียกัดฟันกรอดที่ไม่รู้ว่าทำไมพวกตำรวจถึงได้มายุ่มย่ามกับงานของพวกตนได้"หนีมาทางนี้ก่อนครับนาย"คนสนิทเสี่ยเคี้ยงอย่างอาคมได้เตรียมแผนรับมือเอาไว้แล้วหากลูกน้องถูกจับเขาต้องพาเสี่ยเคี้ยงหนีไปก่อน"ยกมือขึ้นให้หมดตอนนี้ตำรวจได้ล้อมเอาไว้หมดแล้ว"ตำรวจใช้เวลาไม่นานก็จับคนงานและของกลางได้ทั้งหมดแต่หัวหน้าใหญ่อย่างเสี่ยเคี้ยงไม่มีใครจับได้และคำซักทอดจากผู้ต้องหาก็สาวไม่ถึงตัวการใหญ่ด้วยเพราะไม่มีใครปริปากพูดแม้แต่คนเดียวบ้านเสี่ยเคี้ยง"มันเป็นแบบนี้ได้ไงสารวัตร"เมื่อเสี่ยเคี้ยงกลับมาถึงบ้านเขาก็รีบให้อาคมตามสาร
"ผมคิดว่าพวกมันน่าจะใช้ที่นี่เป็นที่เก็บอะไรสักอย่างแต่ผมว่าไม่ใช่ไม้แน่นอนครับเพราะของพวกนี้พวกมันจะเอาไว้กับตัวนานไม่ได้""นายคิดว่าเป็นอะไรครับ"ลุงครามขมวดคิ้วเป็นปม"ถ้ากิจการไม่กี่อย่างของพวกมันทำให้รวยและมีอิทธิพลจนใครก็เกรงกลัวไม่ค้าสิ่งเสพติดก็ค้าอาวุธเถื่อนล่ะครับ""ผมชักไม่อยากจะให้นายยุ่งกับพวกมันเสียแล้วสิครับ"เมื่อได้ยินคนเป็นนายพูดแบบนั้นลุงครามเองก็ยิ่งคิดไม่ตกว่าอยากจะให้นายตัวเองยุ่งกับคนพวกนี้อีกดีหรือไม่"ผมรู้ว่าพวกมันรู้ว่าผมเลือกที่จะเป็นศรัตรูกับมันแล้วสักวันมันต้องหาทางเอาคืนผมอยู่ดีติดแค่ว่าวันไหนเท่านั้นเองดังนั้นเราต้องเตรียมแผนรับมือเอาไว้ก่อนและหากเป็นไปได้คนที่เป็นอันตรายต่อคนอื่นมากขนาดนี้ถอนรากถอนโคนพวกมันได้ก็ยิ่งดีครับ"หิรัญพูดด้วยสีหน้าที่แน่วแน่และใครก็ขัดเขาไม่ได้ด้วยเรือนศังกร17.00 น."นั่นขาคุณพราวเป็นอะไรคะ"มาลีเดินมาเห็นอุ่นเรือนกำลังนั่งพันผ้าที่ข้อเท้าของพราวพิไลอยู่ความอยากรู้ของเธอจึงบังเกิด"คุณพราวข้อเท้าเคล็ดนิดหน่อยไม่เป็นอะไรมากหรอก"อุ่นเรือนตอบแทนพราวพิไลเธอแอบไม่ชอบใจนิสัยช่างสอดกับคำพูดคำจาที่ไม่มีมารยาทของมาลีอยู่บ่อยครั้งแต
14.00 น."มาหาใครคะ"ตกบ่ายในขณะที่มาลีกำลังเดินถือวัตถุดิบจากโรงครัวของคนงานเข้ามาในครัวของเรือนเธอก็เห็นสาวสวยลงมาจากรถหรูด้วยท่าทีรีบร้อนหมายจะเดินเข้าไปในเรือนเธอจึงต้องรีบสะกัดเอาไว้ก่อน"ฉันมาหารัญเค้าอยู่ไหม"สุพิชชาสาวหน้าสวยหุ่นดีระดับนางงามมองสาวใช้อย่างมาลีด้วยหางตาและไม่ได้สนใจคำที่สาวใช้ตรงหน้าถามเลยสักนิดเอาแต่ถามหาหิรัญว่าเขาอยู่หรือเปล่า"คุณเป็นใคร"มาลีได้ยินว่าสาวสวยคนนี้มาหาคนเป็นนายก็เกิดอาการไม่พอใจทันทีทั้งยังไม่ยอมให้หญิงสาวเข้าไปข้างในง่ายๆ"ฉันเป็นคนสนิทกับเค้าเธอล่ะเป็นใครน่าจะเป็นแค่คนงานที่นี่อย่าสอดถามให้มันมากนักฉันถามก็แค่ตอบไม่ใช่มาย้อนถามฉัน"สุพิชชาพูดเสียงแข็งใส่มาลีด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์"ถ้าคุณไม่ตอบฉันคงให้คุณเข้าไปในบ้านไม่ได้"มาลียืนลอยหน้าลอยตาขวางอีกฝ่ายิย่างไม่เกรงกลัวตามประสาของเธอ"เธอนี่ช่างกล้านะ"สุพิชชาชี้หน้ามาลีทั้งเน้นเขี้ยวเน้นฟันพูดขู่คนตรงหน้า"มีอะไรกันลี...คุณมาหาใครคะ"ป้าพวงได้ยินเสียงดังเลยรีบออกมาจากในครัวเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น"ฉันมาหารัญฉันเป็นแฟนเค้าทีนี้มีสิทเข้าไปในบ้านได้หรือยัง"สุพิชชายืยกอดอกเชิดหน้าอย่างมั่นใจ"ยั
ครู่ต่อมา"ตกลงคุณเป็นใครกันแน่"ด้วยความสอดรู้สอดเห็นและอยากจะรู้เรื่องท่ี่แท้จริงมาลีจึงเดินออกมาหน้าเรือนในขณะที่สุพิชชากำลังจะขับรถกลับ"ฉันเป็นใครแล้วคนใช้อย่างเธอมายุ่งอะไรด้วย"สุพิชชามองมาลีด้วยหางตาและรีบขับรถกลับออกไปเพราะเธอไม่จำเป็นจะต้องบอกอะไรสาวใช้อย่างมาลี"หืม..นังหน้าพลาสติกฉันอุตส่าห์จะช่วยงั้นก็ช่วยเหลือตัวเองไปแล้วกัน"มาลีเห็นอาการสุพิชชาแล้วเธอก็หมั่นไส้สุดทนเธอตั้งใจว่าจะยืมมือสุพิชชากำจัดพราวพิไลเสียกน่อยแต่เหผ้นครั้งนี้เธอจะต้องเชียพราวพิไลแล้วล่ะมั้ง"......"หิรัญพาพราวพิไลมาในห้องนอนทั้งยืนจ้องมองเธอนานสองนานจนหญิงสาวรู้สึกแปลกๆ"พ..พี่รัญทำไมมองพราวแบบนั้นคะ""บอกความจริงได้ไหม""ค..ความจริงเรื่องอะไรคะ"พราวพิไลได้ยินคำถามก็เกิดกลืนน้ำลายไม่ลงคอเสียอย่างนั้น"ทำไมถึงยอมมาเล่นบทภรรยาพี่ที่นี่"หิรัญเดินมานั่งใกล้ๆกับพราวพิไลและถามเธอด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบไม่ได้บ่งบอกถึงอารมณ์ใดๆ"พ..พี่รัญรู้เหรอคะ"พราวพิไลเบิกตาโพรงตกใจเข้าไปอีกรอบ"ใช่..พี่จะบอกก็ได้ว่าพี่ไม่ได้ความจำเสื่อม""นี่แสดงว่าพี่รัญโกหกตั้งแต่แรก"หญิงสาวมองหน้าคนตัวโตอย่างไม่น่าเชื่อ"อืม..
ครู่ต่อมา"หึ่...นึกว่าจะไม่มาแล้วนะคะ"มาลีได้ยินเสียงรถมาจอดหน้าบ้านเธอจึงเดินมาดูเมื่อเห็นว่าเป็นสุพิชชาเธอจึงกรอกตามองบนอย่างไม่สบอารมณ์"ถอย.."สุพิชชาไม่อยากจะเสวนากับมาลีเท่าไรจึงเดินผ่านมาลีอย่างไม่สนใจ"นายไม่อยู่หรอกยังไม่กลับเห็นว่าพาเมียเค้าไปเปลี่ยนบรรยากาศนอนที่อื่น"มาลียิ้มเยาะอีกฝ่ายอย่างสะใจ"ที่ไหน.."สุพิชชาหันกลับมาค้อนขวับใส่มาลีทันทีหลังจากหญิงสาวพูดจบ"ไม่รู้สินะ"มาลีเดินเยื้องย่างออกไปด้วยรอยยิ้มแห่งผู้ชนะที่ยั่วโมโหสุพิชชาได้"นี่..หื้มม.."สุพิชชากำมือแน่นกัดฟันกรอดที่ทุกอย่างไม่เป็นดั่งใจหอศังกร"พี่รัญคะ"พราวพิไลลุกจากเตียงนอนในช่วงสายออกทาจากห้องนอนเห็นหิรัญยืนชมวิวอยู่ที่ระเบียงจึงหน้ามุ่ยเล็กน้อยที่เขาตื่นแล้วแต่ไม่ยอมปลุกเธอ"ตื่นแล้วเหรอ""สายแล้วทำไมไม่ปลุกพราวล่ะคะ""พี่เห็นว่าพราวนอนดึกเลยไม่อยากปลุกแต่เช้า""นี่เราจะกลับกันรึยังคะ"เมื่อตื่นมาได้คนนอนน้อยอย่างพราวพิไลก็เริ่มหิวขึ้นมาเสียแล้วจึงอยากจะกลับไปที่เรือนทานอาหารเช้าเต็มทน"ไปสิ"20 นาทีต่อมาหิรัญใช้เวลาไม่นานก็ขับรถมาถึงเรือนทั้งสองเดินเข้ามาในบ้านก็ต้องมีสีหน้าเอือมระอาตั้งแต่มาถึง
ตลาดสด"เอาผักตามนี้จะ"บัวตองยื่นกระดาษให้แม่ค้าขายผักเช่นเดิมที่คนมาจ่ายตลาดจากไร่ทำทุกวันวันนี้เธอมาเองเพราะไม่อยากให้มาลีมาที่นี่อีกเพราะเบื่อที่จะฟังคนเขาลือกันเต็มทนเรื่องลูกสาวเธอกับเสี่ยเกลี้ยง"แล้ววันนี้ลูกสาวไม่มาเหรอบัวตอง""ฉันจะมาจ่ายตลาดเองแล้วล่ะ""ดีแล้วล่ะเตือนลูกแกให้อยู่ห่างๆเสี่ยเกลี้ยงหน่อยก็ดีนะ"แม่ค้าขายผักก็เห็นว่าดีแล้วที่มาลีไม่ต้องมาเพราะน้อยคนนักที่อยากจะคบค้าสมาคมกับเสี่ยเกลี้ยงถ้าไม่จำเป็น"ก็เพราะเหตุผลนี้นี่แหละที่ทำให้ฉันต้องมาจ่ายตลาดเอง"บัวตองตอบกลับอย่างเหลือใจ"ดีแล้ว"เย็นของวัน"ทำไมแม่ไม่ให้ฉันไปจ่ายตลาดเองล่ะ"มาลีหน้าบูดหน้าบึ้งที่เธอไม่ได้ไปจ่ายตลาดเองเช่นทุกวัน"ฉันไม่อยากให้แกเป็นขี้ปากใคร"บัวตองหันมามองค้อนทำหน้าไม่พอใจใส่คนเป็นลูกสาว"ฉันโตแล้วนะแม่เลิกห้ามโน่นห้ามนี่ซะทีได้ไหม"มาลีรำคาญที่คนเป็นแม่คอยเจ้ากี้เจ้าการกับชีวิตเธอแทบทุกเรื่องทั้งทีาเธอก็โตจนป่านนี้แล้ว"โตแล้วไม่มีหัวคิดอย่างแกฉันต้องคอยห้าม""โอ้ยยย.."มาลีกระฟัดกระเฟียดใส่คนเป็นแม่เพราะคิดว่าแม่เธอไม่เคยเข้าใจอะไรเธอเลย"แม่แกบ่นก็ห่วงแกนั่นแหละนังลี"พวงเองเห็นว่าสองแ
ครู่ต่อมา"ปวดจัง.."หลังจากที่เกวลินจากไปพักใหญ่แต่แพรวพิลาสยังคงปวดข้อเท้าอยู่ไม่หายที่ล้มลงไปเธอจึงพยายามนวดให้หายปวดด้วยสีหน้าที่ห่อเหี่ยว"มาพบท่านรองครับ"ภัคดนัยกรรมการอีกฝ่ายของที่นี่เดินมาหน้าห้องธรัฐเพื่อมาแจ้งข่าวกำหนดการการทำงานที่ญี่ปุ่น"สักครู่นะคะ..พี่นัย"แพรวพิลาสเงยหน้าขึ้นมาก็ยิ้มหน้่บานเมื่อเจอเพื่อนรุ่นพี่ที่สนิทและไม่ได้เจอกันนานแล้วตั้งแต่เรียนจบ"อ้าวแพรวทำงานที่นี่เหรอ"ภัคดนัยเองก็ดีใจไม่แพ้กันเขาคิดว่าแพรวพิลาสจะทำงานอยู่สิงคโปร์เสียอีกไม่รู้ว่าเธอกลับมาตอนไหนเหมือนกัน"ค่ะแพรวพึ่งเข้ามาช่วยงานที่นี่ค่ะพี่นัยล่ะคะมาทำอะไรที่นี่""พี่มาพบท่านรองน่ะพอดีพี่ช่วยงานพ่อของนิที่นี่""พึ่งรู้นะคะเนี่ยไม่งั้นเราคงเจอกันไปนานแล้ว""พี่ดีใจมากเลยนะที่มีโอกาสได้เจอแพรวอีก""หลังจากนี้เราคงเจอกันบ่อยขึ้นแล้วล่ะค่ะ"ทั้งสองคุยกันหัวเราะเสียงดังอย่างสนิทสนมจนคนในห้องต้องออกมาดูว่าเลขาของเขานั้นยืนคุยอยู่กับใคร"อ้าวคุณนัย"ธรัฐมองท่าทีที่ภัคดนัยและแพรวพิลาสคุยกันก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยเพราะมันดูสนิทสนมกันมากเป็นพิเศษ"ท่านรองผมกำลังจะเข้าไปคุยเรื่องที่เราต้องไปดูงานที่ญี่ปุ่นพ
"อะไรนะ"ธรัฐเองก็พึ่งรู้ข้อนี้เหมือนกันถึงว่าทำไมดูภัคดนัยกับแพรวพิลาสจะสนิทสนมกันเป็นพิเศษ"เอาเป็นว่าคุณสบายใจได้ว่าเมื่อคืนนัยไม่ได้อยู่กับแพรวเพราะผมก็อยู่ห้องตรงข้ามกับแพรวทำไมผมจะไม่รู้เมื่อเช้าเธอก็มาทำงานพร้อมผม"ความจริงเป็นอย่างไรไม่รู้แต่เขาขอแก้ผ้าเอาหน้ารอดไปก่อนเพื่อที่ทุกคนจะได้ไม่มีปัญหากัน"จริงเหรอคะ"นิรชาดูใจชื้นขึ้นมาหน่อย"คุณนัยเค้าอาจจะไปหาที่นอนที่อื่นก็ได้เพราะเลี่ยงที่จะทะเลาะกับคุณถ้าเค้ากลับบ้านคุณก็เคลียกันให้ดี""ค่ะ.."นิรชายอมรับฟังความคิดเห็นจากธรัฐและยอมกลับไปแต่โดยดี17.00 น."แพรว"ภัคดนัยเดินมาหาแพรวในช่วงเวลาเลิกงานเพื่อที่จะขอไปส่งหญิงสาวอีกเพราะเขารู้สึกว่าเมื่ออยู่กับเธอหรือได้พูดคุยกันมันทำให้เขาสบายใจขึ้นอย่างมาก"พี่นัย""วันนี้พี่ขอไปส่งแพรวอีกนะ""เอ่อ..ไม่เป็นไรค่ะแพรวกลับกับท่านรองเอ่อ..แล้วเมื่อวานพี่นัยไปไหนมาคะตอนเช้าพี่นิถึงตามมาที่นี่"แพรวพิลาสขอปฏิเสธจะดีกว่าเพราะเธอไม่อยากมีปัญหากับใครอีกทั้งถามเรื่องที่ภัคดนัยไม่กลับบ้านจนนิรชาต้องตามมาที่นี่อีกด้วย"คือพี่ทะเลาะกับเค้านิดหน่อยเลยไม่อยากกลับบ้าน"ภัคดนัยพูดด้วยแววตาที่เศร้าหมอ